คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Can u ? - Ep.9
คำพูดทิ้งท้ายของอีกคนก่อนที่ร่างสูงโปร่งจะออกไปจากห้อง ลู่หานยังคงจ้องมองไปยังบานประตูใหญ่อย่างรู้สึกประหลาด ริมฝีปากสวยเม้มเข้าหากันเล็กๆเพื่อกลั้นใจ ทำไมหัวใจดวงน้อยจึงแสดงออกมาอย่างที่ไม่เคยเป็น จังหวะการเต้นเร็ว และน้ำตาที่เอ่อออกมาอย่างง่ายดายทั้งๆที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำไป อะไรคือสิ่งที่ทำให้เขาเป็นเช่นนี้..
“เฮ้อ...” เสียงทอดถอนลมหายใจพรั่งพรูออกมาอีกครั้ง อย่าอึดอัด เข้ามึนงงไปเสียทุกอย่าง รู้แค่ว่าที่นี่คงเป็นที่ไหนสักแห่งบนคฤหาสถ์หลังโตนั้น แต่ลู่หานเองกลับไม่รู้ว่าทำไมเขาจึงถูกกักตัวเอาไว้ที่นี่
“ขอประทานอภัยครับ” เสียงทุ้มเอ่ยขออนุญาตอย่างสุภาพ ก่อนที่ร่างสูงจะเคลื่อนกายเข้ามาภายในห้องนอนของร่างบาง ลู่หานเอียงคอมองผู้มาเยื่อนก่อนจะเอ่ยถาม
“คุณคือ?...”
“จงอินครับ....คิมจงอิน” ชายหนุ่มโค้งตัวพลางเอ่ยบอก คนตัวสูงในเสื้อสูธพิธีการบนท่อนแขนถูกวางพาดไว้ด้วยผ้าสีขาว หากให้เดาลู่หานคงต้องเดาว่าคนตรงหน้าอาจจะเป็นพ่อบ้านหรือใครสักคนที่มีส่วนสำคัญของที่นี่
“จงอิน...คนที่ผู้ชายคนนั้นบอกว่ะตอบคำถามสินะฮะ” ลู่หานเอ่ยถามออกมา เมื่อไม่อาจจะหาทางออกให้ตนเองได้อีกแล้ว สิ่งเดียวที่คนตัวเล็กทำได้นั่นก็คือการทำตามคำบอกของชายหนุ่มผู้แสนเย็นชานั้น
“ผมมาทำอะไรที่นี่?” ร่างเล็กออกปากถามคำถามแรกอย่างไม่รีรอ ดวงตากลมจ้องมองร่างสูงตรงหน้าด้วยความสงสัย คนคนนี้คงไม่โกหกเขาเขารู้สึกเช่นนั้น
“คุณอยู่ที่นี่ครับ”
“หมายถึง?” คนตัวเล็กเลิกคิ้วมองอย่างอดสงสัยไม่ได้ คำตอบของชายหนุ่มทำเอาลู่หานรู้สึกไม่ค่อยเข้าใจเท่าที่ควร
“ต่อจากนี้ไปคุณคือคนของคฤหาสถ์หลังนี้ด้วยเหตุผลบางอย่างของพระเจ้าคุณถูกมอบหมายให้แก้คำสาปของตระกูลอู๋” จงอินเริ่มอธิบายก่อนจะสาวเท้าไปยังอีกฝั่งของลู่หานหยุดยืนบริเวณนั้นพร้อมเอ่ยคำอธิบายต่อจากเมื่อครู่
“ท่านอี้ฟานได้รับความเป็นนิรันทร์จากคำสาปของแม่มดผู้เกลียดชังวงตระกูล และคุณเองก็มีสายเลือดของผู้แก้ไขคำสาปนี้ ดวงชะตาของคุณจะต้องเป็นผู้แก้ไขมันครับ”
“แก้ไขอะไรฮะ...ผมว่าพวกคุณเข้าใจผิด” ลู่หานเถียงเพราะคิดว่าตนเองไม่ใช่คนแก้คำสาปตามที่ร่างสูงกล่าว
“ไม่หรอกครับคุณสามารถแก้คำสาปให้ท่านอี้ฟานได้ จวบจนกว่าคำสาปที่แสนจะทรมาณนั้นจะผ่านพ้นไป คุณต้องอยู่ที่นี่ครับ”
“แล้วครอบครัวของผม...ที่บ้านหลังเล็กนั่น” ถามออกมาพลายเหสายตาออกไปยังนอกหน้าต่างลู่หานไม่รู้หรอกว่าที่นี่ไกลจากบ้านของตนเองหรือไม่ได้เท่าที่รู้สึกบ้านที่แสนอบอุ่นของเขาอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ไม่สิ อยู่ในรั้วเดียวกันเลยเสียมากกว่า
