ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Oh...My....GOD

    ลำดับตอนที่ #54 : Super Moon กับ Bible อีกหนึ่งรหัสลับของ (พระจันทร์กลายเป็นสีเลือด)

    • อัปเดตล่าสุด 14 เม.ย. 55


    จากใจคนเขียนบทความนี้.....
    ข้อมูลทั้งหมดที่เขียนขึ้น เกิดจาก การรวบรวมข้อมูล ของผู้เขียนเอง เอามาวิเคาระห์ จาก พระคำของพระเจ้า ใน พระคัมภีร์ ไบเบิล กับ เหตุการณ์ข่าว ในโลก ปัจจุบัน เขียนขึ้นจากประสบการณ์การเชื่อพระเจ้า ตั้งแต่ปี 2540 จนถึง ปัจจุบัน ด้วยความรักในพระเจ้า ที่เชื่อว่าไม่น้อยกว่าใครๆ
    ขอให้ทุกท่าน ที่ผ่านเข้ามาอ่าน ได้ประโยชน์จาก บาความนี้ไปบ้างนะคะ ^^ บทความนี้ เขี้ยนขึ้นด้วยสมอง หางอึ่ง ของผู้เขียนเอง ถ้าผิดพลาดประการณ์ใดก็้ขออภัยด้วย และถ้าใคร จะก๊อป ไปแบ่งปัน ผู้อื่นด้วย ก็เป็นการดีค่ะ เพื่อ ความรักของพระเจ้า จะไปถึงบุคคลที่ยังไม่รู้จักพระเจ้า บทความนี้ผู้เขียนไม่ได้ป้องกัน การก๊อปปี้ เพื่อให้ทุกท่านได้พระพรกันทุกคน ของพระเจ้าอวยพระพร ทุกท่าน นะคะ ^^

    Super Moon  กับ  Bible อีกหนึ่งรหัสลับของ

    "วันสิ้นโลก"

    Bible
    มาจากคำว่า Biblia ซึ่งเป็นภาษาละตินและภาษากรีก หมายถึง หนังสือหลายเล่ม เป็นคัมภีร์ที่ชาวคริสต์ถือว่าเป็นหนังสือศักดิ์สิทธิ์ โดยมีความเชื่อว่า เป็นพระวจนะของพระเจ้าที่ตรัสผ่านมนุษย์ด้วยวิธีการดลใจให้บุคคลต่างๆ บันทึกขึ้นเพื่อเปิดเผยรหัสธรรมเกี่ยวกับพระเจ้า ความเป็นมาของโลกและมนุษย์ รวมถึงจุดมุ่งหมายของชีวิต เพื่อให้มนุษย์ได้อยู่ร่วมกับพระเจ้าอีกครั้ง

    ทุกข้อทุกตอนนั้นได้รับการดลใจจากพระเจ้า ผ่านทางมนุษย์ที่ถูกเลือกให้เขียนพระคัมภีร์ในบทนั้นๆมีจำนวน 73 เล่ม ประกอบด้วยภาคพันธสัญญาเดิม  เชื่อกันว่าคัมภีร์ไบเบิล ภาคพันธสัญญาเดิม ได้รับการบันทึกขึ้นครั้งแรกเมื่อประมาณ ๑,๔๐๐ ปีก่อนคริสต์ศักราช 

    พันธสัญญาใหม่ พันธสัญญาเดิมถูกเขียนขึ้นก่อนที่พระเยซูเจ้าประสูติ ส่วนใหญ่เขียนเป็นภาษาฮีบรู มีบางส่วนถูกเขียนด้วนภาษากรีก และภาษาอิยิปต์ ส่วนพันธสัญญาใหม่ ถูกเขียนขึ้นหลังจากพระเยซูเจ้าประสูติแล้ว โดยบันทึกถึงเรื่องราวของพระเยซูเจ้าตลอดพระชนม์ชีพ รวมทั้งคำสอน และการประกาศข่าวดีแห่งความรอด การยอมรับการทรมานและการไถ่บาปของมนุษย์โดยพระเยซูเจ้า การกลับคืนชีพอย่างรุ่งโรจน์ การส่งพระจิตเจ้ามายังอัครสาวก ประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักรในยุคแรกเริ่ม ภายหลังการกลับคืนพระชนม์ชีพของพระเยซูเจ้าแล้ว การเบียดเบียนพระศาสนจักรในรูปแบบต่างๆ พันธสัญญาใหม่ทั้งหมดเขียนเป็นภาษากรีก โดยเหล่านักบุญอัครสาวก 

