คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : MAD HOUSE | วอร์ดที่สาม : คนไข้พัคบอม
วอร์ดที่สาม
คนไข้พัคบอม
วันนี้ฮันบินเข้าเวรดึก จุนฮเวนอนอยู่ในห้องคนเดียวสมองคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยสายตามองกวาดไปทั่วห้องแล้วไปหยุดที่เตียงข้างๆ สมองนึกย้อนกลับไปถึงวันที่เขาทายาให้ฮันบินเขาจำได้ขึ้นใจว่ามือสั่นใจเขาเองก็สั่น ตอนนี้แค่นึกถึงเรื่องวันนั้นใจเขายังสั่น พยายามนึกหาเหตุผลร้อยพันมาหาคำตอบว่าทำไมเขาต้องใจสั่นด้วยแต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก
จุนฮเวสะบัดหัวไล่ความคิดที่บอกว่าเขากำลังหวั่นไหวออกไปแล้วตัดสินอาการมือสั่นใจสั่นของตัวเองไปว่าเป็นเพราะช่วงนี้พวกเขาไม่มีเคสสำคัญอะไรเลยทำให้สมองมันฟุ้งซ่านแถมการมาอยู่ที่นี่ยังทำให้เขาได้เจอผู้หญิงสวยๆเหมือนอย่างเคย เป็นไปได้ว่าในโรงพยาบาลนี้ฮันบินอาจจะสวยที่สุดเขาเลยคิดมากไปจนใจสั่น
คิดได้ดังนั้นก็หลับตาลงแล้วจมเข้าสู่ห้วงนิทรา
“เสร็จสักทีอาบน้ำนานชิบ”
“เฮ้ย” จุนฮเวที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพผ้าเช็ดตัวผืนเดียวตกใจจนรีบยกมือขึ้นมาปิด
“ทำเป็นปิดซิกแพกก็ไม่มี” ฮันบินพูดก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ
จุนฮเวยังคงตกใจไม่หายที่อยู่ๆเปิดประตูออกมาก็เจอฮันบินยืนอยู่หน้าห้องน้ต่มากกว่าตกใจคือความแค้นใจฮันบินกล้าดียังไงมาว่าเขาไม่มีซิกแพก!
หลังจากที่ทั้งคู่ทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินมาที่วอร์ด23ซึ่งเป็นวอร์ดที่รุ่นพี่ฝากให้พวกเขามาดูแล วอร์ด23เป็นวอร์ดคนไข้ชั่วคราว คนไข้ที่อยู่ในวอร์ดนี้คือคนไข้รายใหม่ที่เพิ่งถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลโดยยังไม่ได้มีการตรวจว่าเป็นโรคอะไร
“คุณฮันบินกับคุณจุนฮเวใช่มั๊ยคะ” พยาบาลสาววัยกลางคนเรียกเขาทันทีที่พวกเขาก้าวเข้ามาในวอร์ด
“ใช่ครับ” ทั้งคู่ตอบก่อนจะโค้งให้เธอเล็กน้อย
“คือว่าคุณหมอซอนอุงฝากพวกคุณมาดูแลวอร์ดนี้ใช่มั๊ยคะ”
“อ่า ใช่ครับ”
“งั้นดิฉันฝากด้วยนะคะพอดีว่าดิฉันมีธุระด่วน ขอโทษจริงๆนะคะ” เธอโค้งให้ทั้งสองคนเล็กน้อยก่อนจะรีบวิ่งออกไป
จุนฮเวกับฮันบินงงกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรพวกเขาเดินเข้าไปในวอร์ดก่อนจะตรวจอะไรไปเรื่อยๆ
“กรี๊ดดดดดดดดด” เสียงกรี๊ดดังมาจากด้านในสุดของวอร์ด23ฮันบินและจุนฮเวรีบวิ่งไปข้างในเพื่อหาต้นเหตุของเสียงเมื่อเข้าไปก็พบกับ...ข้าวโพด
ตุ๊กตาบนเตียงเป็นข้าวโพด ผ้าปูที่นอนก็ลายข้าวโพด นาฬิกาตั้งโต๊ะก็ลายข้าวโพด คนไข้ก็ใส่ชุดนอนลายข้าวโพด ทุกอย่างเป็นข้าวโพดไปหมด
“คนไข้เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ฮันบินถามคนไข้ออกไป ส่วนจุนฮเวที่ยืนอยู่ข้างหลังก็ต้องกลืนน้ำลายลงไปอึกใหญ่ๆ หน้าอกนั่นมัน....
“จะอะไรล่ะ ฉันโดนคนที่บ้านส่งมาที่นี่ยังไงล่ะ” คนไข้คนสวยหัวเสียเล็กๆ ลักษณะท่าทางเธอไม่ได้ดูเหมือนคนไข้ที่เป็นโรคจิต เหมือนว่าจะเป็นเคสคล้ายๆนัมแทฮยอน
“อ่า คุณเป็นอะไรล่ะครับถึงต้องมาที่นี่”
“เป็นอะไรซะที่ไหนล่ะ ก็แค่ชอบข้าวโพดมันผิดตรงไหน แล้วที่กรี๊ดเมื่อกี้เพราะอาหารที่นี่มันไม่มีข้าวโพดไง นมข้าวโพดของฉันอยู่ไหนข้าวโพดอบเนยของฉันล่ะ ข้าวโพดต้มสักฝักก็ไม่มีให้เลยหรือไง” พูดแล้วเธอก็อารมณ์เสียอีกครั้ง
“อ่า กินข้าวโพดไม่ผิดหรอกครับแต่..”
