คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chapter....6
Farm in love
“ป้าคับ ซอฮยอนตื่นรึยัง?” ยงฮวาที่เพิ่งก้าวเข้ามาในห้องรับประทานอาหารเอ่ยถามป้าจีอึนที่กำลังวางจานอาหารเช้าลงบนโต๊ะ หญิงสูงวัยพยักหน้าแทนคำตอบยิ้มๆ
“ผมทานล่ะนะคับ^^” ยงฮวาบอกอย่างอารมณ์ดีพลางหยิบไส้กรอกเข้าปาก ป้าจีอึนลอบมอบยงฮวาอย่างหวาดๆพลางกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น
“อร่อยมั้ยคะ?” หญิงสูงวัยถามยงฮวาแววตาเป็นห่วง
“อร่อยมากคับ^^” ยงฮวาตอบเธอยิ้มๆ “ว้าวว ป้ารู้ได้ยังไงว่าผมชอบขนมปังโฮลวีต?” ยงฮวาถามอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะยัดขนมปังทั้งแผ่นเข้าปาก ป้าจีอึนยกมือจะห้ามแต่ไม่ทันเสียแล้วขนมปังทั้งแผ่นหายเข้าไปในปากของยงฮวาเรียบร้อย ร่างสูงยกกาแฟขึ้นดึ่มส่งยิ้มให้ป้าจีอึนอีกครั้งก่อนจะเดินฮัมเพลงอย่างมีความสุขออกจากบ้าน
ร่างสูงเดินฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีเข้าไปในไร่ วันนี้เขาอุตส่าห์ตื่นแต่เช้ากว่าทุกวันเพื่อหลีกเลี่ยงกับการประจันหน้ากับซอฮยอนเพราะเรื่องเมื่อคืน! ไม่บอกก็พอจะรู้ว่าเธอคงจะแค้นเขามากแน่นอนว่าคนอย่างซอยอนต้องหาทางแก้เผ็ดเข้าอยู่แล้วเพราะฉะนั้นต้องระมัดระวังตัวให้ดีในช่วงนี้และการหลีกเลี่ยงกับการเจอหน้าหญิงสาวดูเหมือนจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้
แต่ดูเหมือนเขาจะคิดผิด!....
“นายรู้จักฉันน้อยไปยงฮวา…..” ซอฮยอนลอบมองยงฮวาจากหนาต่างห้องนอนชั้นบนพูดกับตัวเองเบาๆรอยยิ้มที่หาดูได้ง่ายยามอยู่ต่อหน้ายงฮวาปรากฏชัดบนใบหน้าหวาน ก่อนที่ร่างบางจะคว้าหมวกปีกกว้างใบสวยติดมือลงมาด้วย
“วันนี้มาแต่เช้าเลยนะคับคุณยงฮวา” คนงานที่กำลังดายหญ้าอยู่ในแปลงองุ่นคนหนึ่งหันมาทักเขาเมื่อเห็นว่าวันนี้เจ้านายหนุ่มมาทำงานแต่เช้ากว่าทุกวัน
“ก็ช่วงเช้าอากาศดีเหมาะแก่การทำงานจะตื่นสายทำไมล่ะ” ยงฮวาตอบส่งยิ้มกว้างให้คนงานคนนั้นก่อนจะเดินไปทักทายคนงานบริเวณรอบๆอย่างอารมณ์ดี ยงฮวาช่วยคนงานดายหน้าในแปลงองุ่นไปได้สักพักเขาก็เริ่มรู้สึกปั่นป่วนในท้องขึ้นมา
“เป็นอะไรวะ?” ร่างสูงลูบท้องตัวเองไปมาอย่างสงสัย “อู้ย!! เหี้ย!!” ยงฮวาเผลอสถบออกมาเสียงดังเมื่อเริ่มรู้สึกว่าข้าศึกเริ่มจู่โจม
“คุณยงเป็นอะไรไปคับ?” คนงานที่ดายหญ้าอยู่ใกล้ๆรีบเข้ามาดูอาการเจ้านายอย่างเป็นห่วง
“ห้องน้ำห้องน้ำอยู่ไหน?!” เขาถามบิดตัวไปมาพยายามที่จะสะกัดกลั้นให้ถึงที่สุด คนงานคนหนึ่งชี้ไปยังห้องน้ำของคนงานที่อยู่ตรงข้ามแปลงองุ่นเห็นดังนั้นยงฮวาก็รีบวิ่งเข้าไปในนั้นทันที
“คุณยงฮวาคับ เป็นยังไงบ้าง?” หัวหน้าคนงานที่ยืนรอเจ้านายอยู่หน้าห้องน้ำตะโกนถามอย่างเป็นห่วง
ยงฮวาเทียวเข้าเทียวออกจากห้องน้ำเป็นรอบที่ห้า จนปากเรียวเริ่มซีดเซียว
“ผมว่าคุณยงฮวาไปหาหมอดีมั้ยคับ?”
