ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Oh...My....GOD

    ลำดับตอนที่ #85 : ---รู้ทัน "กับดัก" ของ มารซาตาน ----

    • อัปเดตล่าสุด 25 มิ.ย. 55



     

    ข้าพเจ้าของแนะนำพี่น้องให้อธิษฐาน ก่อนที่จะอ่านบทเรียนนี้ร่วมกันนะคะ

     ก้มหัวและหลับตา นึกถึงพระเจ้าด้วยกัน

    ข้าแต่พระเจ้าผู้สูงสุดขอวันนี้พระเจ้าทรงโปรด ชำระล้างชีวิตของเรา ทั้งผู้กล่าวพระวจนะของพระเจ้าและผู้ที่ฟังพระวจนะของพระองค์  ขอพระองค์ให้เราได้พบกับพระองค์หน้าต่อหน้าในวันนี้ ขอพระเจ้าทรงผูกมัดผีมารซาตานอย่าให้มันมีสิทธิมีส่วนในการนี้ ในเวลานี้ที่เราจะเรียนรู้พระวจนะคำของพระเจ้า ขอพระเจ้าเปิดหูเปิดตาฝ่ายวิญญาณของเรา เพื่อที่เราจะเข้าใจในน้ำพระทัยของพระเจ้าอย่างลึกซึ้ง ขอพระเกียรติทั้งสิ้นเป็นของพระผู้

    เป็นเจ้า มิใช่เป็นของผู้เขียน อธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสตเจ้าเอเมน

     

     

    กับดักมารซาตานกับคริสเตียน

    สดด 91:3 

    เพราะพระองค์จะทรงช่วยกู้ตัวท่านจากกับของพรานนก และจากโรคภัยอย่างร้ายแรงนั้น

     

    พระองค์จะทรงช่วยกู้ตัวท่านจากกับของพรานนกความปราถนาของพระเจ้าคือ การช่วยเหลือเราให้เรารอดพ้นจาก กับดักที่มารซาตานวางเอาไว้  น้ำพระทัยสูงสุดของพระองค์คือ ชัยชนะร่วมกับพระองค์ รอดพ้นจากกับดักทั้งปวง  เราปฏิเสธไม่ได้ว่า ชีวิตคริสเตียนต้องเดินอยู่ใน สงครามฝ่ายวิญญาณในทุกๆเช้าวันใหม่  ทุกลมหายใจ  การที่เข้าสู่น้ำพระทัยอันสูงสุดของพระเจ้าได้นั้น จึงต้องเรียนรู้ทันมารซาตาน ไม่งั้นเราก็ก้าวผ่านไปไม่ได้

    มารมักใช้มุกเดิมๆ แต่ก็ได้ผลทุกครั้ง มีอะไรบ้าง

     

    1.ความกระวนกระวาย

    ความกระวนกระวาย ตรงข้ามกับ "การไว้วางใจพระเจ้าด้วยสิ้นสุดจิตสุดใจ"
      ความกระวนกระวายคือการร้อนรุ่ม ร้อนรน  เช่น  มีหนี้มากมาย ใครๆเขาก็มาทวงหนี้ แต่พระเจ้าไม่ให้เราเป็นหนี้ผู้ใด เราจะเอาไรใช้หนี้เขา เราก็กระวนกระวาย วิ่งหาเงินหยิบยืมมาจ่าย คิดไปก่อนพระเจ้า  เผื่อพระเจ้าไม่ให้  เผื่อพระเจ้าจะไม่ได้ยินคำอธิษฐานของเรา เผื่อว่า พระเจ้าเกิดไม่รักเราขึ้นมาวันนี้   เผื่อว่า พระเจ้าเมินเฉยกับเรา  พรุ่งนี้ไม่มีเงินใช้ เงินในกระเป๋ามีน้อยนิด  ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเอาอะไรกิน เอาอะไรดื่ม  พระเจ้าบอกว่า  นกในอากาศพระเจ้าก็ดูแลมัน แล้วเราเป็นใคร ไม่ใช่ลูกของพระเจ้าหรือ?? ไม่ใช่บุตรของพระองค์หรือ???

    ถ้าเรามั่วแต่สงสัย แล้วพึ่งพาตัวเองมากกว่าพระเจ้า เราจะเห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าได้อย่างไร ท่านร้องขอจากคน จากมนุษย์มากกว่าพระเจ้าหรือเปล่า ???
    ไม่มีเงินในกระเป๋าท่านตัดสินใจ คุกเข่าอธิษฐาน หรือ โทรหาคนรวยขอยืมเงิน
    ท่านเอ่ยปากขอจากพระเจ้า หรือเอ่ยปากขอจากมนุษย์
    ท่านพึ่งพามนุษย์คนบาปหรือ พึ่งพาพระเจ้า

    วันนี้ต้องมานั่งคิดว่าเราตอบสนองอย่างไร การตอบสนองของเราในแต่ละเหตุการณ์บงบอกถึง หัวใจที่รนลานของเรา 

     "การไว้วางใจ"  เมื่อคุณมอบหนี้สินให้พระเจ้าแล้ว ปล่อยให้พระเจ้าจัดการ อย่าเก็บมาคิดอีก
    ถ้าเก็บมาคิดอีกก็ไม่ต่างอะไรกับการไม่ปล่อยวางให้พระเจ้าแล้วไม่ให้เลย  เมื่อเราเข้ามาปรึกษาพระเจ้า  แต่ไม่ทำตามใจพระเจ้า แล้วจะมาปรึกษาหาอะไร??? เพื่อ???