“ใช่มั๊ยกินข้าวโพดเยอะมันผิดตรงไหน ข้าวโพดมันอร่อยจะตายไป”
“ใช่ครับ ข้าวโพดมันอร่อยแต่กินเยอะๆมันก็ไม่ดีนะครับ” ฮันบินพูดออกมา
“ไม่ดีตรงไหนล่ะ ฉันกินมาตั้งแต่เด็กๆแล้วนะ” คนไข้พูดออกมา จุนฮเวมองไปที่คนไข้ก่อนจะคิดในใจว่ากินข้าวโพดเยอะๆมันจะทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้นหรือเปล่า
“อ่า กินมากๆมันไม่ดีหรอกนะครับ”
“จะให้หยุดกินตอนนี้มันไม่ทันแล้วแหละ ไปเอานมข้าวโพดมาให้ฉันสิ” จุนฮเวกับฮันบินพยักหน้าให้คนไข้เล็กน้อยก่อนจะเดินซื้อนมข้าวโพดที่โรงอาหารของโรงพยาบาลมาให้คนไข้
หลังจากที่พยาบาลประจำวอร์ดกลับมาแล้วพวกเขาก็สอบถามเกี่ยวกับคนไข้ที่ชอบกินข้าวโพดก็ได้ความมาว่าคนไข้ชื่อพัคบอมเพิ่งรับเคสเข้ามาเมื่อวาน ญาติคนไข้เขียนว่าเธอกินข้าวโพดเยอะเกินไปทางบ้านเลี้ยงไม่ไหวแล้ว
กลับห้องมานั่งคิดนอนคิดฮันบินก็ตัดสินใจว่าเขาอยากจะรักษาคนไข้คนนี้แต่เรื่องพูดคุยจากประสบการณ์ของคนไข้ยองเบแล้วคงต้องส่งจุนฮเวไปคุยน่าจะได้ผล ส่วนเขาจะลองขอแม่ครัวของโรงพยาบาลให้เขาเป็นคนทำอาหารให้คนไข้พัคบอมเอง
“ฮเว กูเลือกละนะ กูจะรักษาคนไข้พัคบอม” ฮันบินบอกจุนฮเวก่อนจะหันเตียงข้างแต่ก็เจอจุนฮเวกำลังทำอะไรอยู่ใต้ผ้าห่มแต่ที่แน่ๆมันยังไม่หลับ
“ทำไรไอ้ฮเว” ฮันบินดึงผ้าห่มของอีกคนออก จุนฮเวรีบคว่ำโทรศัพท์ลงก่อนจะลุกขึ้นนั่ง
“เล่นโทรศัพท์ไง มึงว่าไรนะเมื่อกี้”
“ไม่ต้องมาเปลี่นเรื่องเลยเล่นโทรศัพท์ละจะใส่หูฟังทำไม” ฮันบินว่าพลางเอื้อมไปถอดหูฟังข้างหนึ่งที่ยังคาอยู่ที่หูของจุนฮเว
“กูฟังเพลงไง มึงมีไรร” จุนฮเวตอบมือที่โทรศัพท์ก็คอยหนีมือของฮันบินที่พยายามจะแย่งโทรศัพท์จากเขา
“เอามานี่ จะหลบกูทำไมล่ะ” ฮันบินยังคงพยายามจะเอื้อมมือไปหยิยโทรศัพท์จากมือจุนฮเว จุนฮเวรีบกดล็อกหน้าจอโทรศัพท์ทันทีที่มือของฮันบินจับโดนเข้าที่มือของเขา สุดท้ายโทรศัพท์ก็ตกไปอยู่ในมือของฮันบิน แต่จุนฮเวล็อกหน้าจอแล้วฮันบินไม่มีทางรู้หรอกว่าเขาทำอะไรอยู่เขามั่นใจ
ฮันบินกดโทรศัพท์แล้วมองอยู่สักพักก่อนที่จะปาโทรศัพท์ลงที่เตียงจุนฮเวส่วนตัวเองก็กลับไปนอนที่เตียงตัวเอง
จุนฮเวยิ้มมุมปากเล็กๆเขารู้ว่าฮันบินคงจะปลดล็อกโทรศัพท์เขาไม่ได้เลยอารมณ์เสียและกลับไปนอน
มือหนาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหน้าจอกลับไม่ได้ถูกล็อกไว้ หน้าเว็ปหนังเรทอาร์ที่เขาเปิดทิ้งไว้จอเด่นหราดีที่ว่าฮันบินยังไม่ได้ดึงสายหูฟังออกไม่งั้นคงจะมีเสียงออกมาด้วย
ฮันบินรู้รหัสโทรศัพท์เขาได้ยังฟ้าคคคคคคคคค
