ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {FIC iKON} MAD HOUSE (미쳤어).junbin

    ลำดับตอนที่ #3 : MAD HOUSE | 。วอร์ดที่หนึ่ง : คนไข้นัมแทฮยอน

    • อัปเดตล่าสุด 28 เม.ย. 58








    วอร์ดที่หนึ่ง

    คนไข้แทฮยอน

     

     

              “พวกนายสองคนมาช่วยดูคนไข้หน่อย” ไม่ถึงสิบนาทีที่จุนฮเวได้หลับตาจู่ๆก็มีคนตัวเล็กเปิดประตูเข้ามาในห้องก่อนจะตะโกนเรียกพวกเขาที่กำลังหลับอยู่ให้ตื่นขึ้นมา

             

    ผู้มาใหม่เดินเข้ามาในห้องแล้วตรงไปดันตัวคนทั้งสองที่นอนอยู่ให้ลุกขึ้น ทั้งสองคนลุกขึ้นมาก่อนจะรีบวิ่งตามคนที่มาปลุกพวกเขาไป ต่อให้จะง่วงนอนแค่ไหนคนไข้ต้องมาก่อนเสมอ

               

    เสียงฝีเท้าค่อยๆเบาลงหลังจากที่วิ่งมาจนถึงที่หมายแล้วเหตุการณ์เหมือนกับเมื่อเช้า มีบุรุษพยาบาลกำลังยืนล้อมเป็นวงกลมต่างกันที่คนตรงกลางวงกลมมีเพียงแค่ผู้ชายคนเดียว

             

    “อย่าเข้ามานะ” คนที่อยู่กลางวงล้อมตะโกนบอกหลังจากที่พวกเขาแหวกตัวเข้ามาตรงกลางวง

              “ใจเย็นๆนะครับ อยากได้อะไรก็บอกพวกผม” จุนฮเวพูดขึ้น บทตามคุณหมอเมื่อเช้าเป๊ะๆเลย

             

    “ไม่ได้อยากได้อะไร พวกนายออกไปได้แล้ว” พูดออกมาเสียงเรียบ เขาไม่ได้ดูเหมือนกับคนไข้เมื่อเช้าที่จุนฮเวเจอมาเขายืนอยู่เฉยๆตรงกลางวงแล้วยกมือขึ้นกอดตัวเองไว้เท่านั้น

             

    “ไม่ได้อยากได้อะไรงั้นคุณก็กลับไปที่เตียงของคุณสิ” ฮันบินค่อยๆเดินเข้าไปหาเขาช้าๆ

             

    “อย่าเข้ามา!” ยังไม่ทันที่มือฮันบินจะจับแขนของคนไข้ไว้ทัน คนไข้ก็ชักแขนกลับทันซะก่อน คนที่อยู่กลางวงหันหน้าไปทางฮันบินอย่างเอาเรื่อง จังหวะนั้นจุนฮเวก็เข้าไปอีกด้านแล้วจับเข้าที่แขนของเขาแต่ก็ถูกสะบัดออกแล้วหันมามองอย่างเอาเรื่องอีกคน

             

    “บอกว่าอย่าจับไม่เข้าใจหรือไงเล่า” พูดจบก็หยิบขวดอะไรสักอย่างออกมาฉีดไปทั่วแขนที่โดนจุนฮเวกลับไปเมื่อกี้

             

    “แอลกอฮอล์?”

             

    “ก็ใช่ไง มือนายสกปรกมาโดนตัวผมเดี๋ยวผมไม่สบายขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ” ว่าจบละก็ฉีดซ้ำๆ จุนฮเวกับฮันบินได้แต่ยืนงง มือพวกเขามันสกปรกขนาดนั้นเลยหรอ

             

    “มากับผมก็ได้” จู่ๆผู้ชายตัวเล็กที่มาปลุกพวกเขาก่อนหน้านี้ก็เดินเข้ามา ที่หน้าแปลกกว่านั้นคือคนไข้ที่เพิ่งเหวี่ยงใส่พวกเขาไปยอมให้เขาจับแต่โดยดี แต่พอสังเกตุดูดีๆแล้วจะเห็นว่าผู้ชายตัวเล็กคนนี้กำลังใส่ถุงมืออยู่

             

    “นายสองคนเอานี่ไปนะ” มือเล็กยื่นถุงมือสองคู่ส่งมาให้พวกเขาสองคน ทั้งคู่ใส่ถุงมืออย่างรีบๆแล้วเดินตามคนตัวเล็กไป

