คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : MADHOUSE | 。 วอร์ดศูนย์
วอร์ดศูนย์
“เชี่ยบิน ตื่น” ร่างสูงเอื้อมมือไปสะกิดเพื่อนสนิทของตัวเองที่ยังคงนอนหลับอยู่ที่เบาะหลังรถแท็กซี่ เหตุผลที่ยังไม่ตื่นก็เพราะว่าไอ้เพื่อนตัวดีนี่มันนั่งตีดอทถึงตีสามกว่าจะได้นอนก็ปาไปตีสี่ ส่วนเวลาตอนนี้แค่แปดโมงเท่านั้นเมื่อเช้าเขาเสียเวลากับการปลุกมันนานอยู่เหมือนกัน
“กูขอห้านาที” คิมฮันบินตอบมางัวเงียๆ
“ห้านาทีพ่อ งงนี่มันบนแท็กซี่นะไม่ใช่ที่หอ” ร่างสูงตบหัวคนที่เพิ่งตื่นไปแรงๆเป็นการปลุก
“เชี่ย กูตื่นแล้วก็ได้ มึงหลบไปดิ” ฮันบินลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจเล็กๆแล้วเดินไปหยิบกระป๋าสัมภาระที่ท้ายรถก่อนจะเดินเข้าไปในตัวโรงพยาบาล จุนฮเวเองก็หยิบของแล้วเดินตามเข้าไป
ร่างสูงเงยหน้ามองตึกด้านหน้าเล็กน้อย โรงพยาบาลแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ชานเมืองเดือดร้อนให้เขากับเพื่อนสนิทต้องมาอาศัยอยู่ที่นี่จนกว่าจะจบการฝึกงานรวมระยะเวลาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีพอดี รูปร่างหน้าตาของตึกค่อนข้างจะประหลาดจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นโรงพยาบาลหนำซ้ำยังหลังคาสีแดงแต่ดันทากำแพงสีเขียว เขาคิดว่านั่นมันไม่เข้ากันสักนิด
ร่างสูงเดินเข้าไปหาเพื่อนสนิทที่ยืนรออยู่ตรงเคาต์เตอร์ประชาสัมพันธ์(ดูท่าแล้วกำลังจะจีบพนักงานอยู่) แต่ยังเดินไปไม่ทันถึงก็มีผู้ชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาล็อกคอเขาไว้ก่อนจะมีบุรุษพยาบาลจำนวนมากมาล้อมเขาไว้ ส่วนเพื่อนสนิทอย่างคิมฮันบินยืนขำอยู่ท่ามกลางพนักงานที่ทำหน้าตกใจ
เชี่ยเอ้ย มาวันแรกผมก็โดนเล่นแล้วหรอวะเนี่ย
“อย่าเข้ามานะ ถ้าเข้ามามิโนแทงไอ้นี่แน่” คนที่เข้ามาล็อกคอพูดก่อนจะหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง
ไอ้แม่เยดมันมีมีดตั้งแต่เมื่อไหร่วะ
“คุณมินโฮใจเย็นๆนะครับอยากได้อะไรบอกหมอมานะครับ วางมีดลงก่อน”
“บอกว่าให้เรียกมิโนยังไงล่ะ!” ไอ้มินโฮเอ้ยมิโนอะไรนั่นตะโกนใส่คุณหมอก่อนจะล็อกคอเขาแน่นขึ้น
“โอเคครับๆ คุณมิโนวางมีดลงก่อนนะครับ แล้วอยากได้อะไรก็บอกหมอนะครับ” คุณหมอค่อยพูดให้คนไข้เย็นลง
“คิตตี้”
เชี่ยยย หน้าอย่างแมนเสือ กชอบคิตตี้ จุนฮเวจะเป็นลม
