ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ข้อมูล DEATH NOTE ขั้นเทพ

    ลำดับตอนที่ #1 : ประวัติของ >

    • อัปเดตล่าสุด 15 ม.ค. 52


    ขอขอบคุณ.................
    http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%98%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%95


    Death Note Gallery

    http://www.pureanimegallery.com/v/deathnote/


    เดธโน้ต
    ไลท์ และยมทูตลุค
    ไลท์ และยมทูตลุค
    ชื่อไทยเดธโน้ต
    ชื่อญี่ปุ่นデスノート
    ชื่ออังกฤษDeath Note
    ประเภทโชเน็น
    แนวลึกลับ, สืบสวน
    หนังสือการ์ตูน
    ผู้แต่งสึงุมิ โอบะ (เรื่อง)
    ทาเคชิ โอบาตะ (ภาพ)
    สำนักพิมพ์Flag of ญี่ปุ่น ชูเอชะ
    Flag of ไทย เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์
    นิตยสารFlag of ญี่ปุ่น โชเน็นจัมป์
    Flag of ไทย บูม
    ตีพิมพ์เมื่อธันวาคม 2546พฤษภาคม 2549
    จำนวนเล่ม13 เล่ม (ในเล่ม 12 จบตอนที่ 108
    ส่วนเล่ม 13 เป็น How to Read)
    ภาพยนตร์การ์ตูนโทรทัศน์
    ผู้กำกับเท็ตสึโร่ อารากิ
    ออกแบบตัวละครมาซารุ คิตาโอะ
    ผลิตโดยแมดเฮาส์
    ฉายทางFlag of ญี่ปุ่น นิปปอนทีวี
    Flag of ไทย ทรูวิชั่นส์
    ฉายครั้งแรก4 ตุลาคม 254926 มิถุนายน 2550
    จำนวนตอน37 ตอน
    ส่วนหนึ่งของสารานุกรมการ์ตูนญี่ปุ่น

    เดธโน้ต (「デスノート」 Desu Nōto – ทับศัพท์จาก Death Note?) เป็นชื่อการ์ตูนญี่ปุ่นแนวลึกลับ แต่งเนื้อเรื่องโดยสึงุมิ โอบะ และวาดภาพโดยทาเคชิ โอบาตะ ในประเทศญี่ปุ่น เดธโน้ตลงตีพิมพ์ในนิตยสารโชเน็นจัมป์รายสัปดาห์ของสำนักพิมพ์ชูเอชะ และตีพิมพ์รวมเล่มออกจำหน่ายทั้งหมด 12 เล่ม ส่วนในประเทศไทยผู้ได้รับลิขสิทธิ์ในการตีพิมพ์คือ เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์ โดยลงตีพิมพ์เป็นรายสัปดาห์ในนิตยสารบูม

    เดธโน้ตได้มีการนำมาทำเป็นภาพยนตร์ ซึ่งสร้างโดยวอร์เนอร์ บราเธอร์ส โดยแบ่งออกเป็น 2 ภาค คือภาคแรก ในชื่อ สมุดโน้ตกระชากวิญญาณ และภาพที่สองในชื่อ อวสานสมุดมรณะ นอกจากนี้เดธโน้ตยังได้ถูกทำเป็นวิดีโอเกมของเครื่องนินเทนโดดีเอส ในชื่อ Death Note: Kira Game

    เนื้อเรื่อง

    ภาคแรก

    ยางามิ ไลท์ นักเรียนมัธยมปลาย ซึ่งเป็นนักเรียนที่ฉลาดมากและเรียนดีติดอันดับ 1 ของประเทศ วันนึงเขาได้ไปพบ "บันทึกมรณะ" (เดธโน้ต) ของ ลุค ยมทูตผู้หนึ่งได้ในคืนที่ฝนตกหนัก ทำให้ได้รับความสามารถพิเศษ สามารถฆ่าคนได้ เพียงแค่รู้จักหน้าคนผู้นั้นแล้วเขียนชื่อลงไปในกระดาษของสมุดบันทึกเล่มนั้น ผู้ที่ถูกเขียนชื่อจะเกิดอาการหัวใจวาย เสียชีวิตภายในเวลา 40 วินาที ไลท์จึงตัดสินใจจะเปลี่ยนแปลงโลก โดยใช้เดธโน้ตฆ่าอาชญากร ผู้คนจึงขนานนามของผู้ฆ่า (ไลท์) ว่า "คิระ" (มาจากคำว่า killer ในภาษาอังกฤษ)

