คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : I love him... NO! I love you
หลังจากทาวน์กับก้อยเลิกกันได้ไม่นาน ปาล์มก็กลับเข้ามาในชีวิตของฉันอีกครั้ง วันนั้นเป็นวันศุกร์ที่ฝนตกหนัก นักเรียนหลายคนหลบฝนอยู่ตรงสนามกีฬาในร่มของโรงเรียน รวมทั้งฉันและทาวน์ด้วย ตอนนั้นเองที่ปาล์มเดินเข้ามา และชวนทาวน์ไปคุยอีกฝั่งของสนามกีฬา ฉันไม่ได้สนใจพวกเขามากนักเพราะมัวแต่คุยกับเพื่อนคนอื่นๆ จนกระทั่งทาวน์กลับมา และปาล์มก็ประกาศให้ทุกคนตรงนั้นรู้ว่า เขาจะจีบฉันอย่างจริงจัง !!
ฉันอายแทบแทรกแผ่นดินหนีเพราะในสนามกีฬาตอนนั้นคนอยู่เยอะมาก ปาล์มเดินเข้ามาพร้อมกับยื่นชอคโกแลตรูปหัวใจให้ ก่อนจะรีบวิ่งออกจากสนามกีฬาไป ทาวน์ยังยืนอยู่ตรงนั้น อยู่ข้างๆฉัน และยิ้มให้ฉันแบบที่เขาชอบทำ เพียงแต่วันนี้ฉันสังเกตว่ารอยยิ้มของเขามันแตกต่างไปจากทุกๆรอยยิ้มที่ฉันเคยได้รับจากเขาก็แค่นั้นเอง...
ปาล์มจีบฉันอย่างที่เขาบอกจริงๆ แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำแบบนี้ แต่ครั้งนี้ฉันรู้สึกได้ว่าเขาจริงจังว่าครั้งแรกมาก ปาล์มโทรมาทุกๆคืน และมีของฝากมาทางทาวน์ทุกๆวัน
ฉันยอมรับว่ารู้สึกดีกับการมีใครซักคนมาชอบ มันเป็นช่วงเวลาที่สดใสในชีวิตมัธยม หัวใจจะพองโตทุกครั้งที่เจอหน้ากัน มีความสุขกับการถูกแอบมอง หัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่เขาแอบสอดจดหมายเล็กๆไว้ใต้โต๊ะเรียนพร้อมกับดอกไม้ หรือขนมสีหวาน ในบางวันปาล์มก็ขออาสาไปส่งที่บ้าน ช่วงเวลาที่เดินคุยกันไปจนถึงบ้านของฉัน ทำให้ฉันรู้สึกท้องหมุนวน ไม่กล้าหันไปมองหน้าปาล์มด้วยซ้ำ เพราะกลัวว่าเขาจะเห็นหน้าแดงๆของฉัน
จนกระทั่งวันหนึ่ง ฉันจำได้ว่าเป็นวันเปิดโลกกิจกรรมของโรงเรียน วันนี้โรงเรียนไม่มีการเรียนการสอน แต่ฉันก็ยังต้องมาโรงเรียนเพราะต้องมาขายขนมตามโครงงานของวิชาการงานอาชีพ ในวันนี้นักเรียนโรงเรียนอื่นๆ หรือคนภายนอกสามารถเข้ามาเที่ยวชมโรงเรียนได้ นอกจากนิทรรศการของทางโรงเรียน และร้านขายของฝีมือนักเรียนแล้ว ยังมีการแสดงของนักเรียนชั้นต่างๆ รวมทั้งการแสดงดนตรีของวงดนตรีนักเรียน ที่ปีนี้ทั้งปาล์มและทาวน์ก็จะขึ้นแสดงด้วย
ฉันจัดการเก็บร้านให้เรียบร้อยก่อนจะรีบไปรอวงดนตรีของปาล์มและทาวน์ขึ้นแสดง ก่อนหน้านั้นฉันได้รับข้อความจากปาล์มให้ฉันไปให้กำลังใจเขาด้วย เพราะไปช้าจึงทำให้ไม่สามารถเดินเข้าไปใกล้เวทีอย่างที่ฉันต้องการ
เสียงกรี๊ดดังขึ้นทันทีที่วงของปาล์มขึ้นมาบนเวที ฉันบอกไปรึยังว่าทาวน์ก็อยู่วงนี้ด้วย ทาวน์เป็นนักร้องนำของวง และในบางครั้งก็เล่นกีต้าร์ด้วย ส่วนปาล์มเป็นนักกีต้าร์ประจำวง ฉันมองพวกเขาทั้งคู่อยู่บนเวที เขาดูดีมากจริงๆ ไม่แปลกใจเลยกับเสียงกรี๊ดที่ดังสนั่นอยู่ ณ ขณะนี้
แม้จะอยู่ห่างจากเวที แต่ทาวน์ก็มองเห็นฉันจนได้ เขาส่งยิ้มยียวนส่งมาให้ฉัน ก่อนจะทำมือที่เป็นโค้ดลับระหว่างฉันกับเขาเท่านั้นที่รู้
...น้ำกับทาวน์จงเจริญ...
ฉันแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นว่าวันนี้ ทาวน์ไม่ได้ยืนอยู่ข้างหน้าสุดในฐานะนักร้องนำของวง แต่เป็นปาล์มที่ยืนอยู่แทน แต่ความจริงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเพราะทั้งคู่มักจะสลับตำแหน่งกันเสมอๆ เพียงวันนี้ปาล์มดูตื่นเต้นกว่าทุกครั้ง
“หวัดดีครับ ผมปาล์มครับ...”เสียงกรี๊ดดังกว่าเดิมในทันทีที่ปาล์มพูดแนะนำตัว”วันนี้ผมมีบางอย่างอยากจะบอกคนๆหนึ่งครับ” สายตาหลายๆคู่เริ่มหันมามองที่ฉัน ก่อนที่ปาล์มจะพูดต่อ “น้ำ เราอยากมอบเพลงนี้ให้น้ำนะ” เสียงกรี๊ดดังกว่าเดิม และฉันก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเป็นไข้เลยล่ะ เสียงดนตรีดังขึ้น ก่อนที่เสียงนุ่มๆของปาล์มจะเริ่มร้อง
ในแววตาที่เธอมองดู มีความจริงอะไรฉันเองก็รู้
รู้ว่ามันลึกซึ้งและมีค่า
แต่ว่ามีบางคำที่เธอลืมไป ทำให้ภายในใจฉันมีปัญหา
ก็ไม่แน่ใจ เก็บไว้ข้างในตลอดมา
รอฟังคำนั้นอยู่ รู้หรือเปล่า
หากเพียงได้ยิน คงบินได้ถึงดวงดาว
จะให้ฉันโชคดีอย่างนั้นได้หรือไม่
ให้ฉันรู้สักครั้ง คำที่ยังเก็บมันไว้ ข้างใน
บอกได้ไหม แค่เพียงเบาๆ ว่ารักกัน เท่านั้นฉันคงสุขหัวใจ
แต่ว่ามีบางคำที่เธอลืมไป ทำให้ภายในใจฉันมีปัญหา
ก็ไม่แน่ใจ บอกฉันสักทีเถอะบอกมา
รอฟังคำนั้นอยู่ รู้หรือเปล่า
หากเพียงได้ยิน คงบินได้ถึงดวงดาว
จะให้ฉันโชคดีอย่างนั้นได้หรือไม่
ให้ฉันรู้สักครั้ง คำที่ยังเก็บมันไว้ ข้างใน
บอกได้ไหม แค่เพียงเบาๆ ว่ารักกัน เท่านั้นฉันคงสุขหัวใจ
เพียงแค่เธอเอ่ย คำนั้นที่ไม่เคยเลย
ก็เพียงแค่ให้เธอเอ่ย คำนั้นที่ไม่เคย
ว่าเธอกับฉันคิดตรงกันอยู่ใช่ไหม..