             

     

     

     

     

    “คนไข้ชื่อนัมแทฮยอน เป็นโรคMysophobiaหรือโรคกลัวเชื้อโรค” คนตัวเล็กพูดขึ้นหลังจากที่พาคนไข้กลับไปที่เตียงเรียบร้อยแล้ว

     

    “ อ่า ครับ” ทั้งสองคนตอบเบาๆหลังจากรู้อาการของคนไข้

     

    “พวกนายสองคนเป็นแพทย์ฝึกหัดจากมหาวิทยาลัยเคสินะ” คนตัวเล็กพูดพลางขยับแว่นที่ตัวเองใส่ให้ตรงตำแหน่งก่อนจะยิ้มเบาๆให้ทั้งสองคน แน่นอนว่าทำอย่างนั้นมันน่ารัก จุนฮเวกับฮันบินชักจะชอบคนตัวเล็กเข้าแล้วสิ

     

    “ใช่ครับ แล้วคุณ...” ฮันบินตอบคำถามก่อนจะเริ่มทำความรู้จักกับคนตัวเล็ก

     

    “พี่ชื่อจินอู เป็นนักศึกษาแพทย์เอ็กเทิร์นแล้ว” คนตัวเล็กยังคงยิ้มตอบแบบไร้เดียงสา

     

    “ผมชื่อฮันบินครับ คิมฮันบิน”

     

    “ผมกูจุนฮเวครับ” ว่าจบก็ยื่นมือออกไปด้านหน้า คนตัวเล็กมองเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือไปจับตอบ

     

    “ยินดีที่ได้รู้จักนะ”

     

    “พี่นี่น่ารักดีนะครับ” เป็นฮันบินที่เริ่มพูดไปก่อน

     

    “ฮะฮะ มีคนบอกบ่อยแล้วแหละ” จินอูหัวเราะเบาๆเขามักจะได้รับคำชมแบบนี้อยู่บ่อย ชินซะแล้วแหละ

     

    “ตาพี่โตมากเลย หน้าพี่ก็เหมือนผู้หญิง” จุนฮเวพูดออกไปบ้าง จะปล่อยฮันบินทำคะแนนคนเดียวไม่ได้หรอก

     

    “นี่พี่ก็ได้ยินบ่อยเลย” จินอูขำเบาๆ จีบแบบนี้เขาเคยโดนมาหลายคนแล้วล่ะ เบื่อแล้ว

     

    “น่ารักขนาดนี้พี่มีแฟนยังอ่ะ” จุนฮเวถามออกไปตรงๆ

     

    “อ่า เดี๋ยวพี่จะบอกเรื่องอาการของนัมแทฮยอนนะ” จินอูเปลี่ยนเรื่องคุย เขาไม่ชอบบอกความสัมพันธ์ของตัวเองให้ใครรู้เท่าไหร่หรอก

     

    “แฟนพี่เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะครับ?” ฮันบินถามต่อไปบ้าง การที่พี่จินอูไม่ตอบคำถามเมื่อกี้แปลว่าพี่เขาคงมีคนรักอยู่แล้วฮันบินไม่ชอบแย่งของใครหรอกนะ

     

    “เรื่องคนไข้นัมแทฮยอนน่ะ คือเขาเป็นโรค”

     

    “พี่ยังไม่ตอบคำถามผมเลยนะครับ”

     

    “นั่นสิครับ พี่ตากวาง”

     

    “เอ่อคือ...” จินอูอึกอัก เขาต้องเจอเด็กสองคนนี้อีกเกือบปีให้ไปพูดจาทำร้ายจิตใจก็กลัวจะมองหน้ากันไม่ติด

     

    “พี่ตากวางครับ”

     

    “พี่ตัวเล็ก”

     

    “เอ่อคือพี่...”

     

    “ก็บอกเขาไปสิว่ามีแฟนแล้ว ดื้อ” เสียงจากด้านหลังทำให้จุนฮเวและฮันบินหันไปมองไหนจะสรรพนามที่เขาใช้เรียกจินอูอีกด้วย

     

    “นี่ใครอ่ะพี่จินอู” จุนฮเวที่ตอนนี้หนีไปยืนฝั่งจินอูถามขึ้นมา

     

    “นี่คุณหมอซึงยุนเจ้าของเคสคนไข้แทฮยอนไง” จินอูหันไปตอบคนที่ยืนอยู่ข้างๆ

     