“คิตตี้อะไรครับคุณมิโน”
“ตุ๊กตาคิตตี้บนเตียงมิโนมันหายไป”
แล้วใครเอาตุ๊กตามันไปวะะะะะ
“คุณมิโนใจเย็นนะครับเดี๋ยวหมอซื้อตัวใหม่นะครับ” ทันทีที่คุณหมอพูดจบมีดที่อยู่ที่เอวจุนฮเวก็ค่อยๆลดลง
“ แล้วทำไมไม่บอกแต่แรกเล่า” ไอ้มินโฮมิโนอะไรนั่นปล่อยแขนออกจากคอของเขาก่อนจะเดินไปหาคุณหมอแล้วยื่นมีดคืนไปแต่โดยดี
บทจะง่ายมึงก็ง่ายจังอ่ะ
บุรุษพยาบาลพาตัวมิโนออกไปแล้วตอนนี้เหลือแต่คุณหมอฮีโร่ของจุนฮเว(?)กับคิมฮันบินที่กำลังยืนหัวเราะเขาอยู่
สะใจมากนะมึงอ่ะ
“ขอบคุณคุณหมอมากนะครับ ถ้าไม่มีหมอผมต้องตายแน่ๆ” จุนฮเวโค้งขอบคุณคุณหมอเบาๆ
“ไม่เป็นไรครับ หมอต้องขอโทษด้วยนะครับที่ปล่อยให้เกิดเหตการณ์แบบนี้”
“ไม่เป็นไรหมอ ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตการณืแบบนี้ทั้งนั้นแหละครับ”
“ครับ ว่าแต่คุณมาเยี่ยมคนไข้คนไหนครับ ถามหมอได้นะครับ”
“พวกผมเป็นแพทย์ฝึกหัดครับ” ฮันบินที่เงียบอยู่นานโค้งให้คุณหมอนิดๆ
หยุดขำได้แล้วเหรอมึงอ่ะ
“อ่อ จากมหาวิทยาลัยเคใช่มั๊ยครับ งั้นตามหมอมาเลยครับ” คุณหมอยิ้มรับก่อนจะเดินนำหน้าพวกเขาไป
ระหว่างทางที่เดินสายตาจุนฮเวก็สอดส่องไปเรื่อยๆ มองไปทั่วทุกแผนก ไม่ใช่ว่าสำรวจอะไรหรอกนะ จุนฮเวกำลังมองหาพยาบาลสาวสวยๆน่ารักๆสักคนแต่เท่าที่มองไปเขาเจอแต่พยาบาลแก่ๆทั้งนั้น นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เขาหงุดหงิด
จุนฮเวเปลี่ยนจากการมองหาพยาบาลสาวมาเป็นสำรวจโรงพยาบาลบ้าง เขาคิดว่าโรงพยาลนี้มนไม่ได้แย่อย่างที่เขาคิดไว้ โรงพยาบาลใหญ่โตเป็นระเบียบทำไมถึงมาอยู่แถบชานเมืองได้
คุณหมอฮีโร่ของจุนฮเว(?)พาพวกเขามาหยุดอยู่ที่หน้าห้องผู้อำนวยการโรงพยาบาล (หน้าห้องมันเขียนไว้อย่างนั้นอ่ะนะ)
“ผู้อำนวยการคงรออยู่ด้านใน พวกคุณเข้าได้เลยนะครับ” คุณหมอพูดยิ้มๆก่อนจะเดินจากไป
“ต้องให้กูบอกกี่ครั้งว่ายืนเฉยๆห้องมันไม่เข้ามาหามึงหรอก” พูดจบฮันบินก็ตบหัวเพื่อนสนิท แล้วเดินผ่านเข้าไป
ห้องผอ.หรือโรงงานผลิตของเล่นวะ ฟิกเกอร์อะไรเต็มไปหมด!!!
ตลอดทางที่เดินเข้ามาเต็มไปด้วยชั้นวางของซึ่งเต็มไปด้วยฟิกเกอร์ตัวการ์ตูนต่างๆ ถัดเข้าไปข้างผนังก็เต็มไปรูปภาพต่างๆ มีเซลฟี่คู่กับคนไข้ด้วยเว้ย ผู้อำนวยการนี่เฟี้ยวไม่เบา
ว่าแต่เมื่อไหร่มันจะถึงห้องสักทีวะ!!!
