ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    exo「 Photos 」krislay chanbaek ft.myeongyeol

    ลำดับตอนที่ #13 : PHOTOS ; 10 { 100 per. }

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.36K
      11
      21 ธ.ค. 56















    10

     

          

                “ ผมได้ยินมาว่าแบคฮยอนไม่สบายน่ะครับ...แบคฮยอนดีขึ้นรึยังครับ?

                “ แค่ไข้ขึ้นแล้วก็เพลียเองจ้ะ นี่แบคฮยอนโทรไปบอกอี้ชิงเหรอจ้ะ

                “ ครับ ผมตกใจเลยรีบมาทันทีเลยครับ

                “ เจ้าเด็กนั่นมันคงใส่สีตีไข่ให้อี้ชิงมาหาแน่ๆ น่าจับมาตีจริงๆ! ”

                อี้ชิงก็คิดว่าอย่างนั้นแหละ...ขนาดยืนอยู่หน้าบ้านยังได้ยินเสียงแบคฮยอนดังมาถึงข้างล่าง แต่ก็โล่งอกไปที่แบคฮยอนไม่ได้อาการหนักมากอย่างที่คิดไปเอง อี้ชิงโค้งขออนุญาตคุณนายพยอนขึ้นไปข้างบนชั้นสองโดยที่ได้รับรอยยิ้มกลับมา ช่างภาพตัวขาวฝากกระเป๋ากล้องไว้บนโต๊ะกินข้าวก่อนจะเดินไปหาแบคฮยอนบนชั้นสอง ห้องที่มีตัว B เด่นหรามีเสียงพูดคุยจริงๆ

                แบคฮยอนกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียง ที่น่าแปลกใจก็คือเด็กหนุ่มแปลกหน้าที่อี้ชิงไม่เคยพบเจอมาก่อนกำลังนั่งอยู่ข้างเตียงและกำลังบ่นเรื่องรูปของตัวเองที่แบคฮยอนถ่ายออกมาได้ไม่ดีเท่าไหร่

                อะไรเนี่ย นายทำฉันหมดหล่อหมดเลย สโตกเกอร์กระจอกยังถ่ายได้ดีกว่านี้อีก

                “ ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้เลยนะ! นี่ฉันถ่ายจริงจังแล้ว ตั้งใจถ่ายแบบสุดๆ อ่ะขอบอก! ”

                “ อธิบายดีๆ สิ ทำไมต้องตะโกนด้วย นายป่วยอยู่นะ

                “ แล้วมาว่าคนอื่นเขาทำไมล่ะ

                “ ก็นายถ่ายรูปไม่สวยนี่ ไม่มีพรสวรรค์เลยเหอะ

                “ ถ่ายรูปไม่สวยแล้วยังไง? อย่างน้อยคุณปาร์คก็หอมแก้มฉันไปแล้ว! ”

                ช่างภาพตัวขาวยืนติดตรงประตูแอบสะดุ้งนิดๆ กับคำพูดของแบคฮยอน หอมแก้ม? แบคฮยอนหอมแก้มกับเด็กตัวสูงคนนี้แล้ว? อี้ชิงอายุมากกว่าแต่อย่างมากแค่โดนจับๆ แตะๆ นิดหน่อยเอง

     

    พอคิดแล้วมันก็...

    เขิน

     

                 ...

                แบคฮยอนกับเด็กหนุ่มแปลกหน้ายังไม่รู้ว่าอี้ชิงมาถึงแล้วถึงได้เอาแต่นั่งจ้องตากันอย่างนั้น รอยยิ้มมุมปากของเด็กหนุ่มตัวสูงแม้จะจางจนแทบมองไม่เห็นแต่ก็เรียกริ้วแดงจางข้างแก้มช่างถาพตัวขาวได้ อี้ชิงกระแอมไปเล็กน้อยก่อนที่เด็กทั้งสองจะผละออกห่างกันรวดเร็ว

                พี่อี้ชิง! ”

                แบคฮยอนทำท่าจะโผเข้ามาหาจนอี้ชิงต้องรีบเบรกเอาไว้ก่อน ไม่งั้นมีหน้าคะมำ

                ขอโทษที่ไม่ได้เคาะประตูนะ...พี่...เอ่อ...นึกว่าแบคฮยอนอยู่คนเดียว

                “ ตอนแรกแบคฮยอนก็อยู่คนเดียวนั่นแหละ

                พออี้ชิงเหล่ตามองเด็กหนุ่มตัวสูงที่อยู่ข้างๆ แบคฮยอนก็ทำหน้าตาแบบภาคภูมิใจ(มากๆ)ชี้นิ้วไปที่เด็กหนุ่มคนเดิมก่อนจะเริ่มแนะนำอย่างเป็นทางการสุดๆ

                นี่ไง แรงบันดาลใจของแบคฮยอนเหมือนแรพเปอร์ตัวสูงๆ คนนั้นของพี่อี้ชิงอ่ะ

                “ เห?

