คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : SFtaeckhun #ฟิคขัดดอก - ฝัน|หวาน|อาย|จูบ
ฝัน | หวาน | อาย | จูบ
Taeckhun
By: iceziey0810
3เดือนก่อน
มือใหญ่ลากกระเป๋าเดินทางเข้ามาในห้องชุดหรู ของคอนโดใหญ่กลางเมืองที่สะดวกสบายทุกอย่าง ทั้งใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ห้างสรรพสินค้า การคมนาคมสะดวกสบาย แถมยังใกล้กับออฟฟิตที่เจ้าตัวทำงาน ลำพังตัวเขานั้นก็เป็นเพียงแค่มนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆ คงไม่มีปัญญาไปซื้อบ้านเดี่ยวกลางเมืองราคาเป็นสิบๆล้านได้หรอก หรือจะให้ไปเช่าบ้านอยู่นอกเมืองก็ลำบากต่อการไปทำงานเหลือเกิน แต่ชายหนุ่มก็ยังพอโชคดีอยู่บ้าง ที่จู่ๆก็มีรุ่นพี่ที่สนิทกันตอนเรียนมหาวิทยาลัยเสนอขายคอนโดมือสองให้ เพราะรุ่นพี่คนนั้นจะต้องย้ายตามภรรยาสาวชาวฝรั่งเศสกลับประเทศไปเพื่อทำธุรกิจต่อ แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้เขาตัดสินใจซื้อคอนโดหรูนี่ต่อหรอก ถ้าไม่ใช่เพราะราคาที่ถูกเหลือเชื่อ ถูกจนไม่น่าเชื่อว่าราคาแบบนี้จะมีอยู่จริงบนโลก จึงทำให้เขาตัดสินใจซื้อคอนโดนี้ต่อในทันที
ห้องชุดหรู ตกแต่งพร้อมให้เข้าพักอาศัยอยู่ ภายในห้องตบแต่งด้วยสีโทนขาวแดง ดูหรูมีสไตล์ โดยเฉพาะโซฟาสีแดงตัวใหญ่ที่ตั้งอยู่ในสุดของห้องนั้น ยิ่งทำให้ห้องนี้ดูสวยดูมีเสน่ห์เข้าไปอีก
อันที่จริงตัวเขานั้นก็ไม่ค่อยชอบสีแดงสักเท่าไหร่ เพราะว่ามันดูไม่ค่อยสบายสายตา ถ้าเป็นสีโทนเทาๆดำๆก็น่าจะดีกว่านี้ พลางนึกแปลกใจว่ารุ่นพี่ของตนนั้นไปมีรสนิยมแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะที่จำได้ตอนสมัยที่เรียนนั้น เคยไปเที่ยวหอพักของรุ่นพี่ รสนิยมดูช่างแตกต่างกับตอนนี้ราวฟ้ากับดิน หรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะภรรยาสาวของรุ่นพี่เป็นคนตกแต่งเองก็เป็นไปได้ เพราะตกแต่งได้สวยงามเหลือเกิน สวยงามเกินกว่าจะละสายตาได้ สวยงามเกินกว่าจะเปลี่ยนสีเปลี่ยนสไตล์ใหม่ไปในสไตล์ที่ตัวเองชอบ
หลังจากชายหนุ่มกำลังจัดข้าวของของตนเองให้เข้าที่ข้างทางอยู่นั้น เสียงสมาร์ทโฟนเครื่องสวยก็แผดเสียงดังขึ้น มือใหญ่ล้วงเข้าไปในกางเกงยีนส์สีเข้มของตนเองแล้วกดรับ
“เฮียยยยยยย ห้องใหม่เป็นไงมั่งง สวยป้ะ” น้ำเสียงร่าเริงเกินจริงของลูกน้องคนสนิทดังขึ้นจากปลายสาย เรียกรอยยิ้มน้อยๆให้คนตัวสูงได้เป็นอย่างดี
“เออ สวย มึงนี่ไวจริงนะไอ้หมีชาน เอ็งรู้ได้ไงเนี่ยว่าข้าจะย้ายเข้าวันนี้” ชายหนุ่มตอบ พลางใช้ต้นคอหนีบสมาร์ทโฟนเข้ากับหัวไหล่ แล้วมือก็จัดของต่อไปอย่างใจเย็น
“แหม่ แหม่ ลูกพี่ผม ทั้งคนผมก็ต้องใส่ใจสิครับ เฮียแทค” ปลายสายรีบตอบแทบจะทันที
“เออ ๆๆ เอาเถอะ ข้าจะไม่คิดว่าเอ็งเป็นพวกชอบเผือกก็แล้วกันนะ ว่าแต่โทรมามีอะไร งานมีปัญหาอะไรหรือเปล่า” ชายหนุ่มตอบกลับเสียงเครียด เพราะกังวลว่างานในส่วนที่ตนเองกับลูกน้องรับผิดชอบนั้นที่จะมีปัญหา
