คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ทีม คาคาชิ นารุโตะ ซากุระ ซาสุเกะ ซาอิ มายาโตะ (7)
ฮาตาเกะ คาคาชิ
สถานะ : Juunin
สังกัด : Konoha
อายุ : 27 ans
กรู๊ปเลือด : O
ส่วนสูง :
น้ำหนัก :
ภารกิจ(Missions) : D :
ข้อมูลส่วนตัว
วันเกิด : 15 กันยายน
แคว้น : โคโนะฮะ
อาจารย์ : โฮคาเงะ รุ่นที่ 4
ท่าไม้ตาย : นินจาก๊อปปี้ , พันปักษา
ของโปรด : หนังสืออะจึ๋ยสวรรค์รำไร
สัตว์ที่ทำสัญญาเลือดด้วย : สุนัข 8 ตัว
http://my.dek-d.com/hochi/story/viewlongc.php?id=192028&chapter=17
กลุ่มสุนัข 8 ตัวถูกเรียกออกมาโดยฮาตาเกะ คาคาชิ ใช้ช่วยตามกลิ่น
http://my.dek-d.com/hochi/story/viewlongc.php?id=192028&chapter=12(ประวัติ ปลั๊กคุง)
และในตอนต่อสู้แต่ที่เห้นเรียกมาใช้บ่อยๆ ก็ ปลั๊กคุง ตังเล็กๆน่ารักน่ารักงะ
อาจารย์
และเป็นลูกชายของสุดยอดนินจาในอดีต ที่ได้ชื่อว่า เขี้ยวสีขาวแห่งโคโนะฮะ
ดวงตาข้างซ้ายของ คาคาชิ เป็นเนตรวงแหวนของเพื่อนสนิท
ที่มอบดวงตาเอาไว้ให้ก่อนจะเสียชีวิต ทำให้ คาคาชิ มีความสามารถ
ก๊อปปี้ท่าไม้ตายของนินจาคนอื่นได้
แต่โดยเนื้อแท้แล้ว คาคาชิ ถูกฝึกมาให้เป็นหน่วยลอบสังหาร
โดยมีวิชา พันปักษา เป็นไม้ตายสังหารในทีเดียว ซึ่งต่อมาได้สอนวิชานี้แก่ ซาสึเกะ
ถึงแม้อุปนิสัยเจ้าตัวจะเรื่อยๆเปื่อยๆ วันๆเอาแต่อ่านหนังสืออะจึ๋ยสวรรค์รำไร
ที่เขียนโดยเซียนกบ จิไรยะ แต่เมื่อเวลาที่ออกปฏิบัติภารกิจ ก็จะกลายเป็นกำลังหลักของโคโนะฮะเลยทีเดียว
เป็นหนึ่งในตัวละครยอดนิยม มักติดหนึ่งใน 10 เสมอ ความสามารถในการ ก๊อปปี้
ถ้าอยากรู้ว่าสุดยอดแค่ไหน ดูได้ตอนที่สู้กับ ซึบาซะ ในภารกิจสุดหินที่ท่านรุ่น 3 ให้ทีมคาคาชิ
ไปเพราะถือว่าเป็นแค่ระดับ D แต่กลับกลายร้ายแรงถึงระดับ A ซะงั้น ตอนนั้น
คาคาชิมองแวบเดียวก็สามารถเรียนแบบวิชาของ ซึบาซะ ได้ภายในพริบตาเลยทีเดียว
คาคาชิยังเป็นคู่แข่งที่ดีของ ครูไก อีกด้วย เรียกได้ว่า สุดยอดของการเป็นครู แต่ว่ากันว่า
เด็กๆ หลายคนถูกบอกให้เลิกเป็นนินจา เพราะเด็กส่วนใหญ่ที่สอบกับ คาคาชิ
ไม่มีใครสอบผ่านเลย นอกจากกลุ่ม ของ นารูโตะ นี้ เท่านั้น
นิสัยที่แก้ไม่หายของคาคาชิ คือการ......... มาสาย
(อันนี้เขียนขึ้นเองนะค่ะเพราะทุกครั้งที่นัดกับพวก นารูโตะ จะชอบมาสายเป็นประจำ)
และที่น่าประทับใจที่สุดสำหรับ คาคาชิแล้วหล่ะก็ คือ คารมดีเลิศที่สามารถหลอกล่อ
ใครต่อใครได้เป็นอย่างดี ถ้าได้อ่าน
นารูโตะก็จะรู้ค่ะว่า คาคาชิ มักมีวิธีพูดที่ทำให้คนอื่นเลี้ยงและเสียเงินแทนได้อย่างเต็มใจ
สามารถใช้คำพูดที่ไม่สามารถเถียงได้เลย เรียกว่าไวพริบไม่แพ้ใครเลย
(ก็นะ.......เล่นอ่านนิยายข้ามวัน ข้ามคืนอย่างนั้น น่าจะมีคำพูด ที่เด็ดมาก เลยทีเดียว)
http://my.dek-d.com/Writer/story/viewlongc.php?id=177331&chapter=9
http://my.dek-d.com/Writer/story/viewlongc.php?id=177331&chapter=10
http://my.dek-d.com/Writer/story/viewlongc.php?id=177331&chapter=11
http://my.dek-d.com/hochi/story/viewlongc.php?id=192028&chapter=20
ข้อมูลขั้นเทพของครูคาคาชิ คลิกไปอ่านได้เลยจ้า
ข้อมูลส่วนตัว
วันเกิด : 10 ตุลาคม
กรุ๊ปเลือด : B
ตำแหน่ง : เกะนิน
แคว้น : โคโนะฮะ
สิ่งที่ชอบ : ราเม็ง
เพื่อนสนิท : อุจิวะ ซาสึเกะ , ฮารุโนะ ซากุระ
อาจารย์ : อิรุกะ , ฮาตาเกะ คาคาชิ , จิไรยะ (เซียนกบ)
ไม้ตาย : แยกเงาพันร่าง , กระสุนวงจักร , วิชาเรียกกบ กามะบุนตะ
สัตว์หางที่สิงสู่: จิ้งจอกเก้าหาง
สถานะ : Genin
สังกัด : Konoha
อายุ : 13 ans
กรู๊ปเลือด : A
ส่วนสูง :
น้ำหนัก :
ภารกิจ(Missions) : D :
สัวต์ที่ทำสัญญาเลือด : กบขนาดยักษ์
กามะบุนตะ,กามะคิจิ(เป็นลูกของกามะบุนตะ),กามะทัตซึ
(เป็นลูกของกามะบุนตะและเป็นน้องของ กามะคิจิ)
ทั้งหมดเป็นสัตว์ที่นารูโตะทำสัญญาเลือดด้วยนารูโตะจะเรียกออกมาใช้เป็นประจำ
แต่ตัวไหนจะออกมานั้น ขึ้นอยู่กับกำลังของนารูโตะเอง
นินจาจอมกวน ตัวเอกประจำเรื่องนี้ เมื่อตอนยังแบเบาะ มีปีศาจจิ้งจอกเก้าหางบุกโคโนะฮะ
เพื่อปกป้องหมู่บ้านโคโนะฮะ โฮคาเงะ รุ่นที่ 4 จึงพลีชีพและกักตัวปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง(เคียวบิ)
ไว้ในตัวของเขานารุโตะ
เมื่อนารุโตะโตขึ้นมา ทีแรก ผู้คนในหมู่บ้านไม่ชอบนารุโตะเท่าไหร่นัก
เพราะคิดว่าจิ้งจอกเก้าหางในร่างนารุโตะเป็นต้นเหตุให้ โฮคาเงะรุ่นที่ 4 ต้องเสียชีวิต
แต่นารุโตะก็ยังร่าเริง กวนโอ้ยชาวบ้านไปทั่ว โดยไม่ได้น้อยใจผู้คนในหมู่บ้าน และพยายามฝึกฝนวิชา
โดยมีความฝันที่จะเป็นโฮคาเงะให้ได้ในอนาคต จนนารุโตะได้กลายเป็นกำลังสำคัญของหมู่บ้านในที่สุด
นารูโตะ เป็นตัวละคร ที่ยอดนิยมเหมือนกัน เพราะเห็นติด 1 ใน 10 ประจำเลย
ก็แน่หล่ะ เพราะ เป็นพระเอกนี้นะ คาคาชิ มักเรียก นารูโตะ ว่า นินจาเหนือความคาดหมาย No.1 แห่งโคโนะฮะ
นิสัยใจร้อน มักวิ่งออกก่อนหน้าคนอื่น(เรียกได้ว่าเสนอหน้าก่อนใครๆ แบบว่าเป็น แนวหน้าตลอด)
พูดจา โวยว้าย เป็นสีสันของการ์ตูนเรื่องนี้เลยทีเดียว แม้จะเห็นว่านารูโตะไม่ค่อนจะมีส่วนดีนัก
แต่ส่วนดีของนารูโตะ คือ อดทน มุมานะไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ และเป็นคนที่ ขยัน นารูโตะไม่ใช่คมเก่ง