                “ ปาร์คชานยอลครับ

                เด็กหนุ่มตัวสูงที่ชื่อชานยอลลุกขึ้นโค้งหัวให้อี้ชิงเก้าสิบองศา

                ใช่ๆ คุณปาร์คคนนี้แหละ คุณปาร์คกำลังจะเดบิวท์

                “ เอ๋?

                “ แล้วก็เป็น...

                “ แฟนครับ

                “ ห๊ะ? แฟน?

                “ ไม่ใช่สักหน่อย!!!! ”

     

                ความสัมพันธ์ของเด็กสองคนนี้ทำให้อี้ชิงมึนไปทั้งวันแน่ๆ


     











     

                “ อ้าวจางอี้ชิง มายืนทำหน้ามึนทำไมตรงนี้?

                อี้ชิงหันไปตามเสียงเรียกของคิมแทยอนแล้วเผลอทำหน้าตาเหรอหราให้อีกคนได้หัวเราะใส่ คิมแทยอนยิ้มขำก่อนจะพูดทวนซ้ำอีกครั้ง

                มายืนทำอะไรตรงนี้

                “ คิดอะไรเพลินๆ น่ะ

                “ เพลินมากเลยนะ ถึงกับยืนเหม่ออยู่ข้างตู้กดน้ำเนี่ย คนอื่นเขามอกันหมดแล้ว

                “ จริงเหรอ!? ”

                น่าอายจริงๆ! นี่อี้ชิงเอาแต่คิดเรื่องแบคฮยอนกับแฟนที่ชื่อปาร์คชานยอลจนเหม่อมายืนข้างตู้กดน้ำไม่รู้ตัวเลยเหรอเนี่ย ช่างภาพตัวขาวซ่อนใบหน้าลงกับผ้าพันคอไหมพรมสีส้มหัวเราะเก้อๆ แต่ก็ไม่สามารถปิดแก้มแดงๆ จากสายตาของคิมแทยอนได้เลย

                คิดเรื่องอะไรทำไมแก้มแดง

                “ ...เปล่า

                “ โกหก เดี๋ยวนี่หัดโกหกฉันเหรอห๊ะ?

                “ ไม่มีอะไร อากาศมันเย็น...

                “ นี่จางอี้ชิง...! ”

                คิมแทยอนคุกคามจนช่างภาพตัวขาวถอยร่นไปติดตู้กดน้ำ มองเผินๆ อาจจะเข้าใจผิดได้ว่าเมเนเจอร์ผู้เคร่งขรึมกำลังข่มขู่ช่างภาพชั่วคราวของบริษัท ถ้าไม่ติดว่าช่างภาพชั่วคราวของบริษัทกำลังยิ้มจนตาเป็นเส้นโค้งและหัวเราะคิกคักล่ะก็นะ...

     

                มันดูน่ารักน้อยซะที่ไหนล่ะ

     

                เอ๊ะ!? ข้างนอกเขาวุ่นวายอะไรกันน่ะ

                นี่อี้ชิงไม่ได้จงใจเบี่ยงประเด็นนะ แต่เสียงเอะอะด้านนอกทำให้ทุกคนหันไปมองอย่างตื่นตระหนก อี้ชิงเบิกตากว้างอีกนิดเมื่อเห็นนักข่าวออกันอยู่หน้าตึกเต็มไปหมด มองหน้ากันกับคิมแทยอน อี้ชิงเห็นคิมแทยอนรีบต่อสายหาใครสักคนด้วยใบหน้าบึ้งตึง

                อย่าเพิ่งให้คริสเข้ามา อืม...นักข่าวเต็มไปหมดเลย

                อย่างนี้นี่เอง เพราะวันนี้มีข่าวว่าคริสจะเข้าบริษัทนี่นะ

                ยิ้มอะไรอี้ชิง

                “ ก็คิดว่าดีจังเลยนะที่คุณคริสมีคนให้ความสนใจมากขนาดนี้

                “ ดีตายล่ะสิ สื่อพวกนี้เป็นแรงกดดันนะ เผลอทำอะไรพลาดนิดเดียวคงโดนวิจารณ์อีกยาวแน่ นี่ขนาดแค่ข่าวลือนะ ไร้จรรยาบรรณที่สุด คริสคงยังเข้าบริษัทไม่ได้ไม่งั้นโดนรุมทึ้งเละเทะแน่

                “ แล้ว...แล้วจะทำยังไงล่ะ? ให้ฉันช่วยอะไรมั้ย?

