ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] Can u ? KrisHan,KaiHun,ChanBaek

    ลำดับตอนที่ #3 : Can u ? - Ep.2

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.พ. 56


    “ลู่หาน..เมื่อไหร่เราจะเลิกเล่นมันซักทีไอ้ที่เป่าฟองสบู่เนี่ย” เหล่ตาลงมองน้องชายตัวเล็กที่ยัคงคงสนใจแต่เพียงของเล่นชิ้นเล็กๆในมือ ตั้งแต่จำความได้ลู่หานก็เป็นเด็กที่ชอบเล่นกับของเล่นพวกนี้อยู่เสมอ และไม่มีท่าทีจะเลิกเล่นมันต่อให้ล่วงเลยผ่านมาเกือบ 20 ปีแล้วก็ตาม




                    “มันสนุกนะฮะพี่ชานยอล สนุกกว่าพวกรถบังคับที่พี่ชานยอลเคยเล่นตอนสมัยเด็กตั้งเยอะ” แยกรอยยิ้มออกกกว้างอย่างน่ารัก ก่อนที่มือใหญ่จะเอื้อมหยิบของเล่นชิ้นโปรดของน้องชายมาถือเอาไว้ในมือ






                    “เลิกเล่นเถอะ นายโตแล้วนะ ลู่หาน” ย้ำคำพร้อมน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป ลู่หานรู้ดีว่านั่นคือสิ่งที่พี่ชายต้องการให้เขาหยุด แต่เพราะตั้งแต่เล็กจนโตเขาก็มีแต่มันเป็นเพื่อนเล่น เพราะไม่สามารถเล่นในแบบของพี่ชายได้






                    “พี่ชานยอล
    !! มันของลู่หานนะฮะ” โวยวายออกมาเสียงดังพร้อมพยายามเอื้อมมือคว้าของของตัวเองกลับมาเล่นตามเดิมแต่ดูเหมือนพี่ชายใจร้ายอย่างชานยอลจะไม่ยอมน้อยชายเลยแม้แต่น้อย






                    “งั้นบอกเหตุผลมาว่าทำไมถึงชอบมันนัก” ถามขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้ บางครั้งก็อยากรู้ว่าทำไมน้องชายตัวเล็กจึงชอบมันเสียเหลือเกินไอ้ของเล่นที่มีไว้สำหรับเด็กเล็กเช่นนี้






                    “พี่ชานยอลไม่เคยเป่ามัน พี่ชานยอลถึงได้พูดแบบนี้ เวลาเป่าแล้วมันลอยอยู่บนท้องฟ้า ถึงไม่นานมันก็แตกไปกับอากาศแต่มันช่วยให้ท้องฟ้าที่ว่างเปล่ามีอะไรมากกว่าที่เป็นอยู่” บอกพี่ชานด้วยสีหน้าไม่พอใจเท่าใดนักลู่หานที่เติบโตมาพร้อมกับชีวิตที่แทบนับครั้งได้ที่จะได้เล่นกับพี่ชายของตนเอง จึงไม่แปลกเท่าใดที่คนตัวเล็กจะเลือกให้ความสำคัญกับของเล่นราคาถูกเช่นของในมือ






                    “ถ้าวันนึงลู่หานเติบโตเป็นผู้ใหญ่ลู่หานจะไม่พูดแบบนี้” ทิ้งท้ายอย่างเหนื่อยออนกำคำต่อล้อของน้องรัก แม้จะเข้าใจอยู่ว่าเหตุใดคนตัวเล็กจึงสนใจสิ่งนั้นหนักหนา แต่ก็ดูไร้สาระไปสักนิดหากจะให้เด็กผู้ชายหน้าตาน่าเอ็นดูอายุร่วม
    20 ปี นั่งเป่าฟองสบู่เรื่อยๆไปจนแก่เฒ่า






                    “งั้น..ถ้าลู่หานโตเป็นผู้ใหญ่ลู่หานจะเลิกเล่นมัน” ยักคิ้วพร้อมบอกพี่ชายตัวสูงของตนเองที่พลิกตัวเดินปลีกออกมาเมื่อไม่อสามารถถกเถียงเด็กน้อยจอมดื้อคนเล็กของบ้านได้






