ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Bigbang Fiction] Circle of love

    ลำดับตอนที่ #3 : circle of love 2 100%

    • อัปเดตล่าสุด 18 ส.ค. 53


    อุณหภูมิ ภายในห้องที่ลดต่ำลง เนื่องจากฝนที่ตกภายนอก ทำให้คนบนเตียงที่ยังไม่ได้สติ พึมพำออกมาเบาๆ

    “หนาว...” ใบหน้าของจียงแดงเรื่อเพราะพิษไข้ ร่างบอบบางสั่นน้อยๆ ขยับตัวหนี เมื่อเทมโปห่มผ้าให้
    ผ้าห่มตกลงมาอยู่ข้างล่างจากฝีมือคนไม่สบาย

    “ถีบ ผ้าห่มอย่างนั้นแล้วมันจะหายหนาวไหม” เทมโปพยายามที่จะห่มผ้าให้อีกครั้ง แต่ก็ล้มเหลวอีกตามเคย ค่อยๆเอื้อมมือไปแตะหน้าผากคนตรงหน้าอย่างแผ่วเบา ตัวร้อนจี๋เลย ทำไงดีเนี่ย เกิดมาเขาก็ไม่เคยดูแลคนป่วยซะด้วยสิ

    เทมโปออกไปซักพัก ก็กลับมาพร้อมกับกะละมังใบเล็ก ภายในนั้น มีผ้าขนหนูผืนเล็กอยู่ ทันทีที่ความเย็นจากผ้าสัมผัสกับใบหน้า
    ทำให้จียงหันหน้าหนี จนเทมโปต้องค่อยๆประคองจียง พิงกับหัวเตียงทั้งที่ยังไม่ได้สติ  เพื่อที่จะเช็ดตัวได้สะดวกขึ้น
    เมื่อเช็ดตัวเสร็จ เทมโปออกไปอีกครั้งและกลับมาพร้อมกับยาลดไข้และแก้วน้ำ

    “จียง กินยา”แม้ว่าเขาจะเช็ดตัวให้จียงแล้ว แต่ตัวจียงก็ยังร้อนอยู่ เทมโปพยายามประคองจียงอีกครั้งเพื่อจะให้กินยา
    ยาลดไข้ในมือของเทมโปที่พยายามจะป้อนใส่ปากของจียงนั้น ตอนนี้ก็หล่นไปที่พื้นเรียบร้อย คนไม่สบายนอนขดตัวด้วยความหนาว
    ผ้าก็ไม่ห่ม ยาก็ไม่กิน แล้วเมื่อไหร่มันจะหายละเนี่ย คราวนี้เห็นว่าไม่สบายหรอกนะ เทมโปคิดอย่างเหนื่อยใจกับอาการดื้อของคนป่วย

    เทมโปออกไปจากห้องและกลับเข้ามาอีกครั้งด้วย ยาลดไข้แบบน้ำ

    “คราวนี้ถ้าไม่กินอีกเห็นที่ต้องจับกรอกยากันซะแล้ว” เทมโปเปิดฝา ยาลดไข้ เทใส่ช้อนแล้วค่อยๆป้อนจียง
    “แค่ก...” จียงสำลักเล็กน้อย
    “หนาวจัง.... ซึงริ กอดพี่หน่อย” ไม่พูดเปล่า จียงยังดึงเทมโปมานอนข้างๆ แถมยังกอดซะแน่นทำเอาใจของคนโดนกอดเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ
    ใบหน้าใสที่แดงเพราะพิษไข้ อยู่ห่างจากเขาเพียงนิดเดียว

    ดวงตาคมมองไปยังลีดเดอร์ของวงที่หมดฤทธิ์เพราะพิษไข้ ด้วยสายตาที่น้อบคนนักจะมีโอกาศได้เห็น เพราะมันแสดงถึงความเป็นห่วง
    และอ่อนโยนจนเจ้าตัวเองก็ยังไม่รู้ตัว

