ตอนที่ 11 : ๐ 10 ๐ อุเมะกับคนฉวยโอกาส
อุเมะกับคนฉวยโอกาส
" ... "
" ♪ ~ "
" ... "
" ♪ ~ "
" ...ทำไมถึงได้ดูอารมณ์ดีขนาดนั้นกันล่ะคะ? " เสียงหวานเอ่ยขึ้นเมื่อหมดความอดทน คิ้วกระตุกยิกๆเมื่อเห็นคนข้างๆเธอ ขับรถอย่างสบายอารมณ์แถมยังยิ้มหน้าระรื่นมาตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว
" เปล่านี่ครับ? ผมก็เป็นแบบนี้ของผมอยู่แล้วนะครับ :) "
เฮ้อ ใครก็ได้เอาผู้ชายคนนี้ไปเก็บที! ლಠ益ಠ)ლ
.
.
.
.
ย้อนกลับไปเมื่อหลายนาทีก่อน...
" สวัสดีครับ เราบังเอิญเจอกันอีกแล้วนะครับ? :) " ริมฝีปากหนาที่เปล่งคำพูดนุ่มทุ้มดุจดั่งลาเต้หอมกลิ่นนมนุ่มละมุน เอ่ยทักทายเธอ
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น
ใจกระตุกหนึ่งทีพอเป็นพิธี มันไม่ใช่เพราะว่าเธอหวั่นไหวไปกับคาริสม่าของอีกฝ่ายที่พยายามจะแผ่มันออกมาโอบอุ้มเธอไว้และหวังให้เธอลุ่มหลงไปกับรอยยิ้มนั่น
ที่อยากจะถามก็คือ...มาได้ยังไงวะเนี่ย!!
เมื่อพยายามรวบรวมสติที่ไม่ค่อยจะมีกลับคืนมาได้ ก็เอ่ยถามชายตรงหน้าออกไปว่า
" คุณมาที่นี่ได้ยังไงกันคะ? " พร้อมกับจ้องอีกฝ่ายตาเขม็งเพื่อคาดคั้นคำตอบ
" อืม? ถ้าผมตอบว่า ผมแอบตามคุณมาล่ะครับ " ห๊ะ?
เดี๋ยวก่อนนะ ใครก็ได้ช่วยบอกฉันหน่อยว่าเหตุการณ์แบบนี้ฉันควรจะทำหน้ายังไงดี พ่อคุณบทจะตรงก็ตรงซะ..ทำเอาเธอถึงกับไปต่อไม่เป็นกันเลยทีเดียว
เกิดมาอุเมะพึ่งเคยรู้สึกว่า ' ฉันแพ้คนแบบนี้ ' เป็นครั้งแรก
นอกจากจะเดาใจไม่ถูกแล้ว ยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังวางแผนอะไรเอาไว้อีกด้วย แล้วแบบนี้ควรจะรับมือยังไงดีล่ะ?
" โอเค...คุณแอบตามฉันมา? เพื่อ? " ฉันลอบหายใจยาวๆและหลับตาลงสักครู่เพื่อไม่ให้ตัวเองสติแตกตะโกนด่าผู้ชายไฟแลบต่อหน้าสาธารณชน
" เพราะผมสนใจคุณ? " เขาเอ่ยคำพูดที่ดูเหมือนจะเป็นคำตอบแกมคำถามมาให้และทำทีเป็นจับคางตัวเองพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย
อุเมะถึงกับต้องกรอกตาเป็นแปดเมื่อได้ฟังคำตอบของเขา...
