ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    serendipity (minno, nomin)

    ลำดับตอนที่ #2 : On the tip of her fingers (50%)

    • อัปเดตล่าสุด 9 มิ.ย. 62






      

             มันเป็นช่วงเช้าที่วุ่นวายเหมือนอย่างทุกวัน


              เด็กสาวในชุดยูนิฟอร์มนักเรียนก้าวเท้าออกมาจากสถานีรถไฟที่แออัดไปด้วยผู้คนพร้อมกับน้ำผลไม้ที่เธอกดมาจากตู้อัตโนมัติระหว่างทาง มือเล็กหยิบโทรศัพท์ออกมาจากเสื้อสูทเพื่อดูเวลาก่อนจะพบว่ามันยังเหลือเวลาอีกมากนักก่อนที่จะเข้าเรียน


             อย่างน้อยๆวันนี้เธอก็จะเป็นเด็กดีโดยการไม่โดดเรียนแล้วกัน


              จัสมินเลือกที่จะหลบหนีความวุ่นวายโดยการหลีกเลี่ยงเส้นทางลัดแล้วอ้อมไปใช้อีกทางหนึ่งที่ใช้เวลาเดินนานกว่าแทน อย่างน้อยๆเธอก็จะได้ไม่ต้องไปนั่งฟังเสียงเพื่อนในห้องโหวกเหวกให้ทรมานแก้วหูก่อนเข้าเรียน


             ถึงแม้ว่าจะรู้ตัวดีว่าตัวเองสนใจผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย หากแต่โรงเรียนมัธยมปลายหญิงล้วนก็ไม่ใช่สวรรค์วิมานอะไรสำหรับเธอเลย ยิ่งสำหรับเด็กปีสองที่เข้าไปกลางคันยิ่งแล้วใหญ่ พวกเธอมักจะจับกลุ่มกันอยู่แล้ว และการที่จะเข้าไปแทรกระหว่างคนพวกนั้นดูจะเป็นเรื่องที่ยาก เพราะอย่างนั้นเธอจึงรู้จักกับคนในห้องแค่ในฐานะเพื่อนร่วมชั้นเท่านั้นแล้วก็ไม่ได้คิดที่จะสนิทกับใครเป็นพิเศษ


             จัสมินเดินเข้ามาหลบในตรอกเล็กๆระหว่างทางที่เป็นที่ประจำของตัวเอง หยิบกล่องบุหรี่ที่ซ่อนเอาไว้ในกระเป๋าออกมาพร้อมกับเก็บกล่องน้ำผลไม้ที่เป็นอาหารเที่ยงของเธอลงไป


              ขอหน่อยเถอะ


              เสียงพ่อกับแม่ตะโกนใส่กันเมื่อเช้ายังก้องอยู่ในโสตประสาทอยู่เลย


              สองนิ้วเรียวคีบมวนบุหรี่ออกมาก่อนจะคาบมันเอาไว้ที่ริมฝีปากทั้งอย่างนั้น มือทั้งสองข้างพยายามควานหาไฟแช็คที่คิดว่าน่าจะอยู่ลึกลงไปในกระเป๋า ก่อนที่สมองชั่วขณะนั้นจะพาเธอย้อนความทรงจำกลับไปเมื่อคืนตอนที่เธอหยิบไฟแช็คออกมาจุดเทียนหอมแล้วไม่ได้เก็บใส่ที่เดิม


              ให้มันได้อย่างนี้สิ


              นี่มันแย่ตั้งแต่ยังไม่เริ่มวันใหม่เลยด้วยซ้ำ


              เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ดังตามออกมาหลังจากนั้น


              เธอทิ้งตัวนั่งลงบนลังไม้เก่าใกล้ๆโดยที่ริมฝีปากก็ยังคาบมวนบุหรี่เอาไว้ให้ได้รสชาติ


             ในตอนนั้นเองที่สายตาดันเหลือบไปเห็นแมวตัวสีส้มที่เดินมานอนแหมะอยู่บนพื้นตรงปากทางเข้าตรอกพอดี มันหันมาจ้องเธอด้วยสายตาที่คล้ายจะหาเรื่องพร้อมกับหางที่สะบัดไปมาอย่างท้าทาย


              จัสมินจ้องกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้ หากแต่แมวอ้วนขนฟูตัวนั้นก็ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆนอกจากใช้สายตาหยิ่งๆนั่นมองกลับมา


              มันทำไมขนาดนั้นอะ


              จนสุดท้ายก็ทนความมันเขี้ยวไม่ไหว ต้องลุกเข้าไปใกล้เพื่อที่จะขย้ำพุงอ้วนๆนั่นให้รู้แล้วรู้รอด


              หากแต่ก็ยังไม่ทันที่จะก้าวไปถึงเจ้าตัวก้อนขนสีส้ม ก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เด็กหนุ่มในชุดยูนิฟอร์มนักเรียนเดินผ่านมาตรงหน้าพอดี


              “..จัสมิน?..”