     ถ้าเป็นเราจะรู้สึกยังไง เราหงุดหงิดไหม ขอให้เราทำให้แล้ว แต่ยังมายุ่งวุ่นวายกับเราอีก ให้งานเราทำแล้วยังมาจู่จี้จุกจิก เป็นเราเรารู้สึกยังไง

    ขอบพระคุณพระเจ้าที่พระองค์ทรงอดทนนานกว่าเราพระองค์ทรงเข้าใจในความจำกัดของเรา แต่พระองค์ก็อยากให้เรา  รู้จักที่จะวางใจในพระเจ้าด้วยสุดจิตสุดใจของเรา พระองค์จะทรงสอนเราในทุกๆวัน

     

    มธ 6:34 

    เหตุฉะนั้น อย่ากระวนกระวายถึงพรุ่งนี้ เพราะว่าพรุ่งนี้คงมีการกระวนกระวายสำหรับพรุ่งนี้เอง แต่ละวันก็มีทุกข์พออยู่แล้ว

    มีเพียงพอสำหรับวันนี้ และมีเพียงพอสำหรับพรุ่งนี้ พระคุณพระเจ้ามีเพียงพอ ในทุกๆวัน

    อย่าคิดไปก่อนพระเจ้า อย่าเอาความคิดตัวเองไปจำกัดพระเจ้า พรุ่งนี้จะต้องจ่ายเงินธนาคารสองแสนแต่เงินในกระเป๋ามีสองร้อย  แค่พระองค์ทรงตรัสทะเลก็สงบแล้ว แค่พระองค์ทรงตรัส สรรพสิ่งก็บังเกิดแล้ว อย่าเอาความจำกัดของเราไปจำกัดความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า 

     

    ฟป 4:4 

    จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา ข้าพเจ้าขอย้ำอีกครั้งว่า จงชื่นชมยินดีเถิด

    ฟป 4:5 

    จงให้จิตใจที่อ่อนสุภาพของท่านประจักษ์แก่คนทั้งปวง องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ใกล้แล้ว

    ฟป 4:6 

    อย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใดๆ เลย แต่จงทูลเรื่องความปรารถนาของท่านทุกอย่างต่อพระเจ้า ด้วยการอธิษฐาน การวิงวอน กับการขอบพระคุณ

    ฟป 4:7 

    แล้วสันติสุขแห่งพระเจ้า ซึ่งเกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจ และความคิดของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์

    จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา ข้าพเจ้าขอย้ำอีกครั้งว่า จงชื่นชมยินดีเถิด

    ทุกสถานการณ์พระเจ้าควบคุมอยู่ ถ้าพระเจ้าไม่อณุญาติให้เกิด มันก็เกิดขึ้นไม่ได้ในชีวิตเรา
    เมื่อพระเจ้าอณุญาติให้เกิดพระองค์ก็มีหนทางให้เราหลีกเลี่ยงและมีชัยชนะได้
    วันนี้ต้องนั่งมองให้ทะลุทะลวงในเหตุการณ์ทุกเหตุการณ์พระเจ้าแค่ทดลองทดสอบหัวใจของท่าน ท่านต้องก้าวผ่านพ้น ข้าม!!!!!!สิ่งเหล่านั้นแล้ว มีชัยชนะให้ได้
    เพราะความพ่ายแพ้ไม่ใช่พ่อของเรา แต่พ่อของเราคือพระเยซูคริสต์ผู้มีชัยชนะเหนือทุกสิ่ง


    แต่จงทูลเรื่องความปรารถนาของท่านทุกอย่างต่อพระเจ้า ด้วยการอธิษฐาน การวิงวอน กับการขอบพระคุณ

    พระเจ้าให้เราตอบสนองความกระวนกระวายใจ  ด้วยการร้องทูลความปราถนาของท่าน

    พี่น้อง!!!!!!!! พระเจ้าเป็นพระเจ้าที่ทรงสร้างหู พระองค์จะไม่ทรงได้ยินเสียงของท่านหรือ???
    พระเจ้าเป็นพระเจ้าที่ทอดพระเนตรที่จิตใจ พระองค์จะไม่ทรงล่วงรู้ความปราถนาของท่านหรือ

    แต่วันนี้พระเจ้าปราถนาให้ท่าน ไว้วางใจพระองค์ผู้เป็นพระบิดาของท่าน
    ตอนนี้ท่านวางใจใครอยู่???
    เจ้านายที่มีเงินเยอะๆ คนร่ำรวยในฝ่ายโลกหรือ พวกที่มีสรรพสิ่งที่ไม่ยั่งยืนหรือ??
    ท่านวางใจในความดีของตนเอง วางใจในทรัพสินของตน  วางใจคนรอบข้าง วางใจในกำลังของตนเอง  ท่านหันหน้าของท่านไปหา "มนุษย์" หรือ "พระเจ้า"

