ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {FIC iKON} MAD HOUSE (미쳤어).junbin

    ลำดับตอนที่ #5 : MAD HOUSE | วอร์ดที่สาม : คนไข้พัคบอม

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ค. 58



    วอร์ดที่สาม


    คนไข้พัคบอม


     


     


     


     


              วันนี้ฮันบินเข้าเวรดึก จุนฮเวนอนอยู่ในห้องคนเดียวสมองคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยสายตามองกวาดไปทั่วห้องแล้วไปหยุดที่เตียงข้างๆ สมองนึกย้อนกลับไปถึงวันที่เขาทายาให้ฮันบินเขาจำได้ขึ้นใจว่ามือสั่นใจเขาเองก็สั่น ตอนนี้แค่นึกถึงเรื่องวันนั้นใจเขายังสั่น พยายามนึกหาเหตุผลร้อยพันมาหาคำตอบว่าทำไมเขาต้องใจสั่นด้วยแต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก


             


    จุนฮเวสะบัดหัวไล่ความคิดที่บอกว่าเขากำลังหวั่นไหวออกไปแล้วตัดสินอาการมือสั่นใจสั่นของตัวเองไปว่าเป็นเพราะช่วงนี้พวกเขาไม่มีเคสสำคัญอะไรเลยทำให้สมองมันฟุ้งซ่านแถมการมาอยู่ที่นี่ยังทำให้เขาได้เจอผู้หญิงสวยๆเหมือนอย่างเคย เป็นไปได้ว่าในโรงพยาบาลนี้ฮันบินอาจจะสวยที่สุดเขาเลยคิดมากไปจนใจสั่น


             


    คิดได้ดังนั้นก็หลับตาลงแล้วจมเข้าสู่ห้วงนิทรา


     


     


              “เสร็จสักทีอาบน้ำนานชิบ”


             


    “เฮ้ย” จุนฮเวที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพผ้าเช็ดตัวผืนเดียวตกใจจนรีบยกมือขึ้นมาปิด


             


    “ทำเป็นปิดซิกแพกก็ไม่มี” ฮันบินพูดก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ


               


    จุนฮเวยังคงตกใจไม่หายที่อยู่ๆเปิดประตูออกมาก็เจอฮันบินยืนอยู่หน้าห้องน้ต่มากกว่าตกใจคือความแค้นใจฮันบินกล้าดียังไงมาว่าเขาไม่มีซิกแพก!


             


    หลังจากที่ทั้งคู่ทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินมาที่วอร์ด23ซึ่งเป็นวอร์ดที่รุ่นพี่ฝากให้พวกเขามาดูแล วอร์ด23เป็นวอร์ดคนไข้ชั่วคราว คนไข้ที่อยู่ในวอร์ดนี้คือคนไข้รายใหม่ที่เพิ่งถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลโดยยังไม่ได้มีการตรวจว่าเป็นโรคอะไร


             


    “คุณฮันบินกับคุณจุนฮเวใช่มั๊ยคะ” พยาบาลสาววัยกลางคนเรียกเขาทันทีที่พวกเขาก้าวเข้ามาในวอร์ด


             


    “ใช่ครับ” ทั้งคู่ตอบก่อนจะโค้งให้เธอเล็กน้อย


             


    “คือว่าคุณหมอซอนอุงฝากพวกคุณมาดูแลวอร์ดนี้ใช่มั๊ยคะ”


             


    “อ่า ใช่ครับ”


             


    “งั้นดิฉันฝากด้วยนะคะพอดีว่าดิฉันมีธุระด่วน ขอโทษจริงๆนะคะ” เธอโค้งให้ทั้งสองคนเล็กน้อยก่อนจะรีบวิ่งออกไป


             


    จุนฮเวกับฮันบินงงกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรพวกเขาเดินเข้าไปในวอร์ดก่อนจะตรวจอะไรไปเรื่อยๆ


     


     


     


             


    “กรี๊ดดดดดดดดด” เสียงกรี๊ดดังมาจากด้านในสุดของวอร์ด23ฮันบินและจุนฮเวรีบวิ่งไปข้างในเพื่อหาต้นเหตุของเสียงเมื่อเข้าไปก็พบกับ...ข้าวโพด


             


    ตุ๊กตาบนเตียงเป็นข้าวโพด ผ้าปูที่นอนก็ลายข้าวโพด นาฬิกาตั้งโต๊ะก็ลายข้าวโพด คนไข้ก็ใส่ชุดนอนลายข้าวโพด ทุกอย่างเป็นข้าวโพดไปหมด


             


    “คนไข้เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ฮันบินถามคนไข้ออกไป ส่วนจุนฮเวที่ยืนอยู่ข้างหลังก็ต้องกลืนน้ำลายลงไปอึกใหญ่ๆ หน้าอกนั่นมัน....


             


    “จะอะไรล่ะ ฉันโดนคนที่บ้านส่งมาที่นี่ยังไงล่ะ” คนไข้คนสวยหัวเสียเล็กๆ ลักษณะท่าทางเธอไม่ได้ดูเหมือนคนไข้ที่เป็นโรคจิต เหมือนว่าจะเป็นเคสคล้ายๆนัมแทฮยอน


             


    “อ่า คุณเป็นอะไรล่ะครับถึงต้องมาที่นี่”


             


    “เป็นอะไรซะที่ไหนล่ะ ก็แค่ชอบข้าวโพดมันผิดตรงไหน แล้วที่กรี๊ดเมื่อกี้เพราะอาหารที่นี่มันไม่มีข้าวโพดไง นมข้าวโพดของฉันอยู่ไหนข้าวโพดอบเนยของฉันล่ะ ข้าวโพดต้มสักฝักก็ไม่มีให้เลยหรือไง” พูดแล้วเธอก็อารมณ์เสียอีกครั้ง


             


    “อ่า กินข้าวโพดไม่ผิดหรอกครับแต่..”


