Cha-os ทฤษฎีไร้ระเบียบ - Cha-os ทฤษฎีไร้ระเบียบ นิยาย Cha-os ทฤษฎีไร้ระเบียบ : Dek-D.com - Writer

    Cha-os ทฤษฎีไร้ระเบียบ

    มีใครสักกี่คนที่จะเคยได้ยินคำว่า Cha-os บ้าง ความไร้ระเบียบของโลกทุกวันนี้ แท้จริงมันคืออะไร หรือทุกอย่างมันคือกฎ...ที่จะต้องเกิด

    ผู้เข้าชมรวม

    951

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    951

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  จิตวิทยา
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  4 ธ.ค. 49 / 01:21 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      พวกคุณเคยเชื่อเรื่องความบังเอิญไหมครับ

      คุณเคยเชื่อไหมว่า  ไอ้คำว่า  โชค   ของคุณบางทีมันอาจจะไม่ใช่ความบังเอิญก็ได้

      ผมก็เหมือนคนธรรมดาอย่างพวกคุณนั่นแหละครับ

      ผมใช้ชีวิตอย่างธรรมดา

      มีชีวิตแต่ละวันไปกับความบังเอิญ  โชคชะตา หรืออะไรก็แล้วแต่ เทือกๆนั้นแหละครับ

      อันที่จริงไอ้โชคชะตามันกลายเป็นเรื่องวิถีทางการพัฒนาของคนแต่ละคน  ก็เพราะเราๆท่านๆไม่เคยใสใจมัน

      เราไม่เคยคิดหรือระลึกเอาเลยว่าไอ้โชคเนี่ยมันมาจากไหน  มีใครบนฟ้าประทานมารึเปล่า

      แต่คุณๆครับประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ  ไอ้โชค มันพลิกเส้นยาแดงผ่าแปดมานักต่อนักแล้วนา  

      สงครามหลายต่อหลายครั้งที่ชนะๆกันอยู่ ไอ้โชคมันก็เข้าไปเอี่ยวด้วยทุกครั้งไปสิให้ตายเถอะ

      อันนี้กระผมไม่ได้พูดลอยๆ  ผมอ้าง  มาจาก Carl von Clausewitz  นักยุทธศาสตร์การทหารสำคัญของโลกเชียว

      ส่วนไอ้เรื่องเงินๆทองๆหรือธุรกิจ ก็ใช่ว่าไอ้โชค  หรือชื่อจริงมันคือ ความบังเอิญ จะไม่ได้เข้าไปเกี่ยว

      คุณคงจำวิกฤตการณ์ต้มยำกุ้งอันเผ็ดร้อนของเราได้เหตุใดผลกระทบจากจุดเล็กๆ  จากการล้มครืนของระบบการเงินการคลังของไทย  เมื่อปี 40 

      ถึงได้สร้างความสั่นสะเทือนพังครืนกันไปได้ทั้งเอเชีย  กระชากพาค่าเงินของมาเล  อินโด  เกาหลีใต้  ให้ดิ่งลงมาได้

      ทั้งๆที่อยู่คนละประเทศกันใช้เงินคนละสกุลมิใช่หรือ

      ไอ้ที่ต้องสาทกมาซะยืดยาว  คุณๆอย่าเพิ่งบ่นเบื่อว่ากระผมนี้พร่ามไปให้หลงเชื่อ

      ผมไม่ได้พร่ามครับผมกำลังจะเอาความจริงมาเตือน

      ผมในฐานะที่อาจจะเป็นมดตัวหนึ่ง  แต่คุณอย่าเพิ่งดูถูกมดตัวน้อยๆตัวนี้

      คุณคงจะเห็นว่า  เมื่อใดที่มีพายุเข้า  หรือฝนกำลังจะตก   มดอย่างพวกกระผมนี่แหละครับที่จะเป็นผู้เตือนพวกคุณ  จริงไหมครับ

      พระพุทธองค์  ทรงเตือนให้มนุษย์ทั้งหลายอย่าตั้งอยู่ในความประมาท  จงเป็นผู้ที่ตื่นอยู่เสมอ

       นวัตกรรมหรือ innovetion ใหม่ๆเกิดขึ้นมากมายบนโลกนี้  นวัตกรรมถักทอโลกให้เป็นเครือข่าย  network  ความไร้พรมแดน globalization  การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และซับซ้อน  ทำให้เสถียรภาพออกห่างจากจุดกำเนิดมากไปทุกเศษหนึ่งส่วนล้านวินาที  เหตุนี้การทำนายสิ่งต่างๆที่แปรผันไป  จึงไม่ใช่  หนึ่งบวกหนึ่งเป็นสอง  สองบวกสองเป็นสี่  หากแต่คือความอ่อนไหวที่มากกว่ามนุษยชาติจะคำนวณได้ด้วยเครื่องสมองกลในทุกวันนี้