     ในช่วงระหว่างปี ค.ศ. ๔๐-๕๐ เริ่มมีการรวบรวมจดหมายฝากของอัครทูตเปาโล ๑๓ ฉบับ ที่เขียนถึงประชาคมชาวคริสต์ในอาณาจักรโรมัน มาระโกได้เขียนพระวรสารขึ้นในช่วงบั้นปลายชีวิตของเซนต์ปีเตอร์ หรือหลังมรณภาพของเซนต์ปีเตอร์ไม่นานราวปี ค.ศ. ๖๔ มัทธิวฉบับภาษากรีกและลูกาเขียนในช่วงระหว่างปี ค.ศ. ๗๐-๘๐ ก่อนหรือหลังการทำลายกรุงเยรูซาเล็มโดยชาวโรมัน ทั้งหมดเป็นการบันทึกเหตุการณ์และคำสั่งสอนของพระเยซู ซึ่งกลายเป็นพระกิตติคุณ ๔ เล่มได้แก่ มัทธิว มาระโก ลูกา และยอห์น ยังมีหนังสือกิจการของอัครสาวก ซึ่งเป็นประวัติของคริสตจักรในช่วง ๓๐ ปีแรก ต่อมารวบรวมจดหมายฉบับอื่นๆ ของสาวกที่ช่วยสอนและตอบปัญหาของคริสตชนที่พบในชีวิตประจำวัน และหนังสือวิวรณ์ ที่เขียนขึ้นเพื่อหนุนใจบรรดาคริสเตียนที่ถูกรัฐบาลโรมันข่มเหง หนังสือทั้งหมดมี ๒๗ เล่ม เรียกว่า คัมภีร์ไบเบิล ภาคพันธสัญญาใหม่ โดยใช้เวลารวบรวมนานถึง ๓๐๐ ปี

    จากที่เกริ่นมาข้างต้นจะเห็นได้ว่า ข้อความใน ไบเบิลได้เกิดขึ้น ก่อนที่เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้น ก่อนล่วงหน้า ราวๆ 1000 ปี หรือมากกว่านั้น ใน Bible ที่เกี่ยวกับ การเป็น Super Moon

    โยเอล 2:30 เราจะสำแดงลางมหัศจรรย์ในท้องฟ้าและบนดิน เป็นเลือดและไฟและลำควัน
    2:31 ดวงอาทิตย์จะกลายเป็นความมืด ดวงจันทร์เป็นเลือดก่อนวันใหญ่ยิ่งและน่าสยดสยองแห่งพระเยโฮวาห์จะมาถึง

    กิจการ 2:19 เราจะสำแดงการมหัศจรรย์ในอากาศเบื้องบนและหมายสำคัญที่แผ่นดินเบื้องล่างเป็นเลือด ไฟและไอควัน
    2:20 ดวงอาทิตย์จะมืดไปและดวงจันทร์จะกลับเป็นเลือด ก่อนถึงวันใหญ่นั้น คือวันใหญ่ยิ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้า


    วว 6:12 เมื่อพระองค์ทรงแกะตราดวงที่หกนั้นแล้ว ดูเถิด ข้าพเจ้าก็ได้เห็นแผ่นดินไหวใหญ่โต ดวงอาทิตย์ก็กลายเป็นมืดดำดุจผ้ากระสอบขนสัตว์ และดวงจันทร์ก็กลายเป็นสีเลือด
    6:13 และดวงดาวทั้งหลายในท้องฟ้าก็ตกลงบนแผ่นดิน เหมือนต้นมะเดื่ออันหวั่นไหวด้วยลมกล้าจนทำให้ผลหล่นลงไม่ทันสุก
    6:14 ท้องฟ้าก็หายไปเหมือนกับหนังสือที่เขาม้วนขึ้นไปหมด และภูเขาทุกลูกและเกาะทุกเกาะก็เลื่อนไปจากที่เดิม



