คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ฟ อ แ ฟ น 0 3
03
Please forgive me, baby.
( ดีกันนะครับ )
จะมีสักกี่คนที่ทำแฟนหาย
นั่นมันโคตรจะซื่อบื้อเลย
ใช่ ปาร์คชานยอลโคตรจะซื่อบื้อเลย
เขานอนกางแขนกางขาเอกเขนกบนเตียงจ้องมองเพดานนิ่งๆ มาได้พักใหญ่แล้ว เกสต์เฮ้าท์ราคาแพงความเป็นส่วนตัวสูงถูกยึดเป็นฐานทัพชั่วคราวมาได้เกือบอาทิตย์ กระถางดอกคาร์เนชั่นสีโอรสที่เพิ่งซื้อมาจากร้านดอกไม้ใกล้ๆ เกสต์เฮ้าท์บานสะพรั่งท่ามกลางแสงแดดยามสาย
กีต้าร์ตัวโปรดนอนแอ้งแม้งบนพื้นพรม ชานยอลกระตุกยิ้มเล็กน้อยเมื่อหางตาเหลือบไปเห็นลายมือยึกยือบนกีต้าร์ซึ่งลายมือเขาเป็นระเบียบกว่านี้เยอะ อ่า...จนได้สิน่า คิดถึงไอ้หน้าจิ้มลิ้มๆ นั่นอีกจนได้สิน่า ถ้าแบคฮยอนรู้ว่าเขาคิดถึงมากแค่ไหนคงจะใจอ่อนยอมกลับแวนคูเวอร์ตั้งนานแล้ว
ชานยอลเพิ่งบินมาจากแวนคูเวอร์แค่ไม่กี่วัน บินมาแบบกะทันหันเพราะความรีบร้อน ถึงจะเป็นคนเกาหลีแท้แต่โซลก็ถือเป็นอะไรที่ไม่คุ้นเคยเอาซะเลย แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับหนุ่มรักสนุกอย่างเขาเลยสักนิด ไม่อย่างนั้นเขาคงจะหาที่อยู่กับเบอร์โทรของแบคฮยอนไม่ได้หรอก
“ เธอว่าแบคฮยอนจะใจอ่อนเมื่อไหร่? ”
เธอยังคงหันหน้าเข้าหาแสงแดดโดยไม่แม้จะตอบคำถามของชานยอล
“ หนึ่งวัน? สองวัน? สามวัน? หรือสี่ ห้า หก เจ็ดวัน? ”
“ นานกว่านั้นอีกเหรอ? ”
เท้าคางกับขอบหน้าต่างจ้องมองที่ปรึกษาส่วนตัวอย่างเจ้าดอกคาร์เนชั่นสีโอรส พูดเองเออเอง พยักหน้าเองหงึกหงัก แล้วก็พ่นลมหายใจเบื่อๆ ข้างนอกหน้าต่างมีลูกชายเจ้าของเกสต์เฮ้าท์กำลังยกฝักบัวรดน้ำดอกกุหลาบอย่างทุลักทุเลโดยมีเสียงเชียร์จากเจ้าของเกสต์เฮ้าท์อยู่ไม่ขาด
‘ เก่งมาก! เก่งมาก! แบบนั้นแหละ! กุหลาบต้องโตไวแน่ๆ เลยน้า ’
‘ อี้ชิงอ่า! ยิ้มให้กล้องหน่อยสิ! ’
‘ … ’
‘ เดี๋ยวพ่อเก็บไว้ในคอลเลคชั่นให้น้า! ’
นั่นแหละ ชานยอลไม่ได้ให้ความสนใจกับพ่อลูกคู่นั้นสักเท่าไหร่หรอก เขาหันกลับมาสนใจเจ้าดอกคาร์เนชั่นในกระถางอีกครั้ง เคาะนิ้วลงกับขอบหน้าต่างเป็นจังหวะ
“ ไม่ยอมแพ้หรอก ”
ใจแข็งต่อไปเรื่อยๆ เถอะเจ้าดื้อเอ๊ย
ถึงจะชอบขึ้นเสียงใส่ จะทำหน้าจริงจังขับไสไล่ส่งกันยังไง คนอย่างพยอนแบคฮยอนน่ะ...คนที่ชานยอลรู้จักทุกซอกทุกมุมของชีวิตน่ะแค่กระพริบตาเขาก็เห็นเข้าไปในสมองซีกซ้ายซีกขวาแล้ว หึ! คิดว่าเขาจะไม่ทันเห็นไอ้แก้มแดงๆ ตอนโดนจีบ(ใหม่)นั่นหรือไง ปากแข็งจริงๆ นะ
“ น่ารักขึ้นทุกวันแบบนั้นน่ะ... ”
“ ปล่อยไปไม่ได้แล้วล่ะ ”
เจ้าดอกคาร์เนชั่นสีโอรสสดสวยคงจะไม่สามารถตอบโต้อะไรกับเขาได้ ชานยอลลุกขึ้นจากเตียงอย่างสดชื่น หยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมากดยิกๆ แล้วคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย อืม...ดูเหมือนว่าวันนี้เขาจะมีอะไรให้ทำเยอะแยะเชียวล่ะ หลักๆ ก็คงไม่พ้นมาสคอตขนมปังขี้โมโหหน้าร้านเบเกอรี่นั่นแหละ
เตรียมใจไว้ได้เลยเจ้าดื้อ
...
