ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าชายจอมหยิ่งกับเจ้าหญิงจอมยุ่ง

    ลำดับตอนที่ #12 : ~~ชาร์ลสเผยความลับ??^๐^!!!???

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.35K
      2
      26 ม.ค. 50

    โอ๊ย! งานเงอนไม่ต้องทำแล้วล่ะ สต๊อพไว้ก่อน” ชาร์ลสเดินเข้ามาหาเธรีนเงียบๆ ทำให้เธอตกใจผวาเล่นๆ

    “ไอ้บ้า!!! เสือกเข้ามาเงียบๆ เดี๋ยวยันโครมเข้าให้” น่าแปลกมากที่เวลายิ่งผ่านไปเธรีนก็ยิ่งทำตัวเหมือนผู้ชายมากขึ้น ทรงผมตอนนี้ยิ่งดูเหมือนผู้ชายเข้าไปใหญ่

    “นี่นายขวัญอ่อนขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” ชาร์ลสเหลือบมองเธรีนอย่างสงสัย แต่ไหนแต่ไรมันไม่เคยทำตัวขี้ตื่น แต่เวลานี้เขาก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่เพราะมีเรื่องอื่นสำคัญกว่า “เอาเหอะ ตอนนี้มีเรื่องสำคัญกว่าอีก” ชาร์ลสทำน้ำเสียงสบายๆ ยั่วให้นิสัยถาวรของเธรีนเริ่มออก

    “แกจะพูดอะไรก็รีบพูดมาดิวะ คนกำลังยุ่ง” เธรีนเคลียร์สมุดบัญชีการใช้เงินหน้าสุดท้ายแล้วปิดมันลงดังพรึ่บ!

    ก็ไม่อยากกวนเพราะนายมัวแต่ยุ่ง ไม่เป็นไร” ชาร์ลสกล่าวนิ่มๆ ส่วนเธรีนคิดว่ามันคงจะมาพูดเรื่องไร้สาระอีกตามเคยจึงไม่สนใจกับคำพูดของชาร์ลส “แล้วฉันจะไปปรึกษาใครดีล่ะเนี่ย เรื่องเดทแรกของเลโอซะด้วย เฮ้อ!! ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้ม”

    พรวด!

    เธรีนสำลักโคล่าแค้กๆ ด้วยประโยคที่ไม่คิดว่าจะได้ยินและไม่น่าจะได้ยินนี้ดังมาจากปากของเพื่อนรัก ถึงแม้ชาร์ลสจะชอบแกล้ง แต่บางครั้งมันก็จริงจังอยู่นา..

    “แกพูดจริง?”

    “เออดิ!!! แกก็รู้ว่าพ่อของเลโอกับพ่อของโพซีล่าสนิทกัน พ่อของโพซีล่าก็เลยมีสาส์นมาบอกว่าให้เลโอพาโพซีล่าไปวิหารศักดิ์สิทธิ์หน่อย ซึ่งนั่นก็ตรงกับวันนี้พอดี” ชาร์ลสเหล่ตามองเธรีน “แกคิดว่าจะสะกดรอยตามไปบอกมันให้ต้องทำยังไงดีหรือเปล่า??”

    “เอ้อ! จริงสิ วันนี้วันเสาร์สุดท้ายของเดือน นักเรียนทุกคนได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ นายไม่น่าถามอย่างนี้เลยนะชาร์ลส มันไม่สุภาพที่ไปยุ่งเรื่องชาวบ้านแบบนั้น” ชาร์ลสตะลึงค้างกับคำพูดที่ไม่น่าจะได้เล็ดลอดออกมาจากปากของเธรีน

    “มันต้องถามว่าจะเตือนยังไงให้มันทำได้ต่างหาก เอ้า..จะรออะไรอีกล่ะ ตามมันไปเร็วเข้า”

    “ชาร์ลส แกเหยิบไปอีกซิ!! ฉันกำลังได้วิวส์สวย”

    “แกนั่นแหละเธรีน เหยิบไป!!! มาเบียดฉันทำไมเล่า” เสียงเบาๆ สองเสียงดังขัดกันระหว่างพุ่มกอร์สเตี้ยๆ หนึ่งพุ่ม

    “เลโอ เดี๋ยวฉันไปซื้อน้ำมาให้นะ ฉันจำได้ว่าเธอชอบน้ำฟักทอง” เสียงหวานๆ ดังขึ้น เธรีนจำแม่นว่านั่นคือโพซีล่าแน่นอน TOT