“เชี่ย” ร่างสูงสบถเบาหลังจากที่เดินชนหลังของเพื่อนสนิทที่อยู่ๆก็หยุดกระทันหัน
หยุดหาโพ่ง
“มึงหยุดทำไมไอ้บิน ยืนเฉยๆห้องมันไม่เดินมาหามึงหรอกนะ”
“ย้อนกูไอ้สัด” ฮันบินเอื้อมมือขึ้นไปตบหัวเพื่อนสนิทตัวสูงอีกครั้ง เขาไม่ชอบให้ใครมายอกย้อนหรอกนะ
“เชี่ย ละทำไมมึงไม่เข้าไป”
“กูไม่กล้า กูว่าข้างในมันน่ากลัว”
“ถุ้ย มานี่ๆ กูเอง” จุนฮเวเดินไปหน้าประตูแต่ก็ต้องถอยออกมา
กูเชื่อละว่าน่ากลัว
“เอางี้นะ กูเปิดประตูละมึงเข้าไปก่อน”
“ไม่ต้องๆ เดี๋ยวกูเปิดเองละมึงอ่ะเข้าไปก่อน”
“ไม่เอาดิมึง กูเดินนำหน้ามึงมานานละนะ กูให้มึงนำบ้างไงเพื่อน” ฮันบินยังคงต่อรองไม่หยุด
ไอ้เพื่อนเวรเดินนำกูมาตั้งนานตอนนี้เสือ กอยากให้กูเดินนำ
“มึงก็เดินนำมาก็เดินนำไปให้ตลอดดิวะ”
“มึงจะเข้าก่อนมะ ไม่เข้ากูไม่ติวให้แล้วนะ”
โอเคกูยอมมึงเลยเพื่อน
ฮันบินค่อยๆยื่นมือไปเคาะประตูเบาๆก่อนจะเลื่อนมือลงไปจับลูกบิดแล้วค่อยๆหมุนเบาให้ประตูเปิดออก จุนฮเวเดินเข้าไปในด้านในก่อนที่ฮันบินจะตามเข้ามา
น่ากลัวโพ่งผอ.นั่งดูการ์ตูนเน็ตเวิร์กอยู่....
“ผู้อำนวยการครับ” ฮันบินพูดขึ้นมา เรียกให้ผู้อำนวยการปิดกดปิดทีวีแล้วหันมามองทางพวกเขา
“พวกผมเป็นแพทย์ฝึกงานจากมหาวิทยาลัยเคครับ”
“อืม นั่งตรงนั้นได้เลย ยูจินออกไปก่อนนะ” ประโยคแรกพูดกับพวกเขาส่วนประโยคถัดไปหันไปพูดกับลูกสาวตัวเอง
ฮันบินและจุนฮเวนั่งลงที่โซฟาตัวยาวตรงข้ามกับโต๊ะผู้อำนวยการ
“แนะนำตัวสิ”
“คิมฮันบินครับ”
“กูจุนฮเว”
“ห๊ะ นายช่วยพูดกับฉันดีๆหน่อยได้มั๊ย” จู่ๆผู้อำนวยการก็หันมามองหน้าจุนฮเวที่ตอบห้วนๆ
“เชี่ยฮเว ขอโทษครับมันนามสกุลกูครับ” เป็นอีกครั้งที่จุนฮเวถูกเพื่อนสนิทตบหัว
คือกูผิดไรกูแค่บอกชื่อกู
“อ่าแล้วไป ฉันจะอธิบายงานที่พวกนายต้องทำกับเกณฑ์การให้คะแนนของโรงพยาบาลแล้วก็ส่วนต่างๆของโรงพยาบาลก่อนละกันนะ” ผู้อำนวยการบอกพวกเขาก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบแฟ้มด้านหลังขึ้นมาดูก่อนจะเริ่มอธิบาย
“พวกนายเข้าใจที่ฉันพูดไปนะ”
“เข้าใจครับ” จุนฮเวกับไอ้บินตอบไปพร้อมๆกัน
