คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1
Chapter 1
“ในส่วนของวันนี้มีเท่านี้ครับรุ่นที่สิบ”
ผู้ทักษ์แห่งวายุรายงานตารางงานยาวเหยียดตลอดทั้งวันของวองโกเล่รุ่นที่สิบโดยมีเจ้าตัวนั่งหันหลังให้กับผู้พูด
และโต๊ะที่เต็มไปด้วยเอกสารที่ยังไม่ได้จัดการ
เก้าอี้ผู้บริหารตัวใหญ่บังตัวเขาจนมิดทำให้ผู้ที่ยืนรายงานอยู่อีกฝั่งหนึ่งไม่สามารถมองเห็นการนั่งกุมขมับกับอาการปวดจี๊ดที่เกิดขึ้นจากการเมาค้าง
ข้อมูลตารางงานในวันนี้ถูกกล่าวผ่านแบบเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ซาวาดะ
สึนะโยชิในเวลานี้ไม่สามารถจับใจความสำคัญได้เท่าไหร่นัก วันนี้คงต้องลำบากมือขวาอย่าง
‘โกคุเทระ
ฮายาโตะ’
ให้คอยช่วยเตือนเสียแล้ว
“รุ่นที่สิบครับ...?”
รู้ตัวอีกทีผู้พิทักษ์แห่งวายุก็เดินเข้ามาใกล้พร้อมถามเขาด้วยน้ำเสียงแสดงถึงความเป็นห่วง
“โกคุเทระคุงมีอะไรหรือเปล่า?”
คนนั่งบนเก้าอี้ตกใจกับการเข้าประชิดตัวจนเผลอเขยิบตัวออกห่างเล็กน้อย
พยายามเก็บอาการตกใจด้วยการเอ่ยถามกลับด้วยท่าทีและน้ำเสียงที่ปกติ
“สีหน้าของคุณไม่ค่อยดีเลย...เอาเป็นว่าการประชุมรายงานผลการดำเนินการวิจัยอาวุธกล่องช่วงเช้ายกเลิกไปก่อนดีไหมครับ?”
ถ้อยคำของโกคุเทระ ฮายาโตะนั้นเต็มไปด้วยความเป็นห่วง กับคนที่เขาเคารพ
และสัญญากับตัวเองว่าจะตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดให้สมกับที่ได้ตำแหน่งมือขวาของวองโกเล่รุ่นที่สิบนั้น
การดูแลสุขภาพของผู้เป็นนายก็อยู่ในขอบเขตการทำงานของเขาด้วยเช่นกัน
“ไม่เป็นไรหรอก...ฉันสบายดี”
ที่ปวดหัว ส่วนหนึ่งก็เพราะเขาทำตัวเองทั้งนั้น
การจะให้ยกเลิกงานประชุมเพียงเพราะคนสำคัญอย่างเขาไม่สามารถเข้าประชุมได้เพราะอาการเมาค้างมันก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรเท่าไหร่
ยิ่งเขาตำแหน่งปัจจุบันของเขาคือวองโกเล่รุ่นที่สิบด้วยแล้ว เรื่องแค่นี้มันจะยิ่งทำให้คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นคนที่ไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่เอาได้
“แต่ว่า...”
ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ผู้พิทักษ์แห่งวายุก็ยังคงแสดงท่าทีเป็นห่วงจนเกินเหตุออกมาอยู่ดีจนสึนะต้องยืนยันอีกรอบเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ
“ผมไม่เป็นไรจริง
ๆ ขอบคุณโกคุเทระคุงที่เป็นห่วงนะ”
สิ้นเสียงก็ยืนยันด้วยรอยยิ้มชวนให้อีกฝ่ายวางใจ “หรือถ้าโกคุเทระคุงยังไม่วางใจจริง
ๆ ก็เรียกมิกิจังมาเช็กอีกทีก็ได้”
คนที่ถูกเอ่ยถึงคือแพทย์ประจำตัวของเขา
มือขวาของเขามักเป็นห่วงเขาเกินเหตุยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด
อย่างน้อยการเรียกหมอประจำตัวมาดูแลในช่วงเวลาก่อนเข้าประชุมก็พอจะทำให้อีกฝ่ายวางใจได้บ้าง
คำขอร้องนี้ได้ผลกับโกคุเทระ
เขาพยักหน้า “เข้าใจแล้วครับ เดี๋ยวผมจะเรียกเธอมา”
“ขอบคุณมากนะโกคุเทระคุง
แล้วก็รบกวนช่วยเตือนผมก่อนประชุมเริ่มสักครึ่งชั่วโมงนะ”
“ทราบแล้วครับ
ถ้าอย่างงั้นผมขอตัวก่อนนะครับรุ่นที่สิบ”
สึนะโยชิขานตอบ
รอจนกระทั่งมือขวาโค้งตัวและเดินออกไปจากห้องเขาถึงหมุนเก้าอี้กลับมา
วางขาพาดไว้บนโต๊ะทำงาน ปลายนิ้วนวดขมับที่ปวดตุบเพื่อหวังบรรเทาอาการให้ดีขึ้น
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
เขาเอ่ยอนุญาตก่อนที่ผู้มาเยือนจะเปิดประตูเข้ามา
หญิงสาวร่างโปร่งเดินเข้ามาในห้องทำงานของเขาด้วยท่าทีกระฉับกระเฉง
มือข้างหนึ่งประคองถาดใบเล็กที่มีทั้งแก้วน้ำผึ้งมะนาวและยาแก้แฮงค์
รอยยิ้มประดับบนใบหน้าพร้อมเอ่ยเสียงใส “อรุณสวัสดิ์ค่า...ฉันเอายากับน้ำผึ้งมะนาวมาให้”
“ขอบคุณนะ...หัวผมแทบจะระเบิดอยู่แล้ว”
ทันทีของทุกอย่างถูกวางลงบนโต๊ะทำงาน สึนะคว้ายาแก้แฮงค์ก่อนเป็นอันดับแรก
หลังจากที่ยาลงคอและดื่มน้ำตามเรียบร้อยวองโกเล่รุ่นที่สิบก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับอาการที่ค่อย
ๆ ดีขึ้นตามลำดับ
“เอาน่า...ฉันเข้าใจคุณนะ
ถึงจะไม่ค่อยชอบที่คุณทำแบบนี้สักเท่าไหร่ก็เถอะ” มิกิตอบก่อนจะนั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้ใกล้ตัวเขาโดยไม่ขออนุญาต
เจ้าตัวถือวิสาสะดึงแขนของเขามาตรวจชีพจร
และตรวจร่างกายเบื้องต้นตามหน้าที่ที่เธอได้รับคำร้องขอมาจากโกคุเทระโดยที่มีคนนั่งบนเก้าอี้ผู้บริหารคอยให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
เมื่อตรวจเสร็จแล้วพบว่าไม่มีอะไรแปลกไปจากเดิมนอกจากอาการเมาค้างที่ทำให้มือขวาขี้กังวลเป็นห่วงเกินเหตุเธอก็เริ่มชวนคุย
“แล้วเป็นยังไงบ้างละคะ”
เขาถอนหายใจ
“ก็เหมือนเดิม...คุณฮิบาริไม่มีท่าทีอะไรเลย”
สำหรับซาวาดะ
สึนะโยชิแล้ว มิกิเป็นเพื่อนอีกหนึ่งคนที่เขาค่อนข้างไว้วางใจ
เรื่องราวที่เกี่ยวกับตัวเขาส่วนใหญ่เธอมักจะเป็นคนที่รู้ดีที่สุด สึนะรู้จักกับคน
คนนี้ในช่วงมัธยมปลาย เธอเป็นลูกสาวของที่ปรึกษาของรุ่นที่เก้า
และเป็นอีกคนที่คอยผลักดันเขาให้ขึ้นรับตำแหน่งวองโกเล่รุ่นที่สิบที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้
หญิงสาวยักไหล่
“ฉันก็ไม่รู้จะปลอบคุณยังไงดีนะ...ตอน ม. ปลายก็ดูเหมือนเขาจะดีกับคุณมากแท้ ๆ”
“อดีตน่ะ...พูดไปก็เท่านั้นแหละ”
เขาว่า วางแก้วน้ำผึ้งมะนาวที่ดื่มจนหมดลงกับจานรอง เอนหลังพิงพนักเก้าอี้
“ก็ใช่...แต่ที่คุณทำอยู่ทุกวันนี้เพราะอะไรละ
ถ้าไม่ใช่ว่าคุณกำลังเรียกร้องความสนใจจากเขาเพราะคุณลืมมันไม่ลง?”