    “ซึง ริอา...กอดพี่หน่อยสิ” ใบหน้าหล่อเหลามุ่ยลงทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของคนที่กอดเขาอยู่
    นี่ ขนาดนายไม่รู้สึกตัว ยังเพ้อออกมาเป็นชื่อของซึงริ ใช่สิ ในหัวของนายคงจะจดจำแต่เรื่องของเขาเต็มไปหมด ไม่เหมือนกับฉันที่นายไม่คิดแม้แต่จะสนใจ
    “เฮอะ ฉันไม่ใช่ซึงริของนายซักหน่อย” ถึงแม้จะน้อยใจเพียงใด แต่ก็ยิ้มออกมาเมื่อใบหน้าของคนตรงหน้าระบายไปด้วยรอยยิ้ม คงจะฝันดีสินะ
    นิ้วเรียวค่อยๆเกลี่ยผมของจียงที่ปรกหน้าออกอย่างแผ่วเบา

    นายคงจะดีใจกว่านี้สินะถ้าคนที่ดูแลนายในวันนี้ คือซึงริ ไม่ใช่ฉัน


    แสง แดดที่ลอดมาจากผ้าม่าน ทำให้จียงหรี่ตาขึ้นอย่างรำคาญใจ พยายามจะลืมตาขึ้น รู้สึกว่าหัวมันหนักๆยังไงก็ไม่รู้ เมื่อจียงลืมตาขึ้น ก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องเพียงคนเดียว

    หรือว่าเราจะฝันไป แต่ความอบอุ่นที่สัมผัสได้ มันช่างเหมือนจริงเหลือเกิน

    “พี่จียงรู้สึกตัวแล้ว” ซึงริที่เปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมกับชามข้าวต้ม พูดขึ้นอย่างดีใจ พี่ชายของเค้าฟื้นแล้ว
    “ซึงริ ออกไปตอนไหนเนี่ย พี่ไม่เห็นรู้” จียงหันไปยิ้มให้กับซึงริที่ เดินมานั่งข้างเตียงพร้อมกับวางข้าวต้มไว้ข้างๆ

    “ผมเพิ่งจะเข้ามาเองนะ..”
    “อ้าว เมื่อวานซึงริไม่ได้มานอนกับพี่ที่นี่หรอ”ถ้าไม่ใช่ซึงริแล้วใครกัน หรือเราจะฝันไปจริงๆ
    “มีอะไรรึเปล่าพี่จียง อ่ะไข้เริ่มลดแล้วนี่” ซึงริถามพร้อมกับแตะหน้าผากจียงเพื่อวัดไข้
    “ไม่มีอะไรหรอก”ตอบอย่างปัดๆเมื่อเห็นซึงริมองอย่างสงสัย
    “กินข้าวเถอะ จะได้กินยาไง ผมทำเองเลยนะ”
    “ป้อนหน่อยสิ” ไม่พูดเปล่า แถมยังอ้าปากรออีกด้วย ซึงริหัวเราะกับท่าทางอ้อนๆของพี่ชาย
    “ขำอะไรเจ้าบ้า” จียงเอื้อมมือไปผลักหัวซึงริอย่างหมั่นไส้
    “เวลา พี่ไม่สบายนี่เหมือนเด็กจังเลยนะ ดูสิขนาดยายังกินยาน้ำเลย พี่นี่น่ารักจริงๆเลยน้า”ซึงริแซวจียงไปพร้อมกับตักข้าวต้มเข้าปากคนป่วย
    “เป็นอะไรไปฮะเรา” ถามเมื่อเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มเมื่อครู่ หมองลง แถมยังลอบถอนหายใจเป็นระยะ
    “พี่เทมโป เค้าดูแลพี่ดีจังเลยเนอะ” จียงแทบจะสำลักข้าวต้มเมื่อซึงริบอกว่าใครเป็นคนดูแลเขาเมื่อคืน
    “ว่ะ .ว่าไงนะ”เมื่อเห็นท่าทางจียงไม่ค่อยดีซึงริเลยหยิบแก้วน้ำให้
    “ก็พี่เทมโป เค้าดูแลพี่ทั้งคืนเลยสิ น่าอิจฉาจังเลย ถ้าผมไม่สบาย พี่เค้าจะห่วงผมเท่าพี่ไหมน๊า”

