ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Oh...My....GOD

    ลำดับตอนที่ #88 : ว่าด้วยเรื่อง "แม่น้ำสีเลือด"

    • อัปเดตล่าสุด 2 ม.ค. 56



    แม่น้ำสีแดง Rio Tinto แม่น้ำสีแปลก ที่ประเทศสเปน
    วว 16:4  ทูตสวรรค์องค์ที่สาม (แม่น้ำทั้งหลายกลายเป็นเลือด) เทขันของตนลงที่แม่น้ำ และบ่อน้ำพุทั้งปวง และน้ำเหล่านั้นก็กลายเป็นเลือด
     

    แม่น้ำสีแดง Rio Tinto แม่น้ำสีแปลก ที่ประเทศสเปน

    แม่น้ำสีแดง Rio Tinto แม่น้ำที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศสเปน ต้นกำเนิดมาจากเทือกเขา Andalusia ตั้งแต่ครั้งอดีตกาล พื้นที่ในแถบนี้เป็นเหมือง ถูกใช้ในการสกัดแร่ทองแดง เงิน ทอง และแร่อื่นๆอีกมากมาย จึงเป็นสาเหตุให้แม่น้ำเป็นสีแดงเข้ม น้ำในแม่น้ำมีความเป็นกรดสูง และยังอุดมไปด้วยโลหะหนักจำพวกธาตุเหล็ก

    แม่น้ำสีแดง Rio Tinto แม่น้ำสีแปลก ที่ประเทศสเปน


    รูปภาพ แม่น้ำสีแดง Rio Tinto แม่น้ำสีแปลก ที่ประเทศสเปน

     

    รูปภาพ แม่น้ำสีแดง Rio Tinto แม่น้ำสีแปลก ที่ประเทศสเปน

     

    รูปภาพ แม่น้ำสีแดง Rio Tinto แม่น้ำสีแปลก ที่ประเทศสเปน

     

    รูปภาพ แม่น้ำสีแดง Rio Tinto แม่น้ำสีแปลก ที่ประเทศสเปน

     

    รูปภาพ แม่น้ำสีแดง Rio Tinto แม่น้ำสีแปลก ที่ประเทศสเปน

     

    รูปภาพ แม่น้ำสีแดง Rio Tinto แม่น้ำสีแปลก ที่ประเทศสเปน

     

    รูปภาพ แม่น้ำสีแดง Rio Tinto แม่น้ำสีแปลก ที่ประเทศสเปน

     

    รูปภาพ แม่น้ำสีแดง Rio Tinto แม่น้ำสีแปลก ที่ประเทศสเปน

     

    รูปภาพ แม่น้ำสีแดง Rio Tinto แม่น้ำสีแปลก ที่ประเทศสเปน

     

    รูปภาพ แม่น้ำสีแดง Rio Tinto แม่น้ำสีแปลก ที่ประเทศสเปน

     

    รูปภาพ แม่น้ำสีแดง Rio Tinto แม่น้ำสีแปลก ที่ประเทศสเปน

     


     

    ปรากฏการณ์แม่น้ำสีแดง ในแคนาดา

    Cameron Falls

    Cameron Falls

    Cameron Falls

    Cameron Falls

    Cameron Falls

    Cameron Falls
     
     
    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก wikipedia
    captured by Rochelle Coffey/solentnews.co.uk
     
              เมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมล์ ของอังกฤษ ได้เปิดเผยภาพน่าทึ่งของแม่น้ำแม่น้ำที่กลายเป็นสีแดงทั้งสาย โดยภาพดังกล่าวเป็นภาพที่ช่างภาพสมัครเล่นชาวแคนาดาได้บันทึกไว้โดยบังเอิญ ขณะที่ไปพักผ่อนกับครอบครัวที่น้ำตกคาเมรอน รัฐอัลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา
     