     

     แล้วสันติสุขแห่งพระเจ้า ซึ่งเกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจ และความคิดของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์

    ถ้าท่านวางใจพระเจ้าแล้ว พันธสัญญานี้จะเป็นจริง
    ท่านจะได้พบสันติสุขโดยพระเจ้าจนน้ำตาไหล ความสุขมันจะทะลักเข้ามาในจิตใจของท่าน
    พระเจ้าไม่ได้ให้ของที่ดูจิ๊บๆ ไม่ได้ให้ของที่ดี ไม่ได้ให้ของดีมาก หรือ พอใช้
    แต่พระเจ้าให้ของที่ดีที่สุด พระคุณของพระเจ้าจะทำให้ท่านสำลัก เอ่อล้นมาเป็นสันติ เอเมน
    !!!!
    มันจะมาเกินความเข้าใจของมนุษย์อย่างเรา มันจะมาเกินความคาดมายของเรา
    เพราะ พ่อ ของเราคือพระเจ้าผู้ทรงสร้างสรรพสิ่ง ที่แม้มนุษย์จะพยายามสร้างตามแบบพระเจ้าก็ทำไม่ได้  มอบความกระวนกระวายนั้นให้กับพระเจ้าเป็นผู้จัดการ อย่ามกมุ่นในตัวเอง ฝากความปราถนาของท่านไว้กับพระเจ้าในวันนี้
    แล้วท่านจะเห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าในชีวิตของท่าน

     

     

    2. ความไม่กระตือลือล้น


    วว 3:15 

    'เรารู้จักแนวการกระทำของเจ้า เจ้าไม่เย็นไม่ร้อน เราใคร่ให้เจ้าเย็นหรือร้อน

    วว 3:16 

    เพราะเหตุที่เจ้าเป็นแต่อุ่นๆ ไม่เย็นและไม่ร้อน เราจะคายเจ้าออกจากปากของเรา

    เป็นแต่อุ่นๆ ไม่ร้อนไม่เย็น พระเจ้าก็ไม่เอา พระบลาอันก็ไม่เชิง
    เขาชวนไปโบสถ์อธิษฐาน ก็เอเมน ฮาเลลูยา วันหลังเขาชวนไปดูหมอดูก็ไป
    ท่านจะเอาทางไหนกันแน่????
    จะเอาพระเจ้าก็เอาพระเจ้าเดียว จะรักพระเจ้าก็รักพระเจ้าหัวปักหัวปรำไปเลย 
    ชีวิตของคนเรามีแค่สองอย่าง
    ไม่เชื่อฟังพระเจ้าก็เชื่อฟังมาร
    ไม่อยู่ภายใต้พระเจ้า ก็อยู่ภายใต้มาร
    ไม่ไกล้พระเจ้าก็ไกล้มาร
    วันนี้ท่านอยู่ไกล้ใคร อยู่ไกล้ใครก็พูดเหมือนคนคนนั้น คิดเหมือนคนนั้นพูดเหมือนคนนั้น
    วันนี้เรา คิดเหมือนใคร พูดเหมือนใคร และทำเหมือนใคร

     

     

    ยน 8:44 

    ท่านทั้งหลายมาจากพ่อของท่านคือมาร และท่านใคร่จะทำตามความปรารถนาของพ่อท่าน มันเป็นผู้ฆ่าคนตั้งแต่ปฐมกาล และมิได้ตั้งอยู่ในสัจจะ เพราะมันไม่มีสัจจะ เมื่อมันพูดเท็จ มันก็พูดตามสันดานของมันเอง เพราะมันเป็นผู้มุสา และเป็นพ่อของการมุสา

     

    และท่านใคร่จะทำตามความปรารถนาของพ่อท่าน มันเป็นผู้ฆ่าคนตั้งแต่ปฐมกาล และมิได้ตั้งอยู่ในสัจจะ

    มันครอบครองโลกตั้งแต่ ปฐก. ตั้งแต่มนุษย์คู่แรกตัดสินใจเชื่อฟังมัน ตั้งแต่มนุษย์ตัดสินใจทำตามความปราถนาของมัน (ไม่เชื่อฟังพระเจ้ากินผลไม้ที่พระเจ้าสั่งห้ามเอาไว้)
    มัน  ใช้คำว่า 
    จริงหรือ??? อยู่กับเรามานาน 
    จริงหรือที่เราทำบาปแล้วพระเจ้าจะไม่รัก
    จริงหรือขาดโบสถ์วันเดียวแล้วพระเจ้าจะไม่รัก 
    จริงหรือ? ที่พระเจ้าจะไม่ใจดีกับเรา
    จริงหรือที่พระเจ้าให้ทำอย่างนี้ 

    ไม่จริงหรอก

    คำพวกนี้มันอยู่กับเราจนเราทำจนเป็นนิสัย จนเป็นนิสัย อุ่นๆตามนิสัยของมาร 
    มาหาพระเจ้าแล้วเหนื่อย มาหาพระเจ้าแล้วลำบาก มาหาพระเจ้าแล้วทนทุกข์  ขออยู่ตรงกลาง
    ขออยู่ทางสายกลาง ขออยู่อย่างนี้ ขอนอนเหยียดยาวตรงนี้

