ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คู่พเนจรจอมซ่าตามล่าอัญมณีแห่งความหวัง [Princess_IceMaster]

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 ภูตตนแรก

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 123
      0
      23 ม.ค. 53

    บทที่ 2 ภูตตนแรก

    ( คนแต่ง :: Larte' Fristo)

     

     

     

    เจ้าของเรือนผมสีเงินยวงนามฟิเอต้า เทรย์ เลแซมเบิร์กค่อย ล้มลงอย่างช้า ก่อนจะหมดสติไป สาเหตุคงมาจากการล้มถึงสองครั้งสองครา

     

     

    ขั้นแรก...ล้มหัวกระแทกอย่างรุนแรงจนทำให้กระทบกระเทือน

     

     

    ขั้นสอง...โทสะพลุ้งพล่านทำให้อาการที่ควรจะพักฟื้นหนักขึ้นโดยเจ้าตัวก็ยังไม่รู้ตัว

     

     

    ขั้นสาม...ใช้กำลัง

     

     

    ขั้นสี่...ล้มลงอีกครั้งทำให้กระทบกระเทือนมากขึ้น

     

     

    สุดท้าย เสียเลือดมาก...

     

     

    ส่วนหลักฐานนั้นก็คือผมสีเงินด้านหน้ามีรอยเลือดติดอยู่และมีแผลบริเวณหน้าผาก ที่ไม่ใหญ่เท่าไหร่นัก แต่ก็มากพอที่จะทำให้เสียเลือดจนช็อก...

     

     

    ว้าย! นายหญิงฟิเอต้าเจ้าคะ นายหญิง เป็นอะไรไปคะเจ้าเต่าน้อยตัวเตี้ยม กลม สีเขียว เหมือนตุ๊กตาหากแต่แข็งกว่าจนทำให้คนเสียเลือดได้กำลังใช้แขน (?) ไม่ใช่สิ...ขาหน้าน้อย เขย่าตัวผู้ที่เพิ่งสลบโดยฤทธิ์เต่าอย่างเอาเป็นเอาตายและอาลัยอาวรณ์ราวกับเธอคนนั้นตายไปแล้วอย่างไรอย่างนั้น

     

     

    ชาเซส ไม ซาโดรเนีย ที่สาม มองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างรู้สึกสงสารคนที่สลบไปนิด แต่ก็รู้สึกยิ่งเพิ่มความสนใจในตัวของเจ้าของนามฟิเอต้ามากขึ้น... คงเป็นเพราะก้อนกลม เขียว นี่กระมังที่ทำให้เธอสนใจ

     

     

    เธอเดินเข้าไปใกล้ แล้วหยิบบางสิ่งบางอย่างที่มีลักษณะยาวขึ้นมา ชาเซสจับท่อนไม้กลมสีน้ำตาลแล้วยกขึ้นก่อนที่จะเดินเข้าไปใกล้ ตัวประหลาดหรือก้อนสีเขียวพูดได้ ร่างระหงค่อย ย่อกายลงนั่งยองและเอาปลายของสิ่งที่ตนเองจับอยู่นั้น เขี่ยเจ้าก้อนกลม (ในความคิดของชาเซส) อย่างเบามือแต่มันกลับทำให้เจ้าก้อนนั้นร้องออกมาอย่างไม่เป็นภาษาโอ้ย! เจ้าทำอะไรของเจ้า เจ้าบังอาจเอาท่อนไม้มาเขี่ยข้าเลยรึ ข้าคือภูตผู้รักษาอัญมณีแห่งความหวังเลยนะ

     

     

    “อัญมณีแห่งความหวัง...?” ริมฝีปากได้รูปอิ่มขยับเอ่ยเสียงสูงเชิงสงสัย เจ้าก้อนกลม ๆ ก็พูดออกมาแบบไม่ได้ดูหรือไม่ได้ระวังอะไรทั้งนั้น “ใช่น่ะสิ อัญมณีแห่งความหวังรึเจ้าไม่เคยได้ยิน สิ่งที่ยิ่งใหญ่และ...”

