คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #43 : ระหว่างงานหมั้น
“ความสำคัญของฉันคงรั้งอยู่อันดับท้ายๆ”
SOL SAID
EP 46: ระหว่างงานหมั้น
SOL’S TALK
ฉันทำมันลงไปแล้ว..
ฉันพลั้งมือเอาน้ำส้มสาดใส่หน้าพี่มิ้นต์
ฉันทำต่อหน้าพี่มิณทร์แล้วก็วิ่งหนีกระเจิดกระเจิงออกมา
พี่มิณทร์จะโกรธฉันไหมนะ?
ฉันยืนใจสั่นอยู่หลังมะม๊าและเอาแต่ก้มหน้ามองปลายเท้าตัวเองอยู่บนเวทีเพราะกลัวน้ำตาตัวเองจะรื้นขึ้นระหว่างที่งานหมั้นสุดยิ่งใหญ่แห่งปีกำลังเริ่มขึ้น เสียงปรบมือดังกึกก้องพร้อมๆกับเฮียกรที่เดินจูงมือพี่ก้อยเดินกลับเข้ามาในงานหลังจากการแห่ขันหมากเสร็จสิ้น
สินสอดทองหมั้นถูกวางจัดเรียงวางอยู่บนเวทีอย่างละลานตา พี่ก้อยในชุดไทยบรมพิมานค่อยๆเดินเกาะแขนเข้ามากับเฮียกรพร้อมด้วยช่อดอกไม้ในมือ ชุดบรมพิมานสีครีมหวานดูสวยสง่าจับตายามต้องแสงสปอร์ตไลท์ ก้าวแรกที่พี่ก้อยเดินเข้ามาราวกับเวลาได้หยุดนิ่ง พี่ก้อยเป็นเจ้าสาวที่สวยมาก..
ภาพพี่ก้อยที่เดินเคียงคู่มากับเฮียกรเหมือนภาพฝัน คนทั้งคู่ดูเหมาะสมกันที่สุด ในเวลาแบบนี้ฉันควรยิ้มดีใจให้กับคนทั้งคู่แต่ทำไมน้ำตาถึงพาลจะไหลนักนะ ฉันมองภาพบ่าวสาวที่เดินเคียงคู่มาด้วยกันพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาจากหางตา ทั้งที่ฉันควรจะยิ้มเต็มหน้าแต่น้ำตาฉันกลับไหลออกมาไม่หยุด
เฮียกรขา.. ช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดของเฮียแต่ความรักของน้องของเฮียกลับพังไม่เป็นท่า ในหัวฉันตอนนี้มีแต่ภาพพี่มิณทร์ยิ้มให้กับพี่มิ้นต์วนไปเวียนมา ตกลงนี่คือเซอร์ไพร์ซที่ว่าจริงๆนะหรอ..
ถ้าพี่มิ้นต์คือเซอร์ไพร์ซของพี่มิณทร์.. แล้วเรื่องระหว่างเราล่ะ?
“ปรบมือให้คุณกรกับคุณกรรณาราด้วยค่ะ” และพอฉันเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง เฮียกรกับพี่ก้อยก็ทำพิธีแลกแหวนกันเรียบร้อยแล้ว เฮียกรกำลังยื่นมือเช็ดน้ำตาให้พี่ก้อยและมองพี่ก้อยด้วยสายตาเปี่ยมไปด้วยความรัก ทุกอย่างดูงดงามเหมือนฝัน.. บรรยากาศทั่วงานเต็มไปด้วยความชื่นมื่น เสียงปรบมือดังกึกก้องพร้อมกับพิธีหมั้นที่จบลงอย่างสมบูรณ์แบบสวยงาม
“ซอล มาถ่ายรูปลูก”
มะม๊ากวักมือเรียกฉันไปถ่ายรูปรวมโดยมีช่างภาพนับสิบรออยู่ด้านหน้า ฉันรีบสาวเท้าไปยืนข้างมะม๊าแล้วแสร้งยิ้มอย่างจำใจ ท่ามกลางแสงแฟลชมากมายฉันเห็นพี่มิณทร์ยืนมองฉันอยู่ พี่มิณทร์ยืนล้วงกระเป๋าปะปนอยู่กับเหล่าช่างภาพและกำลังจ้องเป๋งมาที่ฉัน พี่มิณทร์มายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ?
