ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic XS] จะมีสักวันไหม ที่แกบอกว่ารัก

    ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER_1 ::: คนหน้าเหมือน

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.ย. 53


    1.

    คนหน้าเหมือน

              แปลก...

    ตั้งแต่เมื่อคืนที่ไอ้ฉลามสวะถามคำถามบ้าๆใส่เขาวันนี้ทั้งวันนอกจากตอนเช้าที่มนลุกออกไปจากเตียงเขาก็ไม่เห็นมันอีกเลยจนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปถึงมื้อค่ำ

    “ไอ้สวะนั่นไปไหน?” เอ่ยปากถามเจ๊ใหญ่แห่งวาเรียตาก็มองเก้าอี้ที่แต่เดิมมีไอ้ฉลามสวะนั่งบ่นกระฟอดกระแฟดให้ฟังบ้างละ ชวนทะเลาะบ้างละ

    แต่วันนี้มันไม่ใช่...เก้าอี้มันว่างเปล่าไร้เงาของฉลามคลั่งที่จะมาหาเรื่องชวนทะเลาะเหมือนทุกๆวัน

    “ออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าแล้วละบอส เจ้าชายโทร.ไปก็ปิดเครื่อง ชิๆๆๆ” เบลตอบแทน

    ตาคมของร่างสูงหันไปมองเก้าอี้ที่ว่างเปล่าอีกครั้งก่อนจะหันมาสนใจอาหารตรงหน้าทั้งๆที่ในใจคิดฟุ้งซ้านต่างๆนานา

    แกหายไหนของแกไอ้ฉลามหัวเน่า

     

    เสียงดนตรีฟังไม่ได้ศัพท์ดังลั่นกระตุ้นให้มจเต็นระรัวไปตามจังหวะเพลง

    “กี่ท่านคะ?” บิกรหญิงถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

    “เห็นมั๊ยละว่ามากี่คน”

    “เออ...” บริกรสาวถึงกับอึ้งพูดไม่ออกเมื่อได้เจอคำตอบแบบนี้เข้าให้

    ฉลามหนุ่มสายหัวไปมาก่อนจะเดินไปสั่งวิสกี้ชั้นดีที่บาร์มาสองขวดแล้วเนไปอบู่ที่มุมหนึ่งของ้ายคนเดียว

    นี่เขาเป็นอะไรไปนะ?

    นั่นน่ะสิ...ขนาดตัวเขาเองก็ยังไม่รู้เลย

     

    ขวดเหล้าเคยเอามาเท่าไหร่จนบัดนี้ก็ยังคงเหลืออยู่เท่าเดิม ที่ลดลงก็คงจะเป็นของเหลวสีอัมพันที่พร่องไปแล้วมากกว่าขวดครึ่ง...

    ใครมันจะไปบ้าดื่มเอาๆเหมือนกับแซนซัส...

    คิดถึงคนร่างสูงแล้วมันก็พาลจะอารมณ์เสียยกแก้มขึ้นดื่มอย่างเอาเป็นเอาตาย

    “มาคนเดียวหรือครับ?” เสียงทุ่มต่ำล้ายๆกับเสียงของคนที่คุ้นเคยดังขึ้น ร่างบางเชยตาขึ้นมาองอย่างไม่สบอารมณ์

    พระเจ้า! บอสของเขาที่ว่าแปลกแหวกแนวไม่เหมือนใครแล้วยังจะอุตส่าหห์มีคนเหมือนอีกเนาะ!!!

    ร่างตรงหน้าสูงราวๆ190 เซนกว่าๆแต่ดูไม่เก้งก้างเพราะมีกล้ามเนื้อที่ทำให้ดูสมส่วนพอดี ใบหน้ารูปไข่ที่คล้ายกับคนที่เผลอนึกถึงบ่อยๆนั่นไม่มีผิด ไหนจะนัยน์ตาสีเลือดนั่นอีก ถ้าตัดตรงที่ไม่มีรอยแผลดับเครื่องชน รอยยิ้มและแววตาดูถูกเหยียดหยามนั่นเขาจะนึกว่าแซนซัสมาลากคอเขากลับกองวาเรียถึงที่นี่!

