ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {FIC iKON} MAD HOUSE (미쳤어).junbin

    ลำดับตอนที่ #4 : MAD HOUSE | 。วอร์ดที่สอง : คนไข้ยองเบ

    • อัปเดตล่าสุด 28 เม.ย. 58


    วอร์ดที่สอง

    คนไข้ยองเบ

     

     

              “เฮ้ย!” ทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาในห้องน้ำเขาก็แทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง ภาพที่เขาเห็นคือผู้ชายคนนึงกำลังก้มหน้าหัวคาอยู่ที่อ่างล้างหน้า

     

              “เชี่ ย ตายยังวะ” เขาอุทานขึ้นมาเบาๆก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้ๆชายคนนั้น ยิ่งปวดฉี่อยู่ด้วยเจออย่างนี้เข้าไปฉี่แทบเล็ด

             

    “คุณ” จุนฮเวส่งเสียงเรียกเบาๆแล้วเดินไปเขย่าตัวอีกคน

               

    คนที่ถูกเขย่าตัวหันมามองแวบหนึ่งแล้วก็ก้มลงไปที่อ่างล้างหน้าเหมือนเดิมเห็นอย่างนั้นจุนฮเวเลยรีบเข้าไปดึงตัวเขาออกมาจากอ่างล้างหน้า เขาคิดว่าคนคนนี้น่าจะเป็นหนึ่งในคนไข้ของโรงพยาบาลนี้เพราะคนสติดีๆเขาคงไม่มาทำอย่างนี้แน่นอน

             

    “คุณทำอย่างนั้นมันทำให้ถึงตายได้เลยนะ” จุนฮเวก้มลงดุคนไข้เบาๆแล้วพยายามจะฉุดกระชากลากดึงคนไข้ออกจากบริเวณห้องน้ำแต่เนื่องจากว่าดูจากหุ่นคนไข้ซึ่งน่าจะมีแรงมากกว่าเขาทำให้เขายื้อคนไข้ได้ไม่นานนักสุดท้ายคนไข้ก็กลับไปอยู่ที่อ่างล้างหน้าเหมือนเดิม

             

    “โธ่เอ้ย นายจะฆ่าตัวตายหรือไง” จุนฮเวดึงเสื้อคนไข้ไว้แล้วรีบกดโทรศัพท์เรียกฮันบินให้มาช่วย

               

    “มึงมันกากอ่ะฮเวคนไข้คนเดียวเองนะ” ไม่นานฮันบินก็เดินเข้ามาในห้องน้ำแล้วตรงไปที่คนไข้ก่อนจะพยายามดึงคนไข้ออกมาแต่สุดท้ายก็โดนคนไข้สะบัดตัวออกมา

             

    “เห้ยไอ้บิน” จุนฮเวรีบพุ่งเข้าไปหาฮันบินที่โดนคนไข้สะบัดออกมาจนลงไปกองอยู่ที่พื้น คนไข้อะไรไม่สนมันละ

             

    “กูไม่เป็นไร มึงไปดูคนไข้ไอ้สัด เดี๋ยวขาดอากาศหายใจ” ได้ยินดังนั้นจุนฮเวเลยกลับไปดึงคนไข้ให้ออกมาจากอ่างล้างหน้า ส่วนฮันบินก็โทรเรียกให้บุรุษพยาบาลตามมาช่วย

             

    ไม่กี่นาทีต่อมาบุรุษพยาบาลสองสามคนก็มาถึง บุรุษพยาบาลเข้ามาล็อกตัวคนไข้ไว้คนละข้างก่อนจะพาคนไข้กลับไปที่ห้องตรวจกลาง

             

    “มึงไม่เป็นไรนะฮเว” ฮันบินเดินมาหาเพื่อนสนิททำหน้าตาโมโหๆแล้วลูบที่ไหล่เบาๆ นั่นทำให้จุนฮเวอารมณ์เย็นลง

               

    “กูไม่เป็นหรอกมึงอ่ะเป็นหรือเปล่า ทำเป็นเก่งนะมึงอ่ะสะบัดโคตรแรงเจ็บมั๊ยวะมึง55555555555555555555555555555555555555” จุนฮเวขำกับเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปคนที่ด่าว่าเขากากโดนสะบัดออกมาซะยิ่งกว่าเขาอีก

             

    “หยุดขำเลยมึง ละมึงเจอคนไข้ตั้งแต่เมื่อไหร่”

             

    “เจอตอนกูเดินเข้าห้องน้ำเนี่ยแหละ กูเจอเขาเอาหัวจุ่มลงไปในอ่างล้างหน้าแต่ไม่รู้ว่าทำอย่างนี้นานแค่ไหนแล้ว กูถามก็ไม่คุยกับกูสักคำ ”

             

