ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : circle of love 3
Circle Of love 3
เวลาที่เรารักใครซักคน........
เราก็อยากจะให้คนคนนั้นใส่ใจและให้ความสำคัญกับเรา
“ขากลับผมจะนั่งกับพี่จียง” เสียงเล็กเอ่ยขึ้นอย่างเอาแต่ใจ ในขณะที่แทยังและแดซองขึ้นไปนั่งประจำที่บนรถตู้เรียบร้อยแล้ว
“นั่ง กับใครก็เหมือนกันแหละน่า มักเน่ รีบขึ้นรถเถอะ ช้ากว่านี้เดี๋ยวรถติดแน่ๆเลย” แทยังโผล่หน้าออกไปบอกเมื่อเห็นว่าคนทั้งสามยังไม่มีทีท่าว่าจะตกลงเรื่อง ที่นั่งขากลับได้
ผมกำลังเรียกร้องความสนใจจากพี่อยู่ พี่ดูออกมั๊ย.........พี่เทมโป
เลิกมองผมด้วยสายตาที่สำนึกผิดซะเต็มประดาเหอะ เพราะมันทำให้ผมรู้สึกสมเพชตัวเอง
“ขึ้น รถเถอะฮะพี่จียง” มือเล็กๆของซึงริ จับเข้าที่มือของจียง เมื่อเห็นว่าเทมโปไม่มีทีท่าสนใจตัวเองเลยซักนิด เทมโปเดินผ่านหน้าสองคนขึ้นรถอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นมือสองมือที่กุมกันอยู่
มือของจียงที่เต็มใจ ให้ซึงริจับเพียงคนเดียว
“ท่า ทางเทมโปไม่ค่อยพอใจ”จียงเอ่ยกับซึงริ ในขณะที่รถได้เคลื่อนตัวออกจากที่พัก คราวนี้จะมาว่าเขาเป็นฝ่ายไปยุ่งกับซึงริก่อนก็ไม่ได้เพราะซึงริเป็นคนอยาก นั่งกับเขาเองนี่ ท่าทางแบบนี้ สองคนนั้นต้องทะเลาะกันแหงๆ
“ผมไม่ เห็นว่าพี่เค้าจะรู้สึกอะไร ขอยืมไหล่พี่หน่อยนะ ผมง่วงแล้ว”พูดจบก็หลับตาและซบไปที่ไหล่ของพี่ชายอย่างออดอ้อน จียงเห็นท่าทางที่ไม่ค่อยดีของคนข้างๆก็ห่วงจนอดถามไม่ได้
“นี่ เมื่อคืนไม่ได้นอนเพราะมัวแต่ร้องไห้รึไง ” ไม่มีการตอบรับจากซึงริ แสดงว่าเจ้าตัวได้หลับไปแล้ว
บรรยากาศ ในรถยามเดินทางกลับช่างแตกต่างจากตอนขามาอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากขากลับทุกคนต่างเหนื่อยอ่อนจึงเพลียและผล็อยหลับไปตามๆกัน จะมีเพียงพี่ใหญ่ของวงคนเดียวที่ยังไงก็หลับไม่ลงเพราะในใจมีเรื่องให้คิด มากมาย
ถ้าทำตามที่ซึงริพูดไว้
แต่ทำแบบนี้
มันจะทำให้เราทั้งสามคนเจ็บน้อยลงหรือเปล่านะ
ไม่เลย มีแต่จะเจ็บมากขึ้น เขาทำให้ซึงริเจ็บ ซึงริก็จะทำให้จียงเจ็บโดยไม่รู้ตัว
นี่นายไม่รู้จริงๆหรอซึงริ ว่าการกระทำของนาย มันก็ไม่ได้ต่างไปจากการกระทำของพี่เลย
Circle Of Love
เนื่อง จากสมาชิกบิ๊กแบงทั้งห้าคน ต่างเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางกลับจากต่างจังหวัด ผู้จัดการเลยใจดีให้พวกเขาพักผ่อนอีกซักหนึ่งวัน ก่อนที่จะต้องทำงานหนัก ในหนึ่งอาทิตย์ที่เหลือ
ในขณะที่ทุกคนกำลังใช้เวลาพักผ่อนให้คุ้มค่าที่สุด แทยังก็เลือกที่จะมานั่งดูโทรทัศน์ ที่ห้องนั่งเล่นอย่างสบายใจ
ดูทีวีคนเดียวนี่สบายใจชะมัดเลย ไม่มีใครมาคอยเปลี่ยนช่องให้ขัดใจ
นิ้วเรียวยังคงจิ้มรีโมทเพื่อเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆเนื่องจากยังไม่พบกับช่องที่ถูกใจซักที แต่แล้วก็มาหยุดอยู่ที่รายการหนึ่ง
“เฮ้ย เพลงเรานี่หว่า เอ็มวีตัวนี้ไม่ได้ดูนานแล้วด้วย”เสียงดนตรีเพลงโซโล่อัลบัมแรกของแทยัง Ma Girl ดังขึ้น พร้อมกับเจ้าตัวที่นั่งชื่นชมผมงานตัวเอง และคิดในใจว่า เราก็เท่เหมือนกันนี่หว่า
“ดูหนังโป๊อยู่หรอ?”อยู่ดีๆก็มีคนมากระซิบข้างหูทำให้แทยังสะดุ้ง
“เออ พระเอกโคตรหล่อเลยแม่ง มาดูด้วยกันมั๊ยละ”พูดแล้วก็อยากจะลุกขึ้นเตะคุณหัวหน้าวงซักที คงว่างซะจนไม่มีอะไรทำเลยมากวนเขาถึงที่
“555 ไอหลงตัวเองนี่นะหล่อของแก”เสียงหัวเราะที่ดังขึ้นจากจียงสร้างความหมั่นไส้ให้กับแทยังได้ไม่น้อย
“อ่อ ช็อตประทับใจจูบแรกของแกนี่หว่า”จียงพูดขึ้นหลังจากช็อตที่แทยังได้จูบกับนางเอกมิวสิกปรากฏขึ้น
“อิจฉาฉันละสิ ได้จูบกับสาวสวย”แทยังเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ( มากๆ ) นี่เขามีจูบแรกกับสาวสวยเชียวนะ.
