คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ฟ อ แ ฟ น 0 9
09
I’m
jealous, you know baby?
( หึงอยู่รู้มั้ยครับ )
แบคฮยอนน่ะนุ่มนิ่มไปทั้งตัว
จะยกเว้นก็ใจเท่านั้นแหละที่แข็ง
แต่จะเรียกว่าใจแข็งก็คงไม่ถูกนัก
เรียกว่าใจอ่อนแต่ยังฟอร์มจัดอยู่น่าจะดีกว่า
ในเมื่อไม่ว่าเขาจะหยอดอะไรไปอีกฝ่ายก็เล่นทำแก้มแดงซะอย่างนั้นน่ะสิ
ชานยอลมาอยู่ที่โซลเกือบจะสองเดือนแล้วและก็ยังไม่ได้พาแบคฮยอนบินขึ้นเครื่องกลับบ้านไปนอนกอดให้หนำใจซะที
ทุกวันนี้เขาได้แค่เต๊าะนิดเต๊าะหน่อยตอดนิดตอดหน่อยไปวันๆ
สำหรับคนที่ได้ทุกอย่างจากแบคฮยอนมาตลอดก็เกิดอาการห่อเหี่ยวใจบ้าง
แหม...ชานยอลเองก็อยากกอดจูบโดยที่อีกคนเต็มใจไม่ใช่แอบทำตอนทีเผลอบ้างนี่หว่า
แต่เพราะรู้เต็มอกว่าตัวเองทำผิด(มาก)ก่อนเลยได้แต่ยอมรับชะตากรรม
และเขาก็รู้สึกไม่ค่อยชอบใจนิดหน่อยที่ต้องมาเห็นแบคฮยอนทำงานงกๆ
ตลอดทั้งวันอย่างนี้ ถึงแม้ว่า...ถึงแม้ว่าแบคฮยอนในชุดมาสคอตขนมปังนั่นจะน่ารักมากมาย
หรือแม้ว่าแก้มแดงๆ
ของแบคฮยอนตอนร้อนเพราะต้องเต้นดุ๊กดิ๊กไปมาจะสั่นไหวหัวใจเขามากแค่ไหนก็ตาม
ถึงจะอย่างนั้น...เขาน่ะโคตรเกลียดสายตาคนอื่นเวลาจ้องแบคฮยอน
ใช่ซี้ ใครๆ ก็หลงรักมาสคอตขนมปัง
แต่มาสคอตขนมปังไม่รักชานยอลกลับบ้างเลยL
สองสามวันมานี้ชานยอลตรวจพบสิ่งแปลกปลอมและเขากำลังจับตามองมันอยู่ทุกฝีก้าว
สิ่งมีชีวิตที่ตัวสูงไล่เลี่ยกับเขา สวมเสื้อผ้าแบรนด์เนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้ากับรองเท้าหัวแหลมมันวาวจนสะท้อนแสง
ท่าทางจะอายุมากกว่าเขาอยู่สองสามปีไม่เกินนี้
ชานยอลขมวดคิ้วมองอีกฝ่ายเดินผ่านหน้าตัวเองเข้าไปในร้านเบเกอรี่พร้อมกับรอยยิ้มละมุนละไม
กริ๊ง
“ อรุณสวัสดิ์ครับคุณลูกค้า
เช้านี้ร้านเรามีขนมปังสดใหม่แทบทุกอย่างที่คุณลูกค้าต้องการเลยล่ะครับ
เดินดูได้เลยนะครับ”
และไอ้หมอนี่...