    ไม่นานนักเรื่องนี้ก็บานปลาย อาชญากรพากันล้มตายจนเป็นจำนวนมาก องค์กรตำรวจโลก (ICPO) จึงจัดประชุมใหญ่ขึ้น ประณามการกระทำของ คิระ โดยมีนักสืบผู้แก้ไขคดีต่างๆ มาแล้วมากมายให้กับ ICPO มีนามแฝงว่า L ได้ปรากฏตัวขึ้น และ ประกาศว่า ผมได้เริ่มสืบสวนคดีนี้แล้ว โดยมี วาตาริ ผู้ที่สามารถ ติดต่อกับ L ได้คนเดียว เป็นผู้ช่วย โดย L เองได้ท้าทายคิระ และ วางแผน ล่อให้คิระฆ่าคน โดยใช้ Lind.L.Tailor นักโทษประหารมาหลอกว่าเป็น L และ กล่าวประนาม ว่าสิ่งที่ คิระทำอยู่นี้ เป็นสิ่งชั่วร้าย ทำให้ไลท์ (คิระ) โกรธมากและเขียนชื่อLind.L.Tailorจนหัวใจวายตายคาโทรทัศน์ แต่Lตัวจริงก็ปรากฏตัวออกมาโดยไม่ให้เห็นชื่อเห็นหน้าและกล่าวว่าคีระโดนหลอกแล้ว ทั้งคู่ต่างก็กล่าวออกมาพร้อมกันว่า ฉันจะหาตัวนายแลจัดการนายให้ได้เพราะฉันนี่แหละ ฝ่ายที่ถูกต้อง ไลท์พยายามหาทางกำจัด L ให้ได้เช่นกัน ทาง L ก็ได้ร่วมมือกับ ทีมงานตำรวจญี่ปุ่น ซึ่งนำโดย ยางามิ โซอิจิโร่ พยายามตามจับตัว พยายามสืบหาว่า "คิระ" คือใคร และ ใช้วิธีใดในการฆ่าคนเพียงแต่เห็นหน้าและทราบชื่อ โดยมี วาตาริ เป็นผู้ช่วย ระหว่างนี้ L ขอให้ทางสหรัฐฯ ส่ง FBI เข้ามาติดตามผู้ต้องสงสัยว่าเป็นคิระ ทางด้านไลท์ได้ทดสอบใช้งานโน้ต จนทราบว่าสามารถที่จะกำหนดให้บุคคลเสียชีวิตด้วยเหตุอื่นๆ และสามารถกำหนดเวลาที่จะให้เสียชีวิตได้ด้วย จนในที่สุดสามารถใช้เดธโน้ตฆ่า FBI ที่เข้ามาได้ทั้งหมด ทำให้ L เริ่มมั่นใจว่า ไลท์ น่าจะเป็นคิระ และคอยดูไลท์อยู่เรื่อย ๆ

    เมื่อถึงวันสอบเข้ามหาวิทยาลัยของไลท์ Lก็ได้มาสอบด้วยและได้คะแนนเท่ากันทุกวิชา Lก็ได้ขอให้ไลท์เข้าทีมสืบสวนด้วย