    ฉันไม่หิว เดินอีกหน่อยก็คงจะถึงแล้ว” เลโอกล่าวตัดเยื่อใยขณะเธรีนอยากจะเอามือมาเบิร์ดกะโหลกมันสักห้าหกที โทษฐานที่ผู้หญิงใส่พานให้แล้วไม่รับ

    “แต่ฉันเหนื่อยแล้วนี่” โพซีล่านั่งลงบนม้านั่งสาธารณะ

    ไม่น่าเชื่อว่าโพซีล่าจะยังไม่โกรธเลโอ ทั้งๆ ที่มันทำท่าทางน่าถีบขนาดนั้น หยิ่งก็หยิ่ง!! หล่อก็ไม่เท่าไหร่ ตามจีบอยู่นั่นแหละ

    เธรีนขบเขี้ยวอยู่ในใจ….

    “เลโอ ฉันเหนื่อยแล้ว หยุดพักเถอะนะ เดี๋ยวฉันไปซื้อน้ำมาให้” เธอส่งสายตาวอนกระเซ้าแบบที่แม้แต่โคตรจอมหยิ่งยังต้องใจอ่อนล่ะงานนี้

    “แกว่ามันน่าไหมวะ ทำหยิ่งอยู่ได้ ตัวเองก็ใช่จะหล่อปานเทพบุตร สู้พี่อเล็กซ์ก็ไม่ได้”

    “แกถามฉันหรือพูดคนเดียวน่ะเธรีน” ชาร์ลสตอบเสียงกรุ่นๆ ตอนนี้เขาถูกเบียดจนแทบมิด มันน่าจริงๆ เลย ทั้งๆ ที่เขาเป็นผู้ชายตัวใหญ่กว่า แต่กลับโดนแม่สาวน้อยพลังควายเบียดซะงั้น!!! >_<!!

    จุ๊!! มาแล้ว”

    “อ้ะ น้ำฟักทอง กินแล้วจะชื่นใจ” โพซีล่าทำสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส แต่เลโอยังทำหน้านิ่งเหมือนไม่มีความรู้สึก นัยน์ตาสีน้ำเงินไม่มีแววสนุก

    “ฉันจะพาเธอไปส่งที่วิหาร” เขายืนกราน พลางจิบน้ำฟักทองที่โพซีล่าหามาให้

    “เลโอ!!! ทำไมนายต้องใจร้ายแบบนี้ด้วยนะ” เสียงของโพซีล่าเหมือนกำลังจะร้องไห้

    “โอ๊ย! อุ๊บส์” ขณะที่ทั้งสองกำลังจะเข้าฉากสวีท เสียงหนึ่งก็ร้องโอดครวญพร้อมร่างบางก็โผล่พรวดออกมาจากพุ่มกอร์สเตี้ยๆ เนื่องจากถูกแรงผลักมาอย่างแรง

    ไอ้ชาร์ลส ฉันเห็นหน้าแกอีกแกตายแน่ !!!!!!+++ไอ้เพื่อนระยำ+++!!!!!

    เธรีน” เลโอสาวเท้าเดินมาตรงบริเวณเกิดเสียงพลางสำรวจให้ทั่วเพื่อหาอีกร่างที่น่าจะมาพร้อมกัน “นายมากับใคร?”

    “ฉัน?” เธรีนชี้ไปที่ตัวเอง เธอยังไม่ลุกยืนขึ้นเนื่องจากยังเจ็บที่เข่าและไม่ต้องการให้ใครมาให้ความสงสาร “ฉันมาคนเดียวนี่ พอดีเดินมาเห็นหมาตัวหนึ่งก็เลยอยากได้ ฉันวิ่งตามมันมาแล้วตัดสินใจตะครุบ…เลยเป็นแบบเนี้ยแหละ” เธอคิดประโยคที่พอจะสมเหตุสมผลขึ้นมาได้ แต่แน่นอนว่าหัวอัจฉริยะอย่างไอ้เจ้าชายนั่นไม่มีทางเชื่อแน่ O_o

    เป็นอะไรรึเปล่า” เลโอนั่งลงข้างเธรีน แต่เธอเอาเสื้อโค้ทตัวยาวคลุมเข่าไว้ไม่ให้เห็นเลือดที่อยู่ภายใต้กางเกงยีนส์ตัวเก่ง

    โพซีล่าแอบสังเกตว่าเลโออ่อนโยนมากขึ้น แม้นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มนั่นยังแสดงความไม่พอใจอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยมันก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมากว่าตอนอยู่กับเธอ

    “ฉัน ไม่ เป็น อะไร “ เธรีนพูดช้าจนนับคำได้ สีหน้ายังคงแสดงท่าทางปกติ แต่ทว่า…บทจะลุกมันก็ลุกไม่ขึ้น

    เลโอมองผู้หญิงที่พยายามโกหกด้วยสีหน้าสงสารปนสมเพช

    อวดดี!!! >_<!!!

