ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Oh...My....GOD

    ลำดับตอนที่ #12 : จดหมายฝาก จากเพื่อนถึงเพื่อน แบ่งปัน BB เรื่อง ชีวิตที่ยั่งรากลึกในพระเจ้า

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ค. 55



    ข้อความนี้ป้าเดะเขียนถึงเพื่อน คต.ด้วยกัน พวก

    เรามัก เรียนรู้แบ่งปันกันเสมอ

    เลยเอามาแบ่งปันให้อ่านกันนะคะ ^^



    ชีวิตที่ยั่งรากลึกใน พระเจ้า

    โคโลสี 1:9-14

    พระคำตอนนี้จะเห็นได้ว่า อาจารย์เปาโลบอกให้คนในเมืองโคโลสี มีปัญญาในการดำเนินชีวิต และขอให้มีความอดทนในการเชื่อพระเจ้า (ในข้อ 9-10) ความอดทน (11) และผลของความมีปัญญาและอดทน คือ ข้อ12-14 เราจะได้รับมรดกร่วมกันกับพระองค์

    ตอนเด็กๆหลายๆคนอาจจะเคยได้ยิน  นิทานเรื่อง หมูสามตัวสร้างบ้าน หมูตัวที่หนึ่งสร้างบ้าน แบบเอาฟางข้าวมาสร้างในที่สุดพอถูกพายุจากลมปากของหมาป่ามันก็พังทลาย หมูตัวที่สอง สร้างบ้านด้วยไม้ พอเจอพายุของหมาป่า มันก็ต้านทานได้พักหนึ่งแล้วมันก็พังทลาย หมูตัวที่สาม สร้างบ้านด้วย ปูน แม้ว่าจะเจอพายุอะไร บ้านหลังนั้นก็มิได้หวั่นไหว ถ้าเราสังเกตดีๆ จะรู้ว่า หมูสามตัวจ่ายราคาที่แตกต่างกันออกไป หมูตัวที่ หนึ่งแทบจะไม่ต้องใช่เงิน ใช้เวลา เลยในการสร้างบ้านของเขา เขาใช้ฟางที่หาได้ง่ายๆ ตามทุ่งนาไม่ต้องซื้อไม่ต้องหา ไม่ต้องเสียเวลาในการทำแปลงบ้าน ไม่ต้องมีการออกแบบไม่ต้องจัดระเบียบ ทำไปลวกๆ พอได้พักพิง พอแบบบ้านๆ พอได้คลุมกะลาหัวเท่านั้น ไม่ได้ใส่ใจในรายละเอียด หรืออะไรทั้งสิ้น เปรียบกับความเชื่อในพระเจ้าของเรา บางคน รู้มาว่าเชื่อพระเจ้าจะได้รับความรอดก็เชื่อไปงั้นๆ ตามคำบอกเล่า หรือว่าเชื่อมาตามๆกันเห็นเขาเชื่อ เขาอธิฐานขอแล้วได้โน้นได้นี่  เห็นว่ามันง่าย สบาย ตามนิสัยคนไทยก็เชื่อๆ พอมีปัญหาเข้ามาหน่อย มีแบบทดลองเข้ามาหน่อยก็ ร้องโอ๊ยท้อใจ ไม่ไปแล้วไม่เอาแล้วพระเจ้า เดินไม่ไหว ขอหยุดขอนอนพัก พอกันที  มีคนเชื่อแบบนี้มีอยู่มากมายใน ทุกๆ คจ. ทั่วโลก แน่นอนสิ่งสำคัญของเราต้องมีสติและปัญญา มีบางคนบอกว่าเชื่อพระเจ้าแล้วไม่เห็นมีอะไรดีขึ้นเลย พี่น้องที่รักแม้ว่า คุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อ คนเราหนึ่งคน ก็ต้องเจอพบกับเหตุการณ์ต่างๆในชีวิตอยุ่แล้ว ถ้าเราดูข่าว เราจะเห็นว่ามีหลายคนที่ไม่ได้เชื่อพระเจ้าเขาเจอปัญหายิ่งกว่าเรามากกว่าเรา ซ้ำยิ่งเลวร้ายมากกว่าเราด้วยซ้ำ ขอบคุณพระเจ้าที่เราเจอแค่นี้ ขอบคุณพระเจ้าที่เรายังคงมีพระองค์ที่อยู่เคียงข้างเราเสมอ (ข้อ 11 ข.)บอกว่า ขอให้ท่านมีความทรหดที่สุด ความทรหดที่สุด นั้นหมายความว่า มันยากลำบากจริงๆนะ มันได้ง่ายเลยในการที่เราจะรักษาชีวิตของเราให้รอดได้ เหมือนกันกับการสร้างบ้าน มันไม่ง่ายเลยที่จะสร้างบ้านให้กันแดด กันฝน กันลมแรงๆได้ (ข้อ 11 ค.)บอกว่า และความอดทนไว้นานด้วยความยินดี บางคนบอกว่าจะบ้าเหรอเจอความยากลำบากจะยิ้มได้ไง จะยินดีได้อย่างไร ถ้าเราเจอปัญหาเพียงลำพัง เขาคงต้องร้องให้ นอนไม่หลับ เจอมากๆอยากฆ่าตัวตายไปซะก็เป็น แต่ตอนนี้เรามีที่ปรึกษามีคนที่อยู่เคียงข้าง  มีคนที่รักเราและพร้อมที่จะร่วมทุกข์ร่วมสุขไปกับเรา พระองค์จะไม่ทอดทิ้งเรา คนที่เชื่อพระเจ้า จะรอดหรือไม่รอดในวันสุดท้าย ขึ้นอยู่กับว่า วันนี้ เราปักเสาร์บ้านของเราไว้กับอะไร เรายั่งรากชีวิตของเรา ไว้ลึกแค่ใหน พอที่จะต้านทาน สิ่งที่จะเกิดขึ้นบนโลกมนุษย์ของเรามากน้อยเพียงใด ช้าหรือเร็ว โลกของเรา ก็ต้องมีวันสลาย ด้วยน้ำมือมนุษย์คนบาป ในวันนั้น เราจะทนได้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการยั่งรากของเราในวันนี้