“เปล่า เลยเฮียยยย ทุกอย่างโอเคมากกก ที่ผมโทรมาเนี่ยก็แค่จะชวนเฮียไปฉลองย้ายบ้านใหม่ไรเงี้ยะ ไปป่าววววววว” คนปลายสายตอบเสียงทะเล้น เล่นเอาอีกคนถอนหายใจกับความกะล่อนของลูกน้องตัวเองก่อนจะเอ่ยตอบไป
“เออ ตกลง เจอกันร้านเดิม พี่เลี้ยงเอง”
@JP club
ชายหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวพอดีตัว ชายแขนเสื้อถูกพับขึ้นมาถึงข้อศอกเพื่ออวดท่อนแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้ออย่างคนออกกำลังกายบ่อยๆ ชายเสื้อถูกเก็บเข้าไปในกางเกงสแล็กสีดำ เข้ารูปรัดต้นขาแน่น ด้วยความสูงเกิน180เซนติเมตร พร้อมด้วยใบหน้าที่หล่อคมเข้มราวกับนายแบบนิตยสาร แม้จะไม่ได้เซ็ตผมให้เป็นทรงมากนัก แต่ก็ไม่ได้ทำให้ออร่าความหล่อของอีกคนลดน้อยลงเลย เรียกความสนใจให้กับหนุ่มน้อยสาวน้อยในคลับได้เป็นอย่างดี
ตาคมกวาดสายตามองหาลูกน้องคนสนิทที่นัดกันไว้ เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันศุกร์สิ้นเดือน บรรยากาศในที่นี้ก็ดูจะคึกคักเป็นพิเศษ แต่ก็ใช้เวลาเพียงไม่นานก็พบคนที่นั่งรออยู่พลางโบกไม้โบกมือเรียกให้ตนเดินเข้าไปหาโดยทันที
“แหม่ หล่อเกิ้นนะเฮียยยย กะสอยสาวๆไปฉลองห้องใหม่ล่ะซี๊ ร้ายนะเราน่ะ” เสียงกระเซ้าเหย้าแหย่จากลูกน้องเรียกรอยยิ้มน้อยๆให้กับคนเป็นเจ้านายได้เป็นอย่างดี
“ก็กะอยู่ หึหึ” ชายหนุ่มเอ่ยตอบ มือหนึ่งก็จิบเครื่องดื่มดีกรีแรงที่อีกคนสั่งมาแล้วก็พลางใช้มืออีกข้างโบกน้อยๆทักทายให้กับสาวน้อยชุดแดงเพลิงที่นั่งอยู่ตรงข้าม เมื่ออีกคนเห็นเธอกำลังส่งสายตามาทักทายอย่างสนอกสนใจ
“แหม่ เฮีย ใจเย็นๆดิ นี่เพิ่งหัวค่ำ ใจเย็นนนนนนนนน ว่าแต่ห้องเฮียเป็นไงมั่ง โอเคใช่ป่ะ ขาดเหลืออะไรก็บอกผมนะ ผมมีรถพาเฮียไปซื้อได้สบายๆเลย” ลูกน้องคนสนิทเอ่ยบอกคนเป็นนายอย่างมีน้ำใจ อันที่จริงตัวชายหนุ่มนั้นก็มีรถส่วนตัวเหมือนกัน แต่ด้วยความที่ที่ทำงานกับที่พักนั้น ไม่ห่างไกลกันมาก เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า ก็เลยไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องใช้รถส่วนตัว ก็เลยจอดไว้ให้ฝุ่นเกาะเล่นอยู่ที่บ้านมารดาเสียดีกว่า ผิดกับเจ้าลูกน้องตัวดี ที่บ้านค่อนข้างจะอยู่ไกลจากออฟฟิตพอสมควร รถยนต์จึงเป็นพาหนะจำเป็นสำหรับอีกคน
“ห้องสวยมาก ตกแต่งมาอย่างดีเลย ยังไงก็ขอบใจเอ็งมากเว้ย ตอนนี้ยังไม่ขาดอะไรว่ะ ถ้ายังไงเดี๋ยวพี่จะบอกเอ็งอีกทีล้ะกัน” มือใหญ่ตบเข้าที่บ่าของอีกคนเบาๆ พลางเทแอลกอฮอล์สีใสลงในแก้วอย่างไม่ให้ขาดตอน
“เฮีย ผมถามจริง เฮียซื้อมาในราคาถูกแบบนี้ เฮียไม่สงสัยบ้างหรอ” จู่ๆอีกคนก็พูดขึ้นมา ทำเอาคนที่กำลังกระดกน้ำสีใสเข้าปากนั้นถึงกับหยุดชะงัก แล้วหันมามองหน้าอีกคนอย่างสงสัย
“สงสัย? สงสัยอะไรวะ” คิ้วเรียวขมวด ใบหน้าหล่อฉายแววงุนงง ไม่ค่อยเข้าในสิ่งที่คนตรงหน้าพูดมากนัก