                คิมแทยอนถอนหายใจพรืด ยกมือขึ้นเสยผมอย่างหงุดหงิดใจก่อนจะหันมาส่งยิ้มเครียดๆ ให้ช่างภาพตัวขาวที่ทำหน้าเหรอหรา จางอี้ชิงออกจะเฟอะฟะ...ขืนปล่อยให้ช่วยอย่างที่เจ้าตัวว่าคงได้ไปนอนแบนที่โรงพยาบาลแน่ๆ

                ไม่เป็นไร นายออกไปทางประตูข้างหลังแล้วกัน ระวังด้วยนะ

                “ ...วันนี้คุณคริสไม่มีงานสินะ  

                “ อืม แค่เข้าบริษัทมาคุยเรื่องไปถ่ายแบบที่จีนน่ะ แต่เห็นทีคงเข้ามาบริษัทไม่ได้แล้ว

               

    เพราะเหตุผลนี้แหละทำให้ช่างภาพตัวขาวเกิดอาการเหงาหงอย คุณแรพเปอร์คนดังไม่ได้เข้าบริษัท วันนี้ยังไม่ได้รูปสักรูป อุตส่าห์ตื่นเช้ามานั่งเช็ดเลนส์แล้วสุดท้ายก็ไปรอเก้อ อากาศหนาวจนอี้ชิงต้องหดคอไว้ในผ้าพันคอสีส้มผืนหนานุ่ม ซุกมือสองข้างในกระเป๋าเสื้อโค้ท อี้ชิงเดินเตะหิมะไปตลอดทางที่เดินกลับบ้าน นึกแล้วใจหายที่นึกถึงความอึดอัดและกดดันที่คุณแรพเปอร์คนดังต้องเจอ

     

    แล้วแฟนคลับอย่างอี้ชิงจะทำอะไรได้ล่ะ?

    แค่จะพูดว่า สู้ๆ นะครับ หรือ ผมอยู่ข้างคุณเสมอนะ ยังไม่ได้เลย

     

    ช่วยเขาได้ก็ดีน่ะสิ...เฮ้ออ ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ

    อี้ชิงบ่นพึมพำกับตัวเอง ก้าวขาจะพ้นซอกตึกอยู่แล้วก็ตกใจจนแทบสติหลุดเมื่อโดนดึงเข้าไปในซอกตึก มันรวดเร็วและอุกอาจจนอี้ชิงเกือบจะตะโกนร้องออกมา หลังถูกดันจนติดกับผนังเย็นเฉียบพร้อมกับมืออุ่นจัดที่แนบปิดริมฝีปาก ช่างภาพตัวขาวหลับตาปี๋

    อื้อ! ”

    อี้ชิงพยายามจะแกะมือที่ปิดปากออกแต่สู้แรงไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

    ชู่วววว

    ...!?! ”

    ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้จางอี้ชิงตกใจนะครับ ใจเย็นๆ ก่อน

    ถึงจะว่าอย่างนั้นก็เถอะ ตอนนี้อี้ชิงตกใจยิ่งกว่าเดิมอีกที่จู่ๆ ก็ถูกขวัญใจคนทั้งประเทศลากเข้าซอกตึกแบบนี้ ช่างภาพตัวขาวหอบหายใจแรงๆ และยังคงตกใจกับการกระทำเมื่อครู่ อกกระเพื่อมขึ้นลงหนักหน่วงจนคริสต้องเข้าช่วยลูบหลังอีกแรง

    หายตกใจรึยังครับ?

    อ่า...ครับ

    พอคริสหัวเราะและยิ้มให้ก็เหมือนตาพร่ามัวไปชัวขณะ อี้ชิงพบว่าตัวเองกับคุณแรพเปอร์คนดังยืนอยู่ชิดกันมากเกินไปแล้ว...แถมตอนนี้มือของคุณแรพเปอร์คนดังก็เปลี่ยนจากปิดปากมาจับแถวต้นคอ หัวใจอี้ชิงเต้นแรงยังกับเสกสั่ง

     

    และคริสได้ยินมัน...

