NC

คำเตือนเนื้อหานิยาย

นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหานิยาย

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BaBY_LoVe : แรกรักเธอ

    ลำดับตอนที่ #24 : เพียงรัก

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.93K
      86
      5 มิ.ย. 66


     

    EP 25: 
    SOL’S TALKS
    New condo รัชโยธิน,

            
              
    ฉันพลิกตัวตื่นขึ้นมาจากที่เข้าใจผิดว่ามันคือตอนเช้าแต่พอสังเกตแดดที่แทงทะลุผ้าม่านสีขาวเข้ามาฉันถึงรู้ว่ามันเป็นตอนเกือบเที่ยง!  โหยย หลับลืมตายเลยอ่ะฉันหันไปมองรอบๆห้องนอนที่ว่างเปล่าอีกครั้งและได้ยินเสียงพี่มิณทร์ทำอะไรกุกกักอยู่ข้างนอก  ทำไมแค่นอนแต่เหมือนไปวิ่งมาราธอนก้าวคนละก้าวกับพี่ตูนบอดี้แสลมมาเลยล่ะ
              

    เหนื่อยยยยยยยยย  มันจะเหนื่อยไปไหมอ่ะ!!!
              

    เมื่อคืนหลังจากที่พี่มิณทร์ทำคิสมาร์คฉันทั่วทั้งตัวฉัน  ด้วยความเพลีย.. ฉันก็กอดกับเขาจนหลับไป  สัมผัสของพี่มิณทร์ทำให้ฉันคลั่งจนเหมือนจะตายซะให้ได้  แต่สุดท้ายพี่มิณทร์ก็ไม่ได้ทำอะไรฉันเหมือนอย่างที่เขาพูดไว้จริงๆ  ก็โล่งนิดๆ เสียดายหน่อยๆ  แต่โอ้ยยยยย แล้วฉันจะเสียดายทำไมวะ!!
              

    เขาแค่จูบ จูบ จูบ และจับฉัน ฟัด ฟัด ฟัด เท่านั้น! ตามเนื้อตามตัวฉันมีแต่ร่องรอยสีกุหลาบจ้ำๆแสดงความเป็นเจ้าของของพี่มิณทร์เต็มไปหมด  ฮรืออ ฉันรู้สึกเหมือนเสียสาวเลยอ่ะ..  เพราะตามเนื้อตามตัวฉันไม่มีส่วนไหนบนร่างกายที่เขาไม่จูบ! ฉันรู้สึกใบหน้าเห่อร้อนเพราะร่องรอยคาตัวแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับพี่มิณทร์เป็นเจ้าของทุกส่วนบนร่างกายฉัน
              

    จะดูแรดไปไหมที่จะบอกว่ากุญแจซอลมีความสุขเว่อร์ค่ะ!
              

    เมื่อคืนพี่มิณทร์เผยให้ฉันเห็นทั้งด้านมืดด้านสว่างและด้านที่พี่มิณทร์ไม่เคยเปิดเผยให้ฉันเห็นมาก่อน  ไม่ว่าจะเป็นมุมที่เป็นผู้ใหญ่หรือมุมที่ร้อนแรงและฮ็อตสุดๆ  พอคิดมาถึงตรงนี้แล้วฉันได้เสื้อผ้ากลับมาใส่ตอนตีอะไรนะ?  เกือบตีห้าสวนกับพระบิณฑบาตเลยมั้งกว่าพี่มิณทร์จะยอมหยุดนัวเนียฉันซะที เค้าทั้งจูบทั้งสัมผัสฉันเหมือนสิ่งเสพย์ติดและเราต้องอยู่ในห้วงอารมณ์ที่เตลิดเปิดเปิงของกันและกันจะไม่น่าจะครองสติได้  แต่สิ่งที่เชื่อได้ยากและไม่น่าเป็นไปได้คือเมื่อคืนฉันยังไม่มีอะไรกับพี่มิณทร์จริงๆ  


    พี่มิณทร์แค่จับฉัน “จูบ” และ “ดูด” ทั้งตัวอย่างที่เขาบอกแค่นั้น..
              

    คือถ้าจะกรี๊ดเป็นภาษารัสเซียนี่ต้องใส่แอคเซนส์ยังไงวะ เพราะกว่าฉันจะผ่านสมรภูมิรบเมื่อคืนมาฉันนี่เหนื่อยจนแทบคลานร้องครางจนแทบเสียงแหบ ใครจะไปรู้ว่าพี่มิณทร์ของน้องจะเป็นวัตถุไวไฟ  ส่วนฉันก็เป็นวัตถุไปไวเพราะไม่ว่าพี่มิณทร์จะจับฉันจูบฟัดตรงไหนฉันก็แทบละลายอ่อนปวกเปียกไปหมด  งื้อออ แค่คิดก็เขินจนแทบเลือดจะขึ้นหัวแล้วอ่ะ
              

    ความจริงฉันก็อยากจะหึงย้อนหลังนะ.. เพราะถ้าพี่มิณทร์ไม่ผ่านผู้หญิงมามากเขาคงไม่เชี่ยวชาญชำนาญการขนาดนี้หรอก คนบ้าอะไรทำไมโปรจังวะ!! พี่มิณทร์จับฉันจูบตรงโน้นและฟัดตรงนั้นก่อนจะจับฉันปล้ำถอดเสื้อผ้าง่ายๆราวกับปอกกล้วยเข้าปาก  เอากับเขาสิ!  


