คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Intro
เขาไม่เคยชอบบรรยากาศเต็มไปด้วยแสง สี และเสียงดนตรีที่ดังจนฟังไม่รู้เรื่อง ไม่ชอบแม้กระทั่งเครื่องดื่มสีอำพันที่เขาดื่มเอาราวกับน้ำเปล่า แก้วเปล่าถูกวางลงบนเคาน์เตอร์บาร์กระทบจนเกิดเสียงดังพร้อมกับสติที่เริ่มจะพร่าเลือนของวองโกเล่รุ่นที่สิบ
“เอามาอีก” สิ้นคำสั่ง เครื่องดื่มก็ถูกเสิร์ฟให้กับลูกค้าคนสำคัญ แก้วถูกยกขึ้นดื่มอีกครั้งแม้เจ้าตัวจะรู้ว่าแอลกอฮอล์เริ่มมากเกินกว่าที่สติตัวเองจะรับไหว เขารู้...
ซาวาดะ สึนะโยชิ รู้ตัวดีเสมอว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่...
“ที่นั่งข้าง ๆ ว่างหรือเปล่าครับ” น้ำเสียงสุภาพเอ่ยทักทาย
เมื่อหันมองข้างตัวทั้งซ้ายและขวาแล้วพบว่าที่นั่งข้างตัวว่างเปล่าแถมยังว่างไปอีกหลายตัวเสียด้วยสิ...
คนนั่งอยู่ก่อนยกรอยยิ้มบางให้กับก่อนแปลกหน้า “ว่างครับ...เชิญ”
เมื่อคนมาใหม่ได้รับคำเชื้อเชิญจึงนั่งลงที่เก้าอี้ตัวข้าง ๆ “มาคนเดียวหรือครับ”
สึนะโยชิไม่ว่าอะไรเมื่อคนแปลกหน้าเขยิบเข้ามาใกล้มากขึ้น และเป็นเขาเองด้วยซ้ำที่เคลื่อนตัวเข้าหาอีกฝ่าย เว้นระยะห่างที่ไม่ได้มากหรือน้อยไปคล้ายกำลังเชิญชวน
“หรือเห็นคนอื่นกันละ” ริมฝีปากเปื้อนยิ้ม นัยน์ตาของผู้พูดเป็นประกายนึกสนุก
“เพราะคุณเป็นคำสำคัญ...ไม่มีใครมาคอยคุ้มกันคุณถือว่าเป็นเรื่องแปลก” ข้อสังเกตที่ถูกตั้งขึ้น อีกฝ่ายคงรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นใคร แต่ก็ยังก้าวเข้ามาขอทำความรู้จักหัวหน้าแก๊งค์มาเฟียชื่อดังแบบนี้ก็นับว่าใจกล้าไม่เบา
สิ้นคำพูดนั้น หนุ่มแปลกหน้าก็สบเข้ากับนัยน์ตาของใครบางคนที่กำลังเดินเข้ามาในบาร์ที่แสนวุ่นวาย วินาทีนั้นชายหนุ่มก็ได้รู้ว่าโอกาสที่จะได้สานสัมพันธ์ต่อกับคนตรงหน้านั้นได้หลุดลอยไปเสียแล้ว และเขาไม่มีวันรู้ได้เลยว่าโอกาสนั้นจะวนกลับมาอีกครั้งหรือไม่
คนแปลกหน้ายิ้มให้กับคนตรงหน้าเขาด้วยความรู้สึกเสียดาย “ดูท่าโชคของผมจะหมดลงแล้วสิ” เพราะอีกคนนั้นเป็นถึงวองโกเล่รุ่นที่สิบ ดังนั้นการเข้าถึงตัวจึงเป็นเรื่องที่ยาก มาวันนี้มีโอกาสแบบนั้นมาถึงแต่ทว่ามันก็อยู่ได้ไม่นานนัก น้ำเสียงของชายแปลกหน้าแสดงความเสียดายและผิดหวังเสียจนแสดงออกมาอย่างชัดเจน