    เขายิ้มและยิ้มอีกครั้งให้คนขี้อายที่เอาแต่หลบตา

     

    ยังกับฉากในหนังเลยนะครับ

    เสียงกระซิบพาหัวใจสั่นพร่า เข่าอ่อนจนแทบทรุดลงไปกองกับพื้น จะทำยังไงดี? ตอนนี้อี้ชิงเขินจนทนมองหน้าหล่อๆ ของคุณแรพเปอร์ไม่ไหวแล้ว เขาร้อนตรงแก้มจนแทบไหม้ไปหมดแล้ว!

    ชะ...ช่วยขยับออกไปหน่อยได้มั้ยครับ

    ไม่ได้แล้วครับ พื้นที่มันมีแค่นี้แหละครับ

    อี้ชิงพยายามจะชะเง้อมองไปข้างหลังของคุณแรพเปอร์คนดังแต่ก็ไม่เห็นอะไรเพราะร่างสูงบังจนมิด ช่างภาพตัวขาวเห็นแค่ตรงช่วงอกของคริส รวมไปถึงได้ยินเสียงหัวใจของอีกคนเหมือนกัน

    อ่า...คุณคริสหลบพวกนักข่าวเหรอครับ

    ใช่ครับ กว่าจะหลบมาได้

    แล้วคุณจะไปที่ไหนต่อล่ะครับ อากาศยิ่งหนาวๆ อยู่ด้วย

    เผลอเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายแล้วก็เป็นฝ่ายชะงักหลบตาไปเองอีกครั้ง อี้ชิงเสมองไปทางอื่นทั้งที่รู้แก่ใจว่าไม่เห็นอะไรนอกจากสัดส่วนร่างกายของคุณแรพเปอร์คนดัง แก้มขึ้นริ้วสีแดงเข้มสังเกตได้ง่ายมากซะจนคนตัวสูงที่มองเห็นเต็มตาต้องอมยิ้มอย่างเอ็นดู

    เป็นห่วงกันนี่ครับ

    เอ่อ...

    ฟังแล้วชื่นใจจังน้าาา

     

    อย่ามาพูดแบบนี้ใกล้ๆ ได้มั้ยครับ...

    ตอนนี้อี้ชิงเขินจนไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดส่วนไหนของผ้าพันคอแล้ว

     

    ผมกลับคอนโดไม่ได้แน่ๆ จะเดินเพ่นพ่านกลางถนนหรือนั่งในร้านกาแฟก็คงโดนจับได้

    ฟังดูแย่จังเลยครับ...

    ช่างภาพตัวขาวมองคุณแรพเปอร์คนดังด้วยสีหน้าหงอยๆ เพราะตัวเองช่วยอะไรก็ไม่ได้สักอย่าง นึกแล้วปวดใจแทนนะ คริสต้องเจอวันที่ลำบากมากแน่ๆ

    จางอี้ชิงอยากช่วยผมมั้ยล่ะครับ

    เอ๊ะ ได้เหรอครับ! ”

    ...ได้สิครับ จางอี้ชิงช่วยผมได้มากเลยล่ะ

     

     









     

    เดินไปตามถนนที่มีหิมะปกคลุมจนเป็นสีขาวดูสวยงาม หิมะยังคงตกลงมาเรื่อยๆ อากาศคงจะหนาวกว่านี้ถ้าไม่มีคนตัวสูงมาเดินใกล้ๆ รู้สึกประหม่าเกร็งตัวจนเดินแข็งทื่อเหมือนหุ่นยนต์ ใจอี้ชิงเต้นระบำอย่างดีอกดีใจ สวนใบหน้าก็แต้มสีแดงบนแก้มยังไม่จางหายไป

    ทำไมน่ะเหรอ? เพราะก่อนหน้านี้รับปากว่าจะช่วยคุณแรพเปอร์คนดังที่กำลังเผชิญวันยากลำบากยังไงล่ะ อี้ชิงนี่เหวอไปหลายนาทีเลยตอนที่ได้ยินคำขอกับรอยยิ้มเล็กๆ นั่น

    ไปบ้านจางอี้ชิงกันเถอะ! ’

    ผมอยากดื่มชาอุ่นๆ กับนอนซุกผ้าห่มจังเลย

    พระเจ้าช่วยเถอะ! จะมีใครโชคดีเหมือนอี้ชิงบ้างนะที่มีขวัญใจตัวเองมาขอเที่ยวบ้าน พวกเขาเดินฝ่าหิมะที่ตกโปรยปรายลงมาไม่เร่งรีบอะไรมาก เสียงฮัมเพลงของคริสก็ทำให้อี้ชิงเพลินกับการเดินกลับบ้านไม่น้อยทีเดียว แอบยิ้มปลื้มคนเดียวที่คริสร้องเพลงสดๆ ให้ฟัง

    แอบยิ้มอะไรครับหืม?

    เสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นกลั้วหัวเราะอี้ชิงก็รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แต่คงจะไม่ทันอยู่ดีนั่นล่ะ...ช่างภาพตัวขาวยิ้มเขินๆ พลางเกาแก้ม

                ผมคิดว่าคุณคริสร้องเพลงเพราะดีครับ

                “ ความจริงผมถนัดแรพมากกว่าน่ะครับ จางอี้ชิงชอบแบบไหนมากกว่ากันครับ?

                อี้ชิงเอียงคอคิดตาม ไม่นานนักก็ส่ายหน้าหวือ

                ผมชอบเท่ากันเลยครับ ยังไงก็ได้...ถ้าคุณคริสเป็นคนร้อง

                กึก!

                อยู่ๆ คุณแรพเปอร์คนดังก็หยุดเดินแล้วหันมามองหน้าอี้ชิงซะอย่างงั้น รอยยิ้มหวานปรากฏขึ้นเล่นงานอี้ชิงให้หลงสเน่ห์เรียกได้ว่าหัวปักหัวปำ ช่างภาพตัวขาวยิ้มตอบเบลอๆ ภาพคริสยิ้มมันซ้อนทับกันมั่วซั่วไปหมดจนตาลาย อาการหนักเกินไปแล้ว

                พูดจาน่ารัก...

                ผ้าพันคอสีส้มของอี้ชิงถูกดึงรั้งเข้าไปหาคนตัวสูงกว่า อี้ชิงกำลังสับสน กว่าจะคิดอะไรๆ ออกก็แย่แล้ว...แย่แล้วจริงๆ

               

                สัมผัสนุ่มอุ่นบนปลายจมูก

              ดวงตาคมกริบที่ทอประกายสวยงาม

              ทันใดนั้นใบหน้าอี้ชิงก็ขึ้นเป็นสีแดงยังกับถูกสาดน้ำแดงใส่

     

                ให้รางวัลนะครับ

                “ … ”

                มือเล็กถูกมือใหญ่กอบกุมเอาไว้ ดวงตาหวานใสหลุบมองมือที่ถูกกุมแล้วเงยขึ้นมองคุณแรพเปอร์คนดังด้วยใบหน้าแดงๆ คริสเอามือพวกเขาซุกไว้ในประเป๋าเสื้อโค้ทที่ดูใหญ่และอุ่นกว่าอี้ชิงหลายเท่า ขัดเขินจนจะล้มหน้าคะมำซะแล้ว ปลายนิ้วเรียวที่หยอกล้อกับนิ้วเล็กแสนจะซุกซนและขี้เล่น

     

                คุณแรพเปอร์คนดังผลักอี้ชิงล้มหน้าคะมำลงไปในหลุมรักอย่างจังเลยล่ะ

              ...เขินจัง

     









     

              ล่อลวง

              ตอนนี้ใช้กับคริสได้ร้อยเปอร์เซ็นต์

     

                บ้านจางอี้ชิงเหรอครับ...

                เจ้าของบ้านเพียงแต่พยักหน้ารับ บ้านหลังเล็กดูอบอุ่นและสะอาดสะอ้านตั้งแต่รั้วไปถึงหน้าประตูบ้าน ไอ้พุ่มๆ ที่มีหิมะคลุมจนเป็นสีขาวโพลนนี่คงจะเป็นต้นอะไรสักอย่างที่มีดอกสีสดใสแน่ๆ คริสเดินตามหลังจางอี้ชิงรอให้คนตัวขาวเปิดประตูไขเข้าไปข้างใน

                ...เข้ามา...นะครับ

                เชื้อเชิญแขกอย่างเขาตะกุกตะกักดูน่ารักน่าแกล้งไม่หยอก คริสยิ้มแล้วเดินเข้าไปรับความอบอุ่นในบ้านแต่โดยดี จางอี้ชิงรีบปิดประตูราวกับกลัวใครผ่านมาเห็น สองแก้มแดงก่ำ สายตาหลุกหลิกไปมา ไหนจะการเคลื่อนไหวแข็งๆ เกร็งๆ ที่ไม่เหมือนตอนวิ่งร่อนไปมาตอนแอบถ่ายรูปของเขาเลย

     

                คริสคิดว่าแก้มจางอี้ชิงต้องมีเลือดเยอะแน่ๆ

              เอะอะแดง เอะเอะขึ้นสีตลอด

     