    เขาดึงแขนเธอขึ้นมาอย่างไม่ปรานีปราศรัยเท่าไหร่ในสายตาของคนอื่น แต่สำหรับคนที่ถูกดึงต้องถือว่านั่นมันก็นุ่มนวลพอดู

    “ฉันบอกแล้วไงว่าไม่เป็นไรซะหน่อย” เธรีนเสียงแข็งแม้ตอนนี้จะรู้แล้วว่าสีหน้าเปลี่ยนไป ตอนนี้เธอเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของเลโอเรียบร้อย “ไม่ได้ขอความช่วยเหลือ”

    “อย่าทำตัวงี่เง่า” เลโอดุ เขาพาเธอมานั่งที่ว่างข้างๆ โพซีล่าบนเก้าอี้ตัวยาวของสวนสาธารณะ เขาล้วงเข้าไปในเป้คู่ใจแล้วควานหาอะไรบางอย่าง

    ลืมไปเลยว่าหมอนี่มันเรียนชมรมแพทย์…

    เธรีนนึกขึ้นได้ ตอนนี้เริ่มรู้สึกเจ็บแปลบๆ ตรงหัวเข่า เธอดึงขากางเกงยีนส์ขึ้นมาข้างบนแล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นเลือดไหลย้อยลงมาเป็นเส้นสาย

    “แกมันห่วยแตก!!!! ไม่รู้จักฉวยโอกาส โพซีล่าก็ใส่พานให้แล้วเห็นๆ ” เธรีนกระซิบเบาๆ กับเลโอ กลิ่นแอลกอร์ฮอร์ลอยแตะจมูก เธอช่างไม่ชอบแอลกอฮอร์เลยจริงๆ มันทั้งแสบทั้งเย็นวาบๆ -_-^

    ถ้านายยังไม่อยู่เฉยฉันจะทำให้เลือดไหลมากกว่านี้อีก” เลโอพูดเสียงปกติ

    “เอ๋..ขาฉันก็อยู่นิ่งแล้วนี่ ไม่ได้เอาไปวางไว้บนปากนายซะหน่อย” สุดท้ายยังไม่เลิกยียวน แถมได้หย่อนหลุมระเบิดไว้อีกหลายหลุม ฮ่า!!! สะใจโว้ย

    “ฉันไม่ได้หมายถึงขานาย แต่ฉันหมายถึงปากนายต่างหาก” เลโอดึงขาเธรีนอย่างไม่สนใจเสียงร้องที่กำลังแหกปากอยู่ปาวๆ

    “โอ๊ย! เจ็บนะไอ้บ้า”

    “ก็อยู่เฉยๆ สิ แผลนี่น่ะ… ไม่ได้วันสองวันหายนะ… อีกประมาณสองอาทิตย์โน่นถึงจะหาย… หมั่นเปลี่ยนผ้าก๊อซบ่อยๆ แล้วกัน” การสนทนาของทั้งสองทำให้โพซีล่ารู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองไม่ได้ยืนอยู่ ณ ที่ตรงนั้นเลย แต่เหมือนกับอยู่ในสถานที่อันห่างไกลแสนไกล ไกลจากรอยยิ้มอ่อนโยนของเลโอ ไกลจากเสียงหัวเราะใสๆ ของเธรีน

    “อ้อ! เลโอ หนอ เลโอ นายไม่ควรปล่อยให้คู่หมั้นนายต้องรู้สึกว้าเหว่แบบนี้นะ ควรจะพาไปจัดพิธีหมั้นให้เรียบร้อย ดูซิ – เสียเวลาไปตั้งมาก นี่งานหมั้นทั้งทีไม่ยักทำให้ใหญ่โตไปเลยล่ะ” เธรีนจับได้ถึงอารมณ์ว้าเหว่ของโพซีล่า จับได้ถึงการเสียใจเลยหัวเราะกลบเกลื่อนแล้วผลักเลโอให้กลับเข้าไปในใจของโพซีล่า