              โดยราเชล คอฟฟีย์ ช่างภาพที่เก็บภาพปรากฏการณ์ดังกล่าว ได้เปิดเผยว่า เธอ กับสามีชอบเดินทางไปยังน้ำตกคาเมรอน เพื่อเก็บภาพความสวยงามของน้ำตกมานานกว่า 6 ปีแล้ว แต่เมื่อครั้งล่าสุดที่เธอไปเยือนนั้นเป็นช่วงฤดูฝน ที่น้ำตกมีน้ำมากพอสมควร และเป็นช่วงที่พายุฝนเพิ่งสงบได้ไม่นาน ซึ่งในวันนั้น เธอและสามีได้ขับรถไปยังลำห้วยที่น้ำจะไหลลงสู่น้ำตกแล้วหยุดพักผ่อนกัน บริเวณนั้น และทันใดนั้นเอง เธอและสามีก็ได้เหลือบไปเห็นแม่น้ำกลายเป็นสีแดงราวกับน้ำมะเขือเทศกำลังไหล ลงสู่น้ำตก เธอและสามีจึงรีบวิ่งลงไปที่น้ำตกก่อนที่สายน้ำสีแดงจะไหลลงไป ซึ่งเมื่อเธอและสามีวิ่งไปที่น้ำตก ก็รีบตั้งกล้องเพื่อรอเก็บภาพปรากฏการณ์มหัศจรรย์นี้ จนในที่สุด น้ำตกก็กลายเป็นสีแดง เธอจึงเก็บภาพความประทับใจนี้ไว้หลายภาพ และยืนชื่นชมมันตาไม่กระพริบ นอกจากนี้ ราเชลยังกล่าวอีกว่า ความจริงแล้วก่อนหน้าที่เธอจะวิ่งมาบริเวณน้ำตก มีช่างภาพอีกจำนวนหนึ่งกำลังถ่ายภาพน้ำตกเช่นกัน แต่พวกเขาก็กลับออกไปก่อนที่จะได้เห็นน้ำตกสีแดง ภาพน้ำตกสีแดงจึงมีเพียงเธอและสามีเห็นเท่านั้น
     
              สำหรับปรากฏการณ์ดังกล่าว สามารถอธิบายได้ว่า เนื่องจากก่อนหน้าที่จะเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าว พื้นที่บริเวณนั้นมีฝนตกหนักมากเป็นเวลานาน ชะล้างตะกอนสีแดงที่เรียกว่า อาร์โกไลต์ ที่ทับถมกันอยู่บนหินให้ไหลลงสู่ลำห้วย และทำให้สายน้ำกลายเป็นสีแดงในที่สุด
     


    น้ำเสียสีแดงในฮังการี ไหลลงสู่แม่น้ำดานูบ


    สารพิษตะกอนสีแดง

     



    น้ำเสียสีแดงในฮังการี ไหลลงสู่แม่น้ำดานูบ (ไอเอ็นเอ็น)

               สารพิษตะกอนสีแดง ที่รั่วไหลจากโรงงานอุตสาหกรรม ในฮังการี ไหลลงสู่แม่น้ำดานูบแล้ว

               สหภาพยุโรป และเจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อม เกิดความหวั่นเกรงว่า จะเกิดภัยพิบัติด้านสิ่งแวดล้อม ที่ส่งผลกระทบต่อ 6 ประเทศสหภาพยุโรป หลังน้ำตะกอนสารพิษสีแดง ที่ไหลออกจากอ้างเก็บน้ำเสียของโรงงานอลูมิเนียมในฮังการี ที่แตกรั่ว ได้ไหลลงสู่แม่น้ำดานูบ แม่น้ำสายสำคัญและยาวที่สุด ในสหภาพยุโรปแล้ว เมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดี (ตามเวลาท้องถิ่น) โดยเจ้าหน้าที่จาก ประเทศ โครเอเชีย , โรมาเนีย และ เซอร์เบีย ได้รับตัวอย่างน้ำภายหลังสารพิษ ไหลลงสู่แม่น้ำดานูบได้ไม่นาน และหวังว่า แม่น้ำดานูบ อันกว้างใหญ่จะทำให้สารพิษดังกล่าว เจือจางลงได้บ้าง