“ซอล มิณทร์มา..” พี่ก้อยเอี้ยวตัวมากระซิบกระซาบกับฉันอย่างตื่นเต้น พี่ก้อยคงมองลงไปแล้วเห็นว่าพี่มิณทร์มาเหมือนกัน ฉันได้แต่ยิ้มแหะๆไม่กล้าสบตากับพี่ก้อย ใช่..พี่มิณทร์มาแต่เขาก็ไม่ได้มาคนเดียว เขาพาพี่มิ้นต์กลับมาเซอร์ไพร์ซฉัน..
“ซอลเห็นแล้วค่ะ”
ฉันตอบพี่ก้อยไปแค่นั้นก่อนจะก้มหน้ามองปลายเท้าตัวเองต่อ ฉันไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบตากับพี่มิณทร์.. ฉันกลัวสายตาพี่มิณทร์จะมองฉันอย่างตำหนิ ฉันกลัวเขาจะเลิกรักฉัน..
“หนูทำแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะคะ!!”
ใช่..ฉันมันทำตัวไม่น่ารัก ฉันสาดน้ำส้มใส่พี่มิ้นต์เพราะฉันไม่ชอบที่พี่มิ้นต์ชอบมาอยู่ใกล้ๆพี่มิณทร์ อยู่ด้วยกันที่ลำพูนก็มากพอแล้วยังตามมาขยี้ใจฉันที่กรุงเทพอีก ฉันไม่รู้ว่าพี่มิ้นต์จริงๆแล้วคิดอะไรอยู่กันแน่ ฉันกลัวพี่มิ้นต์จะใช้คำว่าเพื่อนแย่งพี่มิณทร์ไปจากฉัน
“พี่ก็ไม่เคยรักกันอยู่แล้วนี่คะ..”
ฉันประชดพี่มิณทร์ไปแบบนั้นเพราะฉันอยู่ในอารมณ์น้อยใจพี่มิณทร์สุดๆ ฉันรู้ว่าพี่มิณทร์วิ่งตามมาแต่ฉันหลบเข้ามาในงานทันซะก่อน ก็ถ้าพี่มิ้นต์สำคัญขนาดนั้นแล้วพี่มิณทร์ยังจะมาสนใจฉันมาทำไมล่ะ..
“เดี๋ยวอีกสิบห้านาทีเชิญสื่อต่างๆประจำตามจุดที่กำหนดให้นะคะ หลังจากนี้คุณกรกับคุณกรรณาราจะให้สัมภาษณ์และถ่ายรูป รบกวนไปเจอกันที่ห้องที่จัดไว้สำหรับให้สัมภาษณ์ด้วยค่ะ”
เสียงพิธีกรประกาศออกไมค์เสียงดัง สื่อบางส่วนเริ่มย้ายกันไปจับจองพื้นที่กันบ้างแล้วแต่ยังมีสื่อบางส่วนที่ยังคอยเก็บภาพคู่บ่าวสาวอยู่ ผู้คนในห้องบางตาลงจนฉันเห็นใบหน้าหล่อเหลาในชุดสูทที่กำลังทำหน้าหงิกและเขวี้ยงสายตามาที่ฉันอย่างเห็นได้ชัด คนบ้า..ที่ฉันทั้งคิดถึงเขาและอยากจะวิ่งหนีเขาไปพร้อมๆกัน สายตาของเขาทำให้หัวใจฉันสั่นยิ่งกว่าตอนสาดน้ำส้มใส่หน้าพี่มิ้นต์ซะอีก
พี่ยังจะรักเด็กที่ทำตัวไม่น่ารักคนนี้อยู่อีกมั้ยคะ?
ช่วงเวลาที่เราห่างกัน..ไม่เคยมีสักวันที่ฉันไม่คิดถึงพี่มิณทร์ ฉันทั้งคิดถึงและเป็นกังวลไปหมด ฉันเฝ้านับวันรอที่เขาจะกลับมาหากัน
“กุญแจซอล ย่าหยกเรียกแน่ะลูก” เสียงมะม๊าปลุกฉันให้ตื่นขึ้นมาจากภวังค์ ถ้าการที่พี่มิณทร์กลับมายืนอยู่ตรงหน้าคือความฝัน เพราะงั้นการดูตัวกลายๆของฉันกับหลายชายเจ้าสัวเกื้อมันก็คือเรื่องจริงๆ
ทั้งๆที่พี่มิณทร์ยังคงยืนมองอยู่ที่ตรงนั้น..