    “ทำไมไม่บอกให้ครบล่ะ มานี่เลยดื้อ” ซึงยุนพูดก่อนจะดึงตัวจินอูมายืนข้างๆตัวเอง “ผมจะแนะนำตัวอย่างเป็นทางการเลยละกันนะ ผมชื่อคังซึงยุนเป็นเพื่อนของหมอซึงฮุนหมอพี่เลี้ยงของพวกคุณแล้วก็...” เว้นช่วงไว้สักพักก่อนจะก้มลงหอมแก้มคนข้างๆทำเอาจุนฮเวกับฮันบินค้าง “แฟนจินอูคนนี้ด้วยครับ”

     

    “อ่า ครับ ขอโทษครับ” ฮันบินก้มหัวขอโทษรัวๆก่อนจะกดหัวเพื่อนสนิทลงด้วย ตั้งแต่จีบใครมาไม่เคยรู้สึกหน้าแตกอย่างนี้มาก่อน

     

    “ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่ถือ” ซึงยุนหัวเราะให้กับความตลกของเด็กสองคนนี้ แฟนเขาน่ารักขนาดนี้มีคนมาจีบก็เรื่องปกติแฟนเขาไม่เล่นด้วยซะอย่างจะกลัวอะไร

     

    “ขอโทษอีกครั้งนะครับ”

     

    “อ่าๆ ซึงฮุนเป็นหมอพี่เลี้ยงพวกนายใช่มั๊ย พอดีเลยๆ”

     

    “มีอะไรให้พวกผมช่วยหรือเปล่าครับ”

     

    “ฉันโอนเคสคนไข้นัมแทฮยอนไปให้ซึงฮุนแล้ว เดี๋ยวพวกนายสองคนพานัมแทฮยอนไปเจอซึงฮุนด้วยนะ ฝากด้วยล่ะ”

     

    “โอเคครับ งั้นพวกผมขอตัวนะครับ” ทั้งคู่โค้งให้ซึงยุนเล็กน้อยก่อนจะเดินกลับไปหาคนไข้แทฮยอนเพื่อพาเขาไปหาซึงฮุน

     

     

     

    ก๊อกๆๆ

     

    เสียงเคาะประตูหน้าห้องเรียกให้คนที่อยู่ในห้องตื่นขึ้นจากการพักสายตาตอนกลางวัน

     

    “เข้ามาได้เลย” ซึงฮุนบิดขี้เกียจเล็กน้อยก่อนจะตะโกนบอกคนที่มาเคาะประตู นี่มันเวลาพักขอเขาคนที่กล้ามาเคาะประตูก็คงมีอยู่ไม่กี่คน

     

    “พาคนไข้มาให้อ่ะพี่” เป็นจุนฮเวกับฮันบินนั่นเองที่เข้ามารบกวนเวลาพักของเขา แต่ไอ้ที่ว่าคนไข้ใหม่นี่ใช่ที่ซึงยุนบอกเขาไว้หรือเปล่า

     

    “คนไข้อะไร ไหน”ถามไปทั้งๆที่รู้คำตอบอยู่ในใจแล้ว

     

    “คนไข้ชื่อนัมแทฮยอน พี่เอานี่ไปก่อนนะ” ฮันบินโยนถุงมือให้ซึงฮุนขณะที่พวกเขากำลังพยายามลากนัมแทฮยอนเข้ามาในห้อง

     

    “เอาแฟ้มคนไข้มานี่หน่อย” ซึงฮุนใส่ถุงมือแล้วเอื้อมมือไปหยิบแฟ้มคนไข้มาจากมือจุนฮเว

     

    ซึงฮุนอ่านประวัติคนไข้กับอาการคร่าวๆ รายนี้ไม่ได้มีอาการรุนแรงอะไรมากนักเขาคิดว่าจะยกมันให้เป็นเคสแรกของเด็กสองคนนี้ไปก่อน

     

    “นายชื่อนัมแทฮยอนใช่มั๊ย” ซึงฮุนถามนัมแทฮยอนที่ตอนนี้ถูกลากเข้ามานั่งในห้องเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

     

    “ใช่ จะทำไม”

     

    “นายเป็นโรคกลัวเชื้อโรคและความสกปรก?”