             


    “ใช่มั๊ยกินข้าวโพดเยอะมันผิดตรงไหน ข้าวโพดมันอร่อยจะตายไป”


             


    “ใช่ครับ ข้าวโพดมันอร่อยแต่กินเยอะๆมันก็ไม่ดีนะครับ” ฮันบินพูดออกมา


             


    “ไม่ดีตรงไหนล่ะ ฉันกินมาตั้งแต่เด็กๆแล้วนะ” คนไข้พูดออกมา จุนฮเวมองไปที่คนไข้ก่อนจะคิดในใจว่ากินข้าวโพดเยอะๆมันจะทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้นหรือเปล่า


             


    “อ่า กินมากๆมันไม่ดีหรอกนะครับ”


             


    “จะให้หยุดกินตอนนี้มันไม่ทันแล้วแหละ ไปเอานมข้าวโพดมาให้ฉันสิ” จุนฮเวกับฮันบินพยักหน้าให้คนไข้เล็กน้อยก่อนจะเดินซื้อนมข้าวโพดที่โรงอาหารของโรงพยาบาลมาให้คนไข้


             


    หลังจากที่พยาบาลประจำวอร์ดกลับมาแล้วพวกเขาก็สอบถามเกี่ยวกับคนไข้ที่ชอบกินข้าวโพดก็ได้ความมาว่าคนไข้ชื่อพัคบอมเพิ่งรับเคสเข้ามาเมื่อวาน ญาติคนไข้เขียนว่าเธอกินข้าวโพดเยอะเกินไปทางบ้านเลี้ยงไม่ไหวแล้ว


             


    กลับห้องมานั่งคิดนอนคิดฮันบินก็ตัดสินใจว่าเขาอยากจะรักษาคนไข้คนนี้แต่เรื่องพูดคุยจากประสบการณ์ของคนไข้ยองเบแล้วคงต้องส่งจุนฮเวไปคุยน่าจะได้ผล ส่วนเขาจะลองขอแม่ครัวของโรงพยาบาลให้เขาเป็นคนทำอาหารให้คนไข้พัคบอมเอง


             


    “ฮเว กูเลือกละนะ กูจะรักษาคนไข้พัคบอม” ฮันบินบอกจุนฮเวก่อนจะหันเตียงข้างแต่ก็เจอจุนฮเวกำลังทำอะไรอยู่ใต้ผ้าห่มแต่ที่แน่ๆมันยังไม่หลับ


               


    “ทำไรไอ้ฮเว” ฮันบินดึงผ้าห่มของอีกคนออก จุนฮเวรีบคว่ำโทรศัพท์ลงก่อนจะลุกขึ้นนั่ง


             


    “เล่นโทรศัพท์ไง มึงว่าไรนะเมื่อกี้”


             


    “ไม่ต้องมาเปลี่นเรื่องเลยเล่นโทรศัพท์ละจะใส่หูฟังทำไม” ฮันบินว่าพลางเอื้อมไปถอดหูฟังข้างหนึ่งที่ยังคาอยู่ที่หูของจุนฮเว


             


    “กูฟังเพลงไง มึงมีไรร” จุนฮเวตอบมือที่โทรศัพท์ก็คอยหนีมือของฮันบินที่พยายามจะแย่งโทรศัพท์จากเขา


             


    “เอามานี่ จะหลบกูทำไมล่ะ” ฮันบินยังคงพยายามจะเอื้อมมือไปหยิยโทรศัพท์จากมือจุนฮเว จุนฮเวรีบกดล็อกหน้าจอโทรศัพท์ทันทีที่มือของฮันบินจับโดนเข้าที่มือของเขา สุดท้ายโทรศัพท์ก็ตกไปอยู่ในมือของฮันบิน แต่จุนฮเวล็อกหน้าจอแล้วฮันบินไม่มีทางรู้หรอกว่าเขาทำอะไรอยู่เขามั่นใจ


             


    ฮันบินกดโทรศัพท์แล้วมองอยู่สักพักก่อนที่จะปาโทรศัพท์ลงที่เตียงจุนฮเวส่วนตัวเองก็กลับไปนอนที่เตียงตัวเอง


             


    จุนฮเวยิ้มมุมปากเล็กๆเขารู้ว่าฮันบินคงจะปลดล็อกโทรศัพท์เขาไม่ได้เลยอารมณ์เสียและกลับไปนอน


             


    มือหนาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหน้าจอกลับไม่ได้ถูกล็อกไว้ หน้าเว็ปหนังเรทอาร์ที่เขาเปิดทิ้งไว้จอเด่นหราดีที่ว่าฮันบินยังไม่ได้ดึงสายหูฟังออกไม่งั้นคงจะมีเสียงออกมาด้วย


     


    ฮันบินรู้รหัสโทรศัพท์เขาได้ยังฟ้าคคคคคคคคค


     


     


     


     