แต่ที่เก่งได้เพราะ นารูโตะเป็นคนที่ ขยันฝึกเพราะอยากที่จะเก่ง เป็นคนที่ฝันใหญ่และอยากไปให้ถึง
นั้นแหละตัวเอกของเรา
ส่วนคำพูดที่ติดปาก ก็....... “ฉันจะเป็น โฮคาเงะ ให้ได้” หรือ “ความฝันคือ เป็น โฮคาเงะ”
“ฉันไม่กลืนคำพูดของตนเองหรอกน่า...นี้แหละวิถีนินจาของฉัน”
และคาถาที่ใช้ บ่อยที่สุด คือ คาถาแยกเงาพันร่าง มีนารูโตะที่ไหน เจอแต่คาภานี้สินะ
http://my.dek-d.com//story/viewlongc.php?id=192028&chapter=2
ข้อมมูลขั้นเทพของครูคาคาชิ เข้าไปอ่านเลย
ข้อมูลส่วนตัว
วันเกิด : 23 กรกฎาคม
กรุ๊ปเลือด : AB
แคว้น : โคโนะฮะ
เพื่อนสนิท : อุซึมากิ นารุโตะ , ฮารุโนะ ซากุระ
อาจารย์ : ฮาตาเกะ คาคาชิ
ท่าไม้ตาย : คาถาไฟ , เนตรวงแหวน , พันปักษา
เป้าหมาย : แก้แค้น อุจิวะ อิทาจิ
สถานะ : Genin
สังกัด : Konoha
อายุ : 13 ans
กรุ๊ปเลือด : AB
ส่วนสูง :
น้ำหนัก :
ภารกิจ (Missions) : D :
สัตว์ที่ทำสัญญาเลือด : งูยักษ์ (ของโอโรชิมารุ)
เพื่อนร่วมทีมของนารุโตะ มีความแค้นฝังใจกับพี่ชายของตัวเอง
คือ อุจิวะ อิทาจิ ที่สังหารพ่อและแม่ของตัวเอง สายเลือดตระกูลอุจิวะ
มีความสามารถพิเศษคือ เนตรวงแหวน และการใช้คาถาไฟ
ซาสึเกะตั้งใจฝึกวิชาเพื่อจะไปแก้แค้นพี่ชาย ซึ่งเป็นสุดยอดนินจาที่หักหลังหมู่บ้าน ไปเข้ากลุ่มแสงอุษา
ความเก่งกาจของซาสึเกะ ทำให้ นารุโตะ แอบชื่นชมเขาอยู่
แต่ด้วยความหล่อ+เก่ง ของซาสึเกะ ทำให้เขาเป็นที่หมายปองของสาวๆ รวมทั้ง ซากุระ
ที่นารุโตะแอบหลงรักด้วย ทำให้ นารุโตะ พยายามฝึกฝนวิชา เพื่อเอาชนะ ซาสึเกะให้ได้
ผลก็คือ ทั้งคู่ได้พัฒนาฝีมือได้อย่างรวดเร็ว และเป็นเพื่อนร่วมทีมที่สนิทที่สุด
ความเก่งกาจของนารุโตะ ที่มากขึ้นๆ จากที่เคยเป็นลูกไล่ กลับมาสูสี
และอาจจะเหนือกว่าตัวเขา ทำให้ ซาสึเกะ รู้สึกแค้นใจ ที่ตนเองไม่สามารถพัฒนาฝีมือได้รวดเร็วมากกว่านี้
ภายหลังจึงได้ตัดสินใจ ออกจากหมู่บ้านโคโนะฮะ เข้าร่วมกลุ่มฝ่ายตรงข้ามอย่าง โอโรจิมารุ
ที่สามารถจะมอบพลังให้กับเขา แม้โอโรจิมารุต้องการจะใช้ร่างของซาสึเกะ
แต่เพื่อที่จะฆ่าพี่ชายด้วยมือตัวเองแล้ว เขายอมทำทุกอย่าง
นี้ก็เป็น 1 ใน 10 ของตัวละครยอดนิยมเช่นกันเป็นตัวละครที่มีทั้งความหล่อและชาติตระกูล
แถมยังมีความมุ่งมั่นอย่างรุงแรง เป็นนินจาที่มีพรสวรรค์อีกคน
คำพูดที่ติดปากเสมอคือ “ชิ” ค่อนข้างจะหยิ่งพยองในตัวเองและเข้าใจยากสุดๆเลย
ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่นะสิ
http://my.dek-d.com//story/viewlongc.php?id=192028&chapter=4
ข้อมมูลขั้นเทพของครูคาคาชิ คลิกเลยจ้า
ซากุระ
เป็นตัวละครที่ร่าเริงแจ่มใส ใจเร็ว เป็นธรรมดาของเด็กผู้หญิงทั่วๆไปที่คิดแต่เรื่องผู้ชาย
และความสวยงามเป็นเรื่องหลักๆ แรกๆซากุระ อาจจะดูเป็นตัวท่วงของทีม คาคาชิสักหน่อย
เพราะซากุระไม่เก่งเรื่องการต่อสู้ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่รู้สึกว่า ซากุระจะถนัดเรื่องสอบข้อเขียน
และการควบคุมจักระ เป็นเรื่องหลัก พอหลังๆ ซากุระก็เป็นตัวละครสำคัญเนื่องจากวิชาแพทย์ของเธอ
ที่เก่งพอๆกับอาจารย์ของเธอเลยทีเดียวและบวกกับพลังอันมหาศาลของเธอเองเวลาโกธร
จน นารูโตะมักเรียกว่า แรงวัวแรงควาย
คำพูดที่ติดปาก “ไอ้บ้านารูโตะ” “ไอ้บ้าเอ๊ย” “จะบ้าเหรอ”
(พอจะนึกสถานการณ์กันออกไหมค่ะ)
http://my.dek-d.com//story/viewlongc.php?id=192028&chapter=3
ข้อมูลขั้นเทพของครูคาคาชิ คลิกไปอ่านกันได้เลย
Haruno Sakura
Haruno Sakura
ชื่อ : ฮารุโนะ ซากุระ
อายุ : 15 (*อายุปัจจุบันในเรื่อง)
วันเกิด : 28 มีนาคม
ส่วนสูง :
น้ำหนัก :
หมายเลขทะเบียนนินจา : 012601
ปรากฏตัวครั้งแรก Anime : 1
ปรากฏตัวครั้งแรก Manga : 3
หมู่บ้าน : โคโนะฮะ
ความหมายของชื่อ :
(ตามต้นฉบับที่ลอกมานี้ เป็นตัวคาตาคานะ แต่คำว่า ซากุระก็มีคันจิเช่นกันค่ะ) ซากุระ แปลตามตัว ก็คือ ดอกเชอร์รี่ ที่เราเรียกทัพศัพท์กันว่า ดอกซากุระ นั่นเอง ซึ่งดอกซากุระนั้นเป็นดอกไม้ที่คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญมาก ในด้านของความงดงามและมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของวิถีนักรบแบบซามูไร ขณะที่ในประเทศจีน ซากุระจะถูกเป็นตัวแทนของความงดงามของหญิงสาว และเป็นสัญลักษณ์ของความรักได้อีกด้วย
ส่วน นามสกุล 春野 ฮารุโนะ สามารถแยกออกมาได้เป็นสองคำ
คือ ฮารุ (อักษรตัวแรก) หมายถึง ฤดูใบไม้ผลิ
และ โนะ (อักษรตัวที่สอง)ที่แปลว่า ท้องทุ่ง
รวมความแล้ว ชื่อของเธอ ก็คือ ซากุระที่บานอยู่ในท้องทุ่งช่วงฤดูใบไม้ผลิ นั่นเอง
ตัวละครที่เกี่ยวข้อง : อุซึมากิ นารูโตะ / ซาอิ / ฮาตาเกะ คาคาชิ /ยามาโตะ (เท็นโซ) อุจิวะ ซาสึเกะ / ซึนาเดะ (โฮคาเงะรุ่นที่ 5) / อุมิโนะ อิรุกะ / ยามานากะ อิโนะ
จำนวนภารกิจที่ปฏิบัติ :
ระดับต่ำ (D-Rank) : 7
ระดับทั่วๆไป (C-Rank) : 1
ระดับสูง (B-Rank) : 0
ระดับสูงมาก (A-Rank) : 1
ภารกิจขั้นเทพ (S-Rank) : 0
ข้อมูลเกี่ยวกับการสอบเกะนิน จูนิน :
จบการศึกษาจากรร.นินจา เมื่ออายุ (Academy Grad Age) : 12
ช่วงอายุที่สอบจูนิน (Chuunin Exam Age) : ?