    มธ 24:29 แต่พอสิ้นความทุกข์ลำบากแห่งวันเหล่านั้นแล้ว `ดวงอาทิตย์จะมืดไปและดวงจันทร์จะไม่ส่องแสง ดวงดาวทั้งปวงจะตกจากฟ้า และบรรดาสิ่งที่มีอำนาจในท้องฟ้าจะสะเทือนสะท้านไป'
    24:30 เมื่อนั้นหมายสำคัญแห่งบุตรมนุษย์จะปรากฏขึ้นในท้องฟ้า `มนุษย์ทุกตระกูลทั่วโลกจะไว้ทุกข์' แล้วเขาจะเห็น `บุตรมนุษย์เสด็จมาบนเมฆในท้องฟ้า' พร้อมด้วยฤทธานุภาพและสง่าราศีเป็นอันมาก







    "ซุปเปอร์มูน"ไขปริศนาแผ่นดินไหว

     

    คมชัดลึก : แม้บรรดานักวิทยาศาสตร์และนักธรณีวิทยาทั่วโลกจะยืนยันตรงกันว่า "แผ่นดินไหว" เป็นภัยพิบัติที่คาดการณ์ล่วงหน้าไม่ได้ เพราะแผ่นดินไหวเกิดจากเปลือกโลกเคลื่อนตัว มีการสะสมพลังแล้วปลดปล่อยออกมา บางครั้งอาจใช้เวลานานนับ 1,000 ปี และด้วยเทคโนโลยีที่มีอยู่มนุษย์สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงล่วงหน้าไม่เกิน 1 นาที จึงไม่สามารถเตือนภัยได้ทัน

    นักวิชาการรุ่นใหม่จำนวนหนึ่งไม่ยอมจำนนต่อปัญหาดังกล่าว ด้วยเชื่อว่าระบบสุริยะ สามารถพยากรณ์แผ่นดินไหวได้ โดยมีเครือข่ายเป็นนักฟิสิกส์จากทั่วโลก เผยแพร่ข้อมูลผ่านเว็บไซต์ โดยเฉพาะนักวิจัยจากองค์การนาซา (NASA) หรือ องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ ผลงานของคนกลุ่มนี้ สามารถค้นคว้าเชื่อมโยงให้เห็นว่าปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นนอกโลกหรือในระบบสุริยะช่วยคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดแผ่นดินไหววันใด

     ยกตัวอย่าง

    เหตุแผ่นดินไหวที่มณฑลเสฉวน ประเทศจีน เมื่อปี 2551 มีผู้เสียชีวิตเกือบ 7 หมื่นคน ตอนนั้นมีรายงานกลุ่มเมฆสะท้อนแสงผิดปกติ หลังจากนั้นไม่ถึง 30 นาที ก็เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.8 ริกเตอร์ สั่นสะเทือนไปทั่วเอเชีย ไทย อินเดีย ปากีสถาน ต่างรับรู้ถึงแรงสั่นที่เกิดขึ้น

    แผ่นดินไหวในมณฑลเสฉวน พ.ศ. 2551

    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
    เหตุการณ์แผ่นดินไหวในมณฑลเสฉวน พ.ศ. 2551
    วันที่12 พฤษภาคม พ.ศ. 2551
    แมกนิจูด7.9 Mw / 7.8 Ms
    ความลึก19 กิโลเมตร
    ศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหว:เขตเหวินฉวน มณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน
    บริเวณที่ได้รับความเสียหายธงของสาธารณรัฐประชาชนจีน จีน