" ขอความจริงค่ะ " อุเมะยืนกอดอกหน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะเริ่มหงุดหงิด อย่าลืมนะว่าเธอน่ะเป็นคนมีความอดทนต่ำ
" แล้วแต่คุณจะคิดเลยครับคุณหนู " เขาพูดจาด้วยท่าทางนอบน้อมจนน่าหมั่นไส้ อ่า...พอนึกได้แบบนั้นเท้าของฉันมันก็ชักจะกระตุกขึ้นมาหน่อยแล้วล่ะสิ
" ...ช่วยหลีกทางไปด้วยค่ะ ฉันรีบ " อุเมะว่าพลางกำที่จับกระเป๋าลากใบเล็กของเธอให้กระชับขึ้นเล็กน้อย เมื่อชายหนุ่มได้ยินแบบนั้นเขาก็ไม่ได้หลบทางออกไปไหน จนฉันหมดทางเลือกต้องเดินเอี้ยวตัวหลบเขาออกมาแต่ทว่า...
หมับ! ครืด~
เอ๊ะ...
" ด เดี๋ยวก่อนค่ะนี่คุณจะพาฉันไปไหนกันคะ!? " เมื่อครู่ชั่วพริบตาที่เธอเดินผ่านตัวเขาไปได้ไม่ถึงก้าว ข้อมือข้างที่ลากกระเป๋าก็ถูกคว้าเอาไว้ได้อย่างทันท่วงทีก่อนจะถูกอีกฝ่ายแย่งกระเป๋าออกไปจากมือตัวเอง เขาจัดการพับหูกระเป๋าลงไปและเปลี่ยนมายกมันด้วยแรงของตัวเอง
จากนั้นฉันก็ถูกลากตามเขามาอย่างที่เห็น...
" คุณจะกลับบ้านไม่ใช่หรอครับ? เดี๋ยวผมไปส่ง ยังไงๆผมก็รู้ที่อยู่คุณแล้วด้วย จะได้ไม่ต้องเสียค่าตั๋วรถไฟไงครับ " เขาบอกเหตุผมที่ลากฉันมาแบบนี้ให้ฟัง ซึ่งฉันก็ได้แต่ทำหน้าฉงนเพราะเมื่อครู่เขาพึ่งจะบอกว่าเขาจะพาเธอไปส่ง
...แต่ยังไงล่ะ?
" ไปส่งหรอคะ หมายความว่ายัง--ไง...นี่คุณขับรถมาหรอคะ!? " อุเมะที่ถูกเขาลากออกมาจากสถานีรถไฟเดินเลี้ยวไปมาตามตรอกไม่ไกล ก็ต้องมาพบกับรถ Mazda RX-7 สีขาวคันเดิมกับที่เธอเคยนั่งมาก่อนหน้านี้
แต่ที่น่าตกใจและแปลกใจมากๆก็คือ...ที่นี่มันฟุกุโอกะเลยนะ!
จากเมืองเบกะมาที่ฟุกุโอกะระยะทางมันไม่ใช่แค่หน้าปากซอยนะ! อย่างต่ำต้องใช้เวลาตั้ง 5 ชั่วโมงกว่าจะมาถึงที่นี่ด้วยซ้ำ...
" แปลกหรอครับ? " เขาว่าพร้อมกับปล่อยข้อมือเธอให้เป็นอิสระและเปิดท้ายรถที่ดูจะอลังการมากเพราะด้วยความที่มันเป็นรถสปอร์ตเวลาเปิดท้ายมันจะไม่ใช่แบบรถธรรมดาทั่วไป เรียกว่าเปิดกระจกหลังก็คงได้...
" ยังจะมาถามอีก! มีใครที่ไหนเขาจะลงทุนขับรถมาตั้งไกลเพื่อสะกดรอยตามฉันมาบ้างล่ะ..แล้วก็หยุดเลยค่ะ ฉันยังไม่ได้บอกเลยนะคะว่าฉันจะยอมไปกับคุณน่ะ! " เธอเถียงเขาสุดใจ ยังจะมีหน้ามาถามอีกว่ามันแปลกหรอ? ผู้ชายคนนี้เขาคิดอะไรอยู่กันแน่เนี่ย...