ข้อมูลตัวละคร :
ซากุระ ฮารุโนะ คือ หนึ่งในสามชิกทีม 7 ของฮาตาเกะ คาคาชิ อยู่ในตำแหน่งกึ่งกลางระหว่าง นารูโตะ และ ซาสึเกะ
(คนหนึ่งก็เป็นไอ้ห่วย อีกคนก็เป็นอัจฉริยะ ซากุระเลยต้องอยู่ตรงกลาง) เป็นเด็กสาวคนเดียวในกลุ่มที่ไม่แสดงอาการว่าเก่งกล้า
สามารถด้านวิชานินจาแต่อย่างใด แต่เมื่อเวลาผ่านไป เราๆท่านๆก็จะเห็นได้ถึงพัฒนาการของเธอตามลำดับ ซึ่งมีมากกว่าแค่ความเป็น “สาวคลั่งซาสึเกะ”
แต่คือ ความสามารถที่ผลักดันให้เธอก้าวเข้าสู่หนทางการเป็นคุโนะอิจิ (นินจาหญิง) ผู้มีฝีมือได้
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้อ่านจำเธอได้ และทำให้ซากุระแตกต่างจากนางเอก (??) คนอื่นๆก็คือ อีกตัวตนของเธอ ซึ่งถือเป็นบุคลิกแฝงที่เรียกว่า “ซากุระอีกคน”
ที่อยู่ข้างในตัวเธอ คอยทำหน้าที่แสดงอารมณ์ความรู้สึกที่แท้จริงของซากุระออกมา ซึ่งในช่วงแรกๆเราจะร่างแฝงของเธอบ่อยมาก
เนื่องจากว่า ช่วงแรกนั้น ซากุระจะเป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกของตัวเองออกมาตรงๆ โดยที่บนหน้าผากของซากุระอีกคนนั้น
จะมีคำว่า "Shānnarō" (しゃーんなろー) ตามต้นฉบับญี่ปุ่น/อังกฤษ เขียนไว้ด้านบน ซึ่งในภาษาไทยก็คือ คำว่า ซากุระอีกคนนั่นเอง
ซึ่งเป็นคำที่ไม่มีความหมายตรงตัว แต่ถ้าเอาจากความรู้สึกทางภาษาก็จะได้ความว่า "hell yeah", "hell no", or "damn it"
เท่ากับ “บ้าเอ๊ย” / “บัดซบ” / หรือกระทั่ง “แมร่งเอ๊ย” -- ในสำนวนแปลฉบับเนชั่นฯ จะถอดออกมาเป็น "สู้ต๋ายค๊า"
นอกจากนี้ ไม่เพียงความพิเศษของบุคลิกเธอเท่านั้น ด้านหน้าตา ซากุระก็จัดเป็นคนที่มีเสน่ห์ที่สุดคนหนึ่งในเรื่องก็ว่าได้
เพราะ เพื่อเธอแล้ว ทั้งนารูโตะ และ ร็อค ลี ต่างก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อพิชิตใจสาวน้อยให้ได้
ซึ่งรวมไปถึงการเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเธอด้วย แม้ว่าจริงๆแล้วสาวเจ้าจะไม่สนใจ เพราะหลงรักซาสึเกะอยู่อย่างมั่นคงก็ตาม
ทำให้ความสัมพันธ์ของคนทั้งหมดออกมาในแบบรักสามเส้าที่แสนจะวุ่นวายเป็นที่สุด
ด้านบุคลิกส่วนตัว ตั้งแต่แรก ซากุระอาจจะดูเป็นเด็กผู้หญิงที่น่าหมั่นไส้เหลือเกิน ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ดีแต่ปาก ชอบสั่งชอบสอน
แถมยังมั่นใจในความฉลาด(ทางสมอง)ของตัวเองเอามากๆอีกต่างหาก โดยที่หลายคนคงนึกไม่ถึงหรอกว่า ในอดีตนั้น
เธอเคยเป็นเด็กผู้หญิงตัวน้อยที่แสนจะขี้ขลาดเป็นที่สุด เนื่องจากสมัยที่ซากุระยังเด็กจะโดนเพื่อนล้อเรื่องหน้าผากกว้างๆ
(คาดว่า เป็นเพราะสมองมันโตรึเปล่าก็ไม่ทราบ)เป็นประจำ จนต้องหลบไปร้องไห้อยู่คนเดียว และเอาผมลงมาปิดหน้าไว้
เธอมาเริ่มมีความมั่นใจในตัวเองก็ตอนที่ได้พบกับ อิโนะ ยามานากะ ที่เข้ามาทำความรู้จักกับเธอและยอมรับซากุระอย่างที่เป็น
ทั้งยังมอบริบบิ้นอันเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพให้กับเธออีกด้วย จึงถือได้ว่า อิโนะเป็นเพื่อนคนแรกและเป็นเพื่อนสนิทคนสำคัญของเธอเลยก็ว่าได้
แต่เนื่องจากซากุระมารู้ความจริงทีหลังว่า เธอกับอิโนะต่างก็ชอบซาสึเกะเหมือนกัน ทำให้ความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อน ต้องเปลี่ยนไปเป็นคู่แข่ง
และนี่เอง คือ ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ซากุระพยายามยืนหยัดด้วยตนเอง เพื่อเป็นผู้หญิงที่ทั้งสวยและมีความมั่นใจแบบอิโนะให้ได้
(แถมทั้งคู่ก็ไว้ผมยาวเหมือนกันอีก เพราะได้ข่าวว่า ซาสึเกะชอบสาวผมยาว) และก็กลายมาเป็นเธอที่สนใจเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก
ของตนและพยายามทำทุกอย่างเพื่อพิชิตใจซาสึเกะให้ได้อย่างที่เราเห็นกันตั้งแต่แรกนี่แหละ
สำหรับชีวิตการเป็นคุโนะอิจิ หลังจากผ่านบททดสอบรับขวัญแย่งกระดิ่งกันไปแล้ว ซากุระก็เริ่มต้นเส้นบนเส้นทางนินจาด้วยภารกิจแรกกับทีม 7
คือ การคุ้มกันตัวนักสร้างสะพาน ชื่อ ดาซึนะ ไปที่แคว้นนามิโนะคุนิในฐานะองครักษ์ปะจำตัวของเขา และด้วยภารกิจนี้เองที่ทำให้เธอ
ต้องเข้าไปพัวพันกับการต่อสู้เสี่ยงชีวิตเป็นครั้งแรก เมื่อต้องเผชิญกับอดีต 1 ใน 7 นินจาดาบแห่งคิริงาคุเระ อย่าง ซาบุสะ โมโมจิ
ผลของการต่อสู้ทำให้ซากุระถึงกับปล่อยโฮและหลงลืมกฎพื้นฐานของนินจาในแง่ที่ว่าห้ามแสดงความรู้สึกส่วนตัวออกมา เมื่อพบว่า ซาสึเกะ คนที่ตัวเองรักตายไปแล้ว แต่โชคดีที่สุดท้ายมันก็เป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด ซาสึเกะรอดชีวิต และพวกเธอก็ทำภารกิจสำเร็จ