“ ของในตู้เย็นจะหมดแล้ว ใจคอจะกินขนมปังทุกมื้อเลยหรือไงหื้ม? ”
แบคฮยอนยืนเกาะขอบประตูหาวหวอด หลังจากลุกแต่เช้ามืดมาช่วยคุณพี่ฟานฟานอบขนมเขาก็ได้รับอนุญาตให้กลับขึ้นไปนอนได้จนล่วงเลยมาถึงเจ็ดโมงเช้านิดๆ ร้านก็เปิดแล้วแต่สภาพแคชเชียร์พ่วงตำแหน่งมาสคอตยังไม่พร้อมสุดๆ แบคฮยอนถูกจับใส่ผ้ากันเปื้อนแบบงงๆ ผมก็ฟูไม่เป็นทรง ตางี้แทบลืมไม่ขึ้น
“ เย็นนี้จะทำสปาร์เก็ตตี้ซอสนะ ทำแบบอร่อยๆ เลย เพราะงั้นหน้าที่ของนายคือต้องออกไปซื้อของซะ เนี่ย...ซูเปอร์มาร์เก็ตก็รู้จักใช่มั้ยมาอยู่ตั้งหลายเดือนแล้วนี่ ”
“ อร่อยจริงนะ? ”
“ ไม่อร่อยจะยกให้ล้างจานทั้งอาทิตย์เลยดีมั้ย ”
“ แล้วถ้ามันอร่อยล่ะ? ”
“ ก็ลดค่าจ้าง ไหนๆ ก็กินฟรีอยู่ฟรีแล้วนี่เนอะ ”
บ้าอะไรเล่า! หน้าเลือดจริงเจ้าพี่บ้า! แบคฮยอนเกาหัวก่อนจะดึงเงินมาจากมือคนเป็นพี่อย่างอารมณ์เสีย คุณพี่ฟานฟานยัดใบรายการซื้อของลงในกระเป๋าผ้ากันเปื้อนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แบคฮยอนพาสภาพหัวยุ่งๆ ฟูๆ กับตาขีดเดียวเพราะยังไม่หายง่วงเดินปึงปังออกจากร้าน
ซูเปอร์มาร์เก็ตอยู่ไม่ไกลจากร้านเบเกอรี่แต่ก็ไม่ใกล้เช่นกัน สกูตเตอร์ก็ไม่มี จักรยานก็ไม่มี ลำบากเขาต้องเดินเท้าไปกลับอีกและ! ไอ้ที่กินๆ ยัดๆ แต่ละวันเนี่ยไม่คุ้มกับพลังงานที่ใช้ไปเลยสักนิด
“ สปาร์เก็ตตี้...สปาร์เก็ตตี้...อยู่ไหนเนี่ย! ”
“ ซอสมะเขือเทศ ”
“ ไก่ ไก่ ไก่ ”
“ เห็ด เห็ด เห็ด ”
คนมันกำลังง่วงไงสมองเลยไม่ค่อยแล่นเท่าไหร่(?) นี่อ่านใบรายการซื้อของลายมือคุณพี่ฟานฟานแล้วชักจะงงๆ สรุปว่าเขาอ่านไม่รู้เรื่องหรือลายมือคุณพี่ฟานฟานห่วยกันแน่ กระดาษหนึ่งแผ่นเต็มไปด้วยอิโมติค่อนกับข้อความย้ำเตือนเต็มไปหมด ส่วนที่ว่างตรงมุมประดาษ(ซึ่งมีพื้นที่น้อยนิด)เป็นรายการซื้อของกลับไปทำสปาร์เก็ตตี้ซอส
“ หา...ห่าม...ลืม...ฮึ่ย! อ่านว่าอะไรเนี่ย! ”
ไม่รู้ว่าคุณพี่ฟานฟานลืมหรือจงใจจะแกล้งกันแน่ แบคฮยอนอยู่แวนคูเวอร์มาเป็นสิบปีสกิลภาษาอังกฤษอาจจะดีมากแต่ภาษาเกาหลีนี่เขาแทบจะลืมทุกอย่างไปหมดแล้ว อะไรคือเขียนภาษาเกาหลีมาให้? แบบนี้ใครจะไปอ่านออกกันล่ะ
“ พรหมลิขิต ”
“ เฮ้ย! ”
