คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Chapter....7
Chapter....7
“เล่นกันจนได้เรื่องอีกแล้วนะ!” ร่างบางกรอกเสียงใส่โทรศัพท์อย่างเอือมๆ เอาอีกแล้วเล่นกันทีไรให้มีเรื่องได้เจ็บตัวกันทุกทีสิน่า ผู้ชายพวกนี้จะหยอกกันธรรมดาๆแบบมนุษย์คนอื่นเป็นบ้างมั้ยเธอล่ะอย่างรู้จริงๆ
“ไม่ต้องมาอ้อน ทำตัวเองทั้งนั้น อืมๆ แล้วจะแวะเข้าไปล่ะกัน” เจสสิก้ากดตัดสายก่อนจะเดินเข้าไปหยิบกระเป๋าในห้อง ถึงที่เธอพูดไปเมื่อกี้มันจะฟังดูเหมือนเธอไม่ได้สนใจเค้าเท่าไหร่ก็เถอะแต่ใครจะไปรู้ว่าที่จริงแล้วเธอเป็นห่วงเขาแค่ไหน แฟนตัวเองเจ็บเป็นใครบ้างจะไม่เป็นห่วงล่ะ
“ยัยเป็ดจะไปไหนอ่ะ?” ฟานี่เงยหน้าขึ้นจากนิตยสารในมือพร้อมกับที่เธอหันไปถามเจสสิก้าที่กำลังก้าวเร็วๆผ่านห้องนั่งเล่นร่างบางชะงักก่อนจะหันมาตอบ
“บ้านพักทูพีเอ็ม ”
“ไปทำไมอ่ะ? ”
“ก็อีตาแทคยอนน่ะสิไม่รู้ไปเล่นกันอิท่าไหนถึงได้แขนหัก ฉันกะว่าจะเข้าไปดูสักหน่อย” พอได้ยินคำตอบของเจสสิก้ามันก็ทำเอาเธอนึกเป็นห่วงเขาขึ้นเพราะรู้ดีว่าแทคยอนถึงจะดูตัวโตแบบนั้นแต่เขาเป็นคนกระดูกอ่อนแต่ไหนแต่ไร
“ฉันไปด้วยคนได้มั้ย?” ฟานี่ถามเสียงแผ่ว
“ได้สิ งั้นก็รีบไปกันเถอะ” ทิฟฟานี่รีบวิ่งเข้าไปหยิบกระเป๋าสะพายใบเล็กในห้องก่อนที่ทั้งสองคนจะมุ่งหน้าไปยังบ้านพักของทูพีเอ็มด้วยรถบีเอ็มดับบิวคันหรูของเจสสิก้า ใช้เวลาไม่นานนักพวกเธอก็มาถึงบ้านพักของทูพีอ็มเพราะหอพักของพวกเธอกับเขาอยู่ห่างกันไม่ไกลนัก
“มารึยังชานซอง?”
“ยังเลยคับฮยอง” ชานซองชะโงกหน้าดูที่หน้าบ้านก่อนจะหันมาตอบแทคยอนที่นอนอยู่บนโซฟา
“อะไรกัน แฟนเจ็บทั้งคน ยัยนั่นไม่คิดจะสนใจเลยรึไงกัน” แทคยอนบ่นอย่างงอนๆ ทำเอาจุนโฮที่นั่งอยู่พื้นข้างล่างหลุดขำพรืดกับความงอแงของเด็กในร่างยักษ์ ไม่คิดว่าฮยองของเขาจะติดแฟนได้ขนาดนี้
“ใจเย็นๆลูกพี่ เดี๋ยวนูนาก็คงมาค๊าบบ”
“มาไม่มาก็ช่างสิ!” ร่างสูงบนโซฟาสะบัดเสียงก่อนจะพลิกตัวหันหน้าเข้าหาพนักพิงของโซฟา ลืมไปว่าถ้าพลิกตัวมันจะทำให้เขาทับแขนข้างที่เพิ่งเข้าเฝือกของตัวเองเจ็บจนร้องเสียงหลง เพราะเธอคนเดียวเลยเจสสิก้า!!!
“โอ้ยยย!!”