“คุณได้รับอนุญาตให้กลับไปที่บ้านได้เดือนละครั้ง แต่คุณต้องทำตามคำสั่งของท่านอี้ฟาน เพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยน”
“ข้อแลกเปลี่ยนที่ผมไม่ยินยอมงั้นเหรอฮะ?” ลู่หานถามกลับอย่างรู้สึกไม่พอใจ บางครั้งเขาก็อยากจะคิดเองทำเองหรืออยากจะทำในสิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่ต้องมาถูกกักขังเอาไว้ที่นี่เช่นนี้
“ผมไม่ทราบครับ เพียงแต่มันคือสิ่งที่ถูกกำหนดเอาไว้แต่แรก ถ้าคุณทำตามผมไม่ทราบเช่นกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวคุณและครอบครัวคุณบ้าง” จงอินเอ่ยทิ้งท้ายพร้อมรอยยิ้มอันเย็นเฉียบเผยออกมาให้ลู่หานได้รู้สึกขนลุก ทำไมคนที่นี่ถึงน่ากลัวนัก ทำไมคนพวกนั้นถึงต้องกำหนดข้อตกลงหรือสั่งอะไรเขาทั้งๆที่เขาแทบไม่เคยรู้จักคนพวกนั้นเลย
“ทานยาเถอะครับ นายท่านบอกว่าคุณยังปวดหัวอยู่” มือแกร่งเอื้อมไปหยิบถาดที่ถือติดมือมาตั้งแต่แรกยื่นให้แก่ลู่หาน คนตัวเล็กรีบส่ายหน้าปฏิเสธ เพราะไม่รู้ว่าเขาจะสามารถไว้ใจคนตรงหน้าได้อย่างที่รู้สึกในตอนแรกหรือไม่
“ผมอยากเจอเขา...คนที่ชื่ออี้ฟานนั่นเค้าคือคนที่ผมเจอเมื่อกี้ใช่ไหมฮะ?” ลู่หานถามกลับโดยที่เจ้าตัวเองก็ปฏิเสธยาที่จงอินมอบให้ อย่างน้อยคุยกับคนต้นเรื่องน่าจะได้ความมากกว่าไม่ใช่จะมาฟังเอากับคนอื่นแทน
“ครับ...แต่เห็นทีจะ...” ไม่ทันที่จงอินจะได้กล่าวเพิ่มเติม เสียงประตูห้องของลู่หานก็ดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับลงอินที่ขยับกายออกห่างจากจุดเดิมอย่างรู้ตัว
“ออกไป..จงอิน” เสียงเข้มของอี้ฟานดังขึ้นสั่งการคนใกล้ชิดที่กำลังถอยออกจากเตียงของลู่หานอย่างช้าๆ ชายหนุ่มโค้งตัวให้ผู้เป็นนายอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกจากห้องไปตามคำสั่ง
“มีอะไรจะถามเราอีก” ทันทีที่เสียงประตูห้องสิ้นสุดลงร่างสูงก็เอ่ยถามคนตัวเล็ก ที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่บนเตียงกว้าง ลู่หานแกล้งทำเป็นเก่งต่อหน้าจงอินก็จริงอยู่แต่เมื่อมาเจอเข้ากับอี้ฟานคนตัวเล็กก็ได้แต่นิ่งสนิท
ริมฝีปากสวยเม้มเข้าหากันแน่นเพื่อรวบรวมความกล้าให้แก่ตนเอง หัวใจดวงเล็กเต้นแรงอีกครั้ง เพียงเพราะเห็นใบหน้าที่แสนเย็นชาของชายหนุ่ม ทำไมลู่หานจึงรู้สึกคุ้นกับคนตรงหน้ามากมายถึงเพียงนี้ทั้งๆที่เมื่อครั้งแรกคนตัวเล็กยังรู้สึกเฉยๆอยู่เลย
“ทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่ได้...และทำไมผมต้องอยู่ที่นี่” คำถามที่ดูสับสนของลู่หานเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ คนตัวเล็กรู้สึกประหม่าและหวาดกลัวขึ้นมาในขณะที่หัวใจกลับแสดงออกมาในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“เจ้าหมดสติไป...กลางสวนเมื่อคืนในงานฉลองวันเกิด และเหตุผลที่เจ้าต้องมาอยู่ที่นี่ก็เพื่อลบล้างคำสาป เจ้ามีสายเลือดแห่งผู้ล้างคำสาป” อี้ฟานบอกก่อนจะค่อยๆลดตัวลงนั่งบนเตียงนอนของร่างเล็ก ฝ่ามือเย็นเฉียบค่อยเอื้อมขึ้นแตะสัมผัสแก้มขาวของร่างเล็กอย่างแผ่วเบา