    การยั่งรากชีวิตในพระเจ้า ต้องทำยังไงหล่ะ ถึงจะอยุ่รอดได้


    1.คือชีวิตที่รู้ในน้ำพระทัยของพระเจ้า
    (ข้อ
    9 ก. บอกว่า ให้ท่านเพียบพร้อมด้วยความรู้ถึงพระทัยของพระองค์) เคยได้ยินคำนี้ไหม  มองตาก็รู้ใจ กว่าเราจะใช้คำๆนี้กับใครบางคน นั้นแสดงว่าเราต้องสนิทกับคนนั้นมากๆ คนที่สนิทกันมากๆ ต้องทำยังไง มานั่งมองตากันเฉยๆ จะรู้ใจกันไหม???  แน่นอน สิ่งที่ทำให้คนเราสนิทกันนั้นคือการพูดคุยกัน ถามตัวเองว่า วันนี้คุยพูดคุยกับพระเจ้ามากน้อยแค่ไหน คุยทุกเรื่องไหม? หรือว่าคุยแต่เรื่องสนุกๆ หรือคุยกับพระเจ้าเฉพาะวันที่มีความทุกข์เท่านั้น พระวิญาณอยู่ กับเราตลอดเวลา คุยกับพระเจ้าได้ ไปร้านอาหาร พระเจ้ากินอะไรดีงะวันนี้ อันนี้พูดในใจนะ อย่าไปพูดแบบเปิดเผยเดี๋ยวมีคนหาว่าเราบ้า  คุยกัน เช่น  เดินไปซื้อสบู่ มันมีหลายี่ห้อจังเลยพระเจ้าเอาอันไหนดี คุณเคยถามพระเจ้าอย่างนี้ไหม? เคยให้พระเจ้าอยู่กับคุณตลอดเวลาเหมือนเดินไปกับเพื่อนสนิทหรือไม่? หรือว่า ทำอะไรอยุ่โหยมันยากจังเลยพระเจ้าช่วยหน่อยดิ นี้อาจดูเหมือน เป็นคำลอยๆ แต่นั้นคือคำอธิฐานพูดคุยกับพระเจ้าแล้ว และสิ่งหนึ่งที่เราจะสารารถ รู้จักพระเจ้าและสนิทกับพระเจ้าได้ คือการอ่านพระคำ  ของพระองค์ มี บีบี บางตอนบอกว่า บีบีคือจดหมายรักจากพระเจ้าส่งถึงเรา บางครั้งเราพูดคุยกันไม่ได้โดยตรงเหมือนโทรศัพท์ เราสื่อสารกันทางจดหมาย อีเมล มันก็ช่วยให้เราสนิทกันได้  เรายิ่งอ่าน ยิ่งพูดคุย เรายิ่งจะรู้ว่า ตอนนี้พระเจ้าต้องการให้เราทำอะไร พอเราเจอเหตุการณ์นี้ เราจะรุ้ทันทีว่าพระเจ้าต้องการทดสอบทดลองอะไรเรา เราต้องทำยังไงตอบสนองยังไง เราต้องคิดแบบไหน ใช้พระคำในตอนไหน นั้นแหละคือการรุ้ในน้ำพระทัยของพระเจ้า