    แต่แล้วจู่ๆ ก็มีวีดีโอเทปถูกส่งมายังสถานีโทรทัศน์ ระบุว่าตนเองคือ "คิระ" โดยสามารถฆ่าคนได้ เพียงแค่รู้จักหน้าตาเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องทราบชื่อ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ไลท์พยายามหาทางติดต่อกับ คิระ คนนั้น จนในที่สุด ไลท์สามารถดึงตัว อามาเนะ มิสะคิระเบอร์ 2 มาเป็นพวกได้ในที่สุด เพราะมิสะเองได้หลงรักไลท์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ด้วยสาเหตุที่คิระได้ ฆาตกรรม คนที่สังหารพ่อแม่ของมิสะไว้ และยังช่วยชีวิตของมิสะไว้อีก ต่อมาไลท์เองพยายาม ทำให้มิสะเจอกับ L ให้ได้ ส่วน L เองก็เชื่อว่ามีคิระ 2 คน ดังนั้น L จึงออกมาพบกับไลท์เพื่อเฝ้าติดตามดูไลท์ตลอดเวลา เมื่อ L ออกมาพบกับไลท์ และบังเอิญเจอมิสะ L ได้พบพิรุธของมิสะ พร้อมกับพบหลักฐานบางส่วนที่มิสะใช้ทำวีดีโอเทปปลอม จึงจับกุมตัวมิสะในทันที ในฐานะคิระหมายเลข 2 ทำให้ไลท์ไม่สามารถใช้มิสะในการกำจัด L ได้ สุดท้าย เรน (ยมทูตที่ติดตาม มิสะ) ได้ยึดความเป็นเจ้าของโน้ตคืนจากมิสะ และ คิดจะฆ่าไลท์ หากไลท์ไม่สามารถช่วยมิสะออกมาได้ เหตุการณ์ไม่คาดคิดนี้เอง ทำให้ไลท์ต้องวางแผนสุดท้ายในการกำจัด L โดยมีเรนมาช่วยด้วยอีกแรง โดยแผนการในครั้งนี้ ทำให้ไลท์ต้องเสียสิทธิ์ในการครอบครองเดธโน้ต ต้องกลับมาเป็นคนธรรมดา เพื่อช่วย L สืบหาตัวคิระ โดยให้เรน นำโน้ตของมิสะไปให้ หนึ่งในผู้บริหาร 8 คนของ บ.โยทสึบะ เพื่อเป็นคิระคนใหม่แทน มิสะ โดยเป็นตัวร่วมในแผนการของไลท์เองในครั้งนี้

    การร่วมมือระหว่าง L กับ ไลท์ ในการตามจับตัวคิระ ดำเนินไปจนถึงขั้นสุดท้าย จนสามารถจับตัวคิระ หนึ่งในผู้บริหาร บ.โยทสึบะ และยึดโน้ตมาได้สำเร็จ จึงทำให้ L เห็นยมทูต และ รู้วิธีการฆ่าในที่สุด เมื่อไลท์ได้แตะโน้ตอีกครั้ง ทำให้ความทรงจำคืนมาทั้งหมด และ แอบเขียนโน้ตที่ซ่อนไว้ในนาฬิกา ฆ่าคิระ (ผู้บริหาร บ.โยทสึบะ) เพื่อปิดปาก โดยแม้ว่าหลักฐานจะสรุปว่าคิระได้ตายไปแล้ว แต่ L ก็ไม่ลดละความพยายามในการพิสูจน์ว่า ไลท์ คือ คิระ และ มิสะ คือ คิระหมายเลข 2 ทำให้ เรม ซึ่งกลัวว่ามิสะจะต้องถูกจับในฐานะคิระหมายเลข 2 ต้องทำอะไรบางอย่างในที่สุด ซึ่งก็คือการที่เรมได้เขียนชื่อของวาตาริและแอลลงไปในเดธโน้ต เมื่อเป็นการต่อชีวิตให้กับมนุษย์ เรมจึงต้องตาย โดยทุกคนหารู้ไม่ว่า ทุกอย่างเป็นแผนการทั้งหมดของไลท์ที่วางไว้ตั้งแต่แรกแล้ว