ราวกับต้องมนตราสะกดเอาไว้ไม่ให้ร่างกายได้ไหวติง นัยด์ตาสีเทาของร่างสูงช่างแตกต่างออกจาไปจากของคนอื่นๆที่ลู่หานเคยพบ ดวงตาเรียวรีที่มีนัยตาสีเทา...ทำไมจึงสะกดลู่หานได้มากนัก
ใบหน้าคมค่อยขยับเคลื่อนเข้ามาใกล้ร่างสูง กดริมฝีปากลงบนกรีบปากนุ่มนั้นอย่างไม่อาจห้ามใจตนเองเอาไว้ได้อยู่ คนตัวเล็กได้แต่รับริมฝีปากนั้นอย่างจำยอม รสจูบจางๆและเย็นยะเยือกทำเอาคนตัวเล็กขนลุกซู่ไปเสียทั้งกาย ฝ่ามือหนาของอี้ฟานค่อยๆเอื้อมขึ้นดันท้ายทอยขาวของร่างบาง ดันคนตัวเล็กให้เปิดริมฝีปากรับรสจูบนี้มากยิ่งขึ้น
ปลายลิ้นเย็นค่อยๆแตะลงบนริมฝีปากของร่างเล็กก่อนจะสอดรุกเข้าสู่โพรงปากอุ่นของร่างสวยโดยไม่รีรอ ริมฝีปากแกร่งบดเบียดเรียวปากเนียนนั้นอย่างกระหาย แวมไพร์หนุ่มไม่อาจหยุดยั้งความต้องการของตนเองเอาไว้ได้เลยแม้แต่น้อยการควบคุมความต้องการของเขาได้ขาดลงเมื่อต้องพบเจอกับคนตรงหน้า
“อือ...” เสียงครางท้วงในลำคอของร่างเล็กดังออกมาผ่านลำคอขาวอย่างยากลำบาก อี้ฟานยังคงส่งมอบริมฝีปากของตนเองให้แก่คนตัวเล็กอย่างไม่ลดละ ยิ่งสัมผัสยิ่งรู้สึกไม่อาจหยุดยั้งตนเอง กายหอมๆของผู้แก้คำสาปมีผลต่อแวมไพร์หนุ่มเสียเหลือเกิน
ฝ่ามือขาวของลู่หานเริ่มออกแรงกำชายเสื้อของร่างสูงเอาไว้แน่นเมื่อลมหายใจของเจ้าตัวใกล้จะหมดลงเต็มที อี้ฟานขยับเคลื่อนริมฝีปากออกอย่างช้าๆ เมื่อรับรู้ได้ว่าลู่หานกำลังจะขาดใจลง
ใบหน้าขาวร้อนระอุขึ้นมาด้วยไอแห่งความร้อนแรงจากริมฝีปากแกร่งของชายหนุ่ม ลู่หานหอบหายใจเร็วๆราวกับเจ้าตัวจะหมดลมหายใจลงไปเสียให้ได้ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ถูกเผยออกมาที่ริมฝีปากแกร่งบางๆ
“ค...คุณ...” มือเล็กยกขึ้นปิดริมฝีปากเมื่อตั้งสติได้ คนตรงหน้าขโมยจูบแรกของเขาไป อีกทั้งยังทำเอาแทบขาดใจตายเพราะจูบที่แสนร้อแรงเมื่อครู่ ราวกับความหอมหวานและร้อนแรงยังคงตราตรึงติดอยู่ที่ริมฝีปากสวยลู่หานกำลังสับสนและไม่รู้จะเอ่ยกับอีกคนเช่นไรดี
“เรียกเราว่าอี้ฟาน...” คนตัวสูงจ้องตาลู่หานพร้อมเอ่ยสั่งการในแบบที่เจ้าตัวเคยชิน
ลู่หานพยักหน้ารับคำเหมือนถูกสะกดเอาไว้อย่างว่าง่ายก่อนที่สมองขาวโพลนของร่างเล็กจะบอกให้ริมฝีปากสวยเอ่ยตามที่ชายหนุ่มสั่ง
“อ...อี้ฟาน”
............................................................
โถ...เด็กน้อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ท่านอี้ฟานช่างงงง โง้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
นิสั๊ยยยยย เม้นเร็วค่ะ เม้นนน ;_____; ไม่มีคอมเม้นเลยน่ะ น้อยใจนะ #ร้องไห้
ความคิดเห็น