ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าชายจอมหยิ่งกับเจ้าหญิงจอมยุ่ง

    ลำดับตอนที่ #6 : ++++++แผนการณ์ของเธรีน..นั่นล่ะที่ฉันกลัว???????

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.72K
      0
      26 ม.ค. 50

                 

    อากาศอบอุ่นในเดือนกันยายนแผ่คลุมทั่วบริเวณรีย์วู้ด กลิ่นหอมอ่อนๆ ของหญ้าและดอกไม้ในสวนป่าโชยไปทั่วทั้งโรงเรียน ทำให้อารมณ์ของใครหลายคนผ่อนคลายลง

    "ฉันว่านี่คือโชคร้ายสุดๆ " เสียงเล็กๆ บ่นขรม หลังเดินออกจากห้องเรียนในคาบที่สี่ นัยน์ตาสีทองบ่งบอกถึงความหงุดหงิดชัดขณะอีกคนที่อยู่ข้างตัวกลับส่งสายตาขบขัน

    "อะไรโชคร้าย" ชาร์ลสถามอย่างไม่เดือดร้อน

    "มันยังไม่โชคร้ายอีกหรือไง วันนี้เจอแต่เรื่องน่าปวดหัว ตอนเช้าก็ดันถูกคัดเลือกให้เป็นเหรัญยกรัญญิก ตอนสายหน่อยก็ดันถูกลงโทษให้ทำรายงานร้อยหน้า โอ๊ย! ไม่อยากจะคิดว่าตอนบ่ายจะต้องเจออะไร"

    "นายก็อย่ากังวลให้มันมากนัก เดี๋ยวมีอาหารมาให้ยัดลงท้องก็หายอารมณ์บูดแล้ว"

    "ฉันว่า ในรีย์วู้ดนี้จะต้องมีอะไรที่น่าสนุกรออยู่แน่เลย" เธรีนกลอกตามองชาร์ลสเล็กน้อย "อย่างเช่น…"

    "เช่นอะไร" ชาร์ลสรีบถามขึ้นเพื่อให้เธรีนพูดต่อ

    "นายไม่เคยดูแฮร์รี่ พอตเตอร์หรือไง เด็กปีหนึ่งได้ค้นพบสุนัขสามหัวโดยบังเอิญ ฉันว่าถ้าโยงเข้ามาในชีวิตจริงแล้วมันก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่"

    "อ๋อ!!!!! นายคิดว่ายังมีหมาสามหัวหลงเหลืออยู่อีกหรือ" ชาร์ลสเริ่มรู้ความปัญญาอ่อนของเพื่อนซี้ที่เพิ่งเจอกันใหม่ แต่ไม่ว่าอะไรหลายๆ อย่างก็เหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นวิชาที่ลงเรียน คือบริหารธุรกิจเหมือนกันหรือแม้แต่นิสัยใจคอก็ยังเหมือนกัน

    "เปล๊า นี่นายเดาไม่ออกหรือไง ถ้าเราจะมาทำตัวเป็นนักกีฬาของโรงเรียนสักวันมันคงสนุกพิลึก อาทิตย์มะรืนนี้วันเสาร์.."

    "แล้วไง" ชาร์ลสเอียงหัวมาให้ความสนใจกับคำพูดที่เย้ายวนใจให้ออกไปเปิดหูเปิดตาของเธรีน

    "วันเสาร์ก็ไม่มีเรียนน่ะสิ เด็กปีหนึ่งให้อยู่ในโรงเรียนก่อน ปีสองขึ้นไปถึงจะได้ออกไปเที่ยวหรือกลับบ้าน เดี๋ยวฉันจะพานายไปเปิดหูเปิดตา ตอนปิดเทอมทุกปีฉันกับพี่พากันไปเที่ยวประจำแหละ แถวนี้ฉันรู้จักหมด"

    "นายแน่ใจเร้อ กฎร้อยข้อที่พวกพี่เค้าให้จำนายจำได้หรือยัง????"

    "นายกลัว??" เธรีนกระเซ้าอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่

    "ฉันกลัวก็เพราะไปกับนายนี่แหละ" ชาร์ลสย้อนบ้าง

    "งั้นนายก็สบายใจได้ เพราะฉันไม่หลอกนายไปทำมิดีมิร้ายหรอก นายหน้าตายังใช้ไม่ได้แถมก็ไม่ใช่เทสต์ของฉันด้วย" เธรีนว่าไปโน่น แต่ทำให้รอยยิ้มบนหน้าของชาร์ลสจางหายไป

    ปั๊ก!

    กำปั้นแข็งๆ ทุบลงกลางศีรษะของคนพล่ามมาก

    "โอ๊ย! มาตีหัวฉันทำไมล่ะเนี่ย หา…" เสียงเล็กๆ ยังยียวนหาเรื่อง นัยน์ตาสีทองฉายแววขบขันระคนสะใจ

    "ฉันว่าถ้านายปากไม่สุนัขแบบนี้นายจะมีบุคลิกดีมากทีเดียว" ชาร์ลสเดินล้วงกระเป๋าแล้วนำหน้าเธรีนไปลิ่วๆ

    "เฮ้ แล้วตกลงจะไปหรือเปล่า" เธรีนรีบวิ่งตามชาร์ลสขึ้นมาติดๆ หนังสือจำนวนมากกว่าหกเล่มที่อยู่ในมือเธอไหวกระเพื่อมเล็กน้อยตามจังหวะการวิ่ง

    "เรื่องสนุกแบบนี้ยังจะมาถาม เฮ้! ระวัง" ชาร์ลสรีบร้องเตือนเธรีนเมื่อเท้าซ้ายของเธอกำลังจะสะดุดขาเก้าอี้ที่ล้มอยู่

    ..แต่..ไม่ทันเสียแล้ว

    "หวาย.."