“แต่ มะม๊าคะ..” ถ้าฉันบอกมะม๊าตอนนี้มันจะยังทันมั้ยนะ? ฉันกำลังจะไปทำความรู้จักกับคนอื่นต่อหน้าพี่มิณทร์ ฉันกำลังทำสิ่งที่เลวร้ายที่สุดต่อหน้าคนที่ฉันรัก
“กุญแจซอล เราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ” มะม๊านิ่วหน้าดุฉัน ขาฉันสั่น..หัวใจฉันเบาหวิวไปหมด ฉันเป็นคนพาตัวเข้ามาในจุดอับด้วยตัวเอง ไม่มีทางเหลือรอดใดๆเลยสำหรับฉัน
“ก ก็ได้ค่ะ..”
ในสังคมธุรกิจการแนะนำให้รู้จักกันกลายๆก็ไม่ต่างอะไรกับการจับคู่ดูตัวกัน การแนะนำให้รู้จักก็เป็นเพียงแค่ข้ออ้างของผู้ใหญ่เท่านั้นเอง ฉันกำลังเดินตรงไปสู่ปากเหวชัดๆ “แต่แค่ไปทักทายทำความรู้จักกันเท่านั้นนะคะ”
ฉันย้ำมะม๊าอีกครั้งตอนเดินตามหลังมะม๊าไปหาย่าหยกที่กำลังยืนคุยกับเจ้าสัวและหลานชายอยู่ด้านข้างเวที
“ซอลมีคนที่ซอลรักอยู่แล้วค่ะ”
ในเมื่ออยากให้ฉันไปทำความรู้จักนักฉันก็จะไปทำความรู้จัก! แต่ฉันจะไม่สานต่ออะไรทั้งนั้นเพราะฉันมีคนที่ฉันรักทั้งใจอยู่แล้ว ฉัน..กุญแจซอลกล้าทำก็กล้ารับ!
“โอเคๆ มะม๊ารู้แล้วน่ะ”
มะม๊าถอนหายใจน้อยๆกับความดื้อเบอร์แรงของฉัน ฉันรักแต่พี่มิณทร์เท่านั้นแต่ถ้าอยากให้ฉันทำความรู้จักกับคนอื่นและรับความพยศของฉันได้..ฉันโอเค!! มะม๊ากับย่าจะได้รู้ว่าบังคับฉันได้แค่ตัวเท่านั้นนะ
“สวัสดีค่ะ นี่กุญแจซอลลูกสาวคนเล็กค่ะ” มะม๊ะผายมือมาแนะนำฉัน ขณะที่ฉัน ก้มตัวไหว้เจ้าสัวและฉีกยิ้มที่ดูก็รู้ว่าฝืนสุดๆ ฉันทำตามหน้าที่คือมายืนทำความรู้จักกับหลายชายเจ้าสัวเท่านั้น
“โห ตัวจริงสวยกว่าที่เห็นในทีวีอีกครับ” หลานชายเจ้าสัวปราดเข้ามาทำความรู้จักฉัน โอยย อยากจะบอกจังว่ามีหลัวแล้วว “พี่ชื่อก้องนะครับ”
“กุญแจซอลค่ะ..”
ถามคำฉันก็ตอบคำ หลายชายเจ้าสัวอะไรนี่ก็หล่อดีอยู่หรอกนะแต่เทียบกับพี่มิณทร์แล้วยังห่างกันอีกหลายขุม ฉันถอยออกมาอย่างเว้นระยะและไม่เปิดโอกาสอะไรทั้งนั้น
“น้องกุญแจซอลเรียกพี่ก้องก็ได้ครับ”จร้าา เนียนเลยจ้ะ พอดีมีพี่ชายคนเดียวค่ะและก็ไม่นิยมเรียกคนแปลกหน้าว่าพี่ “เรียกพี่ก้องดีกว่านะจะได้ดูสนิทกัน”
“เอ่อ ก็ได้ค่ะ”
ตอนนี้ฉันกังวลก็แต่เรื่องของพี่มิณทร์เท่านั้น ฉันสาดน้ำส้มใส่หน้าพี่มิ้นต์แล้วเราก็ยังไม่เคลียร์กัน ฉันวิ่งหนีเขามาแล้วยังต้องมายืนปั้นหน้าทำความรู้จักกับไอ้พี่ก้องอะไรนี่อีก ฉันกลัวก็แต่สายตาพี่มิณทร์ที่กำลังมองทะลุมาที่ฉัน
ฉันแอบเหลือบมองไปอีกทีพี่มิณทร์ก็ดูเหมือนจะหายไปจากที่ตรงนั้น ฉันกวาดสายตาไปรอบๆด้านก็ดูเหมือนพี่มิณทร์จะเดินหายไปกับกลุ่มคนจริงๆ ฉันมองซ้ายมองขวาอย่างหลุกหลิก พี่มิณทร์หายไปไหนแล้วนะ?
