ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Oh...My....GOD

    ลำดับตอนที่ #102 : @-@-@@@ นิมิตเรื่องการเก็บเกี่ยว@@@-@--@---@

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.พ. 57


    (✿◠‿◠) คำอธิษฐานหล่อเลี้ยงชีวิตคริสเตียน (◕‿◕✿)

    ท้ายเคยคิดว่า อัครทูลเปโตรมองเห็นนิมิตในขณะที่เขายังนั่งอยู่บนหลังคาได้อย่างไรกัน

    ท่านเห็นนิมิตนั้นในขณะที่ท่านลืมตามองดูท้องฟ้าได้อย่างไร 

     

    อัครทูลเปโตรเป็นไอดอลในชีวิตของท้ายเสมอ  ท้ายอยากเดินบนทะเลได้เหมือนเปโตร อยากฉุดมือคนง่อยลุกขึ้นเดินได้เหมือนท่าน มีประสบการณ์หลายๆอย่างที่อยากพบเจอเหมือนเปโตร แต่อย่างเดียวที่ไม่อยากเหมือนเปโตร คือการตายเหมือนเปโตร เหอๆ  

     

    จำได้ว่า ตั้งแต่เชื่อพระเจ้ามาตั้งแต่ ปี พ.ศ 2540  จนถึงปัจจุบัน  ท้ายเป็นผู้รับใช้พระเจ้า ที่เผยพระวจนะบ้าง ตักเตือนคนบ้างตามที่พระเจ้าใช้ไป พูดคุยกับคนของพระเจ้าตามถ้อยคำที่พระเจ้าให้ ตลอดมานั้น นิมิตทั้งหมด ส่วนมากได้มาจาก ขณะที่นั่ง อธิษฐาน พูดคุยกับพระเจ้า และ ตอนนมัสการพระเจ้าอยู่ ซึ่งทั้งสองอย่างนั้น ท้ายได้รับขณะหลับตา  แต่นิมิตนี้ ท้ายได้ขณะ “ลืมตา” อยู่.....

     

    มันเกิดขึ้นในเช้าวันเสาร์ ปลายปี 2556  ชาวนาทางภาคอีสานต่างชื่นชมยินดี เพราะเป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยว รวมทั้งครอบครัวของท้ายด้วย  ท้ายหยุดงานวันเสาร์ วันอาทิตย์ แต่มีเวลาช่วยพ่อเก็บเกี่ยวข้าวได้แค่วันเสาร์เท่านั้น  เพราะวันอาทิตย์ไปโบสถ์กันทั้งหมด

    วันเสาร์วันนั้นท้ายเลยตื่นแต่เช้าพาลูกๆหลานๆ ไปที่นาของเราแต่เช้า กะว่าวันเวลาที่ได้ช่วยพ่อปีละครั้งนี้จะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้  พอลงไปที่ทุ่งนา ท้ายถึงกับหยุดมอง แล้วฉีกยิ้มได้กว้างๆ พลางนึกถึงคำอธิษฐาน ของตนเอง ที่นั่งอธิษฐานในทุกๆเช้า “ขอพระองค์ทรงอวยพระพรสวนไร่นาของผู้ที่เชื่อทุกคนให้เกิดผลอันดีในทุกสิ่ง” และวันนี้ท้ายก็ได้เห็นแล้ว  ท้ายสูง 167 ซม. แต่ต้นข้าวในนาของท้ายสูงท่วมหัวท้าย ฮาเลลูยา!!!!

     เกี่ยวข้าวปีนี้ไม่ได้ก้มๆเงยๆ ไม่ปวดหลังปวดเอว  แต่ยิ่งกว่านั้น มันสร้างความยินดีให้กับลูกชาวนาคนหนึ่ง อย่างท้าย วันนั้น ท้ายเอาโทรศัพท์มือถือ ใส่กระเป๋าหลังกางเกง เปิดเพลงนมัสการ ไปพร้อมๆกับเกี่ยวข้าวไปด้วยความชื่นชมยินดี ปล่อยให้เด็กๆเกี่ยวข้าวบ้าง เล่นบ้างตามประสาเด็ก 

     