ดวงตาเรียวเบิกโพลงตกอกตกใจเมื่อมีคนโผล่มากระซิบข้างหู แบคฮยอนหันขวับไปทางต้นเสียงด้วยสีหน้าเหมือนเห็นผี ใบหน้าแสนจะดูดีของปาร์คชานยอลลอยไปลอยมาจนน่าหมั่นไส้ พอตั้งตัวได้ก็รีบเก็บสีหน้าแล้วถลึงตามองอีกคนเคืองๆ
“ อะไร! อะไรของนาย! โผล่มาที่นี่ได้ยังไงเนี่ย! ”
“ มีสองขาก็เดินมา ”
“ เอ๊ะ!? อย่าบอกนะว่านายพักอยู่แถวนี้น่ะ เจ้าบ้าโรคจิต! ”
“ อื้ม มันคงเป็นพรหมลิขิตแน่ๆ เลยเนอะJ ”
พรหมลิขิตหรือมีคนจงใจกันไม่ทราบ แบคฮยอนเบ้ปากใส่ปาร์คชานยอลทันที คนอะไรมาเสี่ยวใส่คนอื่นแต่เช้า งานการไม่มีจะทำหรือไงถึงชอบมาวอแวอยู่ได้ น่าโมโหชะมัด
“ มาซื้อของเหรอ? ”
“ ยุ่งน่ะ! ”
“ ถ้าไม่รังเกียจขอผมเดินข้างๆ ด้วยคนได้มั้ย? ”
“ รังเกียจสิ! ”
ไอ้สายตาหวานเชื่อมสื่อความหมายแบบนั้นน่ะทำอะไรเขาไม่ได้หรอก แบคฮยอนเป็นคนจริงนะแถมโหดมากด้วย(?) กะอีแค่มุกหยอดเล็กน้อยเขาไม่สนใจหรอก
ก้าวขาหนีอีกคนไปโดยไม่คิดจะสนใจแต่ปาร์คชานยอลก็ไม่ยอมแพ้เดินตามมาติดๆ เจ้าบ้านี่! มาซูเปอร์มาร์เก็ตควรจะมองหาซื้อของไม่ใช่หรือไง ทำไมปาร์คชานยอลต้องมาตามมองหน้าคนอื่นเขาแบบนี้ด้วย แบคฮยอนส่งเสียงฮึดฮัดสะบัดหน้าหนีก็แล้วอีกฝ่ายกลับทำเพียงแค่อมยิ้มเท่านั้น
“ จะไปไหนก็ไปสิ มาเดินตามคนอื่นทำไมไม่ทราบ ”
ไม่ตอบคำถามด้วยนะแต่กลับถือโอกาสตอนเขาเผลอฉกรายการซื้อของไปหน้าตาเฉย
“ ย๊า! เอาคืนมานะ! ”
“ สปาร์เก็ตตี้ซอสเหรอ? ”
“ ชักจะมากไปแล้วนะปาร์คชานยอล คิดว่าเราโมโหไม่เป็นเหรอ!? ”
“ โอเค โอเค ผมแค่อยากช่วยนายเท่านั้นเอง ท่าทางนายจะมีปัญหากับมันนะ ”
แบคฮยอนกลับมายืนกอดอกทำหน้าง้ำ นี่ไม่ได้รู้ตัวหรอกว่าตัวเองเผลอทำปากเป็ดใส่จนปาร์คชานยอลต้องแอบหัวเราะเงียบๆ ดวงตาเรียวกลอกไปมามองรายการซื้อของยับๆ สลับกับหน้ากวนประสาทของปาร์คชานยอล
“ นายอ่านมันออกหรือไง? ”
ภาษาเกาหลีมาเต็มขนาดนั้น แถมลายมือคุณพี่ฟานฟานยังใช้ไม่ได้อีกต่างหาก
“ ไม่ออกอ่ะ ”
“ นี่นายคิดจะกวน... ”
“ แต่เราไปถามที่พนักงานคนนั้นได้นี่ ไปกันเถอะ ”
พูดเองสรุปเองแล้วก็ดึงมือแบคฮยอนไปจับไม่บอกไม่กล่าว ปาร์คชานยอลพาเขาวิ่งหลบแม่บ้านที่เดินขวักไขว่กันเต็มซูเปอร์มาร์เก็ตอย่างชำนาญ ฝ่ามือใหญ่บีบกระชับเป็นระยะพร้อมไม่ลืมจะเอี้ยวตัวมาส่งยิ้มให้ยังกับตัวเองเป็นพระเอกซีรี่ย์ยังงั้นแหละ