รอฟังคำนั้น - 7th Scene
ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปาล์มลงมาจากเวทีตอนไหน แล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉันตอนไหน ปาล์มยิ้มเขิน ก่อนจะกระซิบเบาๆ ซึ่งฉันมั่นใจว่ามีเพียงแค่ฉันเท่านั้นที่ได้ยิน
“เรารอคำนั้นอยู่นะ น้ำจะบอกเราได้รึยัง” ฉันไม่เคยเขินขนาดนี้มาก่อน ไม่แน่ใจว่าทำหน้ายังไงตอนที่ได้ยินคำพูดนั้น ตาพร่ามัวไปหมด ได้ยินแต่เสียงกรี๊ดที่ดังอยู่รอบตัว ฉันเหลือบมองไปบนเวทีซึ่งมีทาวน์ยืนอยู่แวบหนึ่ง ก่อนจะมองหน้าคนตรงหน้าให้เต็มตา ฉันเขย่งตัวกระซิบบอกคำที่ปาล์มอยากฟัง และฉันก็อยากบอก ปาล์มยิ้มกว้างกว่าเดิม
จากวันนั้นฉันกับปาล์มก็ตกลงคบกัน โลกของฉันกลายเป็นสีชมพู ปาล์มยังคงน่ารักสม่ำเสมอ เขาจะมาหาฉันเสมอเมื่อถึงเวลาพัก และเอาการบ้านมาให้ฉันช่วยติวให้ทุกเย็น แม้ว่าความรักของฉันจะเบ่งบานขึ้นทุกๆวัน แต่ฉันก็ไม่ค่อยรู้สึกสบายใจนัก เพราะช่วงหลังๆมานี้ทาวน์ไม่ค่อยจะคุยกับฉันเท่าไหร่ ฉันพยายามถามทาวน์แล้ว แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆจากเขา ดูเหมือนเขาจะไม่พอใจ แต่ฉันก็ไม่เข้าใจว่าเขาไม่พอใจอะไร ทาวน์มักจะหลบหน้าฉันกับปาล์มทุกครั้งที่เขามีโอกาส
ฉันกับปาล์มคบกันได้ประมาณสามเดือน ฉันก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนไปของคนรักของฉัน ปาล์มเริ่มห่างเหิน ไม่รับโทรศัพท์ หรือบางทีถ้ารับก็มักจะคุยกันไม่กี่นาที แม้ฉันจะไม่เคยมีแฟนมาก่อน แต่ฉันก็ไม่ได้โง่ถึงขนาดไม่รู้ว่าปาล์มกำลังมีคนอื่น ฉันไม่ได้โวยวายหรือร้องไห้เสียใจกับเรื่องนี้ ฉันแค่รอ รอวันที่ปาล์มจะเข้ามาบอกฉันตรงๆ และถ้าถึงวันนั้น ถ้าเขาจะไป ฉันก็จะไม่รั้งเขาไว้เลย
แล้ววันนั้นก็มาถึง ปาล์มมารอฉันที่หน้าห้องตอนเกือบจะเลิกเรียน ฉันไม่รู้สึกตกใจเลยเมื่อเห็นหน้าปาล์ม เขาบอกว่ามีเรื่องอยากจะคุยด้วย ฉันเดินตามเขาไปโดยไม่พูดอะไรซักคำ
“น้ำ เรามีเรื่องอยากจะบอก” ปาล์มเอ่ยเสียงเบา ไม่ยอมมองหน้าฉันด้วยซ้ำ
“บอกมาสิ” ฉันยืนจ้องหน้าเขาอยู่ แม้จะทำใจกับสิ่งที่กำลังจะเกินมาหลายวันแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆฉันก็รู้สึกเจ็บปวดจนแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