    แม้ว่าซึงริจะพูดออกมาเหมือนพูดเล่นแต่เขาก็สัมผัสถึงความเศร้าในแววตาของซึงริได้ ตกลงเป็นเทมโป ไม่ใช่ซึงริสินะ
    “เด็กโง่ เค้าจะห่วงพี่มากกว่านายได้ไง ใครๆเค้าก็ห่วงแฟนตัวเองมากกว่าคนอื่นอยู่แล้ว”เมื่อเห็นว่าซึงริยังเงียบจียงยังพูดต่ออีกว่า
    “รู้รึเปล่าว่าเมื่อวานพี่กับเทมโปคุยเรื่องอะไรกัน”ซึงริส่ายหน้า
    “เค้าบอกว่าเค้าหึงเวลาเห็นนายอยู่กับพี่”
    “เค้า พูดแบบนั้นจริงๆหรอฮะ”พอได้ยินจียงพูดแบบนั้น ใบหน้าที่เศร้าหมองก็ยิ้มอย่างสดใสทันที พอได้ยินแบบนี้ละหน้าบานเชียว น่าน้อยใจจริงๆ
    “หน้าบานเชียว และไม่ต้องมาอิจฉาพี่หรอกนะ ซึงริก็รู้ว่าพี่...รักใคร”
    “ผมขอโทษฮะพี่จียง”พูดเสียงเบา ใบหน้าที่สดใสเมื่อครู่กลับมาเศร้าหมองอีกครั้ง

    Cricle of love


    เช้าวันอาทิตย์นี่แหละ ถือว่าเป็นเวลาแห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริง คังแดซองกำลังนั่งดูละครอย่างสนุกสนาน
    “พี่ๆ อย่าบังดิกำลังหนุกเลย” พูดขึ้นเมื่อเห็นพี่ใหญ่ของวงเดินผ่านโทรทัศน์ที่เค้ากำลังดูอยู่
    “ดูอะไรอยู่” ซักพักเทมโปก็มานั่งดูด้วยข้างๆ
    “ละครน้ำเน่าอ่ะ พระเอกโง๊โง่ ทั้งๆที่รักนางเอกแต่ก็ทำร้ายจิตใจเค้าสารพัด สมควรแล้วแหละที่เค้าจะเกลียดขี้หน้า”
    แดซองดูไปก็วิจารณ์อย่างเมามัน ผิดกับอีกคน ที่เอาแต่นั่งเงียบ ทำร้ายจิตใจเค้าสารพัด สมควรแล้วที่โดนเกลียดงั้นหรอ
    “พระเอก ก็คงรู้สึกเจ็บไปไม่น้อยกว่านางเอกหรอก เวลาทำร้ายจิตใจคนที่ตัวเองรักน่ะ”พยายามเถียงให้พระเอกละครอย่างข้างๆคูๆ จนแดซองสงสัยเลยถามว่า
    “แล้วทำไมพี่ต้องไปแก้ตัวให้พระเอกด้วยล่ะ คนไม่ค่อยดูละครอย่างพี่เนี่ยน๊า.. จะไปรู้อะไร ผมจะเข้าไปเยี่ยมพี่จียงนะไปด้วยกันป่ะ”
    “ถ้าเค้าเห็นหน้าพี่ มีหวัง จากอาการที่ดีขึ้นคงได้ทรุดหนักลงแน่ๆ”
    “พี่ นี่ก็จริงๆเล๊ย... พี่จียงรักซึงริมันอย่างกับอะไรดี พี่เล่นไปคบกับซึงริ แบบนั้นเป็นใครก็ต้องโกรธ” แดซองละสายตาจากโทรทัศน์ เมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจจากคนที่นั่งข้างๆ
    “พี่ไม่ควรทำแบบนี้ใช่ไหมเนี่ย”ถามออกไปทั้งๆที่ก็รู้คำตอบอยู่แก่ใจ
    “พี่ก็ลองถามตัวเองดูสิว่ามีความสุขรึเปล่าที่ทำแบบนี้ พักนี้ดูเจ้าซึงริมันซึมๆด้วย เมื่อไหร่บ้านเราจะกลับมาคึกครื้นเหมือนเดิมนะ”


    พอ แดซองดูละครจบก็เข้าไปในห้องจียง และออกมาพร้อมกับซึงริ พอเทมโปถามว่าจะไปไหนกัน ก็ได้คำตอบจากทั้ง2คนว่า ไปซื้อของมาเซอร์ไพรส์จียง สองคนนั้นท่าจะเป็นเอามาก ของเยี่ยมไข้ก็ต้องเซอร์ไพรส์กันด้วย

    เทมโปเดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้อง จียง กว่าจะตัดสินใจเคาะประตูห้องก็ใช้เวลาเกือบ2นาที เมื่อเข้าไปเขาก็เห็นคนป่วยนอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง อาการดีขึ้นแบบนี้แล้วค่อยโล่งใจหน่อย


    “ซึงริ พี่เบื่อจะแย่อยู่แล้ว...”น้ำเสียงที่ติดจะอ้อนนิดๆเอ่ยขึ้น เมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามา พอหันไปเห็นบุคคลที่เข้ามาคือใคร จียงดูเหมือนจะตกใจนิดๆ ไม่นานก็ปรับสีหน้าเป็นปกติ



    “มาทำไม”ถามห้วนๆพร้อมกับหน้าตาที่บ่งบอกว่าไม่ต้อนรับ เห็นสีหน้าแบบนี้ของจียงยิ่งทำให้เทมโปไม่พอใจขึ่้นมา
    “ขยันอ้อนแฟนคนอื่นจริงเลยนะ นายต้อนรับคนที่เฝ้าไข้แบบนี้รึไง”เทมโปพูดขึ้นพร้อมกับเดินมานั่งที่เก้าอี้ข้างๆเตียง
    “ฉันไม่ได้ขอร้อง”จียงมองหน้าคนที่นั่งข้างเตียงอย่างไม่พอใจ ใช่ว่าเขาจะอยากให้เทมโปมาดูแลซะหน่อย
    “ถือ ว่าไถ่โทษเรื่องที่ฉัน เอ่อ จูบนายคราวก่อนละกัน”เห็นจียงลุกขึ้นมาเถียงเขาได้แบบนี้ ค่อยโล่งใจที่ว่าจียงอาการดีขึ้นเยอะแล้ว แกล้งซะหน่อยจะเป็นไรไป ยั่วโมโหคนตรงหน้านี่สนุกจะตาย
    “ไอ้......”จียงกำหมัดแน่น ใบหน้าที่ซีดของคนไม่สบายขึ้นสีเล็กน้อย ทั้งโกรธ ทั้งอายเรื่องเมื่อวาน อยากจะด่าให้สะใจแต่ก็นึกไม่ออกว่าจะสรรหา คำไหนมาถึงจะเหมาะสม เกลียดจริงๆ ทั้งแววตาและท่าทางแบบนั้น ไม่รู้ว่าซึงริไปรักคนแบบนี้ได้ไง
    “ก็แค่จะ มาบอกว่า ฉันยอมให้นายมาเกาะแกะซึงริแค่ช่วงนี้เท่านั้น เห็นว่าไม่สบายหรอกนะ ถ้าหายดีแล้วก็เชิญอยู่ห่างๆแฟนฉันด้วย” จียงมองหน้าคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ
    “ถ้าฉันไม่ยอมล่ะ” คิดว่าตัวเองเป็นใคร สั่งอะไรคนอื่นต้องทำตามงั้นหรอ
    “เดี๋ยว นายก็จะได้รู้” นี่ถ้าสายตาของจียงฆ่าคนได้ เขาคงจะตายไปตั้งแต่ นาทีแรกที่เข้ามาในห้องนี่แล้วมั้ง ไม่ได้อยากจะยั่วโมโหเท่าไหร่หรอกนะ แต่เห็นแล้วมันอดไม่ได้
    “เห็นแก่ตัว! ทำไม ทั้งๆที่นายก็รู้.. ไม่ว่ายังไงซึงริไม่มีวันรักฉันได้เหมือนที่เค้ารักนาย ต่อให้ฉันตามเกาะเค้าทั้งวัน ยังไงเค้าก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจมาหาฉัน ขอแค่ได้อยู่ข้างๆเค้าในฐานะพี่ชายฉันก็ยอม” จียงตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธ กำหมัดแน่น ร่างกายสั่นสะท้านด้วยความโกรธ ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ น้ำตาค่อยๆเอ่อล้นขึ้นมา