     

     

    เจ้าก้อนกลมสีเขียวสาธยายแบบไม่ดูสภาพรอบกายว่าเขาหันมาสนใจกันแค่ไหน ก็แน่สิ เต่าที่ไหนพูดได้กันเล่า! แถมไม่ใช่พูดธรรมดา มันเล่นพูดออกมาราวกับมนุษย์และมีความรู้ราวกับปราชญ์ในเรื่องอัญมณี แต่ก่อนที่จะเป็นจุดสนใจไปมากกว่านี้หลังจากที่มีคนตะโกนโหวกเหวกอยู่นาน ชาเซสก็ถือโอกาสหิ้วเจ้าเต่าน้อยใส่ถุงแล้ว ลากผู้สลบไสลไปยังที่พำนักของตนทันที ระหว่างทางก็พูดกับเจ้าก้อนประหลาดด้วยน้ำเสียงเย็นอย่างเป็นปกติ

     

     

    เจ้าก้อนเขียว ข้าไม่ได้ใช้ไม่เขี่ยเจ้าหรอกนะ ถ้าเจ้าสังเกตให้ดีว่าทำไมถึงมีรอย มีดอยู่ตรงลำตัวเจ้าได้แล้วล่ะก็ เจ้าจะรู้ว่าสิ่งที่ข้าใช้เขี่ยเจ้าคืออะไร

     

     

    เมื่อเจ้าเต่าน้อยนาม โซลีเซ ได้ยินดังนั้นแล้วจึงคิดทันที เอ๋? รอยมีด มีรอยมีดอยู่ตรงสีข้างของเธอด้วยนี่นา เอ๊ะ? แล้วรอยมีดนี่มันเป็นอะไรกันล่ะที่มาใช้เขี่ยเรา??

     

     

    เจ้าเต่าน้อยโซลีเซก็ยังคงคิดไม่ตกอยู่อย่างนั้นจึงคิดย้อนกลับเหตุการณ์ไปดูอย่างฉงน...

     

     

    ด้ามไม้กลมสีน้ำตาลคือด้ามมีดนั่นเอง หรือนั่นก็คือมีดที่ชาเซสขว้างใส่ฟิเอต้าแล้วหลบได้อย่างฉิวเฉียดนั่นเอง

     

     

    หลังจากที่คิดได้แล้วโซลีเซจึงสำนึกได้ว่าตัวเองมีรอยมีดอยู่ที่สีข้างแล้วเลือดก็ไหลไม่หยุดอีกต่างหาก เต่านั้นมักทำอะไรช้าเสมอ นอกจากเคลื่อนไหวช้าแล้วยังไม่พอ แต่เต่าตัวนี้มีอะไรพิเศษด้วยนั่นก็คือ...หัวช้าและความรู้สึกช้าอย่างแก้เท่าไหร่ก็แก้ไม่หาย และคงไม่มีวันที่จะสามารถพัฒนา ขนาดที่ว่าชาเซสพูดว่ารอยมีดก็ยังนึกไม่ได้ว่าเป็นมีดมาเขี่ยตัวเอง

     

     

    ความเจ็บปวดค่อย แล่นเข้ามาก่อนที่เจ้าเต่าน้อยก้อนกลมสีเขียวนาม โซลีเซจะสลบไปเพราะตกใจจนเป็นลม...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ท่ามกลางความเงียบงัน รอบด้านมีเพียงความมืดมิดและกลิ่นธูปจาง ๆ เท่านั้น คาดว่าคงเป็นกำยานที่มีฤทธิ์ให้สลบ ซึ่งสถานที่นี้คือที่อยู่ของชาเซสนั่นเอง กำยานนั้นก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ที่สลบไปเพราะเสียเลือดทั้งสองได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และอีกหนึ่งประโยชน์คือไม่ให้ฟิเอต้าขึ้นมาทำตัววุ่นวาย...

     

     

    แต่ความหวังที่ว่าจะไม่ทำตัววุ่นวายนั้นต้องหมดลงเมื่อเจ้าคนสร้างความวุ่นวายนั้นตื่นขึ้นมาจากห้วงนิทราเสียแล้ว ร่างระหงค่อย เดินเข้าไปใกล้ คนที่เพิ่งตื่นก่อนจะยกมือขาวซีดนั่นขึ้นยกแตะหน้าผากอย่างแผ่วเบา

     

     

    หยุดนะ! เจ้าอย่าเอามืออันแสนเย็นเยียบของวิญญาณอย่างเจ้ามาแตะข้า! เจ้าคงกำลังจะกินดวงจิตข้าสินะ ไม่ได้ เพราะฉะนั้นเจ้าจงถูกผนึกเสียเถอะ

     

     

    ...ไม่เลิก... ความคิดของชาเซส... มันยังไม่เลิกทำตัวน่ารำคาญ ผนึกวิญญาณ... ไร้สาระ!