ฉันไม่แปลกใจเลยตอนเขาบอกเลิก เขาขอโทษฉัน พ่นคำแก้ตัวต่างๆนานา ที่ฉันเห็นว่ามันไม่เข้าท่าเลยซักนิด ฉันไม่ได้พูดอะไรเลยซักคำหลังจากนั้น หวังเพียงให้ปาล์มรีบเดินไปจากตรงนี้เสียที แล้วปาล์มก็เดินไป เดินออกไปจากชีวิตของฉัน เดินออกไปจากหัวใจของฉัน และไม่หันกลับมามองอีกเลย
ปาล์มเลี้ยวตรงมุมตึก หายไปแล้ว ฉันยังคงยืนอยู่ที่เดิม ไม่มีน้ำตาซักหยดไหลออกมา มีเพียงความรู้สึกเหมือนโดนชกกลางอากาศ แล้วตอนนี้กำลังร่วงลงสู่พื้น ในขณะที่กำลังคิดใคร่ครวญถึงเรื่องราวระหว่างฉันกับปาล์ม ฉันก็รู้สึกว่าฉันไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้นคนเดียว
ทาวน์ยืนอยู่ตรงนั้น ห่างจากฉันไปนิดเดียว เขากำลังมองฉัน สายตาที่ส่งมาเต็มไปด้วยความห่วงใย ก่อนที่แขนของเขาจะกางออก ฉันก็ถลาเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดนั้นแล้ว
ความอ่อนแอที่พยายามซ่อนเอาไว้ ทะลักออกมาทันทีที่อยู่ในอ้อมแขน ฉันไม่ได้ยินเสียงปลอบใจของทาวน์ด้วยซ้ำ ได้ยินแต่เสียงสะอื้นของตัวเอง......
ทาวน์กำลังมองฉันตอนที่ฉันกำลังคิดถึงเรื่องของปาล์ม เราหัวเราะพร้อมกันอย่างไม่มีสาเหตุ ฉันรู้ว่าทาวน์รู้ว่าฉันกำลังคิดอะไร เขานิ่งเหมือนรอฉันพูดอะไรซักอย่าง แต่ฉันก็ไม่ได้พูดมันออกมา
“จะไม่ถามหน่อยเหรอ ว่าทำไมเราถามถึงปาล์ม” เพราะเห็นว่าฉันไม่พูด เขาจึงถามฉันแทน
“แล้วอยากบอกรึเปล่า” ฉันถามกลับ เอาจริงๆคือฉันไม่อยากรู้หรอก แม้เรื่องนี้จะผ่านมานานพอสมควรแล้ว แต่ก็อย่างที่ทุกคนพูด รักครั้งแรกไม่ใช่เรื่องที่เราจะลืมง่ายๆ ยิ่งเป็นรักที่จบลงไม่สวยงามแบบนี้ ฉันจึงไม่ค่อยอยากจำรับรู้เรื่องของคนรักคนแรกของฉันซักเท่าไหร่
“ไม่รู้ซิ” เขาตอบก่อนจะเสมองไปทางอื่น ฉันหัวเราะ
“งั้นไม่อยากรู้” ฉันยิ้มกว้างให้ทาวน์ ก่อนเอนหัวซบลงบนไหล่ของคนตัวสูงข้างๆ ฉันรู้สึกปลอดภัยเสมอที่มีเขาอยู่ข้างๆ มีความสุขที่รู้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็จะยังมีเขาที่จะคอยอยู่ข้างหลัง แม้ในฐานะเพื่อนสนิทก็ตาม....
“พี่อู๊ดเอ๊ย”เขาพึมพำ แต่ก็หัวเราะเสียงใส ทำให้ฉันอดหัวเราะตามไม่ได้ ฉันจำครั้งแรกที่ทาวน์เรียกฉันว่า”พี่อู๊ด”ได้ดี ฉันไม่รู้ว่าจะโกรธหรือจะขำกับฉายาใหม่นี่ดี แต่สุดท้ายฉันก็นั่งขำจนปวดท้อง เมื่อทาวน์เล่าที่มาของฉายานี้ให้ฉันฟัง แล้วมันก็กลายมาเป็นชื่อที่เขาใช้เรียกฉันมาจนถึงทุกวันนี้
ในตอนนี้ถ้าฉันกล้าซักนิด ฉันคงจะบอกทุกสิ่งในใจของฉันให้เขารับรู้ไปแล้ว.....
ความคิดเห็น