    ขณะเกี่ยวข้าว ท้ายก็คุยกับพระเจ้าว่า ขอให้พี่น้องทุกคนได้เก็บเกี่ยวผลอันดีอย่างนี้ เหมือนอย่างท้าย ท้ายก็พูดกับพระเจ้าแบบนี้ตามปรกติ  ในขณะที่ท้ายเกี่ยวข้าวอยู่นั้น ท้ายก็ได้ยิน คำว่า “เก็บเกี่ยว” ท้ายสะดุดกับคำนั้น ทันที และส่ายหัวไปมา บอกว่า คงคิดไปเอง นั้นเพราะท้ายไม่เคยมีประสบการณ์ในการเห็นนิมิตในขณะที่ลืมตา จากนั้นท้ายก็เริ่มเอ่ยปากร้องเพลงนมัสการตามเสียงเพลงไปเรื่อยๆ 

    “เจ้าได้เก็บเกี่ยวแล้ว”

    คราวนี้ เสียงชัดเจน  และ คุ้นเคย ท้ายยิ้มๆตามประสาคนขี้เล่น แล้วกล่าวว่า

    “พระองค์เจ้าข้า พระองค์อยากพูดอะไรกับท้ายกันแน่เนี๊ย”  “เจ้ามองเห็นอะไร”

    ท้ายหยุดเกี่ยวข้าว แล้วเงยหน้าขึ้นมามองรอบๆ แล้วตอบพระเจ้าว่า

    “ข้าวเหลืองๆเต็มทุ่งนาเลย”

    แต่ในขณะที่ตอบพระเจ้าอยู่นั้น สายตามองท้องทุ่นแต่ในหัวกลับมีภาพลูกแอปเปิ้ลสีแดงสด ท้ายพยายามปัดภาพนั้นออกจากหัว แล้วบ่นกับตัวเองว่า


    “จะมาอยากกินแอปเปิ้ลอะไรตอนนี้”

     แต่ยังบ่นกับตัวเองยังไม่ทันจบ เสียงที่คุ้นเคยนั้น ก็ถามขึ้นอีกว่า “เจ้าเห็นอะไร”

    คราวนี้ท้ายตอบว่า “แอปเปิ้ล”

    หลังจากนั้น ภาพนั้นก็ขยายออก จากภาพแอปเปิ้ลลูกหนึ่งขยายใหญ่ขึ้น เป็น แอปเปิ้ลที่ออกลูกติดกับต้นของมัน



    มีเด็กหญิงคนหนึ่ง นั่งคุกเข่าอยู่ใต้ต้นแอปเปิ้ลนั้น เด็กคนนั้นนั่งคุกเข่าและร้องทูลต่อพระเจ้า ทุกครั้งที่เธอขยับปากร้องทูล จะมีลูกแอปเปิ้ลค่อยๆเกิดขึ้นแทรกตามกิ่งก้านของต้นแอปเปิ้ลนั้น ยิ่งเธอร้องทูล มากแค่ไหน ลูกแอปเปิ้ลนั้นก็ผุดขึ้นตามกิ่งก้านมากเท่านั้น บางลูกออกมาเป็นลูกเล็กๆ บางลูกออกมาเป็นลูกที่โตเต็มที่แล้ว  บางลูกก็โตจนล่วงหล่นสู่พื้นดิน ยิ่งเด็กคนนั้น อธิษฐานมากเท่าไร จากลูกแอปเปิ้ลที่เล็กๆนั้น ก็ค่อยๆใหญ่ขึ้นทีละน้อย จนในที่สุดก็โตเต็มที่จนเก็บกินได้ แอปเปิ้ลที่หล่นลงดินทำให้เด็กน้อยนั้นได้ริมรสมันแล้วท้องของเธอก็อิ่มไปทั้งวัน  วันต่อมา เธอก็กลับมาที่ต้นแอปเปิ้ลต้นเดิม และเริ่มนั่งลงอธิษฐาน  
    1 คำ อธิษฐาน เท่ากับ แอปเปิ้ล 1 ลูก บางคำอธิฐาน เก็บเกี่ยวได้รับผลเลย  บางคำอธิษฐานต้องอธิษฐานซ้ำๆเพื่อให้ผลนั้นเติบโตขึ้นจนสุกเต็มที่ เด็กหญิงคนนั้น บางวันได้ลูกแอปเปิ้ลไปแค่อิ่ม บางวันเธอได้เต็มกระบุงจนได้จำหน่ายจ่ายแจก