    และทั้งๆที่ฉันควรจะห้ามพี่มิณทร์แต่ฉันกลับเคลิ้มไปกับความหวานและรสสัมผัสที่เขามอบให้ฉันซะงั้น  ฉันจิกทึ้งเส้นผมตัวเองอย่างบ้าคลั่งก่อนจะกลิ้งบนเตียงไปมาแล้วซุกหน้าลงกับหมอนด้วยความเขิน  เอาตรงๆนะ.. ก็ที่ทำกันเมื่อคืนมันก็ไม่ต่างอะไรกับมีเซ็กซ์กันเลยอ่ะ  ถ้าการมีเซ็กซ์คือการที่ร่างกายคนของสองคนหลอมรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน  และถึงเรื่องเมื่อคืนจะยังไม่พัฒนาไปไกลขนาดนั้นแต่สำหรับฉันมันก็แทบจะไม่ต่างกันเลย  ฉันรู้ว่าพี่มิณทร์พยายามจะห้ามใจที่จะยังไม่ทำ “เรื่องแบบนั้น” กับฉัน..
              

    แต่นี่ขนาดพี่มิณทร์พยายามห้ามตัวเองแล้วนะ.. เขากับฉันยังฟัดกันอีรุงตุงนังยันเกือบเช้าเลย  เรากอดจูบกันทั้งคืน  เราเรียนรู้ทำความรู้จักกับร่างกายของกันและกันทั้งคืน  แล้วก็.....งื้อออออออออออ  สิบแปดบวกสุดหนูซอลพูดไม่ได้ค่ะ!!!  ฉันตีขาเหมือนว่ายน้ำลงกับเตียงนอนดังตุ๊บตั๊บจนขาเตียงลั่นเพราะความดีดดิ้นของฉันดังตุ๊บ 


    ฮรือออ ไอ้เสียงเตียงบ้านี่ก็เป็นเสียงเอี๊ยดอ๊าดเดียวกับจังหวะพลิกตัวโอบรัดกันไปมาของฉันกับพี่มิณทร์เมื่อคืนเลยอ้ะ ฉันก็ไม่รู้จะบรรยายบรรยากาศขลุกวงในระหว่างฉันกับพี่มิณทร์ยังไงดีเหมือนกัน  รู้แต่ว่ามันเขิน มันฟิน  มันจะสุพรีมมมมจนหัวใจพองโตไปหมด  ให้ตายเหอะ..ฉันรู้สึกดี๊ด๊าจนรู้สึกหมั่นไส้ตัวเองมากกกกเมื่อคิดถึงเรื่องนั้น.. 
              

    “ซอลขา.. ลืมตามองพี่สิคะ” 
              

    ฉันนอนเอาคว่ำหน้าทิ่มหมอนแล้วนึกถึงเสียงทุ้มนุ่มที่คอยเรียกฉันให้ลืมตาตื่นขึ้นของพี่มิณทร์  ฉันจำได้ว่าฉันหลับตาปี๋เมื่อเห็นเขายันตัวลุกขึ้นเพื่อถอดเสื้อช่วงบนออกให้หมด  โฮกกกกกก  มันจะขาวล่ำน่ากอดไปไหนวะ!!  บอดี้พี่มิณทร์ฮ็อตและดีต่อใจสุดๆอ่ะ  ดีต่อใจบางๆของน้องจนน้องอยากจะขึ้นมาโดดปล้ำพี่แทน  นี่มันสายอ่อยชัดๆ..
            

    เซ็กซ์แอพพีลสูงชะลูดประหนึ่งตึกใบหยกอ่ะกับสภาพของพี่มิณทร์ตอนนี้  ฉันเองก็ไม่รู้จะบอกยังไงดีคือมันดีงามพระรามแปดมากกก  เรียกได้ว่าถ้าลืมตาขึ้นมาแล้วเจอภาพๆนี้บอกได้คำเดียวว่าหิวเลย!!!!  เก็บอาการหน่อยกุญแจซอลเธอเป็นผู้หญิงนะยะ..
              

    “ไหนพี่บอกจะไม่ทำอะไรซอลไงคะ” 


    ฉันพยายามที่จะท้วงเขาเพื่อคืนความสงบสุขให้กับเสียงหัวใจตัวเอง เพราะเสียงหัวใจฉันเต้นดีดดิ้นยิ่งกว่าเพลงปานามาที่กำลังฮิตตอนนี้อีกอ้ะ 
              

    “แล้วพี่ทำอะไรหนูรึยังล่ะคะ หือมม” พี่มิณทร์โน้มใบหน้าหล่อเหลาลงมาใกล้ฉัน ปลายจมูกโด่งสวยของเขานั้นเฉี่ยวพวงแก้มฉันไปมาอย่าล้อเล่น  ฮรืออ  ยั่วน้องขนาดนี้ต้องการอะไรจากสังคมคะ 
              

    “ก็ถ้าพี่จะไม่ทำแล้วจับซอลถอดเสื้อผ้าออกทำไมคะ” 


