คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #87 : นิมิต เรื่องไฟ แห่งพระเจ้า ในวันที่ 18 มิ.ย 55
วันที18 มิถุนายน 2555
เช้าวันนี้ พระเจ้าปลุกตอน ตีสามเศษ ท้ายตื่นขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น วันนี้ก็เป็นอีกวันที่บอกให้พระเจ้าทรงปลุกก่อนนอน และพระองค์ก็ทรงสัตย์ซื่อ ปลุกเร็วกว่าปรกติ = =!
วันนี้ท้ายตั้งเป้าว่า จะถามพระเจ้าเรื่อง นิมิตที่เห็นในวันศุกร์อธิษฐาน ขณะที่ท้ายอธิษฐานและนมัสการอยู่นั้น ท้ายเห็นภาพนั้นซ้ำๆ แต่ก็ไม่มีเสียงใดๆที่พระเจ้าจะบอกว่ามันคืออะไร ท้ายเห็น อสูรร้ายตัวใหญ่มาก
ทั้งร่างของมันลุกท่วมไปด้วยไฟ มันเผาผลาญทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวมันด้วยความดีใจอย่างบ้าคลั่ง เมืองทั้งเมืองถูกเผาผลาญ ตามมาด้วย มังกรพ่นไฟตัวใหญ่ มันทำลายทุกสิ่ง ทุกพื้นที่มอดไหม้ในเวลาไม่ช้า ท่วมกลางความดีอกดีใจของมันทั้งสองคน ในวันศุกร์ท้ายได้แต่ทูลถามพระเจ้าว่า ภาพนั้นพระเจ้ากำลังจะบอกอะไร ในใจได้แต่คิดว่านั้น คงเป็นมารซาตานที่มันคอยมาขัดขวางในการอธิษฐานเหมือนทุกๆครั้งหรือเปล่านะ ยิ่งเห็นภาพท้ายยังพยายามปัดมันออกไปให้พ้นๆหัวของตัวเอง และท้ายก็พยายามที่จะต่อสู้และอธิษฐานด้วยสุดใจในวันนั้น
แต่ภาพนี้มันกลับมาอีกครั้งในวันสะบาโต ท้ายรู้ว่าท้ายไม่จดจ่อกับพระเจ้าเท่าไร เพราะได้รับมอบหมายหน้าที่ใหม่ เพื่อเป็นพรกับพี่น้อง แต่แค่หลับตาอธิษฐานภาพนี้ก็ขึ้นมาอีกท้ายก็จึงแน่ใจว่า พระเจ้าต้องการบอกอะไรแน่ๆ แต่ด้วยความไม่ นิ่ง เงียบ และจิตใจไม่จดจ่อทำให้ท้าย มิอาจเข้าใจในสิ่งที่พระเจ้าให้เห็นได้
วันนั้นท้ายได้มีโอกาศคุยกับพี่น้องท่านหนึ่งที่มีของประทานเดียวกัน คล้ายๆกันคือผู้เผยพระวจนะ ทุกครั้งที่พระเจ้าให้เห็น ท้ายจะได้มาพร้อมๆกับความเข้าใจในน้ำพระทัยพระเจ้า แต่วันนี้ ลับไม่ได้เข้าใจ มันทำให้ท้ายคิด
เสมอว่า ท้ายมีความบาปอะไรที่พระเจ้าทรงใช้ไม่ได้หรือเปล่า พี่น้องท่านนั้น แนะนำให้ท้าย นิ่งๆและหาเวลาเงียบๆคุยกับพระเจ้าใหม่ คุกเข่าจริงๆว่าพระเจ้าสำแดงอะไร
วันนี้ท้ายเลยตั้งใจว่า เวลาเช้ามืดเป็นเวลาอันดีที่จะทูลถามพระเจ้าถึงภาพที่เห็น