    รม11:1-2

    อฟ 1 :17-18


    2.ดำเนินชีวิตเป็นที่ชอบพอพระทัยของพระเจ้า
    (ข้อ 10 ทั้งหมด บอกว่า เพื่อท่านจะได้ประพฤติอย่างที่สมควรต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า และทำตนให้เป็นที่ชอบพอพระทัยของพระองค์.......) ข้อแรกเรารู้ว่าพระเจ้าต้องการให้เราทำอะไรในสถานการณ์นั้นๆ พอเรารู้แล้ว สิ่งสำคัญ ต้องทำ บางคนรู้แต่ไม่ทำ รุ้ว่าวันหนึ่งๆต้องอธิฐาน ต้องนมัสการ ต้องทำนี้ทำนั้น แต่ไม่ลงมือทำ มันจะเกิดผลเหรอคะ?? พูดๆๆๆแต่ไม่ทำ รู้แต่ไม่ทำ มันก็ไม่เกิดผล การยั่งรากลึกถึงพระเจ้าก็ไม่มี ไม่ทำไม่ตอบสนอง (อันนี้ท้ายต้องกลับใจเองเฮืออกๆๆๆมันโดนเข้าเต็มๆครับท่าน)  

    ปฐก 4:9

    กท 5:22

    อฟ 5:10

     ชีวิตของคนเราทุกคนไม่ได้โรยไปด้วยกรีบกุหลาบอย่างเทพนิยาย ดูอย่างท่านทักษิณ สิ ท่านเป็นคน รวยล้นฟ้า มีหน้ามีตาในสังคม แต่ไม่มีแผ่นดินจะอยู่ กลับมาอยุ่บ้านเกิดเมืองนอนไม่ได้ อยุ่กับครอบครัวไม่ได้ ไร้ซึ่งความสุข  คนเราทุกคน จะมีทั้งวันที่ดีและไม่ดีเสมอแม้ว่าเราจะเชื่อพระเจ้าหรือไม่เชื่อพระเจ้า ความทุกข์ก็จะมาเยี่ยมเยือนเราอยุ่แล้ว เพราะเรายังคงอยุ่ในโลกของความบาป แม้ว่าเราไม่ได้ขับรถ ปล่อยควันดำในอากาศ เราก็จะได้รับอากาศที่เป็นมลพิษ เพราะความบาปของคนอื่น แม้เราจะไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายในประเทศเราก็ต้องได้รับผลของการก่อการร้ายนั้นๆ เพราะเรายังคงอยู่ในประเทศ เช่นเดียวกัน แม้เราขอการชำระความผิดบาปเสมอ แต่เราก็ต้องได้พบเจอภัยพิบัติจากธรรมชาติเพราะความบาปของคนในโลก เพราะเรายังคงอยู่ในโลก ชีวิตของเราก้จะหมุนไปพร้อมๆกับโลกใบนี้ แต่สิ่งที่เราแตกต่างคือ แม้เราจะเป็นหรือตาย เราจะมีความที่อยุ่เคียงข้างเราเสมอ นั้นคือพระเจ้าของเรา ที่รักเราไม่เปลี่ยนแปลง ขึ้นอยุ่กับเราแล้วว่าวันนี้ เราจะตัดสินใจยังไง ตอบสนองหรือไม่ตอบสนอง ดำเนินชีวิตตามความบาปของโลก หรือว่าดำเนินชีวิตตามคนที่เรารัก

     

    สรุป การจะยั่งรากลึกถึงพระเจ้าเพื่อให้รอดในวันสุดท้ายได้นั้น คุณต้องรู้ในน้ำพระทัยของพระเจ้าและ ลงมือทำ ตอบสนองอย่างถูกต้องในเหตุการณ์นั้นๆ

     

    แบ่งปันประสบการณ์ชีวิตซึ่งกันและกัน
    เมื่อวันที่ 13 เมษายน ปี 2552 ท้ายกับหลานอีกสองคน และลูกชาย เกิดอุบัติเหุต ท้ายเข่าแหกเย็บไปสี่เข็ม แต่น้องเซ็นเตอร์หน้าแหก ดูไม่ได้เลย T^T