    ขอไม่ตัดสินใจอะไรเลย ขอแค่ไปโบสถ์ในทุกๆวันอาทิตย์ แล้วก็กลับบ้านไปทำตามเนื้อหนัง
    ที่เราเคยทำมาแล้วตั้งแต่ ปฐก. หกวันทำตามใจตัวเอง
    พอวันที่เจ็ดก็ค่อยมาชำระล้างตัวเอง พระเจ้ารู้  พระเจ้าเข้าใจ  พระเจ้ามีพระคุณ
    อย่า
    !!!!!สักแต่รับพระคุณพระเจ้า

    ความรักของพระเจ้าไม่ได้ทำให้ท่านรู้สึกอะไรเลยหรือ

    ท่านเคยรักใครสักคนไหม
    ถ้าท่านรักใครสักคนจริงๆ เมื่อท่านได้รับความรักนั้นมา ท่านจะอยากตอบแทนความรักนั้น
    ด้วยการทำอะไรสักอย่าง  เมื่อท่านรักใครสักคนท่านจะอยากเจอหน้าเขาคนนั้นทุกๆวัน ทุกๆเวลา
    อยากพูดคุย แม้ลำบากแค่ไหนก็อยากพบอยากเจอ
    นั้นเป็นภาพของการกระหายหา เป็นดั่งกว้างน้อยที่กระหายหาน้ำ

    อยากได้อยากเจออยากมี อยากพูดคุย ท่านรักพระเจ้าได้ขนาดนั้นหรือยัง

     

    หรือทุกวันนี้ท่านแค่รับรู้ว่า พระเจ้ารักท่านและแม้ท่านจะทำอะไรพระเจ้าก็อภัยให้ท่านเสมอ
    ความพ่ายแพ้ความพลาดพลั้งเป็นชีวิตของท่าน การไม่ผ่านอะไรเลย เป็นนิสัยของท่าน
    อะไรก็ไม่เคยจะผ่าน อะไรก็ไม่เคยจะฟังเสียงพระเจ้า การตัดสินใจอะไรก็ขอให้เป็นเสียงของเรา ชีวิตเรา เราเป็นเจ้าของ  อย่าให้เป็นเช่นนั้นเลย  เพราะว่า พระเจ้าบอกว่า จะ
    คาย ท่านออกเสีย

     

    3. ความเคยชิน

    ความเคยชิน คือ  ทำอะไรซ้ำๆ จนไม่รู้สึกอะไรแล้ว ทำมันซ้ำๆ แม้หลับตาก็ทำได้

    อธิษฐานด้วยความเคยชิน ไม่สดใหม่กับพระเจ้า ถึงเวลาลุกท่านก็ลุกขึ้นมานั่ง แล้วก็พูดๆๆๆท่องได้เป็นตอนๆ เริ่มจากสารภาพบาปตามด้วยสรรเสริญพระเจ้า ตามด้วยของพระเจ้าสถิตอยุ่ด้วย เป็นรูปแบบ เป็นหัวข้อ 123 ตามลำดับ แบบนี้ทุกวัน  เราพูดด้วยลมปาก แต่มันไม่ได้ออกมาจากใจ ไม่ได้ออกมาจากความคิด ความนึกคิดของเรา การสารภาพบาปคุณรู้ไหมว่าคุณต้องสารภาพบาปเรื่องอะไรในวันนี้ ชีวิตของคุณบาปใดที่คุณยังผ่านไม่ได้ ถ้าคุณอธิษฐานเช้า เมื่อวานนี้มีบาปใดที่คุณยังไม่ผ่าน คุณยังคงชอบนั่งในที่ๆพวกนิทรานั่งกันไหม? คุณยังพูดด่าเสียดสีคนหรือไม่ คุณยังคงซื้อหวยซื้อเบอร์ตามกระแสไหม? คุณยังคงกินเหล่าสูบบุหรี่ไหม คุณยังคงใช้ความคิดของคุณล่วงประวนีกับหญิงสาวนุ่งสั้นเดินผ่านหน้าคุณไหม? คุณขับรถไปมีคนขับรถปาดหน้าคุณ คุณยังคงตะโกนด่าบิดามารดาเขาไหม? สิ่งเหล่านี้ พระเจ้าบอกว่า ผู้ใดมีจิตสำนึกผิดผู้นั้นก็เป็นสุข คุณสารภาพบาปโดยไม่มีจิตสำนึกผิด คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณทำบาปอะไรมา ท่องสารภาพผิดบาปทั้งหลายทั้งสิ้นทั้งปวง แน่นอนเรามีบาปมากมาย แต่คุณรู้หรือไม่ว่าบาปในตัวคุณคืออะไร อย่าอธิษฐานนสารภาพบาปด้วยความเคยชินโดยที่คุรไม่รู้ว่า วันๆหนึ่งคุณทำบาปอะไรบ้าง อย่าอธิษฐานเพียงแค่ลมปากโดยที่คุณไม่ได้เอาคำอธิษฐานของคุณเป็นเครื่องเผาบูชาที่พอพระทัยพระเจ้า  วันนี้คุณปราถนาสิ่งใด อธิษฐานจากใจของคุณ อย่าขอแค่ลมปาก แต่คำอธิษฐานในให้มาจากจิตใจ จากความนึกคิดของเรา ไม่ใช่ปากอธิษฐาน เรื่องนี้ แต่ในสมองเราคิดไปอีกเรื่อง จดจ่อกับคำอธิษฐานนั้นๆ ปากกับใจให้ตรงกันต่อหน้าพระพักต์พระเจ้า ไม่ใช่เข้ามาพูดๆกับพระเจ้าแต่สายตามองไปไหนไม่รู้ อย่าให้ชีวิตการไป วันสะบาโต เป็นเพียงหน้าที่ ไม่ใช่ความรักที่ท่านอยากไปหาพระเจ้า อยากไปหยุดพักจิตวิญญาณของท่าน อย่าให้คำร้องสรรเสริญพระเจ้า เป็นมาด้วยความเคยชินร้องจนติดปาก แต่ท่านไม่ได้คิดตามตามเนื้อหาในเนื้อร้องนั้นๆ  อย่าให้ชีวิตของท่านท่องพระคัมมภีร์ได้ทุกข้อทุกตอน แต่ท่านไม่เคยเอามาเป็นชีวิต ไม่เคยเอามาเป็นการกระทำ ท่านรู้ ท่านเข้าใจ แตต่ท่านไม่ตอบสนองไม่กระทำแล้วจะมีประโยชน์อะไรเล่า ท่านก็ไม่ต่างอะไรกับฟาริสี ที่รู้เข้าใจ ท่องได้ แต่ไม่ทำ