“เอ๊า เฮีย ห้องสวย บิ้วท์อินอย่างหรู แต่ขายต่อราคาแค่นี้ เฮียไม่แปลกใจบ้างหรอ ไม่กลัวจะมี ‘ของแถม’ บ้างหรอเฮีย หน้าหล่อๆของลูกน้องคนสนิทยื่นเข้ามากระซิบใกล้ๆใบหูของชายหนุ่ม ราวกับไม่อยากให้ใครได้ยินเรื่องราวที่เขาทั้ง2คนกำลังกล่าวถึงอยู่
“ของแถม ของแถมอะไรของเอ็งวะ ไอ้หมีชาน ข้างง” ร่างสูงยังคงไม่เข้าใจกับคำว่า ของแถม ของเพื่อนร่วมงาน คิ้วเข้มยิ่งขมวดแน่นเข้าไปอีก เมื่อตนเองยังไม่ได้ไขข้อสงสัย
“ก็ ผี ไงเฮีย เฮียลองคิดดูนะ ของดีราคาถูกมันมีในโลกหรอวะเฮีย แล้วจู่ๆเจ้าของห้องก็ย้ายกลับฝรั่งเศส เฮียไม่ว่ามันแปลกๆหรอ” คนตัวสูงครุ่นคิดกับสิ่งที่ลูกน้องตนเองพูด เขาก็ลืมคิดเรื่องนี้ไปเสียสนิท เพราะตอนนั้นเขาต้องเร่งหาที่พักด่วน แล้วจู่ๆรุ่นพี่ก็เกิดติดต่อมาพอดี จังหวะต่างๆมันดูลงตัวไปซะทุกอย่าง จนตัวเขาเองก็ไม่ได้ติดใจอะไร กับห้องพักที่คุณภาพเกินราคาในย่านใจกลางเมืองแบบนี้
“ไร้สาระน่า ไอ้หมี ดูหนังแล้วเพ้อเจอนะเอ็งน่ะ ผีมีจริงที่ไหน เคยเห็นรึไงห้ะ นี่ปี2015แล้วนะโว้ยยยย สติมึงสติ” ชายหนุ่มบอกปัดอย่างไม่ใส่ใจกับเรื่องงมงายที่ลูกน้องสร้างขึ้น ถึงตัวเขาเองจะแปลกใจกับราคาห้องพักที่ถูกแสนถูก แต่ถ้าเป็นเรื่องห้องพักแสนดีราคาถูกที่มีผีสิง เหมือนในนิยายทั่วๆไปหรือคลื่นวิทยุที่ชอบเอาเรื่องมาเล่าหลอกให้คนฟังกลัวไปวันๆล่ะก็ เขาไม่สนใจหรอก ส่วนตัวนั้นเขาเองก็ไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องอะไรพวกนี้อยู่แล้ว นี่มันยุคไหนแล้ว ยังไม่คนเชื่อว่าผีมีจริงอีกหรือไง น่าประหลาดใจจริงๆ
“ผมก็ล้อเฮียเล่นไปงั้นแหละน่า อย่าเครียดสิครับคุณแทคยอน 555555555555555555555555 เอ้า!ชนครับ หมดแก้ววว ไม่เมาไม่เลิกกก” หนุ่มรุ่นน้องบอกกับชายหนุ่ม แล้วทั้งสองก็ชนแก้วกันอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางเสียงเพลงที่เปิดคลอเร่งเร้าบรรยากาศภายในร้านให้สนุกสนานขึ้นกว่าเมื่อตอนหัวค่ำ ยิ่งดึกคนก็ยิ่งแน่น บรรยากาศโดยรอบก็ยิ่งทวีความสนุกสนาน แอลกอฮอล์สีสวยแก้วแล้วแก้วเล่าถูกกรอกผ่านลำคอแกร่งไปอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพัก
“เฮีย พี่แทคถึงคอนโดแล้วพี่ ตื่นๆๆพี่” ฮวางชานซองปลุกรุ่นพี่รูปหล่อของตนที่เมาหลับอยู่บนแท็กซี่ แม้ตัวฮวางชานซองเองจะไม่ได้เมามายอะไรมากนักแต่ก็ไม่อยากเสี่ยงที่จะขับรถกลับจึงเลือกที่จะตัดสินใจนั่งแท็กซี่กลับและยังต้องแวะส่งหัวหน้าของตนเองหน้าคอนโดอีกด้วย
“อื้อออออ ถึงบ้านนนแล้วหรอออออ พี่ม่ายยด้ายยยมาวววน๊า” เสียงนุ่มทุ้มงัวเงีย เอ่ยบอกลูกน้องหนุ่ม จากนั้นชายกนุ่มก็เดินโซซัดโซเซออกจากแท็กซี่ แล้วเดินเข้าคอนโดไป
“ไหวแน่นะเฮียยยยยยยยยย อย่าไปเข้าห้องผิดน๊า เจอกันวันจันทร์ครับบบบบบ พี่แทค บ๊ายยยยยบายยยยยยยยยย” ฮวางชานซองเปิดกระจกแท็กซี่แล้วตะโกนบอกอีกคน ร่างสูงไม่ตอบอะไรเพียงแต่ทำสัญญาณมือว่าตนเองนั้นโอเคก่อนที่จะเดินเข้าคอนโดไป….