..... เฮ้อ มันช่างภูมิใจกับจูบแรกของมันจริงๆ
“แกว่า เวลาคนสองคนจะจูบกันเนี่ย เค้าจะจูบกันเพราะความรักรึเปล่าวะ?”คำถามของจียงทำให้แทยังหันมามองหน้าเพื่อนรักอย่างสงสัย
“ประทานโทษนะครับ ไม่ทราบว่าทำไม ท่านจียงผู้โชกโชนประสบการณ์ด้านความรัก ถึงได้มาถามคนที่ไม่มีประสบการณ์อย่างผมล่ะครับ”
“ก็แค่อยากรู้ว่าคนอื่นเค้าคิดยังไง” เสียงตอบนิ่งของจียงทำให้แทยังเลิกกวนและตอบคำถามนั้น
“ก็ต้องรักสิ ใครจะบ้าจูบกับคนที่ตัวเองไม่ได้รักล่ะ”
“แล้วนายกะนางเอกเอ็มวีล่ะ?”
“อัน นั้นมันการทำงานโว้ย ต้องดูด้วยว่าคนที่เราจูบด้วยอ่ะเป็นใคร หรือว่า....นายไปโดนใครจูบมารึไงจียง ทำไมถึงมาถามแบบนี้”แทยังรีบซักไซ้เพื่อนทันที เมื่อเห็นท่าทางแปลกๆของจียง
“เฮ้ย ปละ เปล๊า ไม่ได้จูบกับใครเลยจริงๆนะ”ปฎิเสธอย่างร้อนตัว ให้ตายเหอะ นี่เขาทำอะไรให้ไอแทยังมันจับไต๋ได้ละเนี่ย โอ๊ย แค่คิดถึงเรื่องตอนนั้น หน้ามันก็ร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
สงสัยไข้จะกลับมาเล่นงานอีกละมั้ง
“ไม่ ก็ไม่ดิ ทำไมต้องร้อนตัวขนาดนั้นล่ะ แต่ฉันว่านะ99เปอร์เซ็นต์แหละ ที่คนจูบกันด้วยความรัก ใครเค้าจะจูบกับคนที่ตัวเองเกลียดกันล่ะ แกว่ามั๊ย”
ก็ฉันนี่ไงละโว้ย จียงได้แต่เถียงอยู่ในใจไม่ได้พูดออกไป
“อะ เออฉันไปดื่มน้ำก่อนนะ”พูดเสร็จก็ชิ่งหนีเพราะกลัวว่าถ้าขืนอยู่ต่อ มีหวังโดนแทยังมันซักจนเผลอพูดอะไรออกไป
99เปอร์เซ็นต์ งั้นหรอ?
มือ บางรินน้ำจากขวดใส่แก้วแล้วดื่มอย่างชื่นใจ ถ้าไม่ติดที่ว่า จะมีคนที่ตอนนี้จียงไม่อยากเจอหน้าที่สุดได้เดินเข้ามาที่เดียวกันนะสิ
"แต่ฉันว่านะ99เปอร์เซ็นต์แหละ ที่คนจูบกันด้วยความรัก"
อยู่ดีๆเสียงของแทยังก็ลอยเข้ามาในโสตประสาททำให้จียงสำลักน้ำทันที
“แค่กๆๆๆ”ไออย่างลำบากพร้อมกับยกมือประมาณว่าไม่เป็นไร เมื่อเทมโปทำท่าจะเดินเข้ามาดูอาการ
“ไม่สบายหรอจียง หน้านายเดี๋ยวซีดเดี๋ยวแดงแบบนี้”เทมโปถามขึ้นเมื่อเห็นอาการแปลกๆของคนตรงหน้า
“ฉัน สบายดี เอ่อ ว่าแต่นายทะเลาะกับซึงริรึไง?”รีบถามเพื่อเปลี่ยนเรื่องทันที ไหนๆก็เจอต้นเหตุที่ทำให้ซึงริจ๋อยได้ขนาดนี้ ยังไงวันนี้ก็ต้องถามให้รู้เรื่อง
“ก็ มีปัญหากันนิดหน่อย นึกว่านายจะดีใจซะอีกนะที่ซึงริกลับไปใกล้ชิดกับนายเหมือนเมื่อก่อน”ถ้าไม่ ตั้งใจฟังจริงๆคงไม่รู้ว่าคนพูด พูดด้วยน้ำเสียงที่ตัดพ้อหน่อยๆ
“ฉัน ก็แค่แปลกใจ ที่ไม่เห็นนายมาตามหึงซึงริเหมือนแต่ก่อน”พูดจบจียงก็เดินออกไปจาตรงนั้น ทันที ทิ้งให้สายตาคู่หนึ่งมองตามอย่างเหนื่อยใจ
แม้แต่หน้าฉันนายก็ไม่อยากจะมองสินะจียง
นี่ ก็สองวันมาแล้วที่ซึงริได้กลับมาใกล้ชิดกับจียงเหมือนเมื่อก่อน รู้สึกจะมากกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำ ยิ่งเฉพาะเวลาอยู่ต่อหน้าเทมโปทั้งสองคนก็แสดงความสนิทสนมกัน จนน่าหมั่นไส้ในสายตาของใครบางคน ทำให้คนที่ทนเห็นภาพนั้นไม่ไหวอย่างเทมโปต้องเดินหนีออกไปทุกครั้ง
และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน
“พี่จียงป้อนขนมหน่อย”ซึงริพูดพร้อมกับอ้าปากในขณะที่นอนหนุนตักจียงอยู่
“เดี๋ยว นี้ทำไมมักเน่ถึงขี้อ้อนจัง มือก็ว่างอยู่ไม่ใช่หรอเรา”จียงถามอย่างเอ็นดู เดี๋ยวนี้ซึงริขี้อ้อนกว่าเมื่อก่อนจริงๆนะ ไม่ได้คิดไปเองด้วย
