ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ประวัตินักฟุตบอล

    ลำดับตอนที่ #13 : Rio Ferdinand-Man U

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 875
      1
      12 ต.ค. 49


    เกิด 7/11/1978
    เมืองเกิด เป็คแฮม, ลอนดอน
    ตำแหน่ง กองหลัง
    หมายเลขเสื้อ 5

    ริโอ เฟอร์ดินานด์ เป็นลูกชายคนโตของ จูเลียน และ เจนิส ช่วงชีวิตวัยรุ่นของเขา เขาได้ลงเล่นให้กับทีมท้องถิ่นที่ชื่อ บลูมฟิลด์ส (Bloomfields ) ในตำแหน่งศูนย์หน้าตัวกลาง และหากดูจากเว็บไซต์ส่วนตัวของเขาเองบอกไว้ว่า เขาทำประตูได้ถึง 30 ประตูเลยทีเดียว หลังจากนั้นเขาก็ย้ายทีมไปเล่นให้กับ เอลธัม ทาวน์ (Eltham Town) ในทีมรุ่นอายุไม่เกิน 13 และ 14 ปี โดยที่นี่เขาลงเล่นในตำแหน่ง มิดฟิลด์ตัวกลาง และทำให้แมวมองจากทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ให้ความสนใจในตัวเขา

    ริโอ เซ็นสัญญาร่วมทีมกับ เวสต์แฮม ในฐานะนักเตะฝึกหัดด้วยวัยเพียง 14 ปี และเมื่ออายุได้ 16 ปี เขาปฏิเสธการยื่นข้อเสนอจาก มิดเดิ้ลสโบรซ์, นอริช ซิตี้, มิลล์วอลล์, ชาร์ลตัน และ เชลซี โดยตัดสินใจอยู่ค้าแข้งกับทีมขุนค้อนต่อไป ด้วยสัญญา 2 ปี ในการเป็นนักเตะทีมชุดเยาวชน ด้วยค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 30 ปอนด์

    ในขณะนั้นหน้าที่ของเขาคือทำความสะอาดรองเท้าของตำนานของทีมอย่าง โทนี่ คอตตี้ และ ผู้จัดการทีม แฮร์รี่ เรดแนปป์ ส่วนในสนามเขาก็สามารถช่วยทีมเยาวชนคว้าแชมป์ South East Counties League ในปี 1995/96 ความสามารถของเขาทำให้ เรดแนปป์ สนใจที่จะเซ็นสัญญากับเขาในฐานะนักฟุตบอลในทีมชุดใหญ่ ซึ่งในขณะนั้น ริโอ มีอายุเพียง 17 ปี เท่านั้น

    การลงเล่นนัดแรกของเขาให้กับทีมชุดใหญ่ในวันที่ 5 พฤษภาคม 1996 เขาลงเล่นเป็นตัวสำรองในเกมที่พบกับ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ที่ อัพตัน พาร์ค ฤดูกาลหลังจากนั้น เรดแนปป์ ได้ส่ง ริโอ ไปเล่นกับ บอร์นมัธ ด้วยสัญญายืมตัว

    เขาลงเล่นให้กับทีมในดิวิชั่น 2 จำนวน 10 นัด ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 1996 ถึง 11 มกราคม 1997 แล้วจึงกลับมาเล่นให้กับ เวสต์แฮม ตามเดิม เขาเริ่มเล่นให้กับทีมอย่างจริงจังเมื่อวันที่ 25 มกราคม 1997 ซึ่งเป็นความทรงจำที่ไม่ค่อยดีนัก เมื่อทีมของเขาพ่ายในศึก เอฟเอ คัพ 0-1 ตามมาด้วยการพ่ายแพ้ในศึก พรีเมียร์ชิพ ที่ต้องพบกับ แบล็คเบิร์น ที่ อีวู้ด พาร์ค 2 – 1 ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 1997

    ริโอ ลงเล่นให้ทีมขุนค้อน 152 นัดทำได้ 2 ประตู ก่อนจะย้ายไปเล่นให้กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์ ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2000 ในขณะนั้นถือเป็นค่าตัวนักฟุตบอลที่แพงที่สุดในเกาะอังกฤษ และเป็นค่าตัวกองหลังที่แพงที่สุดในโลกด้วย แต่เขาเริ่มต้นกับทีมใหม่ได้ไม่ค่อยดีนัก ด้วยนัดแรกที่พ่ายต่อ เลสเตอร์ ซิตี้ 1 – 3 และตามมาด้วยการแพ้ต่อ เซาแธมป์ตัน 1 – 0

    หลังจากนั้นชีวิตในลีดส์ ก็ดูเหมือนจะดีขึ้น และเขาก็ได้ช่วยทีมของ เดวิด โอเลียรี่ ให้ผ่านเข้ารอบ semi-finals ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ ซึ่งเขาสามารถทำได้ 3 ประตูในฤดูกาลแรกกับ ลีดส์ โดยประตูเหล่านั้นได้มาโดยการยิงทีม ลิเวอร์พูล, ลาคอรุนญ่า และทีมเก่าของเขาเอง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

    ฤดูกาลที่ 2 กับทีมก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่ฟอร์มการเล่นของเขาก็พัฒนาขึ้น เป็นกองหลังที่มีความสามารถมากคนหนึ่ง และด้วยเหตุนี้เอง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งมองเห็นความสามารถของเขา จึงได้ติดต่อซื้อตัวเขามาร่วมทีมก่อนฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายจะเริ่มขึ้น การเจรจาต่อรองเรื่องค่าตัวของเขาเกิดขึ้นและใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการยื่นข้อเสนอ จนมาตกลงกันได้ที่ค่าตัว 30 ล้านปอนด์ และกลายเป็นสถิติใหม่ของนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในเกาะอังกฤษ

    ฤดูกาลแรกของเขาที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เขาต้องพบกับอาการบาดเจ็บ และมีฟอร์มที่ไม่ดีนักในสนาม แต่ก็ยังสามารถช่วยทีมคว้าถ้วยแชมป์ลีก กลับคืนมาจาก อาร์เซนอล ได้สำเร็จเป็นเป็นแชมป์ลีกครั้งที่ 15 ของสโมสร ริโอ เฟอร์ดินานด์ กล่าวว่า เขาย้ายมาที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อต้องการถ้วยแชมป์ และฝันของเขาก็เป็นจริงหลังจากย้ายมาเพียง 10 เดือนเท่านั้น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×