    “ตาไม่มีหรือไง?” สควอโล่ถามอย่างหัวเสียเมื่อคนตรงหน้าทำให้เขาเผลอคิดถึงคนที่หน้าเหมือนกันเข้าให้

    “งั้นขอผมนั่งด้วยคนนะครับ” คนแปลกหน้าไม่ได้อฟังคำตอบแต่เขาได้เลือนตัวมานั่งบนเบาะนุ่มตั้งแต่ที่ถามคำแรกแล้ว

    “ฉันกำลังจะกลับพอดี” ฉลามคลั่งบอกพร้อมกับลุกขึ้น

    “ช่วยมานั่งคุยเป็นเพื่อนผมสักนิดหนึ่งได้มั๊ยครับ? ...อยู่คนเดียวผมเหงา”

    “...” น้ำเสียงออดอ้อนที่มันคงจะตลกพิลึกถ้านึกถึงใครอีกคน...

    ที่เขาออกมานี่ก็เพื่อลืมหน้าแซนซัสไม่ใช่เรอะ! แล้วนี่อะไร เหตุการณ์มันพาไปให้เขานึกถึงเจ้าบอสงี่เง่านั่นตลอดเลย

    “...” ส่ายหัวไล่ความคิดยอมนั่งลงอย่างช่วยไม่ได้...เองยังไม่อยากกลับไปเจอเจ้าบอสงี่เง่านั่นนี่นา...

    “ขอบคุณครับ...” ร่างสูงยิ้มกว้าง “อา...ผมยังไม่ได้แนะนำตัวเองเลยสินะ ผมชื่อ แม็คซามีเลี่ยน (Maximilian) เรียกผมว่า แม็คซ์ (Max) ก็ได้...”

    “สเปลบี สควอโล่...”

     

    เสียงเพลงฟังไม่ได้ศัพท์อึกทึกน่ารำคาญ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมเศษเดนพวกนี้ถึงได้มารวมตัวกัน...ไม่อึดอัดบ้างหรือไงนะ?

    “กี่ท่านคะ?” บริกรสาวเดินเข้ามาถาม

    “คนเดียว...” แซนซัสตอบ แล้วบริกรสาวก็เดินนำไปยังที่ว่างมุมหนึ่งของร้าน

    เทคิวล่าชั้นดีถูกรินใส่แก้ว ยังไม่ทันที่จะยกขึ้นดื่มก็มีร่างๆหนึ่งล้มลงมากองที่ตักของแซนซัสอย่างจงใจ...

    “ขอโทษค่ะ...” หญิงสาวหน้าตาสวยแต่งตัวด้วยชุดสีร้อนแรงเอ่ยปากขอโทษ ริมฝีปากสีแดงสดเผยออย่างเย้ายวน

    ถ้าเมือก่อนละก็ใช่...แต่ตอนนี้...

    “ทีหลังระวังด้วย” แซนซัสพูดพร้อมกับเลือนตัวหญิงสาวออกจากตักเขาอย่างสุภาพ เมื่อสาวเจ้ารู้ตัวว่าเขาไม่สนใจจึงได้กล่าวขอโทษอีกครั้งก่อนจะเดินจากไป...

    แก้วเทคิวล่าถูกยกขึ้นอีกครั้งคราวนี้...

    ฃ่า...

    มันอะไรอีกวะเนี้ย!!!