“ไม่ว่างแล้วเนี่ยเห็นมั๊ย”พูดจบก็จับมือของจียงมากุมไว้ พร้อมกับมองมองจียงตาแป๋ว จนคนเป็นพี่อดที่จะเอ็นดูไม่ได้
“แล้วพี่จะป้อนยังไงละเนี่ย” เสียงหัวเราะของคนสองคนดังขึ้น
ปัง !! เสียงปิดประตูอย่างดังทำให้สามคนที่เหลือหันไปมอง มีก็แต่ซึงริที่ยังนอนตักของจียงต่อไปโดยที่ไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา
แม้ว่าภายนอกจะดูเหมือนกับไม่รู้สึกอะไร ในใจเขากลับร้อนรน สับสนกับความรู้สึกหลากหลายที่เกิดขึ้นตอนนี้
เห็นแล้วใช่มั๊ยว่าพี่จียงรักผม ยังไงเค้าก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจไปรักพี่
ถ้าจะแข่งกับผมเรื่องหัวใจพี่จียงหน่ะ พี่แพ้ผมตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มแล้ว
ในเมื่อผมไม่สมหวัง ผมก็ไม่มีวันให้พี่สมหวังเหมือนกัน
ทั้งสมเพชตัวเอง ที่ไม่ว่าจะเรียกร้องความสนใจมากเพียงใด เ้ค้าคนนั้นก็ไม่สนใจ
ในทางกลับกัน เหมือนกับว่าความหวังเพียงน้อยนิดที่ว่า เมื่อคบกันแล้ว พี่เทมโปจะหันกลับมามองที่เขาบ้าง
กลับเหลือน้อย จนแทบไม่เห็นถึงความเป็นไปได้
ทั้งอิจฉาและสงสารพี่จียงไปพร้อมๆกัน อิจฉา ที่ได้รับความรักจากคนที่ไม่เคยเห็นคุณค่าของเขา
เพราะความรักของเค้าคนนั้น มีให้กับพี่จียงเพียงคนเดียว
แม้ว่าจะพยายามปกปิดซักเพียงใด แต่ทั้งสายตาและการกระทำ ก็ไม่สามารถโกหกได้
สงสารพี่ชายที่แสนดีอย่างพี่จียง ถึงแม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าความรักและความหวังดีที่พี่จียงมีให้เขานั้นมากมายเพียงใด
แต่เขาก็ไม่สามารถตอบรับความรู้สึกที่มากไปกว่าพี่น้องได้จริงๆ
และตอนนี้ เขากำลังใช้พี่ชายที่แสนดีของเขา เป็นเครื่องมือในการแก้แค้นใครคนนั้นที่ไม่เคยเห็นคุณค่าในความรักของเขาเลย
“พี่เท๊มเค้าเป็นอะไรของเค้าอ่ะ”แดซองที่นั่งเล่นเกมกับแทยังอยู่ที่อีกฟากของห้องถามขึ้นเบาๆ
“คงทนเห็นภาพบาดตาไม่ไหวมั้ง”แทยังตอบและหันไปเริ่มเล่นเกมต่อ
วันนี้ ซึงริจะพิสูจน์ว่าจียงยังรู้สึกกับเขาเหมือนเดิมรึเปล่า เพราะหลังจากเห็นท่าทางของจียงในช่วงหลังๆแล้วทำให้เขาไม่ไว้ใจเลยจริงๆ
ถ้าพี่จียงรักพี่เทมโปขึ้นมา พี่เทมโปก็จะสมหวัง ซึ่งเขาจะไม่มีวันยอมให้มันเกิดขึ้นแน่ๆ
“อ้าว ซึงริ พี่ยังแต่งเพลงไม่เสร็จ ถ้าง่วงก็นอนก่อนก็ได้นะ” จียงเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นน้องเล็กของวงเข้ามาในห้อง โดยที่ยังไม่ละสายตาจากกระดาษที่ใช้แต่งเพลง
“ผมมีเรื่องสำคัญจะถามพี่”จียงได้ยินดังนั้นก็เงยหน้ามองซึงริเล็กน้อย พร้อมกับวางกระดาษที่แต่งเพลงในมือลง
“พี่ รักผมรึเปล่า”ถามพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ๆ จ้องเข้าไปที่ดวงตาของอีกฝ่ายเหมือนจะหาคำตอบ ตอนนี้ความรู้สึกของพี่ที่มีให้ผมยังเหมือนเดิมอยู่รึเปล่า
“อะ เอ่อรักสิ”จียงละสายตาจากกระดาษที่แต่งเพลง ยืนขึ้นเต็มความสูง หันหน้าไปเผชิญหน้ากับซึงริ พร้อมกับมองถึงท่าทีที่แปลกไปของซึงริอย่างสงสัย
“ถ้าพี่รักผม พี่จูบผมได้มั๊ย” จียงอึ้งที่อยู่ดีๆซึงริก็ขอให้เขาทำแบบนั้น ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจูบซึงริได้อย่างไม่ลังเล
