ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    exo「 Call Me Back 」chanbaek

    ลำดับตอนที่ #1 : ฟ อ แ ฟ น 0 0 (re-write)

    • อัปเดตล่าสุด 9 มิ.ย. 59







    00

    Baby, I come back (again)















     

                “ ล้อกันเล่นหรือไงเนี่ย...




                คนที่มีใบหน้าแปะเด่นหราอยู่บนใบประกาศตามหาคนหายครางออกมาอย่างถดท้อ ทั้งสับสนและแสนจะอับอาย ให้หมาดูหมามันยังรู้เลยว่าไอ้คนบนใบประกาศเนี่ยมันรูปเขา! โอเค ชีวิตเขายังปกติดีทุกอย่างแถมยังบอกที่บ้านแล้วเรียบร้อยกับการบินข้ามน้ำข้ามทะเลจากแวนคูเวอร์มาบ้านเกิดเมืองนอน ครอบครัวเขาโอเค แบคฮยอนโอเค แต่ดูเหมือนจะมีคนไม่โอเค

     


     

                ใครมันมาแปะกระดาษโง่ๆ นี่ทั่วโซลกันเนี่ย!

     



     

                “ โอป้าคือพยอนแบคฮยอนใช่มั้ยคะ?




                สาวน้อยวัยมัธยมสองคนยืนประกบข้างแบคฮยอนที่ยืนหน้าซีดเป็นกระดาษมาได้เกือบยี่สิบนาทีแล้ว เขาพยายามบังคับมือตัวเองไม่ให้สั่นและจ้องมองใบประกาศตามหาคนหายด้วยสีหน้าเคร่งเครียด




                ไม่ใช่




                “ แต่นี่มันรูปโอป้าชัดๆ




                “ เราหน้าโหล




                “ หึ เหมือนในรูปยังกับแกะเลยนะคะ




                ชักจะไม่ธรรมดาซะแล้ว...แบคฮยอนเบิกตาโตมองสาวน้อยสองคนที่กำลังต่อสายหาใครสักคน หัวใจเต้นตึกๆ ตักๆ กระเป๋าเป้สีแดงใบโปรดถูกสองมือกระชับไว้แน่นเพราะกดดัน ความคิดวุ่นวายตีกันในหัวรู้ตัวอีกทีก็ถูกสาดแฟลชใส่ซะแล้ว




                แชะ!




                “ เฮ้ย! พวกเธอจะมาถ่ายรูปคนอื่นซี้ซั้วไม่ได้นะ! ”




                ตะโกนเรียกร้องสิทธิให้ตัวเองแต่ถูกเมินเฉย แบคฮยอนถูกจับหมุนเป็นลูกข่าง เด็กสาวคนหนึ่งหัวเราะหึๆ กอดอกหรี่ตามองมาราวกับรู้ทัน




                เลิกเฉไฉเถอะค่ะ ทั้งที่กระเป๋ามีปักชื่อพยอนแบคฮยอนตัวโตขนาดนี้แท้ๆ




               

                จัดว่าแย่

     



     

                แบคฮยอนติดแหง็กอยู่บนฟุตบาทมาจะครึ่งชั่วโมงแล้ว เขาวิ่งหนีไปไหนไม่ได้เพราะการกักกันที่แน่นหนา แบคฮยอนเป็นผู้ชายสูงร้อยเจ็ดสิบต้นๆ ที่ไม่ได้มีพละกำลังมากมายอะไร ตัวก็เล็ก ไม่ได้ดูน่าเกรงกลัวถึงโดนผู้หญิงรังแก(?)อยู่แบบนี้ไง




                สาวน้อยสองคนเอากระดาษเจ้าปัญหาขึ้นมากางเทียบกับหน้าของเขาก่อนจะพากันหัวเราะคิกคักมีความสุขต่างจากแบคฮยอนที่หน้าบู้บี้ไปแล้วเรียบร้อย




                โอป้าทะเลาะกับแฟนมาเหรอคะ?