    เธรีนสะดุดขาเก้าอี้แล้วล้มโครมลงไปข้างหน้า แสงสว่างดูเลือนราง เธอเห็นมือคู่หนึ่งยื่นมาให้ เธรีนรีบคว้ามือนั้นอย่างรวดเร็ว

    "โฮ้" เธรีนล้มทับชายหนุ่มคนหนึ่งอย่างจัง แต่พอสังเกตดีๆ มันมีส่วนคุ้นๆ อยู่เหมือนกันนะเนี่ย เธอเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว "เลโอ นายมาอยู่นี่ได้ไง" เธรีนรีบลุกขึ้นจากตัวของเลโอปานก้นติดจรวด

    "ฉันสิต้องถามนาย ฉันอยู่เฉยๆ นายมาคว้ามือฉันทำไม" เขาทำหน้าไม่พอใจเล็กน้อยกับคำถามที่ไม่เข้าท่าของแม่ยอดยุ่ง O_o

    "ใครว่า นายยื่นมือมาให้ฉันชัดๆ อย่ามามั่วนิ่ม" เธรีนยังเถียง "แล้วนายมาอยู่แถวนี้ได้ไง"

    "ที่นี่ไม่ใช่ที่ส่วนบุคคล ดังนั้นฉันไม่จำเป็นต้องขออนุญาตใครถ้าจะมาเดินแถวนี้" เขาพูดห้วนๆ ปัดอกเสื้อสองสามทีแล้วรีบเดินหนีไป

    "หยิ่งชะมัดยาด ที่นี่ไม่ใช่ที่ส่วนบุคคล ดังนั้นฉันไม่จำเป็นต้องขออนุญาตใครถ้าจะมาเดินแถวนี้ เชอะ ทำเป็นพูดดีไปเหอะ จะรีบไปหาแฟนตัวเองล่ะสิ" เธรีนพูดด้วยความโมโห แต่ประโยคหลังมันดันเสียงดังไปหน่อยทำให้ผู้ถูกว่าได้ยินเหตุการณ์พอดี

    "ฉันจะรีบไปหาใครมันไม่เกี่ยวกับนาย ไม่ต้องมายุ่ง"

     

     

     

     

    "เป็นอันตกลงตามนี้" เธรีนปิดพับกระดาษลงหลังจากวางแผนปรึกษาหารือเรื่องแผนการณ์หนีออกไปเที่ยวนอกโรงเรียน เธอเงยหน้าขึ้นมามองชาร์ลสก่อนจะลุกขึ้นมาจากพื้นหญ้าสีเขียวอ่อนนุ่ม

    "ไม่เลว แต่เราจะไม่ออกไปสำรวจเส้นทางก่อนหรือไง" ชาร์ลสเสยผมสีเข้ม นัยน์ตาสีเขียวน้ำทะเลของเขาฉายแววสนุกกับแผนการณ์ผจญภัย

    "แน่นอนอยู่แล้ว แต่มันก็น่าจะชัวร์นะ เพราะฉันเพิ่งใช้วิชาลับเฉพาะไปจิ๊กจากห้องภูมิศาสตร์มา เดี๋ยวเปิดทวนอีกทีแล้วกัน" เธรีนหยิบพับกระดาษออกมากางอีกครั้ง "ตรงประตูจะมีกำแพงหฤโหด บนกำแพงจะมีสารเคมีชนิดหนึ่งที่ถ้าแตะแม้แต่น้อยจะต้องป่วยไปสามวันเจ็ดวัน แต่พอจะมีทางอื่น แม้กำแพงหฤโหดจะใหญ่ก็จริง แต่มันก็ต้องมีข้อผิดพลาดบ้าง ตรงทางตะวันออกสุดของกำแพง จะเป็นสวนผักและสวนผลไม้ เดินไปจนสุดกำแพงแล้วจะเจอต้นสนเตี้ยอยู่ติดกับกำแพง ตรงนั้นมีรูสำหรับเล็ดลอดออกไปจากรีย์วู้ดได้โดยไม่ถูกสารเคมีที่ฉาบบนกำแพง" เธรีนทวนแผนการณ์อีกครั้งหนึ่ง นัยน์ตาสีทองฉายแววครุ่นคิดอะไรชั่วครู่

    "พี่ชายฉันฝากของมาไว้ให้ ถ้าได้ออกไปก็พอดีเลย"

    "แต่ฉันว่ามันน่าจะเป็นการเที่ยวที่ดีนะ ฉันไม่เคยมาที่อังกฤษ เพิ่งเคยมาครั้งแรกก็ตอนมาสอบเรียนที่นี่แหละ ส่วนตอนมัธยมที่ฉันเรียนโรงเรียนเดียวกับเลโอน่ะ… เราไปเรียนที่เดียวกันในปารีส" แสงในแววตาของชาร์ลสฉายแววจริงใจมากขึ้น

    "อ้าว!!!!! แล้วบ้านนายอยู่ที่ไหน"

    "บ้านฉันอยู่เนเธอร์แลนด์" เขาบอก

    "เนเธอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์" เธรีนทำท่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะสานต่อคำพูด เธอเอาหนังสือเล่มหนึ่งมารองอยู่บนหัวเพื่อใช้ต่างแทนหมอน

    "กังหันลม พรมพลิ้ว ริ้วไสว

    ทิวลิปราย เรียงเลิศ ล้ำบุปผา

    ทั้งสีแดง สีเหลือง อร่ามตา

    แดนเทวา พร่ำเพ้อ เนเธอร์แลนด์"