     

    “ใช่ มีปัญหามั๊ยล่ะ”

     

    “นายดูแล้วไม่ได้เป็นมากนี่นา” ซึงฮุนพูดแล้วมองไปที่จุนฮเวกับฮันบินที่นั่งอยู่ข้างๆแทฮยอนก่อนจะพูดประโยคถัดไป

     

    “งั้นฉันยกเคสนี้ให้พวกนายดูแลนะ”

     

    “ฮะ” อุทานขึ้นมาพร้อมกันทั้งสามคน จุนฮเวกับฮันบินไม่คิดว่าเขาจะได้เคสแบบนี้ส่วนนัมแทฮยอนก็ไม่อยากจะรักษากับสองคนนี้เท่าไหร่

     

    “เคสนี้ไม่ยากมาก ลองไปเป็นเคสเริ่มของพวกนายละกัน”

     

    บอกว่าเคสนี้ไม่ยากแสดงว่ายังไม่เจอฤทธิ์ของนัมแทฮยอนสินะซึงฮุน

     

     

     

    นัมแทฮยอนถูกพากลับมาที่เตียงอีกครั้ง การที่ถูกพาไปมาหลายๆที่อย่างนี้มันทำให้เขาไม่พอใจแขนของเขาอาจจะโดนเชื้อโรคที่ลอยอยู่ในอากาศเกาะก็ได้ หลังจากที่คิดได้ดังนั้นมือเรียวก็ยกขวดแอลกอฮอล์ขึ้นมาพ่นที่แขนอีกครั้ง

     

    “เดี๋ยวผมจะถามอะไรคุณเล็กน้อยนะ” ฮันบินลากเก้าอี้มานั่งลงข้างๆเตียงส่วนจุนฮเวก็ยืนอยู่ด้านหลัง

     

    “จะมาถามอะไรอีกล่ะ จุ้นจ้านจริง” นัมแทฮยอนยู่หน้าเล็กๆใส่คนที่อยู่ข้างเตียง

     

    “ถามประวัติทั่วไปแหละ เงียบๆแล้วตอบซะ” จุนฮเวบอกพร้อมตีหน้านิ่ง แต่วิธีนี้ไม่ได้ทำให้นัมแทฮยอนกลัวเท่าไหร่หรอกนะ

     

    “นายชื่ออะไร”

     

    “นัมแทฮยอน”

     

    “อายุล่ะ”

     

    22

     

    “อ้าว นายอายุเท่าพวกฉันนี่ ไม่เรียนหรือไง”

     

    “โดนส่งมาที่นี่จะเรียนไง ถามโง่ๆ” นัมแทฮยอนตอบกลับไปส่งๆ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ยังไม่เคยมีหมอคนไหนสอบประวัติได้น่ารำคาญเท่าสองคนนี้เลยให้ตายสิ

     

    “อาการนายเป็นยังไงบ้าง”

     

    “เท่าที่เห็นไงล่ะ ฉันเป็นMysophobia เลิกถามได้ยัง”

     

    “นายยอมรับ? ส่วนมากไม่ยอมรับนี่”

     

    “ฉันเป็นส่วนน้อยไม่ได้ไง๊”

     

    “โอเคๆ แล้วใครส่งนายมาที่นี่แล้วนายเริ่มกลัวที่จะจับอะไรด้วยมือเปล่าเมื่อไหร่ เล่ามาให้หมด”

     

    “ไม่เล่าว้อย เล่าไปทุกรอบที่มีคนมาสอบประวัติแล้วอยากรู้ก็ไปหาเอาตามหมอคนก่อนๆเอา” พูดจบก็ล้มตัวลงนอน สงสัยต้องเจอมาตรการเด็ดของฮันบิน...

     

    ฮันบินถอดถุงมือที่ใส่อยู่ออกก่อนจะลุกขึ้นเงื้อมมือจะจับคนที่นอนอยู่

     

    “เอามือออกไปนะ” นัมแทฮยอนรู้ทันอีกตามเคยเขาลุกขึ้นมาปัดมือฮันบินทิ้งแต่แขนอีกข้างกำลังจะโดนมือของจุนฮเวที่ใกล้เข้ามา

     

    “นายจะให้พวกฉันสอบประวัติดีๆหรือจะให้จับแขน” จุนฮเวยื่นมือใกล้กับแขนนัมแทฮยอนมากกว่าเก่าทำให้อีกคนต้องยอมลุกขึ้นดีๆแล้วหันมาทางพวกเขา

     

    “โอเค ยอม มีอะไรก็รีบถาม”

     

    “ตอบคำถามที่ถามไปเมื่อกี้นี้” แทฮยอนทำหน้าเบื่อๆตามนิสัยก่อนจะตอบไปตามความจริง

     