“ไม่เป็นไร” ร่างสูงโบกมือไปมา ยืนพิงประตูห้องน้ำอ่อนแรง
“ไปเถอะคับ ดูท่าจะเริ่มแย่แล้วนะคับ”
“ฉะ…ฉัน” เขากำลังจะตอบปฏิเสธแต่เมื่อข้าศึกเริ่มจู่โจมอีกครั้งยงฮวาจำต้องรีบวิ่งเข้าห้องน้ำแทบจะไม่ทัน!...
คนงานชายสองสามคนช่วยกันแบกยงฮวาที่หมดแรงเพราะท้องเสียกลับบ้านพักหลังจากที่จัดการลากเจ้านายหัวดื้อไปหาหมอได้สำเร็จซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน ‘จงฮยอน’ สัตว์แพทย์สุดหล่อฟาร์มข้างๆนั่นเองคนงานพยุงยงฮวาเข้ามาในห้องนอนของเขาก่อนจะหลีกให้จงฮยอนได้ดูอาการคนป่วย
“นี่แกไปทำกินมาวะถึงได้ท้องเสียซะขนาดนี้?” ยงฮวาส่ายหัวแทนคำตอบไม่มีแรงแม้กระทั่งพูด
“ทีหลังจะกินอะไรก็หัดรู้จักระมัดระวังหน่อย ฉันเป็นหมอรักษาสัตว์นะเว้ย ไม่ใช่หมอรักษาคน”จงฮยอนบ่นอย่างหงุดหงิดนึกเคืองยงฮวาที่ไม่ยอมไปหาหมอเดือดร้อนตัวเองต้องถ่ออมาดูอาการทั้งๆที่ไม่ใช่หมอ จะเคยก็แต่รักษาวัวรักษาควาย คนกับวัวมันเหมือนกันที่ไหนล่ะ
“บ่นจริงเลย” ยงฮวาดุเสียงแหบ
“ก็ใครใช้ให้แกมันดื้อวะ เอากินซะ” จงฮยอนส่งแก้วเกลือเร่ให้ยงฮวาซึ่งเขาก็ยอมรับไปดื่มแต่โดยดี แต่ไหนแต่ไรแล้วเพื่อนเขาคนนี้ต่อให้ป่วยหนักขนาดไหนก็ไม่เคยจะยอมไปโรงพยาบาลต้องเดือดร้อนให้เขามาดูแลบ่อยๆ เวลาที่ยงฮวาไม่สบาย
“กินแล้วก็พักผ่อนซะ ฉันจะกลับล่ะเดี๋ยวเย็นๆจะแวะมาใหม่” จงฮยอนบอกพลางเก็บยาเข้ากระเป๋าพยาบาลประจำตัว ยงฮวาพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ ตาคมหลับลงอย่างเหนื่อยอ่อนอาการท้องเสียตอนนี้หายแล้วจะเหลือไว้ก็แต่เพียงอาการหมดแรงเท่านั้น
“คุณหนูจะไม่ไปดูคุณยงฮวาหน่อยเหรอคะ?” ป้าจีอึนเอ่ยถามพลางนั่งลงข้างๆหญิงสาว ซอฮยอนปิดนิตยสารที่กำลังอ่านก่อนจะเงยหน้าขึ้นถาม
“หมอนั่นตายแล้วเหรอคะ?”