“ ผมคิดว่าตัวเองคงเลือกไม่ถูก
จะรบกวนไปมั้ยครับถ้าอยากให้คุณช่วยเลือกหน่อย? ”
“
ได้สิครับ คุณลูกค้าชอบขนมปังแบบไหนบอกผมได้เลย ”
“
ชอบแบบ... ”
ไม่ใช่คนแรกที่หลงหน้าตาจิ้มลิ้มของแบคฮยอน
เพราะอีกฝ่ายโตกว่าจึงมีวิธีเข้าการแคชเชียร์ตัวน้อยตัวนิดของร้านเบเกอรี่ได้โดยที่ไม่กระโตกกระตากให้เหยื่อรู้ตัวเหมือนไอ้พวกเด็กมอปลายทั้งหลาย
มันอาศัยมาดสุขุมกับรอยยิ้มสุภาพแสนดีนั่นเข้าล่อลวงให้แบคฮยอนไม่ตะขิดตะขวงใจ
แถมยังทำได้ดีจนคนที่มองอยู่ห่างๆ อย่างชานยอลต้องกัดฟันแน่น
ชานยอลบอกให้ตัวเองใจเย็นและค่อยๆ
คิดวางแผนสกัดไอ้หมอนั่นอย่าให้ได้มายุ่มย่ามกับแฟนชาวบ้านชาวช่องเขาอีก
เพราะถ้าเกิดเขาทะเล่อทะล่าทำอะไรโง่ๆ เข้าคงไม่ดีแน่
ก็ที่นี่มันไม่ใช่แวนคูเวอร์นี่หว่า! นอกจากจะไม่มีพรรคพวกแล้วแบคฮยอนก็ยังไม่ใจอ่อนจริงจังสักที
“ คุณชอบแบบไหนผมก็เลือกแบบนั้นแล้วกันครับ
”
“
ยากจังเลยครับคุณลูกค้า ผมน่ะ...ชอบกินทุกแบบเลย ”
“
ฮ่าๆ คุณชอบกินทุกแบบก็เลือกให้ผมทุกแบบเลยก็ได้ครับ ”
“
โอ้โห ไม่ดีหรอกครับ แบบนั้นคุณคงเสียเงินเยอะมากแน่ๆ ”
แบคฮยอนพูดเจื้อยแจ้วไปตามประสา
ดูแลลูกค้าดีเกินหน้าที่จนชานยอลชักจะคันไม้คันมือยิบๆ
ไอ้ลูกค้าคนเดิมนั่นก็เหลือเกิน เดินตามแฟนเขาจนชิดติดตัวขนาดนั้นคิดอะไรไม่ดีอยู่ใช่มั้ยวะ
แบคฮยอนเดินไปทางไหนมันก็เดินซ้อนหลังแบบเนียนๆ
“ ฮึ! ชานยอล คิดสิคิด จะปล่อยให้มันมาวอแวกับแบคฮยอนไม่ได้นะ ”
ทุกอย่างต้องมีแผน ชานยอลมักจะชอบวางแผนรับมือสิ่งต่างๆ เอาไว้เสมอ อ้อ
ยกเว้นก็แต่เรื่องของแบคฮยอนที่เขาไม่เคยวางแผนรับมืออะไรไว้เลย
กับแบคฮยอนน่ะ...เขาใช้แค่หัวใจเท่านั้นแหละ
“
แบบนี้ไม่ตลกจริงๆ นะเนี่ย ”
แค่คนตัวเล็กอยู่กับคนอื่น ยิ้มให้คนอื่น ชานยอลก็รู้สึกหึงหวงแทบบ้าแล้ว
เขาเข้าใจอย่างสุดซึ้งเชียวล่ะว่าไอ้การที่เขานอกกายไปหาแม่สาวนมโตมันช่างเป็นความผิดที่ร้ายแรงอย่างไม่น่าให้อภัย
แต่ได้โปรดเถอะแบคฮยอน...ให้โอกาสชานยอลอีกสักครั้งแล้วเขาจะยอมรับโทษไปตลอดชีวิตเลย
“ โอ๊ะ! ”
เสียงอุทานทำให้ชานยอลหันขวับไปมองด้วยความรวดเร็ว
แน่นอนว่าเขาต้องปลอบตัวเองให้ใจเย็นอย่างยากลำบากเพราะไอ้ลูกค้าหน้าหล่อที่จับเอวแบคฮยอนอยู่!
