ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    exo「 Photos 」krislay chanbaek ft.myeongyeol

    ลำดับตอนที่ #8 : OS ; I’ll see you again

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.46K
      6
      21 ต.ค. 56










    I’ll see you again





     

    I know you but you don’t know me

     

    Your lips are shut tight without a word

     I really want to hear your voice

    When you see me next time, say hello

    I’ll see you again, Mr.Chaplin
     










               ตื่นเช้ามาอากาศก็สดใสแล้ว

              วันนี้เขาจะเปลี่ยนไปจากเมื่อวานรึเปล่านะ?

     

                หน้าต่างบานนั้นอยู่ด้านตรงข้ามนี่เอง ไม่ใกล้แต่ก็ไม่ไกล บางวันถ้าเขาไม่อยู่ก็จะเห็นแต่ผ้าม่านที่นิ่งสงบ บางวันเขาอยู่หน้าต่างก็จะถูกเปิดออกรับลมแล้วอี้ชิงก็จะเจอผู้ชายคนนึงทำหน้าตาเคร่งขรึม ขมวดคิ้ว ริมฝีปากเหยียดตึง ผู้ชายคนนั้นจะนั่งทำงานบนโต๊ะที่มีแต่กระดาษสีขาวซีดน่าเบื่อกองเต็มไปหมด ผู้ชายคนนั้นแต่งตัวเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า นั่งอยู่เฉยๆ ยังดูดี

                อี้ชิงเห็นผู้ชายคนนั้นเพิ่งย้ายมาเมื่อไม่กี่เดือนนี้เอง นิสัยแบบชาวเมืองที่เร่งรีบ นึกสงสัยว่าเขาทำงานอะไรกันนะทำไมถึงชอบทำหน้าเครียดตลอดเวลา อี้ชิงได้ยินใครต่อใครต่างชื่นชมและเรียกผู้ชายคนนั้นว่า มิสเตอร์ฟาน ผู้ชายคนนั้นเหมือนชาร์ลีแชปลินคนโปรดของคุณพ่ออี้ชิงเลยล่ะ แต่งชุดสูทสีดำเนี้ยบทกับหมวกทรงกลมเข้ากัน คิ้วหนาๆ กับหน้าตาเคร่งเครียด ขายาวๆ นั่นมักจะก้าวเร็วๆ เสมอด้วยท่าทางรีบร้อน ถึงจะไม่มีหนวดม้วนๆ แบบนั้นแต่ก็ถือว่าคล้ายมากทีเดียว

               

                วันนี้เขาดูรีบร้อนจังนะ

              จะรีบไปไหนกัน?

     

                อี้ชิงหัวเราะเมื่อนึกได้ว่า...เขาไม่ได้เปลี่ยนไปจากเมื่อวานเลยสักนิด

     

                ร้านขนมปังยังส่งกลิ่นหอมลอยมาตามลม  เด็กหนุ่มร้องเพลงเบาๆ เขากำลังเดินใกล้เข้ามาแล้ว...ทำหน้าบึ้งมาแต่ไกลเชียว อี้ชิงอมยิ้มก่อนจะเปลี่ยนมาคลี่ยิ้มกว้างตอนที่มิสเตอร์ฟานเดินผ่านหน้าไป สิ่งที่อี้ชิงต้องทำทุกเช้าและทุกเย็น ไม่สำคัญเท่าไหร่หรอก

                อรุณสวัสดิ์ครับมิสเตอร์ฟาน

                ทักทายด้วยรอยยิ้มกว้างโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะมีเวลาหันกลับมามองหรือทักทายกลับบ้างมั้ย อี้ชิงเห็นจังหวะการเดินของมิสเตอร์ฟานชะงักไป แล้วทุกอย่างก็วนเวียนแบบเดิม

     

                แผ่นหลังกว้างห่างไป

              ...แต่ไม่มีคำทักทายกลับมาสักคำ

     