“คุณหนู” หญิงสูงวัยเรียกเธออย่างตกใจปนตำหนิ ซอฮยอนถอนหายใจอย่างเซ็งๆก่อนจะพยักหน้าตกลง
“ไงนาย นอนหมดสภาพเลยอ่ะดิ สมน้ำหน้า แบร่ๆ” หญิงสาวแลบลิ้นอย่างหมั่นไส้ให้ร่างสูงที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงใหญ่ ตอนแรกกะจะเข้ามาสมน้ำหน้าแต่พอเห็นใบหน้าซีดเซียวของยงฮวารอยยิ้มสะใจในตอนแรกก็หุบลงแทบจะทันทีพร้อมกับที่ความรู้สึกผิดที่เข้ามาแทนที่
“นี่นายเป็นหนักขนาดนี้เลยเหรอ? ” ซอฮยอนถามแผ่วเบาพร้อมกับที่นั่งลงข้างๆยงฮวา “ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้นะฉันก็แค่อยากจะเอาคืนนายเฉยๆนี่นาก็ใครใช้ให้นายเอาจิ้งจกใส่นมให้ฉันกินล่ะ แต่นายก็น่าจะรู้สิว่าอาหารพวกนั้นมันบูดเน่าน่ะ ขนมปังขึ้นรายังมองว่าเป็นขนมปังโฮลวีตนายมันเป็นคนแบบไหนกันแน่” เธอสารภาพเพราะนึกว่าเขากำลังหลับแต่ที่ไหนได้ยงฮวาเพียงแค่หลับตาเพราะความเหนื่อยเท่านั้น ว่าเล้วเชียว เดาผิดซะที่ไหน!! แต่เพราะอาการอ่อนแรงเพราะท้องเสียจึงทำให้ตอนนี้ยงฮวาไม่มีแรงแม้แต่จะมาต่อล้อต่อเถียงกับเธอเขาทำได้เพียงสะกดกลั้นอารมณ์โกรธของตัวเองให้สงบนิ่งลง รอให้หายดีก่อนเถอะจะคิดทบต้นทบดอกเลยคอยดู!!!
“คุณอา! ^O^” จงฮยอนที่กำลังขนของลงจากรถหยุดชะงักหันไปตามเสียงเรียกชื่อเขา เด็กหญิงมัดแกะตาแป๋วในชุดกระโปรงสีชมพูในมือกอดปิกาจูตัวน้อยกำลังยืนส่งยิ้มจนตาหยีมาให้เขา
“ฮานึล!” จงฮยอนเรียกชื่อเด็กหญิงอย่างดีใจพร้อมกับย่อตัวลงอ้าแขนรับร่างเล็กที่วิ่งเข้ามากอดเขาแน่น
“ฮานึลคิดถึงคุณอาจังเลยค่ะ^^” เด็กหญิงพูดเสียงเจื้อยแจ้วพร้อมกับหอมแก้มจงฮยอน ร่างสูงหัวเราะกับความน่ารักของฮานึลก่อนจะอุ้มเธอขึ้น
“ปากหวานอีกแล้วนะเรา” จงฮยอนดึงแก้มหลานสาวตัวเองอย่างหมั่นเขี้ยวหอมแก้ฮานึลฟอดใหญ่
“คราวนี้จะไปกันกี่วันครับพี่?” คราวนี้จงฮยอนหันไปถามชายร่างสูงในชุดสูทสีดำที่กำลังยืนมองเขาอย่างฮานึลยิ้มๆ
“คราวนี้คงนานหน่อย พี่ต้องตามท่านทูตไปฝรั่งเศสทั้งเดือน” ลีซึงกิ พี่ชายต่างมารดาของจงฮยอนตอบพลางส่งกระเป๋าใบเล็กของลูกสาวให้ชายหนุ่ม
“พี่จะเข้าไปข้างในก่อนมั้ยคับ?”
“ไม่ล่ะ พี่ต้องรีบไปเตรียมเอกสารก่อนไป”
“เดินทางวันนี้เหรอคับ?”