    "หา นี่นายแต่งกลอนได้??" ชาร์ลสลุกขึ้นมองเจ้าหญิงคนสำคัญที่เรียกได้ว่ามันพยายามซ่อนเขี้ยวเล็บไว้ตลอดเวลา

    "ก็ไม่เห็นแปลกนี่ แค่แต่งกลอน" เสียงตอบรับจากเพื่อนรักแสดงว่ากำลังง่วงเต็มที่ "นอนเหอะ คาบนี้ว่าง เดี๋ยวมีเรียนอีกทีตอนสี่โมงเย็นโน่น อ้อ!! ชาร์ลส คืนนี้นายไปนอนห้องเลโอนะ พอดีห้องทดลองวิทยาศาสตร์มันอยู่ในช่วงปรับปรุงน่ะ มิสเตอร์โรเจอร์เลยให้เราไปหาห้องทดลองเอง แล้วฉันก็มองไม่เห็นห้องไหนที่จะเหมาะสมที่สุดได้เท่ากับห้องนายอีกแล้วล่ะเพื่อน แต่ตอนนี้ฉันง่วง…" ไม่ว่าเปล่า กระเป๋าเป้คู่ใจก็ถูกดึงขึ้นมากอดแทนหมอนข้างแล้วรีบหลับ

    "เฮ้ย ชมรมก็ส่วนชมรมสิ ถึงแม้ว่าฉันจะอยู่ชมรมวิทยาศาตร์เหมือนกับนายแต่ทำไมนายต้องเอาห้องฉันมาต่างห้องทดลองด้วยเล่า เฮ้ย! ตื่นดิ ไอ้เธรีน…"

    "เรียนวันนี้เหนื่อยเป็นบ้าเลย" เสียงทุ้มแหบๆ จากซูแมน เด็กหนุ่มผมสีบลอนด์ นัยน์ตาสีฟ้าเข้ม ผู้ดูจะอารมณ์แปรปรวนเป็นนิจ

    "คณะวิทย์ของแกมันเหนื่อยมากนักหรือไง สู้ของฉันไม่ได้ คณะครุศาสตร์ น่าปวดหัวเป็นบ้า สอบอีคิวทั้งวัน" อีกเสียงเแทรกขึ้นมา เธรีนจำได้ทันทีว่านั่นคือเสียงของแจ๊ค เพื่อนที่คุยน่าปวดหัวพอกับซูแมน

    "งั้นนายก็อย่าเรียนสิ ถ้าปวดหัวนัก" เธรีนอดแทรกเข้าไประหว่างบทสนทนาไม่ได้ เธอรับแก้วโค้กจากชาร์ลสแล้วหันหน้ามามองชายหนุ่มทั้งสอง "พวกแกจะคิดให้มากทำไม เราจะต้องคิดว่ามีชีวิตอยู่เพื่อเหล่สาว!!!!! ถ้าพวกแกสอบได้คะแนนดีๆ ฉันว่าต้องมีแต่สาวรุ่นน้องๆ มาขอลายเซ็นต์ตรึม เชื่อดิ" ซูแมนแทบจะสำลักเครื่องดื่มในปากเมื่อได้ฟังคำพูดที่คิดว่าน่าจะดีกว่านี้

    "มีเหตุผล" โทนี่ทำเสียงสนับสนุน

    "ชัวร์ ความคิดของฉันไม่มีเรื่องไหนที่ไม่มีเหตุผล" เธรีนยังทำตัววางภูมิเหมือนตัวเองไม่ได้ถูกคำพูดประชดมา

     

     

     

     

    "เอ้า เลโอ ดึกป่านนี้แล้วนายยังไม่เข้านอนอีกหรือ?????" ชาร์ลสถามเลโอพลางมองดูนาฬิกายักษ์ที่อยู่ในห้องนั่งเล่น

    นักเรียนปีหนึ่งต่างก็กลับห้องพักกันหมดแล้ว เหลือเพียงแค่เธรีน ชาร์ลสและเลโอเท่านั้น

    "ฉันกลับไม่ได้" เลโอพูดพลางกดรีโมททีวีเพื่อเปลี่ยนช่อง

    "ไม่ยักรู้ว่านายก็เป็นโรคลืมกุญแจ" เธรีนโพล่งบ้าง "นึกว่าฉันจะเป็นคนเดียวซะนี่ แต่ดันไปลืมไว้อีตอนไหนล่ะ"

    "ไม่ใช่เรื่องนั้น" เลโอยังกดรีโมททีวีเพื่อหาช่องที่ต้องการ แต่เหมือนยิ่งกด ใจของเขาก็ยิ่งไม่ได้จ่ออยู่กับหน้าจอโทรทัศน์มากขึ้น

    "เรื่องไหนล่ะ" เธรีนเขยิบเข้าไปใกล้เลโอมากขึ้นเพื่อพยายามจับผิด

    "โพซีล่าไปอยู่ที่ห้องฉัน ฉันไม่อยากเข้าไป" เลโอเฉลย แต่เป็นคำตอบที่ทำให้เธรีนและชาร์ลสต้องกลั้นหัวเราะ "มีอะไรน่าหัวเราะ????"