                ภายในบ้านหลังเล็กถูกเน้นตกแต่งด้วยโทนสีอบอุ่น เฟอร์นิเจอร์ก็มีแต่ลวดลายเรียบๆ ทำให้บ้านหลังนี้ยิ่งดูสะอาดตาขึ้นไปอีก คริสทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาโดยมีมือเล็กคอยช่วยรับเสื้อโค้ทตัวหนาไปแขวนไว้อีกมุมนึงของบ้าน ท่าทางเก้ๆ กังๆ นั่นมันชวนมองดีชะมัด

                “ เดี๋ยวผมชงชาอุ่นๆ มาให้นะครับ

                “ ขอบคุณครับจางอี้ชิง

                “ คะ...ครับ

                จางอี้ชิงก็เอาแต่เขิน...ลับหลังคนตัวขาวก็อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นแตะมุมปากตัวเองเบาๆ คริสพบว่าตัวเองกำลังยิ้มกว้าง แรพเปอร์คนดังที่สลัดภาพลักษณ์ไปชั่วคราวเอนตัวนอนยาวบนโซฟานุ่ม และไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่า...ไม่ว่าจะขยับไปทางไหนก็มีกลิ่นหอมเหมือนกลิ่นของจางอี้ชิงลอยฟุ้งไปหมด

                จางอี้ชิงเป็นแฟนคลับของคริส แต่ทั้งบ้านกลับมีแค่รูปถ่ายของเขาใบเดียวตั้งใส่กรอบไว้ตรงโต๊ะตัวกลมสูง เป็นรูปที่นานมากแล้ว วันที่ถูกเขียนกำกับเอาไว้มันนานหลายปีเลยทีเดียว แอบผิดหวังนิดหน่อย ตอนแรกคริสนึกว่าจะเจอรูปถ่ายตัวเองเป็นพันๆ ใบแปะเต็มบ้านของจางอี้ชิงซะอีก

                คริสนอนนิ่งๆ รอให้เจ้าของบ้านยกชามาเสิร์ฟถึงที่ แกล้งหลับตานิ่งแม้จางอี้ชิงจะเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมลืมตา จนกระทั่งมือนุ่มแตะลงมาบนมือเบาๆ แล้วเขย่า คริสถึงลืมตาขึ้นช้าๆ แล้วคลี่ยิ้ม

                เหนื่อยเหรอครับ?

                “ ครับ ก็นิดหน่อย วิ่งตลอดเช้าเลย

                “ งั้นดื่มชาก่อนนะครับ จะได้อุ่นๆ

               

                กอดคนแถวนี้คงจะอุ่นมากกว่าดื่มชานะครับ

              ...แต่แรพเปอร์คนดังไม่ได้พูดออกไป

     

                จางอี้ชิงนั่งจ้องเขาจิบชาตาแป๋ว สายตาคาดหวังสุดๆ ว่าถ้าเกิดเขาดื่มชานี่เข้าไปแล้วจะกลับมามีพลังสดชื่นตามเดิม พอคริสยิ้มสดชื่นให้คนตัวขาวก็ยิ้มตอบอย่างกระตือรือร้น

                ผมนึกว่าจางอี้ชิงจะมีรูปผมเต็มบ้านซะอีก มาเจอผนังว่างๆ แล้วก็แปลกใจ

                คนตัวขาวยิ้มอายๆ หลุบตามองปลายเท้าตัวเองก่อนจะช้อนตามองคริสอีกที ดวงตาหวานๆ ช้อนขึ้นมองแบบนี้เล่นเอาใจแกว่งไปหลายนาที

                ผมไม่อยากเอารูปแปะบนผนังนี่ครับ ผมกลัวสีมันซีด

                “ แสดงว่าจางอี้ชิงมีรูปผมเยอะกว่านี้?

                “ ...ก็เยอะครับ

                พูดอุบอิบทำไม คริสอยากฟังจะแย่

                รูปถ่ายแต่ละรูปสำคัญกับผมมาก ผมจะทะนุถนอมมันครับ มันจะได้อยู่กับผมไปนานๆ

                ถ้วยชาถูกวางลงบนโต๊ะกระจก คริสจงใจเท้าคางจ้องใบหน้าหวานละมุนของคนตัวขาวด้วยสายตาวิบวับ ปฏิกิริยาอย่างที่คาดไว้เป๊ะ จางอี้ชิงเขิน แก้มแดงๆ ก็บอกอะไรได้ไม่ยาก การรุก(จีบ)ของคริสกำลังไปได้สวยงามและคุณช่างภาพตัวขาวก็ไม่เคยปกปิดอะไรได้เลย

                ทำไมจางอี้ชิงถึงตามถ่ายรูปผมล่ะครับ คนอื่นก็มีเยอะแยะ

                “ มันไม่เหมือนกันนี่ครับ

                “ หืม?