    “มึงนี่ก็พยายามจะถามคำถามกับคนบ้าจังนะต่อให้เขาตอบมึงจะเชื่อว่ามันเป็นความจริงเหรอวะ ถ้าเขาตอบมึงตามความจริงเขาก็ไม่ใช่คนบ้าละมึง” ฮันบินบอกจุนฮเวไปก่อนจะเดินตามพวกบุรุษพยาบาลออกไป

     

             

     

     

    “ขอบคุณทั้งสองคนมากนะคะ พวกเราตามหาเขามาสักพักแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณจริงๆค่ะ” พยาบาลประจำของคนไข้โค้งขอบคุณเขาหลังจากที่เขาพาคนไข้มาส่งที่เตียงหลังจากที่ตรวจร่างกายแล้ว

             

    “ครับไม่เป็นไรครับ ว่าแต่คนไข้ชื่ออะไรหรอครับ” จุนฮเวถามออกไป

             

    “คนไข้ชื่อทง ยองเบค่ะ”

             

    “ขอบคุณครับ คุณกลับไปดูแลคนไข้ได้แล้วครับ แล้วทีหลังก็จับตามองเขาไว้ตลอดนะครับ”

               

    “ค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ” พยาบาลสาวโค้งขอบคุณจุนฮเวกับฮันบินก่อนจะกลับไปดูแลคนไข้ที่เตียงเหมือนอย่างเดิม

             

    “มึงไม่ดูแลคนไข้คนนี้อ่อวะไอ้บิน” จุนฮเวถามเมื่อเห็นว่าฮันบินยังคงนั่งนิ่ง ปกติแล้วถ้าฮันบินต้องตามไปดูคนไข้ที่เตียงสิถึงจะเป็นฮันบิน

               

    “ดูแลดิมึงแต่วันนี้งานเยอะ ไว้พรุ่งนี้ค่อยมาดูอีกทีละกัน” ฮันบินตอบมาแล้วลุกขึ้นเดินไปที่วอร์ดอื่นๆ นึกไปนึกมาก็จริงอย่างที่ฮันบินว่าวันนี้งานพวกเขาเยอะจริงๆลำพังงานที่พวกเขามีก็ไม่เยอะเท่าไหร่หรอกนะแต่พอรวมกับงานที่ถูกพวกหมอรุ่นพี่ฝากให้ทำรวมถึงการที่พวกเขาต้องลงไปซื้อกาแฟมาให้หมอรุ่นพี่มันก็กลายเป็นว่าวันนี้พวกเขาแทบจะไม่มีเวลาว่างเลย ไหนจะจุนฮเวที่วันนี้ต้องขึ้นเวรบ่ายเท่ากับว่าวันนี้เขาไม่มีเวลาเหลือเลย

             

    ทั้งสองคนเดินตรวจไปรอบๆโรงพยาบาลรวมทั้งทำงานทั้งหมดที่ถูกมอบหมายมาเผลอแปบเดียวเวลาล่วงเลยมาจนถึงเย็นๆแล้ว ตอนนี้จุนฮเวเข้าเวรอยู่ที่วอร์ดส่วนฮันบินก็กำลังจะเดินกลับไปพักที่ห้อง

             

    ทันทีที่กลับเข้าไปในห้องฮันบินตรงเข้าไปชำระร่างกายในห้องน้ำแต่สิ่งที่ทำหลังจากนั้นไม่ใช่การนอนพัก โน๊ตบุ๊คตัวเก่งถูกยกออกมาจากกระเป๋า หน้าเว็บฐานข้อมูลของโรงพยาบาลถูกเปิดขึ้นเขาค้นหาชื่อคนไข้ทง ยองเบ เมื่อเจอแล้วก็คลิกที่ชื่อนั้น

     

    ชื่อ : ทงยองเบ

    อาการ : ไม่ยอมให้ผมด้านหน้าแห้ง

    ประวัติการรักษา : -

    วิธีการรักษา : -

     

    หน้าเว็บไซต์ค้นหายอดนิยมอย่างกูเกิ้ลถูกเปิดขึ้นหลังจากที่เห็นว่าในฐานข้อมูลของโรงพยาบาลไม่ได้ช่วยอะไร คิมฮันบินจะจรดนิ้วลงบนคีย์บอร์ด

               

    โรคไม่ชอบให้ผมแห้ง

               

    ฮันบินพยายามหาวิธีที่จะรักษาอาการของคนไข้ยองเบ ตั้งแต่เขาเกิดมาจนเรียนหมอมาถึงปีสี่ยังไม่เคยเจออาการประหลาดๆอย่างนี้มาก่อน

             