    “เดี๋ยวมึงเข้าไปถามประวัติคนไข้นะ กูไปทำธุระแปบเดี๋ยวมา” ฮันบินบอกแล้วเดินกลับไปอีกทาง จุนฮเวยืนงงๆก่อนจะเดินเข้าไปในวอร์ด23 เขาคิดถึงช่วงเวลาว่างๆเหมือนที่ผ่านมาฮันบินไม่น่าไปอยากรักษาคนไข้นี่เลย แต่ลึกๆเขาก็คิดว่าดีเพราะคนไข้คนนี้เป็นผู้หญิงแถมยังหน้าอกใหญ่อีกต่างหาก-.,-


     


    จุนฮเวเดินเข้าไปในห้องที่เต็มไปด้วยข้าวโพดอีกครั้ง ถึงแม้ว่าคนไข้พัคบมจะบอกกับพวกเขาว่าเธอถูกส่งมาที่โรงพยาบาลนี้เพราะว่าเธอกินข้าวโพดเยอะจนเกินไปแต่ในใจจุนฮเวคิดว่าน่าจะประกอบกับอาการแปดมิติของเธอด้วย


     


    “คุณพัคบอมครับ” จุนฮเวส่งเสียงเรียกคนไข้พัคบมที่ตอนนี้กำลังก้มหน้าก้มตาอยู่กับแท็บเล็ตตัวเอง แต่ถึงจะเรียกแล้วคนไข้ก็ยังไม่หันมา


     


    จุนฮเวเดินไปอยู่ตรงหน้าของคนไข้ก่อนจะเอื้อมมือไปปัดปัดๆที่หน้าคนไข้เพื่อเรียกให้คนไข้ละความสนใจจากแท็บเล็ตแล้วมาสนใจเขาแทน


     


    “โอ้ย นาย ฉันตายเลยเห็นมั๊ยเนี่ย” มือเรียววางแท็บเล็ตลงกับเตียงแรงๆก่อนจะหันมาคาดโทษบุคคลที่ทำให้เธอแพ้เกม


     


    “ขอโทษด้วยครับ ว่าแต่คุณกำลังทำอะไรอยู่ล่ะ”


     


    “เล่นเกมทำป๊อปคอร์นน่ะสิ อุตส่าห์จะผ่านด่านนี้อยู่แล้วแต่นายทำเสียเรื่องหมดเลย” พัคบอมหยิบแท็บเล็ตขึ้นมาก่อนจะเปิดหน้าจอเมื่อกี้ขึ้นมาให้เขาดู


     


    “ฮะฮะ ขอโทษด้วยนะ” จุนฮเวนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆเตียง จริงๆเขายังไม่รู้เลยว่าฮันบินให้เขาเข้ามาก่อนทำไม


     


    “ละเข้ามาทำไมเนี่ย” คนไข้หันมาถามเขา ไม่เข้าใจว่าทำไมคนไข้ทุกคนต้องถามกับเขาแบบนี้ เป็นหมอก็ต้องมาดูแลคนไข้ไม่ใช่หรือไง


     


    “ก็ไม่มีอะไร มาดูแลคนไข้ไงหน้าที่หมออ่ะ ฮะฮะ”


     


    “เหรอ งั้นดูนี่ด้วยกันป่ะ” แท็บเล็ตถูกยื่นมาตรงหน้าเขาอีกครั้ง ภาพบนหน้าจอปรากฏเป็นการ์ตูนอะไรสักอย่างที่เขาไม่รู้จัก


     


    “มันคืออะไร ผมไม่ดูการ์ตูนหรอกนะ” ทำหน้าเบื่อๆแล้วดันแท็บเล็ตไปทางตัวพัคบอม


             


    “การ์ตูนไง Disney Tsum Tsum ตอนข้าวโพดคั่วน้ำผึ้ง ดูมะ”


             


    “ก็บอกว่าไม่ดูการ์ตูนไง”


             


    “ไหนบอกเป็นหมอ มาดูแลคนไข้ไง” พัคบอมพูดแล้วตั้งแท็บเล็ตบนโต๊ะ แล้วจัดทิศทางให้หันไปในทางที่ทั้งเธอและจุนฮเวสารถมองเห็นได้ เป็นการบังคับให้จุนฮเวดูเป็นเพื่อนเธอ


             


    หน้าจอปรากฏวิดิโอความยาวสองนาทีเศษๆที่กำลังเริ่มฉาย ตัวการ์ตูนเล็กๆหล่นเข้าไปในเครื่องทำข้าวโพดคั่วก่อนจะติดอยู่ในนั้น ส่วนด้านนอกก็มีตัวการ์ตูนตัวเล็กๆที่ดูอยากรู้อยากเห็นกันเหลือเกิน การ์ตูนตัวอื่นๆพากันตกลงไปในเครื่องทำข้าวโพดคั่วก่อนที่สุดท้ายจะกระเด็นออกมาพร้อมกับข้าวโพดที่อยู่ข้างในและปิดท้ายด้วยผึ้งที่บินมาพร้อมกับกล้งและถ่ายรูปพวกนั้นไว้


             


    จุนฮเวคิดว่านี่มันเป็นการ์ตูนที่ปัญญาอ่อนที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมาเลยก็ว่าได้!!!