                เด็กหนุ่มเพียงแค่ยักไหล่แล้วยิ้มจาง วางถุงขนมปังตรงโต๊ะเล็กๆ แล้วอุ้มเจ้าลูกแมวเหมียวขนฟูฟ่องน่ารักน่าชังขึ้นมาเล่นแทน เสียงทักทายดังขึ้นเป็นระยะอี้ชิงยังรู้สึกว่าวันนี้สดใสพอสมควร เด็กหนุ่มเริ่มร้องเพลงอีกครั้งอย่างไม่เบื่อหน่ายเมื่อนึกถึงใบหน้าบึ้งตึงของคนที่เดินจากไป


     



     

              “ เขาไม่เคยยิ้มเลย ไม่เคยพูด แล้วก็ไม่เคยมองไปรอบตัว

              “ ชีวิตเขาคงมีแค่สีขาวกับสีดำหรืออาจจะสีเทา

              “ เขาเป็นผู้ชายรูปร่างสูง ดูดีมากๆ ในชุดสูทสีดำกับหมวกทรงกลม

                คนพูดก็เอาแต่อมยิ้ม ส่วนคนฟังก็ได้แต่ทำหน้าเหยเก

                เขาคงเป็นผู้ชายที่น่าเบื่อน่าดูเลยนะ

                อี้ชิงซ่อนรอยยิ้มใต้หนังสือเล่มโปรดเหลือให้เห็นเพียงแค่ดวงตาที่แพรวพราว หัวเราะเบาๆ กับสีหน้าของญาติสนิท รู้ดีว่ายังไงก็คงไม่มีใครเข้าใจ เรื่องแบบนี้มันลึกซึ้งมากนะ อธิบายด้วยปากหรือให้เห็นด้วยตาก็ยังรู้สึกไม่เท่าที่อี้ชิงได้สัมผัสเอง

                แต่เขาน่ารัก

              “ ยังไงเขาก็ยังน่ารักเสมอ

     

                ตอนกลางคืนอากาศเย็นสบาย อี้ชิงพาตัวเองออกมายืนตรงระเบียง คืนนี้ดวงดาวพร่างพรายกระจายเกลื่อนท้องฟ้าเต็มไปหมด...งดงามมาก หน้าต่างด้านตรงข้ามถูกเปิดแค่ครึ่งเดียวพร้อมกับผ้าม่านที่ปลิวไสว เด็กหนุ่มชะเง้อมองด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่ผู้ชายในหน้าต่างคนนั้นก็ยังไม่รู้ตัว

                มิสเตอร์ฟาน

                เขาเงยหน้าขึ้นมามอง ดวงตาคมกริบคู่นั้นจ้องมองมานิ่งเฉยค่อนไปทางไร้อารมณ์ ดวงตาคู่นั้นยังกับภาพวาดแน่ะ ใบหน้ายังคงเรียบตึงเหมือนเดิม จะยิ้มก็ไม่ยิ้ม ดูอย่างอี้ชิงสิ ยิ้มจนปากจะฉีกอยู่แล้ว

                คุณดูเครียดจังนะครับ มีอะไรไม่สบายใจรึเปล่า?

                ความเงียบคือคำตอบที่มักจะได้รับเสมอ เมื่อก่อนอี้ชิงคงต้องน้อยใจและหงุดหงิดแน่ๆ แต่ตอนนี้เด็กหนุ่มเพียงแค่ยิ้มและยิ้มอย่างเบิกบานใจ มองหน้าตาดุๆ นั่นแล้วก็ต้องหลุดยิ้มออกมาอีก

                ที่จริงเราก็อยู่ใกล้กันแค่นี้เอง...คุณบอกผมก็ได้นะครับถ้าไม่รังเกียจ

                “ ทำไมคุณยังไม่นอนอีก

                อี้ชิงแกล้งเบิกตาโตอย่างทึ่งๆ ที่อีกฝ่ายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ความเงียบตอนที่เมืองทั้งเมืองหลับใหลทำให้ประโยคเมื่อครู่นี้ยิ่งเด่นชัด มิสเตอร์ฟานยังใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเดิมเมื่อเช้านี้ สูทสีดำวางพาดอยู่ที่เก้าอี้ ดวงตาคู่นั้นจ้องมองอี้ชิงเหมือนตัวประหลาด

                ผมนั่งดูคุณทำงานได้มั้ยครับ?