    ธงของประเทศบังกลาเทศ บังกลาเทศ

    ธงของประเทศปากีสถาน ปากีสถาน

    ธงของสาธารณรัฐอินเดีย อินเดีย

    ธงชาติของไทย 
    ไทย

    Flag of the Republic of China 
    สาธารณรัฐจีน

    ธงของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เวียดนาม

    ธงของสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล เนปาล

    ธงของประเทศมองโกเลีย มองโกเลีย

    ธงของประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่น

    ธงของสหพันธรัฐรัสเซีย รัสเซีย
    ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต68,516 (เสียชีวิต)
    365,399 (บาดเจ็บ)
    19,350 (สูญหาย)

    เหตุการณ์แผ่นดินไหวในมณฑลเสฉวน พ.ศ. 2551
    (
    จีน: 四川大地震; พินอิน: Sìchuān dà dìzhèn; อังกฤษ: Sichuan Earthquake)
    เกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.28 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 6.28 น. ตาม
    เวลาสากลเชิงพิกัด
    ในวันที่
    12 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 มีศูนย์กลางอยู่ที่เขตเหวินฉวน
    ทางตะวันตกเฉียงเหนือของนคร
    เฉิงตู 90 กิโลเมตร ในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน
    วัดความรุนแรงเบื้องต้นได้ 7.8
    ริกเตอร์ ต่อมา USGS ได้ปรับค่าความรุนแรงเป็น 7.9 ริกเตอร์
    จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวมีระยะห่าง 90 กิโลเมตร จาก นคร
    เฉิงตู เมืองเอกของมณฑลเสฉวน
    และมีความลึก 19 กิโลเมตร  แผ่นดินไหวสามารถรู้สึกได้จากระยะทางไกล เช่น ที่กรุง
    ปักกิ่ง (ห่างออกไป 1,500 กม.) และ เซี่ยงไฮ้ (ห่างออกไป 1,700 กม.)
    ที่ที่อาคารสำนักงานได้รับแรงสั่นสะเทือน แผ่นดินไหวก็ยังสามารถรู้สึกได้ในประเทศเพื่อนบ้านของจีน อาทิเช่น
    ประเทศไทย ประเทศบังกลาเทศ ประเทศอินเดีย ประเทศปากีสถาน เป็นต้นตัวเลขอย่างเป็นทางการ (วันที่ 29 พฤษภาคม) ได้ประกาศออกมาแล้วว่า มีผู้เสียชีวิต 68,516 คน บาดเจ็บ 365,399 คน และสูญหาย 19,350 คน






     นอกจากนี้นักฟิสิกส์นำโดย ศาสตราจารย์ ฟราน เดอ อาควิโน (Fran De Aquino) จากมหาวิทยาลัยมารานฮาว ประเทศบราซิล เชื่อว่า ความแปรปรวนของพลาสมาบนชั้นบรรยากาศ และการแปรปรวนในอวกาศ เป็นลางบอกเหตุแผ่นดินไหว !!

     เนื่องเพราะนักวิจัยค้นพบการเปลี่ยนแปลงของชั้นบรรยากาศ "ไอโอโนสเฟียร์" (Ionosphere) ที่อยู่สูงจากโลกไป 50-500 กิโลเมตร ก่อนเกิดแผ่นดินไหวขนาดเกิน 6 ริกเตอร์ประมาณ 1-2 วัน ชั้นบรรยากาศ "ไอโอโนสเฟียร์" มักเปลี่ยนแปลงฉับพลัน อธิบายตามหลักฟิสิกส์ได้ว่า พลังงานในชั้นนี้มีความสัมพันธ์ระหว่างการแกว่งตัวของสนามแม่เหล็ก

     แต่ที่ฮือฮาที่สุดเห็นจะเป็น "ดร.ก้องภพ อยู่เย็น" วิศวกรไทยที่อายุน้อยที่สุดในองค์การนาซา ขณะนี้ทำงานในศูนย์วิจัยเกี่ยวกับการสำรวจโลกและจักรวาล (Goddard Space Flight Center) สหรัฐอเมริกา