ดวงตาสีนิล จ้องกลับไปยังดวงตาของน้องเล็ก มันไม่ได้มีประกายแห่งความขี้เล่นเมื่อที่เค้าเคยเห็นอยู่บ่อยๆ
แต่สิ่่งที่เขาเห็นกลับเป็นท่าทางที่จริงจัง จนทำให้เชื่อได้ว่าคราวนี้ซึงริไม่ได้ล้อเล่นแน่นอน
"อะไรกันอยู่ๆก็มาขอให้พี่ทำแบบนี้" จียงกำลังสับสน ในใจคิดว่า นี่เป็นโอกาสของนายแล้วไม่ใช่เหรอ คนที่นายรักกำลังขอให้นายจูบ
แต่ทำไมเขากลับไม่รู้สึกต้องการจะครอบครองริมฝีปากบางๆ ด้วยริมฝีบางของเขาเท่าใดนัก
ซึงริหลับตา เมื่อจียงโน้มตัวเข้าไปใกล้เรื่อยๆ จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของอีกฝ่าย
ซึงริกำลังกลัว จียงรู้ดี น้ำตารื่นขึ้นมาจากดวงตาที่หลับสนิท และไหล่บางที่กำลังสั่นสะท้านเพราะความกลัว
ริมฝีปากบางจรดลงไปบนหน้าผากมนอย่างแผ่วเบา แช่มช้า ได้แต่หวังว่าสัมผัสอันแผ่วเบาของเขา จะทำให้คนตรงหน้าคลายความทุกข์ใจลงไปได้บ้าง
ทำให้คนที่หลับตาอยู่ลืมตาขึ้นมา
“ไม่ใช่ พี่จียง ไม่ใช่จูบแบบนี้ พี่บอกว่ารักผมไม่ใช่หรอแล้วทำไม” และจียงก็จูบลงไปที่ตำแหน่งเดิม พร้อมกับกระซิบข้างๆหูของซึงริว่า
“พี่ ทำร้ายนายไม่ลงหรอก นายเป็นน้องชายพี่นะ” เมื่อได้ยินอย่างนั้นซึงริก็โผเข้ากอดจียงทันที พร้อมกับซบหน้ากับอ้อมกอดที่เขาแสนจะคุ้นเคย มือบางยกขึ้นลูบหัวน้องชายอย่างปลอบโยน คนตัวบางสะอื้นอย่างหน้าสงสาร เขาช่างเลวจริงๆที่คิดจะใช้พี่จียงเป็นเครื่องมือ
พี่ทำไม่ลงจริงๆ พี่แค่อยากจะปกป้องและดูแลนาย ให้นายมีความสุขเท่านั้น
“ฮึก ฮืออ คนใจร้าย พี่เทมโปใจร้าย” แม้ว่าเขาจะแค้นเทมโปมากเพียงใด แต่ความรักที่มี่ต่อเทมโปนั้นไม่ได้น้อยลงไปเลย ไม่ว่ายังไงซึงริก็ต้องยอมรับว่าเขาเกลียดผู้ชายที่ชื่อว่า ชเว ซึงฮยอนไม่ลงจริงๆ
เหนื่อย
เหนื่อยเหลือเกินที่เอาแต่วิ่งตามความรักที่ไม่ได้เป็นของเราตั้งแต่แรก
ไว้พรุ่งนี้ก่อน พรุ่งนี้ผมจะจบทุกอย่าง
ยิ่งทำแบบนี้พี่จียงก็จะเจ็บไปด้วย
พรุ่งนี้เป็นต้นไป อีซึงฮยอนจะตัดใจจากชเว ซึงฮยอนซักที
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังกอดกันอยู่นั้น มีสายตาคู่หนึ่งที่มองมาอย่างเจ็บปวด
เห็นชัดแล้วว่าสองคนนั้นรักกันมากขนาดไหน คงไม่มีใครสามารถแทรกกลางความรักระหว่างจียงและซึงริได้
ถึงเวลาแล้วใช่มั๊ย ที่ควรจะเลิกทำตัวงี่เง่าดันทุรังบังคับจิตใจคนที่เค้าไม่ได้รักเรา
เขารู้ดีว่า จียงเกลียดเขา ถ้าเขาเป็นจียงเขาก็คงเกลียดตัวเองเหมือนกัน
ตอนนี้ซึงริก็คงจะเกลียดเขาไปด้วย มันยิ่งกลับทำให้เขาเกลียดตัวเอง ที่ดึงซึงริเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้เจ็บไปทุกฝ่าย
มันเจ็บปวดนะที่รักแค่ไหนก็ไม่สามารถพูดออกไปได้
ฉันก็ทำได้แค่มอง เวลาที่นายมีความสุขกับคนที่นายรัก
ขอโทษจริงๆที่ทำให้พวกนายเจ็บ
ถึงเวลาที่ฉันควรตัดใจจากนายแล้วจียง
Talk
ตอนหน้าก็จบแล้วนะคะ จะมีตอนพิเศษส่งท้าย
คนอ่านหายไปไหนหมดเน้
ขอแค่คนละเม้นท์ ไม่มากเกินไปใช่มั้ยคะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและให้กำลังใจ อยากบอกให้รู้ว่าทุกคอมเม้นต์ของคุณ เป็นกำลังให้ไรเตอร์คนนี้มากๆเลยนะคะ
ใครที่เข้ามาอ่านก็ช่วยแสดงตัวหน่อยเน้ ตอนหน้าจะจบแล้ว
รักทุกคน จุ๊บุจุ๊บุ
เวลาที่เรารักใครซักคน........