     

    4.การไม่เห็นคุณค่าสิทธิบุตรหัวปี

    การไม่เห็นคุณค่า แห่งน้ำพระทัยสูงสุดของพระเจ้า การไม่เห็นคุณค่าในพระพรที่พระเจ้าจะประทานให้

    ปฐก 25:25 

    คนแรกคลอดออกมาตัวแดงมีขนอยู่ทั่วตัวหมด เขาจึงตั้งชื่อว่า เอซาว

     

    เหมือนเช่นเอซาวที่ยอมแลกสิทธิบุตรหัวปีกับถั่วต้ม แลกพระพรของพระเจ้าด้วยของกิน แลกแผ่นดินสวรรค์เพียงแค่ความสบายในชีวิตโลก แลกมงกุฏนิรันดร์ กับเงินทองที่เราเอาไปด้วยไม่ได้  แลกร่างกายจิตใจจิตวิญญาณของตนด้วยเหล้าขวดเดียว ด้วยบุหรี่ม้วนเดียว 

      

    ปฐก 32:25 

    เมื่อบุรุษผู้นั้นเห็นว่า จะเอาชนะยาโคบไม่ได้ ก็ถูกต้องที่ข้อต่อตะโพกของยาโคบ ขณะที่ปล้ำสู้กัน

     ข้อต่อตะโพกของยาโคบก็เคล็ด

    ปฐก 32:26 

    บุรุษนั้นจึงว่า "ปล่อยให้เราไปเถิด เพราะใกล้สว่างแล้ว" แต่ยาโคบตอบว่า "ข้าพเจ้าไม่ยอมให้ท่านไป นอกจากท่านจะอวยพรแก่ข้าพเจ้า"

     

    ยาโคบปล้ำสู้ เห็นคุณค่า เขาปล้ำสู้กับการง่วงนอน ปล้ำสู้กับความเหนื่อยล้าของร่างกาย เพื่อให้ได้มาซึ่งพระพร ของพระเจ้า เพราะเขารู้ว่า พระพรที่พระเจ้าจะให้เขานั้น มันนิรันดร์ ไม่ใช่หยาดเยื่อ

    5.ทรัพย์สิน ชื่อเสียง เงินทอง

    สิ่งเหล่านี้ ทำให้คริสเตียนหลายคนออกจากทางของพระเจ้าง่ายๆ วันอาทิตย์ไปทำงานได้เงินสองเท่า 

    วันอาทิตย์มีคนมีลูกค้ามากกว่าวันธรรดา  มันเป็นเรื่องที่ทำให้เราต้องตัดสินใจกับพระเจ้าตลอดเวลา ทำงานจนดึก ทุกวันจะได้เป็นหัวหน้าคน จะได้ทั้งเงินเดือนเพิ่ม จะได้ทั้งยศ ไม่มีเวลารับใช้พระเจ้า ไม่มีแม้กระทั่งเวลาอธิษฐานกับพระเจ้า สิ่งเหล่านี้ มารซาตานมักเอามาเป็นกับดักเสมอ และคริสเตียนอย่างเราๆก็มักตกม้าตายเสมอ และมุกนี้ก็มักได้ผลกับคริสเตียนเสียด้วย

     

    พี่น้องถ้าวันนี้เรารู้ทันมาร เราจะตัดสินใจอย่างถูกต้องตามน้ำพระทัยสูงสุดของพระเจ้า ได้พระเจ้าท่านจะได้ทุกสิ่ง

    มธ 6:33 แต่ท่านทั้งหลายจงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า และความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ให้