“เดี๋ยวมึงเข้าไปถามประวัติคนไข้นะ กูไปทำธุระแปบเดี๋ยวมา” ฮันบินบอกแล้วเดินกลับไปอีกทาง จุนฮเวยืนงงๆก่อนจะเดินเข้าไปในวอร์ด23 เขาคิดถึงช่วงเวลาว่างๆเหมือนที่ผ่านมาฮันบินไม่น่าไปอยากรักษาคนไข้นี่เลย แต่ลึกๆเขาก็คิดว่าดีเพราะคนไข้คนนี้เป็นผู้หญิงแถมยังหน้าอกใหญ่อีกต่างหาก-.,-
จุนฮเวเดินเข้าไปในห้องที่เต็มไปด้วยข้าวโพดอีกครั้ง ถึงแม้ว่าคนไข้พัคบมจะบอกกับพวกเขาว่าเธอถูกส่งมาที่โรงพยาบาลนี้เพราะว่าเธอกินข้าวโพดเยอะจนเกินไปแต่ในใจจุนฮเวคิดว่าน่าจะประกอบกับอาการแปดมิติของเธอด้วย
“คุณพัคบอมครับ” จุนฮเวส่งเสียงเรียกคนไข้พัคบมที่ตอนนี้กำลังก้มหน้าก้มตาอยู่กับแท็บเล็ตตัวเอง แต่ถึงจะเรียกแล้วคนไข้ก็ยังไม่หันมา
จุนฮเวเดินไปอยู่ตรงหน้าของคนไข้ก่อนจะเอื้อมมือไปปัดปัดๆที่หน้าคนไข้เพื่อเรียกให้คนไข้ละความสนใจจากแท็บเล็ตแล้วมาสนใจเขาแทน
“โอ้ย นาย ฉันตายเลยเห็นมั๊ยเนี่ย” มือเรียววางแท็บเล็ตลงกับเตียงแรงๆก่อนจะหันมาคาดโทษบุคคลที่ทำให้เธอแพ้เกม
“ขอโทษด้วยครับ ว่าแต่คุณกำลังทำอะไรอยู่ล่ะ”
“เล่นเกมทำป๊อปคอร์นน่ะสิ อุตส่าห์จะผ่านด่านนี้อยู่แล้วแต่นายทำเสียเรื่องหมดเลย” พัคบอมหยิบแท็บเล็ตขึ้นมาก่อนจะเปิดหน้าจอเมื่อกี้ขึ้นมาให้เขาดู
“ฮะฮะ ขอโทษด้วยนะ” จุนฮเวนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆเตียง จริงๆเขายังไม่รู้เลยว่าฮันบินให้เขาเข้ามาก่อนทำไม
“ละเข้ามาทำไมเนี่ย” คนไข้หันมาถามเขา ไม่เข้าใจว่าทำไมคนไข้ทุกคนต้องถามกับเขาแบบนี้ เป็นหมอก็ต้องมาดูแลคนไข้ไม่ใช่หรือไง
“ก็ไม่มีอะไร มาดูแลคนไข้ไงหน้าที่หมออ่ะ ฮะฮะ”
“เหรอ งั้นดูนี่ด้วยกันป่ะ” แท็บเล็ตถูกยื่นมาตรงหน้าเขาอีกครั้ง ภาพบนหน้าจอปรากฏเป็นการ์ตูนอะไรสักอย่างที่เขาไม่รู้จัก
“มันคืออะไร ผมไม่ดูการ์ตูนหรอกนะ” ทำหน้าเบื่อๆแล้วดันแท็บเล็ตไปทางตัวพัคบอม
“การ์ตูนไง Disney Tsum Tsum ตอนข้าวโพดคั่วน้ำผึ้ง ดูมะ”
“ก็บอกว่าไม่ดูการ์ตูนไง”
“ไหนบอกเป็นหมอ มาดูแลคนไข้ไง” พัคบอมพูดแล้วตั้งแท็บเล็ตบนโต๊ะ แล้วจัดทิศทางให้หันไปในทางที่ทั้งเธอและจุนฮเวสารถมองเห็นได้ เป็นการบังคับให้จุนฮเวดูเป็นเพื่อนเธอ
หน้าจอปรากฏวิดิโอความยาวสองนาทีเศษๆที่กำลังเริ่มฉาย ตัวการ์ตูนเล็กๆหล่นเข้าไปในเครื่องทำข้าวโพดคั่วก่อนจะติดอยู่ในนั้น ส่วนด้านนอกก็มีตัวการ์ตูนตัวเล็กๆที่ดูอยากรู้อยากเห็นกันเหลือเกิน การ์ตูนตัวอื่นๆพากันตกลงไปในเครื่องทำข้าวโพดคั่วก่อนที่สุดท้ายจะกระเด็นออกมาพร้อมกับข้าวโพดที่อยู่ข้างในและปิดท้ายด้วยผึ้งที่บินมาพร้อมกับกล้งและถ่ายรูปพวกนั้นไว้
จุนฮเวคิดว่านี่มันเป็นการ์ตูนที่ปัญญาอ่อนที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมาเลยก็ว่าได้!!!