มือบางที่พยายามจะแย่งกระเป๋าเดินทางของตัวเองคืนมาก็โดนคนตัวสูงกว่ายกหลบและนำมันไปใส่หลังรถทันที ไม่ปล่อยให้หญิงสาวเข้าถึงมันได้อีกโดยการปิดท้ายรถต่อหน้าต่อตาเธอ
" นี่พ่อคุณ! " อุเมะที่รู้สึกว่าตัวเองเริ่มหมดความอดทนและเตรียมจะด่าไฟแลบ ก็ต้องโดนเขาขัดเอาไว้...
" ไหนพ่อผมครับ? :) " โอเค...
ปึด
ขอสาบานตรงนี้เลยว่าสักวันนึงฉันจะต้องตบปากผู้ชายคนนี้ให้ได้!
อุเมะไม่เคยรู้สึกหัวเสียขนาดนี้มาก่อน ทั้งๆที่มั่นใจมากว่าสกิลฝีปากในการต่อปากต่อคำของตนนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าคนตรงหน้าเลย แต่เขาแค่มีเล่ห์เหลี่ยมและไหวพริบดีกว่าเธอก็เท่านั้นเอง...
จนแล้วจนรอดไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วยอมขึ้นรถตามผู้ชายคนนี้มาได้ยังไง เพราะรู้สึกตัวอีกทีตัวเองก็มานั่งอยู่ในรถสปอร์ตคันเก่งของเขาเสียแล้ว...
รถสีขาวบริสุทธิ์แล่นไปตามท้องถนนภายใต้ท้องฟ้ายามเย็นที่พระอาทิตย์เริ่มเปลี่ยนสี นัยน์ตาสีชมพูน้ำตาลโรสวู้ดมองเหม่อออกไปด้านนอกเพราะไม่อยากจะเสวนากับคนข้างกายอีก ขืนพูดกับเขาต่อมีหวังเธอได้ประสาทกินแน่ๆ...
" อ๊ะ จริงสิครับ " นั่น ขนาดฉันนั่งอยู่เงียบๆแล้วยังจะชวนคุยอีก
" ? " ฉันไม่ได้ตอบแต่หันไปส่งสายตาประมาณว่ามีอะไร?
" ครั้งก่อนที่ผมเข้าไปในห้องของคุณ... "
แกร๊ก
" ถ้าขืนหลุดปากพูดให้ใครได้ยินล่ะก็ฉันฆ่าคุณแน่ " ในตอนที่ขึ้นรถมาก่อนหน้านี้ สายตาที่เหลือบไปเห็นปืนขนาดมาตราฐานของเจ้าของรถวางอยู่ในที่เก็บของตรงกลาง คนมือไวอย่างอุเมะมีหรอที่จะไม่หยิบมันมาเผื่อเอาไว้ป้องกันตัว...
และปืนกระบอกที่ว่าก็กำลังจ่ออยู่บนขมับของชายหนุ่มแล้วด้วย
" โอ้ มือไวผิดคาดนะครับเนี่ย ก็ว่าอยู่ว่ามันหายไปไหน " ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่ทุกข์ร้อน
" ฉันไม่รู้หรอกนะว่าครั้งที่แล้วที่คุณเข้าไปในห้องฉันจะไปเจออะไรมาบ้าง แต่ถ้าคิดจะปริปากอะไรต่อมิอะไรให้คนในองค์กรรู้ล่ะก็ ฉันขอสาบาน...ถึงวันนั้นลูกกระสุนจะเจาะเข้ากระโหลกของคุณแน่ " อุเมะว่าและกดกระบอกปืนให้แนบชิดกับขมับของอีกฝ่าย แต่ชายหนุ่มกับแค่นยิ้มออกมาจนเธอต้องเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ
" ครับ ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมสัญญาว่าจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใคร เห็นแบบนี้แต่ผมก็ปิดความลับเก่งนะ " พอเขาว่าแบบนั้นอุเมะก็ค่อยๆลดปืนลงช้าๆก่อนที่จะดันเซฟตี้ปืนกลับเข้าที่เดิม
' เพราะถ้าบอกไปมีหวังผมก็ซวยไปด้วยน่ะสิ... '
" ให้มันจริงเถอะค่ะผู้ชายเล่นลิ้นแบบคุณน่ะเชื่อยากจะตาย... " อุเมะพูดเสียงเรียบ
" แต่เรื่องที่ผมจะพูดน่ะไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกครับ.. "
" ...แล้วเรื่องไหนล่ะคะ? "
" เรื่องตอนที่ผมเปลี่ยนชุดนอนให้คุณไงครับ "
แกร๊ก!