    แต่พอผลการค้นหาปรากฏเขาก็เจอแต่รูปนักร้องแทยังอะไรเนี่ยเต็มไปหมดคนไข้ยองเบมีคนนี้เป็นไอดอลหรือไงถึงได้หน้าม้าเปียกกันเหลือเกินรูปนี้ต้งแต่วันที่เท่าไหร่อีกรูปนึงเพิ่งจะเมื่อวานหน้าม้ายังเปียกอยู่เลยที่บ้านไม่มีไดร์เป่าผมหรือไง

             

    เวลาผ่านไปชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่าแต่ฮันบินก็ยังหาวิธีรักษาหรือแม่แต้สาเหตุของอาการนี้ได้เลยและด้วยความเหนื่อยล้าที่สะสมมาตั้งแต่เช้าทำให้ฮันบินเผลอหลับไป

             

     

             

    “เชี่ยบิน หิว” จุนฮเวที่ออกเวรแล้วเดินกลับมาที่ห้องทันทีที่ก้าวเข้าไปปากก็ถามหาของกินอีกตามเคย

             

    “อ้าว แม่ งหลับคาคอมอีก” จุนฮเวส่ายหน้าให้กับเพื่อนสนิทเบาๆ นอกจากหลับคาโน้ตบุ๊คแล้วฮันบินยังชาร์ตแบตทั้งโน๊ตบุ๊คแลโทรศัพท์คาไว้ไฟก็เปิดและทีวีก็ไม่ปิด นี่กะใช้ไฟโรงพยาบาลให้คุ้มเลยใช่มั๊ย

             

    อยู่ๆจุนฮเวก็คิดอะไรได้บางอย่าง มือหนาล้วงไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาก่อนจะกดเข้าโปรแกรมถ่ายรูปแล้วกดถ่ายคนที่นอนหลับอยู่

             

    “กูจะเก็บไว้แบลคเมล์มึง ต้องเอาหลายๆรูป5555555555555555555” จุนฮเวพูดกับตัวเองก่อนจะก้มลงพยายามจะจัดท่านอนของฮันบินให้ดูตลกกว่าเดิมแต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นรอยช้ำที่ไหล่ข้างซ้ายของฮันบิน

             

    “เชี่ยนี่ไหล่ช้ำแม่ งรู้ตัวบ้างป่ะเนี่ย บินตื่น” จุนฮเวปลุกฮันบินเบาๆ มือหนาเขย่าตัวฮันบินเล็กน้อทำให้ฮันบินลืมตาขึ้นมา

             

    “กูหลับไปตอนไหนวะ” ฮันบินถามเสียงงัวเงียๆ

             

    “กูจะรู้มึงมั๊ยล่ะ แต่มึงรู้ตัวป่ะเนี่ยว่าไหล่ช้ำอ่ะ” จุนฮเวว่าพลางดึงเสื้ออีกคนลงให้เห็นรอยช้ำ

             

    “ตอนไหนวะเนี่ย”ฮันบินมองไหล่ตัวเองงงๆ

             

    “ตอนที่มึงโดนคนไข้สะบัดมั้ง อ่ะมึงทายาไปกูไปอาบน้ำละ” จุนฮเวโยนหลอดยาแก้ฟกช้ำให้ฮันบินส่วนตัวเองก็เดินเข้าห้องน้ำไป

     

     

             

             

    “จุนฮเว” ฮันบินเรียกจุนฮเวทันทีที่ได้ยินเสียงเปิดประตู แต่ทำไมฮันบินถึงเรียกเขาสุภาพผิดปกติ?

             

    “อะไรมึง ผีเขาสิงเหรอทำมาพูดเพราะ” จุนฮเวเดินลงมาทิ้งตัวนั่งลงที่เตียงข้างๆฮันบิน

             

    “เมื่อกี้กูทายา”

             

    “ก็ใช่ไงมึงทายา”

             

    “แล้วกูทาไม่ถึง”

               

    “แล้ว?”

             

    “มึงทาให้กูหน่อยดิ” ยังไม่ทันที่จุนฮเวจะรับปากยาทาแก้ฟกช้ำก็ถูกโยนมาให้เขา

             

    “ทาไม่ถึงมึงก็ไม่ต้องทาดิ เฮ้ย!” อุทานออกมาหลังจากที่หันไปเจอฮันบินกำลังถอดเสื้อ

             

    “มึงถอดเสื้อทำไมเนี่ยเชี่ยบิน”

             

    “ก็ให้มึงทายาให้ไง” จุนฮเวส่ายหน้าเบาๆกับฮันบินแต่สุดท้ายก็ตัดสินใจบีบยาลงบนผ่ามือก่อนที่จะค่อยๆละเลงยาลงบนหลังเพื่อนสนิท

             

    แต่ทำไมมือมันสั่นวะ!