                “ ...คุณควรจะไปนอนได้แล้ว

                “ ผมนั่งดูคุณทำงานได้มั้ยครับ? ผมไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงทำหน้าเครียดแบบนั้น

                มิสเตอร์ฟานเลือกที่จะไม่ตอบ แน่นอนว่าผู้ชายแบบนั้นคงไม่สนใจมาห่วงอี้ชิงอยู่แล้วล่ะ เวลาเดินผ่านไปช้าๆ อี้ชิงยังนั่งอยู่ที่เดิม มองจากฝั่งตรงข้ามดูอีกคนคร่ำเคร่งกับงานบนโต๊ะรกๆ อากาศเริ่มเย็นลงทุกทีแล้ว อี้ชิงก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมผู้ชายที่ดูน่าเบื่อคนนี้ถึงไม่น่าเบื่อขนาดนั้น

     

                จ้องก็แล้ว มองก็แล้ว มิสเตอร์ฟานก็ยังเป็นมิสเตอร์ฟานคนเดิม

              อึมครึม เคร่งเครียดและน่าเบื่อ

              ...แต่ทำไมอี้ชิงไม่เบื่อที่จะมองสักทีล่ะ?

     

                คุณดูเหมือนมิสเตอร์แชปลินเลยครับ...

                “ ก้าวเท้าเร็วๆ ไปตามถนน ไม่ยิ้มไม่พูด ชอบใส่สูทสีดำแล้วก็หมวกทรงกลม

                “ แต่คุณไม่มีหนวดม้วนๆ แบบนั้นนะครับ

                ภาพที่ได้เห็นในทุกวันเด็กหนุ่มเล่าออกมาได้ชัดเจนไม่มีตกหล่นราวกับเห็นภาพฉายอยู่ตรงหน้า ยิ้มและหัวเราะคนเดียว อี้ชิงเหลือบมองอีกคนที่ยังทำหน้านิ่งเหมือนเดิม ช่างไม่มีอารมณ์ขันซะบ้างเลย เอาแต่นั่งนิ่งไม่พูดไม่จาแบบนั้นน่ะใช้ไม่ได้เลยนะ

                แปลกมั้ยครับ? ผมรู้จักคุณแต่คุณกลับไม่รู้จักผม

                อี้ชิงเท้าคางมองมิสเตอร์ฟาน ระบายยิ้มหวานเต็มใบหน้า

                เราเดินบนถนนเส้นเดียวกัน เวลาเดียวกันแต่คุณก็ยังไม่รู้จักผม

              “ ตอนนี้คุณก็ยังไม่รู้ชื่อผมเลย

                เข็มนาฬิกาเคลื่อนไปที่เลขสิบสองเด็กหนุ่มก็อ้าปากหาว ยอมผละห่างจากระเบียงจ้องมองท้องฟ้าอีกครั้งก่อนจะบอกราตีสวัสดิ์มิสเตอร์ฟานที่ยังก้มหน้าก้มตาเขียนอะไรสักอย่างเหมือนเดิม ท่าทางมุ่งมั่นแบบนั้นอี้ชิงก็ทำได้แค่หัวเราะขบขัน

                ฝันดีนะครับ

                อี้ชิงกำลังจะปิดหน้าต่าง เด็กหนุ่มชะงักชั่วครู่ มิสเตอร์ฟานกำลังจ้องมองมา อี้ชิงขยับไปติดหน้าต่างพลันยิ้มออกมากว้างๆ มิสเตอร์ฟานลุกยืนขึ้นและยังมองมาทางนี้

                มันแผ่วเบาแต่กลับชัดเจน

     

     

                ...ฝันดี

     

     




     

              ไม่มีเช้าวันไหนของอี้ชิงที่ไม่สดใส

              วันนี้ยังคงเหมือนเดิม...มิสเตอร์ฟานเดินเร็วๆ แบบนั้นอีกแล้ว

              ไปไหนอีกนะ?