" นั่นก็เหมือนกันไม่ต้องรื้อฟื้นขึ้นมาเลยนะไอผู้ชายโรคจิต! " ปืนกระบอกเดิมที่ถูกปลดเซฟตี้ออกถูกนำขึ้นไปจ่อขมับชายหนุ่มอีกครั้ง พร้อมกับใบหน้าขึ้นสีของสาวเจ้าที่โวยวายไม่เป็นศัพท์เมื่อชายหนุ่มเอ่ยเรื่องน่าอายออกมาได้หน้าตาเฉย
" อย่าพูดอย่างงั้นสิครับ ผมอุตส่าห์เปลี่ยนชุดนอนให้แล้วก็เช็ดตัวให้คุณด้วยนะ ข้าวต้มก็ทำไว้ให้ด้วย คำขอบคุณสักคำก็ไม่มี แล้วยังจะมาว่าผมว่าเป็นโรคจิตอีกหรอครับ? "
" อย่าลืมนะว่าคุณเป็นคนรวบฉันมาจากที่องค์กรเองน่ะ! แล้วฉันก็ไม่ได้ขอให้คุณทำสักหน่อยนี่! " อุเมะลดปืนลงเพื่อจะได้เถียงเขาได้สะดวกขึ้น เวลาแบบนี้ต้องเถียงกันให้รู้แพ้รู้ชนะสักที
ไอเรื่องน่าอับอายที่สุดในชีวิตเธอเนี่ย...
" แหม ใช้คำว่ารวบเลยหรอครับ ถ้าจะพูดให้ถูกใช้คำว่า ช่วย ดีกว่ามั้ยครับ? ทำอย่างกับผมไปทำมิดีมิร้ายคุณอย่างงั้นแหละ " เขากล่าวยิ้มๆ
" แบบไหนก็เหมือนกันนั่นแหละค่ะ! "
" ตอนที่ผมเปลี่ยนชุดนอนให้คุณกับครั้งที่สองที่เราเจอกันน่ะ... "
อ่ะ เอาเข้าไป อิตาคนนี้มันจะไม่หยุดพูดเรื่องนี้จริงๆใช่มั้ย!?
" ผมเห็นแผลเป็นที่แขนสองข้างของคุณด้วยน่ะครับ...ถ้าไม่เป็นการเสียมารยาทขอถามหน่อยได้มั้ยครับว่ามันเกิดจากอะไร? "
" !!! " ฉันชะงักไปเพราะสิ่งที่เขาบอก ก็รอยแผลเป็นที่เขาบอกน่ะ...
" ถือว่าคำตอบของเรื่องที่ผมถามอยู่นี้ เป็นคำขอบคุณที่ผมช่วยดูแลคุณตอนไม่สบายก็ได้ครับ... "
" ... " อุเมะนิ่งเงียบไปเพราะไม่อยากจะตอบคำถามของอีกฝ่าย แต่เมื่อร่างสูงเอ่ยข้อเสนอที่เธอได้ยินก็ต้องเปลี่ยนใจออกมานั้น...