             


    “จบละ น่ารักใช่มั๊ยล่ะ ดูเรื่องนี้ๆ” นิ้วเรียวของพัคบอมจรดมือพิมลงบนช่องค้นหา


             


    ‘Corn Chip | Donald Duck’


             


    ภาพบนหน้าจอฉายขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ความยาวคลิปเพิ่มมาเป็นเกือบเจ็ดนาที ตัวการ์ตูนเป็ดที่พูดไม่ค่อยจะรู้เรื่องกำลังกวาดหิมะออกจากทางเดินที่บ้านตัวเองละอยู่ดีๆก็เอากระรอกลงมากวาดให้เฉยเลย กระรอกเลยแค้นเข้าไปขโมยป๊อบคอร์นละก็แย่งป๊อปคอร์นไปมาอีก จุนฮเวคิดว่านอกจากการ์ตูนเรื่องนี้จะปัญญาอ่อนแล้วตัวการ์ตูนก็ยังพูดไม่รู้เรื่องอีก อย่าให้รู้นะว่าใครเป็นคนคิด!


             


    พอจบเรื่องที่สองก็ตามมาด้วยเรื่องที่สาม เรื่องที่สี่ เรื่องที่ห้าและก็ยังคงตามมาไม่จบไม่สิ้น จนสุดท้ายจุนฮเวก็นั่งหลับอยู่ที่ข้างเตียงตนไข้


     


     


     


             


    “ฮเว มึงตื่นดิ มาหลับอะไรในเวลางานวะ” จุนฮเวสะดุ้งเมื่อได้รับแรงสะกิดที่หัวไหล่ นี่เขาเผลอหลับไปตอนไหนเนี่ย


             


    เมื่อหันไปมองที่เตียงคนไข้ก็เห็นว่าพัคบอมยังคงดูการ์ตูนเกี่ยวกับข้าวโพดไปไม่จบไม่สิ้น โดยที่ไม่ได้สนใจว่าตอนนี้มีคนอยู่ข้างเตียงถึงสองคน


             


    “วันนี้มึงได้ทำไรบ้างป่ะ” ฮันบินเป็นฝ่ายถามขึ้น


             


    “นี่ไง นั่งดูการ์ตูนข้าวโพดตั้งแต่เข้ามาจนมึงมาปลุกเนี่ยแหละ”


             


    “เอ้า ละมึงไม่คุยหรือบำบัดอะไรเลยหรอวะ” ฮันบินหัวเสียนิดๆกับจุนฮเวแต่ก็ช่วยไม่ได้


             


    “ก็มึงไม่ได้บอกกูอ่ะ แถมคนไข้ก็ดูการ์ตูนอย่างเดียวเลยเนี่ย มึงดูดิ” จุนฮเวเสมองไปยังพัคบอม


             


    “อ่า โอเคๆ” ฮันบินตอบจุนฮเวก่อนจะเดินไปหาคนไข้


             


    “คุณพัคบอมครับ” ฮันบินเรียกคนไข้แต่ก็เป็นเหมือนเดิมพัคบอมยังคงสนใจแค่หน้าจอแท็บเล็ตที่กำลังฉายการ์ตูน


             


    ฮันบินส่งฝ่ามือไปปัดๆด้านหน้าของพัคบอมนิดๆก่อนที่เจ้าตัวจะสะดุ้งตกใจ


             


    “มีอะไรหรือเปล่า จะดูการ์ตูน” พัคบอมตอบไปมึนๆ


             


    “พรุ่งนี้พวกผมจะมาหาอีกทีนะ ดูการ์ตูนไปพรุ่งนี้ห้ามดูแล้วนะครับ” พัคบอมไม่ได้สนใจอะไรนักว่าฮันบินสั่งอะไร เพียงแค่พยักหน้ารับเบาๆก่อนจะหันหน้ากลับไปสนจี่หน้าจอแท็บเล็ตต่อ


             


    “งั้นพวกผมไปแล้วนะครับ” ฮันบินและจุนฮเวโค้งลาคนไข้เล็กน้อยก่อนจะหันหลังเตรียมจะเดินกลับออกไป


             


    “เดี๋ยว” อยู่ๆพัคบอมก็เรียกสองคนนั้นไว้ ฮันบินทำหน้าสงสัยเล็กน้อยก่อนจะต้องถอนหายใจกับคำพูดต่อไปของพัคบม


             


    “พรุ่งนี้ขอขนมปังไส้ข้าวโพดชิ้นนึงนะ สองเลยก็ได้”


     


     


     


     


     


     


     


              หลังจากที่ออกมาจากคนไข้พัคบอมทั้งสองคนก็ไปเดินตรวจดูวอร์ดต่างๆอีกเหมือนที่ทำอย่างทุกวัน แปบๆเวลาทำงานก็หมดลงแล้ว ทั้งสองคนกลับมาอยู่ที่ห้องพักอย่างเดิม


     


    “ฮเว มาคุยเรื่องคนไข้ดิ๊” ฮันบินเรียกจุนฮเวที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงมานั่งที่โต๊ะอาหาร


             


    “อ่าห้ะ คนไข้พัคบอมอ่ะนะ” จุนฮเวทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ตรงข้ามฮันบิน


             


    “ใช่ มึงช่วยไปคุยเรื่องโทษของข้าวโพดหน่อยดิ กูคุยไม่เก่งว่ะ” ฮันบินว่าแล้วหันหน้าจอโน๊ตบุ๊คไปทางจุนฮเว


             


    “โทษข้าวโพดเหี้ยไรมึง นี่มันมิกกี้เมาส์” จุนฮเวหันจอโน๊ตบุ๊คกลับไปหาฮันบิน


             


