ประวัตินักฟุตบอล

ลำดับตอนที่ #5 : Michael Ballack-Chelsea

ถ้าเอ่ย ถึงเบอร์ 13 ก็ ต้องคิดถึงคนนี้มาก่อนแน่ มิชาเอล บัลลัค

มิชาเอล บัลลัค มิดฟิลด์เนื้อหอมจาก “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ทีมแชมป์ บุนเดสลีกา คือบุคคลที่ได้รับฉายานั้น ปัจจุบัน ก็เป็นคนสวมบทบาทกัปตันทีมนาซีเช่นกัน

บัลลัค จัดเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ในเชิงลูกหนัง เฉลียวฉลาดมีความเป็นผู้นำเช่นเดียวกับมีอิทธิพลต่อสภาพจิตใจเพื่อนร่วมทีมทั้งระดับชาติ และสโมสร

แม้ว่าความเร็วจะไม่ใช่จุดเด่นของ เจ้าไกเซอร์น้อย แต่กับบทบาทจอมทัพแล้ว บัลลัค เปรียเสมือนพยาราชสีห์ที่ซุ่มเงียบคอยตะครุบเหยื่อ เมื่อได้โอกาสเหมาะมักไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไปต่อหน้าต่อตาง่ายๆ

จุดเด่นของบัลลัคในการทำประตูนั้นมักมาจากนอกกรอบเสียส่วนใหญ่เพราะจากตำแหน่งที่ตัวเองเล่นนอกจากเติมรุกแล้ว ยังต้องคอยสอดส่องดูแลเกมในแนวรับด้วย ลูกยิงระยะไกลที่สวยงามมักมาจากมิดฟิลด์ รายนี้ทั้งในทีมชาติและ ระดับสโมสร

บัลลัค เกิดที่เยอรมันตะวันออก แจ้งเกิดในบุนเดสลีกา สำเร็จ ด้วยวัยเพียง 20 ปีกับ ไกเซอร์สเลาเทิร์น หลังจากโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นมากๆกับ ไกเซอร์ ไม่นานนักทีมระดับใหญ่ขึ้นมาอย่าง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ภายใต้การทำทีมของ ยอดโค้ชชาวกรีค อ็อตโต เรอาห์เกล ก็คว้าตัวมาร่วมทีมเมื่อปี 1999

ทว่าช่วงนั้นบัลลัค กลับเหมือนว่ายังไม่ถึงช่วงพีคของตัวเองมากนัก แต่มาเริ่มมาเป็นรูปเป็นร่างในยุคของ คริสโตฟ เดาม์ และ เคลาส์ ท็อปโมลเลอร์

ฤดูกาล 2001/02 คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของ บัลลัค กับทีมห้างขายยา พาทีมผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก โดยการโค่นทีมอดีตแชมป์อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยผลการแข่งขันที่น่าประทับใจ

ทว่าอาจจะยังไม่ถึงเวลานักที่ บัลลัค จะได้สัมผัสความสำเร็จระดับสูงสุดในเวทียุโรปช่วงนั้นทีมไปพ่ายให้กับ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ในรอบชิงชนะเลิศ ตามด้วยพระรองอีกรายการกับ อันดับ 2 ในบุนเดส ลีกา ตามหลังบาเยิร์น มิวนิค

ผลงานยิง 17 ประตูของบัลลัค ให้ทีมนายห้าง ส่งให้ไกเซอร์น้อย ขึ้นรับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมเมืองเบียร์ ชนิดไร้ข้อกังขา
หลังจากจบฤดูกาลที่ “เกือบ” จะประสบความสำเร็จกับ เลเวอร์ บัลลัค ก็โดนทีมที่ใหญ่กว่าและเป็นแชมป์ บุนเดสลีกา มาจนเปรม อย่างบาเยิร์น มิวนิค คว้าตัวมาร่วมทีม และชีวิตในถิ่น โอลิมปิกสเตเดียม ก็เหมือนความฝันที่เจ้าตัวเคยวาดไว้

ไกเซอร์น้อย ได้เถลิงแชมป์ บุนเดสลีกา เป็นครั้งแรกกับ “เสือใต้” และเป็นอีกครั้งที่คว้าตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของเยอรมัน

ด้วยวัย 27 ปีความเก๋าเกมของบัลลัค นับว่ากำลังพอดีสำหรับการสู้รบในระดับทีมชาติ เมื่อปี 2002 ในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก เยอรมัน และบัลลัค คว้าอันดับ 2 ของกลุ่มไปลุยรอบสุดท้ายที่ โคเรีย/เจแปน สำเร็จ โดยไกเซอร์น้อย ยิงไป 3 ประตู ในการแข่งขันเหย้าเยือนนัดเจอ ยูเครน ซึ่งเป็นเกมที่พาเยอรมันคว้าตั๋วลุยรอบสุดท้ายได้สำเร็จชนิดเฉียดฉิว

นั่นเป็นเพียงเหมือนจุดเริ่มของ บัลลัค และเยอรมัน ในการฝ่าดงแข้งล่าความสำเร็จในฟุตบอลโลกปี 2002 ในรอบตัดเชือกที่เจอกับทีมซึ่งถูกมองว่าหมูมาตลอดแต่เอาเข้าจริงๆเป็นหมูเขี้ยวตัน เกาหลีใต้ ทีมเจ้าภาพ เยอรมันได้ 3 ประตูจาก บัลลัค ในการผ่านทีมโสมขาว

ทว่าการผ่านทีมเจ้าภาพไปได้เหมือนแทบไม่มีความหมายใดๆเลย ในเมื่อรอบชิงชนะเลิศ เยอรมันต้องไปพ่ายแพ้อย่างน่าเจ็บปวดให้กับ บราซิล ครั้งนั้นได้เห็นหยดน้ำตาลูกผู้ชายทั้ง โอลิเวอร์ คาห์น นายทวารจอมห้าว และ บัลลัค ที่กลั้นน้ำตาไม่อยู่เช่นกัน

นอกเหนือจากความเป็นนักฟุตบอลที่เก่งกาจแล้วในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก 2002 บัลลัค ยังได้รับคะแนนโวตว่าเป็นนักฟุตบอลที่เซ็กซี่ที่สุดในโลกอีกด้วย ซึ่งน่าจะมาจากเสียงโวตของสาวๆเสียส่วนใหญ่

ทัวร์นาเมนต์ 2006 ครั้งนี้ เชื่อว่า “ไกเซอร์น้อย” คงจะไม่ได้ถูกมองในภาพของเด็กหนุ่มที่ห้าวอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะเป็นแม่ทัพคนสำคัญให้ทีมอินทรีเหล็กผ่านแต่ละด่านต่อไป ด้วยวัยที่มากขึ้น ประสิทธิภาพทุกอย่างไม่ได้ลดลงผกผันกับอายุ ...ซึ่งทัวร์นาเมนต์นี้ จะเป็นครั้งที่บัลลัค ต้องการโชว์ทุกอย่างออกมาให้เต็มที่แลกกับความสำเร็จ คือการเป็นแชมป์โลกที่ตัวเองไม่เคยสัมผัส เพื่อที่ว่าจะได้ไม่ต้องรอถึงทัวร์นาเมนต์ต่อไปของฟุตบอลโลก 4 ปีข้างหน้า และ บัลลัค ย้ายจาก บาเยิร์น (ฟรี) มา เชลซี ในฤดูกาล 2006-2007
รับค่าเหนื่อย วีค ละ 130,000 ปอนด์

วันเกิด:  26 September 1976

ส่วนสูง:  189 cm
น้ำหนัก:  80 kg
ตำแหน่ง:  กองกลาง