    อุบัติเหตุที่ ผ่านมา สิ่งแรกที่ท้ายทำคือร้องไห้แล้วเริ่มต่อว่า พระเจ้า ทำไมพระเจ้าถึง ยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ คำอธิฐานที่ท้ายกับลูกร้องทูลขอทุกๆคืนก่อนนอน ขอพระเจ้าปกป้องพระองค์ไม่ได้ยินหรือ??? ท้ายร้องไห้ทุกครั้งที่มองหน้า ลูกชายในสามวันแรก หน้าตาของเขาไม่เหลือความเป็นคนทุกส่วนของใบหน้า มีแต่แผลเต็มไปหมด แต่สิ่งหนึ่งที่ท้ายยังขอบคุณพระเจ้าได้คือ ปากของเขายังใช้การได้ดี เขากินข้าวกินอาหารได้เยอะตามปรกติ ถึงกระนั้น ท้ายก็ยังบ่นต่อว่าพระเจ้าอยู่ดี

    แต่รู้ไหม พระเจ้าพูดอะไรกับท้าย 

    ในขณะที่กำลังจะนอนท้ายกับลูกก็ยังอธิฐานขอการปกป้องจากพระเจ้าเหมือนเช่นเคยๆ
    แต่ภายในจิตใจของท้าย ท้อไปแล้วไม่อยากอธิฐานแล้วเหมือนพระเจ้าจะไม่ฟังท้ายแล้ว 
    ขณะนั้น ลูกชายของท้ายกอดคอท้ายแล้วบอกว่า
    แม่ พระเจ้าปกป้องเราใช่ไหม หนูหัวไม่แตก เลือดไหล เหมือนน้องคนนั้นที่อยู่โรงพยาบาลนั้น

    รู้ไหมตอนนั้นงะ เหมือนพระเจ้าพูดด้วยเลย วันที่เกิดเหตุ มีพ่อลูกคู่หนึ่ง พ่อเมา ขับรถมอไซร์พาลูกสาวซน กับอะไรสักอย่าง หัวของเด็กกระแทกพื้นไม่ได้สติ พ่อของเขาเจ็บหนักมากๆมีแผลตามตัวเต็มไปหมด หมอบอกว่าเด็กคนนั้น สมองได้รับความกระทบกระเทือนมากอาจจะมีอาการเอ๋อไปเลย เ แบบว่าเลือดเต็มหัว ไหลไม่หยุด พยาบาลทำอะไรให้เขาก็ไม่ร้องให้แล้ว ตาลอยไปหมด เด็กคนนั้นไม่มีความรู้สึกแล้ว 

    ลูกชายท้ายที่นอนอยู่เตียงข้างๆ เขาคงเห็นและภาพนั้นคงติดตาเขามา เขาพูดกับท้ายว่า 
    แม่พระเจ้าปกป้องเราไม่ให้เราเป็นเหมือนน้องคนนั้นเนอะแม่เนอะ
    คำพูดของเขาทำให้ท้ายรู้ว่า พระเจ้าไม่ได้ทอดทิ้งเรา อย่างที่ท้ายเข้าใจ
    ขอบคุณพระเจ้าที่ลูกชายท้ายมีแค่แผลที่หน้า สมองไม่ได้รับความกระทบกระเทือน
    ขอบคุณพระเจ้าที่วันนั้น อุบัติเหตุ เป็นแค่วิ่งลงจากถนนซนเสาร์ไฟฟ้า ไม่ได้ชนกับรถคันอื่น
    ขอบคุณพระเจ้า ไม่อยากคิดสภาพเลยว่าถ้าวันนั้นไม่ลงข้างทาง และเกิดอุบัติเหตุชนกับรถคันอื่นกลางถนน เราทั้งสี่คนคงตายไปแล้วเพราะรถที่ขับตามหลังมาในวันหยุดเยอะมากคงเบรกไม่ทัน

    หลังจากคำพูดของลูกชาย ท้ายคิดได้ว่าต้องขอบคุณพระเจ้าในอีกหลายๆเรื่อง
    อุบัติเหตุ แม้เราจะเชื่อหรือไม่เชื่อพระเจ้า ยังไงมันก็ต้องเกิด แต่ขอบคุณพระเจ้า
    ในขณะที่เกิดเหตุพระเจ้าอยู่ด้วยและให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุดนั้นคือสิ่งที่พระเจ้าให้มา
    ขอบคุณพระองค์ แต่ถึงยังไงท้ายก็ไม่อยากให้อุบัติเหตุเกิดขึ้นกับใครทั้งนั้น
    รวมทั้งแหม่มด้วย ท้ายจะอธิฐานเผื่อเสมอนะ