     

                ถ้าคุณมัวแต่เร่งรีบอยู่แบบนี้อาจจะพลาดอะไรดีๆ ไปนะครับ

                จุ้นจ้านเกินไปรึเปล่านะ? แต่อี้ชิงก็อารมณ์ดีเกินกว่าจะสนใจสีหน้าเคร่งขรึมของอีกคน เด็กหนุ่มยืนส่งยิ้มให้มิสเตอร์ฟานหน้าร้านขนมปังที่ชอบแวะมาประจำทุกเช้า ยิ้มแบบที่ชอบยิ้ม

                โอ๊ะ! อรุณสวัสดิ์เช้าวันจันทร์ครับ

                “ อรุณสวัสดิ์

                “ เห?

                อี้ชิงมองหน้ามิสเตอร์ฟานตาปริบๆ อรุณสวัสดิ์อย่างงั้นเหรอ? อี้ชิงยิ้มค้างอย่างงงงวย ฉับพลันโลกกลับหยุดหมุน ทุกอย่างสงบนิ่งเหลือเพียงแค่ตัวเองกับมิสเตอร์ฟานเท่านั้น ผู้ชายร่างสูงสง่าสวมสูทสีดำกับหมวกทรงกลมดูดีกว่าทุกวัน เจิดจ้ากว่าทุกวัน

     

                เขายิ้ม

              เขายิ้มอย่างงั้นเหรอ...?!

     

                ทุกอย่างกลับสู่สภาพเดิมเมื่อมิสเตอร์ฟานเดินจากไป

                แต่อี้ชิงไม่มีทางเหมือนเดิม...ไม่มีทาง

     

                วันนี้เขายิ้มด้วยล่ะ เป็นครั้งแรกที่เห็นเขายิ้ม

                “ ยิ้มเดียวทำให้เขาดูเจิดจ้าและสว่างไสวยิ่งกว่าเทวดาอีก

                “ เขาไม่ใช่ผู้ชายเคร่งเครียดแล้ว… ”

                “ ไม่มีทางหรอก! ”

                เสียงคัดค้านจากญาติคนสนิทก็ไม่อาจทำให้อี้ชิงหงุดหงิดใจได้อีกนอกจากยิ้มบางเบา

                เขามีอะไรซุกซ่อนอยู่รึเปล่านะ?

     




     

                “ ในใจคุณคิดอะไรอยู่เหรอครับ...ใต้ใบหน้าเคร่งเครียดแบบนั้น

                “ ...

                “ ผมอยากรู้จักคุณมากกว่านี้

                “ หึ

                “ บอกผมหน่อยได้มั้ยครับ?

                ปากขอร้องแต่สายตากลับจับจ้องไปที่ท้องฟ้า เป็นอีกคืนที่อี้ชิงมานั่งมองมิสเตอร์ฟานสลับกับท้องฟ้ายามค่ำคืน กลิ่นชาหอมๆ ลอยอบอวลไปในอากาศ ขณะเดียวกันอี้ชิงก็ได้กลิ่นกาแฟมาจากฝั่งของมิสเตอร์ฟานเหมือนกัน ความเงียบแสนสงบเป็นใจให้อี้ชิงได้นั่งเปิดใจกับมิสเตอร์ฟานนิดหน่อย

              คุณช่างสงสัยนะ...แต่สงสัยมากเกินไป...ก็ไม่ดี

                “ ก็ผมอยากรู้นี่ครับ คุณคิดอะไรอยู่เหรอครับตอนนี้?