ไม่รู้ไปทำกันอีท่าไหนถึงได้ไปอยู่ในท่าถึงเนื้อถึงตัวเกินเหตุแบบนั้นแต่ที่แน่ๆ
ชานยอลโคตรจะไม่พอใจเลยให้ตายL
แล้วเขาจะให้มันลวนลามแบคฮยอนทำไมล่ะ
“ โอ๊ยย
คุณแคชเชียร์ครับ! ”
ชานยอลเคยเป็นถึงพระเอกละครเวทีของโรงเรียนเลยนะตอนไฮสคูล
เขาตะเบ็งเสียงแหกปากดังลั่นร้านก่อนจะทำหน้าเหยเกและเอามือกุมท้องกระโดดโหยงเหยงไปแทรกกลางระหว่างคนสองคน
ไอ้ลูกค้าหน้าหล่อถึงกับผงะถอยหลัง ส่วนแบคฮยอนก็ทำหน้าสับสน
“ ห้องน้ำอยู่ไหนครับห้องน้ำ!
ผมปวดท้องจะไม่ไหวแล้วครับ! ”
“
ห๊ะ? ”
“
พาผมไปเข้าห้องน้ำที ฮื่อออ ”
“
นะ...นี่! ”
ไม่สนแล้ว! ชานยอลดึงแขนแบคฮยอนวิ่งไปทางหลังร้านท่ามกลางความงงงวยของไอ้ลูกค้าหน้าหล่อ
เป็นไงล่ะ งงไปเลยล่ะสิ ฮึ! เขาจูงมือแคชเชียร์ที่เสน่ห์แรงจนน่าหงุดหงิดวิ่งขึ้นบันไดแคบๆ
ขึ้นไปชั้นสองซึ่งเป็นที่พักของทั้งพี่อี้ฟานและแบคฮยอน
คนตัวเล็กหอบแฮ่กก่อนจะชกแขนเขาดังปั้ก
“ แฮ่ก นายทำบ้าอะไรของนายเนี่ย!
ไม่เห็นเหรอว่าเราคุยกับลูกค้าอยู่! ”
ชานยอลทำหน้าหงอยเมื่อโดนแบคฮยอนว่า เขารู้ว่าอีกคนต้องทำงาน
แต่คนมันไม่ได้ใจกว้างนี่!
“
ขอโทษ ”
“
ฮึ่ยย ”
“
แต่ผมไม่ชอบนี่นา ผมไม่ชอบที่แบคฮยอนไปอยู่ใกล้ลูกค้าคนนั้น ”
“
หน้าที่ของเราคือดูแลลูกค้าไม่รู้หรือไง ”
“ ไม่ใช่
หน้าที่ของแบคฮยอนคือแค่คิดเงินต่างหากล่ะ ”
“
ฮึ่ย! หน้าที่ของเราคือทำงานทุกอย่างในร้านต่างหาก!
แล้วนายก็มาก่อกวนเรา! ”
คนตัวเล็กผลักอกเขาจนเซถอยหลังไปนิดหน่อยและทำท่าจะเดินหนีลงบันไดไปดื้อๆ
แต่ชานยอลไม่ยอมหรอก เขาอาศัยความได้เปรียบที่แขนยาวกว่าคว้าตัวเล็กๆ
พอดีอ้อมแขนเข้ามากอดรัดเอาไว้ เขาซุกหน้าลงกับไหล่แคบ
วินาทีนั้นชานยอลตระหนักได้ว่านานมากแล้วที่เขาไม่ได้กอดแบคฮยอนอย่างนี้
อีกฝ่ายตัวเล็กลงกว่าเดิมนิดหน่อยแต่กลิ่นยังหอมถูกจมูกอย่างเคย ผมที่เคยเป็นสีไวน์ถูกย้อมเป็นสีน้ำตาลดูเรียบง่ายและน่ารักเหมือนตัวตนที่แบคฮยอนเป็น
เป็นตัวเขาเองที่ละเลยคนข้างกายไปเพราะคิดว่ายังไงแบคฮยอนก็ยังจะอยู่ตรงนี้
...จะไม่ไปไหนแม้ว่าเขาจะทำตัวแย่ๆ
และนั่นมันช่างเป็นความคิดที่โง่งมเหลือเกิน
ชานยอลรู้ว่าแบคฮยอนยังรักเขา
พวกเรายังรักกันหมดหัวใจ แต่เพราะความเชื่อใจที่ตัวเขาเองพังทลายมันไปทำให้แบคฮยอนคิดจะหนีไป
ชานยอลเจ็บปวดทุกครั้งที่ทำให้แบคฮยอนร้องไห้แต่ว่า...ตัวต้นเหตุอย่างเขากลับทำอะไรไม่ได้นอกจากกอดปลอบอีกคนเหมือนคนโง่
“
ขอโทษครับ ”
“
… ”
“