“ไม่อยู่ด้วยกันอีกหน่อย...” สึนะเอ่ยรั้งตอนที่ชายคนนั้นเดินจากไป เสียงของเขาขาดหายเพราะความรู้สึกเจ็บจากแรงบีบที่ต้นแขน
“คุณไม่ควรไปไหนมาไหนคนเดียว...หรืออย่างน้อยก็ไม่ควรมาคนเดียวโดยไม่บอกใคร” ผู้พิทักษ์แห่งเมฆาเอ่ย น้ำเสียงของเขาทวีความน่ากลัวเพิ่มมากขึ้นเมื่อผสมกับอารมณ์ที่ขุ่นมัวในตอนนี้เข้าด้วยกัน
แต่ทว่าซาวาดะ สึนะโยชิไม่ได้ใส่ใจ ทั้งที่โดยปกติแล้วเขามักจะเกร็งเวลาที่ต้องอยู่ต่อหน้าอีกฝ่าย อาจจะเพราะสติที่พร่าเบอลทำให้ความกลัวของเขาลดลงไปมากกว่าที่เป็น และความกล้าก็ยิ่งทวีขึ้นไปจากเดิม
นัยน์ตาของวองโกเล่รุ่นที่สิบเป็นประกายอย่างนึกสนุก รอยยิ้มบางระบายที่ริมฝีปากสวย เอ่ยคำพูดท้าทายอารมณ์ของผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างไม่กลัวเกรง
“ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณจะต้องมา”
“...”
คนตัวเล็กกว่าสะบัดแขนตัวเองให้หลุดจากพันธนาการของผู้พิทักษ์แห่งเมฆา ก้าวถอยออกมาเพื่อรักษาระยะห่างแม้จะเซเล็กน้อยแต่ก็ยังทรงตัวให้ยืนได้
“แต่ผมไม่ใช่เจ้าห่วยสึนะอีกต่อไปแล้ว คุณก็รู้” เด็กหนุ่มที่ไม่เอาอ่าวในวันวานกลายเป็นภาพอดีตเมื่อนานมาแล้วในความทรงจำ เขากำลังย้ำเตือนอีกฝ่ายให้รับรู้สึกสถานะของตัวเองในตอนนี้
“ผมคือวองโกเล่รุ่นที่สิบ”
ทุกครั้งที่เขาประกาศตัวเองแบบนี้ ตัวเขานั้นรู้ดีที่สุดว่าสุดท้ายแล้วแม้ว่าตัวเองจะเติบโตขึ้นสักแค่ไหน แต่ภายในเขาก็ยังคงเป็นเจ้าห่วยสึนะคนเดิมอยู่ดี
“ไม่มีใครมาทำอะไรผมได้หรอก”
นัยน์ตาของผู้พิทักษ์แห่งเมฆานั้นยังคงแสดงออกแบบเดิม นัยน์ตาเย็นชาแผงแววหงุดหงิดที่พร้อมจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ ไม่มีความรู้สึกนอกเหนือจากที่ว่ามา อีกคนยังคงอยู่ตรงหน้าเขาเพราะผลประโยชน์บางอย่างที่เขามี สึนะรู้ดีว่าเมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ ผู้พิทักษ์ที่รักอิสระคนนั้นก็พร้อมจะจากไปในทันที
มีเพียงเขาที่ยังคงรู้สึกแบบเดิม แบบในเมื่อวันวาน...
และตอนนี้เขาไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายนั้นรู้สึกเช่นไร เขาคาดหวังว่าขอให้มีสักเศษเสี้ยวหนึ่งที่ผู้พิทักษ์คนนั้นจะแสดงความรู้สึกของตัวเองออกมา
‘ผมก็แค่อยากให้คุณหึงเท่านั้นแหละ...ฮิบาริ เคียวยะ’
ความคิดเห็น