    ฉันหลบตาเขาแล้วมองลงต่ำเพราะตอนนี้สภาพของฉันไม่ต่างกับคำว่าเกือบเปลือย!  ฉันใช้อ้อมแขนสองข้างปิดหน้าอกเต่งตึงของตัวเองเพราะชุดนอนลายการ์ตูนของฉันโดนจับถอดออกลงไปกองข้างเตียงเรียบร้อยแล้ว  แล้วอีกอย่างแผ่นอกขาวๆที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อของพี่มิณทร์ตอนนี้ทรมานใจฉันสุดๆอ่ะ  เขาน่าหมั่นเขี้ยวมากกกก

     

    “ซอลอยู่สภาพนี้กับพี่แล้วใจมันบางค่ะ”
    SOL SAID

    “แหมม หนูพูดแบบนี้เหมือนอยากให้พี่ทำเลยนะคะ” 


    พี่มิณทร์จงใจแกล้งฉันโดยการโน้มใบหน้าลงมาให้ฉันซูมใกล้ๆขึ้นอีกแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากมองและยิ้มให้ฉันที่นอนหน้าแดงเท่านั้น  เฮ้ยย ถ้าพี่จะนอนมองประลองปัญญาแบบนี้พี่ให้น้องเอาเสื้อมาใส่ก่อนเถอะค่ะ  ก็ไม่หนาวหรอกนะแต่สภาพเราสองคนตอนนี้โคตรร้อนสุดๆ 



    เอาตรงๆว่าฉันอยากกัดซอกคอขาวๆของเขามากอ่ะ  ทำไมพี่มิณทร์เป็นเด็กวิศวะที่ผิวเนียนจังวะ!  นอกจากหล่อน่าปล้ำยังถอดเสื้อแล้วน่าฟัดที่สุดในสามโลก ฉันได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นระรัวดัง
              


    “ถ้าพี่จะแค่นอนมองซอลเฉยๆพี่ก็ปล่อยให้ซอลไปใส่เสื้อผ้าเถอะค่ะ” อูยยย ปากเก่งผิดกับใจป่ะล่ะ??  ฉันแกล้งทำปากเก่งไปงั้นทั้งที่ในใจป๊อดสุดๆ  แต่ไม่ได้สิเขาทำฉันหน้าแดงขนาดนี้ไม่มีสวนกลับไปบ้างได้ไงล่ะ  
              


    “โอ้โห  พูดแบบนี้แถวบ้านพี่เรียกหยามนะคะ” พี่มิณทร์หัวเราะร่วนแล้วถูปลายจมูกเข้ากับปลายจมูกฉัน “แล้วทำไงดีล่ะคะพี่เป็นพวกป๊อดซะด้วยสิ” พี่มิณทร์ตวัดสายตาขึ้นมามองฉันอย่างเจ้าเล่ห์
              

    โอ้ยยยยยยยยย  สายตาแบบเน้  ยิ้มร้ายแบบเน้  ป๊อดตายล่ะค่ะ!! ถ้าอย่างพี่เรียกป๊อดนะในโลกนี้ไม่มีใครหงิมแล้วววว  ถอดเสื้อฉันออกแล้วถอดกางเกงนอนฉันออกตามภายในห้าวิก่อนจะกระโดดลงมาคร่อมทับ  หงิ๊มหงิมค่ะ!!
               

    “ทำไมคะไหนอยากทำให้พี่ทำอะไรหรอไหนพูดมาซิ๊”          
              

    “ก็ไหนพี่มิณทร์บอกจะไม่ทำอะไรซอลไงล่ะคะ”
               

    “ที่หนูท้าพี่เมื่อกี้เพราะหนูอยากให้พี่ทำไม่ใช่หรอคะ”
               

    “เปล่านี่คะ ซอลแค่บอกว่าพี่ว่าปล่อยให้ซอลลุกไปใส่เสื้อผ้าก่อนเถอะ  ซอลอยู่สภาพนี้กับพี่แล้วใจมันบางค่ะ”
               

    “เอ..บางแค่ไหนหรอคะ” พี่มิณทร์ผลุบสายตามองไปหน้าอกหน้าใจฉันที่ฉันใช้ท่อนแขนกอดปิดบังสายตาเขาอยู่  เมื่อกี้พี่ก็ทั้งจูบ..ทั้งขยี้ขย้ำหน้าอกน้องไปแล้ว  มองแบบนี้หมายความว่าไงอีกคะ  “ไหนหนูบอกว่าบาง ขอพี่ลองพิสูจน์ดูหน่อยสิคะ”
              

    แล้วพี่มิณทร์ก็โฉบศีรษะลงมาดูดดึงริมฝีปากฉัน  ริมฝีปากและลมหายใจอุ่นร้อนของเขานั้นคลอเคล้าราวกับอยากปลุกอารมณ์สาวฉันให้เตลิด  ฉันสูดลมหายใจพี่มิณทร์ที่ละไปตามดวงหน้าเข้าไปเต็มปอดและมันกลับยิ่งเพิ่มความร้อนให้กับตัวฉัน ลมหายใจที่หลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันทำให้ฉันร้อนเหมือนลุกเป็นไฟ
             


    “ก็ไม่เห็นจะบางเท่าไหร่นี่คะ..” พี่มิณทร์พูดยั่วฉันขณะที่มือหนาของเขาสอดเข้าไปใต้ท่อนแขนฉันทีเผลอและลูบไล้ขยี้ขยำหน้าอกหน้าใจฉันอย่างมันส์มือ “ก็เต็มไม้เต็มมือพี่ดีไม่เห็นจะบางเลยค่ะ” 
              


    โว้ยยยยยยยย แล้วตรงนั้นมันใช่ประเด็นมั้ยล่ะะ!! 



