My curse book(หนังสือต้องคำสาป)
เกิดมาไม่เคยทำความผิดเท่านี้มาก่อนกับการที่หลุดเข้าไปในหนังสือ ห๊าาา ไม่มีใคร"งง" ใช่มั้ยหนังสือนั่นมีคำสาปและฉันต้องชดใช้คำสาปนั่นด้วย ถ้าใครงงก็ควรเปิดอ่านซะไม่งั้นอาจจะโดนคำสาปสองต่อเลยก็ได้นะ หุหุ
ผู้เข้าชมรวม
39
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ถ้าคุณคิดว่าคุณยังไม่รู้จักโลกใบนี้พอ ควรเปิดอ่านเล่มนี้ซะ!!
“อะไรเนี่ย หนังสืออะไรชื่อไร้สาระชะมัด”ฉันสบถตามอารมณ์ผู้หญิงไฮโซและแอบฉีกมุมกระดาษในหนังสือสามหน้าติดจนขาดแล้วฉันก็ขยำทิ้งลงไปบนพื้น
“ทำอะไรของเธอ”เสียงทุ้มๆที่น่ากลัวดังขึ้นข้างหลังอย่างไม่ทันระวัง ฉันหันกลับไปเพื่อจะไปตอบคำถาม แต่เขาหายไปแล้ว!!
“โถ่เว้ย จะดุคนอื่นก็ขี้ขลาดอย่างนี้นี่เอง บรรณารักษ์คนไหน ใครสั่งสอนมาให้ดุคนอื่นแล้วหนีไปหน้าตาเฉย ตอนแรกกะว่าจะกลัวอยู่นะ รู้งี้นี่จะไม่หันมาดูให้เปลืองสายตาเลยจริงๆ เชอะ” ฉันเดินไปพูดไปจนถึงประตูทางออกโดยไม่แคร์สายตาคนรอบๆที่อ่านหนังสือเพียงเพราะต้องการให้บรรณารักษ์ขี้ขลาดได้ยิน
“ฟู อยู่หนายยยยยย” เหมียวเพื่อนสนิทฉันเรียกฉันซะลั่น แต่ฉันแกล้งไม่ได้ยินเดินลอยหน้าลอยตาผ่านมันไป โอ้ย ทำไมอารมณ์เสียยังเงี้ย ที่จริงฉันชื่อแป้งฟูโกะ คากูริ เป็นลูกครึ่ง แม่เป็นแขกพ่อเป็นเจ้าของบ้าน ไม่ช่ายๆๆๆแล้ว แถๆๆๆไปเรื่อย ฉันเชื้อไทยแต่ชื่อนั่นเป็นฉายาของฉันต่างหากล่ะ
“......”
“ยัยฟู ยัยหยิ่ง อย่าแกล้งไม่ได้ยินฉันน่ะ มีคนไปฟ้องฉัน บอกว่าแกฉีกหนังสือต้องคำสาป” กึ้ก รู้ได้ไง ใครฟ้อง แถวนั้นไม่มีใคร คงมีแต่บรรณารักษ์ขี้ขลาด
“ไม่จริงๆ ฉันว่าเพื่อนเธอคงมั่วแหละ อย่าแถให้เสียเวลาเลย”ฉันตอบไปหน้าบึ้งๆ
“ฟู เอาจริงๆนะ ครูเขาเคยบอกแล้วว่าถ้ามีผู้ใดทำร้ายหนังสือนั่นเขาจะต้อง...”
“จะต้องอะไร!!”
“จะต้องเข้าไปอยู่ในนั้น เพราะมีข่าวเด็กผู้หญิงเข้าไปอยู่ในนั้น แล้วออกมาได้ เขาบ่นพึมพำตลอดเวลาว่า ฉันชอบนายๆซ้ำๆวนไปวนมา” หลังจากประโยคนั้นฉันรีบหนีจากยัยเหมียวไปใกลๆทันทีโดยไมต้องรออะไรขามันก้าวไปเอง
ที่คฤหาสน์วนิลา...