ผู้อำนวยการพูดถึงหน้าที่ที่พวกเขาต้องทำกับเกณฑ์การให้คะแนนของแพทย์ฝึกหัดอย่างพวกเขาแล้วก็อธิบายเรื่องโรงพยาบาลเล็กน้อย จับประเด็นได้คร่าวๆคือ งานที่พวกเขาต้องทำก็เป็นการขึ้นเวรตามวอร์ดต่างๆดูแลคนไข้ทั่วไปรวมทั้งตรวจสุขภาพถ้าหากโรงพยาบาลอื่นๆก็คงมีการเจาะเลือดแต่ที่นี่ไม่มีเพียงแค่พวกเขาต้องคอยดูแลไม่ให้คนไข้เดินออกนอกบริเวณวอร์ดที่พวกเขาอยู่ก็เท่านั้นแต่งานหนักที่อาจจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้คือกรณีของคนไข้มิโนที่หลุดออกไปด้านนอกซึ่งพวกเขาต้องคุมสถานการณ์ให้ได้เหมือนคุณหมอคนเมื่อเช้า หรืออาจจะมีหนักกว่านั้นหากคนไข้คุ้มคลั่งก็ต้องฉีดยาสลบคนไข้ให้ได้เพื่อยุติสถานการณ์ โดยงานของพวกเขาทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การดูแลของอาจารย์แพทย์และแพทย์ประจำโรงพยาบาลนี้ ส่วนคะแนนที่ได้ก็มาจากอาจารย์แพทย์ แพทย์ประจำโรงพยาบาลและผู้อำนวยการ รวมทั้งอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยด้วย
เรื่องโรงพยาบาลและที่พักของพวกเขาคือผมต้องพักที่ห้องพักแพทย์ฝึกหัดซึ่งอยู่ด้านหลังของตึกแต่ผู้อำนวยการบอกว่าคงจะไม่ค่อยได้ไปนอนเพราะงานมันเยอะอยู่พอสมควรสำหรับแพทย์ฝึกหัดที่มักจะโดนเรียกไปใช้งานบ่อยๆ
“ถ้าเข้าใจแล้วพวกนายก็ไปหาแพทย์พี่เลี้ยงของพวกนายซะนะ”
“ครับ งั้นพวกผมขอตัวนะครับ” ทั้งสองคนลุกขึ้นโค้งให้ผู้อำนวยการก่อนจะค่อยๆเดินออกจากห้องไป
พวกเขาเดินไปที่ห้องพักแพทย์ตามที่ผู้อำนวยการบอก ฮันบินเคาะประตูเบาๆก่อนจะเปิดประตูเข้าไปช้าๆ ด้านในห้องเต็มไปด้วยหมอหน้าตาแก่ๆนั่งอยู่เต็มไปหมด
หมอเยอะขนาดนี้แล้วใครเป็นหมอพี่เลี้ยงผมวะครับ
“ขอโทษนะครับพวกผมเป็นแพทย์ฝึกหัดมาจากมหาวิทยาลัยเคครับ” คนตัวเล็กกว่าพูดแล้วโค้งตัวลงก่อนจะกดหัวจุนฮเวให้ก้มลงตามด้วย
พวกหมอที่นั่งอยู่ในห้องพยักหน้าตอบเบาๆแล้วก้มลงไปสนใจกับงานของตัวเองต่อ
คือหมอพี่เลี้ยงผมไม่ได้อยู่ห้องนี้หรือไงวะ
“คือว่าพวกผมมาหาแพทย์พี่เลี้ยงตามที่ผู้อำนวยการบอกน่ะครับ” คิมฮันบินถามออกไปอีกครั้ง แต่คำว่าตามที่ผู้อำนวยการบอก เรียกให้หมอพวกนั้นเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง
“หืม แพทย์พี่เลี้ยงไม่ได้อยู่ห้องนี้นะ ห้องนี้มีแต่หมอแก่ๆที่คอยให้คะแนนพวกนายนะ” เสียงที่ดังขึ้นจากด้านหลังเรียกให้ทั้งคู่หันไปมอง
“รุ่นพี่ซึงฮุน!!!”