    "ก็ตรงนายนี่มันโคตรซื่อบื้อเลย แหม…ผู้หญิงเค้าใส่พานมาถวายแล้วยังไม่ยอมงาบ นายว่ามันโง่หรือบ้าหือ..ชาร์ลส" ประโยคหลังๆ หันไปขอความเห็นจากเพื่อนซี้ นัยน์ตาสีทองฉายแววขบขันชัดเจนจนทำให้เจ้าของนัยน์ตาสีน้ำเงินเริ่มออกอาการหงุดหงิดเล็กน้อย

    "นั่นดิ ดูท่าเค้าก็อยากปรับความเข้าใจกับนายนะ จะไม่เข้าไปหน่อยหรือไง" ชาร์ลสกับเธรีนตบมือกันป้าบๆ ทำให้เป็นที่ขุ่นเคืองแก่ผู้ถูกกระเซ้ายิ่งนัก

    "อยากไปก็ไปเองสิ"

    "ฉันคงไม่ชอบโพซีล่าหรอก ฉันไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้น" เธรีนเข้าใจไปโน่น "ถึงนายจะมองว่าฉันออกทอมๆ หน่อยก็เหอะ แต่ฉันพูดจริงๆ นะว่าไม่ได้วิปริตผิดเพศขนาดจะ…." พูดยังไม่ทันจบอีกเสียงหนึ่งก็ชิงตัดคำพูดซะก่อน

    "คืนนี้ฉันไปนอนห้องนายนะชาร์ลส" เขาหันไปถามบุรุษอีกคนที่กำลังแย่งรีโมทโทรทัศน์กับแม่ยอดกวนประสาท

    "อ้าว ฉันก็ว่าจะไปนอนห้องนายอยู่พอดี เพราะตอนนี้ห้องฉันมันกลายเป็นห้องทดลองวิทยาศาสตร์ไปเรียบร้อยแล้ว ขืนเข้าไปนอนได้ดมสารเคมีตายแน่" ชาร์ลสทำหน้าเหยเกก่อนจะเริ่มสังเกตความผิดปกติในห้อง

     

     

     

     

    "จะไปไหนเธรีน" ชาร์ลสคว้าหลังเสื้อคลุมของเจ้าของชื่อไว้ได้ ใบหน้าเล็กๆ ยังยิ้มเหมือนเดิมแต่เป็นรอยยิ้มที่ไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด

    "ก็ไปนอนน่ะสิถามได้ ฉันง่วงแล้วนะเนี่ย แถมนี่มันก็ห้าทุ่มแล้ว….พวกนายก็ควรจะได้นอนไม่ใช่หรือไง" เสียงเล็กๆ ยังกวนประสาทเหมือนอย่างเคย นัยน์ตาสีทองฉายแววกวนๆ ชอบกล

    "นายคงไม่ทิ้งให้เราสองคนต้องนอนข้างนอกหรอกใช่ไหม" ชาร์ลสยังจี้ต่อ

    "ก็ไม่นี่ แค่นายเข้าไปนอนในห้องเลโอ ยัยโพซีล่านั่นไม่มีทางอยู่ต่อได้หรอก อย่างน้อยเธอก็ต้องหน้าแดงแล้วรีบออกมานั่นแหละ" เธรีนบอกเสียงใสพลางเหล่ตาให้เลโอเป็นเชิงกวนประสาทเล็กน้อย

    "นายบอกว่าฉันเป็นเพื่อนนาย ดังนั้นของๆ เพื่อนก็คือของๆ เพื่อน ห้องของนายก็ต้องเหมือนห้องของฉันเหมือนกัน" ชาร์ลสพูดอย่างเป็นเชิงเหนือกว่า

    "แล้วคุณเจ้าชายผู้สูงศักดิ์นั่นจะอยากไปนอนห้องฉันเร้อ เค้าคงไม่อยากเสด็จเท่าไหร่มั้ง…คงต้องเป็นห้องบรรทมของเจ้าหญิงโพซีล่าถึงจะอยากไป" เธรีนว่าพลางหันไปยักคิ้วเป็นเชิงท้าทายเลโอ

    "ฉันยังไม่ได้พูดว่าอยากไปนอนห้องของโพซีล่า แต่ถ้านายไม่อยากให้ฉันเข้าไปในห้องของนาย ฉันก็จะไม่เข้าไป ฉันจะนอนที่นี่แหละ TOT" เขาพูดพลางหยิบรีโมทโทรทัศน์ขึ้นมาเพื่อกดดูช่องต่างๆ

    ไอ้เจ้าชายจอมหยิ่ง…ฉันแค่พูดเล่นเฟ้ย ทำงอนเป็นผู้หญิง…>_<!!!

    แล้วจะปล่อยให้มันนอนตากอากาศแอนด์ยุงตรงนี้น่ะหรือ…บาปตาย…

    "นี่นายอย่าขี้น้อยใจไปหน่อยได้ไหม เอาเป็นว่าฉันล้อเล่น รู้ไหมว่าเกิดเป็นคนมันต้องหน้าด้านเข้าไว้ถึงจะได้ อย่างนายนี่ต้องไปเผชิญกับโลกอีกเยอะ….เชิญเสด็จเพคะเจ้าชาย" ตอนสุดท้ายทำให้ชาร์ลสต้องหัวเราะอย่างท้องคับท้องแข็ง

    เธรีนเดินไปลากแขนเลโอขึ้นมา นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มของเขายังฉายแววหยิ่งทะนงอยู่เล็กน้อย แต่เธรีนดูเหมือนจะรู้ทันเลยรีบขัดคอ

    "ฉันจะถือว่านายเป็นเพื่อนฉันแล้ว ของๆ ฉันก็เหมือนของๆ นาย ห้องของฉันก็ต้องเหมือนห้องของนายด้วย ไปเถอะน่า"

     

     

     

    "เธรีน สุดยอด" ชาร์ลสก้าวข้ามธรณีประตูเข้ามาในห้องเธรีนแล้วรีบสำรวจภายในห้อง ตั้งแต่ผนังไปจนถึงพื้นห้อง