แลกกับความตายของซาบุสะและฮาคุ โดยที่ระหว่างทำภารกิจนี้ เธอและเพื่อนร่วมทีมทั้งสองได้เรียนรู้เทคนิคในการควบคุมจักระ
ด้วยการฝึกปีนต้นไม้ โดยที่ซากุระได้รับหน้าที่ในการอธิบายพื้นฐานของจักระให้เด็กโข่งอย่างนารูโตะฟังด้วย มิหนำซ้ำช่วงที่ทดลองฝึก
เธอก็เป็นคนเดียวที่ผ่านการทดสอบจากครู และก็เป็นเรื่องที่รู้กันสองคนกับคาคาชิว่า ซากุระเป็นคนที่มีพื้นฐานแน่นที่สุด เลยให้ผ่านการฝึกนี้ไปได้
หลังทำภารกิจแรกสำเร็จ เด็กทั้งสาม ซึ่งรวมทั้งเธอด้วยได้รับการแนะนำให้เข้าร่วมสอบจูนิน แม้ว่าซากุระเองจะไม่มีความมั่นใจนัก แต่ก็ได้กำลังจากซาสึเกะและนารูโตะ รวมทั้งคาคาชิช่วยประคับประคองจน สมัครเข้าร่วมจนได้ สมาชิกทีม 7 สามารถผ่านการสอบรอบแรกไปได้เพราะโชคช่วย ด้วยความบ้าดีเดือดของนารูโตะ (เพราะขืนวัดกันที่คะแนน แม้ซากุระจะทำได้เต็ม แต่อีกสองคนคงไม่รอดอยู่ดี โดยเฉพาะพระเอกของเรา เนื่องจากสมองไม่ดีเท่า) แต่กลับต้องเผชิญกับอันตรายที่ไม่คาดฝันในการสอบรอบที่สอง ในป่ามรณะจากการโจมตีของนินจาลึกลับ ซึ่งความจริงแล้ว คือ หนึ่งในสามนินจาในตำนาน ที่ปัจจุบันถอนตัวจากหมู่บ้านไปแล้ว โอโรจิมารุ เป้าหมายของโอโรจิมารุ คือ เนตรวงแหวนและสายเลือดอุจิวะของซาสึเกะ เขาโจมตีเธอและเพื่อน จนทำให้นารูโตะสลบไปเพราะโดนผนึกห้าวิถี แล้วยังมอบอักขระไว้ที่คอของซาสึเกะ จนทำให้เด็กชายทรมานจากการสูญเสียจักระอีกด้วย ที่แย่ยิ่งกว่านั้น คือ ระหว่างที่เพื่อนร่วมทีมทั้งสองของเธอยังไม่ได้สติ ซากุระจำต้องรับมือกับเกะนินจากโอโตะงาคุเระของโอโรจิมารุอีกถึงสามคน คือ คิน โดสึ และ ซาคุ แม้ว่าในระหว่างนี้ ลีจะบังเอิญมาพบและพยายามช่วยเธอ แต่เขาก็ได้รับบาดเจ็บไปด้วยอีกคน จากการเห็นการเสียสละของทุกคน ทำให้ซากุระเกิดความสำนึกและมีใจสู้ขึ้นมา จนกล้ายืนหยัดเผชิญหน้ากับศัตรูที่เหนือกว่าตามลำพัง ด้วยความตั้งใจว่า จะต้องปกป้องทุกคนเอาไว้ให้ได้ สิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นนี้ ก็คือ การที่เธอตัดใจตัดผมแสนรักด้วยมือตัวเอง และด้วยความเด็ดเดี่ยวนี้ ทำให้ทีม 10 ของอิโนะที่ซุ่มอยู่ทนไม่ได้ จนต้องออกมาช่วยด้วย แต่สุดท้ายเรื่องก็จบลงที่ซาสึเกะ ซึ่งตื่นขึ้นมาด้วยผลของอักขระ จัดการพวกโอโตะนินจนหมด ก่อนที่เขาจะถูกซากุระเข้ามาห้ามและหมดสติไปอีกครั้ง บางทีจากเหตุการณ์นี้เอง ที่ทำให้เราเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงในใจของซากุระบ้างแล้ว
อย่างไรก็ตาม อักขระที่คอของซาสึเกะก็สร้างความหนักใจให้ซากุระเรื่อยมา จนถึงขนาดที่เธอจะเป็นฝ่ายขอโยนผ้ายอมแพ้ให้เขาด้วยซ้ำ เพื่อไม่ให้เขาต้องเจ็บตัวมากกว่านี้ แต่น่าเสียดายตรงที่ ซาสึเกะไม่ยอมรับความหวังดีของเธอ ยังยืนกรานที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งแม้จะได้รับชัยชนะ แต่ก็ต้องไปรับการสะกดอักขระกับคาคาชิและพักฟื้นอีกนาน ฝ่ายซากุระเอง ทั้งที่ยังเป็นห่วงซาสึเกะอยู่ ก็ยังต้องมาเผชิญหน้ากับคู่ปรับเก่าอย่าง อิโนะ เข้าให้ในรอบสองนี้จนได้ การต่อสู้ของสองสาวอดีตเพื่อนรักเป็นไปอย่างสูสี และทำท่าว่าจะยืดเยื้อออกไป จนกระทั่งอิโนะใช้คาถาจิตย้ายร่างเข้าไปในตัวซากุระได้นั่นแหละ ทิศทางเกมเลยตกอยู่กับอิโนะมากกว่า แต่ทั้งนี้ ซากุระก็ได้แสดงความแข็งแกร่งของตนเอง ด้วยการขับไล่อิโนะออกมาด้วยตัวเธอเองอีกคน และด้วยหมัดสุดท้ายของทั้งคู่ ก็ทำให้ผลออกมาเสมอกันในที่สุด
เมื่อเข้าสู่การประลองรอบจริง ซากุระทำได้แค่เพียงเป็นผู้เข้าชมการประลองของทั้งนารูโตะและซาสึเกะที่ผ่านเข้ารอบมาได้ทั้งคู่ แต่ระหว่างการประลองกลับเกิดเหตุร้ายขึ้น เพราะโอโตะงาคุเระและซึนะได้เปิดศึกกับโคโนะฮะ ทำให้ต้องหยุดการสอบกะทันหัน และกลายเป็นการก่อสงครามระหว่างสามฝ่ายแทน โดยในช่วงที่ชุลมุนนั้น ผู้ชมส่วนใหญ่ล้วนถูกคาถาลวงตาของคาบูโตะเข้าไปจนหมดสติ เหลือเพียงแค่โจนินชั้นนำของโคโนะฮะ เธอและชิกามารุเท่านั้นที่ยังปลอดภัยอยู่ คาคาชิจึงมอบหมายภารกิจระดับเอให้ซากุระ ชิกามารุและนารูโตะ โดยให้เดินทางร่วมกับปั๊กคุง เพื่อติดตามซาสึเกะ ซึ่งออกตามกาอาระแห่งซึนะที่เริ่มคลุ้มคลั่งไปแล้ว ในช่วงนี้เอง ที่เราได้เห็นความสามารถพิเศษของซากุระเป็นครั้งแรก ว่าเธอเองเป็นคนหนึ่งที่มีพรสวรรค์ด้านคาถาลวงตา แต่ที่ยิ่งไปว่านั้น ยังมีความจริงที่น่าตกใจบางประการที่เปิดเผยออกมา นั่นคือ ซากุระกับปั๊กคุงใช้แชมพูยี่ห้อเดียวกัน...