                “ ไม่ เราไม่มีแฟน




                “ โกหกไม่ดีนะคะ




                “ ไม่ได้โกหก




                “ แฟนโอป้าเขาเป็นห่วงมากนะคะ เดินเท้าติดใบประกาศนี่รอบโซลคงจะเหนื่อยแย่เลย




                อะเมซิ่งเกินไปแล้วมั้ย แบคฮยอนจะเอาเวลาที่ไหนไปมีแฟนได้กันเล่าทั้งที่ต้องทำงานพาร์ทไทม์ตัวเป็นเกลียวทั้งวัน บินจากแวนคูเวอร์มาโซลก็ไม่ทันจะครบสี่เดือนด้วยซ้ำ คนรู้จักที่ไหนก็ไม่มี




                เดี๋ยวแฟนโอป้าก็จะมาแล้วล่ะค่ะ ถึงตอนนั้นก็พูดกันดีๆ นะคะ




                “ แต่เราไม่มีแฟนสักหน่อย




                “ อย่าหนีนะคะ! ”




                มือเล็กๆ สองคู่พยายามฉุดรั้งแบคฮยอนเอาไว้ไม่ให้ไปไหนได้สักที แล้วแกะอีกมือเล็กๆ พวกนั้นก็ยังกลับมาหนึบหนับตามตัวเขาได้เหมือนเดิม ชักจะหงุดหงิดแล้วนะ! บอกไปจนคอแหบคอแห้งว่าไม่มีแฟนก็ยังไม่เชื่อกันอีก!




                “ ปล่อยเรา! ”




                “ โอป้าจะหนี! ”




                “ พวกเธอเข้าใจผิดแล้ว เราว่าต้องมีคนแกล้งเราแน่ๆ! ”




                ปาใบประกาศตามหาคนหายนั่นลงพื้นแล้วเหยียบผ่านไปอย่างไม่ไยดี แบคฮยอนสะบัดตัวจนหลุดและรีบเดินหนีไปทางอื่นทันที สาวน้อยสองคนตะโกนโหวกเหวกเรียกยังไงแบคฮยอนก็ไม่หันไปมอง นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย เช้าวันสดใสของแบคฮยอนพังหมดแล้ว!




                กึก




                แบคฮยอนยกมือขึ้นปิดหน้าปิดตาอย่างอับอายกับสายตาของคนรอบข้างที่มองมาอย่างสนใจ ก้าวขาฉับๆ หวังจะเดินหนีไปให้ไกลแต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามที่หวังเลยสักกะนิดเดียว




    รองเท้าผ้าใบสีขาวเก่าๆ ราวกับฝาแฝดของรองเท้าที่แบคฮยอนใส่อยู่ตอนนี้เพียงแต่ต่างกันที่ขนาดหยุดนิ่งขวางทาง ดวงตาเรียมค่อยๆ ช้อนขึ้นมองไล่ขึ้นไปที่ขายาวๆ กับกางเกงยีนส์สีเข้ม ไล่ขึ้นไปอีกช่วงเอวสอบ ไล่ขึ้นไปอีกช่วงแผงอกและไหล่กว้าง ไล่ขึ้นไป...ไล่ขึ้นไปอีก...ใบหน้าของคนที่แบคฮยอนไม่อยากเจอมากที่สุดในกาแล็กซี่




                แบคฮยอน...มารับกลับบ้าน




                โทนเสียงนุ่มๆ พูดแทรกขึ้นมากลางอากาศก็ราวกับว่าเสียงจอแจรอบตัวได้ห่างไกลออกไป แบคฮยอนได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นตึกตักชัดเจนในอก รอยยิ้มกรุ้มกริ่มก็ทำเอาตาพร่าชั่วขณะ ร่างสูงกระแอมไอเล็กน้อยก่อนจะก้าวเข้าหาแบคฮยอนที่เหมือนโดนน็อคกลางอากาศ




                ดอกเดซี่หลายสิบดอกถูกมัดด้วยริบบิ้นสีฟ้าช่อกระจิ๊ดนิดเดียว มันถูกยื่นมาตรงหน้าแบคฮยอน เจ้าของช่อดอกไม้ถูจมูกเล็กน้อยราวกับกำลังเขินอายทั้งที่ทำสีหน้าไม่ยินดียินร้ายใส่แบคฮยอนอยู่แบบนี้




                “ รับไปสิ




                จัดการยัดช่อดอกเดซี่ใส่มือคนอื่นเขาซะเรียบร้อย แบคฮยอนแทบไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอจ้องหน้าอีกคนนานแค่ไหน หวังว่าตัวเองจะตาฝาดแต่ก็ไม่...ไม่ใช่อย่างแน่นอน




                “ กลับบ้านเรากัน มีอะไรจะบอกด้วยถ้ากลับไปถึงแวนคูเวอร์




                “ … ”




                “ ให้ตายสิ ขาผมแทบหักเป็นท่อนๆ ตอนที่เดินติดใบประกาศนี่




                “ … ”




                “ สามเดือนสิบสองวันที่นายไม่อยู่ผมมีอะไรอยากจะพูดเยอะแยะเลยล่ะ




                อุ้งมือใหญ่คว้ามือแบคฮยอนไปกอบกุมอย่างเคยชิน แบคฮยอนไม่ชอบเอาซะเลย เขาดึงมือออกจากฝ่ามือใหญ่และก้าวถอยหลัง กระเป๋าเป้ถูกกระชับแน่นมากขึ้น ริมฝีปากเริ่มคว่ำลง




