ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My senior..รักนี้ ต้องรุ่นพี่เท่านั้น

    ลำดับตอนที่ #3 : บังเอิญ

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 55


    Chapter 3

    บังเอิญ

     

                    “ตาล วันนี้อยู่พบอาจารย์ทรงรบก่อนนะ” เจนนี่ เพื่อนในคณะ เดินมาบอกฉัน เมื่อเรียนเสร็จ

                    “ทำไมล่ะ” ฉันถาม พลางทำหน้าสงสัย

                    “ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ อาจารย์ฝากมาบอกอ่ะ”

                    “แกไปทำอะไรมา ตาล ทำไมอาจารย์เรียกพบ” แก้วหันมาถามฉัน ด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

                    “ไม่รู้อ่ะ ก็ไม่ได้ทำอะไรนี่นา”ฉันตอบด้วยน้ำเสียงกังวล เพราะถ้าอาจารย์ทรงรบเรียกใครให้ไปพบ แสดงว่าต้องไปทำเรื่องอะไรมาซักอย่าง แล้วฉันไม่ทำอะไรมาล่ะเนี่ย

                    “สงสัยอาจารย์จะเรียกไปถามเรื่องที่พี่ต้นไปส่งแกเมื่อคืน” เบนพูดขึ้น แล้วหัวเราะ

                    “อิบ้า” ฉันตีที่แขนเบนเบาๆ “นั่นแหละที่ฉันกลัวน่ะ “

                    “ให้ไปส่งมั๊ย ตาล”อ้อมถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงไม่ต่างจากแก้ว

                    “ไม่เป็นไรๆ พวกแกกลับบ้านเถอะ คงไม่มีอะไรหรอก”

                    “ต้องการความช่วยเหลือก็โทรมานะยะ ตาล” เบนพูด แล้วกอดฉันเบาๆ

                    “จ้ะ เจอกันพรุ่งนี้นะ”ก่อนจะโบกมือให้เพื่อนๆ

     

                    ฉันมานั่งรออาจารย์ทรงรบมา2ชั่วโมงแล้ว อาจารย์ก็ยังไม่มา ยิ่งทำให้ฉันกังวลมากขึ้นไปอีก อาจารย์คะ รีบมาเถอะค่ะ ทำแบบนี้หัวใจหนูจะวาย

                    และแล้วอาจารย์ก็มา เย้!!

                    “ณัทชาใช่มั๊ย”อาจารย์ทรงรบพูดขึ้นทันทีที่เดินเข้ามาในห้อง

                    “ค่ะ”

                    “คือที่เรียกมาวันนี้ไม่มีอะไรหรอก แค่จะฝากของไปให้พ่อเธอน่ะ” อาจารย์พูด ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ทำงานตัวโต

                    “คะ?

                    “คือครูกับพ่อของเธอน่ะ เป็นเพื่อนกันมานานแล้ว แต่ไม่ได้เจอกันมานานมากแล้ว พอเห็นนามสกุลเธอ ก็เลยคิดถึงเพื่อน แล้วได้อ่านประวัติของเธอ เลยรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของเพื่อนครูไง” อาจารย์พูดแล้วยิ้ม อาจารย์ก็ไม่ได้ดุอย่างที่คิดนี่นา

                    “อ๋อ ค่ะ” ฉันรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก

                    “เอ้านี่ ฝากนี่ให้พ่อเธอด้วยนะ แล้วบอกพ่อเธอด้วยว่ายังไงครูจะแวะไปหา”อาจารย์ทรงรบยื่นกล่องของขวัญขนาดพอดีให้ฉัน

                    “ขอบคุณค่ะ หนูไปแล้วนะคะ” ฉันยกมือไหว้อาจารย์ แล้วรีบเดินออกมา เพราะเสียงฟ้าร้องที่ดังสนั่น

                    “ว๊า ไม่ทัน ฝนตกซะแล้ว”ฉันบ่นพึมพำเบาๆ แล้วเปิดกระเป๋าหยิบร่มขึ้นมา เฮ้อออ !!! ตกอกตกใจหมดเลย ที่แท้อาจารย์ก็เป็นเพื่อนกับพ่อนี่เอง นึกว่าจะโดนเรียกมาพบ เพราะเรื่องที่พี่ต้นไปส่งเมื่อคืนซะแล้ว

                    แต่จะว่าไป วันนี้ก็ยังไม่เจอพี่ต้นเลยนี่นา  พี่ต้นนะพี่ต้น บอกว่าเจอกันพรุ่งนี้นะครับ แต่วันนี้ยังไม่เจอเลยนะ

                    ฉันเดินออกจากตึก แล้วเดินออกมาตามถนนเล็กๆ เพื่อไปหน้ามหาวิทยาลัย ฝนตกแบบนี้เดินลำบากจัง(วะ) เฮ้อ ทำไมต้องมาตกตอนนี้ด้วยเนี่ย รอให้ถึงบ้านก่อนไม่ได้รึไงนะ