    พี่มิณทร์พูดชิดติดริมฝีปากฉันขณะที่มือหนาของเขานั้นลูบคลำและไล้ปลายนิ้วโป้งหยอกล้อกับยอดอกฉันราวกลับคุกรุ่นในอารมณ์  สติฉันเหมือนใกล้จะหลุดลอยออกไป  ฉันไม่เห็นทางไหนที่จะหยุดไฟรักคุกรุ่นที่เราสองคนช่วยกันก่อได้เลย  ฮือออ ไอ้บ้าพี่มิณทร์  พี่กำลังจะทำให้น้องสูญเสียระบบการควบคุมตัวเองชุดใหญ่นะ!
              


    “พี่มิณทร์.. พี่จะแกล้งซอลทำไมคะ” 



    ฉันพยายามใช้ผ่ามือดันแผ่นอกเขาหน้าแดงเพราะแต่ละสัมผัสของเขาทำให้หัวใจฉันจะวายซะเหลือเกินเพราะทั้งปากและมือพี่มิณทร์ทั้งคลอเคล้าและเร้าอารมณ์ไปในทิศทางเดียวกัน 
              


    “พี่ไม่ได้แกล้งค่ะพี่แค่อยากสัมผัสหนู..”
              


    “แต่สัมผัสแบบนี้เราจะไม่ไหวเอานะคะ”  ไอ้คำว่า “ไม่ไหว”ของฉันมันก็เท่ากับ “ไม่ไหว” ของเขาด้วย  เพราะดูจากแววตาหวานเชื่อมและสีหน้าที่แทบจะกลืนกินฉันตอนนี้ฉันว่าเขาก็ใกล้จะอดทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน  



    “พี่คิดว่าพี่จะหยุดตัวเองได้หรอคะเรามากันถึงขนาดนี้แล้ว ” ฉันพูดกับเขาหลังจากประเมิณสภาพสองเราตามตรง พี่มิณทร์ดูมีอัตราความหื่นขึ้นสูงขณะที่ฉันก็ประคองสติตัวเองแทบไม่ไหว
              


    “ไหวไม่ไหวมันก็ต้องไหวแหล่ะค่ะ  ซอลคะพี่อยากให้เกียรติหนู” พี่มิณทร์มองสบตาฉันด้วยแววตาลึกซึ้งจริงจัง “พี่เป็นเพื่อนกับไอ้กรมาจะเป็นสิบปีแล้วนะคะ พี่อยากให้เกียรติมันแล้วก็ให้เกียรติที่บ้านหนูด้วย พี่จริงจังกับหนูเพราะงั้นพี่จะอดทนให้ไหวค่ะ”
               


    พี่มิณทร์ก้มลงมาจุมพิตที่กึ่งกลางหน้าผากฉัน  สัมผัสอ่อนโยนกับเวลาอบอุ่นคู่นั้นฉันสัมผัสได้แต่ความจริงจังที่สะท้อนออกมา แววตาเขายืนยันในสิ่งที่เขาพูดทุกคำ                  
               


    “เรารอเวลากันไปอีกหน่อยนะคะ” 



    พี่มิณทร์บรรจงจูบที่หน้าผากฉันอีกครั้ง ทุกคำพูดทุกถ้อยคำยังคงก้องดังอยู่ในหัวฉันไม่หยุด  ฉันไม่เคยเสียดายเวลาสี่ปี.. และไม่เคยเสียใจที่ได้รักเขาเลยสักครั้ง  ฉันเคยเฝ้ารอเขาด้วยหัวใจพังๆแต่วันนี้เขากลับทำให้หัวใจช้ำๆดวงนั้นเปี่ยมล้นไปด้วยความสุขจนแทบจะกรีดร้องออกมา  ความสุขที่กรั่นกรองมาจากความรักของมิณทร์ ปันณพัชร.. 
              


    แล้วหลังจากนั้นเราก็กอดจูบพลอดรักกันเท่าที่จะห้ามหัวใจและความปรารถนาของตัวเองได้ เป็นครั้งแรกในชีวิตวัยสาวของฉันที่มัวเมาไปกับรสสัมผัสแห่งรัก.. ฉันหลับตาปี๋แล้วฉีกยิ้มแก้มแทบปริเมื่อคิดไปถึงกิจกรรมรักเมื่อคืนแล้วก็ต้องดีดดิ้นไปมาบนเตียงอย่างบ้าคลั่ง  ฉันเอาหน้าซุกหมอนด้วยความเขินหลายครั้งก่อนจะสังเกตเห็นประกายวิบวับบางอย่างที่ติดอยู่ที่นิ้ว  


    หือมม  อะไรอ่ะ....
               