“คุณหมอซึงฮุนครับน้องบินน้องฮเว”
หลังจากที่รู้ว่าหมอพี่เลี้ยงของพวกเขาคือหมอซึงฮุน รุ่นพี่คนสนิทที่คอยติวหนังสือให้พวกเขาอยู่บ่อยๆ ความเครียดเรื่องคะแนนของจุนฮเวก็หายไปเขาคิดว่ายังไงรุ่นพี่ซึงฮุนก็ไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาสอบตกแน่นอน
“ยิ้มอะไรครับน้องฮเวคิดว่าเป็นพวกนายแล้วพี่จะไม่กล้าให้ตกหรอ”
“โหย พี่ซึงฮุนอย่าทำร้ายพวกผมเลย มาฝึกงานที่นี่ก็ลำบากมากพอละนะ” ซึงฮุนหัวเราะเบาๆก่อนจะตอบกลับมา
“ลำบากตรงไหนล่ะ พวกนายก็เว่อร์ไป พี่อยู่มาสองสามปีละนะ”
“สัญญาณอินเตอร์เน็ตเข้าไม่ถึงอย่างนี้พี่อยู่ได้เหรอครับ” ฮันบินที่เพิ่งหยุดเดินพูดขึ้น เมื่อกี้เขาเพิ่งเดินตามหาสัญญาณอินเทอร์เน็ตแถวๆนี้แต่ก็ไม่เจอ
“เอ้า ตอนเย็นๆพี่ก็กลับบ้านแล้ว ส่วนวันไหนมาขึ้นเวรก็ไม่ต้องเล่นโทรศัพท์ พวกนายก็ห่างๆโทรศัพท์บ้างก็ได้นะจะได้อ่านหนังสือกันเองไม่ต้องมาเดือดร้อนให้ฉันติว ละตอนเรียนก็ช่วยตั้งใจกันบ้างมาอยู่ที่นี่ก็ต้องตั้งใจชีวิตคนไข้อยู่ในมือของพวกนายนะ” ซึงฮุนบ่นออกมายาวๆ ก่อนหน้านี้ฮันบินกับจุนฮเวเหลวไหลยิ่งกว่าอะไรเขารู้กันทั่วมหาวิทยาลัย
“โห่ บ่นมาซะยาวเลยพี่ เรียนจะจบอยู่แล้วพวกผมจะปรับตัวคร้าบ”
“ให้มันจริงอย่างที่พูดละกัน ตามมาเดี๋ยวพาไปดูห้องพัก” คุณหมอพูดแล้วเดินออกจากห้องพักแพทย์ของตนเองพาไอ้แสบสองคนไปยังห้องพักนักศึกษาแพทย์ฝึกหัด ถึงจะเพิ่งมาอยู่สองสามปีแต่ซึงฮุนก็ทำงานเก่งมากเสียจนสามารถมีห้องทำงานส่วนตัวได้เลยทีเดียว
“เออพี่ ทำไมที่นี่ต้องมาอยุ่ชานเมืองด้วยวะ” อยู่ๆฮันบินก็ถามขึ้นมา
“พี่ก็ไม่รู้หรอกนะแต่ถ้าให้เดาคงกลัวคนไข้จะหลุดออกไปทำร้ายคนอื่นละมั้ง” ซึงฮุนพูดออกมาขำๆ
“อ่อ ครับ”
“อ้าวน้องฮเวมีอะไรจะถามบ้างมั๊ย” พูดแล้วหันหน้ามาทางร่างสูงที่ยังคงมองหาอาหารตาไปเรื่อยๆ
“มีพี่ คือทำไม่ที่นี่ไม่มีหมอหรือพยาบาลสวยๆบ้างวะพี่ เชี่ย” ไม่ต้องรอให้พูดจบมือฮันบินก็กระทบเข้าที่หลังหัวจุนฮเวอีกครั้ง
ฮเวไม่ได้ตั้งใจถามแต่มันหลุดปากไปแล้ว
“ไอ้เด็กนี่” ซึงฮุนขำกับคำถามไร้สาระของจุนฮเวก่อนจะตอบกลับไป “ ไม่ใช่ว่าที่นี่เขาไม่รับหรอกนะแต่นายก็รู้นี่ว่าที่นี่มันอยู่ชานเมือง พวกนายเองยังไม่อยากจะมาเลยไม่ต้องไปคิดถึงพวกผู้หญิงแบบที่พวกนายหวังหรอกนะ”