แบคฮยอนอ่า ”
“
… ”
“
ชานยอลขอโทษ อย่าโกรธเลยนะ ”
ทำไมคนผิดต้องพูดแต่คำว่าขอโทษเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
เขารู้แค่ว่าเขาจะพูดคำนี้ออกไปจนกว่าแบคฮยอนจะให้อภัย
เขาขอโทษเพราะเขารู้สึกผิดที่ทำร้ายหัวใจอีกคนอย่างนี้
แต่มันจะไม่มีอีก
“ นี่...วันนี้นายดูแปลกๆ
นะ เป็นอะไร? ”
“
เปล่า ”
“
เราถามว่าเป็นอะไร? ”
“
เปล่าครับ ”
เสียงถอนหายใจเหมือนจะรำคาญทำให้ชานยอลใจแป้ว
คนตัวเล็กพยายามจะหนีออกจากอ้อมกอดแต่ชานยอลก็ไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ
เขากำลังใจเสียและเขาก็ต้องการกำลังใจจากการกอดอีกคนเอาไว้แบบนี้
เพราะฉะนั้น...ยังไงก็จะไม่ปล่อยไปหรอกนะ
“ นายมันดีแต่ทำให้เราวุ่นวาย...
”
แบคฮยอนพูดเอาไว้แค่นั้นก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้องของตัวเองเนือยๆ
โดยการเขากอดอยู่ข้างหลัง
ห้องนอนขนาดพอดีสำหรับคนที่มีโลกส่วนตัวเป็นของตัวเองอย่างแบคฮยอนทำให้ชานยอลรู้สึกสงบมากเป็นพิเศษ
แหงล่ะ เขาน่ะอยู่ในที่ที่ไม่มีกลิ่นอายของแบคฮยอนมาหลายเดือนแล้ว
ท่ามกลางความเงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจชานยอลยังคงเลือกที่จะกอดตัวเล็กๆ
เอาไว้ แบคฮยอนไม่ได้ผลักไสแต่ก็ไม่ได้ตอบกลับ อีกคนเพียงแค่ยืนอยู่เฉยๆ เท่านั้น
“ เราถามว่าเป็นอะไรทำไมไม่ตอบ?
”
“
ผมมันงี่เง่าเอง ”
เขาจูบเบาๆ ลงบนหัวไหล่ภายใต้เนื้อผ้าที่มีกลิ่นหอมของน้ำยาปรับผ้านุ่ม
“ ผมแค่หึงที่ลูกค้าคนนั้นมาชอบแบคฮยอน...ทั้งๆ
ที่แบคฮยอนเป็นของผมแท้ๆ ”
“
ใครเป็นของนายกัน ”
“
แล้วผมก็นึกขึ้นได้ว่าแค่แบคฮยอนคุยกับผู้ชายคนอื่นยิ้มให้ผู้ชายคนอื่นผมยังหึงแทบจะบ้า
แต่ที่ผมทำกับแบคฮยอนน่ะ...สิ่งที่ผมทำไว้...มันแย่เกินทน ”
“
ผมกลัวว่าแบคฮยอนจะโกรธจนหมดรักกันแล้ว ”
เสียงของเขามันสั่นเครือจนแทบจะจางหายไปในความเงียบอันน่าอึดอัดระหว่างพวกเรา
วิวนอกหน้าต่างนั้นช่างสดใสแตกต่างกับหัวใจของเขาที่เศร้าหมอง
“ ถ้าแคร์เราขนาดนั้น...ทำไมถึงปล่อยให้ผ่านมาตั้งสามเดือนล่ะ
”
“
ขอโทษครับ
ชานยอลแค่อยากจะทดสอบตัวเองว่าชีวิตที่ไม่มีแบคฮยอนมันจะดีจะแย่ยังไง แล้วก็...ใช้เวลาอีกสองเดือนให้คุณพ่อใจอ่อนยอมบอกว่าแบคฮยอนอยู่ที่ไหน
”
“ เหลือก็แต่คนนี้... ”
ชานยอลประคองแก้มยุ้ยสีแดงระเรื่อน่าเอ็นดูด้วยความทะนุถนอม
ดวงตาเรียวจ้องมองมาและยังคงทำให้ใจเขาสั่นไหวเหมือนในวันวาน ชานยอลมั่นใจ...