    ฉันตั้งสติแล้วผุดตัวขึ้นมานั่งก่อนจะยื่นมือมองไปที่นิ้วตัวเองอีกครั้ง นิ้วนางข้างซ้ายของฉันตอนนี้มีแหวนเพชรเม็ดน้อยจับจองแสดงความเป็นเจ้าของตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้  ฉันชูมือแล้วโบกไปโบกมาอย่างงงๆ 



    เห้ยย มาตอนไหนอ่ะ 



    ฉันกระพริบตาปริบๆมองเพชรเม็ดน้อยที่ส่องประกายวิบวับ  ยะ อย่าบอกนะ.. ว่าเมื่อคืนที่ฉันคิดว่าเป็นฝันแต่มันคือเรื่องจริง  ฉันนึกไปถึงสัมผัสครึ่งหลับครึ่งตื่นที่วนเวียนอยู่ที่นิ้วและเสียงกระซิบบอกรักที่ฉันคิดว่าเป็นแค่ความฝัน 
              


    ‘พี่ตีตราจองหนูไว้ก่อนนะคะ’  



    โฮกกกกกก  ตกลงไม่ใช่ฝัน! พี่มิณทร์กระซิบข้างหูฉันแล้วสวมแหวนวงนี้ให้ฉันที่หลับไปก่อนเพราะเพลียจริงๆ  ฉันยิ้มแก้มปริแล้ววิ่งไปวิ่งมารอบห้องราวกับคนบ้า  
              


    โอ้ยยยยย  หวานกว่าอินซูลิน.. ก็พี่มิณทร์ของหนูซอลเนี่ยล่ะ!

     


                                     “แต่ทำไมพี่ยังอยากจูบหนูอยู่เลย”
                                              MIN SAID

    ฉันโดดเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำทั้งๆที่ยังสวมแหวนเพชรเม็ดน้อยอยู่แบบนั้น แสงวิบวับที่แยงตาทำให้ฉันรู้สึกมีความสุขสุดๆ   ฮรืออ ถูกหวยรางวัลที่หนึ่งยังไม่สุขเท่าฉันตอนนี้เลยอ่ะ ออกไปแล้วฉันจะกล้าสบตาพี่มิณทร์มั้ยนะแต่ที่รู้ๆฉันอยากไปกระโดดกอดและหอมเขาสักฟอดด  ฉันรีบอาบน้ำแต่งตัวออกมาและพบว่าเขากำลังนั่งหันหลังเล่นคอมพ์อยู่อย่างชิลๆ
              

    โห.. มองข้างหลังก็ยังหล่อ  พี่จะหล่อไปหมดทุกมุมแบบนี้ไม่ได้นะ!
              

    “ไง ตื่นแล้วหรอคะ” พี่มิณทร์เอี้ยวตัวหันมาคลี่ยิ้มให้ฉันหลังจากที่ได้ยินเสียงฉันปิดประตู  ฉันได้แต่ก้มลงมองปลายเท้าตัวเองแล้วพยักหน้าหงึกหงักเพราะยังไม่กล้าสบตากับเขา  
              

    “พี่มิณทร์ตื่นนานแล้วหรอคะ” โอ้ยย  ภาพที่ฉันโดนเขาฟัดมันยังวิ่งเล่นไปมาอยู่ในสมองฉันอยู่เลย ไม่หื่นสิซอล.. เช้าแล้ว โอเคนะ!
              

    “พี่ตื่นมาเตรียมอาหารเช้าให้หนูค่ะ” พี่มิณทร์ลุกขึ้นมาจากโต๊ะคอมพ์แล้วเดินทำหน้ามุ้งมิ้งเข้ามากอดเอวฉัน  “หนูหิวรึยังคะเมื่อเช้าพี่ลงไปเซเว่นหน้าคอนโดซื้อข้าวต้มกับพวกแซนวิชมาให้หนูด้วย พี่ไม่รู้ว่าหนูชอบกินแบบไหนเลยหยิบอะไรที่น่าอร่อยมาให้หมดเลย  พี่ซื้อนมกับช็อกโกแลตปั่นมาแช่ไว้ในช่องฟรีซให้หนูด้วยนะคะ”
             

    งื้ออออ  ยกของทั้งเซเว่นมาทั้งกองทัพยังไม่อร่อยและดูน่ากินเท่าผู้ชายขี้อ้อนที่กอดเอวฉันไว้แล้วทำหน้ามุ้งมิ้งอยู่ตอนนี้เลย พี่จะน่ารักเกินไปแล้วนะ!
              

    “ขะ ขอบคุณนะคะ”
              

    “ไม่เป็นไรค่ะเรื่องดูแลหนูเป็นหน้าที่ของพี่อยู่แล้ว ถ้าหนูไม่อิ่มหรืออยากกินอะไรเพิ่มหนูบอกพี่ได้นะคะ”
              

    “ไม่ใช่เรื่องนั้นค่ะ..”
              