" ถ้าคุณยอมบอก ผมจะไม่พูดถึงเรื่องที่ผม...เปลี่ยนชุดนอนให้คุณอีกเลยก็ได้ครับ " ชายหนุ่มกล่าวต่อรอง
เขาอยากจะรับรู้เรื่องแบบนี้ไปทำไมกัน
อ่า ยิ่งนึกถึงรอยแผลเป็นนี่เธอก็เริ่มรู้สึกอยากจะอาเจียนออกมาให้ได้ซะอย่างงั้น
รอยแผลเป็นที่เกิดจากผู้ชายคนนั้น...ยิน
" รู้แค่ว่า...มันเป็นรอยแผลที่เกิดจากลูกกระสุนก็พอค่ะ " อุเมะตอบเขาเสียงเรียบด้วยสายตาอันว่างเปล่าและมองตรงไปเบื้องหน้า ชายหนุ่มผมบลอนด์ที่สังเกตเห็นจากกระจกมองหลังรถก็เบือนสายตากลับไปดังเดิมพลางนึกว่า...
' อ่า หรือเราไม่ควรถามแต่แรกกันนะเนี่ย... ' ชายหนุ่มคิด
" นั่นเป็นเหตุผลที่คุณใส่เสื้อแขนยาวตลอดเวลาหรอครับ? " เขาเอยถามและหันมาให้ความสนใจหญิงสาวข้างๆเป็นพักๆเพื่อสังเกตอาการของเธอ
" .... " อุเมะไม่ได้ตอบและนั่งนิ่งไม่ขยับตัวไหวติงใดๆ จนคนข้างๆแอบหวั่นใจว่าเธอเป็นอะไรไปรึเปล่า
ฝ่ายชายที่เริ่มเห็นว่าท่าจะไม่ดีท่าให้เธอจมดิ่งลงไปกับความคิดลบๆต่อไปแบบนี้ จึงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาฆ่าเวลาระหว่างการเดินทางข้ามจังหวัดนี่ทันที
" จะว่าไป..นี่เราสองคนก็เจอกันเป็นครั้งที่สามแล้วใช่มั้ยครับ? " เขาเอ่ยถาม เด็กสาวยังนิ่งอยู่เหมือนเดิม จนเขาลอบถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
ดูเหมือนจะต้องดึงสติกันหน่อยล่ะนะ...
มือหนาที่ว่างอยู่เลื่อนมาจับเกียร์รถก่อนจะเลื่อนปรับเปลี่ยนมันไปในเกียร์ที่เหมาะสมกับการซิ่ง
กึก บรืน! เอี๊ยด!
" อ๊ะ--ว้าย!! " หญิงสาวที่ดูเหมือนจะได้สติเมื่อร่างของเธอปลิวลงไปแนบชิดกับเบาะนั่งจนแทบจะจมลงไปอยู่รอมร่อ ก่อนจะหันไปมองคนข้างกายที่ยังคงเร่งความเร็วโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงแต่อย่างใด
จนกระทั่งถึงทางโค้งสามช่วงตรงทางข้างหน้า เขาหักพวงมาลัยไปมาอย่างชำนาญมือจนเธอเริ่มนึกหวั่นใจว่าหัวใจของเธอจะหยุดเต้นก่อนหรือรถสปอร์ตทรงโค้งมนคันนี้ที่จะหยุดวิ่งก่อนกันแน่...
จนมาถึงทางโค้งสุดท้ายเขาจึงค่อยๆผ่อนความเร็วลง จากนี้ไปทางข้างหน้าคือทางวันเวย์ตรงยาวและไม่มีรถสวนมา อีกฝ่ายจึงขับรถไปและหันมามองหน้าเพื่อถามคำถามที่ดูหมือนว่าเธอจะไม่ได้ยินในตอนแรกอีกครั้ง
ว่าจะถามทันทีอยู่หรอก แต่ดูจากสายตาเขียวปั๊ดที่กำลังจ้องเขาด้วยตัวสั่นเทาแบบนั้น...
มันดูน่าแกล้งไม่หยอก
" ฮะๆ กลัวหรอครับ? " คำถามสั้นๆแต่ชวนให้อุเมะรู้สึกหงุดหงิดที่โดนดูถูกแบบนั้น
" เขาเรียกว่าตกใจต่างหากค่ะ! จู่ๆคุณก็เร่งเครื่องแบบนั้นคิดจะทำอะไรกันแน่คะ? " เธอถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
ดูสายตาเจ้าเล่ห์ที่กำลังล้อเลียนเธอนั่นสิ มันน่าโมโหนัก!