             

    “มือนิ่งๆดิฮเว กูจั๊กจี้”

             

    “เออๆ” ตอบไปทั้งๆที่มือยังไม่หายสั่น ตอนนี้นอกจากมือสั่นแล้วใจก็เริ่มจะสั่นขึ้นมาบ้างแล้ว เกิดมาไม่เคยทายาหรือทาครีมให้ผู้ชายนี่

             

    “กูบอกว่าอย่ามือสั่นไง เพื่อนกันมึงเขินเหี้ยไร” จุนฮเวโดนตบหัวอีกครั้ง ถือเป็นการเรียกสติละกันว่านี่เพื่อนเขาไม่ควรจะรู้สึกอะไรอย่างนั้น

             

    “กูไม่ได้เขินสัด กูสยิว อิห่า ฟีลแบบจันเอาน้ำแข็งมาถูหลังฉันที” พูดพลางทำหน้าขยะขแยง

             

    “น้ำแข็งพ่องนี่มันยาแก้ฟกช้ำ ไอ้นี่นึกถึงแต่หนังเรทอาร์” พูดไปพูดมามือก็เริ่มหายสั่นเปลี่ยนเป็นกระตุกๆอยากจะตบหัวคนที่อยู่ด้านหน้าแทน

             

    “พูดถึงหนังเรทอาร์ กูไม่ได้ดูนานละมึง อยากดูว่ะ”

             

    “ดูพ่อง ทายาไปมึงอ่ะ” คุยไปคุยมาจุนฮเวก็ทายาให้ฮันบินเสร็จแล้ว

             

    ฮันบินใส่เสื้อกลับเหมือนเดิมก่อนจะหยิบโน้ตบุ๊คขึ้นมาวางบนตักก่อนจะเริ่มค้นหาอาการต่ออีกครั้ง

             

    “เห้ยมึงไม่ต้องหา นอนได้แล้ว” จุนฮเวเห็นอย่างนั้นก็เอื้อมมือไปพับหน้าจอโน้ตบุ๊คของฮันบินลง

             

    “ไม่หาได้ไงมึง กูยังหาไม่เจอเลยนะ”

             

    “มึงไวหาพรุ่งนี้ ดึกแล้ว วันนี้มึงเหนื่อยด้วยนอนๆๆ”  ว่าแล้วก็แย่งโน้ตบุ๊คมาไว้กับตัวเองก่อนจะจัดการปิดเครื่องเก็บใส่กระเป๋าเรียบร้อย

             

    “มึงมาปิดโน้ตบุ๊คกูทำไมเนี่ย มึงง่วงมึงก็นอนกูนอนไปแล้วกูหายเหนื่อยแล้ว” ฮันบินหันไปด่าจุนฮเวอีกครั้ง

             

    “ก็เวลามึงใช้โน๊ตบุ๊คมันมีแสงไง มันแยงตากู กูนอนไม่ได้”

             

    “ถุ้ย กูก็นึกว่าเป็นห่วงกู”

             

    “ก็ห่วงแหละ มึงนอนได้แล้วไปมึง กูง่วง” พูดจบก็ทิ้งตัวลงนอนแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมจนถึงหน้า ส่วนฮันบินยังนั่งอึนๆอยู่ เขาได้ยินว่าจุนฮเวพูดว่าห่วงเขาแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพื่อนกันห่วงกันก็ธรรมดา คิดได้ดังนั้นเขาก็ทิ้งตัวลงนอน

     

     

     

     

               

    “เดี๋ยวมึงไปถามรายละเอียดคนไข้กับพยาบาลก่อนนะเดี๋ยวกูไปดูคนไข้” ฮันบินบอกจุนฮเวแล้วเดินเข้าไปในวอร์ดก่อน จุนฮเวเองก็เดินมาที่เคาต์เตอร์พยาบาล

              “ขอโทษนะครับ ผมขอทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคนไข้ที่ชื่อทงยองเบหน่อยได้มั๊ยครับ”

             

    “ได้ค่ะ” พยาบาลยิ้มให้จุนฮเวก่อนจะหันหลังไปค้นแฟ้มคนไข้ของทงยองเบแล้วส่งให้จุนฮเวก่อนจะเล่ารายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ไม่ได้อยู่ในแฟ้มคนไข้

             

    “คนไข้ทง ยองเบอยู่โรงพยาบาลมานานแล้วค่ะแต่เราไม่เรียกเขาว่ายองเบหรอกนะคะส่วนใหญ่จะเรียกว่าแทยังกัน อาการของเขาก็อย่างที่ปรากฏในแฟ้มค่ะค่อนข้างแปลก ยังไม่มีใครมารักษาอย่างจริงจังเลยค่ะ”

             

    “แล้วเรื่องที่เขาวิ่งออกไปเมื่อวานล่ะครับ”

             