เราก็อยากจะให้คนคนนั้นใส่ใจและให้ความสำคัญกับเรา
“ขากลับผมจะนั่งกับพี่จียง” เสียงเล็กเอ่ยขึ้นอย่างเอาแต่ใจ ในขณะที่แทยังและแดซองขึ้นไปนั่งประจำที่บนรถตู้เรียบร้อยแล้ว
“นั่ง กับใครก็เหมือนกันแหละน่า มักเน่ รีบขึ้นรถเถอะ ช้ากว่านี้เดี๋ยวรถติดแน่ๆเลย” แทยังโผล่หน้าออกไปบอกเมื่อเห็นว่าคนทั้งสามยังไม่มีทีท่าว่าจะตกลงเรื่อง ที่นั่งขากลับได้
ผมกำลังเรียกร้องความสนใจจากพี่อยู่ พี่ดูออกมั๊ย.........พี่เทมโป
เลิกมองผมด้วยสายตาที่สำนึกผิดซะเต็มประดาเหอะ เพราะมันทำให้ผมรู้สึกสมเพชตัวเอง
“ขึ้น รถเถอะฮะพี่จียง” มือเล็กๆของซึงริ จับเข้าที่มือของจียง เมื่อเห็นว่าเทมโปไม่มีทีท่าสนใจตัวเองเลยซักนิด เทมโปเดินผ่านหน้าสองคนขึ้นรถอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นมือสองมือที่กุมกันอยู่
มือของจียงที่เต็มใจ ให้ซึงริจับเพียงคนเดียว
“ท่า ทางเทมโปไม่ค่อยพอใจ”จียงเอ่ยกับซึงริ ในขณะที่รถได้เคลื่อนตัวออกจากที่พัก คราวนี้จะมาว่าเขาเป็นฝ่ายไปยุ่งกับซึงริก่อนก็ไม่ได้เพราะซึงริเป็นคนอยาก นั่งกับเขาเองนี่ ท่าทางแบบนี้ สองคนนั้นต้องทะเลาะกันแหงๆ
“ผมไม่ เห็นว่าพี่เค้าจะรู้สึกอะไร ขอยืมไหล่พี่หน่อยนะ ผมง่วงแล้ว”พูดจบก็หลับตาและซบไปที่ไหล่ของพี่ชายอย่างออดอ้อน จียงเห็นท่าทางที่ไม่ค่อยดีของคนข้างๆก็ห่วงจนอดถามไม่ได้
“นี่ เมื่อคืนไม่ได้นอนเพราะมัวแต่ร้องไห้รึไง ” ไม่มีการตอบรับจากซึงริ แสดงว่าเจ้าตัวได้หลับไปแล้ว
บรรยากาศ ในรถยามเดินทางกลับช่างแตกต่างจากตอนขามาอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากขากลับทุกคนต่างเหนื่อยอ่อนจึงเพลียและผล็อยหลับไปตามๆกัน จะมีเพียงพี่ใหญ่ของวงคนเดียวที่ยังไงก็หลับไม่ลงเพราะในใจมีเรื่องให้คิด มากมาย
ถ้าทำตามที่ซึงริพูดไว้
แต่ทำแบบนี้
มันจะทำให้เราทั้งสามคนเจ็บน้อยลงหรือเปล่านะ
ไม่เลย มีแต่จะเจ็บมากขึ้น เขาทำให้ซึงริเจ็บ ซึงริก็จะทำให้จียงเจ็บโดยไม่รู้ตัว
นี่นายไม่รู้จริงๆหรอซึงริ ว่าการกระทำของนาย มันก็ไม่ได้ต่างไปจากการกระทำของพี่เลย
Circle Of Love
เนื่อง จากสมาชิกบิ๊กแบงทั้งห้าคน ต่างเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางกลับจากต่างจังหวัด ผู้จัดการเลยใจดีให้พวกเขาพักผ่อนอีกซักหนึ่งวัน ก่อนที่จะต้องทำงานหนัก ในหนึ่งอาทิตย์ที่เหลือ
ในขณะที่ทุกคนกำลังใช้เวลาพักผ่อนให้คุ้มค่าที่สุด แทยังก็เลือกที่จะมานั่งดูโทรทัศน์ ที่ห้องนั่งเล่นอย่างสบายใจ
ดูทีวีคนเดียวนี่สบายใจชะมัดเลย ไม่มีใครมาคอยเปลี่ยนช่องให้ขัดใจ
นิ้วเรียวยังคงจิ้มรีโมทเพื่อเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆเนื่องจากยังไม่พบกับช่องที่ถูกใจซักที แต่แล้วก็มาหยุดอยู่ที่รายการหนึ่ง
“เฮ้ย เพลงเรานี่หว่า เอ็มวีตัวนี้ไม่ได้ดูนานแล้วด้วย”เสียงดนตรีเพลงโซโล่อัลบัมแรกของแทยัง Ma Girl ดังขึ้น พร้อมกับเจ้าตัวที่นั่งชื่นชมผมงานตัวเอง และคิดในใจว่า เราก็เท่เหมือนกันนี่หว่า
“ดูหนังโป๊อยู่หรอ?”อยู่ดีๆก็มีคนมากระซิบข้างหูทำให้แทยังสะดุ้ง
“เออ พระเอกโคตรหล่อเลยแม่ง มาดูด้วยกันมั๊ยละ”พูดแล้วก็อยากจะลุกขึ้นเตะคุณหัวหน้าวงซักที คงว่างซะจนไม่มีอะไรทำเลยมากวนเขาถึงที่
“555 ไอหลงตัวเองนี่นะหล่อของแก”เสียงหัวเราะที่ดังขึ้นจากจียงสร้างความหมั่นไส้ให้กับแทยังได้ไม่น้อย
“อ่อ ช็อตประทับใจจูบแรกของแกนี่หว่า”จียงพูดขึ้นหลังจากช็อตที่แทยังได้จูบกับนางเอกมิวสิกปรากฏขึ้น
“อิจฉาฉันละสิ ได้จูบกับสาวสวย”แทยังเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ( มากๆ ) นี่เขามีจูบแรกกับสาวสวยเชียวนะ.