    “พิธีหมั้น?” เลโอทวนคำ

    “อ้าว! ก็ไปวิหารไม่ใช่หรือ โบสถ์ก็อยู่ภายในวิหาร แล้วงี้ไม่เรียกงานหมั้นจะเรียกว่างานไรล่ะ” เธรีนเฉลย เธอพยายามลุกขึ้นหลายครั้ง แต่ขายังกะโผลกกะเผลก “ช่างเหอะ ตอนนี้ฉันมีนัดดูหนังไว้ ไปล่ะ”

    “ชาร์ลส ฉันว่ามันแปลกๆ “ เธรีนกระซิบกระซาบในโรงหนังด้วยเสียงที่ไม่เบาเอาเสียเลย ทำให้ผู้คนนั่งที่นั่งอยู่ข้างๆ ถลึงตามองพรืด

    “ไง!! ที่ซุปเปอร์แมนไปบอกนางเอกว่าไม่ควรสูบบุหรี่น่ะหรือ” เขาตอบเอื่อยๆ พลางยัดป๊อปคอร์นเข้าปาก ตาข้างหนึ่งก็เปิดขึ้นดูซุปเปอร์แมนรีเทิร์นส์ ส่วนตาอีกข้างก็ดูกำลังง่วงได้ที่ O_o

    ไม่ใช่เรื่องนั้น ตอนนี้ฉันสงสัยว่าที่เลโอเคยชอบนั้นอาจไม่ใช่โพซีล่า แต่เป็นคนอื่น นายบอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะ”

    “บอกให้เงียบ!!! เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลังทำให้เธรีนตกใจเล็กน้อย “เอ๊ะ!! มารยาทผู้ดีไม่มีหรือไง หรือพ่อแม่ไม่สั่งสอน นี่มันอยู่ในโรงหนังนะคุ๊ณ จะจู๋จี๋กันก็ให้มันเบาๆ หน่อย”

    คำที่ส่งมาจากบุรุษผู้นั่งอยู่ข้างทางซ้ายมือทำให้เธรีนไม่พอใจยิ่งนักจึงโต้ตอบอย่างโค - ตระ สุภาพ

    “เอ๊ะ!! มารยาทผู้ดีไม่มีหรือไง หรือพ่อแม่ไม่สั่งสอน นี่มันอยู่ในโรงหนังนะคุ๊ณ จะด่าใครก็ให้มันเบาๆ หน่อย อ๋อ! จริงสิลุง แก่ป่านนี้แล้วคงไม่มีพ่อแม่ให้สั่งสอนสินะ”

    “หนอย.*_* นังหนู แกบังอาจมากไปแล้วนะ ฉันไปเป็นลุงแกตั้งแต่เมื่อไหร่”

    “ฉันก็ไม่ได้นับว่าเป็นลุงของฉันซะหน่อย ก็แค่อยากให้เกียรติแบบมีมารยาทนิดหน่อย แต่อย่างว่า คนไม่มีความเป็นมารยาทผู้ดีจะพูดดีด้วยก็หาว่าเป็นงั้นไป เฮ้อ! คนพาลหนอคนพาล ทำอย่างไรก็คงจะเปลี่ยนให้มาเป็นบัณฑิตไปได้”

    คำบลัฟที่ส่งจากแม่ปากมอมทำให้ผู้อายุสูงกว่าต้องสบถพรวด

    “เอ่อ คุณครับ ถ้าจะมีการทะเลาะกัน ทางเราก็ขอนิมนต์ให้ออกไปข้างนอกนะครับ รบกวนคนอื่น” พนักงานในโรงหนังกล่าวอย่างสุภาพแต่แฝงไว้ซึ่งดวงตาพิโรธ

    “เชอะ ฉันก็ไม่อยากดูกับคนแก่ๆ หรอก ไปกันดีกว่าชาร์ลส”

    “แกนี่มัน…. TOT ปากมอมจริงๆ เล้ย ไปอยู่ที่ไหนเป็นอันมีเรื่อง ถามจริงเหอะถ้าปากแกจะอยู่สุขสักสองชั่วโมงเราก็จะดูได้จบแล้ว เฮ้อ…ไปกับแกมันซวยสถานเดียว” ชาร์ลสบ่นพรืดขณะดึงแขนเธรีนให้เข้าไปในร้านกาแฟร้านหนึ่ง

    “ฮึ!!!! ก็มันกวนประสาทนี่หว่า เอาเหอะ เรื่องนั้นยังไม่สำคัญ ตอบฉันมาดีๆ นะว่าเรื่องของไอ้เลโอมันเป็นไปเป็นมาอย่างไร” เธรีนชี้ไอศครีมช็อกโกแลตให้พนักงานเสริ์ฟแล้วยกนิ้วชูสัญลักษณ์ว่าเอาสามถ้วย