                กลับบ้านกันนะแบคฮยอน




                “ ไม่! ”




                ความคับแค้นใจที่สะสมมาตลอดหลายเดือนทำให้แบคฮยอนตะปบข่วนใบหน้าแสนดูดีนั่นทันที จะไม่มีการปราณีอะไรทั้งนั้น เสียงร้องโอดโอยไม่สามารถเรียกคะแนนสงสารอะไรจากเขาได้ คนอย่างแบคฮยอนเจ็บแล้วจำ ถือว่ากล้ามากที่กล้าบินมาตามกันถึงที่!




                ไปตายซะ! ”




                “ ผมเจ็บนะ! ”




                “ เราเกลียดนาย! ”




                ช่อดอกไม้ที่แสนบอบบางถูกปาใส่หน้าคนให้จนตกกระจายเกลื่อนพื้น แม้ครั้งหนึ่งจะเคยชมมันว่าสวยนักหนาแต่ตอนนี้แบคฮยอนไม่มีแก่ใจจะแคร์อะไรทั้งนั้น เขาพุ่งไปตบตีคนตัวสูง นึกโมโหที่อีกฝ่ายคิดจะกลับมาก็กลับมาง่ายๆ ซะอย่างนั้น




                เลิกก็เลิกไปเลยสิ! จะมายุ่งวุ่นวายกับเราอีกทำไม! ”




                “ แต่แบคฮยอนทิ้งผม




                “ ไอ้บ้า! นายต่างหากที่ทิ้งเรา! ”




                “ โอเค โอเค แบคฮยอนครับ...ผมรู้ว่าผมมีคนอื่น ผมผิดเอง




                แบคฮยอนต่อยตีสะเปะสะปะโดยที่อีกคนไม่คิดจะขัดขืน พูดมาได้หน้าไม่อายว่ามีคนอื่นทั้งที่คนฟังแทบจะน้ำตาไหล วงแขนกว้างเพียงแค่รวบตัวเขาเข้าไปกอดนิ่งๆ เกยใบหน้าอยู่บนไหล่และพึมพำว่าขอโทษข้างหูซ้ำไปซ้ำมา




                ผมขอโทษ...ผมไม่ดีเอง




                “ ยังจะต้องการอะไรจากเราอีก! ”




                “ ไม่ครับ ไม่เลย...




                ริมฝีปากอุ่นๆ ประทับจูบลงบนหน้าผากผะแผ่ว สัมผัสอบอุ่นที่ทำให้หัวใจเจ็บแปลบในชั่วขณะหนึ่ง แบคฮยอนเอนตัวหนีแต่อีกฝ่ายกลับตามมาจูบมาหอมไม่ลดละ ทำเหมือนคิดถึงเขามากมายทั้งที่วันนั้นทำตัวเฉยชากับเขาอย่างใจร้ายแท้ๆ




                ไป...ฮึก...ไปให้พ้นนะ




                “ ผมขอโทษ




                “ ฮึก...ฮึก...  ”




                “ สามเดือนสิบสองวันที่แบคฮยอนไม่อยู่ผมคิดดีแล้วล่ะ




                “ ฮือออ




                แต่งงานกันดีมั้ยครับ?


     



                อะไรนะ...?

     




     

                แบคฮยอนดันตัวออกจากอ้อมกอดอีกคนทันที ดวงตาแดงก่ำเบิกกว้าง คราวนี้ความโมโหยิ่งเพิ่มขึ้นจนต้องทุบอกแข็งแรงดังอั้ก ใบหน้าจิ้มลิ้มถูกมือใหญ่กุมเอาไว้บังคับให้เผชิญหน้ากัน แบคฮยอนจะรู้ตัวบ้างมั้ยนะว่าหน้าง้ำงอของตัวเองน่ารักในสายตาคนมองมากแค่ไหน




                คิดว่าตลกเหรอ! ”




                “ ผมจริงจัง




                “ … ”




                “ สามเดือนสิบสองวันที่นายไม่อยู่ผมคิดว่าผมทำหัวใจตัวเองหาย




                “ … ”




                แต่ตอนนี้ผมเจอแล้ว

     

               

     






    ฮัลโหลๆ แวะมาพรูฟนิดหน่อยค่ะ หายไปนานมากกกกกกกกก
    จะคัมแบคเร็วๆ นี้แล้วแต่อารมณ์ ฟฟฟฟ 










    (c) Chess theme

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×