..... เฮ้อ มันช่างภูมิใจกับจูบแรกของมันจริงๆ
“แกว่า เวลาคนสองคนจะจูบกันเนี่ย เค้าจะจูบกันเพราะความรักรึเปล่าวะ?”คำถามของจียงทำให้แทยังหันมามองหน้าเพื่อนรักอย่างสงสัย
“ประทานโทษนะครับ ไม่ทราบว่าทำไม ท่านจียงผู้โชกโชนประสบการณ์ด้านความรัก ถึงได้มาถามคนที่ไม่มีประสบการณ์อย่างผมล่ะครับ”
“ก็แค่อยากรู้ว่าคนอื่นเค้าคิดยังไง” เสียงตอบนิ่งของจียงทำให้แทยังเลิกกวนและตอบคำถามนั้น
“ก็ต้องรักสิ ใครจะบ้าจูบกับคนที่ตัวเองไม่ได้รักล่ะ”
“แล้วนายกะนางเอกเอ็มวีล่ะ?”
“อัน นั้นมันการทำงานโว้ย ต้องดูด้วยว่าคนที่เราจูบด้วยอ่ะเป็นใคร หรือว่า....นายไปโดนใครจูบมารึไงจียง ทำไมถึงมาถามแบบนี้”แทยังรีบซักไซ้เพื่อนทันที เมื่อเห็นท่าทางแปลกๆของจียง
“เฮ้ย ปละ เปล๊า ไม่ได้จูบกับใครเลยจริงๆนะ”ปฎิเสธอย่างร้อนตัว ให้ตายเหอะ นี่เขาทำอะไรให้ไอแทยังมันจับไต๋ได้ละเนี่ย โอ๊ย แค่คิดถึงเรื่องตอนนั้น หน้ามันก็ร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
สงสัยไข้จะกลับมาเล่นงานอีกละมั้ง
“ไม่ ก็ไม่ดิ ทำไมต้องร้อนตัวขนาดนั้นล่ะ แต่ฉันว่านะ99เปอร์เซ็นต์แหละ ที่คนจูบกันด้วยความรัก ใครเค้าจะจูบกับคนที่ตัวเองเกลียดกันล่ะ แกว่ามั๊ย”
ก็ฉันนี่ไงละโว้ย จียงได้แต่เถียงอยู่ในใจไม่ได้พูดออกไป
“อะ เออฉันไปดื่มน้ำก่อนนะ”พูดเสร็จก็ชิ่งหนีเพราะกลัวว่าถ้าขืนอยู่ต่อ มีหวังโดนแทยังมันซักจนเผลอพูดอะไรออกไป
99เปอร์เซ็นต์ งั้นหรอ?
มือ บางรินน้ำจากขวดใส่แก้วแล้วดื่มอย่างชื่นใจ ถ้าไม่ติดที่ว่า จะมีคนที่ตอนนี้จียงไม่อยากเจอหน้าที่สุดได้เดินเข้ามาที่เดียวกันนะสิ
"แต่ฉันว่านะ99เปอร์เซ็นต์แหละ ที่คนจูบกันด้วยความรัก"
อยู่ดีๆเสียงของแทยังก็ลอยเข้ามาในโสตประสาททำให้จียงสำลักน้ำทันที
“แค่กๆๆๆ”ไออย่างลำบากพร้อมกับยกมือประมาณว่าไม่เป็นไร เมื่อเทมโปทำท่าจะเดินเข้ามาดูอาการ
“ไม่สบายหรอจียง หน้านายเดี๋ยวซีดเดี๋ยวแดงแบบนี้”เทมโปถามขึ้นเมื่อเห็นอาการแปลกๆของคนตรงหน้า
“ฉัน สบายดี เอ่อ ว่าแต่นายทะเลาะกับซึงริรึไง?”รีบถามเพื่อเปลี่ยนเรื่องทันที ไหนๆก็เจอต้นเหตุที่ทำให้ซึงริจ๋อยได้ขนาดนี้ ยังไงวันนี้ก็ต้องถามให้รู้เรื่อง
“ก็ มีปัญหากันนิดหน่อย นึกว่านายจะดีใจซะอีกนะที่ซึงริกลับไปใกล้ชิดกับนายเหมือนเมื่อก่อน”ถ้าไม่ ตั้งใจฟังจริงๆคงไม่รู้ว่าคนพูด พูดด้วยน้ำเสียงที่ตัดพ้อหน่อยๆ
“ฉัน ก็แค่แปลกใจ ที่ไม่เห็นนายมาตามหึงซึงริเหมือนแต่ก่อน”พูดจบจียงก็เดินออกไปจาตรงนั้น ทันที ทิ้งให้สายตาคู่หนึ่งมองตามอย่างเหนื่อยใจ
แม้แต่หน้าฉันนายก็ไม่อยากจะมองสินะจียง
นี่ ก็สองวันมาแล้วที่ซึงริได้กลับมาใกล้ชิดกับจียงเหมือนเมื่อก่อน รู้สึกจะมากกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำ ยิ่งเฉพาะเวลาอยู่ต่อหน้าเทมโปทั้งสองคนก็แสดงความสนิทสนมกัน จนน่าหมั่นไส้ในสายตาของใครบางคน ทำให้คนที่ทนเห็นภาพนั้นไม่ไหวอย่างเทมโปต้องเดินหนีออกไปทุกครั้ง
และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน
“พี่จียงป้อนขนมหน่อย”ซึงริพูดพร้อมกับอ้าปากในขณะที่นอนหนุนตักจียงอยู่
“เดี๋ยว นี้ทำไมมักเน่ถึงขี้อ้อนจัง มือก็ว่างอยู่ไม่ใช่หรอเรา”จียงถามอย่างเอ็นดู เดี๋ยวนี้ซึงริขี้อ้อนกว่าเมื่อก่อนจริงๆนะ ไม่ได้คิดไปเองด้วย