“อืม เดินทางเย็นนี้ พี่ไปล่ะ ฝากฮาอึลด้วยนะ” ชายหนุ่มตบไหล่จงฮยอนเบาๆ เป็นเชิงฝากฝัง ร่างสูงพยักหน้าเป็นเชิงรับปากพร้อมกับยิ้มกว้างให้พี่ชาย “พ่อไปนะฮานึล เป็นเด็กดีของคุณอานะคับ อย่าดื้ออย่าซนนะ เข้าใจมั้ย?”
“รับทราบค่ะ” ฮานึลรับปากแข็งขัน ลีซึงกิยีผมลูกสาวเบาๆด้วยความรักใครก่อนจะเดินไปขึ้นรำบีเอ็มคันหรูที่จอดรออยู่
“ฮานึล โบกมือลาคุณพ่อกันเร็ว” จงฮยอนกับฮานึลโบกมือให้รถลีซึงกิที่กำลังเคลื่อนตัวออกจากฟาร์มก่อนที่เขาจะอุ้มหลานสาวตัวน้อยเข้าไปในบ้าน
จงฮยอนมีพี่ชายอยู่หนึ่งคนซึ่งก็คือ ลีซึงกิ ถึงแม้ว่าเขากับลีซึงกิจะเป็นพี่น้องต่างมารดาแต่พวกเขาก็รักใคร่กลมเกลียวกันดี ลีซึงกิมีอาชีพเป็นนักการทูต ด้วยหน้าที่การงานของเขาทำให้ต้องเดินทางไปต่างประเทศอยู่ตลอดเวลาและทุกครั้งที่ลีซึงกิเดินทางไปต่างประเทศก็มีแต่เขาที่คอยดูแลฮานึลนับตั้งแต่ที่พี่สะใภ้ของเขาเสียไปเมื่อสองปีที่แล้วด้วยโรคมะเร็ง จงฮยอนจึงรักหลานสาวคนนี้มาก
“หิวรึยังคับคนเก่ง?” จงฮยอนเอ่ยถามฮานึลที่กำลังนอนดูการ์ตูนอยู่หน้าทีวี เด็กหญิงส่ายหน้าพรืดถามเสียงแจ๋ว
“คุณอาขา ป๊ะป๋าไม่ได้อยู่ที่นี่กับคุณอาเหรอคะ?”
“ไม่คับ ฮานึลคิดถึงป๊ะป๋าเหรอ?” เขาถามพลางย่อตัวลงนั่งข้างๆฮานึล มือหน้ายีผมเด็กหญิงเบาๆ
“ค่ะ ฮานึลคิดถึงป๊ะป๋า”
“งั้นอาจะพาฮานึลไปหาป๊ะป๋าของอานึลดีมั้ย?”
“ดีค่ะ!^O^” ฮานึลเด้งตัวขึ้นจากโซฟา กระโดดขี่หลังจงฮยอนอย่างดีใจ “หนูจะได้เจอป๊ะป๋าแล้ว เย่~ ”
“งั้นไปกันเลยมั้ย?”
“ไปกันเลยค่ะ^^”
“งั้นเราไปหาป๊ะป๋าฮานึลกันเถอะ~”
“นี่!! ฉันอุตส่าห์ทำให้นายกับมือเลยนะ!”
“นั่นแหละ ฉันยิ่งไม่ควรจะกินใหญ่เลย เกิดเธอเอาข้าวต้มบูดมาให้ฉันกินอีก คราวนี้ฉันไม่ท้องเสียตายเลยรึไง!”
“ฉันก็กินให้นายดูแล้วนี่ไง กินจนจะหมดถ้วยแล้วเนี่ย ยังไม่เชื่อใจฉันอีกเหรอ?” ซอฮยอนพูดเสียงเศร้าหลังจากที่พยายามเกลี้ยกล่อยยงฮวาให้กินข้าวต้มของตัวเองมานานนับสิบนาที แต่ยงฮวาก็ยังไม่ยอมแตะมันแถมยังดูเหมือนจะพาลเพราะโกรธเธออีกต่างหาก “กินเถอะนะยงฮวา นายอย่าทำให้ฉันรู้สึกผิดมากกว่านี้สิ บอกแล้วไงว่าไม่ตั้งใจ ขอโทษษษษ”
“นี่เธอไม่ได้ตั้งใจเหรอ? ถ้าเธอตั้งใจฉันคงตายไปแล้วงั้นสิ!!”