“น้องซอลมองหาใครอยู่หรอครับ” พี่ก้องคะ เคยมีคนพูดมั้ยคะว่าอย่าขี้เสือก.. ฉันตวัดสายตากลับมาสบตากับพี่ก้องแล้วแกล้งยิ้มปัญญาอ่อนใส่
“อ๋อ เปล่าค่ะ”
“เดี๋ยวผู้ใหญ่จะคุยธุระกันก้องพาน้องไปหลบคุยกันที่อื่นก่อนไป” เจ้าสัวกับย่าหยกที่ดูเหมือนจะใจดีเป็นพิเศษเปิดไฟเขียวให้อีตาพี่ก้องพาฉันเดินออกมาหลบมุมคุยกัน ความจริงฉันก็ไม่โทษใครหรอกนะเพราะทั้งหมดเป็นเพราะฉันไม่กล้าพูดความจริงเรื่องฉันกับพี่มิณทร์เอง และการที่ฉันต้องมายืนทนให้พี่ก้องจีบอยู่นี่ก็เป็นเพราะฉันทั้งนั้น
“คุยตั้งนานน้องซอลคงคอแห้ง เดี๋ยวพี่ไปหยิบน้ำให้น้องซอลนะครับ”
หือมม เมื่อกี้คุยไรกันบ้างอ่ะ.. บอกตรงๆว่าฉันไม่ได้ฟังที่พี่ก้องพูดเลย สมองฉันเอาแต่โฟกัสมองหาพี่มิณทร์ท่ามกลางผู้คนที่เดินกันวุ่นวายเท่านั้น
“เอ่อ พี่ก้องไม่เป็นไรค่ะ!” ฉันยกมือห้ามพี่ก้องไม่ทันและดูเหมือนเสียงร้องห้ามของฉันก็คงดังไปไม่ถึงโสตประสาทของอีตาพี่ก้องสักนิด เพราะนอกจากอีตาพี่ก้องจะตั้งหน้าตั้งตาจีบฉันอย่างเอาเป็นเอาตายแล้วแล้วอีตาพี่ก้องยังเอาแต่โปรยเสน่ห์ใส่ฉัน
“น้ำส้มสำหรับนางเอกครับ”
ฮ่ะฮ่ะ.. ถ้ารู้ว่าฉันเคยใช้น้ำส้มทำวีรกรรมอะไรมานะ อีพี่ก้องคงไม่กล้าเรียกฉันว่านางเอกแน่ๆ ฉันกรอกตาใส่แก้วน้ำส้มที่อีตาพี่ก้องอุตส่าห์เดินออกไปหยิบมาให้ฉัน
“ขอบคุณค่ะ” ฉันฉีกยิ้มอย่างปัญญาอ่อนที่สุดก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำส้มที่อีพี่ก้องเดินไปหยิบมาให้ฉัน ความจริงถ้ามองอย่างไม่อคติอีพี่ก้องนี่ก็จัดได้ว่าเป็นผู้ชายที่โปรไฟล์เริ่ดคนนึงเลยนะ รวยระดับพันล้านแถมนามสกุลดัง เป็นใครก็คงอยากจับเพราะพรีเมียมและเฟิร์สคลาสแบบสุดๆ
แต่ไม่ใช่ฉันอ่ะ..