    ไม่รู้ว่าเพราะร่างกายกำลังอ่อนแอเลยทำให้จิตใจอ่อนไหวด้วยรึเปล่า จียง พยายามที่จะหยุดร้องไห้ เขาไม่อยากแสดงความอ่อนแอต่อหน้า
    เท มโปตรงหน้าเป็นครั้งที่2 แต่พยายามจะกลั้นน้ำตามากขึ้นเท่าไหร่ มันก็ยิ่งแย่มากขึ้นเท่านั้น ความรู้สึกทั้งน้อยใจ เสียใจ ที่ไม่ว่ายังไงก็สู้คนตรงหน้าไม่ได้ ประดังประเด เข้ามาในเวลาเดียวกัน

    เท มโปดูตกใจไม่น้อย ที่อยู่ดีๆหัวหน้าวงผู้เข้มแข็งที่เค้ารู้จัก ก็ร้องไห้โฮออกมาอย่างนั้น ตั้งแต่รู้จักกันมา เขาแทบไม่เคยเห็นน้ำตาของจียงเลยด้วยซ้ำ ทีแรกกะจะแกล้งยั่วโมโหนิดหน่อย ทำไมกลับเป็นแบบนี้ไปซะได้

    แขนแข็งแรงค่อยๆโอบคนตรงหน้าอย่างอ่อนโยน คนในอ้อมกอดตอนนี้ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดร้องเลยด้วยซ้ำ
    จียงพยายามจะผลักให้คนที่เขาแสนจะเกลียดขี้หน้าออกไปห่างๆแต่ทำอย่างไรก็ไม่สำเร็จ

    “ปละ..ปล่อย ออกไป”ทั้งตะโกน ทั้งผลัก ยังไง ดูเหมือนจะไร้ผล เมื่อเทมโปยังไม่ยอมคลายอ้อมกอดนี้ซะที มือใหญ่ยังค่อยๆลูบหัวคนตรงหน้าอย่างปลอบโยน จียงพยายามใช้เรี่ยวแรงที่มีอยู่เพียงน้อยนิด ดิ้นให้หลุดจากเทมโปแต่ก็ล้มเหลวเช่นเคย

    “ไม่ว่ายังไงนายก็ไม่เปลี่ยนใจใช่ไหม ถ้าฉันทำให้ซึงริยิ้มได้แล้วนายจะยิ้มได้รึเปล่า” คำถามที่เคยได้แต่คิดในใจ ได้ถามออกไป
    จี ยงได้ยินคำถามที่เทมโปถามชัดเจนทุกคำ ถ้าเขาตอบว่าใช่ ก็แสดงว่าเขาก็โกหก ถึงมันจะดูเห็นแก่ตัวแต่เขาก็ยอมรับว่า เขาจะมีความสุขกว่านี้ถ้าเขาทำให้ซึงริยิ้มได้ด้วยตัวเอง


    ก่อน ที่จียงจะได้ตอบอะไรออกไป จียงก็รู้สึกว่าเปลือกตา ของตัวเองนั้นหนักขึ้น พร้อมกับอาการปวดหัวเนื่องจากทั้งตะโกน และใช้แรงที่แทบจะไม่มีผลักเทมโปให้อกไปห่างๆทำ ให้จียง เพลียและหลับไปในที่สุด

    “ทำร้ายจิตใจ นายสารพัด สมควรแล้วใช่ไหมที่โดนเกลียด” ถามคนที่ป่วยที่ตอนนี้ได้หลับไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะห่มผ้าให้และเช็ดน้ำตาอย่างแผ่วเบา