    “อ่อ คือว่าปกติแล้วข้างๆเตียงของเขาจะมีอ่างน้ำอยู่ข้างๆแล้วเขาจะวักน้ำมาลูบที่ผมหน้าม้าของตัวเองค่ะ แต่ว่าเมื่อวานมีคนยกอ่างไปเก็บเขากลัวหน้าม้าแห้งเลยวิ่งออกไปค่ะ”

             

    “อ่อ ขอบคุณครับ” จุนฮเวโค้งให้พยาบาลแล้วเดินไปด้านในวอร์ด

             

    “เฮ้ย” ยังไม่ทันที่เข้าจะเข้าไปถึงเตียงคนไข้ยองเบร่างของฮันบินก็ถูกเหวี่ยงมาทางเขา แขนยาวยื่นออกไปข้างหน้าโดยอัตโนมัติเพื่อที่จะคอยรับร่างของฮันบินที่ถูกเหวี่ยงออกมา

             

    “เชี่ยเอ้ย” ฮันบินสบถออกมาหลังจากที่ค่อยๆพยุงตัวเองให้ยืนขึ้นได้

             

    จุนฮเวมองไปที่เตียงคนไข้เพื่อหาสาเหตุที่เขาเหวี่ยงฮันบินออกมาแล้วก็ไปสะดุดที่ไดร์เป่าผมที่หล่นอยู่ข้างเตียง นี่ฮันบินเป่าผมให้คนไข้หรอ?

             

    “บิน มึงเป่าผมให้คนไข้หรอวะ” จุนฮเวหันไปถามเพื่อนสนิทตัวเองที่ยังคงสบถออกมาเรื่อยๆ

             

    “ก็เออดิ กูกลัวเขาไม่สบายอ่ะมึงเลยจะเป่าผมให้”

             

    “หวังดีชิบหายนะมึงอ่ะ คนไข้ไม่ชอบให้หน้าม้าแห้งก็รู้อยู่” มือหนาผลักที่หัวอีกคนเบาๆแล้วลากฮันบินให้เดินกลับไปที่เตียงคนไข้เหมือนเดิม

             

    “ออกไป อย่าเข้ามา” ยองเบพูดออกมาทันทีที่เห็นทั้งคู่กำลังก้าวเข้าหาเขา

             

    “ใจเย็นๆนะครับ ผมเอาไดร์เป่าผมไปทิ้งแล้ว ไม่เป่าหน้าม้าคุณหรอกน่า” ฮันบินพูดแล้วยกมือทั้งสองข้างออกมาเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้หยิบไดร์เป่าผมมาเหมือนตอนแรก เมื่อยองเบเห็นก็รีบวักน้ำมาลูบๆที่หน้าม้าตัวเองอีกครั้ง

             

    “เดี๋ยวผมขอถามอะไรหน่อยนะ” ฮันบินนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆเตียงส่วนจุนฮเวก็ยืนอีกฝั่งหนึ่งของเตียง

             

    “เป็นหมอหรอทำไมผมไม่เคยเห็นหน้า” คนไข้ยองเบพูดขึ้นมา

             

    “พวกผมเป็นหมอฝึกหัดครับเพิ่งจะมาอยู่ได้แค่อาทิตย์กว่าๆ” ฮันบินตอบไปยิ้มๆ

             

    “หมอฝึกหัดอยู่โรงพยาบาลทีหลังผมอีก เพิ่งมาอยู่ไม่นานด้วยให้ผมพาทัวร์รอบโรงพยาบาลมั๊ยครับ” เขาพูดแล้วชี้มือไปรอบทิศทาง

             

    “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพวกผมดูเองก็ได้คุณยองเบนอนพักจะดีกว่านะครับ”

             

    “งั้นหรอ แต่ถ้าไปด้วยกันผมจะพาไปดูสวนลับของผมด้วยนะ ไม่อยากไปหรอ” ยองเบทำหน้าตาตัดพ้อ พวกเขาสอคนก็เห็นใจอยู่หรอกนะแต่การจะให้คนไข้ออกนอกวอร์ดนี่ก็ไม่ใช่เรื่องนี่นา

             

    “ถ้าออกไปข้างนอกหน้าม้าคุณยองเบจะแห้งนะครับ ยอมได้หรอครับ” ฮันบินพูดพร้อมกับขำนิดๆ

             

    “ห้ะ หน้าม้าแห้ง ไม่ไปแล้วๆๆๆๆๆๆ พวกคุณไปเองนะ” คนไข้ยองเบกระวนกระวายแล้วรีบหันไปวักน้ำมาลูบๆที่ผมหน้าม้าตัวเองอีกครั้ง

             

    “ฮะฮะ โอเคครับ งั้นผมขอถามอะไรหน่อยนะครับ”