                เขาเลือกที่จะเงียบใส่อี้ชิงอีกแล้วสินะ เด็กหนุ่มจ้องมองท้องฟ้า มองดวงดาวที่เกลื่อนกระจายและส่องแสงวิบวับ รอยยิ้มรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวันปรากฏขึ้นอีกครั้ง อี้ชิงเห็นมิสเตอร์ฟานมองมาด้วยดวงตาคมกริบคู่นั้น อี้ชิงมองกลับแต่ไม่มีใครเสหลบ

                ความลับคือความลับ

              “ ถ้าบอกใครมันก็ไม่ใช่ความลับ

                เด็กหนุ่มขมวดคิ้วน้อยๆ รอยยิ้มเต็มไปด้วยความประหลาดใจ อี้ชิงยังคงใคร่รู้ เขาอยากรู้จักมิสเตอร์ฟานมากกว่าที่สังเกตในทุกวัน อี้ชิงเห็นดวงตาคู่นั้นส่องประกายแวววาวยิ่งกว่าดวงดาวซะอีก ร่างสูงลุกจากเก้าอี้ทิ้งให้เห็นเพียงแผ่นหลังกว้าง

                คุณไม่อยากรู้หรอก


     

              เช้าวันนี้ยังคงสดใสเหมือนเดิม

              แต่ดวงตาคมกริบคู่นั้นกลับแปลกไปกว่าเดิม

     

                ห้องทานอาหารเคยมีคนแค่ไม่กี่คน มีคุณพ่อ คุณแม่ แบคฮยอน และอี้ชิง เด็กหนุ่มพบว่าตัวเองกำลังทำหน้าตาประหลาดใจสุดๆ และยิ้มกว้างสุดๆ ตอนที่เดินเข้ามาแล้วเห็นร่างคุ้นตาสวมชุดสูทสีดำเนี้ยบนั่งอยู่ด้วย มิสเตอร์ฟานยังคงทำหน้าเคร่มขรึม มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่ดูสดใส

                แบคฮยอนจ้องหน้ามิสเตอร์ฟานราวกับจะมองทะลุทะลวงให้เห็นภายใน ไม่ได้หรอก...อี้ชิงลองมาหมดทุกวิถีทางแล้ว สุดท้ายมื้ออาหารเช้าก็เริ่มขึ้น อี้ชิงเลือกที่จะเงียบฟังบทสนทนาระหว่างคุณพ่อกับมิสเตอร์ฟาน พวกเขาพูดเรื่องการเมืองและเศรษฐกิจ

               

                มีหลายครั้งที่พวกเขาสบตากัน

              ไม่สิ...เขามองมาต่างหาก

     

                เรื่องที่มิสเตอร์ฟานจะไปทางใต้น่ะ...ไปถึงไหนแล้ว

                “ แค่จัดการอะไรนิดหน่อยครับ อีกไม่นานทุกอย่างจะเรียบร้อย

                “ ทำไมคุณไม่อยู่ที่นี่ถาวรไปเลยล่ะ?

                มิสเตอร์ฟานเงียบไปสักพัก อี้ชิงลอบมองอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกวูบโหวงนิดหน่อยในใจ มิสเตอร์ฟานมาที่นี่ไม่นานและกำลังจะจากไปในที่ห่างไกล คราวนี้พวกเขาสบตากันจริงๆ จังๆ อีกครั้ง ใบหน้าเรียบเฉยยังเหมือนเดิม อี้ชิงก็ยังมีรอยยิ้มแบบเดิมๆ

                ที่นี่คนพลุกพล่านเกินไป ผมอยากไปที่สงบๆ หน่อยครับ

                “ อย่างงั้นเองเหรอ...

                “ แต่ทางใต้มันหนาวมากนะครับ

                ทุกคนมองมาเป็นตาเดียว ทุกคนมองอี้ชิงอย่างสงสัย เด็กหนุ่มเพียงแค่ยิ้มจางๆ ยกชาขึ้นจิบเชื่องช้า มิสเตอร์ฟานเองก็มองมา

                ทำไมคุณไม่ไปเวนิสล่ะ ที่นั่นสงบแถมยังติดแม่น้ำด้วย วันไหนเบื่อคุณก็ล่องเรือได้นี่ครับ

                “ อี้ชิง! พูดจาไร้สาระ! ”

                “ ก็ผมพูดจริงนี่นา ทางใต้หนาวมากจริงๆ นะครับ

                “ มิสเตอร์ฟานต้องเหงามากแน่ๆ เลย

                ทุกคนชะงักนิ่งไปเมื่อมิสเตอร์ฟานยิ้ม เป็นรอยยิ้มบางเบาบนใบหน้าแต่ชุดเจนเหลือเกิน ...เขายิ้มอีกแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะชอบการจากลาไปในที่ไกลๆ มากเลยนะ

                ผมไม่เหงาหรอกครับ...ผมไม่ได้ไปคนเดียว

                

     

     

     

     

                “ เขามีคนรักแล้วงั้นเหรอ? ทำไมฉันไม่รู้ล่ะ?

