ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] MY BOYFRIEND IS SO มุ้งมิ้ง ♡ KrisYeol

    ลำดับตอนที่ #17 : MY BOYFRIEND IS SO มุ้งมิ้ง :: มุ้งมิ้ง in the sea (2/2) -ลงแล้ว-

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.02K
      17
      1 ก.ค. 57

















     




















     










     

     

     กินอิ่มแล้วหนังท้องตึง หนังตาก็ต้องหย่อนเป็นธรรมดา ยิ่งขากลับจากร้านอาหารไปยังบ้านพักที่ตั้งอยู่ริมหาด เลยทำให้ทั้งสองคนต้องเดินเอื่อยเลาะตอบชายทะเลไปเรื่อย ลมเย็นๆที่พัดมาพร้อมกับกลิ่นไอทะเลที่ลอยมาจางๆทำให้ชานยอลรู้สึกผ่อนคลายยิ่งกว่าเดิม เบียกตัวเองเข้ากับร่างของอีกคนที่เดินโอบไหล่ไม่ห่างก่อนจะเอนศีรษะซบลงไปที่บริเวณไหล่ของอีกคนแล้วหลับตานิ่ง

     

     






     

     

     

    “ชยอลจ๋าง่วงแล้วเหรอคะ?”

     

     

     






     

     

     

    “อืม อิ่มจัง... ง่วงด้วย”

     

     






     

     

     

    ตอบทั้งๆที่ตาปิดอยู่แบบนั้น ขยับเปลี่ยนองศาให้เหมาะเจาะเพื่อที่จะได้เอนพิงอีกคนดีๆ ฝ่ายคนมองก็ได้แต่ยิ้มจางๆ ชานยอลของเค้าน่ารักเสมอ ถึงแม้ว่าอีกคนจะพยายามทำตัวให้ดูโต ดูเป็นผู้ใหญ่ ดูมาดแมนมากขนาดไหน แต่ยังไงก็ไม่ทิ้งนิสัยออดอ้อนเป็นเด็กน้อยเลยสักนิด อี้ฟานคิดว่าไม่แปลกหรอกที่อีกคนเป็นแบบนี้ อาจจะเพราะการเป็นคนเล็กของบ้าน เลยทำให้ชานยอลติดนิสัยการอ้อนแบบไม่รู้ตัวมาก็เป็นได้

     

     






     

     

     

    “ก็เดินให้ถึงบ้านก่อนสิคะ แล้วค่อยนอน” พูดไปก็จัดผมหน้าม้าของอีกคนที่เริ่มปลิวไม่เป็นทรงเพราะลมทะเลให้เข้าที่ “เดินไปหลับไปแบบนี้เดี๋ยวก็สะดุดล้มหรอกค่ะ”

     

     






     

     

     

    “ไม่ล้มหรอกน่า”

     

     

     

     

     






     

     

     

    “ชยอลจ๋า..”

     

     

     

     

     






     

     

     

    “มีนายกอดไว้อยู่อย่างนี้ ไม่ล้มหรอก”






     

     

     

     






     

    นี่อู๋อี้ฟานชักไม่มั่นใจแล้วนะว่าไอ้ตำแหน่งคนมุ้งมิ้งช่างหยอดนี่มันยังเป็นของเค้าอยู่รึเปล่า

     





    กลายเป็นเขินหน้าแดงกันทั้งฝ่ายหยอดฝ่ายถูกหยอด อี้ฟานไม่ได้ตอบอะไรกลับไปนอกจากรอยยิ้มที่กว้างขึ้นและโอบแขนที่กระชับแน่นกว่าเดิม ฝ่ายคนหยอดก็ได้แต่มุดหน้าอยู่กับไหล่กว้างๆนั้น เพิ่งสำนึกได้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป หน้าหวานแดงก่ำที่ถึงแม้จะมีเพียงแสงไฟริมถนน แต่อู๋อี้ฟานก็เห็นได้ชัดเจนเลยทีเดียวว่าแก้มเนียนนั้นแดงจนแทบจะลามไปถึงใบหูแบบพิเศษนั่นแล้วด้วย

     




    “หยอดเค้าแล้วเขินเองนี่ยังไงคะชยอลจ๋า”

     