“เฮ้ย!! ฮยองระวังหน่อยสิ อยากกระดูกแตกจนต่อกันไม่ได้อีกรึไง” ชานซองดุ
“ไม่ต้องมาห่วงฉันนะ ขนาดแฟนฉันเค้ายังไม่ห่วงฉันเลย tt’”
“ยัยเจสมายัง ชานซอง ฉันล่ะเบื่อจะดูเด็กปัญญาอ่อนงอแงแล้ว” คิมจุนซูที่นั่งเล่นกีต้าร์อยู่ข้างๆอีจุนโฮถามอย่างรำคาญ
“ฮยองว่าผมทำไมกัน!” แทคยอนโวยวายพลางใช้ขาเตะจุนซู ดูมันทำเถอะ - - คำว่าฮยองไม่เคยมีความหมายอะไรกับมันเลยรึไงกัน นี่ถ้าไม่เห็นว่าเจ็บตัวอยู่นะได้มีเรื่องกันแน่ๆ
“ได้ยินข่าวว่ามีคนถามหา” เสียงหวานดังขึ้นที่หน้าประตูห้องนั่งเล่นพร้อมๆกับที่เจสสิก้าและทิฟฟานี่ก้าวเข้ามาในห้อง แทคยอนเหลือบมองผู้มาใหม่เล็กน้อยก่อนจะทำเป็นเมินหน้าหนี เจสสิก้าส่ายหน้าอย่างขำๆกับความบ๊องของคนที่นอนเจ็บอยู่บนโซฟา มือบางเอื้อมไปหยิกแขนอีกข้างเขาอย่างหมั่นไส้
“โอ๊ย! ทำอะไรของเธอเนี่ย ฉันเจ็บนะ!” แทคยอนมุ่ยหน้า
“โทษฐานที่นายบังอาจกล้าเมินฉัน”
“แล้วใครใช้ให้เธอมาช้าฮะ!”
“เอ๊ะ อย่ามาขึ้นเสียงใส่ฉันนะแทคยอน!” ร่างบางเท้าสะเองมองคนงอแงอย่างดุๆ ปากเรียวที่กำลังจะเถียงจำต้องหุบลงแทบจะทันทีที่เจอสายตาดุๆแบบนั้นของแฟนสาว
“ทิฟฟานี่มาเยี่ยมนายแน่ะ” เจสสิก้าบอกพลางหลีกทางให้ร่างบางที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอก้าวออกมา แทคยอนมองทิฟฟานี่ที่กำลังส่งยิ้มมาให้อย่างตกใจก่อนที่ดวงตาคมจะแปรเปลี่ยนเป็นนิ่งเฉยว่างเปล่า
“นายเป็นยังไงบ้าง?” หญิงสาวถามเขาเสียงสั่น ทั้งๆที่พูดกับเขาแท้ๆแต่เธอกลับไม่สามารถสบตากับเขาได้เลย หากเขาไม่ยอมคุยกับเธอ ทำอย่างกับไม่รู้จักกันมาก่อน เหินห่างอย่างที่เป็นมาน้ำตาคงจะได้เอ่อไหลอย่างห้ามไม่ได้แน่ๆแต่กลับผิดคาดเมื่อแทคยอนตอบเธอกลับมา
“ก็ไม่เป็นอะไรมากหรอกคับ แค่แขนหัก^^” เขาบอกพลางยิ้มกว้าง เห็นอย่างนั้นร่างบางถึงกับลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก ใบหน้าหวานที่เศร้าค่อยๆคลี่ยิ้มอย่างดีใจจนแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ กี่ปีแล้วที่เธอกับเขาไม่เคยได้พูดคุยกันแบบนี้ กี่ปีแล้วที่เธอได้แต่เฝ้ามองเขาอยู่ห่างๆแต่มันนี้เขาอยู่ใกล้เธอแค่เอื้อม แถมแทคยอนที่เคยหมางเมินกับเธอ วันนี้เขายังยอมพูดคุยกับเธออย่างปกติ ดีใจ ดีใจจนน้ำตามันพาลจะไหล!
“แล้วไปทำยังไงให้แขนหักล่ะคะ?”
“ก็ซุ่มซ่ามนิดหน่อยน่ะคับ”
“แน่นะ” เจสสิก้าแทรกขึ้นมาพลางหลี่ตามองไปที่ชานซองอย่างจับผิด จนชานซองต้องโบกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน
“ไม่ใช่ผมนะนูนา!”