“จบละ น่ารักใช่มั๊ยล่ะ ดูเรื่องนี้ๆ” นิ้วเรียวของพัคบอมจรดมือพิมลงบนช่องค้นหา
‘Corn Chip | Donald Duck’
ภาพบนหน้าจอฉายขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ความยาวคลิปเพิ่มมาเป็นเกือบเจ็ดนาที ตัวการ์ตูนเป็ดที่พูดไม่ค่อยจะรู้เรื่องกำลังกวาดหิมะออกจากทางเดินที่บ้านตัวเองละอยู่ดีๆก็เอากระรอกลงมากวาดให้เฉยเลย กระรอกเลยแค้นเข้าไปขโมยป๊อบคอร์นละก็แย่งป๊อปคอร์นไปมาอีก จุนฮเวคิดว่านอกจากการ์ตูนเรื่องนี้จะปัญญาอ่อนแล้วตัวการ์ตูนก็ยังพูดไม่รู้เรื่องอีก อย่าให้รู้นะว่าใครเป็นคนคิด!
พอจบเรื่องที่สองก็ตามมาด้วยเรื่องที่สาม เรื่องที่สี่ เรื่องที่ห้าและก็ยังคงตามมาไม่จบไม่สิ้น จนสุดท้ายจุนฮเวก็นั่งหลับอยู่ที่ข้างเตียงตนไข้
“ฮเว มึงตื่นดิ มาหลับอะไรในเวลางานวะ” จุนฮเวสะดุ้งเมื่อได้รับแรงสะกิดที่หัวไหล่ นี่เขาเผลอหลับไปตอนไหนเนี่ย
เมื่อหันไปมองที่เตียงคนไข้ก็เห็นว่าพัคบอมยังคงดูการ์ตูนเกี่ยวกับข้าวโพดไปไม่จบไม่สิ้น โดยที่ไม่ได้สนใจว่าตอนนี้มีคนอยู่ข้างเตียงถึงสองคน
“วันนี้มึงได้ทำไรบ้างป่ะ” ฮันบินเป็นฝ่ายถามขึ้น
“นี่ไง นั่งดูการ์ตูนข้าวโพดตั้งแต่เข้ามาจนมึงมาปลุกเนี่ยแหละ”
“เอ้า ละมึงไม่คุยหรือบำบัดอะไรเลยหรอวะ” ฮันบินหัวเสียนิดๆกับจุนฮเวแต่ก็ช่วยไม่ได้
“ก็มึงไม่ได้บอกกูอ่ะ แถมคนไข้ก็ดูการ์ตูนอย่างเดียวเลยเนี่ย มึงดูดิ” จุนฮเวเสมองไปยังพัคบอม
“อ่า โอเคๆ” ฮันบินตอบจุนฮเวก่อนจะเดินไปหาคนไข้
“คุณพัคบอมครับ” ฮันบินเรียกคนไข้แต่ก็เป็นเหมือนเดิมพัคบอมยังคงสนใจแค่หน้าจอแท็บเล็ตที่กำลังฉายการ์ตูน
ฮันบินส่งฝ่ามือไปปัดๆด้านหน้าของพัคบอมนิดๆก่อนที่เจ้าตัวจะสะดุ้งตกใจ
“มีอะไรหรือเปล่า จะดูการ์ตูน” พัคบอมตอบไปมึนๆ
“พรุ่งนี้พวกผมจะมาหาอีกทีนะ ดูการ์ตูนไปพรุ่งนี้ห้ามดูแล้วนะครับ” พัคบอมไม่ได้สนใจอะไรนักว่าฮันบินสั่งอะไร เพียงแค่พยักหน้ารับเบาๆก่อนจะหันหน้ากลับไปสนจี่หน้าจอแท็บเล็ตต่อ
“งั้นพวกผมไปแล้วนะครับ” ฮันบินและจุนฮเวโค้งลาคนไข้เล็กน้อยก่อนจะหันหลังเตรียมจะเดินกลับออกไป
“เดี๋ยว” อยู่ๆพัคบอมก็เรียกสองคนนั้นไว้ ฮันบินทำหน้าสงสัยเล็กน้อยก่อนจะต้องถอนหายใจกับคำพูดต่อไปของพัคบม
“พรุ่งนี้ขอขนมปังไส้ข้าวโพดชิ้นนึงนะ สองเลยก็ได้”
หลังจากที่ออกมาจากคนไข้พัคบอมทั้งสองคนก็ไปเดินตรวจดูวอร์ดต่างๆอีกเหมือนที่ทำอย่างทุกวัน แปบๆเวลาทำงานก็หมดลงแล้ว ทั้งสองคนกลับมาอยู่ที่ห้องพักอย่างเดิม