    "อะไรสุดยอด ห้องฉันไม่มีอะไรเลยนะ" เธรีนว่าพลางหย่อนก้นนั่งลงบนโต๊ะเขียนหนังสือแล้วหยิบหนังสือพิมพ์ประจำวันขึ้นมาอ่าน

    ภายในห้องของเธอแทบจะไม่มีอะไรอีกเลยนอกจากกองหนังสือเท่าภูเขาเลากากับโปสเตอร์ติดผนังห้องอีกสองแผ่น แผ่นหนึ่งเป็นรูปสตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมลิเวอร์พูลกับอีกแผ่นหนึ่งเป็นโปสเตอร์รูปแฮร์รี่ พอตเตอร์

    "ก็นี่แหละที่สุดยอด ห้องนายถึงไม่มีอะไรแต่ก็เรียบเก๋ไม่เหมือนใคร ฉันว่าก็ดีนะ" เขาพูดพลางเอามือรูดสันหนังสือที่อยู่บนชั้นเป็นระเบียบของเธรีน

    "เอาเป็นว่าตกลงตามนี้ ฉันจะนอนบนเตียง ส่วนนายและเลโอนอนพื้น โอเค?" เธรีนเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบผ้าห่มพร้อมผ้าปูพื้นผืนใหญ่ออกมา "แต่ต้องนอนด้วยกันนะ เพราะผ้าปูพื้นมันมีผืนเดียว"

    หลังปูที่นอนเรียบร้อยเธรีนก็หยิบเครื่องมือลับที่สุดออกมา ชาร์ลสตาโตปานไข่ห่านเมื่อได้เห็นมัน ขณะเลโอเองก็ตกใจไม่น้อย

    "นายเอาโน๊ตบุ๊คเข้ามาได้ไง โรงเรียนของเราห้ามนำเครื่องมือสื่อสารหรือเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์เข้ามานี่" ชาร์ลสร้องถามพร้อมเดินเข้าไปนั่งบนเตียงของเธรีน

    "มันเป็นเคล็ดลับ แต่นายจะส่งเมล์ถึงใครหรือเปล่าเพราะเครื่องนี้ติดเน็ตไร้สายนะ นายว่าไงเลโอ" ถามอีกคนแล้วก็หันไปถามเพื่อนใหม่อีกคนหนึ่ง "นี่ ฉันเป็นเพื่อนนาย เวลาอยู่กับพวกฉันไม่ต้องวางมาดให้มันขนาดนั้นก็ได้มั้ง เห็นแล้วมันขัดหูขัดตา" เธรีนหันไปมองผู้ได้รับฉายาว่าเจ้าชายจอมหยิ่งแล้วก็รู้สึกไม่ชอบหมอนี่เลยจริงๆ ทั้งหัวแข็งทั้งปากแข็ง

    "เจ๋งเลย แล้วนี่นายเอามาทำไรละเนี่ย" ชาร์ลสมองหน้าเธรีนราวกับจะหาเขี้ยวเล็บที่เพื่อนจอมซ่าชอบซ่อนเอาไว้เสมอ

    "ทำงานดิ ฉันไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทองเหมือนพวกนายนี่ ก็ต้องหาเงินเรียนเป็นธรรมดา ไม่งั้นก็คงไม่ได้มาเรียนโรงเรียนอันดับหนึ่งอย่างรีย์วู้ดหรอก"

    "งาน…งานยังไง" ชาร์ลสถามพลางมองหน้าจอโน๊ตบุ๊ค นัยน์ตาสีเขียวน้ำทะเลของเขาดูเหมือนจะอยากรู้อยากผจญภัยมากขึ้น

    ตลอดเวลาหลายปีที่เขาเอาแต่เรียน เรียน เรียน แล้วก็เรียนโดยไม่ได้ออกไปเที่ยวไหนต่อไหนเหมือนกับครอบครัวคนอื่นทำให้เขาอยากจะรู้จักกับโลกกว้างที่อยู่ภายนอกห้องแล็ป ห้องเรียนและห้องที่มีแต่ตัวเลขทั้งวัน

    "ก็งานแบบพวกรับจ้างลงคอลัมป์ แต่งเรื่องสั้นเรื่อยเปื่อย หรือรับจ้างคีย์ข้อมูลไง งานพวกนี้ก็มีออกถมเถทางอินเตอร์เน็ต พวกนายอยากเล่นเน็ตหรือเปล่าล่ะ ถ้าอยากเล่นก็ได้เลยนะ เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำก่อน" เธรีนว่าพลางหายต๋อมเข้าห้องน้ำไป ทำให้ชาร์ลสต้องรีบหันไปมองเลโอแล้วจัดการยึดเตียงของเธรีน

    "เดี๋ยวถ้าได้ออกไปข้างนอกอีก ฉันคงต้องเอาโน๊ตบุ๊คเข้ามาแบบมันบ้างแล้วนะเนี่ย.."