“ ใจอ่อนให้กันบ้างหรือยังครับ?
”
ว่าแบคฮยอนคือคนที่ใช่ที่สุด
“
ก็พยายามอีกนิดซี่! ”
“
ลองพยายามง้อเราอีก บางที...เราอาจจะใจอ่อนก็ได้ ”
แคชเชียร์ในชุดผ้ากันเปื้อนพูดออกมาอย่างน่ารัก หางตาตกๆ
ช้อนมองทีไรใจคนมองก็อ่อนยวบเป็นช็อกโกแลคที่ละลายในฤดูร้อน
แต่เขายอมนะถ้าจะถูกแบคฮยอนละลายหัวใจกันแบบนี้
“ ถ้าใจอ่อนแล้วกลับแวนคูเวอร์ด้วยกันนะ
”
“
ฮึ นายคิดว่าเราจะใจอ่อนเร็วขนาดนั้นเลยหรือไง ”
“
เปล่าสักหน่อยครับ ”
รู้อยู่หรอกว่าใจอ่อนให้กันแล้ว
แต่จะทำเป็นไม่รู้ก็แล้วกันนะเดี๋ยวคนแถวนี้จะงอแง
“ วันนี้ไม่มีมุกเสี่ยวมาจีบนะ
”
“
L ”
“
เปลี่ยนเป็นจูบแทนได้มั้ยครับคนดี? ”
เขาเปล่าฉวยโอกาสเต๊าะแบคฮยอนสักหน่อย วันนี้น่ะชานยอลไม่ได้เตรียมมุกเสี่ยวๆ
มาเลยและก็หวังว่าแบคฮยอนจะเข้าใจ แล้วก็...ยอมให้จูบแต่โดยดี
ชานยอลดันคนตัวเล็กไปติดผนังที่มีวอลเปเปอร์ลายน่ารักๆ
ลมหายใจพวกเขารินรดกันแค่อากาศกั้นกลาง ชานยอลจ้องลึกเข้าไปในดวงตาที่แสดงออกถึงความท้าทายอย่างนึกเอ็นดู
แบคฮยอนเป็นเจ้าตัวแสบที่น่ารักที่สุดในโลก
เขาน่ะอยากจะขย้ำอีกฝ่ายให้ตายคาอกไปเลยล่ะ
“ จะจูบก็จูบซี่
อยากรู้เหมือนกันว่าจะจูบห่วยกว่าเดิมมั้ย ”
“
เดี๋ยวรู้เลย ”
วินาทีนี้ไม่ว่าใครก็ฉุดพวกเขาที่โผเข้าจูบกันไว้ไม่อยู่
ชานยอลรั้งต้นคอคนตัวเล็กกว่าเข้ามาใกล้แล้วขยี้ริมฝีปากลงไปอย่างร้อนแรง
เขาจะทำให้แบคฮยอนรู้ซึ้งว่าการยั่วเย้ากับเสือหิวอย่างเขามันจะเป็นยังไง
ชานยอลเบียดแบคฮยอนติดผนังและช่วงชิงความหวานติดลิ้นมาโดยไม่เกรงใจเจ้าของ ลิ้นเล็กหลบหลีกไปมาซุกซนจนเขาชักจะหน้ามืดตามัวขึ้นมาบ้างแล้ว
“
อืออออ ”
ภายในห้องเงียบสงบถูกเติมเต็มด้วยเสียงน่าเขินอายของจูบห่วยๆ
ที่อีกคนว่าไว้ พวกเขากอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างดุเดือดให้สมกับที่ห่างกันมานานหลายเดือน
ชานยอลรุกไล่ส่วนแบคฮยอนก็ไม่ยอมแพ้ และเป็นเพราะจูบห่วยๆ
อีกนั่นแหละแบคฮยอนถึงได้ทำตาปรือขนาดนี้
พวกเขาแลกจูบกันเอาเป็นเอาตาย
ลิ้นเกี่ยวกระหวัดแนบแน่นและร้อนจนเหมือนจะหลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกัน
ชานยอลปล่อยให้ตัวเองถูกผลักจนหงายล้มลงบนเตียง กลิ่นประจำตัวของแบคฮยอนหอมฟุ้ง
มันทำให้เขาอิ่มเอมใจอย่างน่าประหลาดหลังจากที่ต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากอีกคนมานาน
“ อ่า...แบคฮยอน ดื้อจังเลยวันนี้
”
“
เงียบๆ ซี่ ”
จะให้เงียบยังไงไหวในเมื่อมีคนน่ารักนั่งคร่อมอยู่บนตัวป้อนจูบให้ถึงที่ เขาเว้าวอนในใจเงียบๆ
ชานยอลครางต่ำในลำคอ เขาแกล้งดูดลิ้นเล็กแรงๆ หนึ่งทีแต่แบคฮยอนก็ดูชอบใจเหลือเกิน
เขาตวัดตัวขึ้นคร่อมคนตัวเล็กเมื่อปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นผู้นำมานานเกินเหตุ
กลีบปากบางแดงช้ำและเลอะด้วยน้ำสีใสหลังจากพวกเขาตะบี้ตะบันจูบกันมานานหลายนาที
แบคฮยอนเผยอริมฝีปากออกน้อยๆ
เหนี่ยวรั้งไม่ยอมให้จูบของพวกเราสะดุดลงแม้แต่วินาทีเดียว
จูบนี้ทำให้ชานยอลนึกถึงตอนที่เขากับแบคฮยอนเลยเถิดมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันครั้งแรกในตอนฤดูใบไม้ผลิชั้นไฮสคูลปีสุดท้าย
วันนั้นอากาศสดใสเหมือนวันนี้ พวกเขาเริ่มต้นกันที่จูบเหมือนทุกครั้งและเกินเลยไปถึงการได้จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของแบคฮยอน
ผิวเนื้อ เสียงหัวใจที่ดังตุบตับข้างในอกซ้าย และฝ่ามือของแบคฮยอนที่วางหมิ่นเหม่อยู่บนขอบกางเกงของเขา
เหมือนกับตอนนี้
“
เราไม่หายโกรธนายง่ายๆ หรอกนะ ปาร์คชานยอล นายจะต้องจำวันนี้ไปจนตาย
”
เขาหลับตาลงเมื่อได้ยินเสียงซิปกางเกงถูกรูดลง
สายลมข้างนอกพัดผ่านหน้าต่างที่เปิดเอาไว้หอบเอากลิ่นหอมของดอกไม้มาด้วย
แสงแดดอ่อนๆ
ในช่วงสายพาดผ่านใบหน้าจิ้มลิ้มของแบคฮยอนทำให้ดวงตาและผมสีน้ำตาลในโทนเดียวกันนั้นดูเจิดจ้า
ลมหายใจชานยอลสะดุดขาดเป็นห้วงๆ
รู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่รินรดในระยะประชิดอย่างน่าหวาดเสียว
และนั่นแหละ...แบคฮยอนแสยะยิ้มร้ายได้สมกับความแสบสันของเจ้าตัว
ปั่นหัวชานยอลจนเขาแทบจะบ้าตายอยู่รอมร่อ
“ แบคฮยอน.... ”
“
… ”
แค่ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามใจแบคฮยอนซะ
ชานยอลคงจะจำวันนี้ไปจนตายเลยจริงๆ
นั่นแหละ
ความคิดเห็น