    Circle of love



    “อีก 3 วันเรามีงานถ่ายโฆษณาที่ทะเลนะ” แทยังพูดขึ้นในขณะที่ทุกคนกำลังทานอาหารกันอยู่
    “ทะเลหรอ!”เสียงที่ถามกลับมาพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมายของสมาชิก4คนที่เหลือ ทำให้แทยังพยักหน้าเบาๆ และบอกถึงการถ่ายทำโฆษณากับทุกคน
    “ใช่ ผู้จัดการยังฝากมาบอกด้วยนะว่าเตรียมตัวให้พร้อม”
    “อย่าง งี้ก็ดีสิ ไม่ได้ไปทะเลตั้งนานแล้ว ทำงานเสร็จจะได้ถือโอกาสเที่ยวซะเลย” แดซองพูดอย่างตื่นเต้น แค่นี้ก็รอแทบไม่ไหวแล้วที่จะได้ไปเที่ยวทะเล
    “เค้าให้ไปทำงานนะ ไม่ใช่ไปเที่ยว”จียงพูด หลังจากเห็นท่าทางที่ตื่นเต้นจนเกินเหตุของแดซอง
    “ไปกันทั้งๆที่พี่ยังไม่ค่อยสบายอยู่แบบนี้มันจะดีหรอพี่จียง”ซึงริถามอย่างเป็นห่วง
    “อีก ตั้ง3 วันน่ากว่าเราจะไป แค่นี้ สบายมาก พี่หายทันอยู่แล้วแหละ พี่แข็งแรงจะตาย” จียงพูดขึ้นเพื่อให้ทุกคนสบายใจ แค่เขาไม่สบายคนเดียว แล้วจะส่งผลกระทบกับงาน เขาไม่ปล่อยให้มันเป็นแบบนั้นแน่ๆ




    ถึง แม้ว่าตอนนี้จะเข้าสู่ฤดูร้อน แต่ก็ยังเอาแน่อะไรกับอากาศไม่ได้ ลมหนาวในยามกลางคืนที่พัดมา ทำให้ซึงริห่อไหล่เล็กน้อย ในขณะที่พี่ๆอยู่ในบ้าน แต่เขาก็เลือกที่จะมาอยู่ข้างนอกเพียงคนเดียว เพื่อคิดอะไรบางอย่าง

    “มายืนตากลมแบบนี้ เดี๋ยวก็ไม่สบายไปอีกคน”ซึงริหันหลังกลับไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่ามีใครบางอยู่ตรงนี้ด้วย
    “อีกพักนึงก็เข้าแล้วฮะ พี่เทมโป”หันไปยิ้มบางๆให้กับเทมโป แอบดีใจที่เทมโปก็ห่วงเขาเหมือนกัน
    “มีอะไรรึเปล่าซึงริ”ถามเมื่อเห็นคนข้างๆเงียบไปนาน
    “ไม่ มีอะไรหรอกฮะ ผมแค่มีเรื่องอะไรให้คิดนิดหน่อย”ใบหน้าที่เคยสดใสกลับดูซีดเซียว เนื่องจากช่วงนี้มีเรื่องให้คิดเยอะจนทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ
    เมื่อซึงริ ตอบแบบปัดๆเหมือนไม่อยากเล่าอะไรให้ฟังเท่าไหร่ เขาก็ไม่ได้อยากซักไซ้อะไรมาก เทมโปจึงตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้ จับมือคนตัวเล็ก บีบเบาๆแล้วกล่าวว่า
    “เข้าบ้านเถอะ เดี๋ยวไม่สบายไปอีกคนจะแย่”

    การ เดินทางไปทะเลครั้งนี้ ทางผู้จัดการได้เลือกวันและสถานที่ ที่ไม่ค่อยมีผู้คนพลุกพล่านเพื่อความสะดวกในการถ่ายทำ ถึงแม้ว่าจียงจะอาการดีขึ้นกว่าช่วงแรกๆ แต่พอเจอแดดและลมแรงๆทีไร เขาก็รู้สึกเหมือนจะเป็นไข้อีกรอบทุกที สมาชิกทุกคนต่างดีใจที่ได้มาถ่ายทำโฆษณานอกสถานที่ เนื่องจากคิวงานที่ยุ่งตั้งแต่ต้นปียันท้ายปี พวกเขาจึงตั้งใจทำงานเป็นพิเศษ โดยเฉพาะแดซองได้กล่าวว่า ทำงานเสร็จเร็วจะได้พักเร็วๆ

    การถ่ายโฆษณาครั้งนี้ เป็นไปอย่างราบรื่น เนื่องจากทุกคนตั้งใจในการทำงานครั้งนี้มาก แม้ว่าอากาศจะร้อนอบอ้าวและแดดจะแรงเพียงใด แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความตั้งใจของทุกคนน้อยลงเลย
    “ฉากสุดท้ายแล้วนะ” เสียงตะโกนจากผู้กำกับ.............