    “เงียบไปเถอะ” สวนกลับเสียงเขียวพร้อมกับทุบเข้าให้หนึ่งดอกที่กลางอกของอีกคน อี้ฟานได้แต่หัวเราะ ทำไมปาร์คชานยอลของเค้าถึงได้น่ารักแบบนี้นะ

     



    น่ารักกว่าพี่คุมะรวมตัวกับคิตตี้นูนาเป็นสิบๆเท่าเลย ^O^

     




    “หัวเราะอะไรกันนักกันหนา?” เพราะไม่เห็นว่าอีกคนจะหยุดเสียงหัวเราะได้ ชานยอลเลยผละตัวออกมามองหน้าอีกคนตาเขียว นี่มันน่าตลกนักรึไงเล่าที่เค้าจะพูดอะไรทำนองแบบนั้นน่ะ? อู๋อี้ฟานถึงได้ยิ้ม หัวเราะไม่ยอมหยุดแบบนี้

     




    “ก็เค้ามีความสุขนี่น่า” อี้ฟานว่าก่อนจะกล่าวต่อเมื่อเห็นอีกคนยังมีท่าทีไม่เข้าใจ “ก็นานๆทีชยอลจ๋าจะหวานๆใส่เค้าบ้างนี่น่า โดนชยอลจ๋าหยอดนี่รู้สึกดีจังเลย รู้สึกเหมือนโดนเต๊าะเลยค่ะ”

     




    “ย๊า!!

     




    สิ้นเสียงนั้น อี้ฟานก็รู้ดีว่าตัวเองไม่ปลอดภัย ขายาวตามแบบฉบับนักบาสออกวิ่งทันทีเมื่อเห็นว่าอีกคนต้องอาละวาดเป็นแน่ แต่ก็ไม่รู้ว่าอี้ฟานวิ่งเร็วหรือชานยอลวิ่งช้ากันแน่ ชานยอลถึงได้วิ่งไล่ไม่ทันสักที เสียงหัวเราะของคนถูกวิ่งไล่และเสียงร้องโวยวายของคนวิ่งตามดังไปทั่วชายหาดที่เงียบสนิท ท่ามกลางแสงจันทร์ที่สะท้อนเงาลงบนผืนน้ำ ก็มีเงาของคนสองคนทอดลงบนพื้นทรายเช่นกัน

     




    คนหน้าหวานหอบแฮ่กเมื่อวิ่งตามอีกคนจนแทบจะหมดแรงข้าวต้มแล้วก็ยังไล่จับไม่ได้ เลยย่อตัวลงเอาแขนเท้าไว้เหนือเข่าก่อนจะหอบหายใจ อี้ฟานเห็นแบบนั้นก็หยุดวิ่งก่อนจะค่อยๆขยับเข้ามาใกล้ เค้ารู้ว่าชานยอลไม่ค่อยออกกำลังกายบ่อยนัก วิ่งแค่นี้ก็คงจะเหนื่อยมากพอดู แต่ก็นั่นแหละ อู๋อี้ฟานก็เป็นคนซื่อที่ไม่เคยจะทันชานยอลสักที ทันทีที่ขยับเข้าไปใกล้ได้มากพอ คนที่หอบอยู่เมื่อกี้ก็แปลงร่างกายเป็นลูกลิงเสียอย่างนั้น ผวากระโดดเข้าใส่หลังของเค้าทันทีจนแทบจะเสียหลักล้มไป แขนเรียวล็อกเข้าที่คอของอีกคนอย่างพอดีเป๊ะ ก่อนจะหัวเราะเสียงดังลั่น

     





    “ฮ่าๆ เสร็จล่ะอู๋อี้ฟาน!

     




    “อ๊ากก!