     

     

    ข้าแค่จะวัดไข้ เจ้ายังไม่หายดีนะคำพูดยาว ครั้งแรกของชาเซสตั้งแต่เจอฟิเอต้าทำให้ชะงักไปครั้งหนึ่งก่อนจะตอบออกมาเนือย อย่างผิดวิสัยก็ได้ เห็นแก่ที่เจ้าช่วยข้า ข้าจะยอมเป็นเพื่อนกับวิญญาณสักครั้ง

     

     

    เพื่อนคนที่สอง...หลังจากเพื่อนคนแรกตายไปเพราะโรคร้ายขาดแคลนอาหาร แต่ยังไงเธอก็รู้สึกว่าไม่ว่าจะเพื่อนคนแรกหรือเพื่อนคนที่สองก็วุ่นวายเหมือนกันทั้งคู่อยู่ดี คิดแล้วก็ได้แต่หนักใจ

     

     

    ก็ได้ตอบออกมาอย่างช่วยไม่ได้ แต่หารู้ไม่ว่านั่นมันเป็นกลลวง...

     

     

    นั่นไง! เจ้ายอมรับแล้วไงว่าเจ้าเป็นวิญญาณน่ะ ถ้าเจ้าไม่ใช่วิญญาณเจ้าจะยอมรับคำเป็นเพื่อนกับข้าหรอ แล้วอีกอย่างมนุษย์ดี ที่ไหนจะมาอยู่ในถ้ำกัน!” ฟิเอต้าพูดอย่างมั่นใจในความคิดของตัวเองเต็มที่และชาเซสที่รู้ว่าตัวเองโดนหลอกก็อยากจะเข้าไปให้รางวัลที่หนึ่งแก่ฟิเอต้าสักรางวัลด้วยไม่รู้ว่าเพราะอะไรระหว่าง... วางแผนสารภาพ (?) เยี่ยมยอด กับ ซื่อจนโง่ยอดเยี่ยม...?

     

     

    เฮ้อ เจ้าอยากจะเข้าใจอะไรก็เข้าใจของเจ้าไปเถอะ ข้าขอยืนยันครั้งสุดท้าย ข้า ไม่ ใช่ วิญ ญาณชาเซสพูดเน้นทีละคำอย่างเหลืออดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ชีวิตวิญญาณ เอ้ย! ไม่ใช่ ชีวิตมนุษย์โลกขนมปังจะต้องวุ่นวายขึ้นไปอีกแน่ และเธออาจจะต้องจบชีวิตแทนเพื่อนคนก่อนที่จบชีวิตเพราะเพื่อคนใหม่ก็เป็นได้...

     

     

    ถ้าเจ้าอยากให้ข้าคิดว่าเจ้าไม่ใช่วิญญาณ ข้าก็จะคิดว่าเจ้าไม่ใช่วิญญาณก็แล้วกัน” ...แต่ข้าขอหมายเหตุเจ้าไว้ว่า เจ้าเป็นวิญญาณขนมปัง... ฟิเอต้าคิดต่อในใจ แล้วพยักหน้าหงึก อยู่คนเดียวเหมือนคนบ้า (?) เล่นเอาชาเซสที่มองอยู่รู้สึกเสียว ไม่น้อยที่เห็นท่าทางแบบนี้

     

     

    ...รู้สึกเหมือนลางร้ายคืบคลานแหะ...

     

     

    อ้อ ยินดีที่ได้รู้จัก ข้าฟิเอต้า เทรย์ เลแซมเบิร์ก เป็นนักผนึกวิญญาณ

     

     

    ข้า ชาเซส ไม ซาโดรเนีย ที่สาม เป็นนักพเนจร

     

     

    เอ๋? เป็นนักพเนจรทำไมมีที่สามด้วยล่ะฟิเอต้าถามอย่างงุนงง ถ้าเป็นนักพเนจรส่วนใหญ่ไม่น่าจะมีลำดับที่นี่นา แสดงว่าต้องอยู่ในตระกูลที่ใหญ่มากแน่ แต่ชาเซสก็ตอบมาด้วยคำถามที่ทำเอาฟิเอต้าตอบไม่ออก ไม่รู้ว่าเพราะอะไร มันรู้สึกเหมือน... “แล้วเจ้าล่ะ ทำไมถึงมีนามสกุล เทรย์ เลแซมเบิร์ก มันเป็นนามสกุลของตระกูลท่านชาย แทเวล เทรย์ เลแซมเบิร์ก ไม่ใช่หรอ?”

