ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Oh...My....GOD

    ลำดับตอนที่ #105 : ❂------ ลก 9:62--------❁ จับคันไถแล้วไม่หันหลังกลับ

    • อัปเดตล่าสุด 11 มี.ค. 57


      ลก 9:62
    ..:* "ผู้ใดเอามือจับคันไถแล้วหันหน้ากลับเสีย ผู้นั้นก็ไม่สมควรกับอาณาจักรของพระเจ้า" *.:


    การจับคันไถ  นั้นหมายถึง คุณตัดสินใจแล้วที่จะยากลำบากไปพร้อมๆกับพระองค์  


    การจับคันไถ บงบอกถึงความยากลำบากที่เราต้องเผชิญหน้า กับ
    วัว หรือกระบือ(ควาย)ที่เราต้องบังคับมัน

     

    โคลนตมที่เราต้องเดินลุยไป ถ้าใครไม่เคยเป็นชาวนาจะไม่รู้เลยว่า

    มันยากลำบากมากๆ ที่จะบังคับ สัตว์ตัวหนึ่งให้เดินนำหน้าเรา และไปในทิศทางที่เราต้องการ
    เท้าที่เหยียบโคลนจมลงไปเกือบครึ่งแข้งแล้ว
    ต้องก้าวต่อไป  ซึ่งแต่ละก้าว บอกได้เลยว่า ยากมากๆ

     

    สิ่งเหล่านั้น จะทำให้กล้ามเนื้อของท่านฉีดจนปวดร้าวไปทั้งตัว

    ตกเวลาเย็นมา ท่านจะกระดิกร่างกายของท่าน
    ไม่ได้ สำหรับคนที่ไม่เคยทำนะคะ

    ทุกก้าวทุกวินาทีต้องใช้ความระมัดระวังในการเดิน จริงๆ
    แต่การจับคันไถ นั้นก็เพื่อ เตรียมดินสำหรับต้นกล้าอ่อนๆ
    หลังจาก ไถดินคือ ไถดะ ครั้งแรกเพื่อให้ดินแตกแล้ว ยัง
    ต้องไถแปรเป็นครั้งที่สองเพื่อให้ดินแตกละเอียดที่สุด

     

     เพราะดินที่ผ่านฤดูแล้งมาจะแข็งมากๆ
    จากนั้นก็คราดดินให้เสมอ เอาหญ้าที่ไถนั้นออก
     ปรับสภาพดิน จนคิดว่ามันเป็นดินดี
    พอที่ต้นกล้าต้นหนึ่งจะเติบโตได้ดี
    หลังจากนั้นก็หว่าน ข้าว ลงไปในดินดีเหล่านั้น

     

    มั่นให้น้ำ ให้ปุ๋ย ดูแลอย่าให้มีหญ้ามาเกิดแซมได้  
    คอยดูแลไม่ให้ ศัตรูพืชตัวใดมากัดกิน
    เลี้ยงดูมันจนเติบใหญ่ และมาถึงฤดูเก็บเกี่ยว




     เป็นอีกเช้าวันหนึ่ง(วันที่ 11 มี.ค. 2557)
    ที่ท้ายต้องตื่นขึ้นมาเพราะ พระเจ้าปลุก
    นิมิตเห็นครั้งแรกในวันอาทิตย์
    ในขณะนมัสการพระเจ้า แต่ด้วยเสียงของเด็กๆ
    รอบข้างที่เขาอยู่นิ่งๆไม่ได้
    ในช่วงนมัสการเพลงช้า
    จึงทำให้ท้ายต้องลืมตา และควบคุมเขาเหล่านั้น
    เพื่อเป็นพรกับพี่น้องท่านอื่นๆภายในโบสถ์

     มันทำให้ท้ายไม่เข้าใจความหมายในสิ่งที่พระเจ้าสื่อสาร
    แต่เมื่อเช้า พระเจ้าปลุกให้ท้ายลุกขึ้นมาอธิษฐาน และสิ่งที่เห็นคือ "คันไถ"


     ท้ายเห็นคนหลายปนะเภท ยืนอยู่
    และข้างหน้าเขาเหล่านั้น มีคันไถ ตั้งอยู่ตรงหน้า

     บางคนแค่เห็นคันไถ ก็รู้สึกกลัวความยากลำบาก
    จนหันหลังกลับทันที
    ทั้งๆที่ยังไม่ได้ลองทำด้วยซ้ำ

    บางคนจับคันไถเดินไปได้ไม่กี่ก้าว
    ก็รู้สึกถึงความยากลำบาก ร้องไห้เสียใจ
    แล้วผละ ละคันไถนั้นทิ้งเสีย