ประตูห้องพักถูกเปิดออกโดยคนเมาที่แทบจะประครองสติไม่อยู่ คนตัวสูงเดินโซซัดโซเซไปที่โซฟาตัวใหญ่อย่างเหนื่อยอ่อน พลางทิ้งตัวลงนั่งอย่างแรง เพียงช่วงวินาทีเดียวในตอนนั้น ร่างสูงก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นในห้องพักของตน กลิ่นหอมอ่อนๆที่เหมือนน้ำหอมฝรั่งเศสโบราณที่ตัวเขาเองนั้นไม่ได้กลิ่นนานแล้ว แต่ก็ไม่ทันที่ชายหนุ่มจะคิดอะไรได้ เจ้าตัวก็ผล็อยหลับไปก่อนด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
สัมผัสเย็นๆที่ใบหน้าปลุกให้คนที่นอนหลับอยู่รู้สึกตัวขึ้น ดวงตาคมค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมองก็เห็นเป็นผ้าขนหนูผืนเล็กที่เปียกชื้นกำลังค่อยๆเช็ดใบหน้าของเขาอยู่ ความเย็นของน้ำทำให้อาการสร่างเมาค่อยๆทุเลาลง ภาพที่คนตัวสูงเห็นปรากฏอยู่ตรงหน้าคือ มือขาวๆของใครคนหนึ่งที่กำลังค่อยๆบิดผ้าในกะละมังแล้วค่อยๆบรรจงเช็ดเข้าที่ใบหน้าของชายหนุ่ม ใบหน้าขาวใส ดวงตากลมโต รับกันได้ดีกับจมูกโด่งรั้น แล้วยิ่งริมฝีปากบางๆสีแดงระเรื่อนั่น ทำให้ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่ปฏิเสธสัมผัสที่อ่อนโยนจากคนตรงหน้า ทั้งๆที่ไม่เคยเห็นคนตรงหน้ามาก่อน มีคำถามมากมายเกิดขึ้นในหัวใจของคนตัวสูง แต่ก็ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้คนตัวสูงไม่อาจเอ่ยอะไรออกไปได้ ทำได้เพียงมองภาพข้างหน้าเงียบๆ ภาพที่ดูเลือนราง ราวกับอยู่ในความฝัน ก่อนจะหลับไปอีกรอบ
เช้าของอีกวัน
แสงแดดยามเช้าที่สาดส่องลอดผ้าม่านผืนบางเข้ามาในห้องพัก ราวกับจะปลุกให้คนที่นอนหลับอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ตื่นขึ้นจากนิทรา เปลือกตาสีเข้มค่อยๆลืมตาขึ้นปรับโฟกัสให้เข้ากับแสงที่สาดส่อง คนตัวสูงค่อยๆลุกขึ้นนั่งพลางนั่งกุมศีรษะเพื่อหวังที่จะบรรเทาอาการปวดหัวจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์เมื่อคืน ตัวเขาเองนั้นจำได้ลางๆว่าเมื่อคืนดื่มหนักมาก และไม่แน่ใจว่าตนเองกลับที่พักได้อย่างไร แต่ก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาใส่ใจอะไรมากหนัก เพราะเวลานี้อาการปวดหัวเริ่มจะหนักขึ้นทุกทีๆ
คนตัวสูงค่อยๆพาร่างตัวเองเดินโซซัดโซเซไปที่ห้องน้ำ ในขณะที่กำลังลุกขึ้นนั้น ผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กที่เหมือนจะพาดอยู่ที่ต้นคอก็ตกลงพื้น คนตัวสูงเบนสายตาไปที่ผ้าขนหนูปริศนาที่นอนสงบนิ่งอยู่บนพื้นอย่าแปลกใจก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบขึ้นมาถือไว้พลางคิดในใจว่าผ้านี่มาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร แล้วจู่ๆชายหนุ่มก็นึกถึงสัมผัสแผ่วเบาราวกับปุยนุ่นเมื่อคืนจากใครคนหนึ่งที่เขาไม่แน่ใจว่าฝันไปหรือเปล่า มานั่งใช้ผ้าขนหนูนี่เช็ดตัวให้ตนเองอยู่ สัมผัสอ่อนโยนที่เขาได้รับจากคนแปลกหน้านั้นทำให้เกิดความรู้สึกบางอย่างที่ตัวเขานั้นไม่อาจจะอธิบายได้เหมือนกัน
วันทั้งวัน หลังจากที่หายจากอาการแฮ้งค์แล้วนั้น ชายหนุ่มก็เริ่มจัดข้าวของของตนเองต่อไปเรื่อยๆจนถึงเวลาเย็น โดยไม่ได้นึกถึงความฝันแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย สายตาคมเหลือบมองนาฬิกาที่ติดอยู่ที่ผนังก็พบว่าเป็นเวลาเย็นมากแล้ว ชายหนุ่มจึงตัดสินใจออกไปทานอาหารข้างนอก โดยไม่ลืมที่จะปิดประตูระเบียงให้เรียบร้อย พลางล็อคกลอนทุกอย่างอย่างแน่นหนาก่อนจะพาร่างของตัวเองก้าวออกจากห้องพักไปโยที่เจ้าตัวนั้นไม่รู้ตัวเลยว่ามีใครบางคนกำลังแอบมองตัวเขาอยู่…