“ก็ใครใช้ให้นายมาแกล้งฉันก่อนล่ะ” ซอฮยอนเถียงเสียงอ่อย
“ไม่รู้ล่ะ ฉันไม่กินของเธอหรอก!”
“รู้ว่านายโกรธฉันแต่นายก็ควรจะกินอะไรหน่อยสิ ฉันไม่ได้ใจร้ายขนาดจะแกล้งคนป่วยหรอกนะ” ซอฮยอนว่าพลางยื่นช้อนข้าวต้มจ่อปากยงฮวา ร่างสูงเหลือบมองซอฮยอนอย่างไม่พอใจก่อนจะเบือนหน้าหนีไปอีกทาง
คิดว่าทำดีกับเขาแค่นี้แล้วเขาจะหายโกรธง่ายๆรึไงกัน
“อย่าดื้อสิ! ฉันชักจะหมดความอดทนกับนายแล้วนะ!” ซอฮยอนแหวอย่างเหลืออด พยายามอย่างยิ่งที่จะกดอารมณ์โมโหของตัวเองให้อยู่ ก็รู้ตัวเองว่าผิดถึงได้พยายามง้ออยู่นี่แต่อีตาบ้านี่ก็ยังไม่ยอมสักทีแถมยังกวนเถียงคำไม่ตกฟากจนเธอนึกอยากจะฟาดแขนแรงๆสักครั้ง “กินข้าวเถอะนะจะได้กินยา นายจะได้หายไวๆไง” ร่างบางหลับตากัดฟันพูดแต่ยงฮวาก็ยังคงนิ่งเงียบ “ย๊า!! จองยงฮวา!!!!!”
“ทะเลาะกันอีกแล้วเหรอคับป้า?” จงฮยอนถามป้าจีอึนพลางส่งกระเช้าผลไม้ให้เธอ
“คงจะอย่างนั้นแหละค่ะ” หญิงสูงวัยตอบขำๆปนเหนื่อยหน่ายกับการทะเลาะกันของเจ้านายที่เกิดขึ้นแทบจะทุกครั้งที่เจอหน้ากันจนกลายเป็นเรื่องปกติไปซะแล้ว จงฮยอนส่งยิ้มเหยๆให้ป้าจึอึนก่อนจะพาฮานึลขึ้นสู่ชั้นบนของตัวบ้าน
“ป๊ะป๋าาาาาาา”
“ฮานึล! ” ยงฮวาเรียกชื่อผู้มาใหม่ด้วยความตกใจระคนดีใจ ฮานึลโผเข้ากอดยงฮวาที่นั่งอยู่บนเตียงอย่างดีใจ
“ป๊ะป๋าเหรอ?” ซอฮยอนพึมพำทวนสรรพนามที่เด็กหญิงตัวน้อยใช้เรียกยงฮวาอย่างแปลกใจ
“มาตั้งแต่เมื่อไหร่คับเนี่ย?” ยงฮวาถามเด็กหญิงเสียงหวานพร้อมกับหอมแก้มยุ้ยๆเธอฟอดใหญ่
“เพิ่งมาค่ะ แต่ทำไมป๊ะป๋าจะต้องทะเลาะกันกับพี่สาวคนสวยคนนี้ด้วยคะ? ตอนที่ฮานึลอยู่ข้างล่างป๊ะป๋ากับพี่สาวทะเลาะกันเสียงดังมากเลยค่ะ” ฮานึลถามตาแป๋วมองยงฮวาทีสลับกับซอฮยอนทีอย่างไม่เข้าใจ ยงฮวากับซอฮยอนลอบมองกันอย่างอายๆก่อนที่จะเบือนหน้าหนีเมื่อหันมาสบตากันพอดี
“ฮานึลคับพี่สาวคนนั้นน่ะเป็นภรรยาป๊ะป๋าคับ แล้วป๊ะป๋ากับพี่สาวก็ไม่ได้ทะเลาะกันคับแค่คุยกันเสียงดังไปหน่อย” จงฮยอนอธิบายแก้ต่างเด็กหญิงพยักหน้าเข้าใจ