    เมื่อถึงวันหนึ่ง L และวาตาริก็ได้จากไปอย่างสงบ

    [แก้] ภาคสอง

    หลังจาก L และ วาตาริ ตายไปไม่นาน เครื่องคอมพิวเตอร์ของ วาตาริ ได้ทำการส่งข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับคดีคิระไปที่แห่งนึงซึ่งนั่นก็คือสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ซึ่งก่อตั้งโดย ควิลล์ แวมมี่ เป็นเจ้าของ และมี โรเจอร์ เป็นผู้ดูแลอยู่ ก็ทำให้ทราบว่า วาตาริ เป็นเจ้าของบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้นั่นเอง เนียร์ และ เมลโล ก็อยู่ในระหว่างการคัดเลือกว่า ใครจะมาแทน L ซึ่ง เมลโล รู้ตัวว่าเป็นรอง เนียร์ จึงออกจากบ้านเด็กกำพร้า และหาทางสืบเรื่องคิระ ตามวิธีของตน เพื่อที่จะแสดงให้คนอื่นเห็นว่า ตนเองมีความสามารถ และไปเข้ากับพวกองค์กรมาเฟียระดับโลก โดยยื่นเงื่อนไขในการจัดการคิระให้ เพื่อพวกมาเฟียจะไม่ถูกคิระเขียนชื่อลงในเดธโน้ต ส่วนทาง เนียร์ ได้นำข้อมูลทั้งหมดไปให้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และขอให้จัดสรรทีม SPK (Secret Provision For Kira) เพื่อสืบคดีคิระต่อ ยางามิ ไลท์ ก็สืบทอดตำแหน่งการตามจับคิระต่อไปในร่างของ L โดยเข้าไปทำงานด้านข้อมูลของกรมตำรวจ

    ทางเมลโลกับพวกมาเฟีย จับ ผบตร. ของญี่ปุ่นมา เพื่อสอบถามข้อมูลของเดธโน้ต แต่ ผบตร.ก็ตายด้วยน้ำมือของไลท์ ต่อมาเมลโลวางแผนจับตัว ยางามิ ซายุ มาต่อรองการแลกโน้ตจาก ยางามิ โซอิจิโร่ หลังจากเมลโลแลกโน้ตกับซายุแล้ว ได้ทำการศึกษาเดธโน้ต และเริ่มทดลองการใช้โน้ต ระหว่างนี้ทางเนียร์เองได้ติดต่อกับ L หมายเลข 2 (ยางามิ ไลท์) เพื่อร่วมกันแย่งเดธโน้ตคืนจากเมลโล สุดท้ายได้รับความร่วมมือจาก ชีโดว์ ยมทูตซึ่งเป็นเจ้าของโน้ตเล่มแรกที่แท้จริง (โน้ตที่ได้จากลุคเล่มแรก) โดยการแย่งคืนโน้ตครั้งนี้ แม้ว่าจะสามารถแย่งโน้ตคืนมาได้ รวมถึงรู้ชื่อที่แท้จริงของเมลโล แต่ก็ต้องทำให้พ่อของไลท์ (ยางามิ โซอิจิโร่) ต้องเสียชีวิตไป และ เมลโล ก็หนีไปได้

    ต่อมาไม่นาน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เสียชีวิตลงโดยฝีมือของ คิระ เหตุการณ์นี้ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ล้มเลิกความคิดที่จะสืบหาตัวคิระ และมายืนอยู่ฝ่ายเดียวกับคิระจนทำให้หน่วย SPK ของเนียร์ต้องถูกปิดลง แต่ทางเนียร์กับพวกที่เหลืออีก 3 คนต่างไม่ยอมล้มเลิกการตามหาตัวคิระ และได้ใช้เงินกองทุนของ L ในการดำเนินการสืบหาคิระต่อไป ต่อมาเมลโลได้ติดต่อกลับมาทางเนียร์ผ่านทาง ริโดน่า สมาชิก 1 ใน 3 ของ SPK ที่ยังทำงานกับเนียร์ และเล่าเรื่องเดธโน้ตที่รู้ให้เนียร์ฟังก่อนจะจากไป ในตอนนั้นเนียร์เองก็เริ่มสงสัยในตัวไลท์ หรือ L หมายเลข 2 โดยเริ่มติดต่อกับคนในทีมของไลท์ 2 คน คือ โมงิ กับ ไอซาวะ และอนุญาตให้โมงิมาพบเนียร์ได้ ตอนนั้นไลท์ซึ่งต้องการจัดการเนียร์อยู่แล้ว จึงซ้อนแผนไปอีกทีหนึ่ง ทำให้ที่อยู่ของเนียร์ถูกค้นพบและถูกทำลายลง แต่เนียร์และสมาชิกทีม SPK ทั้ง 3 คน ก็หนีรอดออกมาได้

