NC

คำเตือนเนื้อหานิยาย

นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหานิยาย

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BaBY_LoVe : แรกรักเธอ

    ลำดับตอนที่ #44 : หึง

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.19K
      101
      5 มิ.ย. 66


              “แฟนพี่ก็หนูไงคะ!!” 
            MIN SAID

     



    EP 47: หึง
    ล็อบบี้สถานที่จัดงาน, V hotel

              

    ฉันสาวเท้าเดินตามพี่มิณทร์ออกมาด้วยอาการล่องลอยเหมือนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มือหนายังคงกำอยู่รอบข้อมือฉันอย่างน่าอึดอัดแต่กลับเต็มไปด้วยความอบอุ่น  ฉันมองด้านหลังของร่างสูงในชุดสูทที่เดินคว้าข้อมือฉันให้เดินตามออกจากงานไปอย่างเงียบๆ  ทั้งๆที่ความสูงก็เท่าเดิม.. ดวงตาที่มองฉันก็คู่เดิม


    แต่ทำไมฉันกลับยิ่งหวั่นไหวจัง..
              

    ฉันมองแผ่นหลังของ “พี่มิณทร์” อย่างแสนรักและยอมเดินตามเขาเรื่อยๆจนใกล้จะมาถึงที่จอดรถ  ทั้งๆที่ฉันควรขัดขืน.. ทั้งๆที่ฉันควรหยุดการกระทำของคนตัวสูงที่กำลังลากฉันเดินออกมาจากงาน  แต่หัวใจฉันกลับยินยอมทำตามเขาอย่างไม่มีข้อยกเว้น
              

    “พี่มิณทร์จะพาซอลไปไหนคะ” ฉันกระตุกแขนพี่มิณทร์ให้เขาชะลอฝีเท้าลงและพยายามเรียกสติกลับมาอีกครั้ง
              

    “พาหนูกลับคอนโดค่ะ” พี่มิณทร์หันขวับมาประจันหน้ากับฉัน  ใบหน้าหล่อเหลาคิ้วผูกกันอย่างหงุดหงิด  โห.. หล่อแบดแบบนี้กร้าวใจสุดอ่ะ
              

    “ละ แล้วเราจะไปกันยังไงคะ”
              

    “ไปรถพี่สิคะ  เอ้อ พี่ลืมถามว่าหนูติดกุญแจคอนโดพี่มาด้วยมั้ย”
              

    “ซอลเก็บไว้ในรถค่ะ”
             

    “งั้นดีเลยค่ะ เดี๋ยวเราไปเอากุญแจคอนโดที่รถหนูกันก่อน” พี่มิณทร์เปลี่ยนจากกำรอบข้อมือฉันเป็นประสานนิ้วเราเข้าด้วยกันไว้ “แล้วหนูจอดรถไว้ไหนคะ”
              

    “ซอลจอดไว้ที่บ้านค่ะ” 
              

    “เวรละ..” พี่มิณทร์ตบแปะเข้าที่หน้าผากตัวเอง “สงสัยพี่คงต้องไปทำคีย์การ์ดใหม่กับขอกุญแจห้องใหม่กับนิติก่อนแล้วมั้งคะ”
              

    หัวใจฉันลอยละล่องเหมือนอยู่ในความฝัน หัวใจฉันยังเต้นตึกตักและอึ้งกับการปรากฏตัวของผู้ชายคิดบวกที่ยืนจับมือฉันอยู่ข้างๆอยู่เลย  และทั้งที่เรื่องมาถึงขนาดนี้แต่ฉันก็ยังรู้สึกเหมือนฝัน  
              

    “ฮัลโหลๆซอลขา..หนูได้ยินพี่มั้ยคะ?”  พี่มิณทร์โบกมือไปมาตรงหน้าขณะที่ฉันยังได้แต่กระพริบตาปริบๆมอง
    พี่มิณทร์อย่างไม่เชื่อ  ฉันลิสต์เรียบเรียงสิ่งที่เกิดขึ้นในหัว


              -พี่มิณทร์แอบมาเซอร์ไพร์ซฉันในงานและฉันก็หึงจนสาดน้ำส้มใส่พี่มิ้นต์

              -ฉันทำความรู้จักกับอีตาพี่ก้องต่อหน้าพี่มิณทร์แล้วพี่มิณทร์ตามมาคิดบวก

              -พี่มิณทร์โกรธและจะจูบฉันต่อหน้าคนอื่นในงานแถมยังลากพาฉันออกมาที่นี่

              ตกลงมันเกิดขึ้นจริงดิ  ฉันไม่ได้ฝัน?
              