    “โทษๆ ผิดแท็บๆ ดูใหม่มึง ฮะฮะ” ฮันบินพูดกลั้วขำก่อนจะเปลี่ยนไปยังอีกแท็บแล้วหันหน้าจอให้จุนฮเวดูอีกครั้ง


             


    “มึงส่งลิ้งเว็บมาเดี๋ยวกูไปอ่าน”


             


    “โอเค แล้วก็เดี๋ยวกูจะทำอาหารให้คนไข้เองด้วย ไม่ให้กินข้าวโพดแบบอาหารของโรงบาลเดี๋ยวไปกินข้าวโพดตามร้านแม่งจะแย่กว่าเดิม”


             


    “มึงอ่ะนะทำอาหาร ถุ้ย” จุนฮเวหัวเราะกับความคิดฮันบินเล็กน้อย เขายังจำวันที่ฮันบินทำอาหารครั้งแรกได้ เรื่องรสชาติน่ะมันกินได้แต่เขากลัวฮันบินจะไปซุ่มซ่ามจนได้แผลกลับมาอีกมากกว่า


             


    “เออ กูเนี่ยแหละ” ฮันบินเริ่มจะโกรธคนตรงหน้า ฮันบินไม่ชอบนึกถึงตอนทำอาหารครั้งแรกเลย ก็ตอนนั้นเขาเพิ่งเคยเข้าครัวนี่นา ทุกอย่างมันเละไปหมด


             


    “จ้าๆ เดี๋ยวกูไปช่วยละกัน” จุนฮเวอดเป็นห่วงเพื่อนสนิทไม่ได้เลยอาสาที่จะไปช่วยด้วย ตามจริงเขาห่วงโรงครัวของโรงพยาบาลมากกว่าอีก


             


    “มึงจะมาทำไมมม ไปคุยกับคนไข้ดิ”


               


    “คุยกับคนไข้แปบเดียวเอง เดี๋ยวกูไปช่วยมึงต่อไง”


             


    “เห้อ เอาเลยแล้วแต่มึงเหอะ” ฮันบินพูดตัดรำคาญไป ถ้าจุนฮเวมันจะไปเขาก็ขี้เกียจเถียงด้วยเอาเวลาไปดูมิกกี้เมาส์ดีกว่า


     


     


     


     


             


    จุนฮเวเดินเข้าไปที่เตียงของพัคบอมอีกครั้งส่วนพัคบอมเองก็ยังคงสนใจแต่แท็บเล็ตของตัวเอง จุนฮเวเลยยื่นขนมปังไส้ข้าวโพดไปตรงหน้าคนไข้


     


    กลิ่นข้าวโพดจากถุงขนมปังที่ถูกยื่นไปตรงหน้าเรียกให้พัคบอมหันมาสนใจบุคคลที่เข้ามา


     


    “อ้าว มาแล้วหรอ ดูการ์ตูนต่อมะ” พัคบอมหันมายิ้มให้จุนฮเว คือถ้าฮันบินไม่อยู่จุนฮเวก็กลายเป็นเพื่อนดูการ์ตูนเลยหรอพัคบอม


     


    “วันนี้ผมจะมาคุยอะไรด้วยนิดหน่อย ห้ามดูการ์ตูนนะวันนี้” จุนฮเวนั่งลงบนเก้าอี้ก่อนจะเข้าโหมดจริงจัง


     


    “ก็ได้ วันนี้ไม่ดูก็ได้” พัคบอมคว่ำหน้าแท็บเล็ตลงบนเตียงก่อนจะหันไปสนใจจุนฮเว


     


    “ตอบทุกคำถามนะ”


     


    “ถามมาก็ตอบหมดอ่ะ”


     


    “ทำไมถึงชอบกินข้าวโพดมากขนาดนี้”


     


    “ก็มันอร่อยไง แล้วก็ที่บ้านก็ทำฟาร์มข้าวโพดด้วย ไม่กินข้าวโพดจะกินอะไร” พัคบอมตอบตามความจริง


     


    “แล้วเริ่มจะติดข้าวโพดมากๆแบบขาดไม่ได้เมื่อไหร่”


     


    “ก็ตั้งแต่ออกมาเรียนมัธยมปลายมั้ง มาอยู่หอแล้วมื้อเย็นไม่ได้มีอาหารฝีมือแม่ก็เลยกินแต่อะไรที่มีข้าวโพดมาตลอด เลยติด”


     


    “คือเธอไม่กินอาหารที่ไม่ใช่ฝีมือแม่หรอ”


     


    “ไม่กินไง เลยกินแต่ข้าวโพดเนี่ยแหละ ถามขนาดนี้จะเอาไปทำสารคดีชีวิตของฉันหรือไงเนี่ย” พัคบอมทำหน้าหน่ายๆ


     


    “ตลกละ มาตอบคำถามต่อ”


     


    “โอเคๆ จะไม่เล่นแล้ว”


     


    “แล้วถ้าอาหารที่เป็นข้าวโพดแต่คนอื่นทำนี่กินป่ะ”


     


    “กินดิ อะไรที่เป็นข้าวโพดฉันก็กินหมดนั่นแหละ”


     


    “โอเค งั้นวันนี้อาหารกลางวันมีข้าวโพดนะ ไม่ต้องไปซื้ออย่างอื่นกินแล้วนะ” จุนฮเวบอกพัคบอมไปยิ้มๆ