    การกระทำและการเฝ้าจับตาดู L หมายเลข 2 ของเนียร์ ทำให้ไลท์ทำหน้าที่คิระไม่ได้ และจำเป็นต้องหาตัวแทนขึ้นมา สุดท้ายจำเป็นต้องเลือก มิคามิ เทรุ มาเป็นตัวแทนคิระ มิคามิยอมแลกเปลี่ยนดวงตายมทูต เพราะศรัทธาในตัวคิระเมื่อตอนที่โฆษกซากุระทีวีตาย มิคามิได้เลือกโฆษกคนใหม่ ซึ่งก็คือ ทาคาดะ คิโยมิ แฟนของไลท์สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เมื่อไลท์ได้พบกับทาคาดะ ก็แสดงความรักต่อทาคาดะ และสารภาพกับทาคาดะไปว่าเขาคือ คิระ ทางทาคาดะเองซึ่งศรัทธาในการกระทำของคิระอยู่แล้ว บวกกับชอบพอในตัวไลท์มาก่อน ก็ตอบตกลงช่วยเหลือไลท์ในทันที ซึ่งทำให้ไลท์สามารถใช้งานทาคาดะ เป็นตัวกลางระหว่างติดต่อกับมิคามิ โดยทุกครั้งที่ไลท์นัดเจอกับทาคาดะ ไลท์จะติดเครื่องดักฟังเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ในทีมคนอื่นสงสัย แต่อาศัยการเขียนความต้องการลงในกระดาษเพื่อเป็นการสื่อสารกับทาคาดะแทน

    ทาคาดะ ซึ่งเป็นคนเดียวที่สามารถติดต่อกับคิระได้ ทำให้เธอมีสิทธิ์อยู่เหนือคนธรรมดาทั่วไป ในเวลานั้นทางมิคามิเองก็ฆ่าคนอื่นไปตามคำสั่งของไลท์ ที่ส่งผ่านมาทางทาคาดะ ต่อมาทาคาดะได้จ้างบอดี้การ์ด 4 คนเพื่อคุ้มกันตัวเธอเองหนึ่งในนั้นคือ ริโดน่า สมาชิก SPK ซึ่งทาคาดะไม่รู้ว่าเนียร์ส่งริโดน่าให้มาจับตาดูเธอ ส่วนทางไอซาว่า ที่ติดต่อกับเนียร์ ก็เริ่มจับตาดูไลท์เป็นระยะ และเริ่มมั่นใจว่าไลท์คือคิระ แต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้

    ทางเนียร์เริ่มสงสัยในตัวมิคามิ และสั่งให้เจวานนี่ตามเฝ้ามิคามิตลอด จนในที่สุดเจวานนี่สามารถเข้าถึงเดธโน้ตที่อยู่ในมือมิคามิได้สำเร็จ และถ่ายรูปข้อความทั้งหมดในเดธโน้ตกลับมาให้เนียร์ แต่หลักฐานนั้นยังไม่พอที่จะสาวไปถึงตัวไลท์ได้ เพราะไลท์ไม่ได้ติดต่อกับทางมิคามิโดยตรง มีทางเดียวคือต้องให้ไลท์เป็นคนยอมรับเองว่าเป็นคิระ ทางเนียร์จึงให้เจวานนี่ติดตามมิคามิต่อไป รวมถึงตัวเองก็คิดหาทางจัดการกับคิระไปด้วย โดยหารู้ไม่ว่าทั้งหมดอยู่ในแผนของไลท์ ที่วางเอาไว้แล้ว

    เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดแล้ว และมั่นใจเต็มที่ว่าไลท์คือคิระ ทางเนียร์จึงได้นัดกับไลท์ออกมาพบกันเพื่อมาพิสูจน์ในครั้งสุดท้าย ส่วนไลท์เองก็หาโอกาสกำจัดเนียร์มานาน ในเมื่อเนียร์เป็นฝ่ายนัดมาเองก็ยินดียิ่ง เพราะจะเป็นโอกาสจัดการทุกคนในทีเดียว โดยจะเจออีกครั้งใน 3 วันให้หลัง โดยเนียร์จะพาทีม SPK ซึ่งประกอบด้วย เลสเตอร์ โจวานนี่ และริโดน่า ไปทั้งหมด และไลท์เองก็พาทีมอันประกอบด้วย โมงิ ไอซาว่า อิเดะ และ มัตสึดะ ทั้งหมด ไปนัดเจอกันที่โกดังร้างแห่งหนึ่ง เมื่อทั้งสองฝ่ายตกลงกันแล้ว ต่างก็ยุติการเคลื่อนไหวทั้งสิ้น

    แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเมลโลลักพาตัวทาคาดะไป แต่ท้ายที่สุด เมลโลก็ต้องตายโดยฝีมือของทาคาดะ โดยทาคาดะเขียนชื่อจริงของเมลโลลงในเศษกระดาษเดธโน้ต ที่ไลท์ได้ให้ไว้ก่อนหน้านี้ (ไลท์ ได้เคยบอกชื่อ และให้ดูรูปตอนเด็กของ เมลโล แก่ ทาคาดะ ไว้ก่อนแล้ว) หลังจากทราบว่าเมลโล ได้ตายแล้ว ไลท์ต้องการทำลายหลักฐานทั้งหมด ระหว่างเดินทางไปรับตัวทาคาดะ จึงได้เขียนชื่อทาคาดะลงเดธโน้ต และใส่สาเหตุการตายว่าฆ่าตัวตาย โดยการเผาร่างตัวเองพร้อมวัตถุใกล้ตัว แม้จะมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้การนัดพบของทั้งเนียร์และไลท์ต้องยกเลิก เพราะต่างฝ่ายต่างวางแผนของตนไว้อย่างดีแล้ว

    เมื่อถึงวันนัด ทั้งสองมาพบกัน ต่างฝ่ายก็มั่นใจว่าต่างเตรียมตัวมาดีแล้ว สุดท้ายแผนการเปิดโปงตัวจริงของคิระจากเนียร์ ที่วางไว้ถูกซ้อนแผนโดยไลท์ โดยมีมิคามิเป็นตัวร่วมในครั้งนี้ และการตายของเมลโลในคราวนั้น กลับช่วยเนียร์ซ้อนแผนกลับไปที่ไลท์ได้อีกครั้ง และช่วยทำให้ทุกคนรอดตายจากน้ำมือของไลท์ได้ในที่สุด

    หลังจากถูกเปิดโปงได้ว่าไลท์คือคิระ ทำเอาไลท์พยายามหาทางเกลี้ยกล่อมคนที่เหลือ และหาวิธีกำจัดเนียร์ ส่วนมิคามิก็ถูกรวบตัวไป เมื่อรวบรวมสติได้ไลท์ ก็ตั้งใจจะเขียนชื่อเนียร์ลงบนเศษของโน้ตที่ซ่อนอยู่ในนาฬิกา แต่มัตสึดะเห็นเสียก่อนจึงยิงปืนใส่ไลท์ แล้วบอกว่า "ไลท์เป็นคนทำให้พ่อของตัวเอง (ยางามิ โซอิจิโร่) ตาย" มัตสึดะจึงยิงไลท์เข้าไปหลายนัดจนไลท์หมดสภาพ พยายามดิ้นรนขอให้ มิคามิเขียนชื่อพวก SPK แต่มิคามิถูกจับอยู่ แถมโน้ตที่อยู่กับตัวก็เป็นของปลอม มิคามิจึงเจาะเอาเลือดของตัวเองมาเขียนลงเศษเดธโน๊ตของไลท์แต่ไม่สำเร็จ ความดันเลือดที่มากขนาดนี้ทำให้เขาตาย ไลท์เดินโซซัดโซเซหนีไปได้สักระยะหนึ่งแล้วก็ถูกลุคฆ่าตายด้วยเดธโน๊ต

    ผ่านมาเป็นเวลา 1 ปี โลกกลับสู่สภาพเดิมก่อนที่จะมีคิระมาพิพากษา ไอซาว่า ได้เป็น ผ.บ. เนียร์ได้เป็น L โรเจอร์ได้เป็นวาตาริ และทำการสืบคดีเรื่องการค้ายาเสพติด ทุกสิ่งทุกอย่างกลับเป็นปกติ โดยก่อนหน้านั้นเนียร์ได้เผาโน้ตที่มีอยู่ทั้งหมดทิ้ง แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็มีกลุ่มคนที่ยังคิดว่า คิระแค่หยุดพักไปเท่านั้น และยังเชื่อกันอยู่ว่าสักวันคิระจะกลับมา


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×