หัวใจฉันหงอยๆเหมือนลูกโป่งที่ถูกปล่อยลมออกเพราะตั้งแต่พี่มิณทร์หายไปจากสายตาฉัน เพราะพอฉันเดินตามมะม๊ามาทำความรู้จักกับพี่ก้องและพอฉันมองกลับไปยังที่ๆพี่มิณทร์เคยยืนอยู่อีกครั้งพี่มิณทร์ก็หายไปจากที่ตรงนั้นเรียบร้อยแล้ว
ท่ามกลางผู้คนที่เดินขวักไขว่กันวุ่นวายพี่มิณทร์หายตัวไปเหมือนไร้ตัวตน เหมือนการกลับมาของเขาเป็นแค่ฝัน.. ฉันรู้สึกเจ็บจนใจกระเทาะอีกครั้ง ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองไม่ใช่คนสำคัญเหมือนเขาไม่สนใจเลยว่าฉันกำลังพูดคุยกับผู้ชายคนไหนอยู่ ทั้งๆที่เขาเป็นคนที่สำคัญที่สุดสำหรับฉัน
คนสำคัญที่สุดของฉันมีแต่เขาเท่านั้นแต่สำหรับพี่มิณทร์ความสำคัญของฉันคงรั้งอยู่อันดับท้ายๆ และพี่มิ้นต์ก็คงจะอยู่อันดับต้นๆอะไรประมาณนั้น
“น้องซอล น้ำครับ”
พี่ก้องยิ้มหวานแล้วยื่นแก้วน้ำส้มส่งมาให้ฉันอีกครั้ง ความจริงฉันควรสาดน้ำส้มใส่ตัวเองมากกว่าไม่ใช่ไปสาดใส่พี่มิ้นต์ ฉันควรเตือนสติตัวเองมากกว่าที่จะไปทำอะไรตามอารมณ์แบบนั้น
กุญแจซอลสำหรับพี่มิณทร์เธอมันคนไม่สำคัญ เธอมันทำตัวไม่น่ารัก..และพี่มิณทร์ก็กำลังจะเบื่อเธอ ระยะเวลาที่เราห่างกันไกลทำให้ฉันไม่มั่นใจในตัวเองสักนิด ฉันกลัวที่จะรู้ว่าฉันสำคัญน้อยกว่าพี่มิ้นต์และพี่มิณทร์ก็กำลังเบื่อเด็กงี่เง่าอย่างฉัน
ผลักก!!
และจังหวะที่ฉันกำลังจะเอื้อมไปแตะแก้วนั้นแก้วน้ำส้มก็มีอันหกกระจายออกไปต่อหน้าฉันจริงๆ แรงกระแทกจากคนที่เดินมาชนพี่ก้องทำให้น้ำส้มหกออกมาจากแก้วเกือบหมด มือและแขนเสื้อสูทของพี่ก้องมีน้ำส้มหยดติ๋งๆออกมาเป็นทาง แก้วน้ำส้มมีน้ำเหลืออยู่แค่ค่อนแก้ว
ฉันอ้าปากค้างอย่างตกใจก่อนที่จะตกใจมากขึ้นเมื่อใบหน้าหล่อเหลาที่ฉันกำลังมองหาอยู่มายืนหน้าหงิกอยู่ข้างๆฉัน
“โทษทีครับ”
ฉันกลืนน้ำลายเฮือกเมื่อพี่มิณทร์ในชุดสูทโผล่มายืนประกบอยู่ข้างๆพี่ก้อง ใบหน้าหล่อเหลาเรียบตึงประหนึ่งตี๋ใหญ่ นี่มัน.. พี่มิณทร์โหมดคิดบวกชัดๆ
“....!!”
ฉันได้แต่อ้าปากค้างอยู่แบบนั้นขณะที่พี่ก้องมองน้ำส้มค่อนแก้วที่อยู่ในมือตัวเองอย่างเซ็งๆ แขนเสื้อสูทเปรอะน้ำส้มจนน้ำหยดติ๋งๆลงกับพื้นไม่หยุด พี่ก้องดูหัวเสียนิดหน่อยผิดกับฉันที่ช็อกจนหัวใจกระเด็นหลุดไปดาวอังคารเรียบร้อย แล้วเพราะถ้าเมื่อกี้ฉันมองไม่ผิด ฉันเหมือนเห็นพี่มิณทร์จงใจเดินมากระแทกไหล่อีพี่ก้อง
“เปื้อนหมดเลย ขอโทษอีกทีนะครับ” พี่มิณทร์ขอโทษพี่ก้องด้วยสีหน้านิ่งสนิท โอ้โห.. เหตุการณ์เมื่อกี้แถวบ้านเรียกจงใจชัดๆ!!