    ผิดกันกับอีกภาพหนึ่งที่ท้ายเห็น  หญิงสาวคนหนึ่ง เธอนอนลงใต้ต้นแอปเปิ้ล นานๆทีเธอก็ลุกขึ้นมาอธิษฐาน พอเธอ อธิษฐานแล้วเธอก็รอคอย แอปเปิ้ลนั้นจะเติบโตและล่วงหล่นลงมา เธอนอนจ้องมองดูลูกแอปเปิ้ลที่มีเพียงลูกเดียวนั้น อยู่อย่างนั้น วันแล้ววันเล่า จนตัวของเธอซูบผอม แห้งเหี่ยวลงในที่สุด เธอก็ทนรอไม่ไหว ร้องไห้ แล้วเดินจากต้นไม้นั้นไป

     



     

    พระเจ้าทำให้ท้ายเข้าใจว่า.....ทุกคำอธิษฐานมีวาระในการสุกและล่วงหล่นลงมาเพื่อให้เราได้เก็บเกี่ยวผลของมันแอปเปิ้ลบางลูกสุกช้า บางลูกสุกทันที การที่เราร้องทูลทุกวันนั้นเหมือนกับการที่เราสะสมคำอธิษฐานนั้นไว้บนต้นไม้แห่งชีวิต รอวันเวลา รอวาระที่เราจะได้ “เก็บเกี่ยว” ถ้าเราร้องทูลทุกวันผลไม้จะเต็มต้น และล่วงหล่นลงมาให้เราเก็บเกี่ยวทุกวัน ผลของมันจะทำให้เราอิ่มหนำ จนต้องเอาออกไปแบ่งปันผู้อื่น และผู้อื่นก็ได้อิ่มหนำไปตามๆกัน ด้วยผลของมัน (ส่วนนี้ท้ายเข้าใจว่าพระเจ้าปรารถนาให้เรารู้จักแบ่งปันคำอธิษฐาน รวมไปถึงการแบ่งปันพระพรเพื่อเป็นที่หนุนจิตชูใจกัน) และในทุกๆวันเราจะได้รับการเก็บเกี่ยวจากการร้องทูลนั้น บางวันน้อย บางวันมาก แต่ทุกวันเขาก็อิ่มหนำ และเพียงพอทำให้ชีวิตของเขาไม่เหี่ยวแห้งไป

    ทุกคำอธิษฐานพระเจ้าทรงสดับฟัง และไม่เคยลืม  ผู้ที่หว่านมาก ก็จะได้เก็บเกี่ยวมาก ตามวันเวลาของมัน ตามวาระของมัน  บุคคลผู้นั้นจะชื่นชมยินดี เพราะเขากินอิ่มและนอนหลับ ต่างกันกับอีกภาพหนึ่ง ผู้ที่หว่านเพียงเล็กน้อยก็เก็บเกี่ยวน้อย จิตใจของเขาก็เหี่ยวแห้งไป เพราะเขากินไม่อิ่ม ท้องของเขาก็หิวโหย จนทนไม่ได้และเดินจากไป.....

    ภาพที่สองนั้นมันทำให้ท้ายนึกถึงพี่น้องบางคนที่ท้ายเคยไต่ถาม  เมื่อท้ายถามว่า “เป็นไงบ้าง....พระเจ้าอวยพระพรอยู่ไหมคะ” เขาก็มักตอบว่ายังเลย รอคอยอยู่ ตอบแบบใบหน้าเศร้าๆจิตใจห่อเหี่ยว  การมีพระพรจากคำอธิษฐาน เหมือนการได้ดื่มกินให้ชีวิตฝ่ายวิญญาณของเราได้อิ่มหนำ เมื่อท้องไม่หิว จิตใจสบาย ร่างกายก็จะชื่นชมยินดีไปด้วย 