                    ร่างเล็กหลุบสายตาต่ำลงมองของในมืออย่างพินิจ นอกจากของเล่นในมือร่างบางแทบไม่สนของเล่นอย่างอื่นเลย ไม่เคยร้องขอรถบังคับ เครื่องบินบังคับ หุ่นยนต์ หรือแม้แต่จักรยานสำหรับปั่นเที่ยวเล่น เพราะเขาน่ะหลงไหลการเฝ้ามองวงกลมๆสีใสล่องลอยอยู่บนอากาศโดยเบื้องหลังของวงกลมใสเหล่านั้นเป็นคฤหาสหลังใหญ่ที่ถูกร่างบางเฝ้ามองมาตั้งแต่เยาว์วัย หรือเพราะสิ่งที่ลู่หานชอบโดยแท้จริงนั้นไม่ใช่ของเล่นที่เจ้าตัวเข้าใจแต่กลับเป็นฉากหลังที่คอยขับเคลื่อนภาพของความสดใสให้ดูจริงจังและน่าค้นหามากยิ่งขึ้น




    .........................................................





     

    เสียงกรีดร้องแหลมเล็กดังลั่นบนห้องโถงใหญ่สีเข้ม ภาพร่างหญิงสาวถูกทิ้งกายลงบนพื้นที่หินของตัวคฤหาสหรูพร้อมเสียงดังชัดเจน ดวงตากลมโตเบิกกว้างก่อนมือเล็กจะยกขึ้นกดปิดริมฝีปากสวยเพื่อไม่ให้เจ้าตัวกรีดร้องเสียแห่งความตกใจออกมาจากตนเอง







                    หัวใจที่เคยเต้นช้าๆกำลังสั่นรัวไม่เป็นจังหวะ ใบหน้าของชายหนุ่มที่เมื่อครู่ยืนหันหลังให้แก่คนตัวเล็กค่อยๆขยับเคลื่อนกายกลับมามองแขกผู้ที่ไม่ได้รับเชิญอย่างเชื่องช้า รอยยิ้มมุมริมฝีปากเรียวถูกแสยะยกขึ้นส่งมอบให้แก่ร่างสวยที่กำลังยืนสั่นอยู่ไม่ไกล






                    ลู่หานค่อยๆก้าวเท้าถอยหลังอย่างช้าๆ เมื่อชายร่างสูงไม่คุ้นตาค่อยๆขยับเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้คนตัวเล็ก ตามฝีก้าวที่ร่างบางถอยออกห่าง กายเล็กค่อยๆถอยออกมาจนติดเข้ากับผนัง บัดนี้คนตัวเล็กไม่มีทางนี้ได้อีกแล้วสิ่งเดียวที่พอจะทำได้คงทำได้เพียงวิงวอนขอบุคคลผู้ริดลมหายใจของร่างหญิงสาวเมื่อครู่ไป








                    ใบหน้าเรียวคม ผิวขาวดุจดั่งหิมะแรก ดวงตาสีเทา ตัดกับริมฝีปากสีแดงจัด ทั้งๆที่คิดว่าไม่น่ามีเลือดเสียด้วยซ้ำเพราะเพียงมองก็รู้สึกได้ถึงความเย็นชาและหนาวเย็นของร่างสูง






                    ฝ่าเท้าแกร่งหยุดลงด้านหน้าของคนตัวเล็กกว่า ก่อนจะยกฝ่ามือกันกายบอบบางตรงหน้าเอาไว้เพื่อไม่ให้อีกคนหนีหายไปได้ แม้จะดูดีกว่าชายหนุ่มทุกคนที่ลู่หานเคยเห็นมาแต่ก็ไม่ได้ทำให้คนตัวเล็กรู้สึกอยากอยู่ใกล้เลยแม้แต่น้อย







                    “ค...คุณฆ่าเค้า...ผ...ผู้หญิงคนนั้น” ริมฝีปากเรียวสวยเอ่ยกล่าวกับร่างสูงน้ำเสียงสั่นเทา แม้จะหวาดกลัวแต่ก็ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงการประชิดตัวกับร่างสูงนั้นได้อีกแล้ว








                    “ใช่..แล้วจะฆ่านายด้วย” แสยะยิ้มมุมปากเผยให้เห็นเขี้ยวแหลมที่ถูกเคลือบไปด้วยของเหลวสีแดงสด แน่นอนว่าคนที่รู้ความลับ มันผู้นั้นจะต้องตายไปพร้อมกับความลับของที่นี่







                    “อย่า
    !!!!!! เสียงร้องสุดท้ายพร้อมใบหน้าของผู้เป็นผีดูดเลือดกดลงบริเวณต้นคอของร่างเล็ก ลู่หานเบิกตาขึ้นกว้างด้วยความหวาดกลัว หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ







                    ...ฝัน...