    เรื่องบางเรื่องพระเจ้าอณุญาติให้เกิด ทุกเรื่องมีพระพรที่ซ่อนอยู่เสมอ หาพระพรนั้นให้เจอ


    ออ แปะรูปลูกชายตอนเกิดอุบัติเหตุมาให้ดูด้วย มันน่ากลัวหน่อยนะ แต่นี้คือพระพรจากพระเจ้าจริงๆๆ


    รูปนี้เราถ่าย ก่อนออกจากบ้าน

      

     

     

    สุดท้ายเราก็กลับบ้านด้วยสภาพนี้
      
     

    ท้ายถามเขาว่า ถ่ายรูปไว้ทำไม เขาบอกว่า เอาไว้ดู จะได้ไม่ขับรถซิ่งไงแม่


    ฮ่าๆๆๆนั้นมันด่ากระทบหรือเปล่าว่ะเนีย
    จริงๆวันนั้นไม่ได้ชิ่งอะไร ท้ายขับรถช้าๆเพราะมีเด็กไปด้วยตั้งสามคน
    แต่ว่า เหตุมันเกิดเพราะว่า หลานเอาหมวกไปวางไว้หน้ารถพอขับรถไปได้สักพัก หมวกมันปริว ท้ายเลย ปล่อยมือคว้าหมวก รถเลยลงข้างทางฮ่าๆๆ
    พอหมอถามว่าแม่เมาหรือเปล่าลูก เซ็นเตอร์ก็บอกว่า "เปล่านะครับแม่หนูไม่กินเหล้า แต่หมวกมันปริว รถเลยชนกับเสาไฟฟ้า"
    ลูกชายแก้ตัวให้ดีมาก ทุกคนบ่นต่อว่าท้าย ว่าพาลูกไปซวย
    แต่รู้ไหมขอบคุณพระเจ้า หมู(สามี)ไม่พูดอะไรสักคำ
    เขาบอกลูกว่า อย่าโกธรแม่นะลูก แม่ไม่ต้องตั้งใจให้มันเกิด เดี๋ยวแม่จะเสียใจ
    ตอนที่ท้ายร้องไห้เพราะเห็นหน้าลูกชายที่ดูไม่ได้ ลูกชาย บอกว่า
     
    แม่หนูไม่เจ็บเลยจริงๆนะ ดีเสียอีกหนูจะได้มีแผลเป็นเหมือนโจรสลัด
    ฮ่าๆๆมันบ้ามากเลยใช่ไหม? แต่ท้ายรู้ว่า ทุกอย่างมันคือการปลอบใจจากพระเจ้า

     

    คนที่เป็นแม่มันเจ็บปวดมากๆ ที่เห็นลูกบาดเจ็บเพราะตัวของเราเอง  จนถึงตอนนี้ ท้ายก็ยังไม่กล้าที่จะขับรถอีก ไม่กล้าที่จะพาลูกไปไหนมาไหนด้วย  มันกลัวอย่างบอกไม่ถูก แต่ว่า มันกลับทำให้คิดว่า พระบิดาคงไม่แตกต่างจากท้ายนัก พระองค์ก็คงเจ็บปวดพอๆกันเมื่อเห็น ลูกของพระองค์เจ็บปวด ทำให้เข้าใจความเป็นพระบิดาของพระเจ้ามากขึ้นจริงๆๆนะ
    พอๆๆๆพล่ามมากแล้ว จบดีกว่า

    บายยยยย

    ขอพระเจ้าคุ้มครอง นะจ๊ะ ^^



    ปล. ปัจจุบัน เซ็นเตอร์โตมาก แล้วจากอุบัติเหตุในครั้งนั้น มันทำให้เขากลัว ในการที่จะขับรถเร็วๆๆ ขอบพระคุณพระเจ้า พระพรที่ซ่อนอยู่ สำหรับเด็กวัยรุ่นผู้ชายสมัยนี้ ขับรถซิ่งเป้นเรื่อง นิยม แต่่เซ็นเตอร์เถียงหัวซนฝาว่า จะไม่ทำขับรถซิ่ง พระเจ้ามีวิธีการสำหรับสอนเขาให้เติบโตเป็นคนดีได้อย่างถาวรจริงๆๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×