“ฮเว มาคุยเรื่องคนไข้ดิ๊” ฮันบินเรียกจุนฮเวที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงมานั่งที่โต๊ะอาหาร
“อ่าห้ะ คนไข้พัคบอมอ่ะนะ” จุนฮเวทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ตรงข้ามฮันบิน
“ใช่ มึงช่วยไปคุยเรื่องโทษของข้าวโพดหน่อยดิ กูคุยไม่เก่งว่ะ” ฮันบินว่าแล้วหันหน้าจอโน๊ตบุ๊คไปทางจุนฮเว
“โทษข้าวโพดเหี้ยไรมึง นี่มันมิกกี้เมาส์” จุนฮเวหันจอโน๊ตบุ๊คกลับไปหาฮันบิน
“โทษๆ ผิดแท็บๆ ดูใหม่มึง ฮะฮะ” ฮันบินพูดกลั้วขำก่อนจะเปลี่ยนไปยังอีกแท็บแล้วหันหน้าจอให้จุนฮเวดูอีกครั้ง
“มึงส่งลิ้งเว็บมาเดี๋ยวกูไปอ่าน”
“โอเค แล้วก็เดี๋ยวกูจะทำอาหารให้คนไข้เองด้วย ไม่ให้กินข้าวโพดแบบอาหารของโรงบาลเดี๋ยวไปกินข้าวโพดตามร้านแม่งจะแย่กว่าเดิม”
“มึงอ่ะนะทำอาหาร ถุ้ย” จุนฮเวหัวเราะกับความคิดฮันบินเล็กน้อย เขายังจำวันที่ฮันบินทำอาหารครั้งแรกได้ เรื่องรสชาติน่ะมันกินได้แต่เขากลัวฮันบินจะไปซุ่มซ่ามจนได้แผลกลับมาอีกมากกว่า
“เออ กูเนี่ยแหละ” ฮันบินเริ่มจะโกรธคนตรงหน้า ฮันบินไม่ชอบนึกถึงตอนทำอาหารครั้งแรกเลย ก็ตอนนั้นเขาเพิ่งเคยเข้าครัวนี่นา ทุกอย่างมันเละไปหมด
“จ้าๆ เดี๋ยวกูไปช่วยละกัน” จุนฮเวอดเป็นห่วงเพื่อนสนิทไม่ได้เลยอาสาที่จะไปช่วยด้วย ตามจริงเขาห่วงโรงครัวของโรงพยาบาลมากกว่าอีก
“มึงจะมาทำไมมม ไปคุยกับคนไข้ดิ”
“คุยกับคนไข้แปบเดียวเอง เดี๋ยวกูไปช่วยมึงต่อไง”
“เห้อ เอาเลยแล้วแต่มึงเหอะ” ฮันบินพูดตัดรำคาญไป ถ้าจุนฮเวมันจะไปเขาก็ขี้เกียจเถียงด้วยเอาเวลาไปดูมิกกี้เมาส์ดีกว่า
จุนฮเวเดินเข้าไปที่เตียงของพัคบอมอีกครั้งส่วนพัคบอมเองก็ยังคงสนใจแต่แท็บเล็ตของตัวเอง จุนฮเวเลยยื่นขนมปังไส้ข้าวโพดไปตรงหน้าคนไข้
กลิ่นข้าวโพดจากถุงขนมปังที่ถูกยื่นไปตรงหน้าเรียกให้พัคบอมหันมาสนใจบุคคลที่เข้ามา
“อ้าว มาแล้วหรอ ดูการ์ตูนต่อมะ” พัคบอมหันมายิ้มให้จุนฮเว คือถ้าฮันบินไม่อยู่จุนฮเวก็กลายเป็นเพื่อนดูการ์ตูนเลยหรอพัคบอม
“วันนี้ผมจะมาคุยอะไรด้วยนิดหน่อย ห้ามดูการ์ตูนนะวันนี้” จุนฮเวนั่งลงบนเก้าอี้ก่อนจะเข้าโหมดจริงจัง
“ก็ได้ วันนี้ไม่ดูก็ได้” พัคบอมคว่ำหน้าแท็บเล็ตลงบนเตียงก่อนจะหันไปสนใจจุนฮเว
“ตอบทุกคำถามนะ”
“ถามมาก็ตอบหมดอ่ะ”
“ทำไมถึงชอบกินข้าวโพดมากขนาดนี้”
“ก็มันอร่อยไง แล้วก็ที่บ้านก็ทำฟาร์มข้าวโพดด้วย ไม่กินข้าวโพดจะกินอะไร” พัคบอมตอบตามความจริง
“แล้วเริ่มจะติดข้าวโพดมากๆแบบขาดไม่ได้เมื่อไหร่”