“ฉันก็ยังไม่ได้บอกเลยว่าเป็นนาย” เจสสิก้าพูดยิ้มๆเมื่อเห็นท่าทางร้อนรนของชานซอง
“นูนาอ่าแกล้งผม T^T ”
“ชานซองอ่า นูนาหิวจังมีอะไรให้กินมั่ง?” เธอตัดบทไม่ใช่ว่าแกล้งแต่ตอนนี้มันหิวเกินจะทนจริงๆ ตั้งแต่ตื่นมาก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยนี่ก็เกือบจะบ่ายโมงแล้ว หิวจนไส้จะขาด - -
“ไม่มีหรอก เพิ่งหมดไปเพราะฝีมือชานซองนั่นแหละ” อีจุนโฮบอก
“งั้นเราไปหาไรกินกันเถอะ” หญิงสาวเอ่ยชวน ชานซองพยักหน้าเห็นด้วย
“งั้นตามสบายล่ะกัน ฉันขอไปแต่งเพลงต่อดีกว่า” จุนซูบอกพลางหอบเอากีต้าร์ตัวเก่งเดินเข้าห้องนอน
“นายจะไปไหน?” เจสสิก้ายักคิ้วถามคนป่วยอย่างกวนๆเมื่อเห็นเขาพยุงกายลุกขึ้นจากโซฟาทำท่าจะเดินตามเธอ จุนโฮ และชานซองออกมา
“ก็ไปกับพวกเธอไง” แทคยอนตอบอย่างงงๆ ก็เมื่อกี้เธอเป็นคนชวนพวกเขาไปกินข้าวนี่นา แล้วจะถามทำไม - -
“ใครบอกว่าจะให้นายไปด้วย?”
“อ้าว ผมก็หิวนะ T^T”
“รออยู่นี่แหละ เดี๋ยวรีบซื้อแล้วจะรีบกลับ ฝากดูแลแทคยอนด้วยนะฟานี่^^” แทคยอนกับทิฟฟานี่หันมามองหน้ากันอย่างตกใจ ชั่ววินาทีที่ทั้งสองคนสบตากันนิ่งก่อนที่ทิฟฟานี่จะเป็นฝ่ายหลบสายตาพร้อมกับที่เธอเบือนหน้าหนีไปอีกทาง
“แต่ว่าฉันอยากไปกับเธอนี่นา!” แทคยอนแย้งหน้ามุ่ย
“อยู่นี่แหละ ไปก็ไปเป็นภาระคนอื่นเปล่าๆ” ร่างบางทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องไปพร้อมกับจุนโฮและชานซอง แทคยอนทิ้งตัวลงนั่งโซฟาอย่างเซ็งๆ พลางถอนหายใจอย่างอึดอัด มันคงจะดีกว่านี้ถ้าในห้องนี้ไม่มีผู้หญิงอีกคนอยู่ตอนนี้ ผู้หญิงที่เขาทั้งโหยหาและเกลียดชังในเวลาเดียวกัน!
นานหลายนาทีที่ทั้งแทคยอนและทิฟฟานี่ได้แต่นั่งนิ่ง ไม่มีเสียงพูดคุยระหว่างกัน คนหนึ่งอยากพูดคุยแต่กลัวที่จะเริ่มต้นแต่อีกคนอยากหนีให้ไกลที่สุดแต่ก็ทำไม่ได้
“นายยังเจ็บแขนอยู่อีกรึเปล่า?” ในที่สุดฟานี่ก็เป็นฝ่ายทำลายความอึดอัดที่ก่อตัวขึ้นจนเธอทนไม่ไหว ยิ่งเจอสายตาที่ยากจะอ่านออกคู่นั้นลอบมองเธอยามเธอเผลอมันก็ยิ่งอยากจะเดินหนีซะให้รู้แล้วรู้รอด
“ไม่เจ็บแล้วล่ะ มันชินซะแล้ว” เขาตอบเสียงเย็นแต่นั่นมันเทียบไม่ได้กับแววตาที่เขามองมาที่เธอเลยสักนิด ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองรึเปล่าแต่คำตอบนั้นเธอกลับรู้สึกว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับคำถามที่เธอถามเขาเลยสักนิด
ทิฟฟานี่ระบายลมหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาจนเธอตั้งตัวแทบจะไม่ทันน้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ตั้งแต่เธอก้าวเข้ามาที่นี่รื้นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ บ้าจริง! จะมาไหลอะไรตอนนี้นะ! ยิ่งคิดก็ยิ่งสมเพชตัวเอง ร่างบางเบือนหน้าหนีไปอีกทางปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มเงียบๆเพียงคนเดียว ริมฝีปากบางเม้นแน่นจนเป็นเส้นตรงกลั้นเสียงสะอื้นลงลำคอระหง
เนิ่นนานที่ทิฟฟานี่นั่งหันหลังให้เขาอยู่อย่างนี้ อยู่ใกล้แค่เอื้อมมือแต่เขากลับมีสิทธิ์มองแค่แผ่นหลังของเธอ ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บปวด ไม่ว่าเมื่อไหร่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ก็ไม่เคยหันมามองเขาเลยสักครั้ง ดวงตาคมยังคงจ้องแผ่นหลังเธอนิ่งฉายชัดถึงความเจ็บปวด ความเจ็บปวดที่เขาต้องทับถมมันไว้ด้วยความเฉยชาทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าเธอ หญิงคนนี้จะเคยรับรู้บ้างมั้ย เธอเคยรู้ความรู้สึกของเขาบ้างมั้ย!