    “ดีมากทุกคน เลิกกอง” เมื่อถ่ายเสร็จทุกคนก็รีบกลับไปยังที่พักทันที เพราะถ่ายกันมาตั้งแต่เช้ายันเที่ยง
    เพราะอากาศที่ร้อนทำให้ความอ่อนล้า เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

    “เย้ ในที่สุดเวลานี้ก็มาถึง ได้เล่นน้ำซะที” แดซองพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แสนจะร่าเริง ทุกคนก็ต่างเห็นด้วย

    ได้เวลาพักผ่อนแล้วซินะ

    “รีบเปลี่ยนชุดแล้วเจอกันข้างล่างนะคร๊าบ...บ”แดซองจัดการนัดหมายเรียบร้อย
    “พี่เพิ่งหายป่วยไปเล่นน้ำกลางแดดมันจะดีหรอ” ซึงริถามด้วยความเป็นห่วง ทุกคนก็คิดเช่นนั้น
    “พี่ หายแล้วน่า อีกอย่างพี่ก็แข็งแรงจะตายไป ไม่เป็นไรง่ายๆหรอก” มาถึงทะเลแล้วไม่ได้เล่นน้ำสิน่าเสียดายกว่า เจ้าพวกนั้นจะห่วงอะไรกันนักหนา เขาก็ไม่ใช่เด็กๆแล้วด้วย
    “ฉันขอผ่านนะ เล่นน้ำกลางแดดร้อนๆ ไม่เอาด้วยหรอก” เสียงทุ้มจากพี่ใหญ่ของวงเอ่ยขึ้น
    “โห่พี่ อย่างงี้ก็เหมือนมาไม่ถึงทะเลนะสิ”แดซองโวยเล็กน้อย นึกว่าจะได้เล่นน้ำกับทุกคนแล้วเชียว


    เมื่อนัดหมายกันเรียบร้อย ทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันไปเพื่อที่จะเปลี่ยนชุด ไม่นาน แต่ละคนก็มาถึงชายหาด
    ทุก คนต่างก็เล่นน้ำทะเลอย่างสนุกสนาน เทมโปนั่งอยู่บนเตียงผ้าใบข้างชายหาดขณะที่คนอื่นกำลังเล่นน้ำ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ร่วมวงเล่นน้ำกับเพื่อนๆ แต่สายตาของเขาก็ไม่ได้ละจาก คนป่วยที่ยังไม่หายดีเท่าไหร่ ที่กำลังเล่นน้ำอยู่กับเพื่อนอย่างสนุกสนานเลย

    "ยังไม่หายดีแท้ๆ ยังจะลงไปเล่นอีก" แค่บนกับตัวเองเบาๆแล้วเขาก็สังเกตเห็นอาการแปลกๆของจียง
    “พี่จียงเป็นอะไรรึเปล่า” เหมือนทุกคนในนั้นก็เห็นเช่นกัน แดซองเลยถามด้วยความเป็นห่วง
    “ไม่ไหวก็ไปนั่งพักก่อนก็ได้นะ” แทยังพูดขึ้นบ้างเมื่อเห็นท่าทางที่ไม่ค่อยจะดีของเพื่อน
    “ไม่เป็นไรน่า” นานๆทีจะได้มาเล่นน้ำกับทุกคนซักที ที่บอกว่าไม่เป็นไรก็ไม่ได้โกหกซะหน่อย แค่รู้สึกหน้ามืดไปก็แค่นั้น
    “อ้าวพี่เทมโปมาเล่นด้วยหรอ มาสิกำลังสนุกเลย” แดซองถามขึ้นเมื่ออยู่ดีๆก็เห็นร่างสูงขอเทมโป เดินมาตรงที่พวกเขา เล่นน้ำกันอยู่
    “เปล่า หรอก จียงมานี่หน่อย” ไม่พูดเปล่า ยังจับมือของจียงและออกแรงดึงเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าไม่มีวี่แววที่จียงจะเดิน ตามมา ท่ามกลางสายตาที่ตกตะลึงจากอีก3คนที่เหลือ