     

     

    รู้สึกเหมือน...ปวดหัว...มาก แต่อาการนั้นก็ต้องหายไปสิ้นเมื่อมีกระแสอุ่น ไหลผ่านโสดประสาท เธอหันไปดูที่มาของความอบอุ่นนั่น เธอเห็นเจ้าเต่าพูดได้อยู่ข้างหลัง

     

     

    อ้า...นายหญิงฟิเอต้า นายหญิงรู้สึกดีขึ้นแล้วใช่มั้ยเจ้าคะเธอพยกหน้าตอบคำถามของเจ้าเต่าน้อยแล้วถามกลับเจ้าคือ...โซ...โซละ...โซเซ รึเปล่า?”

     

     

    ไม่ใช่ค่ะ นายหญิง ข้าโซลีเซค่ะเจ้าเต่าพูดแก้

     

     

    ช่างเถอะ ข้าอยากเรียกเจ้าว่าโซเซ มันคงดีกว่าเยอะฟิเอต้าพูดด้วยน้ำเสียงสบาย ระคนขบขัน โซลีเซเห็นดังนั้นจึงน้อมรับเจ้าค่ะ หากนายหญิงประสงค์ โซลีเซผู้นี้ก็ยินดีเจ้าค่ะ

     

     

    โซลีเซพยักหน้าอย่างน้อมรับ ฟิเอต้าจึงส่งยิ้มหวานให้ แต่ก็มีเรื่องที่สงสัยอยู่จึงตัดสินใจถามอย่างเอาเป็นเอางานโซเซ เจ้าเป็นตัวอะไรมาจากไหน ทำไมเป็นเต่าถึงพูดได้ล่ะ

     

     

    โซลีเซยิ้มกับคำถามนั้นแล้วก็เกิดแสงสว่างขึ้นรอบตัวก่อนจะกลายเป็นหญิงสาวสง่าคนหนึ่ง ผมสีเขียวสดกับนัยน์ตาสีดำดังท้องฟ้ายามราตรีที่มีประกายระยิบของดาวทออยู่เสมอ ใบหน้าเรียวงามนั้นเนียนใสราวกับท่านหญิงจากดินแดนแห่งความงาม แต่จะว่าไปก็คงไม่สวยเท่าชาเซสหรือฟิเอต้าหรอก

     

     

    ข้าโซลีเซ เป็นภูตหนึ่งในหกตนที่ดูแลอัญมณีแห่งความหวัง ซอนเทนาเวียเจ้าค่ะ พวกเราจะมีร่างเป็นสัตว์แต่สามารถเปลี่ยนกายเป็นมนุษย์ได้ ตอนนี้มีผู้ต้องการมันมากเกินไป และผู้ที่ต้องการแต่ละคนนั้นมีแต่ความละโมบ ความลุ่มหลง เราจึงจำต้องหานายแห่งอัญมณีเจ้าค่ะ เพื่อที่ซอนเทนาเวียจะได้ไม่ถูกขโมยไปด้วยฝีมือผู้ประสงค์ร้ายเจ้าค่ะ ผู้ที่พวกข้าเลือกก็คือ ท่านฟิเอต้า เทรย์ เลแซมเบิร์ก และท่านชาเซส ไม ซาโดรเนีย ที่สามเจ้าค่ะ แต่ข้ายังหาท่านชาเซสไม่พบเลยโซลีเซอธิบายยาวพร้อมกับพูดอย่างเหนื่อยอ่อนและท้อแท้ในตอนท้าย

     

     

    เอ๋? ชาเซสหรอ? ชื่อคุ้น นาฟิเอต้าเปรยออกมาเบา เชิงสงสัย แต่ในสถานที่ถ้ำแบบนี้ เสียงเบา ก็กลายเป็นเสียงดังได้เหมือนกัน

     

     

    ก็ข้าไง ข้าเองชาเซส ไม ซาโดรเนีย ที่สาม

     

    “...”

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×