“แป้งฟู อ้าปากอยู่อย่านั้นเดี๋ยวแมลงวันก็เข้าปากหรอกลูก”พ่อส่งสายตาห่วงๆมาให้แต่ฉันไม่เห็นในใจฉันคิดว่าจะทำยังไงดีลอยไปมาวนอยู่บนหัว ฉันเลยโทรไปหายัยเหมียว
(ฮะโหล ไงฟู)
“ฉันต้องทำยังไงเพื่อไม่ให้เข้าไปใน..”ยังไม่ทันจะพูดจบเลอะ
(แกต้องอ่านหนังสือนั่นหลังจากทำลายภายใน 1 นาทีอีก 30 วินาทีแต่ถ้าไม่ทันตามนั้นเธอจะถูกดูดเข้าไปในหนังสือภายใน 5 ชั่วโมง ฮึกๆ) เหมียวส่งเสียงร้องไห้ผ่านแว่วๆมาอย่างเก็บไม่อยู่
“อ่าๆ ฉันคิดถึงแกนะเหมียว ฝากบอกคริสต์ว่าฉันขอเลิกกับเขาอย่างไร้สาเหตุ แค่นี้น่ะ”
ตื้ดๆๆๆๆ
ฉันไม่รู้ว่าจะจริงไม่จริงเรื่องหลอกหรือไม่หลอก งงเข้าขั้นโคม่า แต่ฉันจะพยายามอึ้บบไว้แล้วหาทางออกจากหนังสือนั่นเองล่ะกัน ที่จริงฉันก็เคยได้ยินครูบอกว่าหนังสือเนี่ยระดับตำนานของโรงเรียนนี้เลย เฮ้อ เหลืออีกสองนาทีแล้วสิน่ะที่ฉันต้องไป ฮึกๆ
ฉันเขียนจดหมายบอกพ่อว่า ....พ่อค่ะ หนูจะถูกดูดไปในหนังสือน่ะค่ะ มันก็ตรงไปน่ะบางที ช่างเถอะๆ แต่เหมียวก็คงจะบอกเองแหละ
“สวัสดีน่ะสาวน้อย”เสียงชวนขนลุกถึงขึ้เล็บเท้า จนฉันหายใจตะกุกตะกัก เพราะ ไฟดับหมดเลยน่ะสิ
“ฉะ ฉันพร้อมไปแล้ว” บางทีตอบอะไรไม่ตรงใจตัวเองเล้ย TT
“เธอก็อยู่ในหนังสือนี่แล้วว จะต้องการอะไรอีก เธอต้องโดนลงโทษ แน่สาวน้อย”เขายื่นหน้ามาใกล้ๆจนได้ยินเสียงลมหายใจรดปลายจมูก อรึ๋ย มืดก็มืดมองไม่เห็นตัวเองอีก จะขยับไปไหนก็ไม่ได้
ทันใดนั้นฉันก็ได้ยินเสียงผู้คนมากมาย แน่น่ะ ว่าคนรึป่าว ตะโกนแหกปากแหกคอทันใดนั้นแสงสว่างจ้าก็สาดมาเต็มลูกกะตาทั้งสองเหมือนรู้สึกตาจะลอยๆ แสบตาชะมัดพอตาเริ่มปรับแสงได้ก็เห็นหน้าคนพูด เขาใส่ชุดสูทสีเทาที่เท่ห์มากๆจมูกโด่งตาคมรูปหน้าและปากเข้ากันดีมากๆ โดยเฉพาะตาสีชมพูอ่อนๆของเขาและผมสีม่วงนี่ใจละลายเลย
“มองอะไร”เขาดึงจมูกฉันหนึ่งที
“มองหนวดนายเท่ห์ดีอ่ะ”ฉัน
“ฉันอ่านใจคนออกน่ะจะบอกให้”เขามองหน้าฉันอย่างมีเลศนัย นายบ้าเอร๊ยถ้าทำแบบนี้จูบฉันเลยดีกว่ามั้ย เสียเวลาจริงๆมองหน้าแบบนี้สื่ออะไร
“จุ๊บบบ”เขาจูบช้านนนนนนน จูบที่สองของช้านนนนให้นายไปหมดแล้ว เอ้อลืมบอกไปจูบแรกคือจูบของหมาข้างบ้านที่พยายามจะกัดฉันแต่ฉันดันล้มหน้าทิ่มจุ๊บปากมันก่อนที่หมาตัวนั้นจะช็อคแล้ววิ่งหนีหางจุกตูดไป พลางเสียงร้องเอ๋งๆ ฉันไม่เข้าจายยย
“เฮือกก -o- “