     

     

     

    เกิดอะไรขึ้น…

    …ทำไม…

    เธรีนถามตัวเองในใจก่อนจะหันไปมองร่างของชายหนุ่มที่นอนเต็มเตียงอย่างน่าถีบ ทั้งๆ ที่เตียงนั้นมันเป็นของเธอ

    แล้ว…นี่ฉันจะไปนอนที่ไหนล่ะเนี่ย?????? ^^

    เป็นคำถามที่ได้แต่ถามตัวเองในใจก่อนตัดสินใจจัดการอะไรสักอย่างให้เตียงนั้นกลับมาเป็นของเธอเหมือนเดิม

    "ชาร์ลส ตื่น ตื่น ตื่น"

    ตุ๊ด…ตุ๊ด…ไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่คุณเรียก…

    "โธ่เอ๊ย อย่าแกล้งกันเลยน่าชาร์ลส ตื่นดิวะ" เธรีนพยายามเรียกอีกหลายครั้ง แต่ดูเหมือนผู้ถูกเรียกจะกำลังนิทราสนิท เลยไม่ได้ยินเสียงน่าปวดหัวที่กรอกเข้าหูเป็นระยะๆ

    เธอมองกลับไปหาเพื่อนอีกคนที่ตอนนี้ยังไม่เห็นแม้แต่เงา

    เอ…นี่มันจะกลับไปนอนห้องมันหรือเปล่า ถ้าเป็นไปได้ก็ดี…

    คิดแล้วก็ชะเง้อคอหา แต่กลับไม่พบอะไรเลย

    "เฮ้ย! คืนนี้มีปรากฏการณ์ฝนดาวตกนี่นา ฉันลืมไปได้ไงเนี่ย" เธรีนพึมพำกับตัวเองก่อนจะเปิดประตูออกไปตรงบริเวณระเบียง ซึ่งเป็นระเบียงเล็กๆ ไว้สำหรับวางต้นไม้หรือสำหรับบางคนอาจจะมีไว้สำหรับดูดาว

    "ไอ้หยา!!!! นายมาอยู่นี่ได้ไงเลโอ" เธรีนเปิดประตูออกมาแล้วต้องเกือบหัวใจวายเพราะมีบุรุษร่างหนึ่งยืนพิงอยู่กับระเบียง

    "ฉันมีขานะ อยากเดินก็เดิน อยากไปไหนขาฉันก็จะพาไป" คำตอบว่าไปโน่น แต่เธรีนก็ยังไม่มีท่าทีแสดงอาการขุ่นเคืองเพราะเริ่มเข้าใจแล้วว่า นี่อาจจะเป็นนิสัยถาวรของเจ้าชายจอมหยิ่งก็เป็นได้

    "คืนนี้มีฝนดาวตก นายคงมาดูฝนดาวตกสินะ" เลโอมองไปยังเบื้องบนท้องฟ้าที่มีดวงดาวอยู่เรียงราย ล้อมรอบดวงจันทร์ที่กลมโตสุกสว่างท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดมิด

    "อื้ม แล้วนายล่ะ ก็มาดูฝนดาวตกเหมือนกันล่ะสิ" เธรีนเดินเข้าไปยืนพิงระเบียงแบบเลโอ ที่จริง…หมอนี่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากนัก เพียงแต่ปากมักพาตัวจมอยู่เสมอ OO_OO^

    เธรีนแอบสังเกตเห็นรอยเครียดบนหน้าของคนที่ไม่เคยยิ้ม ทีแรกก็ไม่รู้สึกแปลกเท่าไหร่ แต่พอนานไป เลโอแทบไม่ยอมมองมาทางเธอ..เอาแต่มองขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างอยากจะระบายอะไรบางอย่าง

    "นายมีอะไรกลุ้มใจก็บอกฉันได้นะ เพราะนายเป็นเพื่อนฉัน" เธรีนพยายามจ้องตาเลโอให้ได้ แต่เขาไม่มองมาทางเธอสักทีราวกับกลัวจะถูกจับได้ว่าทำผิด

    "คำว่าเพื่อนของนายสำคัญแค่ไหน" คำถามย้อนว่าไปอีกเรื่อง แต่เธรีนพยายามเข้าใจในความหมายของคำพูดนั้น

    "เพื่อน..คือสิ่งที่เราจะเป็นผู้ให้ อาจจะให้ความรู้ ให้อะไรต่างๆ ที่เราอยากจะให้ด้วยใจจริง เพื่อน…จะเป็นเหมือนที่ดูดซับน้ำ คอยดูดซึมทุกความทุกข์ใจของเรา เพื่อน…ไม่ได้มีไว้แค่แก้เหงา แต่เพื่อนมีอะไรหลายๆ อย่างที่ทำให้เราอยากจะค้นหา" เธรีนพล่ามยาวเป็นวาพลางนึกว่าเลโอคงไม่ได้ฟังอะไรที่เธอพล่ามมาก เพราะขนาดเธอยังจำไม่ได้เลยว่าได้พล่ามอะไรออกไปบ้าง

    "งั้นนายจะขอเสนอตัวเป็นเพื่อนฉัน นายรู้หรือเปล่าว่าไม่มีคำว่าเพื่อนสำหรับเจ้าชาย" เลโอหันหน้ามาสบกับเธรีนตรงๆ ตอนนี้เธรีนมองไม่ค่อยเห็นชัดว่านัยน์ตาของเขาเป็นอย่างไรแล้ว…อาจจะกำลังรำคาญเธออยู่ก็เป็นได้

    "ฉันไม่เคยได้ยิน ฉันเคยได้ยินแต่ว่า…แม้แต่กษัตริย์ก็ยังต้องมีที่ปรึกษาไว้ต่างเพื่อนแล้วเจ้าชายจะเพื่อนบ้างก็ไม่เห็นแปลก" เธรีนว่าต่อไปหน้าตาเฉย "เอาเป็นว่า หลังจากนี้เราสามคนจะเป็นเพื่อนกัน เอ้า..จับมือ" เธรีนยื่นมือขวาออกไปข้างหน้า

    แม้เลโอจะยังไม่แน่ใจในการมัดมือชกของเธรีนเท่าไหร่ แต่เขาก็พบรอยจริงใจในสายตาของเธอ ทำให้วินาทีนั้นเขาตัดสินใจยื่นมือออกไปข้างหน้า