“ก็ตั้งแต่ออกมาเรียนมัธยมปลายมั้ง มาอยู่หอแล้วมื้อเย็นไม่ได้มีอาหารฝีมือแม่ก็เลยกินแต่อะไรที่มีข้าวโพดมาตลอด เลยติด”
“คือเธอไม่กินอาหารที่ไม่ใช่ฝีมือแม่หรอ”
“ไม่กินไง เลยกินแต่ข้าวโพดเนี่ยแหละ ถามขนาดนี้จะเอาไปทำสารคดีชีวิตของฉันหรือไงเนี่ย” พัคบอมทำหน้าหน่ายๆ
“ตลกละ มาตอบคำถามต่อ”
“โอเคๆ จะไม่เล่นแล้ว”
“แล้วถ้าอาหารที่เป็นข้าวโพดแต่คนอื่นทำนี่กินป่ะ”
“กินดิ อะไรที่เป็นข้าวโพดฉันก็กินหมดนั่นแหละ”
“โอเค งั้นวันนี้อาหารกลางวันมีข้าวโพดนะ ไม่ต้องไปซื้ออย่างอื่นกินแล้วนะ” จุนฮเวบอกพัคบอมไปยิ้มๆ
“จริงหรอ” พัคบมได้ยินดังนั้นก็ตาลุกวาว
“โอเค จบละผมไปละเดี๋ยวเที่ยงๆมาใหม่”
“อ้าว ไปละเหรออยู่ดูการ์ตูนด้วยกันก่อนสิ” จุนฮเวส่ายหน้าเบาๆให้พัคบอมก่อนจะเดินออกไป
“เฮ้ย!” จุนฮเวถึงกับต้องร้องออกมาเสียงดังเมื่อเดินเข้าไปถึงในครัวของโรงพยาบาลแล้วเห็นว่าตอนนี้มันเละเทะแค่ไหนทั้งครัวและคนที่อยู่ในครัว
“มึงจะเสียงดังทำไมเดี๋ยวคนอื่นก็รู้หรอก” ฮันบินยกนิ้วชี้มาไว้ที่ปากเป็นสัญญาณบอกว่าให้จุนฮเวเงียบๆ
“มึงเนี่ยนะ ละนี่จะทำอะไรเนี่ย” จุนฮเวเดินเข้าไปหาอีกคนที่ตอนนี้หน้าตาเต็มไปด้วยครีมอะไรก็ไม่รู้ส่วนมือก็หนืดไปด้วยอะไรบางอย่างที่เขาคิดว่าน่าจะเป็นไข่ขาว มือหนาเลื่อนขึ้นไปเช็ดครีมที่ติดอยู่บนหน้าอีกคนเบาๆ ฮันบินก็ยังคงเป็นฮันบินเหมือนเดิมเข้าครัวทีไรก็เละทุกที
“เยอะแยะอ่ะ มาก็ดีแล้วมาช่วยหน่อยดิ” ฮันบินบอกคนตัวสูงด้านหน้า
“เดี๋ยวกูช่วย มึงไปล้างหน้าล้างตาก่อนไป เลอะเทอะหมดละเนี่ย” จุนฮเวดันหลังฮันบินไปที่อ่างล้างจานด้านข้างก่อนที่เขาจะหันมาสนใจกับวัตถุดิบต่างๆที่อยู่ในครัว ข้าวโพดจำนวนมากนั่นทำให้เขาอยากเป็นลม
ไข่ขาวจำนวนหนึ่งอยู่ในถ้วยส่วนในกระทะเทฟร่อนมีครีมสีเหลืองๆซึ่งน่าจะเป็นครีมข้าวโพดอยู่ด้านใน ด้านข้างกีวัตถุดิบอีกหลายอย่างวางปนๆกันอยู่
“มึงบอกกูสิว่ามึงจะทำอะไรบ้าง” จุนฮเวหันไปถามฮันบินที่ตอนนี้เดินมายืนอยู่ข้างๆเขา
“ก็ซุปข้าวโพด ปอเปี๊ยะข้าวโพดแล้วก็พายข้าวโพด”
“มีแต่อะไรหวานๆ คนไข้ได้เป็นเบาหวานตายพอดี” จุนฮเวผลักหัวฮันบินเบาๆ
“ก็กูไม่รู้นี่ มึงก็ใส่น้ำตาลน้อยๆดิ”
“เออเดี๋ยวกูทำเองมึงอ่ะแค่ช่วยกูก็พอ” จุนฮเวบอกฮันบินแล้วเริ่มหยิบจับอุปกรณ์กับวัตถุดิบบนเคาต์เตอร์ครัว
“มึงจะทำอะไรก่อนอ่ะละให้กูช่วยไร” ฮันบินถามจุนฮเวแต่เนื่องจากฮันบินยืนอยู่ด้านข้างแล้วชะโงกหน้ามาทำให้ภาพที่จุนฮเวเห็นคือฮันบินกำลังเอียงคอถามเขาอยู่ ใจมันเต้นแปลกๆอีกแล้ว...