“ประชุมวันนี้มิกิจังพรีเซ็นต์?
ต้องไปเตรียมตัวหรือเปล่า?”
วองโกเล่รุ่นที่สิบตัดบทเมื่อเพื่อนสาวพูดถึงเรื่องที่ตัวเองไม่อยากยอมรับและไม่อยากนึกถึงมากที่สุดในขณะที่ยังมีสติสัมปชัญญะเต็มที่แบบนี้
“ใช่ค่ะ...เพราะโกคุเทระเรียกมาดูคุณเลยยอมมาหาคุณก่อน
ช่วงนี้ก็พักผ่อนซะนะคะ ฉันรอประเด็นคำถามดี ๆ จากคุณอยู่นะ” เมื่อเขาตัดบท เธอก็ไม่คิดจะซักต่อและเปลี่ยนประเด็นเป็นเรื่องที่จะประชุมในวันนี้แทน
“ถ้ามิกิจังเป็นคนพรีเซ็นต์ละก็
ผมคงไม่มีข้อคำถามหรอก ผมอยู่ได้ มิกิจังไปเตรียมตัวต่อเถอะ” นำเสียงเอื่อยเฉื่อย
แต่ทว่าแผงไปด้วยความเชื่อใจ และชื่นชมในความสามารถของคนข้างตัวเต็มเปี่ยม
เป็นเพียงหนึ่งในสิ่งเล็กน้อยที่ทำให้ผู้คนในแก๊งรักและชื่นชมรุ่นที่สิบคนนี้ยิ่งกว่าอะไร
หากเป็นระดับล่างก็คงดีใจจนตัวลอยไปแล้ว
แต่สิ่งนี้ใช้ไม่ได้กับเธอหรอก
“ก็ได้ค่ะ...ฉันขอตัวก่อนนะคะ”
เธอยิ้มให้ก่อนจะออกจากห้องไป
ผู้พิทักษ์แห่งวายุยังคงเป็นคนที่พึ่งพาได้เสมอ
ก่อนเวลาประชุมครึ่งชั่วโมงโกคุเทระ ฮายาโตะก็มาตามเขาไปเข้าประชุม
พอไปถึงผู้เข้าประชุมส่วนมากเตรียมพร้อมกันอยู่ก่อนแล้ว
มิกิกำลังวุ่นวายอยู่กับทีมนักวิจัยพอเห็นเขาก็ได้แค่หันมาสบตาและส่งยิ้มให้ไม่ได้ทักทายอะไรมากไปกว่านั้น
ผู้บริหารคนอื่นเข้ามาทักทาย สึนะคุยพอเป็นมารยาทก่อนจะนั่งประจำที่ประธานของตัวเองระหว่างที่ผู้เข้าร่วมประชุมคนอื่นกำลังทยอยเข้ามา
การกล่าวเปิดงานดำเนินไปอย่างน่าเบื่อ
สึนะเอ่ยประโยคเปิดการประชุมในฐานะประธานการประชุมก่อนจะส่งต่อหน้าที่ให้กับมิกิซึ่งเป็นหัวหน้าทีมวิจัยเอ่ยรายงานความคืบหน้าของการวิจัยอันเป็นหัวข้อหลักของการประชุมครั้งนี้
ตอนนั้นเองผู้พิทักษ์แห่งเมฆาก็ก้าวเข้ามาในที่ประชุมอย่างเงียบเชียบ
ที่นั่งของเขาเว้นระยะห่างจากผู้เข้าร่วมประชุมไปมากเพราะความไม่ชอบรวมกลุ่มกับใคร
สึนะสบตากับผู้มาใหม่เพียงแค่ครู่เดียวก่อนจะหันกลับไปสนใจการประชุมต่อราวกับว่าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นทั้งที่จริง
ๆ แล้วใจเต้นรัวจนแทบฟังรายงานไม่รู้เรื่อง
‘แต่ที่คุณทำอยู่ทุกวันนี้เพราะอะไรละ
ถ้าไม่ใช่ว่าคุณกำลังเรียกร้องความสนใจจากเขาเพราะคุณลืมมันไม่ลง?’