     


    “จริงหรอ” พัคบมได้ยินดังนั้นก็ตาลุกวาว


     


    “โอเค จบละผมไปละเดี๋ยวเที่ยงๆมาใหม่”


     


    “อ้าว ไปละเหรออยู่ดูการ์ตูนด้วยกันก่อนสิ” จุนฮเวส่ายหน้าเบาๆให้พัคบอมก่อนจะเดินออกไป


     


     


     


     


     


     


    “เฮ้ย!” จุนฮเวถึงกับต้องร้องออกมาเสียงดังเมื่อเดินเข้าไปถึงในครัวของโรงพยาบาลแล้วเห็นว่าตอนนี้มันเละเทะแค่ไหนทั้งครัวและคนที่อยู่ในครัว


     


    “มึงจะเสียงดังทำไมเดี๋ยวคนอื่นก็รู้หรอก” ฮันบินยกนิ้วชี้มาไว้ที่ปากเป็นสัญญาณบอกว่าให้จุนฮเวเงียบๆ


     


    “มึงเนี่ยนะ ละนี่จะทำอะไรเนี่ย” จุนฮเวเดินเข้าไปหาอีกคนที่ตอนนี้หน้าตาเต็มไปด้วยครีมอะไรก็ไม่รู้ส่วนมือก็หนืดไปด้วยอะไรบางอย่างที่เขาคิดว่าน่าจะเป็นไข่ขาว มือหนาเลื่อนขึ้นไปเช็ดครีมที่ติดอยู่บนหน้าอีกคนเบาๆ ฮันบินก็ยังคงเป็นฮันบินเหมือนเดิมเข้าครัวทีไรก็เละทุกที


     


    “เยอะแยะอ่ะ มาก็ดีแล้วมาช่วยหน่อยดิ” ฮันบินบอกคนตัวสูงด้านหน้า


     


    “เดี๋ยวกูช่วย มึงไปล้างหน้าล้างตาก่อนไป เลอะเทอะหมดละเนี่ย” จุนฮเวดันหลังฮันบินไปที่อ่างล้างจานด้านข้างก่อนที่เขาจะหันมาสนใจกับวัตถุดิบต่างๆที่อยู่ในครัว ข้าวโพดจำนวนมากนั่นทำให้เขาอยากเป็นลม


     


    ไข่ขาวจำนวนหนึ่งอยู่ในถ้วยส่วนในกระทะเทฟร่อนมีครีมสีเหลืองๆซึ่งน่าจะเป็นครีมข้าวโพดอยู่ด้านใน ด้านข้างกีวัตถุดิบอีกหลายอย่างวางปนๆกันอยู่


     


    “มึงบอกกูสิว่ามึงจะทำอะไรบ้าง” จุนฮเวหันไปถามฮันบินที่ตอนนี้เดินมายืนอยู่ข้างๆเขา


     


    “ก็ซุปข้าวโพด ปอเปี๊ยะข้าวโพดแล้วก็พายข้าวโพด”


     


    “มีแต่อะไรหวานๆ คนไข้ได้เป็นเบาหวานตายพอดี” จุนฮเวผลักหัวฮันบินเบาๆ


     


    “ก็กูไม่รู้นี่ มึงก็ใส่น้ำตาลน้อยๆดิ”


     


    “เออเดี๋ยวกูทำเองมึงอ่ะแค่ช่วยกูก็พอ” จุนฮเวบอกฮันบินแล้วเริ่มหยิบจับอุปกรณ์กับวัตถุดิบบนเคาต์เตอร์ครัว


     


    “มึงจะทำอะไรก่อนอ่ะละให้กูช่วยไร” ฮันบินถามจุนฮเวแต่เนื่องจากฮันบินยืนอยู่ด้านข้างแล้วชะโงกหน้ามาทำให้ภาพที่จุนฮเวเห็นคือฮันบินกำลังเอียงคอถามเขาอยู่ ใจมันเต้นแปลกๆอีกแล้ว...


     


    จุนฮเวผลักหัวฮันบินออกก่อนจะสะบัดหัวไล่ความคิดของตัวเองแล้วตอบฮันบินไป


     


    “ทำที่มึงทำทิ้งไว้อ่ะ อันนั้นคือไร”


     


    “อ่อ ปอเปี๊ยะอ่ะเหรอ” ฮันบินชะโงกหน้ามาอีกครั้งแต่ก็โดนจุนฮเวดันกลับเหมือนเดิม


     


    “มึงทำจะเสร็จละนี่ ไปห่อปอเปี๊ยะไป” จุนฮเวดันจานที่ใส่แผ่นแป้งปอเปี๊ยะไปให้ฮันบิน


     


    “ได้” ฮันบินรับจานนั้นมาแล้วเดินไปที่กระทะที่บรรจุใส้ปอเปี๊ยะไว้ด้านใน


     


    “ห่อเป็นสามเหลี่ยมนะทำเป็นใช่ป่ะ ทบสุดท้ายเอาไข่ขาวที่เหลือมาทาด้วยนะแป้งจะได้ไม่หลุด”


     


    “เข้าใจแล้วครับเชฟกู” ฮันบินตอบก่อนจะสนใจแป้งปอเปี๊ยะตรงหน้าและเริ่มห่อมัน


     