    ท้ายถามพระเจ้าอีกว่า “อัครทูลเปโตร เห็นนิมิตแบบที่ท้ายเห็นไหม?” ไม่มีคำตอบใดๆจากพระองค์ แม้ไม่ได้รับคำตอบใดๆจากองค์พระผู้เป็นเจ้าในขณะนั้น แต่ท้ายกลับรู้สึกยินดีและดีใจ

     

    เป็นครั้งแรกที่ท้ายเห็นนิมิตนั้นโดยไม่ได้หลับตาลง

     

    เป็นครั้งแรกที่ได้คุยกับพระเจ้าในขณะที่ไม่ได้นั่งคุกเข่า หรืออยู่ในบริบทที่เป็นทางการ

     

    วันนั้นเป็นวันที่ท้ายเก็บเกี่ยวอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย   

     

    แต่นิมิตนั้นก็ชวนให้ท้ายสงสัยว่า พระเจ้าบอกเล่าเรื่องนี้กับท้ายทำไม เพราะถ้าพระเจ้าสำแดง นั้นหมายความว่าท้ายต้องบอกต่อแด่คนของพระองค์ให้รับรู้ เพราะดูไปรอบๆก็มีแต่เด็กๆเท่านั้น

     

    และแน่นอนเรื่องนี้เด็กๆทุกคนจะต้องนั่งฟังด้วยความตื่นเต้นแน่ๆ แต่นั้นคือน้ำพระทัยสูงสุดของพระองค์หรือ

     

    ท้ายเริ่มสำรวจชีวิตตัวเอง และทูลถามพระเจ้าว่า “พระเจ้าจะให้ท้ายเผยพระวจนะใส่ตัวเองหรือ ท้ายไม่สัตย์ซื่อในการอธิษฐานกับพระองค์หรือ คำวิงวอนของท้ายไม่เป็นที่พอพระทัยของพระบิดาหรือ ท้ายควรจะทำเช่นไรถึงจะเป็นที่พอพระทัยพระองค์”

    พระเจ้าตรัสถามท้ายกลับในทันที

    “เจ้ามีอะไร ก็จงใช้สิ่งนั้น”

    “ข้าพระองค์มีแค่สองมือเท่านั้นพระเจ้าข้า”

    “ก็จงใช้สองมือของเจ้านั้นแหละ เพื่ออาณาจักรของเราและคนของเรา”

    เย็นวันนั้นท้ายกลับมาบ้านและเขียนนิมิตนั้นไว้ในกระดาษ เพราะตอนนั้น คอมพิวเตอร์เอาไปซ่อม

     

    จนวันนี้ เป็นอีกวันที่พระเจ้ามาทวงสิ่งนั้น ภาพของแอปเปิ้ลมันลอยมาอยู่ตรงหน้าขณะเฝ้าเดี่ยว

     

     ท้ายคงทำได้แค่ สื่อสารโดยการเขียนแด่คนของพระองค์ ส่วนการได้รับพระพรนั้นขึ้นอยู่กับผู้อ่านทุกท่าน

     หวังว่าผู้เชื่อทุกท่านที่อ่านบทความนี้จบจะได้รับพระพรเป็นอย่างมาก 

    ขอพระเจ้าอวยพระพรคะ

    ´*•.¸(*•.¸♥¸.•*´)¸.•*´

    ♥«´¨`•°..AMEN..°•´¨`»♥

     

    ขอขอบพระคุณพระเจ้าที่ใช้ลูกชาวนาผู้ต่ำต้อยอย่างข้าพระองค์

    ❤❤❤สุดท้าย❤❤❤

    。✿*゚・✿..:* *.:。✿*゚・✿..:* *.:。✿*¨゚✎・ ..:* *.:。✿*¨゚✎・✿..:*

     

    ´*•.¸(*•.¸♥¸.•*´)¸.•*´

    ♥«´¨`•°..AMEN..°•´¨`»♥

     

    ..AMEN..

    ¸.•*(¸.•*´♥`*•.¸)`*•.

     

    ´*•.¸(*•.¸♥¸.•*´)¸.•*´

    ♥«´¨`•°..AMEN..°•´¨`»♥

    .¸.•*(¸.•*´♥`*•.¸)`*•.

     

     

    ) .
    `´¸.•°*”˜˜”*°•
    ..¸.•°*”˜˜”*°•.




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×