ประโยคที่เพื่อนสาวพูดยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเขา แม้ไม่อยากจะพูดถึงแต่ก็ยอมรับว่าทุกวันนี้สิ่งที่เขาทำคือการเรียกร้องความสนใจจากฮิบาริ
เคียวยะ
อย่างที่มิกิบอก
ในสมัยมัธยมปลายผู้พิทักษ์แห่งเมฆาดีต่อเขามาก ไม่แปลกหรอกถ้าจากที่เขาชอบคนคนนี้มากเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจะตกหลุมรักอีกฝ่ายเข้าเต็มเป้า
เมื่ออีกฝ่ายเรียนจบชั้นมัธยมปลายและมุ่งหน้าไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ
เขาเองก็พยายามผลักดันตัวเองให้พอจะเทียบเคียงกับผู้พิทักษ์คนนั้นท่ามกลางความช่วยเหลือจากเพื่อน
ๆ ทิ้งความเป็นเจ้าห่วยสึนะไว้ข้างหลัง ใช้ชีวิตในฐานะบอสของวองโกเล่รุ่นที่สิบอย่างเต็มภาคภูมิ
ช่วงเวลาที่ห่างหายกันไป
สึนะได้ทราบข่าวคราวของอีกฝ่ายอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อจากผู้พิทักษ์แห่งเมฆาโดยตรงเลยสักครั้ง
แต่ถ้าจะให้ว่ากันตามตรงอีกฝ่ายก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว และเขาเองก็อยู่ในช่วงชีวิตที่วุ่นวายเกินกว่าจะเป็นฝ่ายติดต่อไป
พอมีเวลาว่างจู่ ๆ เขาก็ปอดแหกนึกเกรงใจเสียอย่างนั้น
จนแล้วจนรอดในช่วงเวลาที่ต่างคนต่างเติบโตขึ้นในเส้นทางของตัวเองก็ไม่มีการพูดคุยกันเลยสักครั้ง...
ฮิบาริ
เคียวยะกลับมาจากต่างประเทศเมื่อครึ่งปีก่อน กลับมาพร้อมกับโปรเจ็กต์สำคัญที่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อค้นความและพัฒนาอาวุธกล่อง
ซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญมากเมื่อกำลังคนสำคัญเหล่านี้อยู่ในสังกัดของวองโกเล่รุ่นที่สิบอย่างพอดิบพอดี...
ตอนที่คุซาคาเบะติดต่อมาเขาดีใจมากที่จะได้พบกับฮิบาริ
เคียวยะอีกครั้ง
แต่ครั้งแรกที่พบกันหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานาน
แววตาอ่อนโยนที่เคยมองมาที่เขาเมื่อครั้งอดีตกลับเปลี่ยนเป็นแววตาเย็นชาที่ชวนให้เขาเจ็บไปทั้งหัวใจ...
เพราะแบบนั้น
ครึ่งปีที่ผ่านมานอกจากเรื่องงานที่เขาทำอย่างเต็มที่แล้ว
เรื่องอื่นเขาก็เต็มที่เช่นกัน...
เที่ยวผับ
ทั้งที่ตัวเองไม่เคยชอบบรรยากาศและเสียงดนตรีที่ดังจนฟังไม่รู้เรื่อง
ดื่มเหล้า
ทั้งที่ไม่เคยชอบรสชาติขม ๆ ที่ทำให้สติพร่าเบลอจนควบคุมตัวเองได้ยาก
หลายครั้งที่ทำแบบนี้
แต่ส่วนใหญ่คนที่มาตามเขากลับมักเป็นมือขวา หรือไม่ก็ลูกน้องคนอื่น
น้อยครั้งนักที่ผู้พิทักษ์แห่งเมฆาจะมาด้วยตัวเองถ้าไม่ใช่ว่าวันต่อไปจะมีเรื่องสำคัญจนขาดเขาไม่ได้อย่างเช่นวันนี้
แต่ถึงแบบนั้นเขาก็ยังไม่ยอมแพ้หรอก
เขาตั้งใจจะใช้ช่วงเวลาที่ฮิบาริ เคียวยะอยู่ที่ญี่ปุ่นคอยปั่นประสาทให้เจ้าคนเย็นชาแสดงอาการหึงเขาออกมาให้ได้
เขาอยากให้อีกฝ่ายหึงเขา...
หรืออย่างน้อย
ๆ ก็แสดงอาการอะไรออกมาบ้างก็ดี
ความคิดเห็น