                “ อี้ชิงอกหักแล้ว

               

              อย่าพูดอย่างนั้นสิ...ไม่ใช่สักหน่อย

              วันนี้อี้ชิงยังมีความสุขดีเหมือนเดิมนั่นแหละ

     

                ฉันแค่สงสัยน่ะ...คนรักของเขาจะเป็นแบบไหนนะ? เธอต้องเป็นผู้หญิงที่ดีมากแน่ๆ

                “ เธออาจจะเป็นพวกผู้หญิงพูดมากก็ได้นะ เพราะผู้ชายคนนั้นไม่ค่อยพูดไง

                “ แต่เขาน่ารักนี่นา คนรักของเขาต้องน่ารักไม่แพ้กันสิ

               

                ความรักที่ดีคือการได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข

              ...มันก็เป็นอย่างนั้นแหละ

     

                “ คุณกำลังจะไป...

                ไม่รู้หรอกว่าเขาจะฟังอยู่รึเปล่า อี้ชิงเท้าแขนกับระเบียง มิสเตอร์ฟานยังคงนั่งก้มหน้าก้มตากับกระดาษอยู่ที่เดิม เด็กหนุ่มหัวเราะเบาๆ กับสีหน้าเคร่งเครียดนั่น

                ถ้าคุณไปแล้วผมจะมองใครดีครับ ไม่มีใครมีหน้าตาเคร่งเครียด เดินเร็วๆ รีบเร่งแล้วก็แต่งชุดสูทสีดำกับหมวกทรงกลมเหมือนคุณนี่ครับ...

                “ แต่ผมคงจะไม่รั้งคุณไว้หรอก ผมจะอวยพรให้คุณโชคดีกับการเดินทางนะครับ

                “ คุณจะฟังคำขอของผมแล้วตอบกลับมาได้รึเปล่าครับ

                มือเรียวยาวไม่ได้เขียนอะไรอีกแล้ว มิสเตอร์ฟานยังคงนิ่งเงียบ แต่อาการนิ่งเงียบนั้นคล้ายจะบอกว่าเขากำลังฟังอยู่เงียบๆ เช่นกัน อี้ชิงยิ้ม

                ช่วยทักทายกันหน่อยนะครับ ไม่ว่าจะพรุ่งนี้หรือตอนไหนที่เราเจอกัน

              “ ผมอยากได้ยินเสียงคุณนะ

               

                แผ่นหลังกว้างหายลับไปช้าๆ

              คืนนี้อี้ชิงน่าจะฝันดีนะ...

     

              แล้วเจอกันใหม่นะครับ

     







                ร่างสูงสวมชุดคลุมสีดำกลืนไปกับความมืดยามค่ำคืน อากาศหนาวเย็น ในซอกซอยเล็กๆ มีใครอีกคนรออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว เขาเร่งก้าวเดินไปหยุดตรงหน้าผู้หญิงร่างผอมบางในชุดโค้ทตัวหนา เธอหันมาส่งยิ้มให้พร้อมกับอ้อมกอดอบอุ่นที่ได้รับเสมอ

                คิดดีแล้วใช่มั้ย...

