คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Chapter....11
Chapter....11
“นี่กล่องอะไรเหรอคะ?” ทิฟฟานี่ชูกล่องของขวัญสีหวานในเกะเก็บของหน้ารถขึ้นให้แทคอนดู ร่างสูงเหลืบมามองก่อนจะส่ายหัว “กล่องสวยจังเลยค่ะ”
“ฟานี่ชอบเหรอคับ?” แทคยอนถามสายตายังไม่ละจากถนนเบื้องหน้า “ถ้าชอบก็เอาไปสิคับ ผมให้”
“จะดีเหรอคะ? ดูท่าจะคนให้จะตั้งใจทำให้แทคนะ” ทิฟฟานี่ถามอย่างไม่แน่ใจเมื่อเธอเปิดกล่องของขวัญสีหวานที่ข้างในเป็นผ้าพันคอสีน้ำตาลเข้มดูท่าทางจะถักเองซะด้วยสิ
ทิฟฟานี่ดึงผ้าพันคอที่อยู่ในกล่องขึ้นมาโชว์ให้แทคยอนดู ร่างสูงเหลือบมองมันด้วยหางตาไม่พูดอะไรก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อ เขามาส่งเธอที่หน้าหอพัก ทิฟฟานี่บอกลาแทคยอนพร้อมรอยยิ้มหวาน แทคยอนรอจนกระทั่งทิฟฟานี่หายเข้าไปในตึกเขาจึงขับรถกลับบ้านพัก
แทคยอนเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน ร่างสูงทิ้งตัวนอนลงบนโซฟาพลางถอนหายใจเสียงดัง มือเรียวลูบไล้กล่องของขวัญสีหวานแผ่วเบา เขากำลังใจอ่อนอีกแล้ว….เพียงแค่เห็นความตั้งใจของเธอ…
“ทำไมช่วงนี้เธอถึงได้กลับดึกบ่อยนักล่ะทิฟฟานี่” ทันทีที่ทิฟฟานี่ก้าวเข้ามาในห้องพักไฟที่ดับอยู่ในตอนแรกก็สว่างพรึ่บพร้อมกับเสียงดุของแทยอน ทิฟฟานี่หันตามทิศทางของเสยงก็เจอแทยอนที่ยืนกอดอกทำหน้านิ่งอยู่ตรงซาตัวยาวหน้าทีวี หญิงสาวตายิ้มส่งยิ้มหวานให้แทยอนก่อนจะเดินเข้าไปหาเธอ
“ช่วงนี้นัดเจอเพื่อนบ่อยน่ะ”
“นัดเจอเพื่อน หรือว่าเธอกำลังเดทอยู่?” ดวงตาเล็กหรี่ลงอย่างจับผิดทำเอาทิฟฟานี่ถึงกับหน้าแดงเพราะความเขิน
“ใช่ ฉันกำลังเดท” ทิฟฟานี่ยอมรับหน้าแดงแต่แทยอนอ้าปากค้าง ทิฟฟานี่กำลังเดท! เป็นไปได้ยังไง? ตั้งแต่เธอรู้จักทิฟฟานี่มาเพื่อนของเธอคนนี้ไม่เคยมีท่าทีว่าจะสนใจผู้ชายคนไหนเลยนี่นาทั้งๆที่มีผู้ชายทั้งในและนอกวงการเค้ามาจีบเธอมากมาย คำตอบของทิฟฟานี่ที่บอกว่าเธอกำลังเดทอยู่จึงทำให้แทยอนอึ้งอยู่ไม่น้อย
“หมอนั่นเป็นใครกัน?”
“แทคยอน” ทิฟฟานี่ตอบ ใบหน้าที่แดงอยู่ก่อนหน้ายิ่งแดงหนักเข้าไปอีกยามพูดถึงคนรักเช่นเดียวกับ แทยอนที่ยิ่งอึ้งหนักเข้าไปอีก
‘บ้าน่า คนที่ชื่อแทคยอนในเกาหลี ไม่ได้มีแค่อีตาแทคยอนกล้ามโตนั่นซะหน่อย’
“ฉันรู้จักหรือเปล่า?” แทยอนเลียบๆเคียงๆถาม ในใจภาวนาขอให้คำตอบของเพื่อนรักมันจะเป็นคนละคนกับคนที่เธอกำลังนึกถึงตอนนี้เพราะถ้ามันเป็นคนคนเดียวกันเธอไม่อยากจะคิดเลยว่าเรื่องมันจะเป็นยังไง
“รู้จักสิ แทคยอนวงทูพีเอ็มไง ดึกแล้วฉันขอตัวไปนอนก่อนนะ ราตรีสวัสดิ์นะแทยอน” ทิฟฟานี่บอกราตรีสวัสดิ์เสียงหวานร่างบ้างเอื้อมตัวไปจุ๊บแก้มแทยอนที่ยืนนิ่งก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้แทยอนยืนนิ่งอยู่ข้างหลังอยู่เพียงคนเดียว ….