    “อ้าว” พี่มิณทร์ก้มลงมามองหน้าฉันแล้วทำหน้างงๆ  ขนาดทำหน้างงความหล่อเขายังดาเมจฉันแรงเลยอ่ะ
              

    “ซอลขอบคุณนะคะ เรื่องแหวน..” ฉันก้มหน้าพูดเสียงอุบอิบก่อนจะค่อยๆเกร็งนิ้วชูขึ้นมา “ซอลชอบมากเลยค่ะ” เพชรเม็ดน้อยส่องแสงวิบวับอวดความงามอยู่ที่เรือนนิ้วพอๆกับฉันหัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ  มันเป็นสมบัติล้ำค่าของฉัน
              

    “วิศวะจนๆอย่างพี่ซื้อให้หนูได้แค่นี้  พี่ขอโทษนะคะ” พี่มิณทร์จับฉันมือข้างที่ใส่แหวนก่อนจะทำปากจู๋  “พี่ใช้เงินเก็บซื้อให้หนูเลยได้วงเล็กแค่นิดเดียว”
              

    ฉันไม่เคยรู้ราคาของแหวนเพชร.. แต่สำหรับวงนี้มันมีค่าที่ประเมิณไม่ได้สำหรับฉัน ถึงแม้ฉันเคยตามมะม๊าไปร้านเพชรหลายครั้งแต่ฉันก็รู้แค่ยิ่งมาจากแบรนด์ดังราคาก็ยิ่งแพง ฉันเห็นชื่อแบรนด์ร้านจิวเวอรี่ชื่อดังสลักอยู่ที่ตัวเรือน  ฉันใจเต้นระรัวที่พี่มิณทร์ให้ของสูงค่าแบบนี้กับฉัน..
              

    “พี่อยากใช้เงินพี่เองซื้อแหวนให้หนู  พี่ไม่อยากใช้เงินของปันณพัชร” 


    ฉันรู้ว่าพี่มิณทร์กับที่บ้านไม่ค่อยถูกกันแต่เขาก็ยังงัดเอาเงินเก็บไปถอยแหวนมาให้ฉันซึ่งกะจากสายตาแล้วมันต้องสนนราคาแพงหูฉี่แน่ๆ  ฉันน้ำตาคลอเบ้าเพราะความรู้สึกเต็มตื้นที่มันอัดแน่นอยู่ในอก ป๊าขา ม๊าขา เฮียกรขา.. ซอล คิดไม่ผิดที่เลือกรักผู้ชายคนนี้จริงๆค่ะ
              

    “สำหรับซอลแค่นี้ก็พอแล้วค่ะ ซอลขอบคุณมากนะคะพี่มิณท..” 


    ฉันเงยหน้าขอบคุณพี่มิณทร์พอดีกับเรียวปากอ่อนนุ่มวูบลงมาปิดริมฝีปากฉัน  ฮรืออ เพิ่งตื่นเมื่อกี้แต่ทำไมอยากเดินถอยหลังกลับไปที่เตียงอีกแล้วอ่ะ  หัวใจฉันเต้นไม่เป็นส่ำกับสัมผัสคลอเค้าอันแสนอ่อนละมุนของพี่มิณทร์  มันช่างอ่อนหวานและดึ่มด่ำ..
              

    “พี่ขอจองหนูไว้ก่อนนะคะ”


    เสียงกระซิบที่เคยกระซิบฝากผ่านกับความฝันบัดนี้มันดังข้างหูฉันอีกครั้งพร้อมกับจูบยืนยันที่แสนหนักแน่นของพี่มิณทร์  เขาจูบฉันอีก..แล้วก็จูบอีก  ดูเหมือนจะกี่หมื่นพันรอยจูบก็ไม่เคยเพียงพอสำหรับเรา “พี่ว่า..ดูเหมือนเราจะจูบกันไม่พอนะคะ” 


    พี่มิณทร์เชยคางฉัน  ดวงตาคมกริบคู่นั้นจ้องมองฉันอย่างร้อนแรง อืมม คงไม่พอจริงๆอ่ะเพราะฉันก็รู้สึกอยากงอแงให้เขาอุ้มฉันกลับไปที่ห้องนอนอีกครั้ง 
              

    “เมื่อคืนก็เกือบจะเช้า พอแล้วมั้ยคะ” ฉันพยายามเรียกสติตัวเองอย่างหนักและหันหน้าหลบรอยจูบพี่มิณทร์เพื่อควบคุมตัวเอง  ไม่ได้สิ.. เพราะถ้าฉันขืนคล้อยตามไปกับเขาตอนนี้ตื่นมาอีกทีต้องเป็น ดาริกา ปันณพัชรแน่ๆอ่ะ “ซอลว่าเราจูบกันเกินพอแล้วนะคะ” 
              

    “ใช่หรอคะ?” พี่มิณทร์ทำหน้ามุ้งมิ้งใส่ฉัน “แต่ทำไมพี่ยังอยากจูบหนูอยู่เลย”เขากระชับอ้อมแขนกอดเอวฉันแน่นก่อนจะพรมจูบไปตามซอกคอฉัน 
              

    “แต่พี่มิณณณทร์  ซอลหิวแล้วนะ” พี่มิณทร์ชะงักริมฝีปากเมื่อฉันอ้างว่าหิว “เลิกฟัดซอลก่อน  ท้องซอลร้องไปหมดแล้วค่ะ”
              

    “อ้าวว  แล้วทำไมไม่รีบบอกล่ะคะ” พี่มิณทร์คลายอ้อมแขนจากเอวฉัน “งั้นเดี๋ยวพี่เข้าไปอุ่นข้าวในครัวให้ค่ะ คราวหลังรีบบอกนะคะเดี๋ยวหนูหิวแสบท้องแย่” พี่มิณทร์ขยุ้มมือหนาละเลงบนศีรษะฉันก่อนจะเดินดุ่ยกลับเข้าไปในครัวและจัดการอุ่นอาหารสะดวกซื้อให้  อนาคตกลัวเมียไหมคำตอบอยู่ตรงหน้าแล้ว  ฮ่าๆ
              