    “ยู้ฮู..นี่หนูถอดจิตไปดาวอังคารอยู่หรอคะ?” พี่มิณทร์หัวเราะน้อยๆแล้วโบกมือไปมาตรงหน้าฉันก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะโฉบลงมาจูบที่ริมฝีปากฉันเร็วๆแล้วผละออกไป “ไง จะตื่นดีๆมั้ยคะ?”
              

    โฮกกกกกก เป็นการปลุกที่พีคมากกกกค่ะ! ฉันเหม่อแล้วเขาจูบนี่มันใช่หรอวะ?  ฉันเอามือตะปปปิดปากแทบไม่ทันขณะที่พี่มิณทร์หัวเราะขำร่วนไปเลย โง้ยยย ถ้าอีพี่จะทำแบบนี้พี่ไม่ลากน้องไปปล้ำจูบกลางสี่แยกไฟแดงเลยล่ะคะ!
                

    “พี่มิณณณณทร์อ่ะ!” ฉันตีแปะไปที่แผ่นอกพี่มิณทร์เบาๆเพราะเขาเอาแต่หัวเราะไม่หยุด “ถ้าเกิดใครเห็นขึ้นมาจะว่าไงคะ”
              

    “ก็เมียเหม่อเหมือนอยากให้จูบเลยอ่ะค่ะ”
              

    “แล้วมันใช่ที่ไหนกันล่ะคะ!” ฉันตีเบาๆไปที่แผ่นอกพี่มิณทร์อีกครั้งขณะที่เขาอาศัยทีเผลอคว้าเอวฉันไปกอดไว้แน่น  “หยุดเลยนะพี่มิณทร์  นี่ซอลยังโกรธพี่อยู่นะ”
              

    “โกรธเรื่องอะไรก็บอกเพราะพี่ไม่อยากให้หนูเข้าใจอะไรผิดๆค่ะ” 


    พี่มิณทร์กอดล็อคเอวฉันไว้อยู่แบบนั้นขณะที่ลิฟท์ที่เรากดไว้ค่อยๆลดระดับชั้นไต่ลงมาเรื่อยๆ  นี่ถ้าลิฟท์เปิดออกแล้วมีคนรู้จักหรือสื่อที่คอยประดคมข่าวอยู่ในลิฟท์นี่เกิดเลยนะ!
                

    “พี่มิณทร์ปล่อยก่อน  เดี๋ยวมีใครมาเห็นเข้าค่ะ”
              

    “พี่ไม่อยากให้หนูเข้าใจผิดเรื่องพี่กับมิ้นต์นะคะ” จากที่ดิ้นๆอยู่ฉันก็ชะงักหัวใจฉันบีบรัดและชาวาบเป็นน้ำแข็งเพียงแค่ได้ยินชื่อของพี่มิ้นต์  ฉันแพ้หมดรูปทุกครั้งที่เจอกับผู้หญิงที่ชื่อ มิ้นต์ นี่ฉันจะเกิดมาแพ้ตลอดเลยรึไงนะ 


    “พี่ไม่มีอะไรกับมิ้นต์ค่ะ”

         

    ติ้งงงง
              

    เสียงลิฟท์ดังพร้อมกับประตูลิฟท์ที่ปิดออกแต่โชคดีที่ไม่มีใครอยู่ในนั้น  เพราะพี่มิณทร์ไม่มีทีท่าที่จะคลายอ้อมแขนออกจากเอวฉันไปเลยสักนิด ท่อนแขนที่แข็งราวกับปลอกเหล็กยังคงล็อคเอวฉันไว้แน่นจนตัวเราชิดติดกัน
             

    “ไม่มีอะไรแต่ตัวติดกัน เป็นเพื่อนกันแต่ก็หอบกันกลับมากรุงเทพ  พี่จะให้ซอลเข้าใจว่ายังไงคะ” ฉันตัดพ้อพี่มิณทร์เสียงสั่นความเจ็บปวดที่สั่งสมมาเรื่องพี่มิ้นต์บั่นทอนหัวใจฉันได้อย่างเหลือเชื่อ  การปรากฏตัวของพี่มิ้นต์เป็นการทดสอบความเข้มแข็งของหัวใจฉันอย่างหนัก
              

    “ซอลคะ พวกพี่เป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นค่ะ”
              

    “หรอคะ..” เป็นแค่เพื่อนกันพูดง่ายจังเนอะ?  อย่างนี้ฉันก็บอกได้สิว่าอย่างฉันกับอีตาพี่ก้องก็เป็นแค่คนที่เพิ่งรู้จักกัน  ไม่มีอะไรเหมือนกันทั้งนั้น 
              

    “ทำหน้าแบบนี้ไม่เชื่อพี่ใช่มั้ยคะ” ก็ถ้าฉันไม่เชื่อ.. แล้วเขาจะทำยังไงให้ฉันเชื่อล่ะ? พี่มิณทร์ก้มหน้าลงมาสบตาฉัน  สายตาคมกริบมองทะลุทะลวงยันไส้ติ่ง  
             