             

    “ครับ ถามเลยเดี๋ยวแทยังจะตอบเอง”

             

    “หืม? แทยังเหรอครับ?” ฮันบินงงๆกับคำแทนตัวเองที่อีกฝ่ายใช้

             

    “ใช่แล้ววว นี่แทยังเอง”

             

    “หมายถึงแทยังวงบิ๊กแบงน่ะหรอครับ” พูดไปเล่นๆหลังจากที่เมื่อวานค้นคำว่าหน้าม้าเปียกแล้วเจอแต่ชื่อของคนๆนี้

             

    “ใช่แล้ววว คุณแทยังน่ะเท่สุดไปเลย ไอดอลผมเลย” ยองเบพูดแล้วทำหน้าปลื้มปริ่ม

             

    “คุณเลยอยากหน้าม้าเปียกเหมือนคุณแทยังหรือเปล่า?”

             

    “โหคุณหมอฝึกหัดนี่เก่งสุดๆไปเลย รู้ด้วยอ่ะ หมอคนอื่นยังไม่รู้เลยนะเนี่ย” ยองเบปรบมือให้ฮันบินเบาๆ

             

    “อ่า อย่างนี้นี่เอง แล้วเวลาคุณแทยังเขาไม่ทำทรงผมหน้าม้าเปียกคุณจะเลิกทำทรงหน้าม้าเปียกมั๊ยครับ”

             

    “ไม่เลิกหรอก ผมชอบทรงนี้ของคุณแทยังที่สุดแล้ว ไม่เปลี่ยนใจด้วยยย” พูดพลางลากเสียงยาว เชื่อแล้วว่าชอบจริงๆ==

               

     “แต่ถ้าเกิดว่าคุณปล่อยหน้าม้าไว้อย่างนั้นจะทำให้เป็นเชื้อรานะครับ”

             

    “หมออย่ามามั่วนะ คุณแทยังก็ทำทรงนี้มาตั้งนานยังไม่เห็นเป็นอะไรเลย”

             

    “แต่คุณแทยังไม่ได้ทำตลอดเวลาแบบคุณยองเบนะครับ”

             

    “ตลอดเวลาสิ คุณหมออย่ามั่ว คุณหมอไปเลยนะ ผมจะนอนแล้ว” ยองเบทำหน้าบูดบึ้งก่อนจะพลิกตัวไปอีกฝั่ง แต่หันไปก็เจอจุนฮเวเขาเลยตัดสินใจนอนคว่ำหน้าลงกับเตียง ฮันบินเครียดกับคนไข้จริงๆเลย

             

    “งั้นพวกผมไปแล้วนะครับ”ฮันบินลุกขึ้นพูดกับคนไข้ที่ตอนนี้นอนคว่ำไปแล้ว ก่อนจะเดินออกไปช้าๆ

     

     

     

     

              “มันมีวิธีรักษาโรคนี้ด้วยหรอวะไอ้บิน” จุนฮเวถามฮันบินที่ตอนนี้นั่งเหม่อๆอยู่ข้างๆเขา

             

    “มันก็ไม่มีหรอกว่ะ ก็คงต้องค่อยๆพูดตามหลักจิตวิทยาทั่วไป” ฮันบินตอบก่อนที่จะหันไปสนใจหน้าจอโน้ตบุ๊คอีกครั้ง

             

    “อ่า... ละนี่มึงทำไร” จุนฮเวย้ายตัวเองมานั่งบนเตียงเดียวกับฮันบินแล้วชะโงกหน้าไปมองว่าฮันบินกำลังทำอะไรอยู่

             

    ฮันบินไม่ได้ตอบแค่หมุนหน้าจอไปให้จุนฮเวดู

             

    “เฮ้ย มึงนี่แม่ง” จุนฮเวอุทานออกมาเมื่อเห็นว่าหน้าจอปรากฏภาพนักร้องชื่อดังอย่างแทยังวงบิ๊กแบง

             

    “กูก็หาไปเรื่อยๆอ่ะ เผื่อจะเจอผมทรงอื่นที่คุณยองเบเขาจะชอบบ้างอ่ะมึง ถ้ายังหน้าม้าเปียกอย่างนี้ไปเรื่อยๆกูว่าได้โกนหัวทอ้งหรือไม่ก็ต้องตัดหัวทิ้งอ่ะมึง”

             

    “ไร้สาระอ่ะมึง คนไข้ยองเบเขาเป็นแฟนคลับแทยังนะมึงเขารู้ทุกทรงอ่ะ ติ่งอ่ะมึงรู้จักมั๊ยติ่งอ่ะ” พูดย้ำๆอยู่คำเดียวแล้วผลักไหล่ฮันบินเบาๆ

             