จากนั้น เมื่อพวกเธอตามไปจนพบกาอาระที่เริ่มเปลี่ยนรูปร่างแล้ว ซากุระก็พบว่าซาสึเกะกำลังถูกผลกระทบของอักระเล่นงานอีกแล้ว ทำให้เธอยอมเสี่ยงตาย เอาตัวเข้าปกป้องคนที่รัก โดยไม่หลบหลีกการโจมตีของกาอาระแม้แต่น้อย ส่งผลให้โดนเล่นงานโดยทรายของอีกฝ่ายเข้าไป จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ดีที่นารูโตะ สามารถช่วยเธอและเอาชนะกาอาระได้ก่อนเวลาหมด ทำให้คาถาทรายที่ใช้คลายและซากุระก็ปลอดภัย
(ต่อจากนี้ มีการเสริมเนื้อเรื่องในฉบับอนิเมเข้าไป เมื่อทีม 7 เดินทางไปทำภารกิจที่แคว้นใบชา และพบกับผู้ที่ถอนตัวออกมาจากแคว้นไฟ ชื่อ อาโออิ โรคุโช ซึ่งได้ป้ายความปิดเรื่องการลักขโมยของสำคัญบางอย่างเอาไว้กับนินจาโคโนะฮะ ในช่วงนี้เอง ที่ซากุระเริ่มแสดงออกซึ่งความสามารถในเชิงวิชาแพทย์ของตน ด้วยการช่วยชีวิตเพื่อนร่วมทีมและแก้พิษให้กับเด็กชายที่ถูกป้ายความผิดและถูกพิษของอาโออิ ทำให้สถานะของเธอเริ่มเปลี่ยนไปเป็นผู้สนับสนุนให้ทีมมากกว่าเป็นฝ่ายจู่โจม และนี่ก็นับเป็นภารกิจครั้งสุดท้ายจริงๆของเธอในช่วงนี้)
จากเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น ทำให้ซาสึเกะยิ่งเครียด และเริ่มมีความคิดที่จะถอนตัวออกจากหมู่บ้านยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แม้ในช่วงที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาล ซากุระจะพยายามดูแลเขาอย่างดี แต่เด็กชายก็ไม่สนใจ ตรงข้ามกลับปฏิเสธไมตรีของเธอ และท้านารูโตะดวลกัน ทำให้เธอ ผู้ซึ่งไม่ต้องการให้เพื่อนทำร้ายกัน ตัดสินใจเข้าขวาง จนเกือบเป็นอันตรายไปด้วย ดีที่คาคาชิมาช่วยห้ามไว้ทัน จากนั้นเธอก็เล่าเรื่องอักระและโอโรจิมารุให้นารูโตะฟัง (ถึงขั้นยอมเดทกับเขาเลยทีเดียว) นอกจากนี้ ตอนที่ซึนาเดะส่งหน่วยย่อยไปตามตัวซาสึเกะ เธอก็ได้ขอร้องนารูโตะอีกครั้ง ว่าให้ช่วยซาสึเกะกลับมาให้ได้ เพราะนั่นเป็นคำขอชั่วชีวิตเพียงอย่างเดียวของเธอ (แม้ว่า ความรู้สึกลึกๆของเธอในช่วงนี้ที่มีต่อนารูโตะจะเริ่มเปลี่ยนไปแล้วก็ตาม แต่การได้ซาสึเกะกลับคืนมา ก็ยังเป็นความหวังของซากุระไม่เปลี่ยน) เนื่องจาก เมือคืนก่อนที่พวกนารูโตะจะออกเดินทาง เธอไม่สามารถห้ามซาสึเกะได้ แม้ว่าจะพยายามทั้งขอร้องและอ้อนวอนแล้วก็ตาม และสิ่งเดียวที่ได้กลับมา ก็เพียงแค่ คำว่า “ขอบใจ” และการจากลาเท่านั้น
แต่แม้จะพยายามเต็มที่แล้ว นารูโตะก็ไม่สามารถรักษาสัญญาชั่วชีวิตที่ให้ไว้กับเธอด้วยการพาซาสึเกะกลับมาได้ ตรงกันข้าม เขากลับได้รับบาดเจ็บสาหัสกลับมา และนี่เองที่ทำให้ซากุระตระหนักว่า ทางเดียวที่จะทำให้เธอพาซาสึเกะกลับมาได้ ไม่ใช่การหวังพึ่งแต่คนอื่นฝ่ายเดียว แต่เธอเองนั่นแหละที่ต้องเติบโตขึ้นและแข็งแกร่งกว่านี้ และด้วยความตั้งใจนี้เอง ที่ผลักดันให้ซากุระเข้าพบซึนาเดะด้วยตนเองและขอร้องให้โฮคาเงะรุนที่ 5 รับเธอเป็นศิษย์ ประกอบกับเข้าใจความรู้สึกของเด็กหญิงและเห็นความมุ่งมั่นของเธอ ทำให้ซากุระได้รับการยอมรับเป็นศิษย์ของผู้เชี่ยวชาญวิชาแพทย์ในที่สุด และตลอดสองปีครึ่งที่ผ่านไป เธอก็ตั้งใจเรียนรู้ทุกอย่างและได้รับถ่ายทอดวิชามาจากซึนาเดะอย่างเต็มที่
(เนื้อหาในช่วงระยะนี้ มีการเสริมเพิ่มเติม ว่าซากุระและนารูโตะได้ออกไปทำภารกิจกับจิไรยะ ที่แคว้นแห่งข้าว เพื่อสืบหาข่าวของซาสึเกะและโอโรจิมารุ จนได้พบกับผู้รอดชีวิตจากตระกูลฟูมะที่ถูกโอโรจิมารุครอบงำ คือ ซายาเมะ ที่นำทางพวกเขาไปจนถึงรังลับของโอโรจิมารุ แต่น่าเสียดาย ที่สุดท้ายแล้ว นอกจากช่วยชีวิตของซายาเมะกับคนในตระกูลคนอื่นให้กลับมารวมกันได้ ทั้งสามคนก็คว้าน้ำเหลว ไม่ได้ทั้งข่าวคราวและเบาะแสะเกี่ยวกับซาสึเกะและโอโรจิมารุเหมือนเดิม)
เวลาผ่านไป จนเนื้อเรื่องเข้าสู่ภาคสอง สองปีครึ่งต่อจากภาคแรก ซากุระเติบโตขึ้นเป็นนินจาสาวน้อยที่ทั้งสวย เพียบพร้อมและเก่งกาจไม่ต่างจากอาจารย์ของเธอ ในการเปิดตัวครั้งแรกของเธอ เราจะได้เห็นชุดใหม่ที่ดูโฉบเฉี่ยวและทะมัดทะแมง ต่างจากรูปลักษณ์แบบเด็กผู้หญิงหวานๆตอนแรกอย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้ เมื่อเธอและนารูโตะได้ทดสอบผลของการฝึกร่วมกับคาคาชิที่สนามสอบเดิมอีกครั้ งซากุระก็แสดงให้เห็นชัดเลยว่า ตลอดสองปีที่ผ่านมา เธอได้รับอะไรมาบ้าง ไม่เพียงเทคนิควิชาแพทย์และพลังช้างสาร(!?) ที่ซึนาเดะถ่ายทอดให้เท่านั้นแต่เดิมเธอก็เป็นผู้ที่ความเชี่ยวชาญเรื่องคาถาลวงตาอยู่เป็นทุน ทำให้คาคาชิถึงกับคิดว่า อนาคตเธอคงก้าวข้ามอาจารย์ของตนเองไปได้แน่ๆ