ความจริงที่เพิ่งได้รับรู้เมื่อไม่ถึงสิบนาทีที่แล้วมันเหมือนกับฟ้าผ่าลงลางใจของหญิงสาว ความกังกลต่างๆพุ่งขึ้นมาภายในจิตใจจนไม่มีแรงจะยืนต่อ เพื่อนของเธอสองคนกำลังเดทอยู่กับผู้ชายคนเดียวกัน….มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง? แทคยอนทำแบบนี้กับเจสสิก้ากับทิฟฟานี่ได้ยังไง?....
‘ปัง’ เสียงปิดตู้เย็นดังขึ้นมาจากในครัวทำเอาแทยอนซะดุ้ง เธอหันไปมองที่ครัวอย่างแปลกใจ ดึกๆดื่นๆป่านนี้ใครมาหาของกินในตู้เย็นกัน เท้าบางที่กำลังจะก้าวเข้าไปในครัวต้องชะงักลงเมื่อใครบางคนถือแก้วนมออกมา…
“เจสสิก้า!!!!”
“เรียกฉันซะเสียงดังเชียว ตกใจนึกว่าฉันเป็นผีรึไง?” เจสสิก้าแซวขำๆเมื่อเห็นสีหน้าตกใจราวกับเห็นผีของแทยอน
“เธอเข้าไปทำอะรในนั้นน่ะ!”
“เข้าไปในครัวก็ต้องไปหาของกินสิ” เจสสิก้าว่าพลางชูแก้วนมขึ้นให้เพื่อนสาวร่างเล็กดู “พอดีฉันนอนไม่หลับน่ะเลยไปอุ่นนมจะดื่มซะหน่อย แล้วนี่เธอตื่นมาทำอะไรดึกๆ”
“พะ…พอดีฉันก็นอนไม่หลับเหมือนกันน่ะ” แทยอนตอบเจสสิก้าตะกุกตะกัก รู้สึกได้ถึงความเย็นชื้นที่หน้าผาก
“งั้นเหรอ เธอจะดื่มนมมั้ยล่ะ?” ร่างบางถามอย่างเป็นห่วง เธอสังเกตุได้ถึงน้ำเสียงสั่นๆของแทยอนรวมทั้งเหงื่อมากมายที่ซึมอยู่ตามไรผมของอีกคน ท่าทางแทยอนคงจะไม่สบายล่ะมั้ง…
“ไม่ล่ะ เธอดื่มเถอะ” แทยอนปฏิเสธ เธอมองหน้าเจสสิก้าอย่างจับสังเกตุจนเจสสิก้าขมวดคิ้วด้วยความงุนงงเป็นเชิงคำถาม บางทีเธออาจจะคิดมากไป เจสสิก้าเองก็ดูปกตินี่นาเธอคงจะไม่ได้ยินที่เขากับทิฟฟานี่คุยกันหรอก
“ดึกแล้วไปนอนกันเถอะ” แทยอนเอ่ยชวน เจสสิก้าพยักหน้าเป็นเชิงตกลงก่อนที่ทั้งสองจะเดินเคียงคู่กันไปยังห้องนอนของแต่ล่ะคน ต่างคนแต่ความรู้สึกเดียวกัน แต่ละย่างก้าวของทั้งเจสสิก้าและแทยอนมันช่างดูยากเย็นนัก แม้แต่เสียงของหัวใจเองมันก็ช่างแผ่วเบาซะเหลือเกิน….