                    เอ๊ะ!!! มีใครมายืนอยู่ตรงมุมตึกตรงนั้นน่ะ มืดขนาดนี้ ฝนก็ตกหนักขึ้นเรื่อยๆ มีเรื่องอะไรรึเปล่าอ่ะ ขอไปดูนิดนึงนะ

                    “เราเลิกกันเถอะ”เสียงผู้หญิงดังขึ้น ก่อนที่ฉันจะเดินไปหลบที่ข้างเสาเสียอีก

    ฉันมองเห็นแต่พี่ผู้หญิงคนสวยคนนั้น ส่วนคนที่ถูกบอกเลิกฉันมองไม่เห็น เพราะมีเสาต้นใหญ่บังไว้ น่าสงสารคนที่ถูกบอกเลิกจังนะ โดนบอกเลิกวันฝนตกแบบนี้ ต้องเศร้าคูณสองแน่ๆ

                    “เมย์ ไม่รักเราแล้วเหรอ” O.Oเสียงนี้ มันเสียงพี่ต้นนี่นา ใช่แล้ว เสียงพี่ต้นไม่ผิดแน่

                    “ต้น เมย์ว่าเราต่างกันเกินไป เรากลับมาเป็นเพื่อนกันแบบเดิมน่ะ ดีแล้ว” พี่ผู้หญิงคนที่ชื่อเมย์พูด โดยที่ไม่หันไม่มองหน้าพี่ต้นเลยซักนิด สงสารพี่ต้นจังเลย

                    “ขอร้องล่ะ เมย์ ให้โอกาสเราอีกครั้งนะคะ” พี่ต้นพูด พลางรั้งแขนพี่เมย์เอาไว้

                    “ต้น ปล่อยเรานะ เราไม่รักต้นแล้ว โอเคมั๊ย” พี่เมย์สะบัดแขนออกจากพี่ต้น แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ พี่เค้าใจร้ายจริงๆ  พี่ต้นไม่ดีตรงไหนนะ ใครๆก็อยากจะเป็นแฟนกับพี่ต้นทั้งนั้น

                    “เมย์ เรารักเมย์นะ ขอร้องล่ะ ให้โอกาสเราอีกครั้งนะ” พี่ต้นพูด แต่น้ำเสียงพี่ต้นคราวนี้ไม่เหมือนเดิม พี่ต้นกำลังร้องไห้ อยู่ๆน้ำตาของฉันก็ค่อยๆไหลออกมา แล้วทำไมฉันต้องร้องไห้ด้วยล่ะ

                    พี่เมย์กำลังจะเดินไป แล้วนั่นก็ทำให้ฉันมองเห็นพี่ต้น พี่ต้นเดินมากอดพี่เมย์จากด้านหลัง ฉันไม่ควรจะยืนอยู่ตรงนี้ ฉันควรจะรีบเดินกลับไป ฉันไม่ควรจะมายืนมองคนอื่นแบบนี้นะ แม้ในใจของฉันจะพยายามบอกให้ฉันรีบเดินออกไปจากที่ตรงนี้ แต่ร่างกายของฉันมันกลับยืนนิ่งอยู่ตรงที่เดิม พร้อมกับน้ำตาของฉันที่ยังไหลอยู่ และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ

                    “ปล่อย !!!! ขอโทษนะต้น เราไม่ได้รักต้นแล้วจริงๆ เรามีคนใหม่แล้ว”

                    พี่ต้นทรุดนั่งลงกับพื้น พร้อมกับเสียงสะอื้นที่ดังแข่งกับสายฝนที่ยังคงตกลงมา  พี่ต้นร้องไห้เพราะผู้หญิงคนนี้  แล้วฉันล่ะ ร้องไห้ทำไม ??

                    พี่เมย์ไม่หันมามองพี่ต้นเลยซักนิด  ก่อนจะเดินไปขึ้นรถคันหนึ่ง ที่จอดอยู่ใกล้ๆ  จากนั้นก็รีบขับออกไป  ทำให้ฉันมองเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่ขับรถคันนั้น ผู้ชายคนนั้นซินะ เป็นคนใหม่ของพี่เมย์

                    ฉันหันกลับมามองพี่ต้นอีกครั้ง พี่ต้นยังคงนั่งอยู่ที่พื้น  ฝนก็ตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย ฉันเดินไปหาพี่ต้นช้าๆ ฉันไม่รู้หรอกนะ ว่าจะช่วยอะไรพี่ต้นได้บ้าง แต่ฉันปล่อยให้พี่ต้นนั่งอยู่กลางสายฝนแบบนี้ไม่ได้

                    ฉันถือร่มยืนอยู่ข้างๆพี่ต้น ฉันไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ ฉันกำลังร้องไห้ไปพร้อมๆกับพี่ต้น ฉันเจ็บปวดไปพร้อมๆกับพี่ต้น ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมถึงเจ็บปวด ไม่รู้ว่าทำไมฉันต้องร้องไห้