    “ซอล-ไม่-เชื่อ-ค่ะ” 


    ฉันน้ำตาคลอกระแทกเสียงใส่พี่มิณทร์ในขณะที่ประตูลิฟท์ปิดลงอีกครั้ง  พี่มิณทร์ล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์ขณะที่กอดฉันไว้ด้วยมือข้างเดียว และคำแรกที่พี่มิณทร์พูดกับคนในสายก็ยิ่งทำให้ฉันดิ้นออกจากอ้อมแขนเขาอย่างหนัก 
              

    “มิ้นต์ ตอนนี้อยู่ไหนอ่ะ” ฉันฟาดท่อนแขนทุบไปที่อกพี่มิณทร์หนักๆ ใบหน้าหล่อเหลามองฉันอย่างตำหนิก่อนจะกัดปากอย่างหมั่นเขี้ยว “อืม  รอแปปเดี๋ยวไปหา” 
              

    “พี่-มิณทร์-ปล่อย-ซอล-เดี๋ยว-นี้-เลย-นะ!” ฉันที่น้ำตาคลอหน่วยโวยวายเสียงดัง จะโทรหากัน  จะไปหากัน  ทำไมต้องบอกให้ฉันรับรู้ด้วย?
                

    “ทำไมหนูดื้อจังคะ” พี่มิณทร์กดตัดสายแล้วตวัดสายตาดุฉัน  “ก็พอพี่พูดหนูก็ยังไม่เชื่อพี่เลยอยากอธิบายไงคะ”
              

    “ทีหลังจะโทรคุยกับแฟนพี่ก็ไม่ต้องให้ซอลได้ยินก็ได้ค่ะ!”
              

    “แฟนพี่ก็หนูไงคะ!!” เป็นครั้งแรกที่พี่มิณทร์เสียงดังใส่ฉัน  ใบหน้าหล่อเหลาจริงจังขณะที่อ้อมแขนแข็งแรงก็กอดรัดเอวฉันไว้แน่นจนเจ็บ
              

    “โอ้ยยย พี่มิณทร์.. ซอลเจ็บนะ..” ฉันไม่ได้เจ็บเพราะเขากอดฉันแต่ฉันเจ็บสะเทือนไปถึงหัวใจตั้งแต่เขากดโทรศัพท์ต่อสายหาพี่มิ้นต์  ฉันเจ็บจนเหมือนใจพัง
              

    “พี่ขอโทษค่ะ..” 


    พี่มิณทร์รีบคลายอ้อมแขนออกจากเอวฉัน  ดวงหน้าหล่อเหลามองฉันด้วยแววตาอ่อนลง  แววตาของพี่มิณทร์เต็มไปด้วยความเป็นห่วงขณะที่ฉันเอาแต่ร้องไห้น้ำตาทะลัก  “พี่ขอโทษนะคะซอล  พี่ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้หนูเจ็บ  พี่ขอโทษที่เสียงดังกับหนูค่ะ”
             

    ปลายนิ้วแข็งแรงของพี่มิณทร์ค่อยๆไล่ซับหยดน้ำตาให้ฉัน  ความอ่อนโยนที่ฉันสัมผัสทำให้ฉันน้ำตาไหลไม่หยุด  ฉันกลายเป็นคนอ่อนแอไม่มีเหตุผล.. ตั้งแต่พี่มิณทร์สอนให้ฉันรู้จักคำว่า “รัก”
              

    “ไม่เอานะคะคนดีของพี่ ไม่ร้องนะคะ” พี่มิณทร์โอบประคองใบหน้าฉันก่อนที่จะใช้ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน  “พี่ขอโทษที่ทำให้หนูเจ็บค่ะ”
            

    และเหนือสิ่งอื่นใดกว่านั้น.. ทันทีที่พี่มิณทร์จับฉันซุกหน้าจมไปกับแผ่นอกกว้างของเขาฉันก็รู้สึกถึงความรักอันแสน อบอุ่นที่ปลอบประโลมฉันไว้  ฉันหลงรักเขาหมดหัวใจ  พี่มิณทร์เป็นผู้ชายคนเดียวที่ฉันรักและอยากจะวิ่งหนีเขาไปให้ไกลที่สุดไปพร้อมๆกัน
              

    “อะไรที่หนูกังวล หนูบอกพี่มาให้หมดนะคะ” มิณทร์ลูบปลอบเบาๆที่หลังศีรษะฉัน “ไม่ต้องเก็บเอาไว้นะคะ ระบายออกมาให้หมด”
              

    “ฮึกกก” 


    ฉันได้แต่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมกอดพี่มิณทร์ตอนนี้ถึงใครจะมาเห็น ถึงสื่อจะเก็บภาพได้ฉันก็ไม่สนอะไรทั้งนั้น..
             