    “แม่ส่งมา กลัวตอนไหนไม่รู้รู้อีกทีก็กลัวแล้วแต่จำได้ว่าตอนเด็กๆแม่จะถามว่าป่วยหรือเปล่าทุกครั้งที่ฉันออกไปเล่นข้างนอกแล้วมีครั้งหนึ่งป่วยแม่เลยไม่ให้ออกไปเล่นกับเพื่อนอีกหลังจากนั้นก็ถามทุกครั้งหลังที่ฉันจับสิ่งของนอกบ้านด้วยมือเปล่า จบนะ”

     

    “โอเคขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ นายนอนได้แล้ว เดี่ยวพรุ่งนี้พวกฉันจะมาตรวจอาการอีกที” ฮันบินว่าก่อนจะเดินออกไปจุนฮเวเขม่นตาใส่นัมแทฮยอนเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไป

     

     

     

     

    “บินกูหิว” จุนฮเวที่เพิ่งทิ้งตัวลงนอนบนเตียงตะโกนบอกฮันบินที่ตอนนี้เดินไปที่ตู้เย็น

     

    “มึงกินไรอ่ะ เห็นชอบทุกอย่าง” อยู่กันมาตั้งกี่ปีเขายังไม่เคยเจออาหารที่จุนฮเวกินไม่ได้

     

    “เอามาเหอะ ขอเยอะๆกูหิว ถ้าอาบน้ำละกูยังไม่ได้กินมึงโดนกูตบหัวคืนแน่” พูดจบก็เด้งตัวขึ้นมาแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป จริงๆคิดว่าวันนี้จะไม่อาบเพราะนัมแทฮยอนฉีดแอลกอฮอล์ใส่จนตัวเขาไม่มีพื้นที่ให้เชื้อโรคที่ไหนเกาะแล้ว แต่ก็นะเกรงใจเพื่อนร่วมห้องอย่างฮันบิน

     

    กล่องอาหารที่หยิบออกมาถูกกรีดเอาพลาสติกที่หุ้มไว้ออกก่อนที่ฮันบินจะเปิดฝามันไว้หลวมแล้วนำเข้าในไมโครเวฟพร้อมกับกดเวลาตามที่เขียนไว้ข้างกล่อง ระหว่างที่รอกล่องที่อยู่ในไมโครเวฟเขาก็จัดการกรีดถุงพลาสติกที่หุ้มอีกสองซองที่เหลือพร้อมกับเปิดฝาไว้หลวมๆ

     

    ติ๊ง!

     

    ทันที่เสียงไมโครเวฟดังขึ้นกล่องที่อยู่ด้านในก็ถูกนำออกมาแล้วแทนที่เข้าไปด้วยอีกสองกล่องที่เหลือเนื่องจากเวลาที่ใช้ในการเวฟมันเท่ากันฮันบินเลยวางลงไปทั้งสองกล่อง เมื่อกดเวลาเรียบร้อยแล้วฮันบินก็หันไปหยิบช้อนส้อมในตู้ส่วนเรื่องจานไม่ต้องหยิบหรอก พวกเขาขี้เกียจล้างกินมันในกล่องก็ประหยัดดี

     

    กล่องพลาสติกสามใบถูกนำมาวางไว้บนโต๊ะพอดีกับที่จุนฮเวเดินออกมาจากห้องน้ำ

     

    “มึงแดกเลย กูอาบน้ำแปบ” ฮันบินหยิบผ้าเช้ดตัวมาพาดบ่าก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย

               

     

                อาหารคำสุดท้ายที่ถูกยัดเข้าไปในปากอย่างรวดเร็วหลังจากที่ได้ยินสียงลูกบิดประตูห้องน้ำดังขึ้น จุนฮเวแสร้งทำเป็นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น

             

    “มึงทำฮเว ที่นี่ไม่มีเน็ตไม่ใช่ไง๊”

             

    “กูเล่นเกมในเครื่องเฉยๆ มึงแดกเลยกูอิ่มละ” จุนฮเวตอบแล้วลุกขึ้นเดินไปนั่งที่เตียงตัวเอง

             

    “ไม่อิ่มก็บ้าละ มึงเหลือให้กูแดกแค่นี้อ่ะนะฮเว” ฮันบินโวยวายเบาๆหลังจากที่เห็นสภาพกล่องอาหารบนโต๊ะสองกล่องว่างส่วนอีกกล่องคือการเอาอาหารเหลือๆจากทั้งสามกล่องมาจัดรวมกัน

             