“เชี่ยมึงก็ถามไปได้” ฮันบินหันไปด่าจุนฮเวอีกครั้ง
ก็กูอยากรู้ว้อยยยย
“อ่ะ ถึงห้องพักพวกนายละ”
“ผมไปอยู่กับพวกพี่ไม่ได้อ่อ ที่นี่ไม่มีเน็ตอ่ะ” ทั้งคู่ยังคงขอร้องรุ่นพี่ต่อไป พวกเขาอยู่ได้ทุกที่ยกเว้นที่ที่ไม่มีเน็ต
“จะไปก็ได้นะ แต่ถ้าคนไข้เป็นอะไรต้องมาดูคนไข้ภายในห้านาทีนายทำได้มะ ขึ้นเวรอีก ไหนจะเป็นแพทย์ฝึกหัดเตรียมโดนพวกหมอๆรุ่นพี่ใช้งานได้เลย”
“โหพี่ งั้นพวกผมอยู่ที่นี่ก็ได้วะ” จุนฮเวตอบกลับไปเสียงอ่อน
“อยู่ๆไปเหอะ เข้าไปในห้องละนายจะหยุดบ่นเอง พี่ไปทำงานละ” ทั้งสองคนโค้งพี่ซึงฮุนอีกครั้งก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง
“มึงนอนนู้นไปนะ กูนอนนี่เอง”ฮันบินตะโกนบอกเพื่อนสนิทหลังจากที่ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงแล้ว
ไอ่นี่แม่ งเลือกเตียงใกล้ปลั๊กไฟ ขอให้ปลั๊กตรงนั้นเสีย ขอให้ไฟมันช๊อต เวลาไฟมันลัดวงจรมึงจะตายคนแรก กูขอให้....
“กูรู้ว่ามึงแช่งกูอยู่ในใจนะฮเว หยุดแช่งกูแล้วไปนอนทีเตียงตัวเองซะ รกหูรกตากูชิบหาย” ทันทีที่ฮันบินพูดจบหมอนที่เคยอยู่บนเตียงก็ลอยมาทางจุนฮเวก่อนจะตกลงบนพื้นหลังจากกระทบเข้าที่หน้าผากของเขา
ร่างสูงขว้างหมอนกลับไปที่เดิมแล้วเดินไปวางของลงบนเตียงตัวเองก่อนจะเดินไปทั่วๆห้อง ไม่ได้จะสำรวจอะไรเพียแค่กำลังหาสัญญาณอินเทอร์เน็ตแต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ
“แดกไรป่ะฮเว” ฮันบินบินตะโกนเรียกจุนฮเวที่กำลังเดินหาสัญญาณอยู่ในห้องน้ำ
“มีไรกูก็กินหมดแหละ”
“ในตู้เย็นมีอาหารแช่แข็ง หรือมึงจะไปโรงอาหารโรงพยาบาลตามที่ผอ.บอกวะ” ฮันบินตะโกนตอบหลังจากที่ปิดตู้เย็นไป
“ก็แล้วแต่มึงอ่ะ” จุนฮเวตอบกลับไปส่งๆ สายตากำลังจ้องอยู่กับขีดสัญญาณบนจอโทรศัพท์
“งั้นกูนอนละกันเย็นๆค่อยออกไปกินละกัน” พูดจบก็ทิ้งตัวลงบนเตียงอีกครั้ง เห็นอย่างนั้นส่วนร่างสูงก็เดินไปที่เตียงตัวเองบ้าง สัญญาณอะไรไว้ค่อยหาละกัน สิ่งเดียวที่เขาอยากจะทำตอนนี้คือนอนเท่านั้น
.
.
“พวกนายสองคนมาช่วยดูคนไข้หน่อย”
#มฮจุนบิน
สาระไม่ค่อยมีรักวายจีไปวันๆ5
5555555555555555555555555555555555555555555555555555555555
เรารักวายจีจริงๆนะ
วอร์ดศูนย์ไงเลยยังไม่มีคนไข้
คนไข้คนต่อไปน่ารักๆใสๆ แต่ไม่เบานะบอกเลย
❥ ด้วยรักจากแฟนจุนฮเว
ความคิดเห็น