              จนแมวอ้วนตัวนั้นลุกหนีไปในที่สุด


              ใบหน้าหวานเงยขึ้นสบตาคนที่เพิ่งมาใหม่ ดวงตาโตเบิกกว้าง “โอ้ะ..” บุหรี่มวนเดิมถูกคีบจากริมฝีปากกลับมาที่ช่วงระหว่างสองนิ้วอย่างเก่า “..พี่มาร์ค”


              ยังไม่ทันที่จะได้ขย้ำพุงแมวหยิ่งตัวนั้นเลย


              “เป็นไงเรา ไม่เห็นแถวนี้นานเลย”


              “ปิดเทอมไงคะ” เธอเดินกลับไปที่ลังไม้เก่าๆที่วางกระเป๋าเอาไว้ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนนั้นดังเดิม “พี่มาทำอะไรแถวนี้ สายแล้วไม่ใช่เหรอ?”


              “วันนี้ไม่มีซ้อมน่ะ”


             เด็กหนุ่มในชุดยูนิฟอร์มสีเทาถูกระเบียบเดินตามเธอเข้าไปในตรอกแล้วพิงตัวเข้ากับกำแพงใกล้ๆ


              จัสมินพยักหน้า เงยหน้าขึ้นมองรุ่นพี่ที่สนิทที่ไม่ได้เจอกันมาพักใหญ่ๆ “พี่มาร์คมีไฟแช็คไหม?” พร้อมกับยกบุหรี่ในมือโชว์ขึ้นมาให้ดู


              เด็กหนุ่มล้วงกระเป๋ากางเกงด้านหลังก่อนจะยื่นมันให้เด็กสาวอายุน้อยกว่า


                “แต่เช้าเลยนะ”


              และจัสมินหาได้ใส่ใจคำพูดพวกนั้นไม่ เธอรับไฟแช็คมาแล้วจุดแท่งกระดาษในมือทันที


              นิโคตินถูกสูดเข้าไปในร่างกายผ่านริมฝีปากบางกระจับ


              ราวกับสมองโล่งไปชั่วขณะก่อนที่เธอจะระบายมันออกมาทางจมูกจนลมหายใจค่อยๆเย็นขึ้นตามฤทธิ์ของมัน


              ก็ยังคงเป็นพี่มาร์คที่พึ่งพาได้ในเวลาแบบนี้เสมอเลย


              เธอยื่นไฟแช็คคืนให้คนที่ยืนอยู่สูงกว่า


              “คิดยังไงถึงตัดผมน่ะเรา”


              ใบหน้าสวยคลี่ยิ้ม ดวงตาหวานช้อนขึ้นไปสบตากับรุ่นพี่คนสนิทพร้อมกับพ่นควันบุหรี่ออกมา


              “คิดว่าจะไม่ทักซะแล้ว”


              มาร์คก้มลงตั้งใจมองใบหน้าสวย ผมสีดำสนิทของเธอที่ก่อนหน้านี้เคยยาวจนเกือบถึงกลางหลังหากแต่ว่าในตอนนี้มันถูกตัดสั้นจนเกือบถึงติ่งหู


              “ตอนแรกก็ว่าจะไม่ทักหรอก”


              “โห หนูตัดผมทั้งทีเลยนะ”


              จนเด็กหนุ่มระบายยิ้มออกมา


              จัสมินเอนหลังพิงกับกำแพง เงยหน้าขึ้นไปสบตาอีกครั้งคนพร้อมกับเคาะขี้เถ้าบุหรี่ออก


              “พี่ว่าหนูไว้ผมสั้นหรือยาวดีกว่ากัน?”


              แล้วก็เป็นจังหวะเดียวกันที่เจ้าตัวยกมือขึ้นมาจับกลุ่มผมที่ปรกใบหน้าทัดหูพอดี


              นั่นแหละ


              จัสมินเป็นคนสวย จะตัดผมทรงไหนก็ไม่ได้ทำให้เธอดูดีน้อยลงอยู่ดี


              “พี่ชินกับผมยาวมากกว่า แต่แบบนี้ก็ดี”


              มาร์คก้มตัวลงนั่งยองข้างๆ ตั้งใจสบตาอย่างไม่ปิดบัง


              “สวยดี”


              เธอไม่ได้ตอบอะไรกลับไปนอกจากหัวเราะเพียงเล็กน้อยแค่นั้น ยื่นมือที่คีบบุหรี่อยู่ให้คนข้างๆ พร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นตั้งคำถาม