                “ ไม่เหมือนกันสักหน่อย...

                ก็ไม่มีใครเหมือนคุณคริสเลยสักคนนี่ครับ

               

                คริสชอบนะ เวลาที่ถูกจ้องมองอย่างแน่วแน่และเทิดทูน

              แววตาไม่เคยโกหกใคร

              จางอี้ชิงทำให้คริสเชื่อชนิดหัวปักหัวปำในวินาทีนั้นเลยล่ะ

     

    บ้านผมอาจจะเล็กไปหน่อยนะครับ

    จางอี้ชิงยิ้มหวาน นั่นเล่นเอาชาร้อนๆ จืดจางไปซะสนิท แรพเปอร์คนดังเพียงแค่ยิ้มบาง บ้านที่มีบรรยากาศเป็นบ้าน และการตกแต่งที่ไม่เยอะเหมือนนิสัยของเจ้าของบ้านไม่มีผิด ไม่ว่าจะมองไปทางไหนทุกอย่างล้วนบกบอกตัวตนของช่างภาพตัวขาวได้ชัดเจน ดีกว่าคอนโดหรูราคาแพงลิ่วที่คริสอยู่ป็นไหนๆ

    ไม่เล็กหรอกครับ

    คิดว่าอย่างงั้นเหรอครับ?

    ครับ...อยู่สองคนคงจะพอดีเลย

     













     

                จางอี้ชิงจะต้องสงสัยมากแน่ๆ ว่าทำไมตัวเองถึงมีสิทธิ์มาส่งคริสขึ้นเครื่องไปจีนได้ คริสเต็มใจให้อภิสิทธิ์นั้นกับคนตัวขาวมาตั้งนานแล้ว จางอี้ชิงยอมมาส่งคริสที่สนามบินด้วยรถคู่ใจแต่ไม่วายเอากล้องคล้องคอมาด้วย แม้ช่างภาพตัวขาวจะพยายามเก็บอาการแต่สีหน้าหงอยๆ ก็ทำให้คริสรู้ว่าจางอี้ชิงไม่อยากให้เขาไปแน่ๆ ไม่พูดไม่จาอีกต่างหาก

                อาทิตย์หน้าเจอกันใหม่นะครับจางอี้ชิง

                “ ครับ

                “ พูดน้อยจัง อวยพรให้ผมหน่อยสิครับ

                ดวงตากลมหวานคู่นั้นจ้องมองมาละห้อยเชียวล่ะ คริสกลั้นยิ้มกับสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ของอีกคน อย่าบอกนะว่าตอนคริสบินไปต่างประเทศจางอี้ชิงทำหน้าตาแบบนี้ตลอดน่ะ...น่ารักชะมัด

                ขอให้เครื่องบินไม่ตกแล้วคุณคริสกลับมาอย่างปลอดภัยก็พอแล้วครับ

                เครื่องบินน่ะไม่ตกหรอกครับ...

                “ ...

                แต่หัวใจผมตกอยู่ที่จางอี้ชิง ช่วยเก็บมันเอาไว้จนกว่าผมจะกลับมาได้มั้ยครับ?

                ดวงตาคู่นั้นเบิกกว้างพร้อมกับแก้มแดงๆ สองข้าง ช่างภาพตัวขาวยกมือขึ้นปิดปากตัวเองแล้วผงะไปชิดประตูรถ ดูเหมือนกระต่ายตื่นตูมดีนะ แรพเปอร์คนดังแกล้งทำหน้าเศร้าได้สมราคาที่เล่นละครมาแล้วหลายเรื่องรีบหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง

                จางอี้ชิงไม่อยากเก็บไว้เหรอครับ...

                “ ผม...

                “ ไม่เก็บจริงๆ เหรอครับ?

                เอ่อ...ครับ! ผมจะเก็บหัวใจคุณคริสไว้ให้ครับ แล้วอย่าลืมทวงคืนนะครับ

               

                ดูเหมือนว่าจางอี้ชิงจะอัพเลเวลของตัวเองขึ้นเรื่อยเลยนะเนี่ย

              น่ารักไม่ไหวไปแล้วนะ

     

                กอดกันหน่อยสิครับ

                “ หา!? กอด!? ผมว่ามันมะ...

     

                หมับ!