“ไม่ว่างแล้วเนี่ยเห็นมั๊ย”พูดจบก็จับมือของจียงมากุมไว้ พร้อมกับมองมองจียงตาแป๋ว จนคนเป็นพี่อดที่จะเอ็นดูไม่ได้
“แล้วพี่จะป้อนยังไงละเนี่ย” เสียงหัวเราะของคนสองคนดังขึ้น
ปัง !! เสียงปิดประตูอย่างดังทำให้สามคนที่เหลือหันไปมอง มีก็แต่ซึงริที่ยังนอนตักของจียงต่อไปโดยที่ไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา
แม้ว่าภายนอกจะดูเหมือนกับไม่รู้สึกอะไร ในใจเขากลับร้อนรน สับสนกับความรู้สึกหลากหลายที่เกิดขึ้นตอนนี้
เห็นแล้วใช่มั๊ยว่าพี่จียงรักผม ยังไงเค้าก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจไปรักพี่
ถ้าจะแข่งกับผมเรื่องหัวใจพี่จียงหน่ะ พี่แพ้ผมตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มแล้ว
ในเมื่อผมไม่สมหวัง ผมก็ไม่มีวันให้พี่สมหวังเหมือนกัน
ทั้งสมเพชตัวเอง ที่ไม่ว่าจะเรียกร้องความสนใจมากเพียงใด เ้ค้าคนนั้นก็ไม่สนใจ
ในทางกลับกัน เหมือนกับว่าความหวังเพียงน้อยนิดที่ว่า เมื่อคบกันแล้ว พี่เทมโปจะหันกลับมามองที่เขาบ้าง
กลับเหลือน้อย จนแทบไม่เห็นถึงความเป็นไปได้
ทั้งอิจฉาและสงสารพี่จียงไปพร้อมๆกัน อิจฉา ที่ได้รับความรักจากคนที่ไม่เคยเห็นคุณค่าของเขา
เพราะความรักของเค้าคนนั้น มีให้กับพี่จียงเพียงคนเดียว
แม้ว่าจะพยายามปกปิดซักเพียงใด แต่ทั้งสายตาและการกระทำ ก็ไม่สามารถโกหกได้
สงสารพี่ชายที่แสนดีอย่างพี่จียง ถึงแม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าความรักและความหวังดีที่พี่จียงมีให้เขานั้นมากมายเพียงใด
แต่เขาก็ไม่สามารถตอบรับความรู้สึกที่มากไปกว่าพี่น้องได้จริงๆ
และตอนนี้ เขากำลังใช้พี่ชายที่แสนดีของเขา เป็นเครื่องมือในการแก้แค้นใครคนนั้นที่ไม่เคยเห็นคุณค่าในความรักของเขาเลย
“พี่เท๊มเค้าเป็นอะไรของเค้าอ่ะ”แดซองที่นั่งเล่นเกมกับแทยังอยู่ที่อีกฟากของห้องถามขึ้นเบาๆ
“คงทนเห็นภาพบาดตาไม่ไหวมั้ง”แทยังตอบและหันไปเริ่มเล่นเกมต่อ
วันนี้ ซึงริจะพิสูจน์ว่าจียงยังรู้สึกกับเขาเหมือนเดิมรึเปล่า เพราะหลังจากเห็นท่าทางของจียงในช่วงหลังๆแล้วทำให้เขาไม่ไว้ใจเลยจริงๆ
ถ้าพี่จียงรักพี่เทมโปขึ้นมา พี่เทมโปก็จะสมหวัง ซึ่งเขาจะไม่มีวันยอมให้มันเกิดขึ้นแน่ๆ
“อ้าว ซึงริ พี่ยังแต่งเพลงไม่เสร็จ ถ้าง่วงก็นอนก่อนก็ได้นะ” จียงเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นน้องเล็กของวงเข้ามาในห้อง โดยที่ยังไม่ละสายตาจากกระดาษที่ใช้แต่งเพลง
“ผมมีเรื่องสำคัญจะถามพี่”จียงได้ยินดังนั้นก็เงยหน้ามองซึงริเล็กน้อย พร้อมกับวางกระดาษที่แต่งเพลงในมือลง
“พี่ รักผมรึเปล่า”ถามพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ๆ จ้องเข้าไปที่ดวงตาของอีกฝ่ายเหมือนจะหาคำตอบ ตอนนี้ความรู้สึกของพี่ที่มีให้ผมยังเหมือนเดิมอยู่รึเปล่า
“อะ เอ่อรักสิ”จียงละสายตาจากกระดาษที่แต่งเพลง ยืนขึ้นเต็มความสูง หันหน้าไปเผชิญหน้ากับซึงริ พร้อมกับมองถึงท่าทีที่แปลกไปของซึงริอย่างสงสัย
“ถ้าพี่รักผม พี่จูบผมได้มั๊ย” จียงอึ้งที่อยู่ดีๆซึงริก็ขอให้เขาทำแบบนั้น ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจูบซึงริได้อย่างไม่ลังเล