    "แค่นี้แหละ จากนี้ นายมีความทุกข์อะไรจะระบายก็ระบายออกมาได้ คิดว่านายเป็นพู่กันแล้วฉันเป็นกระดาษ เชิญระบายให้เต็มที่" เสียงเล็กๆ รีบต่อความเอาเอง

    "ฉันไม่มีอะไรจะพูด"

    "งั้นเพื่อเป็นการพิสูจน์ ฉันจะเล่าประวัติของฉันให้ฟังแล้วกัน" เธรีนมองสบตาของเลโอตรงๆ เธอเห็นแล้วว่าเลโอกำลังเปิดใจประมาณสี่สิบเปอร์เซ็นต์เพื่อรับเธอเป็นเพื่อน

    "ตอนวันที่ฉันเกิด แม่ฉันก็ตีตั๋วไปไม่กลับ จากนั้นพ่อฉันก็เอาแต่ทำงาน งาน งาน ปล่อยให้ฉันอยู่กับพี่ชายสองคน จนเราอายุเจ็ดขวบเลยออกจากบ้านที่นิวยอร์กมาอยู่ลอนดอน

    ตอนอยู่มัธยม ฉันเข้าโรงเรียนประจำชายกับพี่ชายเพราะบังเอิญปีนั้นมีโควต้าพิเศษ ฉันเลยอยู่โรงเรียนชายมาตั้งหกปี ตลอดปิดเทอมพี่รีอัสจะพาฉันไปเที่ยวรอบโลกประจำ ส่วนปีนี้ พี่ฉันไปเรียนที่นิวยอร์ก ปล่อยให้ฉันมาเรียนที่นี่คนเดียว ว่าแล้วก็แค้น…หนีไปอยู่กับพ่อคนเดียว ปล่อยให้น้องต้องมาอยู่ลอนดอน คอยดูเถอะ!!! ถ้าเกิดเจอหน้าเมื่อไหร่จะอัดให้หายแค้นเลย" เธรีนทำหน้าเหยเกเมื่อพูดถึงพี่ชายสุดแสบ "ถ้านายได้รู้จักพี่ชายฉันนะ จะรู้ว่าฉันเนี่ย ยังเป็นรุ่นเอ๊าะเรื่องความแสบเลย"

    เนี่ยนะรุ่นเอ๊าะ..

    ความคิดแรกผุดขึ้นในใจของเลโอ ตอนนี้เขารู้สึกดีมากขึ้นและอยากจะเปิดใจเล่าความทุกข์ของเขาให้เธอได้ฟัง

    เจ้าชายไม่ต้องการเพื่อน ถ้าไม่รู้จักเก็บความลับจะทำการใหญ่ได้อย่างไร..

    อีกความคิดขัดแย้งกันภายในหัวสมองอันชาญฉลาดของเขา ตอนนี้เลโอรู้สึกอยากจะแลกกับทุกสิ่งที่เขามีอยู่ตอนนี้กับชีวิตอิสรภาพเหมือนเธรีน

    "นายกลุ้ม??" เธรีนยังแย็บเข้าไปอีก

    "เปล่า ฉันไม่มีเรื่องอะไรให้กลุ้ม" เลโอยังปากแข็ง แต่ก่อนที่เธรีนจะอ้าปากแย้งขึ้นมา ดาวดวงหนึ่งก็ดึงดูดความสนใจของเธอไปได้

    "หลับตาขอพรสิ" เลโอบอกสั้นๆ เขาเคยเห็นปรากฏการณ์แบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่เชื่อหรอก ว่ามันจะจริง

    เธรีนรีบทำตามคำบอก แต่ในใจของเธอยังไม่เชื่อเรื่องคำขอพรศักดิ์สิทธิ์อะไรเลย เธอเคยขอมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่จนบัดนี้…คำขอนั้นยังไม่เป็นจริง

    …คืนหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ อากาศอบอุ่นหอมหวน เปลวเทียนส่องสว่างไสว เด็กหญิงเธรีนตัวจ้อยประมาณหกขวบกำลังเดินตามพี่ชายไปงานปาร์ตี้วันเกิดของเพื่อนรีอัส

    เธรีนได้พบกับเด็กรุ่นเดียวกันมากมาย หรือบางคนอาจจะแก่กว่าเธอไม่กี่ปี แต่ไม่มีใครอายุถึงสิบห้าเพราะนี่เป็นงานปาร์ตี้วันเกิดที่เจ้าของงานตั้งใจเชิญแต่เด็กรุ่นเดียวกันมางาน งานเลี้ยงเป็นงานริมทะเลสาบ พระจันทร์กลมโตเหมือนลูกชิ้นห้อยต่องแต่งอยู่บนท้องฟ้า ดวงดาวในคืนนั้นพราวกระจ่างแจ้ง

    เพล้ง!