ขอบพระคุณพระเจ้าที่พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อเมื่อเราคุกเข่า ภาพนั้นกลับมาเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เห็นต่อจากนั้น คือ เมืองทั้งเมืองมอดไหม้ ผู้คนล้มตาย บ้านเรือนพังเสียหาย ต้นไม้ทุกต้นดำเป็นตอตะโก เหตุการณ์ทุกอย่างผ่านพ้น อสูรร้ายและมังกรจากไปด้วยความชื่นชมยินดี ท้ายนั่งลงกับพื้นคุกเข่า ภาพที่อยู่เบื้องหน้ามันไม่ได้น่าดูเลย ท้ายปาดน้ำตาออกจากแก้ม แล้วนิ่งเงียบ หวังว่าพระเจ้าจะทรงตรัสเหมือนอย่างทุกครั้ง
“พระองค์เจ้าข้า สิ่งที่ข้าพระองค์เห็นคือสิ่งใด”
ท้ายไม่ได้รับคำตอบใดๆในตอนนั้น สิ่งที่เห็นคือสายลมพัดพาละอองฝุ่นดำๆเต็มท้องฟ้าไปหมด ฝนเริ่มตกลงมาซ้ำกระหน่ำ แต่สิ่งที่เห็นหลังจากนั้น คือความสงบเงียบ พื้นดินดำไปหมด แต่ฝุ่นละอองนั้นไม่มีอีกแล้ว
สิ่งที่เห็นต่อจากนั้นคือ ต้นไม้บางต้นยังไม่ตาย มันเริ่มพลิกดอก ออกใบ มันพยายามที่จะมีชีวิตอีกครั้ง ใบสีเขียวขจีของมัน เริ่มงอกออกมา และมีเสียงหนึ่งที่ท้ายคุ้นเคยดังขึ้น
“เราบอกความจริงแกเจ้าว่า เราจะอณุญาติให้สิ่งนี้เกิดขึ้น เราจะส่งไฟลงมาเผาผลาญประชากรของเรา จะมีคนเป็นอันมากล้มตาย เพราะเราเป็นพระเจ้าที่ เพ่งดูภายในจิตใจ บุคคลใดที่ยั้งรากลึกชีวิตของเขาให้อยู่ในเรา ผู้นั้นจะรอดจากเหตุการณ์นี้ ผู้ใดรักเราและเชื่อไว้วางใจเราเพียงแค่ผิวเผินเราจะทำลายเสีย เพราะเราคือพระเจ้าที่เที่ยงแท้ ผู้ที่เดินติดตามเราก็ต้องเป็นคนที่เที่ยงแท้ โอประชากรของเราเอ๋ย อีกนานสักเท่าใด ที่เจ้าหลงระเริงกับโลกใบนี้ หลงระเริงกับความบาป หลงระเริงกับความสะดวกสบาย หลงระเริงกับเนื้อหนัง และคิดเอาเองว่า พระเจ้าทรงพอพระทัย นานเพียงใดที่เจ้าจะกลับใจและยั่งรากแห่งชีวิตของเจ้าให้อยู่ในเราอย่างแท้จริง เลิกถือสิ่งสารพัดแล้วกลับมาหาเราผู้เที่ยงแท้ เพราะว่าสิ่งของบนโลกนี้ สักวันมันจะมดไหม้ และไม่มีสักอย่างที่จะยั้งยืน แต่ชีวิตที่อยู่ในเราจะมีชีวิต ชีวิตที่ยั่งรากของเขา ลงลึกถึงความอุดมสมบูรณ์ในเรา แม้เขาจะเจอไฟสักกี่ครั้งเขาจะงอกขึ้นมาไหม่ แม้เขาล้มลงกี่หน เขาก็จะมีชีวิต และชูช่อที่งดงามนั้น จะไม่มีสิ่งใดต้านทานเขาได้ เพราะเขาอยู่ในเรา และเราอยู่ในเขา บุตรที่รักของเราเอ้ย เราปราถนาความรอบรู้ในพระเจ้า มากกว่าเงินทอง เราปราถนาความจงรักภักดีมากกว่าสิ่งสารพัด จงกลับใจเสียใหม่และยั่งรากลึกในเราเถิด เพราะว่าผู้ที่ทนได้ถึงที่สุดผู้นั้นจะรอด รอดนิจนิรันดร พระเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าดังนี้แหละ
ความคิดเห็น