จุนฮเวผลักหัวฮันบินออกก่อนจะสะบัดหัวไล่ความคิดของตัวเองแล้วตอบฮันบินไป
“ทำที่มึงทำทิ้งไว้อ่ะ อันนั้นคือไร”
“อ่อ ปอเปี๊ยะอ่ะเหรอ” ฮันบินชะโงกหน้ามาอีกครั้งแต่ก็โดนจุนฮเวดันกลับเหมือนเดิม
“มึงทำจะเสร็จละนี่ ไปห่อปอเปี๊ยะไป” จุนฮเวดันจานที่ใส่แผ่นแป้งปอเปี๊ยะไปให้ฮันบิน
“ได้” ฮันบินรับจานนั้นมาแล้วเดินไปที่กระทะที่บรรจุใส้ปอเปี๊ยะไว้ด้านใน
“ห่อเป็นสามเหลี่ยมนะทำเป็นใช่ป่ะ ทบสุดท้ายเอาไข่ขาวที่เหลือมาทาด้วยนะแป้งจะได้ไม่หลุด”
“เข้าใจแล้วครับเชฟกู” ฮันบินตอบก่อนจะสนใจแป้งปอเปี๊ยะตรงหน้าและเริ่มห่อมัน
จุนฮเวหันไปสนใจกับข้าวโพดจำนวนมากข้างหน้า เขาคิดว่าเขาจะทำพายข้าวโพดก่อนจะได้ไม่เสียเวลาในการอบ มือหั่นข้าวโพดไปแต่สายตาก็มองไปยังฮันบินกลัวว่ามันจะทำอะไรซุ่มซ่ามจนได้แผล
“กูเสร็จละนะ” ฮันบินหันมาบอกจุนฮเวหลังจากที่ห่อปอเปี๊ยะครบแล้ว
“เสร็จละก็เอาไปทอดดิ เอาหม้อทอดมาตั้งละก็ทอดไปเลย เข้านะ” จุนฮเวพยักหน้าพอใจกับรูปร่างของปอเปี๊ยะที่ฮันบินห่อก่อนจะบอกขั้นตอนต่อไปแล้วหันมาหั่นข้าวโพดต่อ
ฮันบินเดินไปหยิบหม้อมาจากในตู้แล้วัดการเทน้ำมันลงไปด้านในและตั้งไฟรอ พอน้ำมันเริ่มเดือดเขาก็หยิบปอเปี๊ยะขึ้นมาไว้ในมือ
ในหัวของฮันบินคิดว่าถ้าเขาใส่มันลงไปในหม้อน้ำมันจะต้องกระเด็นใส่มือเขาแน่ๆหรือเขาจะโยนมันลงไปดีนะน้ำมันจะได้ไม่กระเด็น คิดได้ดังนั้นก็
“โอ๊ย!” ปอเปี๊ยะที่เคยอยู่ในมือลงไปอยู่ในหม้อแล้วแต่น้ำมันที่อยู่ในหม้อกลับกระเด็นมาโดนมือเขาแทน
“เห้ย มึงเป็นไรป่าว” จุนฮเววางมีดแล้วเดินไปหาฮันบินที่ตอนนี้กำลังล้างมืออยู่ ดีที่ความรู้จากการเรียนแพทย์ทำให้เขาเดินมาล้างมือทันก่อนที่มันจะพอง
“กูโยนปอเปี๊ยะลงไปน้ำมันเลยกระเด็นใส่กูอะ”
“ใครเขาโยนกัน ถ้าโยนมันก็กระเด็นสิมึง” จุนฮเวอยากจะบ้าตายกับฮันบิน
“อ้าว ละถ้าไม่โยนน้ำมันมันก็กระเด็นใส่กูดิ”
“มันไม่กระเด็น ยิ่งมึงโยนมันยิ่งกระเด็น มึงไปหั่นข้าวโพดไปเดี๋ยวกูทอดปอเปี๊ยะเอง” จุนฮเวส่ายหน้าหน่ายๆแล้วเดินไปที่เตาแก๊ส ส่วนฮันบินก็ไปหั่นข้าวโพดตามคำสั่งของจุนฮเว
“โอ้ย!” เสียงฮันบินดังขึ้นอีกครั้งเรียกให้จุนฮเวที่กำลังทอดปอเปี๊ยะต้องหันไปดู เลยเห็นว่าฮันบินโดนมีดบาด
“ไปล้างมือทำแผลแล้วก็นั่งเฉยๆเลยไป” จุนฮเวส่ายหน้าเบาๆเป็นรอบที่ล้านของวัน เขาไม่เข้าใจว่าทำไมฮันบินมันถึงได้ซุ่มซ่ามขนาดนี้วะ
จุนฮเวหยิบแป้งพายที่อยู่ในเตาอบออกมาแล้วเริ่มทำไส้พายข้าวโพด สักพักนึงฮันบินก็เดินมาข้างๆเขา
“มึง กูอยากทำ”
“เดี๋ยวมึงก็ซุ่มซ่ามอีกสัด”
“น่า ให้กูช่วยเหอะนะ”
“งั้นมึงเอาแป้งไปนวดไป เอาให้แบนๆนะ” จุนฮเวตอบแล้วส่งไม้นวดแป้งให้ฮันบินไป ส่วนตัวเองก็หันกลับมาทำไส้พายต่อ
10 นาทีผ่านไป
“มึงนวดแป้งเสร็จยังเนี่ย” จุนฮเวตะโกนถามหลังจากที่เขาทำไส้พายเสร็จแล้วแต่แป้งยังไม่เสร็จสักที
“กูทำไม่เป็นอ่ะ มันไม่ค่อยสวยเลยมึง”
“มานี่เดี๋ยวกูช่วย” จุนฮเวว่าแล้วเดินไปซ้อนหลังฮันบินแขนยาววาดไปด้านหน้าแล้ววางมือลงบนไม้นวดแป้งทับลงบนมือของฮันบิน แล้วค่อยๆนวดแป้งเบาๆ