    ความซุ่มซ่ามอันเป็นนิสัยถาวรทำให้เธอต้องถือถาดอาหารไปชนใครอีกจนได้ นัยน์ตาสีทองฉายแววตื่นตระหนกชัด

    "ขะ..ขอโทษค่ะ" เธอรีบก้มเก็บเศษจานที่แตกเพล้ง แต่อย่างน้อยเสียงดนตรีก็ช่วยกลบเสียงจานแตกได้อย่างมิดชิด

    "ไม่เป็นไร แต่คราวหน้าระวังหน่อยแล้วกันนะ ว่าแต่..เธอมีคู่เต้นรำหรือยัง" เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันทักทายเธอ ใบหน้าที่ดูดีจนแทบเรียกได้ว่าหล่อทำให้เธอต้องรีบพยักหน้าน้อยๆ อย่างเงิ่นๆ

    เธอเต้นรำกับเด็กหนุ่มคนนี้อย่างเก้ๆ กังๆ เพราะกลัวไปเหยียบเท้าเข้า ตอนนี้เธอรู้สึกถึงไอร้อนผ่าวจากหน้าแผ่ลงมาจนถึงคอ

    เพลงจบไปสองเพลง รอยยิ้มของเด็กหนุ่มทำให้เธอต้องใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มหลายครั้ง เธอพยายามทำตัวให้ปกติมากที่สุด

    แต่…

    "หวาย…."

    เธรีนสะดุดส้นรองเท้าส้นสูงแล้วล้มเข่ากระแทกลงไปกับพื้นแผ่นหินที่ทำเป็นทางเดินในหาดทรายทำให้การเต้นรำระหว่างเขากับเธอต้องหยุดชะงักลงไป

    "เธอ…เป็นอะไรมากหรือเปล่า" เขารีบเข้ามาดูแผลที่เกิดจากการซุ่มซ่ามเป็นครั้งที่ร้อยของเธอ แม้แสงสว่างจะมากแต่เธอก็ไม่ได้สังเกตว่าลักษณะท่าทางเขาเป็นอย่างไร จำไม่ได้แม้แต่ว่านัยน์ตาของเขานั้นสีอะไร…

    "เจ็บนิดหน่อย" เธรีนว่าพลางเลิกกระโปรงขึ้นจนถึงเข่า เผยให้เห็นแผลถลอกที่มีเลือดสีสดไหลลงมา

    "ไม่นิดหรอกน่า" เขารีบพยาบาลเธอทันทีด้วยการดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วรีบพันแผลให้เธอ

    "เปลืองผ้าเช็ดหน้าเปล่าๆ เดี๋ยวเอาน้ำเย็นล้างก็หายแล้ว" เธรีนยังปากแข็ง แม้ในใจจะรู้ดีว่ามันไม่ใช่ "ฉันทำให้นายเสียผ้าเช็ดหน้า งั้นฉันจะให้อย่างอื่นตอบแทนนายละกัน" เธอถอดสร้อยสีเงินที่มีรอยสลักเป็นภาษาโรมันอยู่ที่จี้รูปพระจันทร์เสี้ยวให้เขา

    แม้เธอจะรู้ว่านั่นเป็นของขวัญสิ่งเดียวในชีวิตที่พ่อได้เคยให้กับมือตอนวันเกิดของเธอ แต่เธรีนก็ตัดสินใจถอดมันให้กับเด็กหนุ่มที่ช่วยเธอทำแผล

    "อุ๊ย! นั่นดาวตก" เธรีนเหลือบขึ้นไปบนท้องฟ้าซึ่งพบกับดวงดาวสีแสดปนแดงกำลังพุ่งลงมาจากบนท้องฟ้า

    "อธิษฐานสิ" เด็กหนุ่มคนนั้นบอกเธอ

    ถ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ขอให้ฉันได้เจอกับเธออีกครั้ง ได้พบกับเจ้าของผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ ให้ฉันได้พบกับเธออีกสักที….

    พอเธอลืมตาขึ้นมา เด็กหนุ่มคนนั้นก็กล่าวลาเสียแล้ว

    "ฉันไปก่อนนะ พอดีคนขับรถให้มาตาม พ่อฉันรถชน" เขาพูดแล้วรีบวิ่งออกไปจากที่ตรงนั้น ปล่อยให้เธรีนต้องหันไปคุยกับดวงดาว…..

    "เธรีน นี่นายหลับหรือยัง" เลโอร้องเตือนเมื่อเขาพยายามเรียกหลายครั้งแล้วเธอก็ยังไม่ยอมลืมตาขึ้นมาสักที

    "เปล่าหลับซะหน่อย ก็คนมันฝันดี" ประโยคจากคนสติไม่ค่อยดีทำให้คิ้วของเลโอต้องเลิกขึ้นอย่าง อดไม่ได้

    ไม่ได้หลับ แต่ฝัน….

    มันคงบ้า..

     

     

     

    อ้ากกกกก!!!!! เสียงเล็กๆ ตะโกนลั่นเมื่อรู้สึกว่าตัวเองได้นอนหมอนที่นุ่มนิ่มเกินขนาด “แกออกไปเดี๋ยวนะเว้ย!!!!~ ไอ้เลโอบ้า!!!!

    หือ????” ชายหนุ่มผู้ถูกเรียกชื่อเปิดเปลือกตาขยุกขยิกขึ้นมาดูโลก…

    หือ????

    “ฮึ่มมมมมมม… นี่แกมานอนข้างๆ ฉันแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่???? หา??????” เธรีนร้องลั่น นัยน์ตาสีทองฉายแววประหลาดๆ ^^

    ก็เมื่อคืนนายเป็นคนดึงฉันไปกอดเองอ้ะ!!!!

    พูดให้ดีๆ นะ????? ฉันเนี่ยนะจึงดึงนายมากอดนอน???????”

    “เออ.. ก็นายนั่นแหละที่ดึงฉันมากอด”

    “อ้ากกกกกก ไอ้บ้า!!!!

    ++++++++++ Prince & Princess +++++++++
    ง่า.... ตอนนี้นี่ซึ้งสุดๆ เลยอ้ะนะ หญิงเกล็ดขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมเจ้าค่ะ และขอสัญญาว่าจะแต่งต่อไปอย่างสุดความสามารถ O_o

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×