“งั้นพี่สาวคนนี้ก็ต้องเป็นม่าม๊าของฮานึลใช่มั้ยคะป๊ะป๋า?” ฮานึลถามด้วยความไร้เดียงสาแต่คนที่เพิ่งถูกเรียกว่าม่าม๊าหยกๆหันขวับตาโต ส่วนคนที่ได้ชื่อว่าป๊ะป๋าถึงกับกลั้นหัวเราะจนหน้าแดง
“ไม่ใช่นะคะ! หนูเข้าใจผิดพี่ไม่ใช่ม่าม๊าของหนูนะ” ซอฮยอนปฏิเสธรู้สึกเขินๆอย่างบอกไม่ถูกเมื่อจู่ๆก็โดนเรียกว่าม่าม๊า
“ไม่ใช่หรอกเหรอคะ? ” ฮานึลถามเสียงเศร้า ใบหน้าร่าเริงหม่นเศร้า
“แต่ว่าถ้าฮานึลอยากจะเรียกก็ได้นะ” ยงฮวาบอกเด็กหญิงพลางลูบผมเธออย่างนึกเอ็นดู
“เรียกได้จริงๆเหรอคะ?” ฮานึลถามตาโตด้วยความดีใจ ยงฮวาจึงพยักหน้ายืนยัน ซอฮยอนที่กำลังจะประท้วงจำต้องเงียบเมื่อเห็นท่าทางดีใจของฮานึล ถึงจะไม่ชอบแต่เธอก็ไม่ได้ใจร้ายถึงขนาดทำร้ายจิตใจเด็กได้ลงคอ
“เย้ ฮานึลมีม่าม๊าแล้ววว^^” เด็กหญิงกระโดดไปมาอย่างดีใจ เรียกรอยยิ้มจากผู้ใหญ่ทั้งสามคนได้เป็นอย่างดีเพราะความน่ารักของฮานึลตัวน้อย
“เด็กคนนั้นเป็นใคร? แล้วทำไมจะต้องเรียกนายว่าป๊ะป๋า? หรือนายไปแอบทำผู้หญิงที่ไหนท้อง?! กับใคร?! แล้วแม่เด็กไปไหน? แล้ว.....” ซอฮยอนยิงคำถามยาวเหยียดแทบจะทันทีที่จงฮยอนพาฮานึลลงไปรอที่ด้านล่าง จนยงฮวาต้องตัดบท
“โอ้ย! ทีละคำถามได้มั้ย? เธอเล่นยิงรัวแบบนี้ฉันจะตอบเธอได้ยังไงล่ะ วู้ว!”
“นายก็ตอบมาสักคำถามสิ!”
“ ฮานึลไม่ใช่ลูกผมหรอก เป็นลูกของพี่ชายของจงฮยอนมันน่ะ”
“แล้วทำไมต้องเรียกนายว่าป๊ะป๋าด้วย?”
“ก็ผมหล่อไง”
“แหวะ! นั่นมันคือเหตุผมรึไง” ซอฮยอนเบะปากอย่างนึกหมั่นไส้
“จะยังไงก็ช่างเถอะ คุณน่ะช่วยเป็นม่าม๊าของฮานึลให้หน่อยเถอะนะแม่ฮานึลเสียตั้งแต่ฮานึลยังเด็ก เธอคงจะอยากมีแม่เหมือนเด็กคนอื่น”
“อืม” หญิงสาวรับปาก มีน่าล่ะตอนเธอปฏิเสธฮานึลถึงได้ทำหน้าเศร้าซะขนาดนั้น “แต่ฉันรู้สึกตัวเองแก่ๆยังไงก็ไม่รู้ - -”
“เพิ่งรู้รึไงว่าตัวเองแก่นะ” ยงฮวาแซวหญิงสาวตรงหน้าขำๆเรียกค้อนวงใหญ่จากหญิงสาว
“ หยาบคายจริงๆเลยนายนิ! หึ่ยยย” ซอฮยอนมุ่ยหน้าอย่างเซ็งๆก่อนจะเดินปึงปังลงไปข้างล่างนึกโมโหยงฮวาที่หาว่าตัวเองแก่
ความคิดเห็น