หลังจากที่รับประทานอาหารค่ำเสร็จ ชายหนุ่มก็เดินกลับคอนโด แต่เส้นทางที่เขาเดินกลับนั้นจะต้องเดินผ่านสวนสาธารณะ ซึ่งสวนสาธารณะนี้ถ้าหันขึ้นไปมองก็จะสามารถมองเห็นห้องพักเขาตัวเขาเองได้อีกด้วย แต่เมื่อสายตาตมเบนสายตาขึ้นไปเพื่อจะมองไปยังห้องพักของตนเองนั้น ชายหนุ่มก็พบความผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้น แสงไฟสีส้มสว่างขึ้นภายในห้องพัก ทั้งๆที่เจ้าตัวนั้นมั่นใจว่าก่อนที่จะออกมาได้ปิดไฟในห้องจนมืดสนิทแล้ว แต่สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือ ชายหนุ่มเห็นเหมือนมีเงาของใครสักคนกำลังยืนอยู่ที่ระเบียงห้องพักของเขาเอง
“ขโมย” ดวงตาคมเบิกกว้าง ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนทั้งร่างของเขาชาไปทั้งตัว ขายาวรีบสาวเท้าอย่างรวดเร็วเพื่อหวังที่จะไปถึงห้องพักให้เร็วที่สุด ในใจของเขาคิดเพียงว่าจะต้องไปถึงห้องให้เร็วที่สุดก่อนที่หัวขโมยจะไหวตัวทัน ชายหนุ่มรู้สึกโกรธเป็นอย่างมากเมื่อคิดว่า ตัวเขาเองเพิ่งจะย้ายมาอยู่ได้วันเดียวก็โดนขโมยขึ้นห้องเสียแล้ว พาลนึกโมโหไปเสียทุกอย่าง
เสียงลิฟต์เปิดขึ้น ชายหรุ่มรีบก้าวออกมาอย่างรวดเร็ว ขายาวกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังห้องพักห้องของตนที่อยู่เกือบจะสุดทางเดิน คีย์การ์ดถูกเสียบอย่างรวดเร็วประตูบานใหญ่ถูกเปิดกว้าง…
ภายในห้องพักมืดสนิท เหมือนตอนก่อนจะออกไปไม่ผิดเพี้ยน ชายหนุ่มหรี่ตามองด้วยความสงสัยก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดไฟเพื่อให้ทั้งห้องพักสว่างขึ้นอีกครั้ง สายตาคมมองสำรวจไปรอบๆห้องชุดหรูเพื่อสังเกตหาความผิดปกติที่เจ้าตัวคิดว่าน่าจะเกิดขึ้น แต่เมื่อเดินสำรวจดูแล้วก็ไม่พบความผิดปกติอะไร ของมีค่าที่คิดว่าน่าจะหายก็อย่างอยู่ครบ ไม่มีแม้กระทั้งร่องรอยการรื้อค้นหรือแม้กระทั้งร่องงัดแงะ และที่สำคัญประตูกระจกที่จะเปิดออกไปตรงระเบียงนั้นก็ยังถูกล็อคเหมือนเดิมมีผิดเพี้ยน
ชายหนุ่มไม่สามารถอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เพราะตัวเขานั้นก็ไม่แน่ใจนักว่าตัวเองตาฝาดไปเองหรือเหตุการณ์มันเคยเกิดขึ้นจริงๆ มือใหญ่เสยผมสีดำสนิทของตัวเองอย่างแรงก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาตัวใหญ่ พลางคิดทบทวนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วจู่ๆคำพูดของ ฮวางชานซองก็ดังขึ้นในหัวของชายหนุ่ม
‘เฮีย ผมถามจริง เฮียซื้อมาในราคาถูกแบบนี้ เฮียไม่สงสัยบ้างหรอ’
‘เอ๊า เฮีย ห้องสวย บิ้วท์อินอย่างหรู แต่ขายต่อราคาแค่นี้ เฮียไม่แปลกใจบ้างหรอ ไม่กลัวจะมี ‘ของแถม’ บ้างหรอเฮีย’
“ผี หรอ” เมื่อชายหนุ่มนึกถึงความหายของคำว่าของแถมที่ชานซองพูด ขนแขนของเขาก็ลุกขึ้นกราว สายตาคอมหันไปมองรอบๆตัวอย่างหวาดระแวง อันที่จริงตัวเขาเองก็ไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่ แต่พอมานึกๆแล้วก็น่าสงสัยอยู่เหมือนกัน ของดีราคาถูกมันมีอยู่ในโลกจริงๆหรือ ห้องพักสวยหรูในราคาเท่านี้ มันมีอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ และจู่ๆทันใดนั้น ร่างสูงก็ได้กลิ่นน้ำหอมแปลกๆก็ส่งกลิ่นอบอวลไปทั้งห้องพักหรู ชายหนุ่มเผลอสูกดมอย่างลืมตัว แล้วก็ต้องตกใจอีกครั้ง ว่ากลิ่นหอมๆนี้มาจากไหน เพราะตัวเขาเองก็ไม่ได้ใช้น้ำหอมกลิ่นหวานขนาดนี้แน่ๆ แล้วกลิ่นนี้มาจากไหน แต่ก็ไม่ทันที่ชายหนุ่มจะได้คิดอะไรเขาก็หมดสติไปทันที…