“จุ๊บบบบบ” จูบที่สาม ไม่น้า
“พอ พอแล้ว”ฉันตั้งสติได้แล้วรู้สึกว่าคนที่โห่ร้องเนี่ยมันดังจนขึ้หูเต้นระบำ ฮูลา ฮูล่ากันแล้ว และหน้าฉันตอนนี้ก็คงไม่ต่างจากโดนตบหน้ามาราธอน คงแดงมากกเขิลล
“จะเอาอีกมั้ยย”เขายื่นปากจู๋แล้วหลับตาข้างเดียว ฉันจะไม่คิดอะไรแล้ว ม่ายยย จะไม่คิดจริงๆ
“พออ “ฉันมองไปรอบๆตอนนี้ฉันอยู่บนรถม้าที่อลังสุดๆ โดยมีหมอนี่นั่งข้างๆแล้วมีประชาชนผู้ภักดีมายืนโห่ร้องกรี๊ดคอจะแตกอยู่ข้างๆรูหูพร้อมยื่นมือมาเข้าหน้าต่างรถม้าเหมือนจะกระชากฉันไปตบ สยองชะมัด
“ฉันเจ้าชายลูเซียส แห่งราชวงศ์คาซิเฟอร์ บทลงโทษไม่มากหรอกเธอฉีกหนังสือสามหน้าคูณสิบ เธอต้องอยู่ที่นี่สามสิบปี “เขาพูดหน้าดุๆ มองฉันด้วยสายตาโกรธแค้น เกรี้ยวกราดต่างจากตอนแรกมาก
“หา!!!!!”ตอนนี้หน้าเหวอสุดๆ
“ยังพูดไม่จบ และเธอต้องทำหน้าที่ในฐานะนางสนมที่ฉันสามารถปู้ยี่ปู้ยำ บราๆๆ และเฉกหัวให้ขุดดิน ขุดทอง ทำเหมือง ตีดาบ หั่นเหล็ก”หา!!!!นี่ฉันอยู่ในสมัยไหนเนี่ยยย
“สมัยราชวงศ์คาร์ซิเฟอร์”ตายยแล้วๆๆ ฉันตายแน่ๆ สีดวงตาเขากลายเป็นสีแดงเลือดหมูไหลไปไหลมาในดวงตาเขาเหมือนของเหลวสีแดงที่กลิ้งอยู่ในลูกตา ฉันว่าเขาต้องโกรธแน่ๆเลย
“.....”ฉันงุดหน้าก้มหน้าก้มตา เขาน่ากลัวจริงๆ (_ _)
“ฉันไม่เคยเห็นใครตั้งใจฉีกหนังสือนี่เหมือนเธอเลยสักครั้ง ปกติมีคนไม่ตั้งใจทำขาด มาแค่วันเดียวแล้วก็กลับไปได้แต่เธอนี่มัน!!!!”
“ป่าวๆๆๆ ก็นายน่าจะเปลี่ยนชื่อหนังสือสักนิดน่ะ มันดูไร้สาระมากๆ”ฉันพูดรัวๆให้เขาเถียงไม่ได้ แต่เขากลับไม่เถียงแหะ แต่คราวนี้สีผมกับตาเขากลายเป็นสีแดงฉานหมดแล้วว ไม่น่าเลยฟู
“จอด!!” รถจอดกึก หยุดได้เป๊ะมาก เขาใช้เท้าของเขามาเขี่ยๆเท้าฉันแล้วกระซิบว่า “อีกสามยูเรอร์จะถึงพระราชวัง ลงไป!!!หาทางไปเองให้ได้ล่ะกัน” เขาแสยะยิ้ม ว่าไงน่ะ แสยะไงล่ะ สามยูเรอร์คืออารายยย บอกฉันหน่อย แต่ก็ดีเหมือนกันเผื่อจะได้หนีกลับบ้านไม่อยากอยู่กับคนหล่อแต่นิสัยเสียเน่าๆเหมือนปลาร้าบูด เช้อะ แล้วเธอจะเสียใจ โว้ว โวว ประตูรถม้าเปิดขึ้น เจ้าชายสุดหล่อใช้เท้า ย้ำเท้าน่ะเท้า ถีบลงมา โอ้ยย เนื้อตัวระบม ประชาชนที่นี่พยายามจะฉีกเสื้อฉัน ไม่น่ะ ไม่เอาอย่างงี้
“กรี๊ดๆๆๆปล่อยน่ะ ไอ้พวกบ้า ไม่อาววว”ฉันร้องไห้รุนแรงมากจนสลบไป ตอนนี้ฉันก็คงเปลือยสิน่ะ ไม่อาวว