    บางคนไถเตรียมดิน ไปได้ครึ่งหนึ่ง เหนื่อย
    มานั่งพัก นั่งนานๆมีความสุขมากกว่าที่ต้องลงไปไถ
    ก็ละทิ้งคันไถนั้น
    และคิดในใจว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาไถ
    แล้วก็พลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ
    จนกลายเป็นว่า ดินที่เขาควรเตรียมเอาไว้นั้นได้รกร้าง

    และบางคนไถเกือบจะสำเร็จแล้ว
    แต่มีความรู้สึกว่าเราจะทนไถอะไรหนักหนาเนี๊ย
    ลำบากก็ลำบาก แล้วก็ละคันไถนั้นไป

    พอจบภาพเหล่านั้น ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

    "แต่ผู้ที่สู้จนถึงที่สุดเท่านั้น ถึงจะได้เก็บเกี่ยว
    ไม่มีใครที่ไม่ลงมือทำอะไรเลยแล้วได้สิ่งนั้นมา
    เราต้องเริ่มต้นจากการเตรียมดิน
    และหว่านมันออกไป ดูแลรักษา
    และ เก็บเกี่ยว
    การเก็บเกี่ยวจะมาก่อนการหว่านก็หามิได้"  

    นี่เป็นสิ่งที่ท้ายเห็นใน เช้าวันอังคารที่
    11 มี.ค 2557

    นิมิตนั้นพระเจ้าให้ความเข้าใจว่า


    บางคนมา โบสถ์ ทุกวันอาทิตย์ ก็เห็นว่า
    เป็นความยากลำบากของเขา และ ละคันไถไป 



    บางคนเข้ามาใน โบสถ์ ต้องทำโน่นทำนี้
    ต้องอธิษฐานทุกเช้า ต้องเฝ้าเดี่ยว
    ต้องอ่านพระคัมภีร์
    เห็นว่า มันเป็นความยากลำบากก็ละสิ่งเหล่านี้ไป


    บางคนเดินติดตามพระเจ้า ได้สักพัก
    เจอปัญหารู้สึกเหน็ดเหนื่อย อ่อนล้า อ่อนกำลัง
    ขอพัก พักนานๆ ก็ติดความสะดวกสบาย
    ก็ละคันไถนั้นไป 



    บางคนติดตามพระเจ้า ได้ ระยะยาว
    สู้ทนได้มาระยะหนึ่ง
    ถูกการเงินที่ดีกว่า การงานที่สบายกว่า
    ถูกความสะดวกสบายของโลกนี้ดึงออกไป
    ถูกทดลองใจและชั่งจิตใจ
    ก็ละคันไถนั้นไป


    จะมีสักกี่คนที่จะยอมทนทุกยากลำบาก
    เตรียมดินของตัวเองให้ดี
    เพื่อหว่านเมล็ดพืชที่ดี
    และดูแลพืชเหล่านั้นให้ดี
    และถึงที่สุดการเก็บเกี่ยวจะมาถึง
    ความชื่นชมยินดี ในการลงทุนลงแรงนั้นจะมาถึง



     ท้าย อยากให้พี่น้อง
    หันมาดู สมการของท้ายสักนิดหนึ่ง

    มนุษย์เรา อายุเฉลี่ยอยู่ที่
    50 -120 ปี ไม่เกินนี้ 

    ถ้าคุณเชื่อพระเจ้าตั้งแต่เกิด คุณก็จะทนทุกข์
    เพียง  
    50 -120 ปี เท่านั้น

    แต่การทนทุกข์นั้นไม่ได้เกิดขึ้นทุกวันนะคะ
    มีเรื่องทุกข์บ้างเศร้าบ้าง ยินดีบ้าง
      มีความสุขบ้าง ซึ่งคนทั่วๆไปเขาก็เป็นแบบเราๆ
    แต่บางคนเชื่อพระเจ้า อายุ
    17 ปี
    บางคน
    30 กว่าปีมาเชื่อ พระเจ้า
    ตั้งแต่คุณมาเชื่อ จนกว่าคุณจะตายจากโลกนี้ไป
    ก็น่าจะ แค่ สามสิบ สี่สิบปีเท่านั้น 

    ถ้า แลกกับ ศักดิ์ศรี ชีวิตที่คุณจะอยู่สุขสบาย
    บนแผ่นดินสวรรค์  พระเจ้าบอกว่า ....