    จุนฮเวหันไปสนใจกับข้าวโพดจำนวนมากข้างหน้า เขาคิดว่าเขาจะทำพายข้าวโพดก่อนจะได้ไม่เสียเวลาในการอบ มือหั่นข้าวโพดไปแต่สายตาก็มองไปยังฮันบินกลัวว่ามันจะทำอะไรซุ่มซ่ามจนได้แผล


     


    “กูเสร็จละนะ” ฮันบินหันมาบอกจุนฮเวหลังจากที่ห่อปอเปี๊ยะครบแล้ว


     


    “เสร็จละก็เอาไปทอดดิ เอาหม้อทอดมาตั้งละก็ทอดไปเลย เข้านะ” จุนฮเวพยักหน้าพอใจกับรูปร่างของปอเปี๊ยะที่ฮันบินห่อก่อนจะบอกขั้นตอนต่อไปแล้วหันมาหั่นข้าวโพดต่อ


     


    ฮันบินเดินไปหยิบหม้อมาจากในตู้แล้วัดการเทน้ำมันลงไปด้านในและตั้งไฟรอ พอน้ำมันเริ่มเดือดเขาก็หยิบปอเปี๊ยะขึ้นมาไว้ในมือ


     


    ในหัวของฮันบินคิดว่าถ้าเขาใส่มันลงไปในหม้อน้ำมันจะต้องกระเด็นใส่มือเขาแน่ๆหรือเขาจะโยนมันลงไปดีนะน้ำมันจะได้ไม่กระเด็น คิดได้ดังนั้นก็


     


    “โอ๊ย!” ปอเปี๊ยะที่เคยอยู่ในมือลงไปอยู่ในหม้อแล้วแต่น้ำมันที่อยู่ในหม้อกลับกระเด็นมาโดนมือเขาแทน


     


    “เห้ย มึงเป็นไรป่าว” จุนฮเววางมีดแล้วเดินไปหาฮันบินที่ตอนนี้กำลังล้างมืออยู่ ดีที่ความรู้จากการเรียนแพทย์ทำให้เขาเดินมาล้างมือทันก่อนที่มันจะพอง


     


    “กูโยนปอเปี๊ยะลงไปน้ำมันเลยกระเด็นใส่กูอะ”


     


    “ใครเขาโยนกัน ถ้าโยนมันก็กระเด็นสิมึง” จุนฮเวอยากจะบ้าตายกับฮันบิน


     


    “อ้าว ละถ้าไม่โยนน้ำมันมันก็กระเด็นใส่กูดิ”


     


    “มันไม่กระเด็น ยิ่งมึงโยนมันยิ่งกระเด็น มึงไปหั่นข้าวโพดไปเดี๋ยวกูทอดปอเปี๊ยะเอง” จุนฮเวส่ายหน้าหน่ายๆแล้วเดินไปที่เตาแก๊ส ส่วนฮันบินก็ไปหั่นข้าวโพดตามคำสั่งของจุนฮเว


     


    “โอ้ย!” เสียงฮันบินดังขึ้นอีกครั้งเรียกให้จุนฮเวที่กำลังทอดปอเปี๊ยะต้องหันไปดู เลยเห็นว่าฮันบินโดนมีดบาด


     


    “ไปล้างมือทำแผลแล้วก็นั่งเฉยๆเลยไป” จุนฮเวส่ายหน้าเบาๆเป็นรอบที่ล้านของวัน เขาไม่เข้าใจว่าทำไมฮันบินมันถึงได้ซุ่มซ่ามขนาดนี้วะ


     


    จุนฮเวหยิบแป้งพายที่อยู่ในเตาอบออกมาแล้วเริ่มทำไส้พายข้าวโพด สักพักนึงฮันบินก็เดินมาข้างๆเขา


     


    “มึง กูอยากทำ”


     


    “เดี๋ยวมึงก็ซุ่มซ่ามอีกสัด”


     


    “น่า ให้กูช่วยเหอะนะ”


     


    “งั้นมึงเอาแป้งไปนวดไป เอาให้แบนๆนะ” จุนฮเวตอบแล้วส่งไม้นวดแป้งให้ฮันบินไป ส่วนตัวเองก็หันกลับมาทำไส้พายต่อ


     


    10 นาทีผ่านไป


     


    “มึงนวดแป้งเสร็จยังเนี่ย” จุนฮเวตะโกนถามหลังจากที่เขาทำไส้พายเสร็จแล้วแต่แป้งยังไม่เสร็จสักที


     


    “กูทำไม่เป็นอ่ะ มันไม่ค่อยสวยเลยมึง”


     


    “มานี่เดี๋ยวกูช่วย” จุนฮเวว่าแล้วเดินไปซ้อนหลังฮันบินแขนยาววาดไปด้านหน้าแล้ววางมือลงบนไม้นวดแป้งทับลงบนมือของฮันบิน แล้วค่อยๆนวดแป้งเบาๆ


     


    “พอแล้วๆ กูทำเป็นละ” ฮันบินบอกจุนฮเวที่นวดแป้งไปเรื่อยและที่สำคัญจุนฮเวยังไม่ปล่อยมือจากมือเขาเลย


     


    “ทำเป็นก็ดี นวดแล้วมึงก็ตัดนะแล้วก็เอามาวางทับกันเป็นลายสานบนหน้าพายนี่ มึงทำเป็นนะ” จุนฮเวปล่อยมือออกแล้วส่งที่ตัดแป้งให้ฮันบินพร้อมกับดันพายข้าวโพดไปให้ ส่วนตัวเขาเองก็เริ่มทำซุปข้าวโพด