       โลกไร้ระเบียบ  คำนี้อาจเป็นคำที่คุ้นหูของนักคิดกลุ่มอนุรักษ์นิยมพร่ำประณามโลก    หลังจากเมื่อกำแพงเบอร์ลินพังทลายไปโลกของทุนนิยมผงาดง้ำให้สังคมนิยมจมธรนินทร์  ระเบียบโลกเก่าถูกสั่นคลอนปัญหาต่างๆตามมาเป็นลูกคลื่นความสับสนวุ่นวายฟุ้งกระจายไปทั่วโลก  เป็นสถานการณ์ที่ไร้ระเบียบ (chaos) 

      Lellouche  ที่ปรึกษายุทธศาสตร์ของ  Jacques Chirac  ได้คาดการณ์ว่าความไร้ระเบียบจะยาวนานถึง 20 ปี  สหรัฐจะอ่อนอำนาจ  เพราะเศรษฐกิจและความโดดเดี่ยว  ยุโรปจะถูกกระหน่ำด้วยปัญหาเชื้อชาติและผู้อพยพ   ญี่ปุ่นจะมีบทบาททางเศรษฐกิจเหนือเอเชีย  และผมก็เห็นด้วย  เพราะทุกวันนี้  จากที่ผมเกลียดญี่ปุ่นมากแต่ตอนนี้ผมก็ต้องเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นบ้างแล้ว  ประชากรในแอฟริกาและเอเชียใต้จะเพิ่มมากขึ้นจนก่อปัญหา  ก่อเป็นกำลังพลเพื่อสนองต่อความขัดแย้งและการถูกกดขี่จากอำนาจเหนือโดยกระบวนการทางทุนนิยม  และ15ประเทศที่พยายามพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์  

      ความวุ่นวายที่ Lellouch บอก  เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก  เพราะมาตามกระแสโลก  เป็น effect ที่เกิดมาจากทุนนิยมและ ความเป็น globalization ข่าวการปะทะกันของพวกคลั่งศาสนา  การก่อการร้ายและความขัดแย้งทางเชื้อชาติ  ความขัดแย้งในยูโกสลาเวีย  แอฟริกาใต้  อินเดีย  และกระแส  Fundamentalist ในกลุ่มประเทศอาหรับ  เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ให้เหตุผลสนับสนุนความไร้ระเบียบของกระแสโลกมากขึ้นทุกขณะ

      ความไร้ระเบียบในความหมายทางวิทยาศาสตร์ คือสภาพและกระบวนการของระบบที่ไร้เสถียรภาพ  ที่มีความอ่อนไหวสูงและเปราะบาง  เมื่อมีการกระทบเพียงเล็กน้อยในสาเหตุเบื้องต้น  (initial condition)  เมื่อเกิดบ่อยๆ ซ้ำ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า  เกิดการแปรผันของระบบอย่างไม่เป็นเส้นตรงบ้าง  คดเคี้ยว  กวัดแกว่ง  หรือบางครั้งก็ก้าวกระโดดฉับพลัน   ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ทำนายได้ยากมาก

      สิ่งที่กล่าวมามันช่างตรงข้ามกับความเชื่อในยุควิทยาศาสตร์เฟื่องฟู  ที่เชื่อถือกันมาตั้งแต่ ศตวรรษที่ 17   ว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ที่สามารถคำนวณได้อย่างแม่นยำ  เพียงรู้สมมุติฐานอันเป็นเงื่อนไขเบื้องต้น ซึ่งจะว่าไปเราก็คงจะชินกับคำกล่าวที่ว่า  มันเป็นกระบวนทัศน์แยกส่วน  ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า ปัจจุบันกระบวนทัศน์นี้ตอบคำถามบางอย่างที่เกิดจากปรากฏการณ์อันแปรผันไปของโลกยุคปัจจุบันนี้ไม่ได้เสียแล้ว

      ความบังเอิญมีบทบาทสูงในทฤษฎีไร้ระเบียบ    ซึ่งวิทยาศาสตร์คลาสสิค ไม่ได้ให้ความสำคัญนักกับสิ่งเล็กๆน้อยๆที่เปราะบางอ่อนไหว  ถือด้วยซ้ำว่าเป็นเรื่องจุกจิก  คิดว่าคงไม่มีผลอันใด  แต่ คุณครับเคยได้ยินคำนี้ไหม

      "ผีเสื้อกระพือปีกสะเทือนถึงดวงดาว"    กระบวนการทางตรรกะ  เคยให้คำตอบของพวกเราว่า  เหตุย่อมเท่ากับผล  แต่มิวเตชั่น  mutation  ก็คือตัวแย้งตัวหนึ่ง ที่กำลังจะบอกพวกเราว่า  มีสิ่งเล็กๆบางอย่างที่พยายามจะก่อผลที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวมันเอง  ที่เราทุกคนไม่ควรจะละเลย หรือละทิ้งให้มันก่อตัวได้อย่างอิสระ  มิวเตชั่นพวกคุณอาจจะยังจินตนาการไม่ออก  จะบอกง่ายๆ  ก็คือ  ไอ้มะเร็งนั่นไง