    “หนูรอแปปนะคะ” 


    พี่มิณทร์ส่งยิ้มให้ฉันก่อนจะจัดแจงแหกถุงเซเว่นแล้วจับอุ่นอาหารสะดวกซื้อให้  ฉันมองตามพี่มิณทร์เข้าไปในครัว โห..ชาติที่แล้วต้องทำบุญด้วยอะไรถึงจะใส่เสื้อยืดตราห่านคู่ได้หล่ออย่างพี่เนี่ย?  ชาติที่แล้วพี่ถวายสังฆทานด้วยหลอดนีออนรึเปล่าคะ?  ชาตินี้หล่อเจิดจ้าจัง..หล่อส่องสว่างทะลุชุดอยู่บ้านออกมาเลย เจอความหล่อแบบบ้านๆของพี่เข้าไปใจบางแรงแต่เช้าเลยค่ะ 
              

    “คนเวฟน่ากินยิ่งกว่าของเวฟอีกนะคะ..” 
              

    “หนูว่าไงนะ?” พี่มิณทร์เงยหน้าขึ้นมาถามฉันที่พึมพำบ่นกับตัวเองคล้ายกับคนสมองไหล  มันใช่เวลาปากตรงกับใจตอนนี้มั้ย ถาม!           
              

    “อ๋อ ปะ เปล่า ไม่มีอะไรค่ะ” ฉันโบกมือยิ้มกลบเกลื่อนแทบไม่ทัน  สงสัยเมื่อกี้พี่คงหูฝาดส่วนน้องก็คงแค่ปากลั่นไปเอง  แต่พี่ก็น่ากินจริงๆง่ะ..
              

    “มาแล้ววว กลิ่นหอมฉุยเลยค่ะ” 


    พี่มิณทร์ยิ้มแป้นแล้นเดินทยอยเสิร์ฟอาหารสะดวกซื้อให้ฉัน  นี่อดีตพนักงานเซเว่นมาเองป่าวคะ  น้องจะบอกว่าขนมจีบกับซาละเปาน้องไม่รับแต่จะรับพี่มิณทร์ห่อใส่กลับบ้านแทน  คนอะไรหล๊อหล่อพ่อทุกสถาบัน!
              

    “อืมม พี่ว่าแซนวิชทูน่าเซเว่นอบอร่อยดีนะคะ” 


    พี่มิณทร์เคี้ยวแซนวิชตุ้ยพลางคุยกับฉัน  ฉันมองตามริมฝีปากหยักบางที่เคี้ยวแซนวิชหยั่บๆแล้วใจเต้นระรัวเลย  งืออ ก็ไอ้ริมฝีปากนี้ไง  ที่ทั้งจูบ ทั้งดูดดึง ทั้งลากปลายลิ้น.. โอ้ยย ไม่ๆ เขาเรียกว่าฝากรอยสัมผัสไปทั่วร่างกายของฉัน  “เอ้ออ  ไข่ตุ๋นญี่ปุ่นซีพีพี่ว่าก็อร่อยนะ”
              

    พี่มิณทร์แกะฝาถ้วยไข่ตุ๋นญี่ปุ่นแล้วจัดแจงใช้ช้อนตักป้อนฉัน  ฉันค้นพบว่าอาหารทุกอย่างอร่อยขึ้นกว่าเดิมสองร้อยยี่สิบเปอร์เซ็นต์! อาหารเช้าที่กินไปมองหน้าพี่มิณทร์ไปเป็นอะไรที่สุโค่ยยยมากก  อาหารอร่อยหมดทุกอย่างถ้าผู้ชายที่ชื่อมิณทร์ ปันณพัชรเป็นคนป้อนให้  ฉันงับช้อนไข่ตุ๋นกลืนลงคออย่างว่าง่ายก่อนจะยื่นแซนวิชป้อนให้เขามั่ง
              

    “ขอบคุณค่ะ” พี่มิณทร์ยิ้มแล้วอ้าปากงับแซนวิชในมือฉันก่อนที่มือหนาจะยกขึ้นมาขยุ้มศีรษะฉันอย่างเอ็นดู “กินอาหารเซเว่นกับหนูนี่อร่อยเหมือนมีมาสเตอร์เชฟมาทำให้กินเลยค่ะ”
              

    ก็ตัวทำละลายมันเป็นพี่เองไม่ใช่หรอคะ.. ขนาดน้ำปลายังหวานเลยค่ะถ้าได้นั่งกินกับพี่   ได้นั่งกินข้าวกับพี่มิณทร์แม้แต่แกงถุง แกงตักก็ยังอร่อยอ่ะ


     


    “พี่จะไม่ทิ้งซอลใช่มั้ยคะ”
    SOL SAID

       

    “แล้ว..ตกลงพี่มิณทร์ต้องเริ่มงานเมื่อไหร่คะ” ฉันหยุดอาการหลงหลัวจนขาดสติแล้วหันมาตั้งสตินิสนึง  ฉันยังมีเวลาเหลืออยู่เท่าไหร่นะ?
              