     




    นอกจากจะเป็นลิงแล้วชานยอลก็คงเป็นหมาด้วยแน่ๆ เพราะทันทีที่ตั้งหลักบนหลังของอีกคนได้ ปากอิ่มก็อ้าออกก่อนจะกัดหมับเข้าที่ไหล่ของอีกคนอย่างแรงเสียจนคนถูกกัดต้องร้องเสียงหลง ครั้นจะสะบัดออกก็กลัวอีกคนจะตกลงไปนั่งจมอยู่กับพื้นทรายเลยได้แต่เบ้หน้าเพราะความเจ็บ ก็ต้องปล่อยให้คนที่ทดลองฟันขึ้นอยู่นั่นกัดๆงับๆไปจนกว่าจะพอใจ เจ้าตัวถึงจะหยุดอยู่บนหลังเค้านิ่งๆแทน

     




    “โทษฐานที่ทำให้เหนื่อยวิ่งตาม สมควรโดน” ชี้ไปที่จุดเกิดเหตุ หากถลกแขนเสื้อขึ้นดูคงเห็นรอยฟันชัดเจนเป็นแน่แท้ อี้ฟานได้แต่เบะปากทำท่าเหมือนจะร้องไห้ จนคนที่มองต้องรีบโอ่ก่อนอีกคนจะปล่อยปี่ออกมา

     




    “แต่เห็นว่ายอมอยู่นิ่งๆให้กัดหรอกนะ แถมยังแบกขึ้นหลังด้วย จะเป่าให้แล้วกัน” พูดจบก็ยื่นหน้าไปใกล้ๆแผนก่อนจะเป่าลมออกมาเบาๆจนอี้ฟานได้ยินเสียงฟู่ว ฟู่วอยู่ที่ข้างๆหู จากที่เจ็บเมื่อกี้ก็กลายเป็นฟินขึ้นมาในทันที

     




    นี่อู๋อี้ฟานจะเป็นมาโซรึเปล่านะ?

     




    “หนักมั้ย?” เพราะเห็นอีกคนนิ่งเงียบไป ชานยอลเลยเอ่ยถาม ก็รู้อยู่หรอกว่าเค้าก็ไม่ได้ตัวเล็กๆเลย ตัวกูสูงแถมหนักก็หนัก จู่ๆมากระโดดใส่อีกคนแบบนี้คงหนักไม่ใช่เล่น หากแต่อู๋อี้ฟานก็ไม่ได้ตอบอะไรมากไปกว่าการส่ายหน้ายิ้มๆพร้อมกับกระชับแขนที่โอบรั้งขาของอีกคนเอาไว้ให้แน่นขึ้น และก้าวเดินต่อไปยังที่พักของพวกเค้า

     




    “ไม่หนักเหรอ? ปล่อยก็ได้ เดี๋ยวเดินเอง”

     




    “ไม่หนักหรอกค่ะ ชยอลจ๋าตัวเบานิดเดียว เหมือนพี่คุมะเลย”

     




    “ทำไมต้องเอาไปเปรียบเทียบกับหมีด้วยเนี่ย”

     




    คนที่ถูกเปรียบเทียบว่าเป็นริลัคคุมะก็รู้สึกไม่พอใจ คือจะมีนนิ่งว่าอะไร น่ารักเหมือนตุ๊กตา หรือว่าตัวใหญ่ยักษ์ ตัวอ้วนแบบหมีอ้วนนั่นกันแน่ ชักจะหงุดหงิดเล็กๆที่โดนเปรียบเทียบเป็นหมี พออี้ฟานเดินมาถึงหน้าบ้าน ชานยอลก็ขยับลงมาจากหลังของอีกคนแทบจะในทันที เดือดร้อนคนมุ้งมิ้งต้องรีบคว้าข้อมือไว้ก่อนจะอธิบายให้เข้าใจ

     




    “เดี๋ยวสิคะ อย่าเพิ่งโมโหสิ เค้าไม่ได้หมายความไม่ดีเลยนะ”

     





    “แล้วหมายความว่ายังไงห๊ะ? จะให้คิดอะไรได้อีกนอกจากว่าตัวอ้วนเหมือนหมีน่ะ” ฝ่ามือตวัดฉับเตรียมฟาดลงที่ไหล่อีกคนแล้ว แต่ก็หยุดไว้เสียก่อนพอได้ยินประโยคถัดมา

     




    “ก็ชยอลจ๋าน่ารัก ชอบทำตัวน่ารัก ทำอะไรก็น่ารักไปหมดเลย”

     




    “...”