    ถ้าท่านละทิ้งทุกสิ่งเพื่อพระเจ้า พระเจ้าก็จะทรงสัตย์ซื่อพระองค์จะทรงเพิ่มเติมทุกอย่างคืนให้แก่ท่าน

     

    6. การไม่ชอบถูกตักเตือน

    สภษ 29:1 

    บุคคลที่ถูกตักเตือนบ่อยๆ แต่ยังแข็งคอ ประเดี๋ยวคอจะหัก รักษาไม่ได้

    คนที่ไม่ชอบการตักเตือน คนนั้นเป้นคนโง่ เพราะชีวิตของเขาจะไม่ได้รับการพัฒนาเลย อย่ามาสอน” “อย่ามาทำเป็นรู้ดี อย่ามาพูด ตัวเองทำให้ได้ก่อนเถอะ พี่น้องถ้าวันนี้พระเจ้าใช้เด็กมาพูดกับเรา เราก็ต้องรับฟัง ถ้าวันนี้พระเจ้าอณุญาติให้ลามาพูดกับเราเราก็ต้องฟังแม้มันเป็นแค่สัตว์ก็ตาม คำพูดทุกคำพูดที่ผ่านหูเรามาพระเจ้าอณุญาติให้เกิด จงฟังแล้วเอามาใคร่ครวญถ้ามันไม่ใช่ ก็ขอบพระคุณพระเจ้าแล้วทิ้งมันไป ถ้ามันใช่ก็ขอบพระคุณพระเจ้าเพราะนั้นหมายถึงโอกาศที่ท่านจะได้พัฒนาชีวิต พี่น้องคนที่มาเตือนท่าน นั้นเพราะเขารักและหวังดีกับท่าน ไม่มีใครอยากมาเตือนคนหรอกพี่น้อง เพราะนั้นหมายถึงความเสี่ยงที่จะโดนด่ากลับ ถ้าเขาไม่รักท่านจริง เขาจะเตือนท่านหรือ???

    ฮบ 13:17 

    ท่านทั้งหลายจงเชื่อฟัง และยอมอยู่ในโอวาทของหัวหน้าของท่าน จงให้เขาทำงานนี้ด้วยความชื่นใจ ไม่ใช่ด้วยความเศร้าใจ ซึ่งจะไม่เป็นประโยชน์อะไรแก่ท่านทั้งหลายเลย เพราะว่าท่านเหล่านั้นดูแลรักษาจิตวิญญาณของท่านอยู่ เสมือนหนึ่งผู้ที่จะต้องเสนอรายงาน

    พี่เลี้ยงของท่านคือคนที่พระเจ้าแต่งตั้งเอาไว้ ให้ควบคุมดูแลชีวิตของท่าน ท่านมาสอน มาตัดเตือนแม้ว่าท่านผู้นั้นจะอายุน้อยกว่า แม้ว่าท่านผู้นั้นจะเรียนน้องกว่า ตำแหน่งน้อยกว่า  แต่พระเจ้าแต่งตั้งเขา เรียกเขาก่อน ให้เกียรติเขา ยอมอยู่ในโอวาทของเขา ผู้นำก็เป็นมนุษย์คนบาปเหมือนๆกับท่าน บางครั้งบางคราวทำผิดทำพลาดเราผู้ตามมีหน้าที่สนับสนุนเขา อธิษฐานเผื่อเขาด้วยความรัก

     

    อสย 14:13 

    เจ้ารำพึงในใจของเจ้าว่า 'ข้าจะขึ้นไปยังฟ้าสวรรค์ เหนือดวงดาวทั้งหลายของพระเจ้า ข้าจะตั้งพระที่นั่งของข้า ณ ที่สูงนั้น ข้าจะนั่งบนขุนเขาชุมนุมสถาน (คือ สถานเทพชุมนุม) ณ ที่อุดรไกล

    อสย 14:14 

    ข้าจะขึ้นไปเหนือความสูงของเมฆ ข้าจะกระทำตัวของข้าเหมือนองค์ผู้สูงสุด'

     

    การที่เราไม่ชอบการตักเตือนนั้นหมายความว่า เราเอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง เอาตัวเองเป็นที่ตั้งไม่ใช่พระเจ้า ก็ไม่แตกต่างอะไรกับความหยิ่งพยอง ไม่แตกต่างอะไรกับ ลูซีเฟอร์ที่เอาตัวเองเป็นใหญ่ ข้าจะนั่งบัลลังก์แทนพระเจ้า บัลลังก์ใจของเราวันนี้ให้พระเจ้านั่งหรือตัวตนตัวเองนั่งอยู่

    ยก 4:6 

    แต่พระองค์ก็ได้ทรงประทานพระคุณเพิ่มขึ้นอีก เหตุฉะนั้น พระคัมภีร์จึงกล่าวว่า พระเจ้าทรงต่อสู้ผู้ที่หยิ่งจองหอง แต่ทรงประทานพระคุณแก่คนที่ใจถ่อม