หลังการทดสอบฝีมือจบลง เกิดการบุกโจมตีของพวกแสงอุษาที่ซึนะงาคุเระ (ที่มีแผนในการนำพลังสถิตร่างทุกคน ไปดึงสัตว์หางออกไป ไม่เว้นแม้แต่คาเสะคาเงะ และนารูโตะด้วย ซึ่งหากถูกดึงสัตว์หางออกไป พลังสถิตร่างนั้นก็จะตายทันที) และผลจากการโจมตีนั้นก็คือ กาอาระ ซึ่งได้ขึ้นเป็นคาเสะคาเงะแล้วถูกจับตัวไป ซึนาเดะจึงส่งทีมคาคาชิ ซึ่งมีซากุระและนารูโตะร่วมด้วยให้เดินทางไปทำหน้าที่ประสานงานที่ซึนะทันที ทำให้ซากุระได้แสดงฝีมืออีกครั้ง ด้วยการผสมยาถอนพิษของซาโซริ ที่แม้แต่ย่าโจยังแก้ไม่ได้ได้สำเร็จ ทำให้ช่วยชีวิตคันคุโร่ไว้ได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด
ต่อมา ย่าโจก็ร่วมเดินทางตามซาโซริไปกับพวกซากุระด้วย ขณะเดียวกัน ทางโคโนะฮะก็ส่งทีมไกเข้ามาสมทบ ระหว่างทาง ทีมคาคาชิเผชิญกับอิทาจิ ซึ่งแฝงมาในร่างของโจนินซึนะ ที่ชื่อ ยูระ และทีมไกก็เจอกับคิซาเมะที่แฝงมาในร่างของนินจาอีกคน หลังจากผ่านการต่อสู้มาพอสมควร ในที่สุดทั้งหมดก็ได้พบกับซาโซริและเดอิดาระ รวมทั้งร่างอ่อนปวกเปียกของกาอาระเข้าจนได้ เมื่อต่างมีจุดยืนอยู่คนละฝั่ง สิ่งที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือ การต่อสู้อันดุเดือด นารูโตะและคาคาชิรับมือกับเดอิดาระ ส่วนซากุระกับย่าโจก็จับคู่กันต่อสู้กับซาโซริ ส่วนทีมไกนั้น กลับต้องเผชิญศึกอื่นกับตัวโคลนของตัวเองระหว่างทำการปลดยันต์ผนึก ทำให้เข้ามาช่วยสู้ด้วยไม่ได้
ทันทีที่เริ่มต่อสู้ ซากุระก็ต้องเผชิญความจริงว่าตนเองตกอยู่ในการต่อสู้ของสองนักเชิดหุ่นแห่งซึนะ และยังได้รู้เห็นความจริงที่ว่า คนที่ฆ่าคาเสะคาเงะรุ่นที่ 3 แห่งซึนะก็คือ ซาโซริอีกด้วย ระหว่างการต่อสู้ ด้วยความที่ซากุระและย่าโจเข้าขากันได้เป็นอย่างดี ทำให้ซาโซริสูญเสียหุ่นเชิดมนุษย์ของคาเสะคาเงะรุ่นที่ 3 และต้องยอมใช้ตัวเองออกมาสู้ ข้างฝ่ายย่าโจก็งัดเอาวิชาก้นหีบ คือ วิชาลับขาวหมวดสิบหุ่นไม้สน ที่มีอานุภาพขนาดถล่มปราสาททั้งหลังได้ด้วยตัวคนเดียวออกมา ปะทะกับ วิชาลับแดงเชิดร้อยหุ่นของซาโซริที่ถล่มทั้งแคว้นได้ แม้จะต้องเผชิญกับคาถาอันน่าเกรงขามและอาวุธอาบยาพิษ แต่ซากุระก็อาศัยความมุ่งมั่น เด็ดเดี่ยวเกินผู้หญิงทั่วไปรุกไล่เข้าไปได้เรื่อยๆ ผสานกับความร่วมมือจากย่าโจ จนในที่สุดก็เอาชนะ ปลิดชีพซาโซริและได้รับเบาะแสของโอโรจิมารุมาเป็นรางวัล
หลังการต่อสู้จบลง เธอพาย่าโจไปหากาอาระที่ได้นารูโตะกับคาคาชิช่วยกันชิงร่างกลับมาได้ และได้อยู่เป็นพยานในการคืนชีพให้กับคาเสะคาเงะหนุ่มน้อย ด้วยการแลกชีวิตจากวิชาคืนชีพของย่าโจ เป็นการปิดฉากภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้อย่างสมบูรณ์และแสนเศร้า
ครั้นเมื่อเดินทางกลับมาที่โคโนะฮะ เธอได้นำเบาะแสที่รู้มาให้ซึนาเดะ ซึ่งได้นำไปวางแผนรับมือกับเหตุการณ์อีกที และสุดท้ายก็ตัดสินใจตั้งหน่วยย่อยสี่คนขึ้นมาใหม่ ให้ยามาโตะเป็นหัวหน้าทีมแทนคาคาชิที่ยังไม่ฟื้นตัว ร่วมกับสมาชิกใหม่จาก ‘ราก’ ชื่อ ซาอิ ที่ละม้ายคล้ายคลึงกับซาสึเกะ ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าตาหรือบุคลิก แต่อย่างหนึ่งที่ไม่เหมือนกันเลย ก็คือ ปากหมาๆของเพื่อนใหม่ ที่มักจะชอบพูดจาส่อเสียดและยิ้มเสแสร้งใส่ทั้งเธอและนารูโตะ รวมทั้งกล่าวกระทบกระเทียบซาสึเกะจนทำให้ซากุระอดไม่ได้ ให้ลงมือต่อยปากเขาไปด้วยความไม่พอใจเหมือนกัน
ทั้งสี่คนเดินทางร่วมกันมา แม้ว่าจะไม่ชอบขี้หน้ากันนัก จนมาถึงสะพานเท็นจิแห่งคุสะงาคุเระ ซึ่งเป็นสถานที่ซาโซรินัดพบกับสายของตน ซึ่งก็คือ คาบูโตะจนได้ ยามาโตะปลอมตัวแฝงไปในหุ่นฮิรุโกะของซาโซริเพื่อรอโอกาสจับตัวอีกฝ่าย โดยหารู้ไม่ว่า ที่แท้ทั้งคาบูโตะและโอโรจิมารุต่างก็เตรียมตัวมาเพื่อซ้อนแผนฆ่าซาโซริ ภายหลัง เมื่อโอโรจิมารุปรากฏตัวออกมา นารูโตะก็ถูกอีกฝ่ายยั่วจนเกิดโทสะคลุ้มคลั่ง และพุ่งเข้าหาโอโรจิมารุแบบไม่ได้สติ พร้อมกับมีจักระจิ้งจอกเก้าหางงอกออกมา อาละวาดไปทั่ว จนกะทั่งทำร้ายซากุระที่พยายามเข้าไปห้ามด้วยความเป็นห่วงโดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าซากุระจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม แต่ด้วยความเป็นห่วงความรู้สึกของเพื่อน เธอจึงแกล้งพูดโกหกเพื่อให้นารูโตะสบายใจ ว่าบาดแผลที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของโอโรจิมารุ ขณะที่ตอนนั้น ซาอิได้ออกจากกลุ่มและติดตามโอโรจิมารุกับคาบูโตะไปแล้ว
ต่อจากนั้น เธอ นารูโตะและยามาโตะก็สะกดรอยตามซาอิไปจนถึงรังของโอโรจิมารุ ทั้งหมดแยกย้ายเข้าแทรกซึมไปในรังของมัน และในที่สุด หลังจากฟันฝ่าความพยายามมากมาย เธอก็ได้พบซาสึเกะอีกครั้ง แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ช่วงเวลาอันแสนสั้น และไม่สามารถนำตัวเพื่อนกลับมาได้เหมือนเดิม แต่อย่างน้อย การพบกันครั้งนี้ ก็ทำให้ทั้งเธอและนารูโตะรู้ว่า ความหวังยังคงไม่หมดไป และพวกเขาต้องพยายามต่อไปด้วยกัน ทั้งนี้ แม้กระทั่งซาอิเอง ก็ได้กลายมาเป็นเพื่อนคนหนึ่งของพวกเธอด้วย เพราะพลังแห่งมิตรภาพที่เธอและนารูโตะมีต่อซาสึเกะนั่นเอง