สัมผัสเย็นๆจากผ้าผืนเล็ก สัมผัสเข้าที่ใบหน้าหล่อ ส่งผลให้คนที่หลับอยู่นั้นรู้สึกตัวขึ้น ตาคมพยายามปรับโฟกัสในดวงตาให้รับแสง แล้วร่างสูงก็เห็นใครคนหนึ่งนั่งหันหลังให้ตนเองอยู่ ผมซอยสั้นระดับต้นคอสีน้ำตาลเข้ม แผ่นหลังที่แลดูบอบบางในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่ง ทำให้ตัวเขานั้นไม่แน่ใจนักว่าคนตรงหน้าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ชายหนุ่มพยายามตั้งสติและทำตัวเองให้นิ่งที่สุดเพื่อไม่ให้คนตรงหน้ารู้ตัว และเขาก็ต้องตกตะลึงอีกครั้งเมื่อเห็นใบหน้าของบุคคลปริศนาที่หันมาพร้อมผ้าขนหนูชุบน้ำหมาด ผิวมือขาวจัดค่อยๆบรรจงซับผ้าเข้าที่บริเวณกรอบหน้าของชายหนุ่ม ในขณะคนที่แกล้งหลับอยู่ก็แอบเหลือบตามองเจ้าของมือขาวพลางสำรวจใบหน้าหวานล้ำนั้นไปพลางๆ ดวงตากลมโตที่สุกใส ขนตายาวเป็นแพอย่างเป็นธรรมชาติ จมูกโด่งรั้น รับกับปากอิ่มๆสีแดงจัด ชายหนุ่มคิดว่าคนตรงหน้าอาจจะเป็นคนร้ายที่ตัวเขาเห็นตอนหัวค่ำก็เป็นได้แต่เมื่อได้มาเห็นใบหน้าที่จะติดไปทางสวยหวาน และรูปร่างที่เล็กแลดูบอบบางนั้น ก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ชายหนุ่มยังเลือกที่จะนิ่งและรอดูท่าที่ของโจรหน้าหวาน โดยไม่ได้กังวลถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับตนเองได้เลยแม้แต่น้อย แม้ว่าคนตรงหน้านั้นจะเป็นคนร้าย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตัวเขานั้นก็แอบพึงพอใจโจรหน้าสวยไม่น้อย
คนตัวสูงแกล้งนอนนิ่งๆไม่หยับตัว เพื่อรอดูท่าที่ของอีกคน เขาก็พบว่ามือขาวๆคู่นั้นค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของชายหนุ่มออก ความเย็นของผ้าค่อยเลื่อนจากลำคอมาหยุดอยู่ที่แผงอกที่อุดมไปด้วยมัดกล้ามเนื้อของชายหนุ่ม แล้วไล่ต่ำลงมาที่มัดกล้ามเนื้อสวยที่บริเวณหน้าท้อง ก่อนมือขาวจะเลื่อนต่ำลงมาหยุดอยู่ที่ขอบกางเกงยีนส์ตัวหน้า แล้วทันใดนั้น โจรหน้าหวานก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจ เมื่อมีมือใหญ่ของคนที่ตนเองคิดว่ากำลังหลับอยู่จับเข้าที่ข้อมือเล็กของตนเอง แล้วพลิกร่างบอบบางของคนตัวขาวให้นอนราบอยู่กับพื้นโซฟาโดยมีร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มคร่อมทับ
“เธอเป็นใคร เธอเข้ามาในห้องฉันได้อย่างไง” ชายหนุ่มถามเสียงเข้ม ตาคมจ้องใบหน้าหวานใต้ร่าง มือใหญ่รับรวบข้อมือเล็กแล้วกดลงเหนือศีรษะ ต้นขาใหญ่กดทับเข้าที่หน้าขาขาวๆของอีกคน ทำให้คนตัวขาวใต้ร่างไม่สามารถหนีไปไหนได้
“………….” ไม่มีคำตอบใดๆจากริมฝีปากสีแดงนั่น ใบหน้าหวานทำเพียงหันหน้าหนีไม่ยอมสบตากับคนตัวสูง ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่ราวกับจะสื่อว่าให้ตายอย่างไร เจ้าตัวก็จะไม่มีวันปริปากพูดอะไรออกมาเป็นอันขาด
“ทำไมไม่ตอบ เธอเป็นขโมยใช่ไหม ฉันจะแจ้งตำรวจให้มาจับเธอ” ชายหนุ่มยิ้มมุมปากราวกับพอใจอะไรบางอย่าง ก่อนจะหยิบเอาเนคไทด์ของตนเองที่บังเอิญหล่นอยู่บริเวณนั้นพอดี แล้วเอามามัดข้อมือบางของคนใต้ร่างไว้แน่น ก่อนจะผละตัวออกแล้วแกล้งทำท่าจะจับโทรศัพท์แล้วโทรออก
“อย่าแจ้งตำรวจ ผมไม่ใช่ขโมย” เสียงหวานๆหลุดออกมา คนตัวขาวลุกขึ้นนั่ง ดวงตากลมโตสบเข้ากับดวงตาคมเข้มอย่างกล้าๆกลัวๆ ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่น มือบางที่ถูกมัดอยู่บีบแน่น ชายหนุ่มที่เห็นอาการของโจรหน้าสวย ขายาวจึงสาวเท้าเข้าใกล้อีกคนอย่างรวดเร็ว แขนใหญ่เท้าเข้าที่โซฟาเหนือศีรษะของคนตัวเล็ก ใบหน้าหล่อขยับเข้าใกล้ใบหน้าสวยหวานของอีกคน พลางจ้องตากลับราวกับจะเค้นหาความจริงที่ซ่อนอยู่ในดวงตาของอีกคน