    ประทานพระคุณแก่คนที่ใจถ่อม   ถ่อมจนถึงที่สุด ถ่อมจนยอมให้พระเจ้านั่งบนบัลลังก์ใจ ให้พระองค์คิดแทนคุณ ทำแทนคุณ พูดแทนคุณ  ความหยิ่งพยองที่อยู่ในตัวคุณพระเจ้าจะไม่ยอมมัน พระเจ้าจะต่อสู้มันจนถึงที่สุด อย่าให้สิ่งเหล่านี้ มาขวางกั้นธารพระพรของพระองค์ในชีวิตของคุณ อย่าให้กับดักนี้เป็นหนามใหญ่ในชีวิตของคุณที่มันจะคอยทิ่มแทงคุณตลอดเวลา จนคุณยอมพ่ายแพ่นอนเยียดยาวในที่สุด

     

     

    7. ความบาป

    มนุษย์คู่แรกพลาดจากน้ำพระทัยพระเจ้า เพราะ ความบาป

    ความบาปมีมากมายที่พลากเราไปจากพระเจ้า เป็นกับดักที่มารซาตานใช้เป็นเครื่องมือของมันตั้งแต่ปฐก.จนปัจจุบัน เรื่องหลักๆคือ ...

     

    7.1 เพศตรงข้าม
     

    ปฐก 39:7 

    โยเซฟนั้นเป็นคนสวยหน้าตาคมคาย อยู่มาภายหลังภรรยาของนายมองดูโยเซฟด้วยความปฏิพัทธ์ และชวนว่า "มานอนกับฉันเถิด"

    ปฐก 39:8 

    แต่โยเซฟไม่ยอม จึงตอบแก่ภรรยาของนายว่า "คิดดูเถิด เมื่อมีข้าพเจ้า นายก็มิได้ห่วงสิ่งใดซึ่งอยู่ในบ้านเรือน ได้มอบของทุกอย่างที่มีอยู่ไว้ในมือข้าพเจ้า

    ปฐก 39:9 

    ในบ้านนี้ นายก็ไม่ใหญ่กว่าข้าพเจ้า นายมิได้หวงสิ่งใดจากข้าพเจ้า ยกเสียแต่ตัวท่านเพราะเป็นภรรยาของนาย ข้าพเจ้าจะทำความผิดใหญ่หลวงนี้อันเป็นบาปต่อพระเจ้าอย่างไรได้"

    ปฐก 39:10 

    แม้นางชวนโยเซฟวันแล้ววันเล่า โยเซฟก็ไม่ยอมนอนกับนางหรืออยู่ด้วยกัน

    โยเซฟ เป็นแบบอย่างที่ดีในการก้าวผ่านการทดลองทดสอบนี้ ชวนโยเซฟวันแล้ววันเล่าเจอทุกวัน ผู้ชายพี่น้องเจอผู้หญิงยั่วยวนทุกวัน น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน แต่โยเซฟไม่หวั่นไหวในหลักการของพระเจ้าเลย

     

    แซมสัน
      

    วนฉ 16:2 

    มีคนไปบอกชาวกาซาว่า "แซมสันมาที่นี่แล้ว" เขาก็ล้อมที่นั้นไว้ และคอยซุ่มที่ประตูเมืองตลอดคืน เขาซุ่มเงียบอยู่คืนยังรุ่ง กล่าวว่า "ให้เรารออยู่จนรุ่งเช้าแล้วเราจะฆ่าเขาเสีย"

    วนฉ 16:3 

    แต่แซมสันนอนอยู่จนถึงเที่ยงคืน พอถึงเที่ยงคืนท่านก็ลุกขึ้น ยกประตูเมืองรวมทั้งเสาสองต้น พร้อมทั้งดาลประตูใส่บ่าแบกไปถึงยอดภูเขา ซึ่งอยู่ตรงหน้าเมืองเฮโบรน

    วนฉ 16:4 

    อยู่มาภายหลัง แซมสันไปรักผู้หญิงคนหนึ่งที่หุบเขาเมืองโสเรก ชื่อ เดลิลาห์

    แซมสันตายเพราะผู้หญิง แต่สุดท้ายพระเจ้าก็มีพระคุณในวาระสุดท้ายของเขา

     

    ดาวิด
     

    2 ซมอ 11:2 

    อยู่มา เวลาเย็นวันหนึ่ง เมื่อดาวิดทรงลุกขึ้นจากพระแท่น และดำเนินอยู่บนดาดฟ้าหลังคาพระราชวัง ทอดพระเนตรจากหลังคาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งอาบน้ำอยู่ หญิงคนนั้นสวยงามมาก

    2 ซมอ 11:3 

    ดาวิดทรงใช้คนไปไต่ถามเรื่องผู้หญิงคนนั้น คนหนึ่งมากราบทูลว่า "หญิงคนนี้ชื่อ บัทเชบา บุตรีของเอลีอัม ภรรยาของอุรีอาห์คนฮิตไทต์มิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ"

    2 ซมอ 11:4 

    ดาวิดก็ทรงใช้ผู้สื่อสารไปรับนางมา นางก็มาเฝ้าพระองค์ แล้วพระองค์ทรงสมสู่กับนาง (พอดีนางได้ชำระตัวให้สิ้นมลทินของนางแล้ว) แล้วนางก็กลับไปเรือนของตน

    2 ซมอ 11:5 

    ผู้หญิงนั้นก็ตั้งครรภ์ นางจึงใช้คนไปกราบทูลดาวิดว่า "หม่อมฉันตั้งครรภ์แล้ว"