     




    “ชอบทำให้เค้าอยากกอด ให้เค้าอยากหอม ให้เค้าอยากจูบ”

     




    “...เอ่อ...” ได้แต่กลืนน้ำลายลงคอเมื่ออีกคนขยับเข้ามาใกล้จนตอนนี้หลังของชานยอลแทบจะเป็นเนื้อเดียวกันกับประตูบ้านพักอยู่แล้ว ตากลมหลับลงเมื่อคนตรงหน้าขยับเข้ามาใกล้ รู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่กระทบลงข้างแก้มก่อนจะได้ยินประโยคถัดมาที่กระซิบชิดติดริมหูและทำเอาหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม

     




    “แล้วก็... อยากฟัดด้วย”










                  แล้วคิดว่าปาร์คชานยอลคนนี้เคยชนะคนมุ้งมิ้งอย่างอู๋อี้ฟานบ้างมั้ย














     

    CUT SCENE


    ส่งให้ถึงวันที่ 7 กรกฏาคม เท่านั้นค่ะ


    ไม่รับคอมเม้นท์สั้นๆไม่ได้ใจความนะคะ ^^


    ถ้าภายใน 24 ชม.ไม่ได้รับอีเมล์ คอมเม้นท์ใหม่นะคะ


     

      











     













     

                    ไม่รู้ว่าเพราะแสงแดดที่ส่องทะลุผ้าม่านสีขาวบางตรงกระจกใสมากระทบกับร่าง หรือว่าเพราะเสียงก๊อกแก๊กๆที่ดังมาให้ได้ยินจากแถวๆบริเวณปลายเตียงกันแน่ที่ทำให้คนที่นอนหลับอยู่บนเตียงค่อยๆรู้สึกตัว ตากลมค่อยๆปรือขึ้นก่อนจะกะพริบถี่ๆเพื่อปรับสายตาให้รับกับแสง ผมสีแดงสดที่ยุ่งเหยิงไม่เป็นทรงถูกเสยขึ้นลวกๆ ก่อนที่เจ้าของร่างจะค่อยๆยันกายขึ้นมา ดวงตาสวยหรี่มองไปยังคนที่กำลังหาของอะไรบางอย่างอยู่ตรงนั้น

     





     

                    "หาอะไรแต่เช้าอ่ะ?"






                   เสียงทุ้มหวานที่แหบพร่าไปนิดเอ่ยถาม ทำเอาคนที่ยืนหาของอยู่ถึงกับสะดุ้ง เค้าว่าเค้าทำเบาแล้วนะ แต่ชานยอลยังได้ยินเสียงจนตื่นมาอีกเหรอ เค้ารู้ว่าชานยอลประสาทหูดีแต่ไม่ได้คิดว่าจะดีขนาดนี้นี่น่า คนตัวสูงที่มีเพียงกางเกงนอนขายาวติดกายก็เดินกลับมายังเตียงนอนก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงเคียงข้างคนที่ยังงัวเงียอบู่กับกองผ้าห่ม

     





     

    "ไม่มีอะไรหรอกคะ ชยอลจ๋านอนต่อเถอะ เดี๋ยวสักสายๆเราค่อยออกก็ได้" จัดผมให้อีกคนอย่างเอ็นดู นึกขำที่เห็นปอยผมหนึ่งกระจุกชี้โด่ชี้เด่อยู่ที่กลางศีรษะจนกลายเป็นเสาสัญญาณไวไฟน้อยๆบนหัวทุยสีแดงสดนั่น หากแต่คนเพิ่งตื่นก็ไม่ยอมนอนตามคำสั่ง คิ้วขมวดเมื่อเห็นว่าอีกคนถืออะไรติดกลับมาด้วยเมื่อครู่

     





     

    "อะไรอ่ะ?" ถามพลางบุ้ยปากไปยังของกลางที่อีกคนวางไว้ข้างกาย ก่อนจะถือวิสาสะหยิบมาดูโดยไม่รอให้อีกคนอนุญาต กล้องโพลารอยด์สีสันสดใสนี่น่ะเหรอคือสิ่งที่อี้ฟานตื่นมาค้นหาแต่เช้า

     





     

    "แหะๆ เค้าว่า เรามาเที่ยวกันทั้งที ถ่ายรูปเก็บไว้หน่อยดีกว่าเนาะ" เสนอไอเดียขึ้นมา ซึ่งถ้าเป็นในเวลาปกติชานยอลจะไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่คือเพิ่งตื่นนอนไง มาชวน selfie อะไรตอนนี้วะครับอู๋อี้ฟาน

     





     

    "ถ่ายทำไม? ไม่เอา" ปฏิเสธทันทีแบบไม่ต้องคิดมาก ทำเอาเจ้าของไอเดียหน้าหล่อหน้างอลงในทันที ดูเอาเถอะคุณคนอ่าน นี่โตแล้วนะ แถมตัวก็ไม่ใช่เล็กๆ ยังจะมางอนเรื่องอะไรแบบนี้อีกเหรอ?