    ร่างสูงสถบในใจวางแก้วลงแล้วลูบใบหน้าที่เปียกโชกไปด้วยไวน์แดง

    “ขอโทษค่ะ...” หญิงสาวคนใหม่พูด ทำให้แซนซัสที่กำลังทำสายตาพิฆาตต้องชะงัก ก่อนจะอึ้งเมื่อเห็นใบหน้าของสาวเจ้าเต็มตา

    ใบหน้ารูปไข่ละม้ายคล้ายคลึงกับคนที่หายหน้าไปในคืนนี้ ถ้าไม่ติดว่าคนตรงหน้าเป็นสตรีเพศเขาคงคิดว่าเป็นไอ้สวะนั่นแน่นอน เพราะมันเหมือนกันยังกับถอดแบบกันออกมา

    “ขอโทษค่ะ...ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ จะให้ฉันชดใช้ยังไงดีคะ?”

    “...ถ้าอยากชดใช้นัก...ค่อยติดต่อมาทีหลัง” ร่างสูงยื้นนามบัตรให้โดยไม่สบตาคนตรงหน้าแต่กลับจ้องไปที่มุมหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลนัก มุมที่มีคนที่เขากำลังนึกถึงตัวจริงอยู่!!

    แถมยัง...

    นั่งคุยกับไอ้สวะที่หน้าเหมือนเขาแต่หล่อน้อยกว่าเขาอีก!!!! (ป๊าด...ป๋าหลงตัวเอง=_=^^)

    “เออ...คะ...แล้วฉันจะติดต่อไป...ฉันชื่อโมนาค่ะ” หญิงสาวแนะนำตัวเอง

    “โมนา...แล้วจะจำไว้” ร่างสูงตอบแล้วทำท่าจะเดินออกไปอย่างร้อนรน

    “ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรคะ?”

    XANXUS” พูดจบเขาก็ไม่สนใจอีกแล้วว่าผู้หญิงคนนั้นจะถามอะไรเขาอีก แต่ถึงถามก็งไม่ทันเพราะแซนซัสก็ลุกพรวดเดินย้ำโครมครามมาดผู้ดีแผงแววอาฆาตตรงไปยังโต๊ะที่สควอโล่นั่งอยู่ทันที

     

    “บอส...? มาได้ยังไงเนี้ย?” สควอโล่แปลกใจเล็กน้อยเมื่อร่างสูงตัวจริงที่กำลังนึกถึงมายนอยู่ตรงหน้า

    “ไอ้สวะนี่ป็นใคร?” แถมยังออกแนวจะหาเรื่องเขาอีก!

    “ก็แค่คุยกันเฉยๆเท่านั้นเองแหละ”

    “แล้วใครใช้ให้แกออกมาข้างนอกโดยไม่ขออนุญาตฉัน?” สควอโล่หลบตาตอบอุบอิบ

    “แล้วฉันเป็นอะไรกับบอสละถึงได้ออไปไหนตามใจชอบไม่ได้”

    “หืม...แกยังไม่รู้สึกตัวสินะ?” แซนซัสยิ้มอย่างมีเลศนัยทำเอาฉลามคลั่งขนลุกซู่

    “ฉะ...ฉันรู้แล้ว!

    “งั้นก็ดี กลับ!” ร่างสูงยิ้มอย่างพอใจก่อนจะดึงมือฉลามคลั่งให้ไปด้วยกัน

    “หวังว่าคงได้พบกันอีกนะครับ” แซ็คซ์ตะโกนแข่งกับเสียงเพลงสควอโล่หันกลับมามองร่างสูงที่เหมือนกับคนข้างตัวก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ

    “ฉันไม่ยอมให้แกไปเจอกับสวะหน้าไหนทั้งนั้นแหละ” แซนซัสพึมพำก่อนจะลากฉลามคลั่งขึ้นรถปิดประตูดังปังก่อนจะออกรถดวยความเร็วเฉียดยมโลก

     

    “ปล่อยฉันนะโว้ย! ปล่อยสิวะไอ้บอสเวร! บอกให้ป...อุ๊บ!” ร่างบางตะโกนโวยวายก่อนที่จะถูกโยนลงเตียงนุ่มและตามด้วยร่างสูงที่ทาบทับลงมาพร้อมกับจูบอันเร้าร้อน