    “นี่แกจะกินหรือจะห่อกลับบ้านวะ” ชาร์ลสมองดูเพื่อนรักด้วยความรำคาญ “ของผมเอาช็อกชิพสี่ถ้วยครับ”

    “แกก็ไม่น้อยกว่ากันเลยนี่” เธรีนเหล่ตาให้ชาร์ลส แล้วปัดมือเป็นเชิงบอกพนักงานเสิร์ฟว่าไปได้แล้ว “ตอบมาเร็วเข้า เรื่องมันเป็นมายังไง???”

    “นี่แกสนใจเรื่องของเลโอขนาดนั้นเชียว”

    “อย่าพูดมาก”

    ชาร์ลสเห็นว่าถ้ายังไม่พูดอีกคงโดนยัยนี่บีบคอให้กลายเป็นซากศพกองอยู่หน้าร้านเป็นแน่ เมื่อคิดไปคิดมาโดยใช้สมองอันปราดเปรื่องแล้วก็ตัดสินใจพูด

    “โอเค ขั้นแรกฉันต้องยอมรับว่าฉันยังไม่ได้บอกนายเรื่องที่มากกว่าโพซีล่า เลโอมันชอบโพซีล่าตอนอายุสิบขวบนั่นแหละ… แต่มันบอกชอบเพื่อประชดชีวิตเฉยๆ …เพราะมันเพิ่งอกหักจากผู้หญิงน่ารักคนหนึ่ง”

    หุหุ+++ เอิ๊ก ท่าทางแบบนั้นมันมีหัวใจด้วยหรือ….

    “คือคุณหนูซีเรีย ผู้ดีไฮโซที่อ่อนหวานน่ารักมาก เธอดูอ่อนแอน่าทะนุถนอม แต่ก็ว่านะ คนอย่างนี้ล่ะมั้งที่เลโอมันคงจะชอบ ดูอ่อนแอน่าปกป้องภายใต้อ้อมแขนอันอบอุ่น…”

    “แหวะ!!!!! น้ำเน่าฉิบเลยว่ะ ดูอ่อนแอน่าปกป้อง เออ..แล้วนี่คุณหนูซีเรียนั่นไปไหนแล้วล่ะ” เธรีนตักไอศครีมกินแบบไม่เคยกินมาก่อน แน่นอนว่ามันทำให้มุมปากเลอะเทอะ

    “เอ้านี่” ชาร์ลสส่งกระดิษทิชชู่ให้เช็ดปาก “ได้ข่าวว่าเธอไปเรียนออกซ์ฟอร์ดล่ะ ตอนอยู่ประถม!! เลโอเคยรวบรวมความกล้าแล้วไปบอกชอบซีเรีย แต่เชื่อไหม แม่นั่นปฏิเสธกลับมาดื้อๆ แล้วบอกว่าหล่อนมีคนอื่นอยู่ในหัวใจแล้ว”

    “มีงี้ด้วย ดันไปมีคนอื่นอยู่แล้วล่ะสิ ทำให้เจ้าชายของเราต้องอกกระท่อนกระแท่นจนหักดังเป๊าะ!!!! เธรีนทวนคำอย่างจั๊กจี้ ถึงว่า พยายามยัดเยียดโพซีล่าให้มันแค่ไหนมันก็ไม่ชายตาสักครั้ง ^๐^’

    รู้แล้วก็อย่าพูดถึงเลดี้ซีเรียให้มันได้ยินล่ะ เผลอๆ จะโดนลงโทษสถานไล่ออกจากโรงเรียนเชียว” ชาร์ลสมองเธรีนด้วยความเป็นห่วงอาการปากพล่อยเช่นนี้ยิ่งนัก ^_^ น่าหนักใจจริงๆ ว่ามันจะไปโพนทะนา

    “มันมีสิทธิ์อะไรจะมาไล่ฉันออกจากโรงเรียน….” พูดยังไม่ทันจบ พนักงานเสิร์ฟก็มาขัดจังหวะซะก่อน

    “ขออภัยครับ โต๊ะพวกคุณมีสี่เก้าอี้ คือตอนนี้โต๊ะในร้านเราเต็มหมดแล้วครับ มีลูกค้าหนึ่งท่านจะมานั่งกับพวกคุณได้ไหมครับ”