     ดร.ก้องภพ ได้ส่งข้อมูลเตือนภัยให้ผู้เชี่ยวชาญแผ่นดินไหวในไทย เขาพยากรณ์แผ่นดินไหวจากการใช้เทคโนโลยีระดับสูงที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่เกี่ยวข้องกับ "ระบบสุริยจักรวาล" ...เมื่อดาวเรียงตัวกันอย่างน้อย 2 ชุดจะเกิดแผ่นดินไหวในโลกมนุษย์ หลายครั้งที่คำพยากรณ์ของเขาแม่นยำ โดยเฉพาะแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อกลางปีที่แล้ว

     หากย้อนไปเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2553 "ดร.สมิทธ ธรรมสโรช" ประธานกรรมการมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ล่วงหน้าว่า อีก 1เดือนหรือประมาณวันที่ 12 มิถุนายน จะเกิดปรากฏการณ์ดาวเรียงตัวกัน 2 ชุด หมายความว่า ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลก เรียงตัวในแนวเดียวกัน พร้อมๆ กับ โลก ดาวพฤหัส ดาวยูเรนัส ก็อยู่ในตำแหน่งเรียงตัวด้วย ทำให้เกิดพลังมหาศาลส่งมายังโลกและอาจเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7-8.5 ริกเตอร์

     คำเตือนนี้สร้างความกังวลใจให้แก่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลภาคใต้พอสมควร เพราะมีการอ้างอิงข้อมูลจากองค์การนาซา (NASA) อีกด้วย

     แต่ ดร.สมิทธ ก็ถูกต่อต้านจากนักวิชาการหลายกลุ่ม ที่ออกมายืนยันว่าการเรียงตัวของดาว ไม่เกี่ยวข้องกับแผ่นดินไหว และสนามแม่เหล็กโลกก็ไม่ส่งผลให้น้ำแข็งขั้วโลกละลายฉับพลันจนท่วมโลกด้วย สอดคล้องกับสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติที่ระบุว่า การเรียงตัวของดาวเคราะห์ไม่มีอิทธิพลต่อแรงดึงดูดของโลก จะมีก็เพียงปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลงเท่านั้น

     จนกระทั่งตีสี่ของวันที่ 13 มิถุนายน 2553 ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ แจ้งเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.5 ริกเตอร์ ในมหาสมุทรอินเดีย จุดศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองมิชาบนหมู่เกาะนิโคบาร์ไปทางตะวันตก 155 กิโลเมตร มีรายงานแผ่นดินไหวขนาด 6.0 ริกเตอร์ในทะเลอันดามัน ศูนย์กลางห่างภูเก็ต 817 กม.

     แรงสั่นสะเทือนไปไกลกว่า 1,000 กม. ชาวบ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เกือบ 2,000 คน อพยพออกมาจากหมู่บ้านเพราะกลัวคลื่นยักษ์สึนามิ ห่างกันไม่กี่ชั่วโมงสำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุฯ แจ้งว่าเกิดแผ่นดินไหววัดได้ 3.7 ริกเตอร์ ที่ ต.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี

     การทำนายแผ่นดินไหวข้างต้น สร้างความสงสัยให้ประชาชนว่า เป็นความแม่นยำหรือความบังเอิญ !?!

     "อารี สวัสดี" กรรมการบริหารสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เคยอธิบายเรื่องนี้ว่า การเรียงตัวของดาวเคราะห์ระยะทางยิ่งไกลเท่าไรก็ส่งผลถึงโลกน้อยลง ส่วนปรากฏการณ์ดาว 3 ดวงที่เรียงตัวจะสัมพันธ์กับแผ่นดินไหวหรือไม่ คงต้องมีสถิติรองรับ ไม่เช่นนั้นจะไม่ใช่งานวิจัย ที่น่าสนใจเพราะโลกเกิดมาได้ 4,500 ล้านปี มนุษย์เพิ่งเกิดมาได้เพียง 1 ล้านปี ถือเป็นความรู้ใหม่ในการนำตำแหน่งดวงดาวมาอ่านความหมายด้านภูมิศาสตร์