ดวงตาสีนิล จ้องกลับไปยังดวงตาของน้องเล็ก มันไม่ได้มีประกายแห่งความขี้เล่นเมื่อที่เค้าเคยเห็นอยู่บ่อยๆ
แต่สิ่่งที่เขาเห็นกลับเป็นท่าทางที่จริงจัง จนทำให้เชื่อได้ว่าคราวนี้ซึงริไม่ได้ล้อเล่นแน่นอน
"อะไรกันอยู่ๆก็มาขอให้พี่ทำแบบนี้" จียงกำลังสับสน ในใจคิดว่า นี่เป็นโอกาสของนายแล้วไม่ใช่เหรอ คนที่นายรักกำลังขอให้นายจูบ
แต่ทำไมเขากลับไม่รู้สึกต้องการจะครอบครองริมฝีปากบางๆ ด้วยริมฝีบางของเขาเท่าใดนัก
ซึงริหลับตา เมื่อจียงโน้มตัวเข้าไปใกล้เรื่อยๆ จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของอีกฝ่าย
ซึงริกำลังกลัว จียงรู้ดี น้ำตารื่นขึ้นมาจากดวงตาที่หลับสนิท และไหล่บางที่กำลังสั่นสะท้านเพราะความกลัว
ริมฝีปากบางจรดลงไปบนหน้าผากมนอย่างแผ่วเบา แช่มช้า ได้แต่หวังว่าสัมผัสอันแผ่วเบาของเขา จะทำให้คนตรงหน้าคลายความทุกข์ใจลงไปได้บ้าง
ทำให้คนที่หลับตาอยู่ลืมตาขึ้นมา
“ไม่ใช่ พี่จียง ไม่ใช่จูบแบบนี้ พี่บอกว่ารักผมไม่ใช่หรอแล้วทำไม” และจียงก็จูบลงไปที่ตำแหน่งเดิม พร้อมกับกระซิบข้างๆหูของซึงริว่า
“พี่ ทำร้ายนายไม่ลงหรอก นายเป็นน้องชายพี่นะ” เมื่อได้ยินอย่างนั้นซึงริก็โผเข้ากอดจียงทันที พร้อมกับซบหน้ากับอ้อมกอดที่เขาแสนจะคุ้นเคย มือบางยกขึ้นลูบหัวน้องชายอย่างปลอบโยน คนตัวบางสะอื้นอย่างหน้าสงสาร เขาช่างเลวจริงๆที่คิดจะใช้พี่จียงเป็นเครื่องมือ
พี่ทำไม่ลงจริงๆ พี่แค่อยากจะปกป้องและดูแลนาย ให้นายมีความสุขเท่านั้น
“ฮึก ฮืออ คนใจร้าย พี่เทมโปใจร้าย” แม้ว่าเขาจะแค้นเทมโปมากเพียงใด แต่ความรักที่มี่ต่อเทมโปนั้นไม่ได้น้อยลงไปเลย ไม่ว่ายังไงซึงริก็ต้องยอมรับว่าเขาเกลียดผู้ชายที่ชื่อว่า ชเว ซึงฮยอนไม่ลงจริงๆ
เหนื่อย
เหนื่อยเหลือเกินที่เอาแต่วิ่งตามความรักที่ไม่ได้เป็นของเราตั้งแต่แรก
ไว้พรุ่งนี้ก่อน พรุ่งนี้ผมจะจบทุกอย่าง
ยิ่งทำแบบนี้พี่จียงก็จะเจ็บไปด้วย
พรุ่งนี้เป็นต้นไป อีซึงฮยอนจะตัดใจจากชเว ซึงฮยอนซักที
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังกอดกันอยู่นั้น มีสายตาคู่หนึ่งที่มองมาอย่างเจ็บปวด
เห็นชัดแล้วว่าสองคนนั้นรักกันมากขนาดไหน คงไม่มีใครสามารถแทรกกลางความรักระหว่างจียงและซึงริได้
ถึงเวลาแล้วใช่มั๊ย ที่ควรจะเลิกทำตัวงี่เง่าดันทุรังบังคับจิตใจคนที่เค้าไม่ได้รักเรา
เขารู้ดีว่า จียงเกลียดเขา ถ้าเขาเป็นจียงเขาก็คงเกลียดตัวเองเหมือนกัน
ตอนนี้ซึงริก็คงจะเกลียดเขาไปด้วย มันยิ่งกลับทำให้เขาเกลียดตัวเอง ที่ดึงซึงริเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้เจ็บไปทุกฝ่าย
มันเจ็บปวดนะที่รักแค่ไหนก็ไม่สามารถพูดออกไปได้
ฉันก็ทำได้แค่มอง เวลาที่นายมีความสุขกับคนที่นายรัก
ขอโทษจริงๆที่ทำให้พวกนายเจ็บ
ถึงเวลาที่ฉันควรตัดใจจากนายแล้วจียง
Talk
ตอนหน้าก็จบแล้วนะคะ จะมีตอนพิเศษส่งท้าย
คนอ่านหายไปไหนหมดเน้
ขอแค่คนละเม้นท์ ไม่มากเกินไปใช่มั้ยคะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและให้กำลังใจ อยากบอกให้รู้ว่าทุกคอมเม้นต์ของคุณ เป็นกำลังให้ไรเตอร์คนนี้มากๆเลยนะคะ
ใครที่เข้ามาอ่านก็ช่วยแสดงตัวหน่อยเน้ ตอนหน้าจะจบแล้ว
รักทุกคน จุ๊บุจุ๊บุ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น