    “เชี่ย กูเจ็บ” ฮันบินหันมาด่าจุนฮเวที่นั่งอยู่ข้างๆ รู้ว่าคนเจ็บไหล่ยังจะมาผลักอีกไอ้เพื่อนเวรนี่

             

    “เชี่ย กูลืมๆ”

             

    “จำได้ละก็มาทายาให้กูซะ” ฮันบินพูดแล้วทำท่าจะถอดเสื้อยืดของตัวเองออกมาแต่ก็ถูกจุนฮเวดึงเสื้อไว้

             

    “ไม่ต้องถอดเลยมึง มึงช้ำที่ไหล่จะถอดเสื้อหา มึงอ่อยกูหรือไง”

             

    “อ่อยก็เหี้ยละ เออๆกูไม่ถอดก็ได้” ฮันบินวาพร้อมเลื่อนมือลงมาเปิดเสื้อตรงไหล่ออกแลัวส่งยาให้จุนฮเว

               

    จุนฮเวละเลงยาลงบนไหล่ฮันบินแล้วตามด้วยการนวดเบาๆ อิบินมันเป็นคนกากโดนผลักแค่นี้ก็ช้ำแล้ว มันเป็นผู้ชายกระแต

             

    “เสร็จละมึง” จุนฮเวจัดเสื้อฮันบินให้เป็นเหมือนเดิมแล้วกลับไปนั่งบนเตียงตัวเอง

             

    “ดีๆ กูเหนื่อยละกูจะนอน มึงหาวิธีรักษาแทนกูด้วยนะเพื่อน” ฮันบินว่าแล้วพับจอโน้ตบุ๊คลงแล้วล้มตัวลงนอน ทิ้งให้จุนฮเวนั่งหน้างงอยู่บนเตียงตัวเอง

             

    ร่างสูงสะบัดหัวเรียกสตินิดๆก่อนจะหยิบโน้ตบุ๊คออกมาบ้าง

     

              ไม่ได้จะหาวิธีรักษานะ จะดูหนังเรทอาร์

     

     

     

     

     

     

              “คุณยองเบครับ เห็นทรงผมใหม่ของคุณแทยังหรือยังครับ” ฮันบินเดินเข้ามาพร้อมกับชูหน้าจอโทรศัพท์ที่โชว์รูปของแทยังเมื่อคอนเสิร์ตในสองสามวันที่ผ่านมา

             

    “เห็นแล้วแหละครับ หล่อเชียวแหละ” ยองเบลุกขึ้นมาแทบจะทันทีเมื่อเห็นว่าคุณหมอที่มารักษาเขาคนใหม่ก็รู้จักแทยังด้วย

             

    “ทรงผมก็เท่เชียวแหละครับ” ฮันบินพูดยิ้มๆ

             

    “ก็เท่ดีนะครับแต่ยังไงก็สู้หน้าม้าเปียกไม่ได้หรอกครับ นั่นน่ะเทีที่สุดแล้ว” ยองเบยังคงยืนยันในทรงผมทรงเดิมอยู่เสมอ

             

    “ทำนานๆเชื้อราจะขึ้นหัวนะครับ” ฮันบินยังคงพยายามจะโน้มน้าวให้ยองเบยอมที่จะเลิกทำทรงผมประหลาดๆนี่สักที

             

    “ไม่เป็นหรอกน่า คุณแทยังก็ทำตั้งนานยังไม่เห็นเป็นเลย” ยองเบตอบกลับมา บทสนทนากลายเป็นบทสนทนาเดียวกันกับเมื่อวานเป๊ะ ฮันบินพยายามที่จะโน้มน้าวเรื่องทรงผมส่วนยองเบก็ยังคงเถียงขาดใจ

             

    “ฮเว กูไปขึ้นเวรละ มึงคุยต่อด้วยนะ” ฮันบินยกแขนขึ้นมาดูนาฬิกาก็เห็นว่าถึงเวลาที่เขาจะต้องไปเข้าเวรแล้เลยฝากคนไข้ยองเบให้จุนฮเวช่วยคุยต่อ หวังว่าจุนฮเวจะไม่คุยอะไรจัญไรๆนะ

     

     

     

     

             

     

              “คุณยองเบ อ้าว เปลี่ยนทรงผมแล้วหรอครับ” เช้าวันต่อมาฮันบินเดินมาตรวจคนไข้ตามปกติเหมือนทุกๆวันแต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่ายองเบเปลี่ยนทรงผมแล้ว

             

    “เปลี่ยนแล้ว ไม่เอาหน้าม้าเปียกแล้ว” ยองเบตอบเสียงสั่นๆสายตามองไปที่จุนฮเวที่เดินตามหลังฮันบินมา

             

    “จุนฮเวมึงทำไรคนไข้” ฮันบินเห็นดังนั้นจึงหันไปถาม

             