“ไม่เป็นไรครับ” พี่ก้องสะบัดแขนเสื้อสูทที่ชุ่มไปด้วยน้ำส้มด้วยสีหน้าเซ็งก่อนจะเงยหน้ามาสบตาฉัน “น้องซอลไม่เปื้อนนะครับ”
“มะ ไม่ค่ะ” รังสีพร้อมบวกของพี่มิณทร์ตอนนี้ทำเอาฉันขนหัวลุกสุดๆ ออร่าความแบดของพี่มิณทร์ตอนนี้กร้าวววววใจมากอ่ะ!
“งั้นพี่ขอตัวไปล้างมือที่ห้องน้ำก่อนนะครับ เดี๋ยวออกมาแล้วเราค่อยคุยกันต่อ” อีพี่ก้องผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่วางระเบิดลูกใหญ่ให้ฉันลูกนึงก่อนจะค้อมตัวแล้วเดินออกไป ฉันตวัดสายตากลับมาที่พี่มิณทร์ที่กำลังจ้องเป๋งมาที่ฉัน
“โสดหรอคะ ถึงทำตัวว่างให้ผู้ชายมาจีบ”
พี่มิณทร์กอดอกแซะฉันหน้านิ่งใบหน้าหล่อเหลาตึงสนิทแต่หล่อโคตร! สายตาคมกริบของพี่มิณทร์กำลังทำให้หัวใจฉันละลาย แต่ไม่สิ..ฉันกำลังโกรธเขาอยู่เพราะงั้นฉันไม่กลัวหรอกนะ!
“ถึงไม่โสดก็จีบได้ค่ะ เพราะ-แฟน-ซอล-ไม่-หวง” ฉันเชิดหน้าตอบกลับอย่างไม่กลัว เพราะถ้าพี่มิณทร์หวงและฉันยังสำคัญ.. เขาจะพาพี่มิ้นต์มาด้วยทำไมล่ะ
“แน่ใจแล้วนะคะที่พูด..”พี่มิณทร์กัดฟันกรอดก่อนจะคว้าหมั่บที่ข้อมือฉัน “สงสัยคืนนี้เราต้องเคลียร์กันยาวแล้วค่ะ”
“โอ้ยย พี่มิณทร์ซอลเจ็บนะ!”
“เดี๋ยวรู้เลยค่ะว่าแฟนหวงหรือไม่หวง”
“พี่มิณทร์!!!!”
“มายืนให้หมาจีบแบบนี้เรามีเรื่องต้องเคลียร์กันยาวค่ะ! แล้วเลิกดิ้นซะทีนะคะถ้าหนูไม่อยากให้พี่คิดบวกไปกว่านี้”
“ซอลไม่มีอะไรจะคุยกัยพี่ พี่ปล่อยซอลเลยนะ!”ฉันพยายามฝืนกระชากข้อมือกลับแต่พี่มิณทร์กลับดึงฉันเข้าไปสวมกอดขณะที่ในห้องจัดงานยังเต็มไปด้วยผู้คนที่เดินกันควักไขว่อยู่ ฉันเหลือบไปมองเฮียกรที่กำลังยืนให้สื่อถ่ายรูปกับพี่ก้อยอยู่ไกลๆ และไหนจะแก๊งค์มะม๊ากับย่าหยกของฉันที่ยืนจ้อคุยกับเจ้าสัวอยู่อีกมุม
โง้ยยยยยย นี่พี่มิณทร์กำลังเย้ยมัจจุราชอยู่นะ!
“ทำไม กลัวใครเห็นหรอคะ?”
“พี่มิณทร์หยุดทำแบบนี้เลยนะ!”