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นติดๆกันเป็นสิบๆรอบทำให้ความนิชคุณหมดความอดทนอีกต่อไป ร่างสูงดึงฟังออกจากหูก่อนจะงัวเงียลุกขึ้นมารับโทรศัพท์
“ฮัลโหล?” เขากรอกเสียงลงไปตามสาย
“ฟิ้วววววว” แต่แทนที่มันจะเป็นเสียงใครสักคนตอบกลับมาแต่ปลายสายกลับมีเพียงแค่สายลมอื้ออึงเท่านั้น
“ฮัลโหล” เขากรอกเสียงกลับไปอีกครั้งแต่มันก็เหมือนเดิมมีเพียงแค่เสียงลมเท่านั้นที่เขาได้ยิน คิ้วหนาขมวดเข้าหากันอย่างงุนงง ใครกันมาแกล้งเขาแต่เช้าขนาดนี้ นิชคุณยกโทรศัพท์ออกจากหูของตัวเองเพื่อดูสายเข้า หน้าจอโชว์ชื่อ ‘เจสสิก้า’ เด่นหรา
“ย่า! สิก้า!! นี่เธอละเมอโทรรึยังไงกัน!” นิชคุณบ่นอย่างหงุดหงิดก่อนจะกดตัดสายและซุกตัวลงกับที่นอนนุ่มดังเดิม
อีกฝังหนึ่งเจสสิก้าที่กำลังนั่งเหม่อมองแม่น้ำฮันที่ไหลเอื่อย เธอพูดกับโทรศัพท์ที่โดนตัดสายไปแล้วน้ำเสียงเบาหวิว
“บอกฉันทีได้มั้ยคุณ…ว่าฉันควรจะทำยังไงดี…”
“คืนนี้เราจะไปไหนกันดี?” เจสสิก้าที่กำลังขะมักเขม้นกับการจัดห้องใหม่ให้ ‘คนรัก’ หันมาถามแทคยอนที่จัดหนังสือเข้าชั้นอยู่ข้างๆเธอ
“ไปดูหนังกันดีมั้ย? ” แทคยอนเสนอ
“ก็ดีนะ เราไม่ได้ไปดูหนังกันนานแล้วนี่นา” เจสสิก้าเห็นด้วยพลางจัดการมัดปากถุงขยะถุงใหญ่
“เราชวนทิฟฟานี่ไปด้วยกันดีมั้ย?”
“อืม งั้นฉันชวนนิชคุณไปด้วยนะ”
หลังจากที่จัดการจัดห้องให้แทคยอนเสร็จตอนนี้ทั้งแทคยอนและเจสสิก้าก็กำลังยืนรอนิชคุณและทิฟฟานี่ที่หน้าโรงหนังแห่งหนึ่งใจกลางกรุงโซล ไม่นานนักทั้งนิชคุณและทิฟฟานี่ก็มาถึงพวกเขาทักทายกันสักพักนิชคุณกับแทคยอนก็แยก้ายกันไปซื้อตั๋วและขนมขบเขี้ยวต่างๆปล่อยให้หญิงสาวสองคนยืนรออยู่หน้าโรงหนัง
“ตอนดึกๆแบบนี้คนไม่ค่อยเยอะดีเนอะ” ทิฟฟานี่พูดขึ้นพลางมองไปรอบๆบริเวณหน้าโรงหนังที่ตอนนี้เรียกได้เลยว่า ‘ร้างผู้คน’
“อืม” เจสสิก้าตอบรับเนือยๆ
“เธอดูเหนื่อยๆจังเลย ไม่สบายรึเปล่า?” ทิฟฟานี่ยื่นหน้ามาถามอย่างเป็นห่วง วันนี้เจสสิก้าดูไม่ร่าเริงเอาซะเลย
“เปล่าหรอก หน้าฉันมันเป็นอย่างนี้เองนี่นา” เจสสิก้าตอบหน้านิ่งซึ่งทิฟฟานี่เองก็พยักหน้าเห็นด้วยแต่ในความรู้สึกของเธอทิฟฟานี่กลับรู้สึกว่าภายในท่าทีเดิมๆนั้นมันมีอะไรบางอย่างมากกว่านั้น แต่ก็คร้านเกินกว่าจะซักไซ้อะไรต่อเพราะรู้ดีว่าถามไปก็แค่นั้น เจสสิก้าไม่เคยเปิดเผยความรู้สึกของตัวเองอยู่แล้ว เพื่อนเธอคนนี้เก็บความรู้สึกเก่งยิ่งกว่าอะไร
“พวกนั้นมากันแล้ว ไปกันเถอะ” ทิฟฟานี่ดึงมือเจสสิก้าให้วิ่งตามเธอไปหาสองหนุ่มที่กำลังเดินตรงมาที่พวกเธอ แทคยอนเลือกหนังบู้ระห่ำตามแบบที่เขาชอบจนทิฟฟานี่ถึงกับหน้ามุ่ยบ่นอุบ เธอไม่ชอบเลยหนังบู้ล้างผลาญแบบนี้
“ฉันไม่หน้าให้นายไปเลือกหนังเลย นายก็รู้ฉันไม่ชอบหนังบู้”
“ทำไมล่ะ มันน่าสนุกออก” แทคยอนโต้ยิ้มๆถึงแม้จะรู้ดีแก่ใจว่าทิฟฟานี่ไม่ชอบแต่เขาอยากดูหนังเรื่องนี้จริงๆนี่นา
“น่าสนุกตรงไหนมีแต่ยิงกันเลือดสาด น่ากลัวจะตาย”