" ครับๆ ตกใจก็ตกใจครับ...ก็ผมถามคุณแต่คุณก็นั่งเงียบไปยอมตอบเองนี่นา คิดซะว่าเมื่อครู่เป็นการเรียกคุณก็แล้วกัน " อ่า เขายิ้มหน้าระรื่นใส่เธออีกแล้ว...
" คำถาม? คำถามอะไรคะ? " เธอถาม
" ผมถามคุณว่า เราสองคนเจอกันเป็นครั้งที่สามแล้วใช่มั้ยครับ? " เขาเอ่ยคำถามเมื่อก่อนหน้านี้ซ้ำ
" ....ใช่ค่ะ แล้วมันทำไมหรอคะ? "
" เรายังไม่รู้จักชื่อกันเลยนะครับ เรามาแนะนำตัวกันหน่อยดีมั้ย? " เขาว่าพลางกระตุกยิ้มเล็กน้อย
มองดีๆเหมือนสายตาของเขาจะดูเปลี่ยนไปนิดหน่อยเมื่อพูดถึงการแนะนำตัว
...เปลี่ยนไปในทางน่ากลัวหน่อยๆน่ะ
" จะว่าไปก็ใช่นะคะ... " รู้ชื่อไว้หน่อยก็ไม่เสียหายมั้ง?
" อยากรู้ชื่อของผมมั้ยครับ? " เขาถามด้วยน้ำเสียงและสายตาที่เจ้าเล่ห์ จนเธอต้องหันไปจ้องตาแข่งกับเขาด้วยความไม่ไว้ใจ
เอาดีๆนะ จะจ้องแบบนี้อีกนานมั้ย?
" ...ทางข้างหน้าค่ะ ขับรถมองทางด้วย " เธอจิกกัดเขาทางสายตาก่อนจะพูดเตือนอีกฝ่ายที่หลับตาก่อนจะยิ้มย่องออกมาและหันไปกลับไปมองทางข้างหน้าดีๆอีกครั้งตามคำบอกของเธอ
ลองให้แม่แก้วที่เป็นตำรวจจราจรนั่งมาด้วยสิ เขาได้โดนด่าเรื่องระเบียบวินัยในการขับรถจนหูชาแน่ๆ
" ...อุเมะชู "
" นั่นเป็นโค้ดเนมของฉัน " อุเมะกล่าวก่อนจะหันกลับไปมองข้างกระจกเหมือนเดิมด้วยสายตาที่เหนื่อยล้าเต็มที
' หืม อุเมะชู?...ทำไมถึงเป็นเหล้าญี่ปุ่นล่ะ? ' ชายหนุ่มนึกแปลกใจที่ชื่อโค้ดเนมของเธอดันกลายเป็นเหล้าญี่ปุ่นแทนเหล้านอกแบบของเขา ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหยอกเย้าอีกฝ่ายว่า...
" เห~แนะนำตัวก่อนแบบนี้ แสดงว่าอยากทำความรู้จักกับผมสินะครับ? "
" ใครว่าล่ะ...แค่คิดว่าคงจะสะดวกขึ้นเวลาเอ่ยปากด่าคุณน่ะ.." อุเมะว่าพลางแค่นยิ้มสะใจให้กับชายหนุ่มผู้หลงเองไปชั่วขณะ
อะแฮ่ม
ชายข้างกายกระแอมไอหนึ่งทีแก้เก้อเมื่อได้ยินหญิงสาวพูดแบบนั้น ไอเราก็นึกว่าอุตส่าห์จะสนใจเราขึ้นมาบ้าง สุดท้าย...ช่างมันละกัน?