                    ราวกับฟ้าประทานพรให้แก่คนตัวเล็กภาพห้องนอนสีฟ้าสว่างของคนตัวเล็กเผยให้เห็น เล่นเอาคนตัวเล็กถอนหายใจโล่งอก ฝ่ามือขาวยกขึ้นจับหน้าอกด้านซ้ายเพื่อย้ำว่านี่ไม่ใช่ฝันอีกแล้ว









                    เสียงถอนหายใจยาวออกมาอย่างโล่งอก อย่างน้อยนั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นจริงแม้มันจะเป็นความฝันที่เหมือนจริงมากเหลือเกินก็ตามที มือเล็กยกขึ้นลูบบริเวณต้นคอของตนเองอีกครั้งเมื่อรู้สึกว่าสัมผัสที่ถูกล่วงล้ำหมายเอาชีวิตในความฝันยังคงตราตรึงอยู่บนผิวเนื้อไม่ไปไหน










                    กายเล็กรีบลุกขึ้นจากเตียงกว้างมุ่งตรงไปยังประจกบานใหญ่อีกครั้ง อย่างน้อยหากได้เห็นด้วยตาอาจจะช่วยให้ไม่ต้องเป็นกังวลต่อไปอีก และหยุดเอาไว้เพียงเพราะมันเป็นแค่ความฝัน










                    ดวงตากลมค่อยๆมองลงบนรอยที่ถูกปิดเอาไว้ด้วยฝ่ามือเมื่อครู่อีกครั้ง รอยสีแดงเข้มที่ต้นคอของร่างบาง นี่คงไม่ใช่รอยของสัตว์ตัวเล็กๆเป็นแน่นเพราะเป็นรอยแดงช้ำเหมือนมีเลือดคั่งอยู่ภายใน








                    ลู่หานขยับเคลื่อนใบหน้าของตนเองเข้าไปใกล้กระจกบนใสอีกครั้ง เพื่อย้ำในสิ่งที่เจ้าตัวมองเห็นว่านั่นไม่ได้ตาฝาดไปเพราะคนตัวเล็กพึ่งตื่นนอน รอยช้ำดั่งถูกริมฝีปากดูดดุนจนเป็นรอยคิสมาร์คฝันประหลาดนั่นสร้างรอยแห่งการตีตราจองไว้บนต้นคอของร่างเล็กได้เชียวหรือ







                    ...เกิดอะไรขึ้นกันแน่...






                    เสียงคำถามที่ดังก้องอยู่ในโสทประสาทของความคิด ลู่หานไม่รู้ว่ารอยนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ทำไมเขาถึงฝันเห็นชายหนุ่มแปลกหน้าคนนั้นที่เป็นแวมไพร์และกันกำลังจะฆ่าเขาในฝันด้วยอีก ผู้ชายที่แม้จะหล่อเหลาแต่หน้าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่งผู้ชายที่หาใช่มนุษย์ดั่งเขาไม่ ผู้ชายในฝันคนนั้น







                    ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่านั่นคืออะไรที่ไม่สามารถหาคำตอบได้ ลู่หานจึงเลือกที่จะสลัดความคิดนั้นออกไปจากสมองของตนเองอีก เพราะต่อให้คิดให้หัวระเบิดเขาคงไม่สามารถหาคำตอบให้แก่ตนเองได้





                    ...ไม่มีอะไรนั่นเป็นแค่ความฝัน...





    ..........................................
    จบเถอะตอนนี้ ;______;
    เม้นเร็วววว ถ้าเม้นแล้วเราจะอัพพพ ฮื้อออออ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×