    “อ้อ! ได้สิ เชิญมานั่งเลย” เธรีนหยิบกระเป๋าเป้ออกจากเก้าอี้ที่เหลือ พลางมองดูแขกร่วมโต๊ะพิเศษ “เลโอ เอ๊ะ! นี่นายไม่ได้ไปวิหารหรือ”

    ชายหนุ่มร่างใหญ่เดินมาอย่างมีสง่าราศี หรือที่เธรีนเรียกว่า มันน่าถีบ!! นัยน์ตาสีน้ำเงินยังคงสงบนิ่งแบบสำรวม

    “ว่าไง คุณเซ่อ ขอเชิญนั่งเพคะ” เธรีนว่าเหน็บแนม

    “เซอร์ ไม่ใช่เซ่อ อย่ามาปากดี” เลโอนั่งลงอย่างหัวเสียเล็กน้อย

    “อ้าวๆๆๆ ไหงมาผู้เดียวล่ะนี่ ไม่ทราบว่าภรรยาสุดสวยไปประทับอยู่ที่ใดหรือเพคะ” นัยน์ตาสีทองฉายแววสนุกชัดเจน เลโอจับแววตาแบบนั้นได้ว่ามันต้องมีอะไรเคลือบแฝงอยู่

    กริ๊ง.กริ๊ง..กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

    โทรศัพท์มือถือของเลโอดังขึ้น เขาเดินออกไปข้างนอกชั่วขณะ

    “แกว่ามันแปลกๆ หรือเปล่า???” เสียงเล็กๆ ถาม ขณะนัยน์ตาสีเขียวอีกหนึ่งคู่ก็สงสัยเช่นเดียวกัน เลโอดูไม่สบายใจเอาเสียเลย

    สักพักเขาก็กลับมาพร้อมสีหน้าปกติ

    “นี่แกขี้ไม่ออกหรือไงเลโอ ทีแรกหน้าซีดเป็นไก่ต้ม แต่ตอนนี้สิ หน้ายังกะได้ของขวัญมีค่ายังงั้นแหละ” เธอยื่นถ้วยไอศครีมของเธอให้เขาหนึ่งถ้วย “อ้ะ ยกให้ เป็นของขวัญวันกลับบ้าน”

    “กลับบ้าน??” ชาร์ลสทวนคำ “เฮ้ย! ฉันลืมนึกได้ไงว่ากลับบ้าน แล้วคืนนี้ฉันจะไปนอนที่ไหนวะเนี่ย” เขาอุทานออกมาแล้วมองหน้าเธรีนสลับเลโอ

    “แกก็ไปนอนพระราชวังน้อยๆ ของไอ้เลโอมันดิ วังบ้านมันน่ะคงมีเป็นปีกๆ ปีกซ้ายเป็นที่อยู่ของคนใช้ ปีกขวาคงเป็นพวกที่อยู่ของเจ้าชาย ส่วนตรงกลางก็เป็นห้องโถงห้องนั่งเล่น”

    “รู้มาก” เลโอส่งเสียงขรึม เขาไม่ได้แตะไอศครีมรสช็อกโกแลตที่เธรีนยกให้

    “บ้านเลโอ แล้วฉันจะไม่ต้องเหนื่อยปั้นหน้าเป็นคุณหนูแย่หรือ???? ว่าแต่แกจะไปนอนที่ไหนฮะเธรีน”

    “แกนี่ก็ชอบถามอะไรโง่ๆ ฉันก็ไปนอนบ้านฉันดิ” เธรีนพูดจบไอศครีมที่เลโอไม่แตะก็ถูกเจ้าของดึงกลับคืน พลางคิดในใจว่า เสียของ แต่แล้ว สายตาของเธรีนก็เริ่มสังเกตว่าผู้คนในร้านกาแฟมองมาที่พวกเขามากขึ้น

    “ดูพ่อหนุ่มคนนั้นสิ เกิดมาไม่เคยเห็น ล๊อ หล่อ”

    “ดูอีกพ่อหนุ่มสิ นัยน์ตาสีเขียวน่ารักเชียว คนอะไร้ ยิ่งโคตรหล่อเลย”

    “อุ๊ย! แม่สาวคนนั้นก็ดูดีไม่หยอกเลยเนอะ น่าจะโทรเรียกให้โทรทัศน์มาแจ้งเกิดไปเป็นดารา”