               โดย น้ำตะกอนสารพิษสีแดง ที่ไหลลงสู่แม่น้ำดานูบ ซึ่งจะไหลผ่าน ประเทศโครเอเชีย เซอร์เบีย บัลแกเรีย โรมาเนีย มอลโดวา ก่อนจะไหลลงสู่ทะเลดำที่ประเทศ ยูเครน ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ ได้ใช้ปูนปลาสเตอร์และปุ๋ย ในการแก้ปัญหาสารอัลคาไลน์ ที่ปนเปื้อนอยู่ในน้ำเสีย ซึ่งจากการอ่านค่า pH ครั้งล่าสุด พบว่า มีสูงถึง 9.1 สูงกว่าค่าปกติที่ pH7 แต่ถือว่า ลดลงจากระดับ pH13 ในช่วงแรกที่เริ่มท่วมเมืองอัจคา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย และต้องอพยพผู้คน 250 คน ออกจากพื้นที่





    เกิดขึ้นที่จีน.........
    แม่น้ำสีเลือดที่จีน ผลกระทบจากมลพิษโรงงาน !!


    สำนักข่าวต่างประเทศเผยภาพ แม่น้ำเจี้ยนเหอ ในเมืองลั่วหยาง มณฑลเหอหนัน ประเทศจีน ที่น้ำกลายเป็นสีแดงเลือด

    ทั้งนี้ สำนักข่าวท้องถิ่นรายงานว่า สาเหตุที่น้ำในแม่น้ำเจี้ยนเหอกลายเป็นสีเลือดนี้ เกิดจากสารพิษที่ถูกปล่อยออกมาจากการย้อมสีของโรงงานเถื่อน 2 แห่ง

    โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้นำน้ำไปวิเคราะห์เพื่อหาทางบำบัดและฟ้องร้องโรงงานเถื่อนทั้ง 2 แห่งแล้ว







    เอามาจาก Mthai

     


    รอย เตอร์ / ไชน่าเดลี่ 22/11/06 - แม่น้ำฮวงโห หรือแม่น้ำเหลือง ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศจีน ในช่วงที่ไหลผ่านเมืองหลันโจว มณฑลกันซู่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ได้เปลี่ยนจากสีเหลือง กลายเป็นสีแดง นับเป็นครั้งที่ 2 ในเวลา 1 เดือน
           
           เหตุการณ์ดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการสืบหาสาเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมเมืองปักกิ่ง ระบุว่า เป็นไปได้อย่างมาก ว่า เกิดการรั่วไหลจากโรงงานที่ทำน้ำร้อนสำหรับระบบทำความร้อน เพื่อให้ความอบอุ่นแก่อาคารบ้านเรือนในเมือง เนื่องจากทางโรงงานได้เติมสีย้อมสีแดงลงไปในน้ำร้อน เพื่อป้องกันคนลักน้ำจากท่อไปใช้
           
           เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เหตุการณ์ที่คล้ายคลึงเกิดขึ้นได้เกิดขึ้นในตอนเดียวกันของแม่น้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดสินว่าเกิดจากสาเหตุใด
           
           เมื่อเดือนกรกฎาคม นักวางผังเมืองของปักกิ่งได้เสนอให้แม่น้ำเหลือง เป็นแหล่งน้ำฉุกเฉินสำหรับการบริโภค ให้แก่ประชากร 2.5 ล้านคนที่จะเพิ่มขึ้นระหว่างมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปี 2008 แต่นักสิ่งแวดล้อมแสดงความกังขา เนื่องจากมลภาวะของน้ำมากจนไม่เหมาะแก่การบริโภค หรือว่ายน้ำ
           
           นอกจากนี้ แม่น้ำเหลืองซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำหรับประชากรมากกว่า 150 ล้านคน และที่ดินเกษตรกรรม 15% ของประเทศจีน ยังกำลังประสบปัญหาความแห้งแล้ง ระดับน้ำได้ลดลงเนื่องจากอากาศร้อนและปริมาณน้ำฝนน้อย