    “กูกลัวมึงอ้วนไงนี่มันดึกแล้ว แดกเยอะไม่ดีนะจ๊ะ” พูดจบก็ทิ้งตัวลงนอนทิ้งให้ฮันบินยืนโมโหอยู่คนเดียว

     

     

     

     

     

              “โอ้ย มาอีกแล้วหรือไงเนี่ย” นัมแทฮยอนถึงกับหัวเสียเมื่อตื่นมาก็ต้องเจอกับผู้ชายสองคนที่เขารำคาญอีกแล้ว จริงๆเขาก็รำคาญทุกคนบนโลกใบนี้นี่แหละ

             

    “อยากออกจากที่นี่ก็ต้องเจอหน้าพวกฉันไปอีกนาน” ฮันบินพูดขณะที่สวมถุงมือ วันนี้เขามีอุปกรณ์เสริมคือแอลกอฮอล์หนึ่งขวดในมือ

             

    “อ่อหรอ แล้วนั่นในมือขวดอะไร จะเอามาสู้กับฉันหรือไง” แทฮยอนถามขึ้นหลังจากเห็นว่าวันนี้สองคนนี้พกอะไรแปลกๆมาด้วย

             

    “วันนี้จะมาช่วยให้นายได้กลับไปเรียนเร็วๆสักทีไง”

             

    “เหอะ”

             

    “นายลองถอดถุงมือออกสิ” ฮันบินเอื้อมมือไปถอดถุงมือออกจากมือนัมแทฮยอน

             

    “จะถอดทำไม เอาคืนมา” แทฮยอนพยายามแย่งถุงมือคืนแต่ฮันบินก็ส่งให้จุนฮเวไปเรียบร้อยแล้ว

             

    “ก็บอกว่าจะรักษา แล้นายจะรู้ว่าแค่โดนของรอบๆตัวมันไม่ทำให้นายป่วยหรอกน่า” พูดแล้วหยิบขวดน้ำที่อยู่โต๊ะข้างเตียงมาถือไว้

             

    “เอามาทำไม”

             

    “ลองจับมันดู มันไม่สกปรกหรอก”

             

    “อะไรที่ฉันไม่ได้ฉีดแอลกอฮอล์ก็สกปรกหมดนั่นแหละ”

             

    “มันวางอยู่โต๊ะข้างเตียงนายนะ ต่อให้นายไม่ฉีดละอองแอลกอฮอล์ก็เกาะเต็มไปหมดแล้วแหละ”

             

    นัมแทฮยอนนิ่งอยู่สักพักก่อนจะคิดทบทวนเรื่องที่ฮันบินเพิ่งพูดไป บนโต๊ะข้างเตียงเป็นที่ที่เขาฉีดแอลกอฮอล์บ่อยๆถ้าขวดน้ำจะโดนละอองแอลกอฮอล์บ้างก็ไม่แปลก มือบางเลื่อนเข้าไปใกล้ขวดน้ำมากขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่ง...

             

    “โอ้ย มันก็สกปรกอยู่ดีอ่ะ” ทำหน้ายี๊แล้วชักมือกลับไป

             

    เป็นอย่างนี้ทุกครั้งไม่ว่าเขาจะยื่นของอะไรไปให้นัมแทฮยอนจะเลื่อนมือเข้ามาใกล้ๆเกือบจะจับมันแล้วแต่สุดท้ายก็ชักมือกลับทุกทีอ้างว่ามีเชื้อโรคบ้าง ไม่กล้าบ้าง ราวกับว่ามือของเขามันมีเซ็นเซอร์จับเชื้อโรคอยู่ยังไงอย่างนั้น

               

    เห็นอย่างนั้นฮันบินเลยเปลี่ยนวิธีมาเป็นการปรับทัศนคติของนัมแทฮยอนต่อสิ่งของรอบๆตัวก่อน

               

    “นายเห็นคนคนนั้นมั๊ย ” จุนฮเวพูดพลางชี้ไปที่คนไข้อีกคนที่กำลังเล่นตุ๊กตาโดยที่ปราศจากถุงมือแบบที่พวกเขาใส่อยู่ตอนนี้

             

    “เห็น เดี๋ยวนายนั่นก็ไม่สบายจับไปได้ไง” ทำหน้าขยะแขยงใส่คนไข้ที่กำลังเล่นตุ๊กตาก่อนจะหันกลับมา

             

    “ไม่หรอกน่า มันไม่สกปรกขนาดนั้น”

             