     





     

    "ง่า ทำไมอ่า? ชยอลจ๋าไม่อยากถ่ายรูปกับเค้าเหรอ?" มาอีกล่ะ ไอ้สเต็ปเดิมๆ ปากเบะๆแล้วทำตาเศร้าๆเหมือนจะร้องไห้เนี่ย สกิลนี้มาทีไร ปาร์คชานยอลแพ้ทุกทีเลย!

     





     

    "ไอ้ถ่ายอ่ะถ่ายได้" ชานยอลพยายามอธิบาย ก่อนจะพูดประโยคถัดมาด้วยเสียงแผ่วเบาพร้อมกับหน้าแดงๆ "แต่ทำไมต้องมาถ่ายบนเตียงด้วยเล่า?!!"

     





     

    จะไม่ให้เขินไม่ให้อายได้ยังไง เออ ก็อย่างที่คุณๆรู้นั่นแหละว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น ร้อนแรงกันขนาดไหน ที่นอนที่เนินนี่ก็ยับยู่ยี่ไม่เป็นทรง ผ้าห่มไปทาง หมอนไปทาง แถมตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวเค้าก็มีแค่เสื้อนอนตัวโคร่งตัวเดียวของอีกคนสวมทับไว้ด้วย กางเกงก็ไม่ได้ใส่เพราะเมื่อคืนต่างคนก็เหนื่อยเกินกว่าจะมาหยิบจับประณีตในการแต่งตัว แล้วไม่ต้องให้บอกหรอกว่าตอนนี้ผิวเนื้อที่พ้นคอเสื้อมาน่ะ จะมีรอยอะไรประทับอยู่บ้าง?

     





     

    เอาง่ายๆเลยแค่มองตรงไปแล้วเห็นอกกว้างๆของอีกคนที่มีรอยข่วนประดับอยู่ ปาร์คชานยอลก็อายไปโลกหน้าแล้วครับ แล้วคิดว่าจะให้ถ่ายรูปคู่ในตอนนี้เพื่อเป็นหลักฐานงั้นเหรอ? ฝันไปเถอะ

     




     

    "ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย เราไม่ต้องถ่ายให้เห็นก็ได้นี่คะ" เพราะรู้ว่าอีกคนอายอะไร อี้ฟานเลยเบี่ยงไปประเด็นอื่น ใครยังไงเค้าไม่รู้หรอกนะ แต่มาเที่ยวกับแฟนทั้งที แถมตอนเช้าๆแบบนี้แสงก็สวย ก็อยากจะมีรูปคู่เก็บไว้บ้าง ตัวเค้าเองกับชานยอลคบกันมาเกินครึ่งปีแล้ว แต่ไม่เคยมีรูปถ่ายด้วยกันเลยสักครั้ง แปลกตรงไหนที่เค้าอยากจะถ่ายรูป

     




     

    "แต่... เฮ้ย!" เพราะมัวแต่อ้ำอึ้งเลยไม่ทันป้องกันตัว วินาทีที่คนตัวสูงกว่าอุ้มร่างของตัวเองลอยหวือมาตกลงบนตักก่อนจะกดคางที่ยาวได้รูปของตัวเองลงบนไหล่เล็กๆของคนบนตัก เปิดกล้องแล้วยื่นแขนสุดความยาว ก่อนจะหันไปหาอีกคน

     




     

    "แค่นี้ก็ไม่เห็นแล้วค่ะ มาๆ ถ่ายรูปกันดีกว่า" เพราะไม่อยากขัดใจอีกคนให้เสียเวลา เพราะรู้ดีว่าขัดไปยังไงตัวเองก็แพ้อยู่ดี ชานยอลเลยหันหน้ากลับมา ขอเวลาจัดหน้าม้าแตกตัวเองสักแป๊บ ก่อนจะส่งยิ้มให้กล้องที่อีกคนตั้งท่าจะถ่ายนานแล้ว




     

     

    แชะ!