    “วันนี้ที่แกบังอาจออกไปโดยไม่ขออนุญาตฉัน แกต้องได้รับโทษ” ร่างสูงแสยะยิ้มชั่วร้าย

    “ไม่...ไม่เอาโว้ย! ทุกคืนเลยไม่เหนื่อยบ้างหรือไงวะ!?” ร่างบางยกมือดันหน้าอกคนตัวสูงออกห่าง

    “อยากลองจนฉันเหนื่อยบ้างมั๊ยละ?”

    “ไม่!

    “แล้วถามทำไม”

    “ก็ฉันเหนื่อยนี่!

    “แกไม่มีสิทธิ์นั้น” กัดฟันกรอด

    “ไม่ละ ฉันเหนื่อย...เหนือยมากๆเลยที่ต้องมารองรับอารมณ์ของแกทุกๆคืนแกไม่ใช่ฉันแกไม่รูหรอก!!” ในฐานะที่เขาไม่รู้ว่าคนตรงหน้ารู้สึกยังไงกับเขา ไม่รู้ว่าคนตรงหน้าเห็นเขาเป็นตัวอะไร...และไม่เคยรู้อะไรเลยต่างๆนานาที่เขาอยากรู้ คนตรงหน้าไม่เคยคิดจะตอบเขาด้วยซ้ำ!

    “...” แซนซัสนิ่งไปครู่

    “เออ...บอส...แซนซัส...” สวอโล่คิด นี่ตรูพูดแรกเกินไปหรือเปล่าหว่า? ไม่น่าปล่อยให้อารมณ์ชั่ววูบนำพาไปเลย แต่เพราะงั้นเขาก็ไม่เคยคิดจะปฎิเสธสักที (ถึงจะมีขัดขืนหน่อยก็เถอะ)

    “แกจะบอกว่าแกเหนื่อยงั้นสิ?” แซนซัสพูด มองหน้าสควอโล่ขณะที่คนถูกมองพยายามเลี่ยงสบตาอย่างสุดชีวิต

    “ก็...ประมาณนั้น...”

    “ถ้าอย่างงั้นก็ไสหัวไปซะ”

    “พูดงี้หมายความว่าไง?” มองตาขวาง แซนซัสไม่เคยไล่เขาอย่างงี้นี่นา เมื่อก่อนไม่ว่าเขาจะบอกว่าเหยนื่อยยังไงแซนซัสก็ไม่เคยคิดจะปล่อยเขาไปแต่ทำไมตอนนี้...

    “ฉันบอกให้ไสหัวไป! ไม่ได้ยินหรือไงวะ!?!?!

    “เออ! ไปก็ได้แล้วอย่ามาเรียกฉันอีกละไบอสงี่เง่า!

    ปัง!

    โครม! เพล้ง!

    เสียงประตูกระแทกปิดตามด้วยแก้วเหล้าที่อยูใกล้มือถูกส่งออกไปสมทบเศษแก้วแตกกระจาย แซนซัสล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มก่ายหน้าผากอย่างไม่สบอารมณ์

    อยู่ๆก็ไล่ไอ้สวะนั่นออกไป...เขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่นะ?

     

    ทะเลาะกัน...

    กี่ครั้งแล้วที่เป็นอย่างงี้ มันนับครั้งไม่ถ้วนแล้วก็จริงแต่ผลสุดท้ายก็กลับเป็นเหมือนเดิมภายใน 2-3 วัน...

    คราวนี้มันก็เหมือนกับทุกๆครั้งเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็กลับเป็นปกติ...

    “วู้~จะกลุ้มไปทำไมวะ...ดีจะตาย...” บอกกับตัวเองอย่างงั้น...

    แต่ใจมันโหวงเหวงชอบกล...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×