                เป็นคำถามที่เหมือนลังเลหากแต่ใบหน้านั้นกลับระบายยิ้มดีใจ

                “ ดีที่สุด ฉันตัดสินใจแล้ว

                “ ไม่ต้องห่วงนะ ไม่เป็นไร...ทุกอย่างจะต้องโอเค

                พวกเขากอดกันอีกครั้งท่ามกลางสายลมเย็น ซองเอกสารสีน้ำตาลถูกซ่อนในเสื้อคลุมอย่างดี เธอยิ้มให้เขา เขายิ้มให้เธอ ก่อนจะจากลากันแล้วสักวันคงกลับมาพบกันใหม่

               

                ...ทุกอย่างจะต้องดีขึ้นแน่นอน

              จะไม่มีอะไรผิดพลาด

     

                ขอบคุณนะ







                เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้น อี้ชิงยืนมองร่างสูงคุ้นตาจากอีกฝากของฝั่งถนน มิสเตอร์ฟานกำลังจะจากไปและคงไม่หวนกลับมาที่นี่อีก อี้ชิงเป็นแค่คนรู้จัก มากที่สุดที่ทำได้คือการบอกลาและอวยพรขอให้เขาโชคดีมิสเตอร์ฟานยังคงไม่ยิ้ม ยังใส่ชุดสูทสีดำกับหมวกทรงกลม อี้ชิงยิ้มบางให้กับอีกคนที่กำลังมองมาทางนี้ ขยับริมฝีปากเอ่ยคำอวยพรแผ่วเบา

                โชคดีนะครับ

              “ ผมหวังว่าเราจะได้พบกันใหม่

               

                ...ถึงตอนนี้ช่วยทักทายกันหน่อยนะครับ


     

                อี้ชิงมองอะไรอยู่น่ะ

                “ มองเรื่อยเปื่อย

                “ ฟุ้งซ่านอีกแล้วนะ

                ที่แบคฮยอนพูดมันไม่ผิดหรอก อี้ชิงคิดว่าตัวเองฟุ้งซ่านเกินกว่าที่คิด วันและเวลาผ่านไปทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ทุกเช้าอี้ชิงยังตื่นขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มสดใส เพียงแต่ไม่มีมิสเตอร์แชปลินคนโปรดคนนั้นอีกต่อไปแล้วน่ะสิ มองไปทางไหนก็ไม่เจอใครที่เหมือนสักคน...ไม่มีเลย

                ไปเดินเล่นกันมั้ย?

                “ ...ไปสิ

                บนถนนเต็มไปด้วยผู้คนมากมายในชุดหลากสีสัน หอมกลิ่นอาหารและดอกไม้ เสียงเพลงคลาสสิคเปิดคลอเบาๆ สร้างความเพลิดเพลินได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เด็กหนุ่มสองคนพูดคุยกันเบาๆ หัวเราะเป็นครั้งคราวและแวะเข้าร้านนั้นร้านนี้ อี้ชิงระบายยิ้มเต็มใบหน้า

                แบคฮยอนบอกว่าจะไปดูของที่ร้านทางโน้นสักหน่อยอี้ชิงก็ปล่อยให้ไปแล้วเดินเล่นรอ เด็กหนุ่มฮัมเพลงเบาๆ ก้าวเป็นจังหวะ เสียงฝีเท้าหนักๆ เดินตามมาด้านหลังท่ามกลางคนที่พลุกพล่าน

     

                ดอกไม้สีขาวร่วงหล่นบนพื้นถนน

              ...พร้อมกับร่างของอี้ชิงที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย

     



     

              ทุกเช้าช่างแสนทรมานนักหนา

              ต้องทนให้ดวงตากลมใสคู่นั้นจับจ้อง

              ต้องทนเดินผ่านร่างบอบบางในชุดสีพาสเทล

              ต้องทนฟังเสียงหวานๆ พร่ำบอกอะไรหลายอย่าง

     

              ...ต้องการ ปรารถนา และคลั่ง

              แทบจะระเบิด

     

                หน้าต่างฝั่งตรงข้ามมักจะเห็นร่างบอบบางเดินไปเดินมาราวกับตุ๊กตา จางอี้ชิงที่น่ารัก ไร้เดียงสาอะไรอย่างนี้...รอยยิ้มหวานสดใสกระชากหัวใจให้เต้นกระหน่ำ ร้าวรานจนแทบบ้าที่ต้องหักห้ามใจทั้งที่ใกล้กันแค่เอื้อม แต่ตอนนี้ทุกอย่างกำลังไปได้ดี...ไปได้ดีเชียวล่ะ

                เปลือกตาบางที่หลับพริ้มค่อยๆ กระพริบถี่ๆ เผยดวงตากลมใสแสนซื่อ ผมปล่อยให้เขาค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นนั่งแต่สักพักร่างบอบบางนั่นก็เอนตัวลงนอนอีกครั้งอย่างปวกเปียก ผมกดจูบแผ่วเบาไปทั่วใบหน้าหวานละมุน สูดเอาความหอมจากแก้มนิ่มจนพอใจ

                ใคร...