    เสียงเหล่านี้เริ่มดังขึ้นรอบๆ เธรีน จนเธอแทบสำลักไอศครีมตายคาที่ ขณะชาร์ลสขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ระหว่างที่เวลาผ่านมานั้น ชาร์ลสได้ตกลงแล้วว่าคืนนี้จะไปพักบ้านเธรีน แต่พอเลโอคัดค้านว่าผู้หญิงกับผู้ชายจะนอนด้วยกันได้ยังไงก็เลยเกิดการถกเถียงกันขึ้น สรุปว่าพวกเขาทั้งหมดจะไปนอนที่บ้านเลโอ ซึ่งเขายืนยันแล้วว่าพ่อไม่ได้กลับบ้าน ไม่มีคนอยู่บ้านสักคน

    “น้องสาว คืนนี้ว่างไหมจ๊ะ ไปหาเครื่องดื่มกับพี่หน่อยไหม” เสียงแหบแห้งดังมาจากข้างหลัง ชายหนุ่มผมตั้งเหมือนทุเรียน ที่คอห้อยเส้นสายระโยงระยาง นิ้วมือก็มีแหวนไม่ต่ำกว่าสิบห้าวง หน้าตานั้นยิ่งทาขอบดำแบบใช้ไม่ได้

    “ง่า…คือ…” เธรีนพยายามหาข้ออ้าง พอมองหน้าเลโอความคิดก็ผุดขึ้นมาปั๊บ “แฟนไม่อยากให้ไปค่ะ คืนนี้เราจะไปต่อกันอยู่แล้ว ใช่ไหม” เธอหันมาขยิบตาให้เลโอ แต่หมอนั่นยังทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้

    “โธ่น้อง อย่ามาโกหกกันเลยน่าว่ามีแฟนแล้ว เจ้าหนุ่มนี่ไม่ได้ให้ความร่วมมือแม้แต่นิดเดียว ตอนนี้โอกาสเป็นของน้องแล้วนะจ๊ะ คนสวย” คำชมนี้ทำให้เธรีนอยากกัดลิ้นฆ่าตัวตาย ทั้งอยากร้องไห้ไปในเวลาเดียวกัน นี่ไอ้เลโอมันจะช่วยเพื่อนไม่ได้เลยหรือ ใจของมันทำด้วยอะไร???????? O_O

    ใจร้าย ใจร้าย ใจร้าย

    “นะ ไปต่อกับพี่ดีกว่า” ชายหนุ่มแปลกหน้ายื่นมือมาจับบ่าของเธรีน เธอไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่ากำลังทำอะไรอยู่ ตอนนี้รู้แค่ว่าไอ้หมอที่นั่งอยู่ข้างๆ มันใจร้ายใจดำที่สุด

    “ปล่อยมือจากแฟนผมเดี๋ยวนี้” เสียงเขาดังขึ้นพร้อมด้วยท่าทางอันทรงอำนาจ เด็ดขาด และเด็ดเดี่ยว พลางลุกขึ้นต่อยหน้าไอ้หนุ่มคนนั้นจนหงายหลังไป!!!!

    ไม่เป็นไรใช่ไหม” เลโอมองเธรีนด้วยแววตาเป็นห่วง แต่ไม่อาจล้างความแค้นที่ได้ก่อ

    “ต้องปล่อยให้มันลากฉันไปใช่ไหม นายถึงจะช่วย”

    “นายเป็นสุภาพบุรุษประสาอะไร เลโอ?? ทำไมปล่อยให้เธรีนต้องเกือบโดนลวนลาม ทั้งๆ ที่ยังอยู่ในสายตาของลูกผู้ชายแบบนี้” ชายหนุ่มร่างสูงเดินเข้ามาในร้านพอดี… เขาพูดกับเลโอ นัยน์ตาสีน้ำตาลฉายแววอบอุ่น อันที่จริงเธรีนแทบจะร้องไห้อยู่แล้วเมื่อกี้ แต่น้ำตาก็พลันกลืนหายลงไปทันทีเมื่อรุ่นพี่เดินเข้ามา เธออยากเข้าไปกอดเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลนั่นเสียจริงๆ

    “เธรีน ไม่เป็นไรแล้วนะ ขอโทษด้วยที่วันนี้พี่ไม่ได้ไปตามนัด คืนนี้ไปนอนบ้านพี่ดีกว่านะ”

    “พี่อเล็กซ์ใจดีที่สุด โอเคค่ะ” เธรีนตอบรับคำง่ายๆ อย่างที่เลโอแปลกใจมากว่าทำไมหมอนี่ถึงตอบรับคนง่ายแบบนี้