     ล่าสุดกลุ่มที่เชื่อว่าระบบสุริยะทำนายแผ่นดินไหวได้กำลังลุ้นปรากฏการณ์ "ซูเปอร์มูน" (super moon) คือ ระยะที่ดวงจันทร์โคจรมาใกล้โลกที่สุดในรอบ 18 ปี มีระยะห่างเพียง 3.6 จากปกติที่อยู่ห่าง 3.8 แสนกิโลเมตร จะเกิดในวันที่ 19 มีนาคมนี้ เขาเชื่อว่า เมื่อดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกจะเกิดความโกลาหล ทั้งพายุรุนแรง แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดและภัยพิบัติทางธรรมชาติอื่นๆ รวมถึงคลื่นยักษ์สึนามิด้วย

    ซูเปอร์มูนเคยเกิดขึ้น 2 สัปดาห์ก่อนคลื่นสึนามิถล่มฝั่งอันดามันของไทยเมื่อ 26 ธันวาคม 2547 

     ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ยืนยันกับ "คม ชัด ลึก" ว่า ปรากฏการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6-9 ริกเตอร์ในหลายพื้นที่ทั่วโลก ตั้งแต่ต้นปี 2554 นั้นที่จริงแล้วมีนักฟิสิกส์กลุ่มหนึ่งสามารถพยากรณ์ได้ล่วงหน้า และส่งข้อมูลมาทางอีเมล เมื่อตรวจพิสูจน์ก็พบว่าเกิดใกล้เคียงกับคำพยากรณ์จริง โดยเชื่อมโยงกับระบบสุริยะ เช่น ก่อนเกิดแผ่นดินไหวที่เมืองไครสต์เชิร์ช นิวซีแลนด์ ก็มีอีเมลมาเตือนล่วงหน้าในเวลาใกล้เคียงมาก และในวันที่ 18-19 มีนาคมนี้ จะมีแผ่นดินไหวรุนแรงอีกครั้ง แต่ไม่รู้ว่าส่วนไหนของโลก ?!!




     






     


    ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ยืนยันกับ "คม ชัด ลึก" ว่า ปรากฏการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6-9 ริกเตอร์ในหลายพื้นที่ทั่วโลก ตั้งแต่ต้นปี 2554 นั้นที่จริงแล้วมีนักฟิสิกส์กลุ่มหนึ่งสามารถพยากรณ์ได้ล่วงหน้า และส่งข้อมูลมาทางอีเมล เมื่อตรวจพิสูจน์ก็พบว่าเกิดใกล้เคียงกับคำพยากรณ์จริง โดยเชื่อมโยงกับระบบสุริยะ เช่น ก่อนเกิดแผ่นดินไหวที่เมืองไครสต์เชิร์ช นิวซีแลนด์ ก็มีอีเมลมาเตือนล่วงหน้าในเวลาใกล้เคียงมาก และในวันที่ 18-19 มีนาคมนี้ จะมีแผ่นดินไหวรุนแรงอีกครั้ง แต่ไม่รู้ว่าส่วนไหนของโลก ?!!



    จากข้อมูลทั้งหมด ทั้งในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้ว และยังไม่เกิดขึ้น ตากพระคำภีร์ ได้กล่าวถึง การเกิด พระจันทร์สีเลือด และ หลังจาก เกิดพระจันทร์สีเลือดแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ก็มี เขียนเอาไว้ใน พระคำภีร์ ถ้า เดี๋ยวขอป้าเดะไปหาข้อมูล ทั้งในด้านพระธรรม และ ทั้งในด้านโลกมาก่อนนะคะ แล้วอาจจะมี ลงให้ใหม่ ขอพระเจ้า ทรงสถิตกับท่านและครอบครัวของท่านนะคะ พวกเราจะได้พบกันในวันสุดท้าย อาเมน ^____^




























    ขอขอบคุณข้อมูลจาก...
    http://www.panyathai.or.th
    http://th.wikipedia.org/
    หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก
    http://thaipope.org/


    ANGEL SPlus

    บทความแจกธีม ฟรีธีม FREE THEME



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×