“พี่ไม่หยุดค่ะและพี่จะทำมากกว่านี้อีกถ้าหนูขยันยั่วพี่” พี่มิณทร์กระชับอ้อมกอดจนฉันถลำเข้าไปในอ้อมอกเขาใกล้ขึ้น หลายสายตาเริ่มมองมาอย่างสงสัยแต่พี่มิณทร์ดูเหมือนจะไม่สนใจอะไรสักนิด แววตาคมกริบจ้องลึกลงไปในตาฉัน “พี่ไม่ชอบที่หนูยืนเฉยให้ไอ้หน้าเห่ยมาแจกขนมจีบค่ะ”
ความจริงก็โกรธอยู่นะ แต่พอเห็นพี่มิณทร์หึงอีพี่ก้องจนฟิวส์ขาดแบบนี้แล้วมันอดอมยิ้มไม่ได้ ก็..ยืนให้ไอ้หน้าเห่ย เมื่อกี้จีบเพื่อให้ไอ้หน้าหล่อคนนี้มาหึงไงคะ
“พี่ไม่รักซอลแล้วจะมาหึงซอลทำไมคะ”
“ถ้าไม่รักพี่ก็คงไม่ขับรถโต้รุ่งมาจากลำพูนเพื่อที่จะมาเซอร์ไพร์ซหนูหรอกค่ะ”พี่มิณทร์ดึงหน้าดุใส่ฉัน “ไปค่ะไปกับพี่”
พี่มิณทร์ปล่อยฉันออกมาจากอ้อมกอดก่อนจะฉุดกระชากฉันให้เดินออกมาจากพื้นที่จัดงานขณะที่อีกสิบหมื่นสายตาที่มองมาที่มือพี่มิณทร์ที่กำลังจับอยู่ที่ข้อมือฉันเขม็ง โอ้ยยยยยย ไม่นะ
“พี่มิณทร์ คนมองใหญ่แล้วปล่อยซอลก่อนค่ะ”
“ไม่ปล่อยค่ะ.. พี่ปล่อยมือหนูนานเกินไปแล้วตั้งแต่ไปอยู่ลำพูน ตอนนี้พี่กลับมาแล้วเพราะงั้นพี่จะไม่ปล่อยมือจากหนูหรอกค่ะ”
“แต่ทุกคนมองเราอยู่นะคะ!”
ไหนจะสื่อและไหนจะพวกคนรู้จักที่อาจจะเอาไปพูดกันปากต่อปากอีกล่ะ.. ก็ในเมื่อเรื่องฉันกับพี่มิณทร์มันยังเป็นความลับและการที่เขาทำแบบนี้แน่นอนว่าต้องมีคนสงสัยแน่ๆ และถ้าเฮียกรเกิดมองมาเห็นอีกล่ะ..
“อยากมองก็มองไปสิคะ” พี่มิณทร์หยุดเดินแล้วหันมาทำสายตาดุฉัน “มองแล้วเอาไปพูดต่อก็ดีค่ะจะได้รู้ว่าเราเป็นอะไรกันสักที”
เลือดในตัวฉันสูบฉีด.. หัวใจฉันเต้นตึกตัก
“พี่ไม่ยอมยืนเฉยๆให้หมาตัวอื่นมาจีบเมียพี่แน่ค่ะ ไปให้สัมภาษณ์ต่อจากคู่ไอ้กรเลยก็ได้นะคะว่าหนูน่ะคบอยู่กับพี่”
พระเจ้า..ฉันรู้สึกหัวใจพองโตจนแทบจะระเบิดออกมา
“ให้คนรู้กันไปเลยว่าหนูเป็นว่าที่สะใภ้ของปันณพัชร”
(LOADING 100%)
❤
TALK 3
คิดบวกแบบเบาๆตามสไตล์พี่มิณทร์ <3
ถ้าคิดบวกแล้วดีต่อใจแบบนี้ พี่รีบบวกเลยค่ะ ขอร้องง 555
แอบไปบวกกันสองคนก็ได้นะ
ยังไงก็ประกาศชัดว่าเป็นว่าสะใภ้แล้ว ฮี่ๆ
❤
TALK 2
บวกเลย! บวกเลย! บวกเลย!
บวกแล้วอย่าลืมเลิฟซีนหนักๆนะ
ฮรือออออออออ >_<
❤
TALK 1
คล้ายกับตอนต่อไปพี่มิณทร์จะคิดบวกกลางงานหมั้นเฮียกร
บวกเลยค่ะพรี่~ คนอ่านรออยู่ค่ะ
บวกให้แรงและฟินให้แรงนะคะ
อยากเติมน้ำตาลแล้วว ~
รักส์
ขอให้อ่านอย่างมีความสุขค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ
ความคิดเห็น