      ศาสตราจารย์ Lorenz  Edward  แห่งสถาบัน  MIT  ศึกษาเกี่ยวกับอุณหภูมิและปรากฏการณ์ต่างๆของโลก พบว่า  "ในทางทฤษฎีด้านอุตุนิยมวิทยา   ผีเสื้อใหญ่ตัวหนึ่งกระพือปีกที่ฮ่องกง  สามารถทำให้ดินฟ้าอากาศที่แคลิฟอร์เนีย  เปลี่ยนแปลงเป็นพายุได้เมื่อหนึ่งเดือนให้หลัง"   ผลลัพธ์ที่ได้นี้มาจากการที่เขาพบว่า ความแตกต่างหลังทศนิยมเพียงน้อยนิด  เกิดเป็นผลลัพธ์ที่แตกต่างออกไปจากจุดเริ่มต้นอย่างมหาศาล  เปรียบเสมือนการไหวตัวเบาๆของกระแสลม  ที่มาจากการกระพือปีกของผีเสื้อ  แต่กลับกลายไปสร้างผลกระทบอันใหญ่หลวงทางดินฟ้าอากาศ  เรียกว่า  butterfly  effect เป็นถ้อยคำที่โด่งดังไปทั่วโลกนั่นเอง 

      นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่กระผมยกมาเพื่อให้คุณๆได้เข้าใจความเป็นไปของ  Cha-os  เพื่อว่าพวกคุณจะได้ไม่ละเลย  หรือปล่อยทิ้งสิ่งเล็กน้อยไปจนมันกลับกลายมาเป็นผลกระทบอันใหญ่หลวงที่จะทำร้ายและทำลายพวกเราๆ

      ความเป็นไปของคำว่าไร้ระเบียบในโลกพวกคุณยังต้องมองดูและเฝ้าสังเกตอย่างไม่ควรที่จะคลาดสายตา  สิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้นต่อไปในวันข้างหน้า  กำลังจะเข้าสู่ทางแพร่งที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปสู่การเข้าสู่พลวัต  หรือสมดุลครั้งใหม่  แค่ก่อนที่จะเกิดความสมดุล  เราๆท่านๆก็จะต้องทนทุกข์กับสิ่งที่หมุนวนอย่างนี้ไปเรื่อยๆ   จนกว่าโลกจะพบว่าสมดุลของมันว่าอยู่ตรงไหนกัน  มันก็อาจจะกินเวลาไปถึงช่วงชีวิตหนึ่งของคนก็เป็นได้  

      สิ่งที่เล่ามาทั้งหมด   ถ้าพูดเมื่อประมาณ 50 ปีก่อนคงจะเรียกว่าเป็นการข่มขู่  แต่ผมมั่นใจเหลือเกินว่า  เรายกมาเล่าให้กันฟังทุกวันนี้  มันคือการเอาความจริงใจมาเล่าสูกันฟัง  เพื่อการดำเนินชีวิตและการใช้ทุกวันเวลาที่เหลือของเราทุกๆคนอย่างไม่ประมาท  มีความเห็นอกเห็นใจในเพื่อนมนุษย์ร่วมชะตากรรม  ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร อยู่แห่งหนไหนบนโลก  ไม่ว่าคุณจะรวยล้นฟ้า  หรือจนแทบถูกน้ำย่อยกัดกินจนไม่เหลือชีวิต  เราทุกคนก็จะต้องเผชิญชะตากรรมอันเดียวกันนี้   ฉะนั้น  อย่าแบ่งแยกกันเลยครับ  ว่าคุณ ผม หรือใครๆ  ว่าเราต่างกัน  อย่างรังเกียจเดียจฉันกันเลยครับ  ผมไม่ได้เป็นตัวแทนมูลนิธิหรือองค์กรใดๆที่จะออกมาเรียกร้อง  แต่ผม  พูดในฐานะคน  ที่เป็นคนหนึ่งบนโลก  ที่พร้อมแล้วครับที่จะยอมรับผลการกระทำทุกอย่างที่เราได้ทำมาร่วมกัน   แล้วคุณล่ะ  พร้อมหรือยัง

       

       ส่วนเรื่องของไอ้โชค  มันอาจจะยังอยู่หรือไม่อยู่กับเราเหล่ามวลมนุษย์  เพราะยิ่งเราทำลายสิ่งต่างๆรอบๆตัวเรามากเท่าไหร่  มันก็ยิ่งถูกทำร้ายมากไปด้วยเท่านั้น  จนในที่สุดมันก็อาจจะตายไปพร้อมๆกับพวกเราก็เป็นได้



      *****อยากรู้อะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับ  Chaos theory   ศึกษาเพิ่มเติมได้จาก  
        Chaos theory  ทฤษฎีไร้ระเบียบกับทางแพร่งของสังคมสยาม  ของ ชัยรัตน์  ถิรพันธุ์ 
       
      สิ่งที่ผมจะช่วยโลกได้  ก็มีเพียงเท่านี้แหละครับ 

      ในฐานะที่ผมเคยเลวมามาก อาจจะมีไม่กี่คนที่ได้อ่านบทความนี้ แต่ผมของบอกไว้ในที่นี้ว่าผมพูดทุกอย่างด้วยความหวังดีกับทุกคนจริงๆ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×