" เบอร์เบิ้น...นั่นคือโค้ดเนมของผมครับ " น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปอีกคราเมื่อพูดถึงโค้ดเนมของตัวเอง จนอุเมะต้องเหลือบมองเขาจากกระจกมองหลัง
' วิสกี้อเมริกันที่มีรสชาติกลมกล่อม หวานนุ่ม... ' ก็...จะว่าเหมาะก็เหมาะกับเขาดีล่ะมั้ง?
" รู้จักมั้ยครับวิสกี้ชนิดนี้น่ะ? " เขาชวนเธอคุยอีกครั้ง
" ก็พอรู้มาบ้างค่ะ...แต่ฉันไม่ค่อยชอบดื่มหรอกนะคะ ถ้าให้เลือกขอเลือกดื่มสก็อตดีกว่า เบอร์เบิ้นน่ะมันเป็นวิสกี้ที่มีวัตถุดิบหลักคือข้าวโพด รองลงมาก็ข้าวไรย์ สินะคะ? "
ความจริงคือแค่เธอรู้ว่ามันมีข้าวโพดเป็นส่วนผสมหลักเธอก็ไม่ชอบแล้ว ข้าวโพดสำหรับเธอน่ะเอาไปคลุกเนยน้ำตาลยังจะอร่อยกว่าอีก
แต่ทว่า...
บรืน!
" อะ--เดี๋ยวค่ะ! เป็นอะไรของคุณน่ะคะ จู่ๆเร่งเครื่องทำไมกัน!? " อุเมะแทบกัดลิ้นตัวเองตายเมื่อจู่ๆเบอร์เบิ้นก็เร่งเครื่องยนต์ขึ้นมากระทันหันแบบไม่มีสาเหตุ
" อะ...ขอโทษครับ เท้าผมลั่นน่ะ " เจ้าตัวหันมายิ้มแห้งอย่างมีพิรุธ แต่เธอก็ไม่ได้คาดคั้นถามอะไรแต่อย่างใด
แค่เท้าลั่นจริงๆน่ะหรอ? อย่างกับว่าเขามีปฏิกิริยากับอะไรบางอย่าง...
อะไรบางอย่าง...
'มันเป็นวิสกี้ที่มีวัตถุดิบหลักคือข้าวโพด รองลงมาก็ข้าวไรย์ สินะคะ
" ...ตาฉันถามบ้างล่ะค่ะ เมื่อครู่ดูเหมือนคุณจะมีปฏิกิริยากับอะไรบางอย่าง...ถามตรงๆเลยละกันค่ะ รู้จักคนทรยศที่ชื่อไรย์ด้วยหรอคะ? "
" ...ครับ รู้จักดีเลยด้วยล่ะ " ไอคนที่มันฆ่าเพื่อนของเขาน่ะไม่มีวันที่จะลืมมันได้ลงหรอก!
แรงกดดันฆ่าฟันที่แผ่ออกมาจากตัวของเขาทำเอาอุเมะหวาดๆจนต้องแอบถอยไปชิดกับประตูรถทันที
' ดูจากทรงแล้ว...เราไม่ถามต่อน่าจะดีกว่าแฮะ ' อุเมะคิดพลางเหงื่อตกเล็กน้อย
หลังจากนั้นก็ไม่มีบทสนทนาใดๆอีกเลยตั้งแต่เธอถามถึงคนทรยศคนนั้น FBIหนุ่มที่เคยแฝงตัวเข้ามาในองค์กรได้นานที่สุด ฉายาSliver bullet ที่เบลม็อทเคยเล่าให้ฟังและจากข้อมูลที่ได้มาจากพ่อคาซึมะ...
แต่เวลาผ่านไปไม่นานนักเขาก็เป็นฝ่ายเปิดบทสนาขึ้นมาอีกครั้งจนทำเอาฉันปรับอารมณ์ไม่ทัน
เมื่อกี้ยังทำหน้าอย่างกับจะไปฆ่าใครอยู่เลย ทีตอนนี้ล่ะกลับมายิ้มหน้าระรื่น...เขายังโอเคอยู่ใช่มั้ยเนี่ย?