ฉันลืมตาที่เบลอๆขึ้นพร้อมมองไปรอบๆเห็นป้าแก่ๆสามคนใส่ชุดฟูฟ่องกระโปรงยาวๆกำลังขัดตัวถูสบู่สระผมฉันและตอนนี้ฉันอยู่ในน้ำที่อุ่นๆวาบๆ และอีกอย่างก็เปลือยอยู่ โอ้ว ไม่น่ะ ยัยป้าพวกนี้คงไม่คิดจะทำอะไรฉันใช่มั้ย
“สวัสดีค่ะ เจ้าหญิง” ทั้งสามนางเอ่ยเสียงเรียบๆพร้อมกันอย่างนัดหมาย
“อ่าว ฉันเป็นนางสนมต่างหากล่ะค่ะ รึว่าฉันได้เลื่อนตำแหน่ง เย่ๆๆเย้ๆๆ”เห้อะๆๆดีใจจรุง
“ไม่ได้เลื่อนหรอกเพค่ะ ท่านมาทำตำแหน่งนี้อยู่แล้ว”ทั้งสามนางก็พูดเปรยๆพร้อมกันตามเคย
ก้อกๆๆๆแอ้ดดด
“ผมขอมองหน้าคนทำผิดหน่อยซิครับ”เสียงนุ้มมมมทุ้ม ผู้ชายแน่ๆ ไม่น่ะ สภาพนี้ฉันเปลือยอยู่ ต้องเป็นคนบนรถม้านั่นแน่ๆ ตายล่ะ จ๋อมม ฉันมุดหน้าลงไปในน้ำ
“บุ๋มๆๆ”หายใจจะไม่ออกแล้ว
“เธอก้มหน้าลงไปทำไม”ฉันโผล่หน้าขึ้นมาแล้วก็พบว่าเขาไม่ใช่คนบนรถม้านั่น แป่วๆ ท่าทางเขาสุขุม ใจดี สูง ตาสีเทา ผมสีเทาไล่สีจนปลายผมเป็นสีฟ้าคราม นั่งชะโงกหัวมาดูฉันในน้ำ
“เอ่อ คือ แค่กๆๆ” สำลักน้ำ ไม่ไหวแล้วล่ะ แค่กๆ ยัยป้าแกสามนางเลยเอาผ้ามายัดปากยัดจมูกและยีผม แน่ใจน่ะว่านี่วิธีช่วย
“ฉันขอโทษแทนเคาซ์ด้วยนะ ที่ทำรุนแรงกับเธอเกินไปนี่แหละนิสัยเขามันน่านัก ฉันเจ้าชายลูเซียส สวัสดีพระชายา”เขายิ้มหวานเยิ้มแล้วก็เรียกป้าสามคนให้แต่งตัวฉันแล้วรีบพาไปที่ห้องอาหาร
ผ่านไปสักพัก ชุดสีเหลืองแบบเบลทาสรักกับอสูร เอ้ยๆไม่ช่ายๆ อสูรและโฉมงาม ก็ถูกสวมลงมาทีตัวฉันเรียบร้อย มันโคตรสวยเลยแล้วอีกอย่างมงกุฎวิบวับเล็กที่อยู่บนหันฉันระยิบระยับเหมาะกับทรงผมที่ปล่อยแล้วลอนแบบธรรมชาติ ฉันตะลึงจ้า รองเท้าประดับด้วยเม็ดเพชรสามล้านกะรัตวิบวับๆ หน้าที่ถูกแต่งอ่อนๆหอมด้วยกลิ่นกุหลาบอบอวล ดมไปก็เพลินไป ฉันเดินไปตามทางที่หรูหราโอ่อ่ามีรูปปั้นเจ้าหญิงเจ้าชายยืนคู่กันนับห้าหกคู่ที่ตัวสูงเท่าระดับคนปกติและยิ้มหวานให้กัน บางคู่ก็จูจุ๊บกัน แหม บางทีฉันก็อดยืนดูเฉยๆแล้วยิ้มตามไม่ได้ ฉันตั้งสติแล้วได้ยินระฆังดังก็เลยนึกขึ้นได้ว่าต้องรีบไปแล้วล่ะ
แอ๊ดดด เอี๊ยด ปึง
“แฮกๆๆๆ”ฉันหายใจหอบรัวๆ ถ้าไม่หายใจแรงๆนี่น่ะฉันคงตายแล้วล่ะ วิ่งวนไปวนมาหาห้องอาหาร เหนื่อยชะมัด เมื่อมองสีหน้าทุกคนถึงรู้ว่ารอฉันนานมาก
“เชิญ”เสียงนั่น เคาซ์!!!!
ติดตามตอนต่อไป…..
ผลงานอื่นๆ ของ Geda ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Geda
ความคิดเห็น