     

    ดาวิดล่วงประเวณีภรรยาทหารเอกของตน จนสั่งให้สามีเขาไปตายในสนามรบ

    ทำบาปกับพระเจ้า ดาวิดเลยไม่ได้สร้างพระนิเวศของพระเจ้า พระพรนี้ตกไปถึงซาโลมอนแทน

     

     

    7.2 ความอิจฉาริษยา


    1 ซมอ 18:7 

    และเมื่อพวกผู้หญิงเต้นรำรื่นเริงกันอยู่นั้น ก็ขับร้องรับกันว่า "ซาอูลฆ่าคนเป็นพันๆ และดาวิดฆ่าคนเป็นหมื่นๆ"

    อย่าเอาพระพรของตนไปเปรียบเทียบกับพระพรของผู้อื่น ของพี่น้องท่านอื่น พระเจ้าตั้งเราให้เป็น อวัยวะต่างๆซึ่งเสริมสร้างซึ่งกันและกัน จงระวังเรื่องนี้ เพราะมันเป็นกับดักของมารที่ท่านจะโกธรเกลียด พี่น้องของท่านโดยไม่ได้ตั้งใจ ท่านจะเมินเฉยต่อพี่น้องของท่านโดยไม่รู้ตัว ท่านจะทำบาปกับพระเจ้าด้วยการสะดุดและขมขื่นในที่สุด ในจิตใจของท่านจะมืดดำจนลบล้างไม่ได้ เหมือน ซาอูล

     

    7.3 การไม่ยอมให้อภัยผู้อื่น

    มธ 18:21 

    ขณะนั้น เปโตรมาทูลพระองค์ว่า "พระองค์เจ้าข้า หากพี่น้องของข้าพระองค์จะกระทำผิดต่อข้าพระองค์เรื่อยไป ข้าพระองค์ควรจะยกความผิดของเขาสักกี่ครั้ง ถึงเจ็ดครั้งหรือ"

    มธ 18:22 

    พระเยซูตรัสตอบเขาว่า "เรามิได้ว่าเพียงเจ็ดครั้งเท่านั้น แต่เจ็ดครั้งคูณด้วยเจ็ดสิบ"

     7 คูณ 70 ครั้ง ไม่ได้หมายความว่า พอครั้งที่ 450 เราจะไม่อภัยให้เขาแล้ว แต่พระเยซูกำลังจะบอกว่า อภัยให้เขาเสมอ อภัยเสมอ เหมือนที่พระเจ้าอภัยให้กับเรา นั้นเอง

     

    7.4 ความรักโลกมากกว่าพระเจ้า

    1 ยน 2:15 

    อย่ารักโลก หรือสิ่งของในโลก ถ้าผู้ใดรักโลก ความรักต่อพระบิดาไม่ได้อยู่ในผู้นั้น

    รักความสะดวกสบาย สิ่งเหล่านี้มันอยู่ในโลก รักการ์ตูน รักหนัง รักละคร รักนิยาย  รักรถมากกว่าพระเจ้า รักอะไรบางสิ่งบางอย่างที่อยู่บนโลกมากกว่ารักพระเจ้า นั้นเอง

     

    7.5 ความไม่สัตย์ซื่อ

    กจ 5:1 

    แต่มีชายคนหนึ่งชื่ออานาเนีย กับภรรยาชื่อสัปฟีรา ได้ขายที่ดินของตน

    กจ 5:2 

    และเงินค่าที่ดินส่วนหนึ่งเขายักเก็บไว้ ภรรยาของเขาก็รู้ด้วย และอีกส่วนหนึ่งเขานำมาวางไว้ที่เท้าของอัครทูต

    เรื่องง่ายๆที่ คริสเตือนมักตกม้าตายคือสัตย์ซื่อในการ อธิษฐานเฝ้าเดี่ยว พระเจ้าวันนี้ฝนตกอากาศน่านอนขอนอนก่อนนะพระเจ้า พอสาย  O{}O!!!อะย๊ากกกกสายแล้วต้องไปทำงานไม่ได้อธิษฐาน พี่น้องถ้าเราไม่เป็นองุ่นที่ติดกับเถาองุ่น เราก็จะเหี่ยวแห้งตายในที่สุด เรื่องพื้นๆนี้ถ้าพี่น้องทำได้ พี่น้องก็จะสัตย์ซื่อในทุกๆเรื่องได้

    วันนี้ขอพระเจ้าอวยพระพรท่าน เพราะท่านเป็นผู้ที่มีชัยชนะเหนือมารซาตานแล้ว

    ท่านอดทนอ่านจนจบนั้นท่านก็มีชัยชนะแล้ว

    ท่านมิได้เบื่อหน่ายในพระคำพระเจ้า นั้นท่านก็ได้ผ่านการทดลองทดสอบแล้ว

    ท่านอ่านบทเรียนนี้จนจบโดยที่ท่านไม่หล่นหลับไปก่อนท่านก็มีชัยชนะแล้วขอพระเจ้าอวยพระพรพี่น้องทุกท่านที่ไม่ยอมพลาดจากน้ำพระทัยอันสูงสุดของพระเจ้าคะ ^^

     

     

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×