                    ฉันนั่งลงข้างๆพี่ต้น พี่ต้นค่อยๆหันมามองหน้าฉัน หน้าของพี่ต้นเปียกไปหมดทั้งหน้า ไม่ว่าจะเป็นน้ำจากฟ้า หรือน้ำจากตาของพี่ต้นเอง ฉันไม่มีแรงแม้แต่จะปลอบพี่ต้น เพราะสภาพของฉันตอนนี้ก็ไม่ต่างไปจากพี่ต้นมากนัก ฉันเอื้อมมือไปเช็ดหน้าพี่ต้นเบาๆ

                    อยู่ดีๆ พี่ต้นก็ดึงฉันเข้าไปกอด ฉันรู้สึกได้ถึงความชื้นที่บ่า พี่ต้นตอนนี้กำลังอ่อนแอมากจริงๆ ฉันทำได้เพียงกอดปลอบพี่ต้น ถ้อยคำมากมายว่าพี่ต้นรักพี่เมย์มากเพียงใด พรั่งพรูออกจากปากของพี่ต้น  และนั่นทำให้ฉันร้องไห้หนักยิ่งกว่าเดิม และฉันก็หาสาเหตุของน้ำตานี่ไม่ได้จริงๆ ว่ามันไหลออกมาเพราะสงสารพี่ต้น หรือเพราะสงสารตัวเอง

                    เราสองคนนั่งอยู่กลางสายฝนตรงนั้นนานเท่าไหร่ ฉันก็ไม่รู้ แต่เมื่อพี่ต้นหยุดร้องไห้แล้ว พี่ต้นกลายเป็นพี่ต้นที่อ่อนแอ ฉันจูงมือพี่ต้นไปที่ห้องสต๊าฟของคณะ โชคดีที่พี่ๆคนอื่นๆ ยังไม่กลับ พี่ๆคนอื่นดูจะตกใจ เมื่อฉันพาพี่ต้นเดินเข้าไป

                    “ไปทำอะไรกันมา ทำไมเปียกทั้งตัวแบบนี้” พี่ผู้หญิงคนหนึ่งถามขึ้น

    ฉันเพียงแค่มองไปที่พี่ต้น พยายามอย่างมากที่จะกลั้นน้ำตาเอาไว้ ฉันไม่อยากร้องไห้ออกมา ในที่ที่มีคนเยอะๆแบบนี้

    ”ช่วยดูแลพี่ต้นด้วยนะคะ ตอนนี้พี่ต้นกำลังเสียใจจริงๆ”  ฉันพูดขึ้นเบาๆ  แม้จะอยากพูดมากกว่านี้ แต่ทำไม่ได้จริงๆ เพราะมันเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่อก มันไม่สามารถพูดอะไรมากไปกว่านี้ได้จริงๆ

                    พี่ๆคนอื่นๆต่างก็เอาผ้าขนหนูมาให้ฉันกับพี่ต้น ในตอนนี้พี่ต้นก็ยังคงไม่พูดกับใครเลย พี่ต้นเอาแต่นั่งเหม่อ ยิ่งเห็นพี่ต้นเป็นแบบนี้ ฉันก็ยิ่งเจ็บปวด

                    ฉันไม่สามารถนั่งอยู่ในห้องสต๊าฟได้นาน เพราะฉันไม่อยากเห็นพี่ต้นในสภาพแบบนั้น ฉันสงสารพี่ต้น แล้วก็สงสารตัวเอง ฉันเดินออกจากห้องเพื่อจะกลับบ้าน โดยไม่ได้บอกลาพี่สต๊าฟเลยซักคน

                    “ตาล อย่าเพิ่งไป เดี๋ยวพี่ไปส่ง” พี่มิว พี่สต๊าฟอีกคนหนึ่งวิ่งตามฉันออกมา

     “เกิดอะไรขึ้นกับต้นกันแน่ ตาล”

                    “พี่มิว ฮือออออ”ฉันกลั้นน้ำตาไม่ได้แล้วจริงๆ ฉันกอดพี่มิวแล้วร้องไห้ตรงนั้น  ฉันไม่สามารถพูดอะไรได้ในตอนนี้ พี่มิวที่ตกใจในตอนแรก กลับค่อยๆยื่นมาลูบหลังฉันเบาๆ และไม่ถามอะไรอีกเลย

     

                    ทันทีที่ถึงบ้าน   พ่อกับแม่ดูจะตกใจกับสภาพของฉันไม่น้อย ต่างก็ถามว่าฉันไปทำอะไรมา ทำไมถึงเปียกแบบนี้  ซึ่งฉันก็ไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่ยื่นกล่องของขวัญที่อาจารย์ทรงรบฝากมาให้พ่อ แล้วก็ขอตัวไปอาบน้ำ

                    ภาพตั้งแต่วันแรกที่ฉันเจอพี่ต้น จนกระทั่งถึงวันนี้ มันไม่นานเลยจริงๆ มันผ่านมาแค่แป๊ปเดียว แต่ทำไมฉันถึงเป็นแบบนี้ ฉันเสียใจเพราะพี่ต้นรักผู้หญิงคนอื่นอย่างนั้นเหรอ หรือเสียใจเพราะสงสารพี่ต้น ...

                     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×