                “ ลืมกันแล้วเหรอ? ลืมกันลงจริงๆ เหรอจางอี้ชิง?

                เขาไม่มีแรง ใช่...ใช่...ผมรู้ เขากำลังสับสนและสงสัย ผมจับมือเล็กขึ้นมาจูบก่อนจะแลบลิ้นเลียปลายนิ้วขาว เขาสะดุ้งเฮือกก่อนจะเบิกตากว้างอีกนิด ลมหายใจของผมสะดุดค้างตอนที่น้ำเสียงอ้อนอ่อนนั่นเรียกชื่อของผม

                มิสเตอร์ฟาน...มิสเตอร์ฟาน?

               
     

    --------------------
    CUT
    Bio Twitter 

    @I_icedy
    ---------------------







     

            Venice, Italy

                เรือนร่างสูงใหญ่ตวัดเอวบางเข้าหาตัว กลิ่มหอมหวานลอยฟุ้งกระจายไปทั่วในอากาศรอบตัว ใบหน้าหวานละมุนใกล้แค่คืบ ดวงตากลมใสจ้องมองมา รู้ตัวอีกทีเขาก็ดันร่างบอบบางติดระเบียงห้องซะแล้ว จูบเบาๆ ตรงมุมปากหวานจัดแล้วยิ้มพราย

                มิสเตอร์ฟาน

                “ คิดถึงฉันมั้ยอี้ชิง?

                อีกแล้ว...ดวงตากลมคู่นั้นเสหลบ อี้ชิงดันอกอีกคนเอาไว้เมื่อคอเริ่มถูกรุกราน ร่างสูงกว่าครางอย่างขัดใจก่อนจะดึงมือเล็กออกง่ายดาย อี้ชิงแทบจะร้องไห้

                ผม...ผมคิดถึงบ้านมากกว่าครับ

                คำตอบไม่น่าพอใจ ทั้งคนพูดและคนฟังต่างก็รู้ดี มิสเตอร์ฟานยังคงยิ้มแต่กลับเป็นรอยยิ้มที่เยือกเย็นเหลือเกิน อี้ชิงถอยร่นแต่หนีไปได้ไม่ไกลนัก สุดท้ายก็ถูกดึงเข้าไปในห้องมองอีกคนค่อยๆ ถอดเนกไทออกอย่างกดดันอยู่ดี อี้ชิงก้มหน้าต่ำ

                เธออยากไปจากฉันเพราะไม่รักฉันแล้วงั้นสิ

                “ เปล่านะครับ...แต่ผมมาโดยไม่ได้บอกใคร ผมควรจะกลับบ้าน

                “ โธ่...คนเก่งของฉัน

                อี้ชิงยังคงไร้เดียงสาเสมอสินะ น่ารักจริงๆ

     

                เธอคงไม่รู้...

              “ คนที่รู้ความลับของฉันจะรอดไปไหนไม่ได้

                “ ...! ”

                บอกแล้วไงว่าช่างสงสัยมากเกินไปมันไม่ดี

              “ ตอนนี้...เรามาสนุกกันนะคนเก่ง J








       

    แด่...รีดเดอร์ผู้รอคอยอย่างแข็งขันจ้ะ



    ps. ทนคิดถึงคุณแรพเปอร์แป๊บบบ
    ps. อ่านไปเถอะจ้ะ -.,-
    ps. โปรดฟังเพลงไปด้วย และถ้าหาคำแปลของเพลงด้วยจะเข้าใจ
    ps. เลิ้บบบบบ!!


     


     

     

     
    :) Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×