    “ถ้าไม่ป่วยละนายนั่นจะมาอยู่ที่นี่มั๊ย” แทฮยอนเถียงออกมาหน้าเรียบๆ คือที่นี่มันโรงพยาบาลจิตเวชมั๊ยที่มานี่ไม่ใช่ป่วยกายแต่ป่วยจิตต่างหากนะแทฮยอนเอ้ย

     

     

     

                เป็นเวลาเกือบอาทิตย์แล้วที่ทั้งสองคนพยายามจะรักษาแทฮยอนให้หายจากโรคคิดไปเองอย่างนี้สักที แต่ความพยายามนี่เหมือนจะไม่ค่อยเห็นผลสักเท่าไหร่เพราะนัมแทฮยอนนอกจากจะหัวดื้อแล้วยังกวนประสาทเป็นที่หนึ่ง

             

    “นี่ ก็บอกว่ามันไม่สกปรกขนาดนั้นยังไงเล่า” จุนฮเวพยายามแกะมือนัมแทฮยอนออกจากแขนตัวเอง ใช่แล้วแหละหลังจากที่พูดคุยกวนประสาทกันไปกันมาสิ่งแรกที่นัมแทฮยอนยอมจับโดยไม่ใส่ถุงมือก็คือตัวพวกเขาสองคนนั่นแหละ

             

    “ไม่สกปรกได้ไงนี่มันที่สาธารณะเลยนะเว่ย ใครมาจับบ้างก็ไม่รู้” ตอนนี้พวกเขาพาแทฮยอนออกมาที่เคาต์เตอร์พยาบาลหน้าวอร์ดที่แทฮยอนอยู่ แม้แต่เคาต์เตอร์พยาบาลแทฮยอนก็ยังหาข้ออ้างมาบอกว่ามันสกปรกได้

             

    “แขนผมสกปรกกว่าเคาต์เตอร์นี่อีกมั้งครับคุณแทฮยอน” ฮันบินพูดออกมาเสียงเย็น มันอาจจะฟังดูน่ากลัวสำหรับคนอื่นแต่ไม่ใชกับแทฮยอน

             

    “เฮอะ เคาต์เตอร์นี่มันสกปรกกว่าอยู่ละแขนนายก็แค่แขนนายแต่เคาต์เตอร์นี่แขนพยาบาลกี่คนแล้วไหนจะแขนคนไข้บางคนแขนญาติคนไข้ที่มาเยี่ยมอีก สกปรกกว่าแน่ๆ” พูดจบก็ก้มลงมองเคาต์เตอร์ก่อนจะสะบัดหัวเบาๆ

             

    “นายอย่ามาเว่อร์ไปหน่อยเลยน่า” ถึงในใจจะแอบเห็นด้วยกับแทฮยอนเล็กน้อยแต่ก็พูดออกไปอย่างนั้น

             

    “เว่อร์อะไรล่ะ นายเองก็เห็นด้วยกับฉันใช่มั๊ยล่ะฮันบิน” พูดจบก็หันไปหาแนวร่วม

             

    “ก็เห็นด้วยนิดนึง แต่ลองยืนพิงไปก่อนก็ได้นะ มันไม่สกปรกหรอกน่า” พูดจบก็ทิ้งตัวลงพิงไปกับเคาต์เตอร์เบาๆ ที่พูดไปอย่างนี้น่ะเขามีวิธีในใจอยู่แล้วล่ะ คืนนี้เขาคิดว่าจะบอกจุนฮเวกับซึงฮุนพร้อมๆกันเลย

             

    “ไม่เอาโว้ย สกปรกกลับเตียงเหอะไปๆๆๆๆๆๆ” แทฮยอนโวยวายออกมาแล้วดึงแขนทั้งสองคนกลับไปที่เตียงตัวเอง ที่เอาสองคนนี้ไปด้วยนี่ไม่ใช่อะไรนะ กลัวคนอื่นจะมาโดนตัวเองเข้า วันนี้เขาไม่ได้ใส่ถุงมือและก็ไม่ได้เอาขวดสเปรย์มาด้วย

             

    “เลิกมารักษาฉันได้แล้วเข้าใจป่ะ คนไข้อื่นมีเยอะแยะ รำคาญโว้ย” แทฮยอนบอกกับทั้งสองคนเป็นรอบที่ล้าน ฮันบินกับจุนฮเวเองก็อยากจะตอบกลับไปว่าเขาก็ไม่อยากจะมาดูแลแทฮยอนนักหรอกนะถ้าไม่ใช่เพราะเป็นเคสที่ซึงฮุนมอบหมายมาพวกเขาไม่สนแทฮยอนหรอก