    “นี่ ลากฉันขึ้นทำไม ปล่อยนะโว้ย” จียงพยายามที่จะสลัดมือออกจากเทมโป แต่ก็ไม่สำเร็จ
    “ดู หน้าตัวเองซิ ซีดขนาดไหน เพิ่งจะหายไข้แท้ๆ มาเล่นน้ำตากแดดอยู่ได้ ”ว่าเสียงดุ ทำให้คนที่เพิ่งโดนลากขึ้นมาจากทะเลตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ
    “ฉัน จะเป็นยังไงมันก็เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับนาย”จียงไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมเทมโปชอบสั่งให้เขาทำโน่นทำนี่ อยู่เรื่อย คิดว่าตัวเองอายุมากกว่าสั่งอะไรแล้วต้องทำตามงั้นเหรอ ?
    “ถ้าไม่ห่วงตัวเองก็ตามใจ”พูดจบก็เดินหันหลังหนีไปซะดื้อๆ โดยที่ไม่สนใจว่าคนที่อยู่ข้างหลังว่ารู้สึกอย่างไร



    “แดซอง นายว่าสองคนนั้นดูแปลกๆมั๊ย”แทยังถามขึ้นและนึกถึงเหตุการณ์ที่ชายหาดตอนเที่ยง
    เพราะ ประตูที่แง้มออกมาหน่อยๆ ทำให้เสียงของคนสองคนที่กำลังคุยกันอยู่ ลอดออกมาทำให้ ซึงริที่ตอนแรกจะมาเอาของในห้องลดฝีเท้าลงก่อนที่จะฟังบทสนทนาของแดซองและแท ยังอย่างตั้งใจ
    “พี่จียงกับพี่เทมโปหรอ” แดซองถาม แล้วแทยังก็พยักหน้า
    “ผมถามจริงๆเหอะ พี่ไม่รู้หรอ ว่าพี่เทมโปเค้าชอบพี่จียง”
    “ฉันก็ว่าอยู่ว่าสองคนนั้นมีอาการแปลกๆ ชอบกล”
    “พี่อย่าไปบอกซึงรินะเดี่ยวมันจะคิดมาก”
    "รู้แล้วน่าฉันไม่ใช่คนปากโป้งหรอก” แทยังบอกกับแดซอง และคิดไปว่า ไม่เข้าใจจริงๆว่า 2 คนนั้นเล่นอะไรกันอยู่


    ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้เทมโปลุกมาเปิดประตู
    “อ้าว ซึงริ มีอะไรรึเปล่า” ถามเพราะเห็นสีหน้าที่ไม่สบายใจของซึงริ
    “ผมเข้าไปได้รึเปล่า”ซึงริถาม และคิดว่าวันนี้ยังไงก็ต้องคุยกับเทมโปให้รู้เรื่อง
    “อ้อ เข้ามาสิ”
    เมื่อเข้ามาในห้องแล้วซึงริก็ยังคงเงียบ จนเทมโปต้องถามอีกครั้ง
    “มีอะไรจะพูดกับพี่รึเปล่า”
    “พี่ จียงใช่มั๊ย.... คนที่พี่รักคือพี่จียงใช่มั๊ย” ถามออกไปทั้งๆที่ในใจก็รู้อยู่แล้วว่าคำตอบคืออะไร พยายามที่จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นหลายครั้งในเวลาที่เทมโป แสดงความห่วงใยจียงจนเกินเหตุ ได้แต่คิดว่าคงไม่มีอะไรหรอก พี่เทมโปห่วงคงพี่จียงในฐานะเพื่อนเท่านั้น
    “พูดเรื่องอะไรของนาย” เทมโปดูตกใจไม่น้อยที่ซึงริถามแบบนี้
    “พี่เคยมองผม...เหมือนที่พี่มองพี่จียงบ้างมั๊ย” น้ำตาค่อยๆไหลรินจากดวงตาคู่สวย
    “พี่.... พี่ขอโทษ”เทมโปมองซึงริอย่างรู้สึกผิด เพราะความเห็นแก่ตัวของเขาเองแท้ๆ ทำให้คนที่ไม่ได้มีความผิดอะไรอย่างซึงริต้องเจ็บแบบนี้
    “คำขอโทษของพี่ มันเทียบไม่ได้กับความรู้สึกเสียใจของผมหรอก ยิ่งผมรักพี่มากเท่าไหร่....ผมก็เกลียดพี่ได้มากเท่านั้น พี่รู้ใช่มั๊ยว่าพี่จียงเค้ารักผมขนาดไหน... ผมจะไม่ปล่อยพี่จียงให้กับพี่แน่ๆ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×