“พอแล้วๆ กูทำเป็นละ” ฮันบินบอกจุนฮเวที่นวดแป้งไปเรื่อยและที่สำคัญจุนฮเวยังไม่ปล่อยมือจากมือเขาเลย
“ทำเป็นก็ดี นวดแล้วมึงก็ตัดนะแล้วก็เอามาวางทับกันเป็นลายสานบนหน้าพายนี่ มึงทำเป็นนะ” จุนฮเวปล่อยมือออกแล้วส่งที่ตัดแป้งให้ฮันบินพร้อมกับดันพายข้าวโพดไปให้ ส่วนตัวเขาเองก็เริ่มทำซุปข้าวโพด
เวลาผ่านไปจนพวกเขาทำอาหารทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเข็มนาฬิกาชี้บอกเวลาสิบเอ็ดโมงห้าสิบ อีกสิบนาทีจึงเวลาอาหารกลางวันขอคนไข้ ทั้งคู่เลยตัดสินใจยกอาหารไปให้พัคบอมทันทีเนื่องจากว่าพวกเขาต้องไปดูแลคนไข้คนอื่นๆต่อในช่วงบ่าย
ทันทีที่กลิ่นข้าวโพดลอยมาแตะจมูกพัคบอมก็ลุกขึ้นมานั่ง ฮันบินกับจุนฮเวเห็นอย่างนั้นก็อดขำไม่ได้
“แหม่ได้กลิ่นข้าวโพดหน่อยก็ลุกเลยนะ” จุนฮเวพูดหลังจากที่วางถาดอาหารลงบนโต๊ะ
“ก็ต้องตื่นมากินอาหารกลางวันป่ะล่ะ” พัคบอมตอบก่อนจะก้มลงกินอาหารบนโต๊ะ
“เอ่อ คุณพัคบอมครับพวกผมมีอะไรจะคุยด้วยหน่อยน่ะครับ” ฮันบินพูดขึ้นมา ไหนๆวันนี้ก็มาแล้วให้จุนฮเวคุยเลยแล้วกัน
“พูดมาดิ” พัคบอมเงยหน้าขึ้นมาตอบแล้วก้มลงไปกินต่อ
“รู้หรือเปล่าว่ากินข้าวโพดเยอะๆแล้วจะเป็นไง”ฮันบินถามขึ้น
“ก็อร่อยไง”
“นอกจากอร่อยล่ะ”
“ก็รู้นะว่าอยากให้ลด แต่ข้าวโพดมันเป็นผักนี่มันมีประโยชน์มันจะมีโทษอะไร”
“โอเคฟังนะครับคุณพัคบอม ข้าวโพดหลังต้มน่ะเสียวิตามินซีไปแต่ว่าสารที่เป็นตัวล้างพิษยังคงอยู่” จุนฮเวเริ่มพูดถึงโทษของข้าวโพด
“ตัวล้างพิษก็ดีน่ะสิ กินเยอะๆไม่ดีเหรอ”
“แต่สารตัวนี้มันจะไปทำลายเซลล์ในร่างกายนะครับแล้วยังเป็นต้นเหตุของโรคชราอีกด้วย อยากเป็นมั๊ยล่ะ”
“หืม” พัคบอมเริ่มสนใจสิ่งที่จุนฮเวพูดมากขึ้นแต่ก็ยังคงกินอาหารต่อไป
“แล้วเวลากินข้าวโพดน่ะบางร้านใช้หม้อลูมีเนียมต้มแล้วก็สารตะกั่วก็ออกมาบางที่เวลาต้มก็ต้มทั้งเปลือกแล้วเปบือกก็มียาฆ่าแมลงร็ใช่มั๊ยว่าจะเกิดอะไรขึ้น”ทันทีที่จุนฮเวพูดจบพัคบอมก็วางช้อนลงกับโต๊ะ
“นี่เรื่องจริงเหรอ” หน้าตาพัคบอมดูอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน
“จริงสิ ตอนคุณอยู่บ้านก็กินข้าวโพดมาเยอะแต่ไม่เป็นไรเพราะนั่นแม่คุณเป็นคนทำไง มันย่อมดีอยู่แล้วแต่พอคุณมาอยู่ข้างนอกมันไม่ได้สะอาดเหมือนที่แม่ทำนะ”
“ฉันควรเลิกกินน่ะเหรอมันยากนะ” พัคบอมยังคงตัดใจจากข้าวโพดไม่ได้
“ไม่ใช่ว่าเลิกกินหรอกนะแต่แค่ลงให้มันน้อยลงแค่นั้นเอง” จุนฮเวพูดออกไป คราวนี้เขาจะรักษาคนไข้สำเร็จหรือเปล่า
“ก็ได้ ฉันจะกินให้น้อยลง”
“ดีมากครับ เพื่อสุขภาพของคุณเองนะคุณพัคบม พวกผมขอตัวนะครับ” ทั้งสองคนโค้งให้คนไข้เบาๆแล้วหันหลังจะเตรียมออกไป
“ฉันมีข้อแม้นะ” เสียงของพัคบอมเรียกให้ทั้งคู่หันมาอีกครั้ง
“พวกนายต้องมาดุการ์ตูนกับฉันวันละเรื่อง”
จุนฮเวจะเป็นลมมมมมม
#มฮจุนบิน
ฮันบินหนูควรอยู่เฉยๆนะลูก5555555555555555555555555
จุนฮเวใจสั่นบ่อยนะเป็นโรคอะไรอ๊ะเป่า
การ์ตูนในเรื่องมันมีจริงๆนะไปหาดูกันได้555555555555555555555555
ไม่ได้หายไปไหนเราแค่เพิ่งกลับจากทำโปรเจค แฮร่
รักทุกคนน้าา
❥ ด้วยรักจากแฟนจุนฮเว
ความคิดเห็น