              และรุ่นพี่ก็ขยับใบหน้าเข้ามาใกล้แทนคำตอบ


              มือเล็กจรดมวนกระดาษลงบนริมฝีปากของอีกฝ่าย ปลายนิ้วมือหยาบจับข้อมืออีกคนอย่างแผ่วเบาแล้วสูดนิโคตินเข้าไปบ้าง


                “จริงๆ หนูดูหนังมาเลยอยากตัดผมตามแหละ”


              เด็กหนุ่มปล่อยข้อมือบางให้เป็นอิสระ พ่นควันผ่านลมหายใจทางจมูกก่อนจะหัวเราะออกมาน้อยๆ “ก็สมกับเป็นเราดี”


              “มาทิลด้า รู้จักเปล่า?”


              มาร์คเงียบ ใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง


              “..โรอัลด์ ดาห์ล..?”


              ใบหน้าสวยหันมองหน้าคนข้างๆนิ่งงันก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมาในที่สุด


              “..ไม่ใช่เหรอ..?”


              เธอส่ายหน้า “สมกับเป็นพี่มาร์ค”


              “ทำไมอะ..”


              มาร์คไม่เคยทำให้จัสมินผิดหวังเลยจริงๆ


              “Leon the professional น่ะ พี่เคยดูไหม?”


              คิ้วทรงประหลาดของเด็กหนุ่มข้างๆขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิด ก่อนที่มันจะคลายออกพร้อมกับเสียงหัวเราะของเจ้าตัว


              “อ่า มาทิลด้านั้น”


              “ค่ะ มาทิลด้านั้น” เธอหัวเราะมองหน้าอีกคนอมยิ้ม


              ใครจะไปคิดว่าจะมีคนมองเธอเหมือนตัวละครที่หลุดออกมาจากนิยายเด็กประถมล่ะ


              รุ่นพี่มองใบหน้าหวานอย่างตั้งใจอยู่ครู่ใหญ่ ทว่าก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาจนเด็กสาวต้องแกล้งพ่นควันจางๆใส่หน้าให้หันหน้าไปทางอื่น


              ทำไมจัสมินจะไม่รู้ว่ามาร์คชอบเธอ


              เธอรู้ตั้งแต่ตอนที่เจ้าตัวชอบเข้ามาชวนเธอคุยตอนที่นั่งเล่นอยู่ในสวนสาธารณะคนเดียวแล้ว จนมาเจอทีหลังว่าเธอแอบสูบบุหรี่ก่อนเข้าเรียนนั่นแหละถึงได้คุยกันมากขึ้น


              บรรยากาศรอบตัวของผู้ชายคนนี้ทำให้จัสมินรู้สึกผ่อนคลายเวลาอยู่ด้วยอย่างน่าประหลาด


              เด็กสาวพ่นควันบุหรี่ออกมาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะโยนมันลงบนพื้นแล้วเหยียบให้ไฟมอด เธอลุกขึ้น ปัดฝุ่นที่เกาะอยู่บนกระโปรงสั้นเหนือเข่า สะพายกระเป๋าขึ้นบ่าพร้อมๆกับอีกคนที่ลุกขึ้นมาเต็มความสูง


              เธอพยายามที่จะสบตาหากแต่ว่าสายตาของมาร์คนั้นไม่ได้อยู่ที่ใบหน้าของเธอเลย


              “กระดุมเสื้อเราน่ะ” พูดพลางใช้มือชี้ที่ปกคอเสื้อของตัวเองเป็นตัวอย่าง


              รุ่นน้องก้มมองที่เสื้อของตัวเองก่อนจะพบว่ากระดุมมันหลุดออกมาอย่างไม่เรียบร้อยนัก จัสมินติดมันกลับเข้าไปอย่างไม่มีปฏิกิริยาเขินอายใดๆ


              “แอบมองหนูแต่แรกแล้วอะดิ”


              มาร์คเบนสายตาไปทางอื่นผิดจากเมื่อครู่ “พี่เพิ่งสังเกตเถอะ”


              จัสมินหัวเราะ มองคนโตกว่าที่พยายามปฏิเสธข้อกล่าวหา


              “แล้วจะไปพร้อมกันไหมคะ?”


              เธอเปลี่ยนเรื่องอย่างไม่ใส่ใจนัก จะมองหรือไม่มองมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสำหรับจัสมินอยู่ดี เพราะยังไงเธอก็มั่นใจว่ามาร์คก็คงจะไม่ทำอะไรเธอหรอก


              เพราะถ้าพี่มาร์คจะทำก็คงทำตั้งแต่วันที่หิ้วปีกเธอกลับมาจากบาร์ตั้งหลายต่อหลายครั้งแล้ว

















           

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×