     




     

    กล้องโพลารอยด์สีสวยทำงานตามระบบ เครื่องสั่นครืดคราดก่อนที่รูปจะถูกปริ้นท์และส่งออกมาด้านบน คนสองคนที่นั่งตักกันอยู่บนเตียงหลังกว้างยังคงสนุกสนานอยู่กับการถ่ายรูป จากตอนแรกที่อิดออดไม่ยอมถ่าย กลายเป็นสุดท้ายแล้วคนบ้ากล้องก็หนีไม่พ้นชานยอลจริงๆ

     




     

    จนกระทั่งฟิล์มหมดม้วนหมดกล่องนั่นแหละถึงได้เลิกถ่ายรูป พอดีกับรูปที่ถ่ายก่อนหน้าเริ่มปรากฏให้เห็นชัดแล้ว ชานยอลหยิบรูปขึ้นมาถือก่อนจะพิจารณาดูแต่ละรูป ในภาพปรากฏให้เห็นร่างกายท่อนบนของพวกเค้าสองคนหากแต่มันก็ไม่ได้ดูไปในทางน่าเกลียดหรือไม่เรียบร้อยอะไร บนไหล่เล็กๆของชานยอลมีใบหน้าของอีกคนเกยอยู่ รอยยิ้มกว้างของคนสองคนและสีหน้าที่เปลี่ยนไปตามอารมณ์ในแต่ละรูป จนกระทั่งมาหยุดที่รูปสุดท้าย รูปที่อี้ฟานอาศัยจังหวะที่คนบนตักเผลอ กดจมูกลงบนแก้มเนียนๆนั้นก่อนจะกดชัตเตอร์แบบไม่ทันให้ได้ตั้งตัว

     




     

    อี้ฟานที่เห็นคนบนตักนิ่งไปเมื่อมาถึงรูปสุดท้ายก็จัดการดึงรูปออกจากมือของอีกคน เอื้อมไปหยิบปากกาสีดำที่หยิบติดมือมาด้วยเมื่อครู่นี้ ตวัดเขียนตัวเลขวันเดือนปีลงไปบนที่ว่างด้านล่างของรูปก่อนจะถือให้อีกคนได้มองเห็นด้วยกัน

     




     

    "อย่าลืมเก็บรูปนี้ไว้ดีๆนะคะ"

     




     

    "..."

     




     

    "ชยอลจ๋าจะได้จำได้ว่าเรามาฮันนีมูนกันที่ไหนวันไหน?"

     




     

    ฮันนีมูนบ้าบออะไรกันเล่า?!!!!!!

     




     

    "โอ้ยยย!!!"

     









     

    ทำไมปาร์คชานยอลต้องแพ้ไอ้มนุษย์มุ้งมิ้งที่โรแมนติกที่สุดในสามโลกด้วยวะครับเนี่ย




























    กติกาเดิมๆ แปะเมล์พร้อมกับคอมเม้นท์ ไม่รับในทวิตนะคะ 
    บางทีเมนชั่นไม่ขึ้น อบร.ไม่เห็น อันนั้นไม่นับน้า ไม่ส่งให้นะ
    จะเริ่มส่งคัทซีนให้พรุ่งนี้นะคะ คืนนี้ขอไปนอนก่อน แหะๆ ^^;
    คัทซีนไม่ได้สำคัญอะไรต่อเนื้อเรื่อง ไม่หวือหวา หวานอย่างเดียว
    ไม่อ่านก็ได้ไม่มีผลอะไร แต่ถ้าอยากอ่าน แปะเมล์ไว้นะคะ ^^

    ยังเปิดจองฟิคอยู่น้า~~ ใครอยากได้รีบสั่งจองนะคะ

    ฟิคมุ้งมิ้งจิงกะเบลแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆนะตัวเอง #ขอขายของแป๊บ 555

    เอาเป็นว่า คอมเม้นท์+ติดแท็ก แล้วตอนต่อไปจะมาเร็วกว่านี้ค่ะ

    ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์และทุกกำลังใจค่ะ






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×