“เมื่อไหร่พวกนั้นจะกลับมาสักทีนะ!!” แทคยอนบ่นขึ้นอย่างหงุดหงิด เขาเบื่อที่จะอยู่ในบรรยากาศชวนอึดอัดแบบนี้เต็มทนแล้ว!
“นายคงลำบากใจที่จะอยู่กับฉันมากเลยใช่มั้ย?” ทิฟานี่ถามเสียสั่น มือเรียวปัดน้ำตาออกจากแก้มก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับเขา แทคยอนมองหน้าคนตรงหน้าอย่างตกใจเมื่อเห็นดวงตาหวานแดงก่ำไปด้วยหยาดน้ำตา
“อึดอัดมากใช่มั้ย?ที่จะยืนอยู่ในที่ที่เดียวกับฉัน ลำบากใจมากมั้ย?ที่จะต้องมองหน้าฉัน รังเกียจมากใช่มั้ย?ที่ต้องคุยกับฉัน ฮึกก นายไม่รู้จริงๆเหรอแทคยอนว่าฉันรู้สึกยังไง ฉันมีความสุขมากใช่มั้ย?ที่ทิ้งนายไป ฉันรู้สึกแบบนั้นงั้นเหรอ? ตลอดเวลาหลายปีที่เราเลิกกันฉันทำได้แค่ยืนมองนายอยู่ห่างๆแบบนี้ นายจะรู้บ้างมั้ย?ว่าฉันเจ็บปวดแค่ไหนเวลาที่นายทำเหมือนฉันไม่มีตัวตนทั้งๆที่เราอยู่ใกล้กันแค่นี้ ! นายคงเกลียดฉันมากเลยใช่มั้ย?ก็เพราะฉันมันเป็นผู้หญิงที่ไม่ดีสินะ ” ร่างบางระเบิดความในใจออกมาอย่างเหลืออด ดวงตาหวานมองเขาอย่างเจ็บปวด ภาพของคนตรงหน้าพร่าเลือนเพราะหยดน้ำตา
“เธอ…”แทคยอนยืนอึ้งเพียงแค่เห็นน้ำตาของเธอ หัวใจของเขามันเหมือนถูกแช่แข็งคำพูดของเธออื้ออึงอยู่ในหูเหมือนเสียงลมพัดมันไม่ได้ยินอะไรเลยด้วยซ้ำแทคยอนไม่รู้ว่าหญิงสาวตรงหน้ากำลังพูดอะไรแต่ยิ่งเห็นเธอร้องไห้หัวใจของเขาก็เหมือนถูกมือปริศนาบีบแรงมากขึ้นเท่านั้น จนสุดท้ายเขาก็ดึงเธอเข้ามากอดอย่างโหยหา
“ได้โปรด อย่าพูดอะไรอีกเลยนะ” ร่างสูงกระซิบบอกเธอพร้อมๆกับกระชับอ้อมกอดแน่น ร่างบางซบหน้าลงกับอกแกร่งสะอื้นจนตัวโยน
“เอ่อ ขอโทษที่มาขัดจังหวะ”
ความคิดเห็น