     

    ย้อนไปเมื่อวานหลังจากที่ฮันบินไปขึ้นเวร

               

                “พูดกันตรงๆเลยนะคนไข้ยองเบ ทำไมไม่เลิกทำผมทรงนี้สักที” จุนฮเวนั่งลงบนเก้าอี้ที่ฮันบินเพิ่งจะลุกออกไป

           

    “ก็มันเท่ไง คุณแทยังทำแล้วเท่มากๆเลย” ยองเบตอบแล้วทำหน้าปลื้มปริ่มในไอดอลตัวเองอีกครั้ง

           

    “แล้วไม่รู้เหรอว่าถ้าหน้าม้ามันเปียกนานๆไม่สิไม่ใช่แค่หน้าม้าถ้าผมมันเปียกนานๆมันจะเป็นเชื้อราน่ะ”

           

    “มันจะเป็นได้ยังไงคุณแทยังก็ทำทรงนี้นะ”

           

    “ก็แทยังไม่ได้ทำตลอดเวลาเหมือนคุณนี่เวลาลงจากเวทีเขาก็ไม่ทำแล้ว นี่เป็นติ่งคุณแทยังจริงป่ะเนี่ย” จุนฮเวทำหน้าเบื่อๆใส่ยองเบที่ยังคงเถียงไม่หยุด

           

    “เป็นสิ แต่ยังไงมันก็ไม่เป็นเชื้อราหรอก”

           

    “นี่เถียงคนเรียนหมอมาเหรอคุณยองเบ”

           

    “คุณเรียนสาขาจิตวิทยามาไม่ใช่หรือไงเล่า เกี่ยวไรกับเชื้อราล่ะ”

           

    “ฟังนะคุณยองเบ เรียนหมอมันก้ต้องเรียนพื้นฐานมาก่อนแล้วค่อยมาเลือกสาขาวิชาเฉพาะ อีกอย่างไอ้เรื่องเชื้อรานี่เด็กป.สองยังรู้เลยมั้ง” จุนฮเวเริ่มรำคาญกับการเถียงของยองเบแต่ก็ต้องข่มใจไม่ให้ตวาดออกไป

           

    “แต่ผมไม่เป็นไง” ยองเบพูดมาสั้นๆแล้วพลิกตัวหันไปอีกฝั่ง

           

    “โอเคคุณบองเบผมจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายนะถ้าคุณยังปล่อยให้ผมหน้าม้าคุณเปียกอยู่อย่างนี้นะเชื้อรามันจะขึ้นหัวคุณ”

           

    “ไม่ขึ้นหรอกน่า”

           

    “อย่าเพิ่งขัดสิ ต่อนะ ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้นะเชื้อรามันจะขึ้นหัวแล้วพอเชื้อราเริ่มขึ้นที่หน้าม้าแล้วมันก็จะลามไปทั่วหัวแล้วคุณก็จะต้องโกนหัวออกแล้วก็จะไม่มีผมหน้าม้าอีกต่อไปไม่มีผมทั้งหัวเลยด้วย” ยองเบทำหน้าตาตื่นกลัวกับคำพูดของจุนฮเว

           

    “ทั้งหัวเลยหรอ”

           

    “ใช่ทั้งหัวเลย แต่ถ้าคุณไม่ทำทรงหน้าม้าเปียกคุณก็จะยังเหลือหน้าม้าไว้ให้เปียกตอนสระผมแต่ถ้าคุณปล่อยให้เปียกเชื้อราขึ้นแล้วก็ต้องโกนผมแล้วก็จะไม่เหลือหน้าม้าให้เปียกแม้แต่ตอนสระผมเลยนะ” จุนฮเวรัวออกมาราวกับว่าเขาเป็นแรปเปอร์วงไอค่อน

           

    “โอเคๆ ผมยอมแล้ว” ยองเบลุกขึ้นทันทีหลังจากนั้นก็เดินไปหาพัดลมที่ตั้งอยู่ที่มุมห้องก่อนจะจ่อหัวเข้าที่พัดลมเพื่อให้ผมแห้ง

     

     

    บอกแล้วว่าจุนฮเวเป็นคนมีความสามารถJ

           

     

              #มฮจุนบิน
     



     

    นี่รูปประกอบตอนจุนฮเวอยากรู้ว่าบินทำไรอยู่5555555555555555555555555555555555555555555555555

    คือเราแต่งเพราะเรารักแทยังจริงๆนะ55555555555555555555555555555555

    จุนฮเวเป็นแรปเปอร์คนใหม่ของไอค่อนนะรู้ยัง

    รักทุกคนนะจุ้บบ

    ด้วยรักจากแฟนจุนฮเว

     

             

    。SYDNEY♔
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×