     

                ปฏิเสธไปก็เท่านั้นแหละนะ ในรถที่ติดฟิล์มหนาพอควรทำให้คริสไม่ต้องมาคอยกังวลว่าจะมีปาปารัซซี่หรือใครผ่านมาเห็นมั้ย เขาจะกอดจางอี้ชิงก็กอดได้อย่างที่ใจนึก ช่างภาพตัวขาวนิ่งเกร็งให้แรพเปอร์คนดังดึงไปกอดอย่างเอาแต่ใจ รู้สึกเหมือนมีไอร้อนพวยพุ่งออกมาจากใบหน้า

                กอดกันนะครับ ผมจะหายไปตั้งอาทิตย์นึงเลยนะ

                “ อื้อ...ก็...

                “ ...นะครับ

                สุดท้ายคนตัวขาวก็พยักหน้ารับยอมโอนอ่อนให้คริสกอดรัดเอาไว้ สองแขนเล็กที่เอื้อมมากอดตอบทำให้หัวใจคริสพองฟู เขาคลี่ยิ้มชื่นแล้วกดจูบบนหน้าผากเนียน จางอี้ชิงสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะรู้ตัวรีบมุดหน้าหนีลงไปกับหัวไหล่ของคริสอย่างเขินอาย

                ผมไปส่งคุณคริสได้เหรอครับ

                “ ผมอยากให้ไปส่งใครจะทำไมล่ะครับ

                “ คิก...คิก...

     

                หัวเราะแบบนี้ชอบใจก็บอก





             

                อ้าวจางอี้ชิง? ทำไมมากับคริสได้ล่ะ? มาส่งเหรอ?

                พี่เฮนรี่ดูแปลกใจนิดหน่อยที่เห็นช่างภาพตัวขาวเดินตามคริสมาต้อยๆ ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาอย่างนึกเอ็นดูเมื่อหน้าหวานๆ ของจางอี้ชิงนั้นแดงเถือกไปหมด

                ครับ ผมมาส่ง

                “ แปลกจัง ปกติเห็นเอาแต่แอบมาส่ง พัฒนาขึ้นนะเนี่ย

                คริสหันไปยิ้มล้อเลียนใส่คนตัวขาวก็ร้อนตัวรีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธพัลวัน ไม่แนบเนียนเอาซะเลย จางอี้ชิงจับกล้องตัวเองแน่นคล้ายทำตัวไม่ถูก

                อีกสิบห้านาทีเครื่องจะออกแล้ว

                เสียงเตือนของพี่เฮนรี่ทำให้จางอี้ชิงสบตาคริสอย่างหงอยเหงาอีกครั้ง

                ถ่ายรูปผมตอนขึ้นเครื่องหล่อๆ นะครับ

                “ ครับ

                “ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับ เหมือนเด็กๆ จังเลยน้าาา

                “ เดินทางปลอดภัยนะครับ

                ใจจริงคริสอยากจะกอดคนตัวขาวสักทีเหมือนกันนะ แต่ทำตอนนี้ไม่ได้แล้วเพราะคนเริ่มเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ จนแออัด คริสหันมามองข้างหลังอีกครั้ง ดบกมือและยิ้มให้ใครอีกคนผ่านเลนส์กล้องและแสงแฟลชวูบวาบเหมือนหัวใจของคริสตอนนี้

                คิดถึงกันหน่อยนะครับ

               

                คิดถึงเยอะๆ เลยก็ดีนะครับ

              เพราะผมเองก็คงจะคิดถึงจางอี้ชิงมากแน่ๆ

     

                ตอนแรกคริสก็ไม่คิดว่าคนตัวขาวแถมยังขี้อายระดับแอดวานซ์จะตอบกลับมาหรอกนะ แต่ทุกอย่างย่อมเกิดขึ้นได้เสมอนั่นแหละ...จางอี้ชิงลดกล้องลงเล็กน้อย ทำท่าเอามือป้องปากตะโกนท่ามกลางแฟนคลับที่เริ่มมารุมล้อมออกันเต็มไปหมด

                คิดถึงนะครับ! ”

     

              คริสพบว่าตัวเองยิ้มกว้างท่ามกลางเสียงกรี๊ด

              มีคนเป็นร้อยเป็นพันแต่เกิดอาการ...

     

              เห็นจางอี้ชิงแค่คนเดียว

     

              เอ? ความรักบังตารึเปล่านะ?

                

     
















     


       

    ไม่แต่งดราม่านะ เผอิญว่าโลกสวย
    ไม่ต้องกังวลนะ ไม่มีหักมุม


    ฉันบอกไปแล้วไม่ใช่รึไงว่า #ฟิคโฟโต้  

     

     
    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×