     


    เวลาผ่านไปจนพวกเขาทำอาหารทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเข็มนาฬิกาชี้บอกเวลาสิบเอ็ดโมงห้าสิบ อีกสิบนาทีจึงเวลาอาหารกลางวันขอคนไข้ ทั้งคู่เลยตัดสินใจยกอาหารไปให้พัคบอมทันทีเนื่องจากว่าพวกเขาต้องไปดูแลคนไข้คนอื่นๆต่อในช่วงบ่าย


     


     


     


     


    ทันทีที่กลิ่นข้าวโพดลอยมาแตะจมูกพัคบอมก็ลุกขึ้นมานั่ง ฮันบินกับจุนฮเวเห็นอย่างนั้นก็อดขำไม่ได้


     


    “แหม่ได้กลิ่นข้าวโพดหน่อยก็ลุกเลยนะ” จุนฮเวพูดหลังจากที่วางถาดอาหารลงบนโต๊ะ


     


    “ก็ต้องตื่นมากินอาหารกลางวันป่ะล่ะ” พัคบอมตอบก่อนจะก้มลงกินอาหารบนโต๊ะ


     


    “เอ่อ คุณพัคบอมครับพวกผมมีอะไรจะคุยด้วยหน่อยน่ะครับ” ฮันบินพูดขึ้นมา ไหนๆวันนี้ก็มาแล้วให้จุนฮเวคุยเลยแล้วกัน


     


    “พูดมาดิ” พัคบอมเงยหน้าขึ้นมาตอบแล้วก้มลงไปกินต่อ


     


    “รู้หรือเปล่าว่ากินข้าวโพดเยอะๆแล้วจะเป็นไง”ฮันบินถามขึ้น


     


    “ก็อร่อยไง”


     


    “นอกจากอร่อยล่ะ”


     


    “ก็รู้นะว่าอยากให้ลด แต่ข้าวโพดมันเป็นผักนี่มันมีประโยชน์มันจะมีโทษอะไร”


     


    “โอเคฟังนะครับคุณพัคบอม ข้าวโพดหลังต้มน่ะเสียวิตามินซีไปแต่ว่าสารที่เป็นตัวล้างพิษยังคงอยู่” จุนฮเวเริ่มพูดถึงโทษของข้าวโพด


     


    “ตัวล้างพิษก็ดีน่ะสิ กินเยอะๆไม่ดีเหรอ”


     


    “แต่สารตัวนี้มันจะไปทำลายเซลล์ในร่างกายนะครับแล้วยังเป็นต้นเหตุของโรคชราอีกด้วย อยากเป็นมั๊ยล่ะ”


     


    “หืม” พัคบอมเริ่มสนใจสิ่งที่จุนฮเวพูดมากขึ้นแต่ก็ยังคงกินอาหารต่อไป


     


    “แล้วเวลากินข้าวโพดน่ะบางร้านใช้หม้อลูมีเนียมต้มแล้วก็สารตะกั่วก็ออกมาบางที่เวลาต้มก็ต้มทั้งเปลือกแล้วเปบือกก็มียาฆ่าแมลงร็ใช่มั๊ยว่าจะเกิดอะไรขึ้น”ทันทีที่จุนฮเวพูดจบพัคบอมก็วางช้อนลงกับโต๊ะ


     


    “นี่เรื่องจริงเหรอ” หน้าตาพัคบอมดูอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน


     


    “จริงสิ ตอนคุณอยู่บ้านก็กินข้าวโพดมาเยอะแต่ไม่เป็นไรเพราะนั่นแม่คุณเป็นคนทำไง มันย่อมดีอยู่แล้วแต่พอคุณมาอยู่ข้างนอกมันไม่ได้สะอาดเหมือนที่แม่ทำนะ”


     


    “ฉันควรเลิกกินน่ะเหรอมันยากนะ” พัคบอมยังคงตัดใจจากข้าวโพดไม่ได้


     


    “ไม่ใช่ว่าเลิกกินหรอกนะแต่แค่ลงให้มันน้อยลงแค่นั้นเอง” จุนฮเวพูดออกไป คราวนี้เขาจะรักษาคนไข้สำเร็จหรือเปล่า


     


    “ก็ได้ ฉันจะกินให้น้อยลง”


     


    “ดีมากครับ เพื่อสุขภาพของคุณเองนะคุณพัคบม พวกผมขอตัวนะครับ” ทั้งสองคนโค้งให้คนไข้เบาๆแล้วหันหลังจะเตรียมออกไป


     


    “ฉันมีข้อแม้นะ” เสียงของพัคบอมเรียกให้ทั้งคู่หันมาอีกครั้ง


     


     


     


     


     


    “พวกนายต้องมาดุการ์ตูนกับฉันวันละเรื่อง” 


     


    จุนฮเวจะเป็นลมมมมมม



    #มฮจุนบิน

    ฮันบินหนูควรอยู่เฉยๆนะลูก5555555555555555555555555

    จุนฮเวใจสั่นบ่อยนะเป็นโรคอะไรอ๊ะเป่า

    การ์ตูนในเรื่องมันมีจริงๆนะไปหาดูกันได้555555555555555555555555

    ไม่ได้หายไปไหนเราแค่เพิ่งกลับจากทำโปรเจค แฮร่

    รักทุกคนน้าา

    ด้วยรักจากแฟนจุนฮเว



    。SYDNEY♔
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×