    “งั้นเดี๋ยวตอนนี้พี่พาไปดูหนังละกัน ขอโทษนะที่ไม่ได้ไปตามนัดตอนเที่ยงน่ะ”

    “ฉันไม่อยากไปนอนบ้านนายหรอก ฝากบอกชาร์ลสด้วยว่าฉันไปแล้ว”

    สองชั่วโมงผ่านไปในโรงหนัง เธรีนรู้สึกมีความสุขเหลือคำบรรยาย เธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน มันเป็นความรู้สึกอบอุ่นครั้งแรกจริงๆ

    “เป็นไง หนังสนุกรึเปล่า” อเล็กซ์ถามเธรีนด้วยความอ่อนโยน มือก็ลูบผมสีทองไปด้วย “เฮ้อ! พี่ไม่ได้เห็นหน้าเราตั้งเป็นสิบปีแล้วนะ ไม่รู้เลยว่าเรากลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง” เขาจูงมือเธรีนออกมาจากโรงหนัง

    “พี่อเล็กซ์คะ ทำไมพ่อต้องพาครอบครัวเราย้ายไปอยู่ที่นิวยอร์กด้วยล่ะคะ หนูว่าที่นี่ก็ดีอยู่แล้วเชียว” นัยน์ตาสีทองใสแจ๋วของเธรีนสบกับผู้ฟัง

    “ก็ที่อเมริกาเจริญกว่าอังกฤษนี่ ไม่ต้องไปสงสัยหรอก ที่คุณน้าทำไปก็คงมีเหตุผลของเค้านั่นแหละ ว่าแต่เจ้ารีอัสเป็นไงบ้างล่ะ”

    “ไม่รู้สิคะ พรรคนี้ไม่ค่อยได้คุยกันเลย แล้วคุณป้า…เอ่อ..แม่พี่ดุรึเปล่าคะ”

    “ไม่ดุหรอก พี่ดีใจนะที่ได้มีน้องสาวน่ารักๆ อย่างนี้ คืนนี้คงต้องกอดให้หายคิดถึงหน่อยแล้ว”

    ที่จริงอเล็กซ์เป็นพี่ชายโดยสายเลือดของเธรีน แม่ของเขาคือป้าแท้ๆ ของเธรีน อเล็กซ์เป็นพี่ชายที่เธรีนรักมากที่สุด พวกเขาเพิ่งรู้จักกันได้เดือนกว่าๆ พ่อของเธรีนเพิ่งบอกเธอว่าแม่มีพี่สาวอยู่ในลอนดอน

    หิมะตก…

    เขาสองคนเดินไปเรื่อยๆ ท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บ หิมะโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย สองพี่น้องไม่อยากใช้รถเมล์ แต่อยากเดินออกกำลังมากกว่าเลยตัดสินใจเดินเล่นไปตามท้องถนนแทน

    ผ่านไปสองชั่วโมง….

    นัยน์ตาสีทองของเธรีนเหลือบไปเห็นบางอย่าง… ที่สวนน้ำพุตรงข้างๆ หอนาฬิกาบิ๊กเบน

    “พี่อเล็กซ์คะ พี่กลับบ้านก่อนนะ พอดีหนูมีธุระต้องทำน่ะค่ะ เดินไปก่อนเลยนะคะ” เธรีนหันไปพูดเสียงใสกับพี่ชาย

    “หิมะกำลังตกหนัก อากาศหนาว เอ้านี่ เสื้อ” เขาถอดเสื้อโค้ทตัวยาวแล้วยื่นให้เธรีน “จำซอยที่พี่บอกได้ใช่ม้า โอเค!! ถ้าจำไม่ได้ให้โทรมาบอกพี่แล้วกัน เดี๋ยวพี่จะออกมารับ ยังไงก็ดูแลตัวเองด้วย” เขาเดินออกไปด้วยความเป็นห่วง แต่ก็ปล่อยให้เธรีนได้มีโอกาสทำธุระ

    เธอมั่นใจว่าได้เห็นเขาแน่ๆ แล้วมันมาทำอะไรที่นี่

    เธรีนมองไปยังบริเวณขอบน้ำพุที่มีชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่ เขาไม่ได้ใส่เสื้อกันหนาว หิมะท่วมทับไปถึงข้อเท้า แต่เขาทำเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรทั้งสิ้น ท่าทางเหมือนกำลังรอคอยอะไรสักอย่าง

    ชายร่างสูงนั่นมานั่งทำอะไรคนเดียว?????

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×