แล้วแบคฮยอนก็ไม่ได้สะบัดมือออกซะด้วยสิ
“ มีอะไรให้ช่วยเหรอคะคุณลูกค้า? ”
แคชเชียร์สาวร้องทักเสียงสดใส แบคฮยอนอ้าปากพะงาบๆ เพราะกำลังปรับลมหายใจให้เป็นปกติ แต่ปาร์คชานยอลก็ถือวิสาสะจัดการทุกอย่างเองเสร็จสรรพ
“ พวกผมอ่านภาษาเกาหลีไม่ค่อยออกน่ะครับ คุณช่วยอ่านรายการซื้อของนี่ให้ฟังหน่อยได้มั้ยครับ? อ้อ ขอยืมปากกาด้วยจะดีมากๆ เลยล่ะครับ ”
“ เอ่อ...ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ ”
แม้เธอจะดูงงๆ ไปบ้างแต่ก็ไม่ได้ใจร้ายปฏิเสธ แคชเชียร์สาวก้มลงไปวุ่นวายกับเคาน์เตอร์สักพักก่อนจะยื่นปากกาให้ปาร์คชานยอล เธออ่านออกเสียงข้อความบนแผ่นกระดาษช้าๆ เพื่อให้สะดวกที่จะเขียนตาม แบคฮยอนมองหน้าปาร์คชานยอลก่อนจะหลุบตามองมือเจ้าหมอนี่ที่ยังจับมือเขาไม่ปล่อย
“ ย๊า...จะเขียนก็ปล่อยมือ! ”
“ แบบนี้ผมก็ถนัดดีอยู่แล้ว ”
ตอบหน้าตายก่อนจะหันกลับไปสนใจฟังแคชเชียร์สาวพูดต่อ แบคฮยอนได้แต่ฮึดฮัดอย่างขัดใจ น่าโมโหเป็นบ้าที่เจ้าหมอนี่โผล่มาช่วยทำตัวยังกับเป็นเจ้าชายทั้งที่เขาก็ช่วยเหลือตัวเองได้อยู่แล้วแท้ๆ และกว่าทุกอย่างจะเสร็จแบคฮยอนก็พบว่ามือของตัวเองนั้นชุ่มไปด้วยเหงื่อ
รายการซื้อของถูกโบกไปมาตรงหน้าเขา ภาษาเกาหลีลายมือคุณพี่ฟานฟานถูกถมดำด้วยปากกาฝีมือปาร์คชานยอลและแทนที่ด้วยภาษาอังกฤษแทน ถึงลายมือปาร์คชานยอลจะค่อนข้างแย่แต่ก็ไม่เลวร้ายเท่าคุณพี่ฟานฟานเพราะอย่างน้อยมันก็อ่านง่ายกว่า
“ ทีนี้ก็ไปเดินซื้อของกัน ”
แบคฮยอนแย่งรายการซื้อของจากมืออีกคนมาถือไว้เอง ถลึงตามองขู่ตามด้วยเบ้ปากใส่
“ ใครบอกว่าเราจะไปเดินกับนายกันเล่า ทางใครทางมัน! ”
“ ใจร้ายอีกแล้วนะ ”
“ เราไม่ได้ขอให้นายมาช่วยสักหน่อย ”
“ ใจร้าย แบคฮยอนใจร้าย ”
มายืนตัดพ้อคนอื่นทำหน้าละห้อยใครเดินผ่านไปมาก็คงจะคิดว่าแบคฮยอนแกล้งหมอนี่แน่ๆ เขาทำเสียงจิ๊จ๊ะหันไปมองหน้าหล่อๆ ของปาร์คชานยอลอย่างขุ่นเคืองใจ
“ ถ้าเราใจร้ายนักทำไมนายไม่หาคนที่ใจดีกว่าเราล่ะ! ”
“ คนที่ไม่เสียงดัง ไม่เอาแต่ใจ คนที่ดีกว่าเราน่ะสักร้อยเท่าน่ะ! อย่างปาร์คชานยอลคงไม่ยากนักหรอกมั้งกะอีแค่หาคนใหม่น่ะ ”