             

    ฮันบินหันไปยักคิ้วกวนๆใส่คนคิ้วตกเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไป

     

     

     

              หลังจากที่หมดเวลาทำงานแล้วพวกเขาก็ตรงกลับไปที่ห้อง วันนี้ไม่มีขึ้นเวรทำให้พวกเขาไม่ต้องอยู่ดึกๆเหมือนคืนที่ผ่านๆมา แต่ข่าวดีกว่านั้นคือทั้งสองคนได้รหัสวายฟายของโรงพยาบาลมาสักที

               

    ฮันบินกดโทรศัพท์เข้าแอพพลิเคชั่นสื่อสารยอดนิยมก่อนจะกดเข้าไปในแชทกลุ่ม

     

     

     

     Read by 2  22.14 พี่ซึงฮุน

    Read by 2 22.14 พี่อยู่ป่าวเนี่ย

    Read by 2 22.20 ก็อ่านสองทำไมไม่ตอบวะพี่

    Read by 2 22.21 ไอ้ฮเวมึงก็ตอบสิให้กูคุยคนเดียวเหมือน

                                 คนบ้าหรือไง

    22.22

    กู!จุน!ฮเว! เปลี่ยนชื่อกลุ่มเป็น “หมอหล่อแห่งวายจี”

    กู!จุน!ฮเว! :

    กูมาละ 22.22

    Seunghoonie:

    มีไรป่าว 22.23

    Seunghoonie:

    เดี๋ยวๆใครเปลี่ยนชื่อกลุ่ม 22.23

     

    กู!จุน!ฮเว! : ผมเอง 22.24

     

    Read by 2 22.25 ชื่อเหมาะมาก5555555555555555555

     

    กู!จุน!ฮเว! :555555555555555555555 22.26

     

    Seunghoonie:

    พวกนายมีอะไรก็รีบบอกสิ พี่ต้องไปขึ้นเวรต่อ 22.26

     

    Read by 2 22.27 เรื่องคนไข้นัมแทฮยอนน่ะ

    Read by 2 22.27 พี่ดูแลเองได้ป่ะไม่ไหวละ กวนประสาทมากไป

    กู!จุน!ฮเว! :

    จริงๆอาการก็ค่อนข้างหนักอยู่นะ แต่มันไม่

    ยอมแสดงออกมาเท่าไหร่อ่ะ 22.28

    Seunghoonie:

    อ่า... 22.28

    Seunghoonie:

    งั้นพรุ่งพานัมแทฮยอนมาหาพี่อีกรอบละกันนะ 22.28

    Seunghoonie:

    พี่ไปขึ้นเวรแล้ว มีอะไรก็ทักมานะ 22.29

     

    22.29

    Seunghoonie เปลี่ยนชื่อกลุ่มเป็น “หมอฝึกหัด”

    กู!จุน!ฮเว! :

    เห้ย พี่เปลี่ยนชื่อกลุ่มทำไม 22.29

    กู!จุน!ฮเว! :

    บายพี่ 22.30

     

     

     

     

     

              “ขออนุญาติครับ” ฮันบินเปิดประตูเข้ามาในห้องตามมาด้วยจุนฮเวที่กำลังลากตัวนัมแทฮยอนเข้ามาด้านใน

              “พาคนไข้มาส่งอ่ะ” จุนฮเวว่าแล้วปรายตามองไปยังแทฮยอน

              “อืม ขอบใจมาก นายไปทำงานได้แล้ว” ทั้งสองคนโค้งลาคุณหมอก่อนจะเดินออกมา

              หมดเวรหมดกรรมกันสักทีนะนัมแทฮยอน!

     

                “บินมึงไปก่อนเลยกูเข้าห้องน้ำแปบ” ฮันบินพยักหน้าเบาๆแทนคำตอบห่อนจะเดินกลับไปที่วอร์ด ส่วนจุนฮเวก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ

              “เฮ้ย!!!!!!!!!!!!!!





    #มฮจุนบิน

     

    คนไข้ไม่เบาเพราะคนไข้อ้วน55555555555555555555555555555555555
    ฝากบอกนัมแทว่าโนแอลกอฮอล์นะคะ555555555555555555555555555555555555555555
    นอกจากคนไข้จะบ้าหมอจะบ้าแล้วคนแต่งก็บ้านะรู้ยัง55555555555555555555555555555
    ❥ด้วยรักจากแฟนจุนฮเว

     

     

    。SYDNEY♔
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×