    คลิกชมภาพต่อไป




     

    •*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•

    ::::::...*...*...*...*...*...*...*...*...*...*...::::::
    *¨**: I LOVE JESUS ♥ :**¨*
    ::::::...*...*...*...*...*...*...*...*...*...*...::::::
    •*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•


     

     


               รู้มั๊ยคะว่า  โลกของเรานี้ มีทะเลสาบสีชมพูด้วย?   และ เมื่อได้มีโอกาสเห็นภาพจากตากล้องนักเดินทางหลาย ๆ ที่ ก็คงได้แต่บ่นพึมพำว่า เอ้ย! มีอยู่จริงด้วย  ณ ตอนนี้เท่าที่ทราบมานั้น ปัจจุบันมีทะเลสาบสีแปลกอยู่หลายแห่งบนโลก  วันนี้ เรามาดูทะเลสาบสีชมพูกันเลยค่ะ  ว่าเป็นเพราะสาเหตุอันใด จึงทำให้เราเห็นว่า ทะเลสาบนั้น ๆ มันเป็นสีชมพู…

      ทะเลสาบเร็ตบา


       


              ทะเลสาบเร็ตบาในประเทศเซเนกัล  กลายเป็นสีชมพูนมเย็น ซึ่งเกิดจากปฏิกิริยาเคมีของแบคทีเรีย Dunaliella Salina ที่ชอบอาศัยอยู่ใน น้ำเค็มจัด

              มองดูเผินๆ เหมือนคนงานชาวแอฟริกันเหล่านี้กำลังพายเรืออยู่ท่ามกลางแม่น้ำที่แดงก่ำไป ด้วยสีเลือด แต่ในความเป็นจริงแล้ว สีสันที่แปลกตาของน้ำ เกิดจากปริมาณเกลือเข้มข้น โดยบางจุดอาจมีสัดส่วนเกลือสูงถึง 40%



               กิจวิตรประจำวันของคนงานเหล่านี้คือ การพายเรือลงไปใน ทะเลสาบเร็ตบา ประเทศเซเนกัล เพื่อเก็บรวบรวมเกลือมากองรวมไว้ที่ริมทะเลสาบ

              น้ำในทะเลสาบแห่งนี้มีคุณสมบัติไม่แตกต่างจากทะเลสาบเดดซี ซึ่งทำให้ คนสามารถลงไปนอนลอยตัวเล่นได้โดยที่ไม่จม



              ไมเคิล แดนสัน  ผู้ เชี่ยวชาญด้านแบคทีเรียที่เจริญในสภาพแวดล้อมสุดขั้ว (extremophile bacteria) จากมหาวิทยาลัยบาธ ระบุว่า สีของทะเลสาบที่เหมือนกับนมรสสตรอเบอร์รีเกิดจากแบคทีเรีย Dunaliella Salina ซึ่งชอบอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เค็มจัด

              “ พวกมันจะผลิตสารสีแดงที่ช่วยดูดซับแสงอาทิตย์เพื่อสร้างพลังงาน ทำให้น้ำกลายเป็นสีชมพู ” แดนสันกล่าว

              “ ในอดีตคน เราเคยเชื่อว่า ทะเลสาบที่เค็มจัดอย่างเร็ตบาและเดดซีคงไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอาศัยอยู่ได้ พวกมันจึงได้รับการขนานนามเช่นนั้น แต่ในความเป็นจริง ทะเลสาบเหล่านี้ก็มีชีวิตชีวามากทีเดียว ”



              สาหร่ายดูนาลิเอลลา ( Dunaliella salina ) เป็นสาหร่ายที่มีลักษณะเด่นคือ สามารถสร้างสาร เบต้าคาโรทีน ได้สูงมาก สายพันธุ์นี้ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดลองและวิจัยสายพันธุ์


    Dunaliella salina










    1.
           หวาหลงหว่าง - เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2555 ที่ผ่านมา บริเวณท่าเรือเฉาเทียนเหมิน เมืองฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ชาวเรือและประชาชนที่สัญจรไปมาต่างพบเห็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าทึ่ง โดยสายน้ำในแม่น้ำแยงซีเกียงบริเวณนั้นกลายเป็นสีแดงเข้มคล้ายกับสีโลหิต มนุษย์
           
           เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ได้เดินทางมาตรวจสอบ สันนิษฐานว่าปรากฏการณ์นี้น่าจะเกิดจากสาเหตุที่ในฤดูน้ำหลากบริเวณต้นน้ำ แยงซีเกียง กระแสน้ำได้พัดพาเอาดินโคลนสีแดงบริเวณต้นน้ำมาจำนวนมาก
           
           นอกจากนี้จากการตรวจสอบเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ยังยืนยันด้วยว่าไม่พบว่า มีโรงงานอุตสาหกรรมใดปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำจนก่อให้เกิดปรากฏการณ์น้ำในแม่ น้ำเปลี่ยนสีเป็นสีแดงเข้มขนาดนี้ ส่วนรายละเอียดของผลการวิเคราะห์คุณสมบัติน้ำจะมีการรายงานให้ทราบต่อไป
     
    2.
           
     
    3.
           
     
    4.
           
     
    5.
           
     
    6.
           
     
    7.
           
     
    8.
           
     















    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก apollo.lv


    เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2555  ที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษ รายงานว่า เกิดปรากฏการณ์น่าทึ่งขึ้นในชายหาดบอนดี้ เมืองซิดนีย์ของออสเตรเลีย เมื่อน้ำทะเลกลายเป็นสีแดงน่าฉงน สร้างความประหลาดใจให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ปิดชายหาด แนะประชาชนเลี่ยงลงว่ายน้ำ หวั่นเป็นพิษต่อผิวหนัง

    ปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนบริเวณชายหาดบอนดี้ ต้องตกตะลึงกับปรากฏการณ์แปลก เมื่อน้ำทะเลสีแดงได้แทรกตัวอยู่ในน้ำทะเลสีปกติ ก่อนจะถูกกระแสน้ำพัดเข้าชายฝั่ง ทำให้เจ้าหน้าที่ชายหาดบอนดี้ต้องประกาศเตือนประชาชนเลี่ยงลงเล่นน้ำ เพราะไม่รู้ว่าน้ำทะเลสีแดงนี้มีสารที่ทำให้ระคายเคืองผิวเจือปนมาหรือไม่ ก่อนจะปิดชายหาดในที่สุด ขณะที่ชายหาดแห่งอื่นที่อยู่ใกล้เคียง ก็ประสบกับปรากฏการณ์ดังกล่าวเช่นกัน และหลายหาดก็มีการประกาศปิดหาด หวั่นผลกระทบต่อสุขภาพ

    ทั้งนี้สำหรับปรากฏการณ์ดังกล่าว เกิดจากสาหร่ายทะเลขนาดเล็กจิ๋วจำนวนมหาศาลที่รวมกลุ่มกันอยู่ในทะเลมีการ ขยายตัวในระดับที่ผิดปกติ จึงทำให้เห็นเป็นน้ำทะเลสีแดงดังกล่าว ปรากฏการณ์นี้สามารถพบเห็นได้หลายแห่งทั่วโลก โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งทะเล อาจปรากฏเป็นสีชมพู น้ำตาล หรือเขียว แล้วแต่พื้นที่และปัจจัยเกื้อหนุนของน้ำทะเล หากพวกมันหนาแน่นมาก ๆ จะทำให้น้ำขาดออกซิเจน และทำให้สัตว์น้ำในพื้นที่นั้นตาย อย่างไรก็ดี มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อมนุษย์เสมอไป แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ทางเจ้าหน้าที่กล่าวว่าสาหร่ายจุลชีพนี้มีแอมโมเนียสูง ก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิว หรือดวงตาได้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×