กำปั้นน้อยๆ ทุบลงกลางอกอีกคนดังปึก แบคฮยอนรู้สึกโกรธที่โดนอีกฝ่ายตัดพ้อราวกับเขาเป็นคนผิด เป็นคนทิ้งไปก่อน ทั้งที่ปาร์คชานยอลนั่นแหละเป็นคนเริ่มทุกอย่างแท้ๆ! แบคฮยอนหยิบตะกร้าขึ้นมาฟาดใส่ตัวสูงๆ ไม่ออมแรง
“ ไม่เอาไม่ทำอย่างนี้นะ ”
“ ไอ้บ้า! เราจะ...ฮึก...เกลียดนายไปจนตายเลยคอยดู ”
เจ็บจะตายอยู่แล้ว คนที่หมดรักก่อนอย่างปาร์คชานยอลน่ะจะไปรู้อะไร คิดว่าง่ายนักเหรอที่เขาต้องกลั้นใจเก็บกระเป๋าบินมาเกาหลี แบคฮยอนกลั้นสะอื้นก่อนจะถูกอีกคนดึงเข้าไปกอด ฝ่ามือใหญ่ลูบไปมาเบาๆ ตรงแผ่นหลัง
“ ขอโทษครับ อย่าเกลียดผมเลยนะ ”
ไม่หือไม่อือใดๆ ทั้งสิ้นนอกจากยกแขนขึ้นเช็ดน้ำตาป้อยๆ
“ ผมจะพานายไปซื้อของให้ครบแล้วกลับกันโอเคมั้ย? ”
“ ฉันจะ...ฮึก...ทำเอง ”
“ ผมจะช่วย ”
“ ฮือออ ไอ้บ้า! ”
นอกจากจะทำคนอื่นร้องไห้ตั้งแต่เช้ายังมาทำเนียนคว้ามือคนอื่นไปจับอีก ยิ่งขืนตัวยิ่งโดนกระชับจับกุมไว้แน่น แล้วเขาจะทำอะไรได้อีกนอกจากเดินเช็ดน้ำตาตามหลังอีกคนต้อยๆ มือปาร์คชานยอลข้างหนึ่งใช้เลือกของ มืออีกข้างจับมือแบคฮยอนที่ถือตะกร้าไว้แน่น
ซื้อของตามรายการจนเกือบครบก็พากันเดินมาถึงโซนขายขนม แบคฮยอนสะบัดมือออกจากการเกาะกุมได้สำเร็จก่อนจะพาตัวเองเดินดุ่มๆ ไปยืนหลบภัยตรงมุมแคบๆ ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตรงที่ปาร์คชานยอลยืนเลือกขนมอยู่
“ อยากกินอะไรมั้ย? ”
“ จะกลับร้าน ”
“ อ่า...เสร็จพอดีเลย ”
ได้ยินอย่างนั้นก็ไม่รอช้าที่จะรีบเดินไปทางเคาน์เตอร์โดยไม่รอ แบคฮยอนทำหน้ามุ่ยเหลือบมองปาร์คชานยอลที่เอาของมายืนคิดเงินข้างๆ กันอย่างนึกหงุดหงิดขึ้นมาอีกหน ยิ่งดวงตากลมโตคู่นั้นจ้องมองมาพร้อมกับรอยยิ้มหวานเขายิ่งงุ่นง่าน
สองขาก้าวฉับๆ ออกห่างจากซูเปอร์มาร์เก็ต ถ้าหูไม่ฝาดเหมือนจะได้ยินเสียงฝีเท้าใครสักคนเดินตามมา เหอะ! คงไม่ต้องเดาหรอกว่าจะเป็นใคร พอกันที แบคฮยอนน่ะเหนื่อยกับคนอย่างปาร์คชานยอลจะแย่แล้ว
“ อย่าตามมานะ! ”
ตะโกนออกไปโกรธๆ สองแขนกระชับถุงใส่ของก่อนจะเร่งความเร็วในการเดินมากขึ้น ถึงอย่างนั้นก็แทบเบรกหน้าทิ่มเมื่อจู่ๆ คนที่ไม่อยากสุงสิงด้วยกลับเดินมาตัดหน้า ปาร์คชานยอลเอามือไขว้หลัง คอยดักทางไปของเขาแทบทุกทาง
“ ขอแค่ห้านาที ”
“ ไม่! ”
“ แค่ห้านาที ”
“ ไม่! ”
“ ...นะครับ...นะ ”
จะมาไม้ไหนอีกเนี่ยเจ้าบ้า!