    “ให้โอกาสพี่อธิบายหน่อยนะคะคนดีของพี่ ฟังพี่พูดหน่อยนะคะ” พี่มิณทร์กดศีรษะฉันให้ถลำซบลงไปกับแผ่นอกเขามากขึ้น  
              

    “ซอลอยากโกรธพี่ให้ตายไปเลยค่ะ” ฉันเงยหน้าขึ้นมาสบตากับพี่มิณทร์อีกครั้ง  ใบหน้าหล่อเหลาเหมือนฝันกำลังมองสบตาฉันอย่างเป็นห่วงเป็นใยที่สุด  พี่มิณทร์แตะรอยยิ้มน้อยๆก่อนจะใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเบาๆที่ผิวแก้มฉัน          
              

    “โกรธเกลียดพี่ได้แต่ห้ามรักพี่น้อยลงนะคะ” 


    เป็นคำขอที่เอาแต่ใจ..แต่หวานชะมัด ฉันอยากจะเกลียดอยากโกรธเขาให้ตายไปเลยจริงๆ  แต่ฉันรู้ว่ายิ่งฉันเกลียดยิ่งฉันโกรธพี่มิณทร์มากเท่าไหร่  ฉันกลับยิ่ง “รัก” เขาหมดใจมากขึ้นเท่านั้น
              

    “พี่นี่ขี้โกงตลอดเลยนะคะ”
              

    “ถ้าไม่ขี้โกงก็ไม่ได้หัวใจนางเอกสิคะ”  นอกจากแววตาเหมือนฝัน คำพูดยังหวานล้ำพาหัวใจล่องลอยได้อีก  นี่มันตัวร้ายที่รักเธอชัดๆ..
              

    “ซอลยอมไปกับพี่มิณทร์ก็ได้ค่ะ”
              

    “พี่จะพาหนูไปหามิ้นต์แต่หนูต้องสัญญาว่าจะอยู่ฟังให้จบนะคะ”
              

    “ซอลสัญญาค่ะ” 


    ถึงฉันจะไม่มั่นใจในความเข้มแข็งของหัวใจตัวเองแค่ไหนแต่ฉันมั่นใจในอ้อมกอดที่กอดฉันอยู่ ฉันเชื่อในความรักของพี่มิณทร์ที่มีต่อฉัน  ฉันภาวนาขอให้ตัวเองเข้มแข็งและเอาชนะผู้หญิงที่ชื่อ “มิ้นต์” ให้ได้สักครั้ง  


    เป็นไงเป็นกันฉันจะลองเผชิญหน้ากับพี่มิ้นต์คนนี้ดู 


     



    ❤❤❤
    TALK 2
    งุ้งงิ้งมุ้งมิ้ง
    ขนาดทะเลาะกันยังละมุนเลยอ่ะพี่มิณณณณทร์
    มุกอ้อนเมียนี่ยอมใจอีพี่จริมๆ 
    มีความหวง มีความออดอ้อนเมียอย่างชัดเจน
    EP หน้ามีเคลียร์ 
    หนูซอลมีเปิดโหมดไฟท์เตอร์จ้าา





    TALK 1
    มีคนแซวว่าอีพี่หอบน้ำตาลมาจากลำพูน 
    ไม่ปฏิเสธนะ คือจริง 555+
    ไปให้สุดแล้วหยุดที่เบาหวานค่ะ อร๊ายยย


    อีกอย่าง เค้าจะบอกว่าซอลไม่ได้กลัวคนอื่นรู้นะ
    คนเดียวที่ซอลกลัวคือเฮียกร
    พี่น้องคู่นี้รักกันมาก ซอลรักพี่ชายมาก เฮียกรก็หวงน้องแบบสุดๆ
    ถ้าได้อ่านเรื่องกรมาก่อนก็จะรู้ว่ากรกับมิณทร์สนิทกันมากจริงๆ
    คู่นี้สนิทกันตั้งแต่มัธยม ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋
    แล้วกรก็ออกปากห้ามมิณทร์ไม่ให้คิดอะไรกับซอลมาตลอด
    ซึ่งซอลรู้ถึงเก็บเรื่องนี้เป็นความลับมาตลอดสี่ปี (คิดเยอะ)
    ส่วนมิณทร์ ถึงแม้จะพยายามหักห้ามหัวใจตัวเองแล้ว 
    แต่ก็แพ้รุ่ย 5555+ 
    เพราะงั้นก็ไปให้สุดแล้วไปหยุดที่ตีนเพื่อนแล้วกัน 5555 

    รักส์

    ขอให้อ่านอย่างมีความสุขค่ะ
    ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ


     


     


     


     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×