“ไหนๆก็ซื้อมาแล้วก็ดูเถอะผมว่ามันน่าสนุกออก แต่ถ้าคุณฟานี่กลัวก็ยืมไหล่ผมซบได้นะคับ” นิชคุณตัดบทยิ้มๆตาคมเปรยมองแทคยอนอย่างไม่ชอบใจแต่สาวตายิ้มที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรหันมายิ้มหวานให้นิชคุณชนิดที่หากเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เขาคงจะละลายไปตามๆกัน
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันถอะค่ะ^^” ทิฟฟานี่เดินนำเข้าโรงหนังก่อนจะตามด้วยแทคยอน เจสสิก้าและนิชคุณ ทั้งสี่คนนั่งดูหนังด้วยกันเงียบๆเจสสิก้าก็เอาแต่จ้องจอหนังนิ่ง ส่วนทิฟฟานี่ก็เอาแต่ปิดหน้าปิดตาทุกครั้งที่มีฉากยิงกันเรียกรอยยิ้มขำๆจากคนข้างๆอย่างเทคยอนได้เป็นอย่างดี นิชคุณเองก็เอาแต่สนอกสนใจหนังอย่างเดียว ทุกคนดูสนุกมีพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่ดูเหมือนจะสนใจหนังแต่เปล่าเลยเธอกำลังมองการกระทำของทั้งเพื่อนสนิทและคนรักอยู่เงียบๆด้วยหางตาและใบหน้าที่เรียบเฉย…
,มือหนาที่ตอนแรกเกาะกุมมือของเจสสิก้าอยู่ค่อยๆถอยห่างออกไปซึ่งแม้แต่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้สึกตัว เจสสิก้าเหลือบมองมือของแทคยอนที่ค่อยๆถดถอยออกไปให้มืออีกข้างไปกุมอยู่ที่มือเรียวของทิฟฟานี่ ความรู้สึกปวดหนึบที่หัวใจพุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรง ใบหน้าหวานค่อยๆปิดเปลือกตาลงเพื่อหลีกหนีภาพที่ทิ่มแทงหัวใจเธออย่างไม่มีชิ้นดีหรือบางทีเธออาจจะกำลังหลีกหนีน้ำตาที่กำลังจะเอ่อไหลออกมา….
‘เข้มแข็งไว้นะสิก้า….อย่าเพิ่งร้องไห้ตอนนี้จะได้มั้ย….’
‘เธอห้ามความเจ็บปวด….ห้ามน้ำตาไม่ให้ไหลได้ด้วยเหรอ….จองซูยอน’
พยายามที่จะไม่มอง พยายามที่จะไม่ไม่สนใจไม่รู้สึกแต่สุดท้ายก็แพ้ใจตัวเองร่างบางนั่งจ้องหน้าจอนิ่งปล่อยให้น้ำตาไหลลงอาบแก้มเงียบๆมือเรียวยกขึ้นปิดปากป้องกันเสียงสะอื้น โชคดีนักที่ในนี้มันมืด มืดพอที่จะให้คนอย่างเธอแสดงความอ่อนแอออกมาได้โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะเห็น…
นิชคุณที่ดูสนใจหนังมากมายแต่ที่จริงแล้วเหตุการณ์ทุกอย่างกลับอยู่ในสายตาของเขามาตลอด เขารู้ดีว่าตอนนี้หญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆเขาตอนนี้เจ็บปวดเพียงใด ยิ่งเห็นเธอเจ็บ เขาเองก็เจ็บไม่ใช่น้อย…
มือหนาเลื่อนไปกุมมือบางก่อนจะบีบมันเบาๆอย่างให้แต่เพียงแค่มือแตะมือความเข้มแข็งที่มีอยู่เพียงแค่น้อยนิดมันก็ถูกทำลายลงอย่างหมดสิ้น เจสสิก้าสะบัดมือนิชคุณออกจากมือตัวเองก่อนจะผลุนผลันออกจากโรงหนังไป นิชคุณมองตามร่างบางที่วิ่งออกไปอย่างเป็นห่วงตาคมหันมามองแทคยอนกับทิฟฟานี่ที่ยังคงไม่รู้เรื่องอะไรอย่างหงุดหงิด วูบหนึ่งเขานึกอยากจะตะโกนบอกเรื่องของเจสสิก้าให้สองคนนี้ซะให้รู้แล้วรู้รอดแต่เมื่อนึกถึงผลที่จะตามมาภายหลังเขาจึงตัดสินใจวิ่งตามเจสสิก้าออกไป
ความคิดเห็น