" จะว่าไปร่างกายเป็นยังไงบ้างครับ สบายดีมั้ย? ไม่สบายอีกรึเปล่าครับ? " เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้หูฟาดไปเองแน่ๆ...มันเหมมือนกับว่าเขากำลังถามเธอด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
แต่เธอกลับตัดความเป็นห่วงนั่นทิ้งอย่างไร้เยื่อใย
" ยุ่งค่ะ " สั้นๆและได้ใจความ แต่ฝ่ายชายก็ไม่น้อยหน้าตอบกลับมาอย่างรวดเร็วเช่นกันว่า...
" เป็นห่วงครับ "
อาการคันยุบยิบหัวใจแบบนี้มันคืออะไรกัน!
จะไม่ให้เธอเขินเลยมันก็ยังไงอยู่ คนมันไม่ได้ตายด้านๆความรู้สึกนะ เกิดมา22ปีก็เพิ่งจะเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เป็นครั้งแรกเนี่ยแหละ จะบ้า!
ว่าแล้วก็ขอกุมขมับหนึ่งทีก่อนจะตอบเขากลับไปด้วยน้ำเสียงเฉื่อยชา
" อย่ามาเล่นลิ้นนะคะ "
" ผมเปล่านะครับ...หรือว่าคุณอยากเล่นลิ้นกับผมล่ะครับ? " เขาถามด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่เจ้าเล่ห์มากกว่าครั้งไหนๆ จนเธออดรู้สึกขนลุกขนชันไม่ได้
" หยุดพูดจาชวนเข้าใจผิดแบบนั้นได้แล้วค่ะ! "
" ...ผมพูดจริงนะครับ :) "
ฉันยังยืนยันคำเดิม...
ใครก็ได้ช่วยเอาผู้ชายคนนี้ไปเก็บที!!! ლಠ益ಠ)ლ
-----------------------------------------------------------
Talk With Writer
ทำไมเราอ่อยน้องเก่งล่ะคะะคุณเรย์!
โอ๊ยย ใครไหวไปก่อนเลยไรท์ไม่ไหวแล้ว แต่งไปก็เขินไป บ้าจริงง~
เพราะเดี๋ยวคุณๆจะหายไปอีกหลายตอนต้องเอาให้คุ้มหน่อยค่ะ! ค่าตัวคุณพี่เขาแพง----
ตอนหน้ามีเซอร์ไพส์ค่ะ ถ้าใครสังเกตนามสกุลน้องดีๆจะรู้ค่ะ รู้อะไรน่ะหรอ
...อยากรู้ติดตามเอาเองตอนหน้าค่ะ! แหะ~
#2 ไรท์ขอใช้พื้นที่ตรงนี้ขอบคุณรีดเดอร์ทุกคนที่ให้การสนับสนุนค่ะ การได้เห็นอะไรแบบนี้มันทำให้ใจชื้นหายเหนื่อยมากๆ และไม่คิดมาก่อนเลยว่ามันจะขึ้นมาถึงอันดับต้นๆแบบนี้ ขอบคุณทุกคนมากจริงๆนะคะ//กราบแบบเบญจางคประดิษฐ์
บวกกับตอนนี้ยอดเฟบ160+แล้ว ถ้าครบ200 ไรท์อาจจะเปิดให้โหวตตอนพิเศษค่ะ แต่จะเป็นอะไรยังไงนั้นเดี๋ยวไรท์จะแจ้งให้ทราบอีกรอบนะคะ~
อันดับที่ 38 ของเมื่อวันที่ 31/05/63 ค่ะ
1st 01/06/63 100% 03.49 น.
Cr.picture : https://twitter.com/TakaTsuki_1227/status/1036288551229353984
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อูยยยยยย พ่อคุณ เบาได้เบาค่ะ5555555555 อ่อยหนักอ่อยแรงมากแม่
รักรี้ดมากเลยตามเม้นทุกคนตอนน่ารักก ขอบคุณมากนะคะ//กอดหนุบหนับ
ติดตามรอได้เลยค่ะะ~