    สดด 90:4 เพราะพันปีในสายพระเนตร
    ของพระองค์เป็นเหมือนวานนี้ซึ่งผ่านไปแล้ว
    หรือเหมือนยามเดียวในเวลากลางคืน
      


    2 ปต 3:8 แต่พวกที่รัก อย่าลืมข้อนี้เสีย คือ
    วันเดียวขององค์พระผู้เป็นเจ้า
    เป็นเหมือนกับพันปี
     และพันปีก็เป็นเหมือนกับวันเดียว


    นั้นเท่ากับว่า 1 วันของพระเจ้า = 1000 ปีของเรา 

    และพระวจนะของพระเจ้า กล่าวอีกว่า  


    วว 20:6 ผู้ใดที่ได้มีส่วนในการฟื้นจากความตาย
    ครั้งแรกก็เป็นสุขและบริสุทธิ์ ความตายครั้งที่สอง
    จะไม่มีอำนาจเหนือคนเหล่านั้น แต่เขาจะเป็นปุโรหิตของพระเจ้าและของพระคริสต์
    และจะครอบครองร่วมกับพระองค์ตลอดเวลาพันปี
      




    วว 20:4 ข้าพเจ้าได้เห็นบัลลังก์หลายบัลลังก์
    และผู้ที่นั่งบนบัลลังก์นั้น
    ทรงมอบให้เป็นผู้ที่จะพิพากษา และข้าพเจ้ายังได้
    เห็นดวงวิญญาณของคนทั้งปวงที่ถูกตัดศีรษะ
    เพราะเป็นพยานของพระเยซู
    และเพราะพระวจนะของพระเจ้า
    และเป็นผู้ที่ไม่ได้บูชาสัตว์ร้ายนั้นหรือรูปของมัน
    และไม่ได้รับเครื่องหมายของมันไว้ที่หน้าผากหรือที่มือของเขา คนเหล่านั้นกลับมีชีวิตขึ้นมาใหม่
    และได้ครอบครองร่วมกับพระคริสต์เป็นเวลาพันปี



    นั้นหมายความว่า เราจะได้ครอบครองร่วมกับพระองค์
    ตลอดเวลาพันปี 
    พันปีในที่นี้คือ
    1000 ปีของพระเจ้า 

    สมการก็คือ

    เราทนทุกข์ อย่างมาก
    120 ปี ของมนุษย์
    แต่เราจะได้เก็บเกี่ยวจากความยากลำบากนั้น ถึง

    1000 ปีของพระเจ้า นั้นก็คือ 


    1 วันของพระเจ้า = 1000 ปีของมนุษย์

    1000 ปี ของพระเจ้า จะ = เท่าไร??????


    ถ้าคุณเป็นนักธุรกิจ นักลงทุน ท่านจะรู้ว่า
    มันน่าลงทุนแค่ไหน
    กับความเหน็ดเหนื่อยวันนี้
    แลกกับผลประโยชน์มากมายที่ท่านจะได้รับ
    เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยว


    การเดินติดตามพระเจ้าไม่ได้เดินในทาง
    ที่โรยด้วยกีบกุหลาบ แน่นอน!!!!
    พระคัมภีร์ได้กล่าวถึง “ความยากลำบากที่จะเกิดขึ้นกับเรา บ่อยครั้ง

    แต่พระวจนะก็กล่าวว่า


    มธ 5:10 บุคคลผู้ใดต้องถูกข่มเหงเพราะเหตุ
    ความชอบธรรม ผู้นั้นเป็นสุข
    เพราะว่าอาณาจักรแห่งสวรรค์เป็นของเขา

     

    เราที่เป็นมนุษย์คนบาป หลีกเลี่ยงโลกแห่งความบาปนี้ไม่ได้แน่นอน
     แม้วันนี้เราไม่ได้ขับรถยนต์ แต่เราต้องรับผล
    ของการสูดกลิ่นควันของรถยนต์ที่คนอื่นได้กระทำ

    แม้วันนี้ เราจะขับรถถูกจรจร
    แต่ก็มีหลายครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ
    เพราะคู่กรณีเป็นคนเมา

    ท้ายกำลังจะบอกทุกๆท่านว่า
    ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน เป็นอะไรในโลกนี้
     เราก็จะได้ผลกระทบจากความบาปที่เกิดขึ้นในโลกนี้
      ความยากลำบาก จึงมีอยู่ในชีวิตทุกคน
    ไม่ว่าท่านจะเชื่อพระเจ้าหรือไม่เชื่อพระเจ้าก็ตาม

      มันจะดีแค่ไหน? ถ้าความทุกข์ยากลำบากนั้น
    มีคนคอยฟังเราพล่าม
    คอยฟังเราบ่น
    คอยกอดเรา เวลาเราร้องไห้
     นั้นก็สุขใจแล้วจริงไหมคะ

     ขอพระเจ้าอวยพระพรคะ
    ✬✭

    ✬✭

     

    Hosanna Hosanna

    Hosanna✬✭Hosanna

    Hosanna Hosanna

    ขอพระเจ้า อวยพระพรทุกท่านนะค

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×