แบคฮยอนหยุดมองท่าทีอีกคนอย่างไม่ไว้ใจเท่าไหร่ เขาได้ยินเสียงกรอบแกรบเหมือนเวลาแกะซองขนมดังมาจากข้างหลังเจ้าหมอนั่น ผ่านไปสักพักปาร์คชานยอลก็ยิ้มเผล่และค่อยๆ เอามือที่ไขว่ไว้ด้านหลังยื่นออกมาตรงหน้าแบคฮยอน ดวงตาเรียวเบิกกว้างมองริงป๊อบ(แหวนอมยิ้ม)ที่อีกฝ่ายยื่นมาให้อย่างประหลาดใจ มันต้องแดดยามสายเป็นเงาวาววับและส่งกลิ่นหอมผลไม้อ่อนๆ ลอยมาตามลม
“ แหวนจริงอยู่ที่แวนคูเวอร์นะรู้ยัง ”
“ ที่บอกว่าอยากแต่งงานด้วยผมพูดจริงนะ... ”
ได้แต่กระพริบตาปริบๆ มองอีกคนคว้ามือตัวเองไปใส่ริงป๊อบให้ที่นิ้งนางข้างซ้ายแบบงงๆ ปาร์คชานยอลยิ้มกรุ้มกริ่มหลุบตามองนิ้วแบคฮยอนที่สวมริงป๊อบอย่างภูมิใจ กว่าเขาจะรู้ตัวก็พบว่าได้ริงป็อบมาหนึ่งวงพร้อมกับจุมพิตเบาๆ บนหลังมือซะแล้ว...
“ เจ้าเนี่ยถือเป็นแหวนหมั้นแล้วกันนะ ”
“ นี่นาย... ”
เล่นอย่างนี้เลยเหรอปาร์คชานยอล?
“ ไว้ถ้าแบคฮยอนหายโกรธผมเมื่อไหร่ค่อยเปลี่ยนไปใส่แหวนจริงนะครับ ”
หวังจะช้อนตาขึ้นมองอีกคนแต่กลับต้องรีบหลับตาปี๋เพราะปาร์คชานยอลจู่โจมก้มมาจูบหน้าผากเร็วมาก...บ้าไปแล้ว แบคฮยอนได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นดังตุบๆ ในอก
“ ดีกันนะ ”
ร้ายกาจเป็นบ้าเลยนะปาร์คชานยอล ไหนบอกว่าขอเวลาแค่ห้านาทีไง ห้านาทีทำได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ? คิดแผนนี้นานมากมั้ยอยากจะรู้นัก
แค่ห้านาทีอันน้อยนิด
แบคฮยอนรู้สึกว่าตัวเองพลาดไปแล้ว
บนทางเดินขวักไขว่ไปด้วยผู้คนบ้างประปราย อากาศเย็นสบายยามสายเริ่มอุ่นร้อนขึ้นเพียงแค่เพราะสายตาคู่นั้นที่ทอดมองมา ริงป๊อบเริ่มละลายเหมือนที่ใจแบคฮยอนกำลังละลายไปกับสิ่งที่ปาร์คชานยอลทำ กลิ่นหอมหวานของผลไม้ลอยมาแตะจมูก หอมหวานมากเหลือเกิน
แม้สิ่งที่ปาร์คชานยอลเคยทำเอาไว้จะสร้างบาดแผลสาหัสแต่เวลานี้แบคฮยอนชักไม่แน่ใจแล้วว่ายังเกลียดปาร์คชานยอลอยู่มั้ย แน่ล่ะ เขาพยายามบอกตัวเองให้ใจแข็งเข้าไว้ ฮึบสู้ ความเสี่ยวจะมาทำอะไรเราไม่ได้เด็ดขาด
แต่ตอนนี้หัวใจแบคฮยอนกำลังละลายเหมือนริงป๊อบที่โดนแสงแดดบนนิ้วมือตัวเอง
ริงป๊อบมุกเด็กประถม
จะทีมชานยอลหรือทีมแบคฮยอนดีง่อวววววว
#ฟิคฟอแฟน
ความคิดเห็น