“นี่เธอ เป็นผู้ชายหรอเนี่ย ทำไมถึงได้…” คนตัวสูงครางแผ่ว ตัวเขาแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าคนตรงหน้าจะเป็นผู้ชาย แต่ถึงจะเป็นผู้ชาย ก็คงจะเป็นผู้ชายที่สวยที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา
สวยมาก สวยจนแทบจะอดใจไม่ไหว
“ทำไมอะไร?” ดวงตากลมโตที่เคยหลุบต่ำก็เผลอเข้าสบตากับอีกคนที่จ้องอยู่อย่างไม่ยอมแพ้ เรียกรอยยิ้มพึงพอใจจากชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี
“สวย” ริมฝีปากบางเฉียบขยับเข้าไปกระซิบแทบจะชิดริมฝีปากสีแดงอวบอิ่มของคนใต้ร่าง การกระทำที่ค่อนข้างจะหวาดเสียวของคนตัวสูงทำให้อีกคนตัวแข็งทื่อ ใบหน้าสวยหวานขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างเขินอาย ปลายนิ้วใหญ่ค่อยๆไล้กรอบหน้าสวยเบาๆราวกับกำลังหลงใหลในความงาม ความงามที่งดงามประหนึ่งจิตกรฝีมือเยี่ยมเป็นผู้สร้างสรรค์ขึ้นมา ริมฝีปากหยักบรรจงจูงเข้าที่หน้าผากนูนแกลี้ยง ก่อนค่อยๆบรรจงลงที่ปลายจมูกโด่งก่อนจะหยุดที่ริมฝีปากอวบอิ่มที่กำลังเผยอขึ้นอย่างลืมตัวเหมือนกำลังรอคอยอะไรบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น
เสียงบดจูบดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง สองร่างเบียดเสียดกันอย่างไม่มีใครยอมใคร จูบที่ยาวนานราวกับจะพรากลมหายใจไปทั้งหมด ข้อมือเล็กที่มัดอยู่ทุบเข้าที่หน้าอกแกร่งอย่างเรียกร้องขออากาศหายใจ ทำให้อีกคนที่กำลังมัวเมาในรสจูบหวานล้ำต้องผละออกอย่างเสียไม่ได้ ชายหนุ่มผละริมฝีปากออกแต่ไม่ได้จากไปไหนไกล ริมฝีปากร้ายกาจก็เปลี่ยนมาคลอเคลียบริเวณลำคอขาวของคนตรงหน้าแทน มือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วร่างขาวจัด กระดุมเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งถูกปลดไปเม็ดแล้วเม็ดเล่า กางเกงขาสั้นตัวบางที่ปกปิดช่วงร่างของคนตัวขาวถูกดึงออกให้พ้นจากเรียวขาขาว จนทั้งร่างของโจรหน้าสวยเหลือเพียงเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งที่ปกปิดร่างอย่างหมิ่นเหม่ สร้างความพึงพอใจให้กับอีกคนเป็นอย่างมาก ชายหนุ่มมองคนใต้ร่างอย่างจาบจ้วง ราวกับราชสีห์กำลังจับจ้องกวางน้อย เหยื่ออันโอชะที่กำลังจะถูกขย้ำให้แหละขามือ สายตาหื่นกระหายจ้องมองร่างขาวจัดของคนใต้ร่างอย่างไม่คิดจะปิดปัง
“ก็ได้ ถ้าเธอไม่อยากให้ฉันแจ้งตำรวจ ก็ต้องมีของมาแลก” น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ เอ่ยบอกคนใต้ร่าง พลางใช้ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ที่ต้นขาขาวเบาๆ ราวกับจะปลุกอารมณ์บางอย่างของอีกคนให้ลุกโชนขึ้นเหมือนกับตน
“อ้ะ ของอะไร อื้อออออ อย่าจับตรงนั้น อ๊ะ อ๊า” เสียงหวานเอ่ยกระท่อนกระแท่น เมื่อสัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่กำลังซุกซนอยู่กับจุดหวงแหนของร่างบาง ดวงตากลมโตฉ่ำไปดวงหยาดน้ำตา เมื่อโดนกลั่นแกล้งปลุกปั่นอารมณ์ให้ปะทุขึ้นแต่ก็ไม่ได้ปลดปล่อย
“อยู่กับฉันคืนนี้ เสียค่าปรับให้ชั้น ด้วยร่างกายของเธอ” สิ้นเสียง ราชสีห์หนุ่มก็กระโจนเข้าขย้ำร่างกวางน้อยอย่างหิวกระหาย ทุกห้วงอารมณ์ ทุกการกระทำ ถูกแสดงออกอย่างร้อนแรงและดุดัน การกระทำเถื่อนดิบเยี่ยงสัตว์ป่า อาจจะดูรุนแรงและโหดเหี้ยม แต่ก็แฝงไปด้วยความเร่าร้อนที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอบสนองความต้องการของคนทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี
“เธอชื่ออะไร อื้มมมมมมม” เสียงทุ้มเอ่ยถามคนตัวขาวเสียงกระเส่า ทั้งที่ช่วงล่างก็ยังคงทำหน้าที่ของมันอย่างหนักหน่วงและรุนแรงตามแรงอารมณ์
“ทำไมต้องบอกด้วย อ๊ะ อ๊า แรงอีกกก” เสียงหวานครางลั่น เมื่อชายหนุ่มจับจุดเร้าอารมณ์ของร่างบางได้ แต่ก็ยังไม่วายดื้อรั้นไม่ยอมเผยตัวตนให้อีกคนได้รู้ เมื่อเห็นดังนั้นชายหนุ่มจึงยิ่งเร่งความเร็ว จังหวะหนักแน่นยิ่งส่งเข้าไปอีกอย่างหนักหน่วง ราวกับจะยิ่งเร่งรัดให้อีกคนเผยความจริงให้ตนได้รู้ จนถึงช่วงสุดท้ายของจังหวะเพลงเสียงครางหวานก็ยิ่งดังขึ้นเพราะเห็นจุดหมายที่รออยู่ปลายทางอีกไม่ไกล
“อ๊ะ อ๊คแทคยอน ผมรักคุณ” คนตัวขาวครางออกมาอย่างไม่รู้ตัว ก่อนจะปลดปล่อยความต้องการออกมาจนหมดสิ้น แล้วก็ผล็อยหลับคาอกคนใต้ร่างที่คนตัวขาวเองก็ไม่รู้ว่าตนเองขึ้นมาคร่อมอยู่ด้านบนตั้งแต่เมื่อไหร่
ชายหนุ่มที่ได้ยินเสียงครางบอกรักของคนตรงหน้า ก็เรียกสติของชายหนุ่มให้กลับมาอีกครั้ง เขาแปลกใจไม่น้อยที่คนตัวขาวเรียกชื่อของเขาเอง แต่ก็ไม่ทันได้คิดอะไรก็ผล็อยหลับตามอีกคนไปด้วยความอ่อนเพลีย แขนใหญ่กกกอดคนตรงหน้าไว้แนบอก เพื่อหวังว่าเมื่อตื่นมาค่อยสืบสวนหาความจริงกันอีกที
ร่างสูงใหญ่กำลังหลับตาพริ้มอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ แผ่นหลังเปลือยเปล่าสีแทนที่อุดมไปด้วยมัดกล้ามเนื้อโผล่ออกมาจากผ้านวมผืนใหญ่ ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศตกกระทบผิวของคนกำลังนอนหลับฝันหวาน จนเจ้าตัวต้องควาญหาร่างของใครอีกคนที่นอนกอดตลอดคืนเพื่อหาไออุ่น แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า ไร้ร่างของใครอีกคนที่ควรอยู่นอนอยู่กับตนตอนนี้
มือใหญ่เสยผมอย่างลวกๆ อย่างหงุดหงิดใจที่ตัวเขาเผลอหลับยาวจนปล่อยให้โจรหน้าสวยหนีไปได้ ชายหนุ่มเหลือบมองผ้าห่มผืนใหญ่ที่ห่มอยู่บนร่างของตนแล้วก็อดยิ้มไม่ได้นี่ก่อนจะไปคงจะหยิบมาห่มให้เขาสินะ เป็นโจรประเภทไหนกัน
เพียงแค่คิดถึงก็อยากจะขย้ำ ฟัดให้แหลกคามือตลอดเวลา
ชายหนุ่มลุกขึ้นจากโซฟาพลางสะบัดหัวให้ตัวเองตื่น แต่สายตาคมก็หันไปเห็นกระดาษบางอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะตัวเล็กกลางห้อง ในกระดาษมีข้อความว่า
‘ผมเสียค่าปรับให้คุณแล้ว ดังนั้นห้ามแจ้งตำรวจนะ
ปล.ผมไม่ใช่โจร ไม่ได้เป็นขโมยด้วย อีตาบ้า
ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นความฝัน ก็คงจะเป็นฝันดีที่สุดในชีวิต
แล้วเราอาจจะได้เจอกันอีก คุณอ๊คแทคยอน’
Nickkhun
ใครบอกว่าเธอไม่ได้ขโมยของของฉันไป เธอน่ะขโมยไปเต็มๆเลยแหละ
เธอขโมย “หัวใจของฉัน” ไปตั้งแต่แรกเห็นหน้าเลยตั้งหาก
โจรตัวแสบ…
.
.
.
.
.
END
Talk: …………………….. สวัสดีชาวฟิค ลืมกันหรือยังคะ 555555555555555555555555
เอาขัดดอกมาเสิร์ฟ เอามาง้อ เอามาอ้อน อย่าโกธรเค้าน๊า อิอิ คิดถึ้งคิดถึงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ไม่ได้เขียนน้านนานนนน
คิดถึงคนอื่นมะมะลุย จีจีน๊า แหม่ๆๆๆๆอย่างอนกันสิ กลับมาแล้วนะ งานเค้าเยอะ การบ้านเพียบบ ถ้าคนอ่านมาช่วยเค้าทำ เค้าก็จะปั่นฟิคให้เร็วๆไง 55555555555555555 อ่านกันไปก่อนน๊า เดี๋ยวเรื่องหลักจะตามมา ใกล้จบแล้วแหละจีจี
อยู่ด้วยกันนะ อย่าทิ้งเค้าล่ะ เค้าน่ารักนะคะ
Long time no see ya i miss youuuuuuuuuuuuuu
Thankyou loveU all time
icekhun
ความคิดเห็น