และในขณะนี้ หลังการตายของโอโรจิมารุ ด้วยฝีมือของซาสึเกะ ซากุระกับนารูโตะ พร้อมด้วยทีมคิบะ ร่วมมือกับคาคาชิและยามาโตะก็ได้เริ่มออกเดินทาง เพื่อตามหาตัวซาสึเกะด้วยการมุ่งเป้าไปที่อิทาจิ โดยที่ยังไม่ละความพยายามง่ายๆเหมือนเดิม แต่ในระหว่างทางนั้น ทีมของโคโนะฮะที่มีเธอร่วมอยู่ด้วยกลับต้องเผชิญหน้ากับหนึ่งในวายร้ายที่ร้ายกาจแห่งแสงอุษา อย่าง โทบิ ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นมาดาระ ทำให้การต่อสู้อีกบทกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
นอกจากบทบาทตามหน้าหนังสือการ์ตูนและอนิเมแล้ว ซากุระยังเป็นตัวเอกอีกคนที่ได้ไปโลดแล่นในฉบับภาพยนตร์อีกด้วย โดยมีบทบาทต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ภาคแรกเลยทีเดียว ซึ่งเนื้อหาในภาคนั้นเป็นการปกป้องเจ้าหญิง มิโซเระ ฟุยุคิมะ ของทีม 7 และซากุระก็ได้แสดงฝีมือด้วยการเอาชนะนินจาคนหนึ่ง ด้วย เทคนิคพิศวงของซากุระ (桜吹雪の術 Sakura Fubuki no Jutsu?, English "Sakura Blizzard Jutsu") ต่อมาในภาคสอง พวกนารูโตะเข้าไปพัวพันกับความละโมบในการครอบครองหินเกเรลของชายผู้มาจากต่างแดน และเผชิญหน้ากับผู้ที่รวมร่างเข้ากับหิน ซึ่งทำให้มีความสามารถเหนือมนุษย์ในรูปแบบต่างๆ ร่วมกับกาอาระและคันคุโร่แห่งซึนะ ซากุระสามารถเอาชนะหนึ่งในนั้น คือ ฟุไก ที่สามารถกลายร่างเป็นหมาป่า โดยการใช้ไหวพริบ ด้วยการทำให้หินถล่มลงมาทับเธอ ส่วนภาคสามนั้น ซากุระ นารูโตะ ลีและคาคาชิเดินทางไปที่แคว้นพระจันทร์ เพื่อคุ้มครององค์ชายรัชทายาทและเจ้าชายน้อย ในการฟื้นฟูแคว้นให้กลับมารุ่งเรืองดังเดิมและกำจัดขุนนางร้ายที่ยึดครองราชย์บัลลังก์ โดยที่ครั้งนี้ ซากุระมีวิชาแพทย์ที่ดีขึ้น จนสามารถสลายอาการเป็นหินจากวิชานินจาได้ รวมทั้งยังได้ใช้หมัดดินระเบิดของตัวเอง บวกกับความเด็ดเดี่ยวในการเอาชนะ คาเรนบานะ ได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว และอีกไม่นานต่อจากนี้ เราคงได้ติดตามบทบาทของเธอในนารูโตะฉบับภาพยนตร์ภาค 4 ตำนานสลาตันได้ด้วย ก็คงต้องรอลุ้นกันต่อไป ว่าสาวน้อยคนนี้จะเก่งกาจขึ้นอีกขนาดไหนกัน
ไม่เพียงแค่ที่กล่าวมาข้างต้น ในเกมซากุระก็ได้เป็นหนึ่งในตัวเด่นมาตลอด ในหลายรูปแบบเช่นกัน จึงนับได้ว่า ในบรรดาตัวละครหญิงอันน้อยนิดของเรื่องนี้ เธอเป็นคนที่มีพัฒนาการและโดดเด่นที่สุดเลยก็ว่าได้
ซาอิ
ชื่อ : ซาอิ
อายุ : 15-16
วันเกิด : ไม่ระบุ
ส่วนสูง : ไม่ระบุ
น้ำหนัก : ไม่ระบุ
ปรากฏตัวครั้งแรก Anime : Shippuuden 1
ปรากฏตัวครั้งแรก Manga : 289
หมู่บ้าน : โคโนะฮะงาคุเระ
ความหมายของชื่อ :
ตัวละครที่เกี่ยวข้อง : อุสึมากิ นารุโตะ, ฮารุโนะ ซากุระ, ยามาโตะ, ฮาตาเกะ คาคาชิ
จำนวนภารกิจที่ปฏิบัติ : ไม่ระบุ
ข้อมูลเกี่ยวกับการสอบเกะนิน จูนิน : ไม่ระบุ
ข้อมูลตัวละคร : ซาอิ เป็นหน่วยรากของโคโนะฮะซึ่งเป็นหน่วยพิเศษกว่าหน่วยลับอันบุ เป็นหน่วยที่ไร้ชื่อ ไร้ความรู้สึก.. ไร้อดีต.. ไร้อนาคตมีเพียงภารกิจเท่านั้น
คือ"ราก"ที่มองไม่เห็นด้วยตาคอยค้ำจุนไม้ใหญ่นามว่าโคโนะฮะยิ่งกว่าใครๆทั้งหมดนั้นคือความมุ่งมั้นของหน่วย"ราก" ชื่อซาอินั้นก็เป็นชื่อที่ถูกตั้งมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ดันโซมอบหมายภารกิจลับให้กับซาอิ จึงให้ซาอิเข้ามาทำภารกิจของหน่วยรากโดยให้อยู่ในหน่วยที่7 แทนที่ของอุจิวะ ซาสึเกะ หน่วย7ปกติฮาตาเกะ คาคาชิจะเป็นหัวหน้าทีม แต่คาคาชิกลับเข้าโรงพยาบาลด้วยสาเหตุสภาพร่างกายยังไม่พร้อม เลยให้ยามาโตะรุ่นน้องของคาคาชิมาเป็นหัวหน้าทีมชั่วคราว ซาอิเป็นชื่อที่ดันโซมอบให้เพื่อปฎิบัติภารกิจ ซาอิพบกับนารุโตะครั้งแรกช่วงที่นารุโตะเจอกับชิกามารุและโจจิขณะคุยกันเพื่อทดสอบนารุโตะว่ามีฝีมือขนาดไหน
ซาอิได้ใช้วิชาที่ตัวเองถนัดคือการวาดภาพเสมือนสัตว์ อสูรโจมตีแล้วหายไป แล้วมาพบกันอีกครั้งช่วงรวมกลุ่มหน่วย7เพื่อไปปฎิบัติภารกิจตามหาซาสึเกะ ขณะเดินทางก็เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกับนารุโตะ ซาอิไปกวนอารมณ์นารุโตะเกี่ยวกับเรืท่องซาสึเกะเข้าโดยพูดกับนารุโตะว่า"คนที่ทรยศต่อโคโนะฮะ ไร้ฝีมือแต่กระหายอยากได้พลังถึงกับตะเกียกตะกายไปซบอบโอโรจิมารุ... พวกที่ไม่ต่างหนอนไชขยะอย่างโอโรจิมารุน่ะ ผมไม่อยากเอาตัวไปเปรียบด้วยอยู่แล้ว"ด้วยเหตุนี้ทำให้นารุโตะโกรธ
แต่ซากุระมาห้ามไว้แต่แล้วก็โดนซากุระปั้นหน้ายิ้มชกใส่ซาอิแต่แล้วที่สุดหัวหน้าทีมยามาโตะก็ห้ามไว้ได้และพาไปบ่อน้ำร้อนพร้อมกับผักพ่อนอีก1คืน พอรุ่งเช้าก็เริ่มออกเดินทางต่อ ไปพบกับคาบูโตะซึ่งเป็นสปายของซาโซริแห่ง"แสงอุษา"ที่สะพานเท็นจิของหมู่บ้านคุสะงาคุเระ แต่แล้วความก็แตกโอโรจิมารุก็ตามมาด้วย จึงเริ่มการปะทะกันขณะนั้นปะทะกันระหว่างนารุโตะที่ที่แปลงเป็น3หางกับโอโรจิมารุ ซาอิจึงเริ่มภารกิจลับสุดยอดที่ได้รับหมอบหมายมาจากดันโซ ซาอิมาพบกับโอโรจิมารุเมื่อโอโรจิมารุสู้กับนารุโตะเสร็จ ซาอิเจรจากับโอโรจิมารุเรื่องวางแผนทำลายโคโนะฮะ เพื่อให้ซึนาเดะสูญเสียตำแหน่งโฮคาเงะ
จึงคิดที่จะสมคบกับโอโรจิมารุเพื่อโจมตีโคโนะฮะอีกครั้ง หลังจากทำลายหมู่บ้านแล้วก็สร้างใหม่ตามอุดมคติของตัวเอง ก้าวสู่เวทีเบื้องหน้าอย่างเต็มตัวในฐานะโฮคาเงะจึงให้ซาอิเป็นตัวเชื่อมให้กับดันโซ ก็ตามโอโรจิมารุกับคาบูโตะไป ขณะที่ซาอิเดินไปรังลับของโอโรจิมารุ คาบูโตะกับโอโรจิมารุก็รู้ว่าถูกตามอยู่จึงให้คาบูโตะใช้ศพในการตบตาคนที่ตามนั้นคือร่างแยกของยามาโตะนั้นเอง ในที่สุดซาอิก็มาถึงรังลับของโอโรจิมารุ ซาอิเจอกับซาสึเกะ ซาอิปั้นหน้ายิ้มใส่ซาสึเกะ แต่แล้วก็โดนซาสึเกะใช้คาถาลวงตา ซาอิถึงกับฟุบลงพร้อมเหงื่อไหลผ่านบนใบหน้า ในที่สุดพวกนารุโตะก็ตามมาถึงรังลับของโอโรจิมารุ ก่อนที่จะบุกเข้าไปยามาโตะให้นารุโตะกับซากุระกินเมล็ดที่คล้ายๆกับเครื่องติดตามตัวเป็นอุปกรณ์นินจาที่สอดคล้องกับจักระของยามาโตะ วิธีบุกคือใช้คาถาดินบุกเข้าไปทางใต้พื้นดิน คาบูโตะพาซาอิมาที่ห้องๆหนึ่ง เมื่อคาบูโตะปิดประตูออกไป
ซาอิก็เอาหนังสือเล่มสีดำออกมาดู ขณะนั้นพวกนารุโตะก็เดินมาถึงห้องที่ซาอิอยู่ ซาอิจึงเก็บหนังสือเล่มนั้น ยามาโตะให้ซาอิเล่าเกี่ยวกับแผนภารกิจนี้ทั้งหมดให้ฟัง ซาอิจึงเล่าอธิบายทั้งหมดให้ฟัง คาบูโตะได้ย้อนกลับมาเอาเอกสารแต่แล้วก็ไม่เจอซาอิ จึงออกไปข้างนอกและเห็นซาอิถูกหัวหน้ายามาโตะมัดกุมไว้อยู่ จึงเข้าไปช่วยซาอิ แต่แล้วซาอิก็ทรยศคาบูโตะกลับโดยอ้างเพื่อทดสอบสายสัมพันธ์ระหว่างซาสึเกะกับนารุโตะ ทีมยามาโตะได้บุกเข้าไปที่รังลับอีกที โดยแยกเป็น2ทีม ทีมหนึ่งยามาโตะกับซากุระ ทีม2ซาอิกับนารุโตะ โอโรจิมารุมาพบกับทีมของซาอิเข้า จึงเกิดการโจมตีขึ้น นารุโตะจึงให้ซาอิไปตามหาซาสึเกะ โดยนารุโตะจะสู้กับโอโรจิมารุ โอโรจิมารุก็ไปหาซาอิ ยามาโตะค้นกระเป๋าของซาอิแล้วพบหนังสือปกดำเข้านั้นคือบิงโก้บุ๊ค
มีรายการลอบสังหารและในรายการนั้นก็มีซาสึเกะอยู่ด้วย ซาอิก็พบกับซาสึเกะอีกครั้งเมื่อตอนที่ซาสึเกะนอนอยู่ ซาอิพยายามช่วยนารุโตะ พาซาสึเกะกลับหมู่บ้านแต่แล้วภารกิจกลับล้มเหลว ซาสึเกะก็หนีไปพร้อมกับโอโรจิมารุและคาบูโตะ ซาอิมาพร้อมกับยามาโตะ นารุโตะและซากุระขณะที่คาคาชิกำลังหมดท่าให้กับคาคุซึหนึ่งในแสงอุษา คาคาชิจึงให้ซาอิกับซากุระแยกไปช่วยชิกามารุ ล่าสุดซาอิทำภารกิจตามหาอุจิวะ อิทาจิโดยมาทีมคิบะร่วมในการตามหาด้วย
มาร่วมทีมคาคาชิ โดยมีดันโซเป็นคนแนะนำ ให้มาแทนที่ซาสึเกะที่หายไป
ใช้หมึกและภาพวาดเป็นอาวุธ มีวิชานินจาคือ คาถาภาพสัตว์อสูรเทียม
ภารกิจแรกที่ร่วมกับ นารุโตะและ ซากุระ เป็นภารกิจลับสุดยอดของดันโซ นั้นคือการสังหารซาสึเกะผู้ทรยศต่อ
โคโนะฮะ ซาอิไม่ใช่ชื่อจริงๆ แต่ชื่อที่ตั้งไว้เพื่อมาแทนที่ ซาสึเกะเท่านั้น นิสัยเฉยๆอาจเรียกได้ว่าเป้นคนไร้ความรู้สึกก็ว่าได้
กวนโมโหสุดขีดเพราะเป้นคนพูดอะไรไม่ถนอนน้ำใจผู้อื่นเพราะตัวเองเป้นคนไร้ความรู้สึกนั้นเอง
หลังๆ ได้เรียนรู้จัก นารุโตะกับซากุระทำซาอิ เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นและได้ขอร้องให้ ดันโซ ให้ตัวเองร่วมทีมคาคาชิอีกครั้ง
เป็นตัวละครที่น่าสนใจมากค่ะทั้งอุปนิสัย ความเป็นมาของตัวละครและอาวุธที่ใช้ สติปัญญาก็ไม่เบาเลยทีเดียว
เรียกได้ว่าอาจจะเรียกความรักจากหลายๆคนได้เยอะเลยทีเดียว ..
http://my.dek-d.com/Writer/story/viewlongc.php?id=177331&chapter=6
ข้อมูลของครูคาคาชิสมบูรณ์แบบ
ยามาโตะ
นี้ก็ไม่ใช่ชื่อจริงเหมือนกันค่ะ แต่ใช้ชื่อนี้เพื่อนมาแทน คาคาชิที่กำลังบาดเจ็บอยู่
เพื่อพา นารุโตะ ซากุระ และซาอิ ออกไปทำภารกิจ เพื่อตามหาซาสึเกะ
ยามาโตะ ถูกสร้างขึ้นมาโดย โอโรจิมารุ ในการทดลองเพื่อสร้างบุคคลที่เหมือนกับ
ท่านรุ่นหนึ่งที่มีคุณสมบัติพิเศษเหมือนท่านรุ่น 1 เพราะฉะนั้น ยามาโตะจึงมีความสามารถทุกอย่างที่ท่าน รุ่นหนึ่งมี
ร่วมถึงวิชาที่ใช้สะกดร่างสถิตของนารุโตะได้ด้วย ด้วยตอนหลังๆนารุโตะมักดึงเอา
จักระของจิงจอก 9 หางมาใช้ทำให้ต้องอยู่ในการควบคุมเพราะใช้มากๆนารุโตะอาจมีอันตราย
และไม่มีใครสามารถสะกดได้ นอกเหนือจาก ยามาโตะผู้นี้
ยามาโตะ เป็นรุ่นน้องของ คาคาชิที่นับถือ คาคาชิมาก ถ้าจำไม่ผิด คาคาชิ มักเรียก
ยามาโตะว่า เซ็นโท ไม่แน่ว่านั้นอาจจะเป็นชื่อจริงก็ได้
http://my.dek-d.com/Writer/story/viewlongc.php?id=177331&chapter=3
อันนี้การบทความ ขั้นเทพของครูคาคาชิค่ะ
แถมนะค่ะ
แบบเคลื่อนไหว
ความคิดเห็น