    “อืมม  เอาจริงๆพี่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ” ไข่ตุ๋นญี่ปุ่นที่เมื่อกี้เคยกลืนได้อย่างลื่นคอเริ่มกลืนได้อย่างยากลำบาก  ยิ่งฉันสำลักความสุขตรงหน้ามากเท่าไหร่..ฉันยิ่งไม่อยากไม่เขาไป “แต่ไม่น่าจะไม่เกินสองอาทิตย์นะคะ” 
              

    “หรอคะ..” 


    ฉันพยายามกลืนไข่ตุ๋นลงคออย่างฝืนๆ  ใช่.. ฉันไม่อยากให้เขาไป  แซนวิชในปากเริ่มไม่อร่อย ของที่เคยดูน่ากินก็เริ่มไม่น่ากินอีกต่อไปถ้าไม่มีผู้ชายคนนี้นั่งกินอยู่ด้วย  ฉันนั่งเบะปากเป็นสระอิอยู่ดีๆพี่มิณทร์ก็ยื่นมือมาหยิกแก้มฉัน
              

    “หนูนี่.. หน้าหงิกไม่เปิดเผยเลยนะคะ” 
              

    ผู้ชาย ที่เพียงแค่เขายิ้ม.. โลกทั้งใบก็เหมือนหันมายิ้มให้กับฉัน
            
    ผู้ชาย คนเดียวที่ฉันรัก..
              
    ผู้ชาย ที่เปลี่ยนอาหารสะดวกซื้อ หรือแกงตักให้เป็นอาหารชั้นหนึ่ง
              
    ถ้าฉันจะรั้งเขาไว้ไม่ให้เขาไป  มันจะดูเห็นแก่ตัวไปไหมนะ?          
            

    “ซอลขา ทำหน้าแบบนี้เดี๋ยวพี่ก็ไม่พาไปส่งที่บ้านหรอกค่ะ” พี่มิณทร์ถอนหายใจน้อยๆก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือฉัน  แรงบีบหนักๆที่ส่งผ่านมานั้นทำให้ฉันน้ำตารื้นขึ้นมาอย่างบังคับตัวเองไม่ได้  หัวใจฉันบีบรัดเมื่อนึกถึงความจริง
              

    “ซอลขอโทษที่งอแงกับพี่นะคะ..”
              

    “หนูรู้ใช่มั้ยคะว่าหัวใจพี่อยู่กับหนู” พี่มิณทร์บีบมือให้กำลังใจฉันหนักขึ้น  ทั้งๆที่รู้ว่าพี่มิณทร์กำลังวิ่งตามความฝันอยู่แต่ฉันก็อดงอแงไม่ได้  งี่เง่าเบอร์ใหญ่มั้ยล่ะ?
              

    “ซอลรู้ค่ะ..” ฉันพยายามกลั้นก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ที่คอ “แต่ซอลไม่อยากให้พี่ไปนี่คะพี่มิณทร์” ลำคอฉันยิ่งตีบตับ  ฉันสะอื้นฮักและปล่อยให้ตัวองร้องไห้เป็นเด็กๆ 
              

    “โอ๋ๆคนดีของพี่ ..ไม่ร้องนะคะ” พี่มิณทร์ลุกพรวดขึ้นมาคว้าตัวฉันไปกอดไว้  ยิ่งฝ่ามือหนักๆลูบหลังศีรษะฉันอย่างปลอบใจมากเท่าไหร่เสียงสะอื้นฉันยิ่งดังเท่านั้น  ฉันฝังหน้ากับหัวไหล่เขาและเอ่ยคำขอร้องที่เห็นแก่ตัวที่สุด  
              

    “พี่ไม่ไปได้มั้ยคะ..”  
              

    “ซอลคะ หนูกำลังทำให้พี่โคตรอยากทิ้งทุกอย่างแล้วอยู่กับหนูที่นี่” พี่มิณทร์ถอนหายใจหนักๆและสวมกอดฉันแน่นขึ้น  สมใจเธอรึยังกุญแจซอล.. งอแงงี่เง่าทั้งๆที่รู้ว่าเขากำลังวิ่งตามความฝัน “ถ้าหนูจะร้องไห้หนักขนาดนี้  งั้นเดี๋ยวพี่ไปคุยกับเขาอีกทีก็แล้วกันค่ะ”
              

    พี่มิณทร์กำลังชะลอความฝันของเขาเพื่อฉัน..แล้วฉันจะปล่อยให้มันเป็นแบบนั้นได้ยังไงล่ะในเมื่อผู้ชายที่ฉันรักกำลังวิ่งไล่ตามความฝันของเขาสุดแรง จะให้ฉันยื้อเขาได้อย่างไรในเมื่อฉันรู้ว่าแววตาเขาสุกสกาวแค่ไหนเวลาเขาพูดถึงความฝัน
              

    “มะ ไม่ได้นะคะ!” ฉันร้องห้ามเขาเสียงดังเพราะความงี่เง่าของฉันกำลังจะทำให้ทุกอย่างเสียเรื่อง “มะเมื่อกี้ ซอล งอแงไปเอง..ซอลขอโทษนะคะ” 
              

    พี่มิณทร์นิ่วหน้าแล้วมองประเมิณฉัน  เรียวคิ้วสวยขมวดเข้าหากันก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะถอนหายใจน้อยๆ  เขาแตะรอยยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยนแล้วค่อยๆไล้ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาให้ฉัน
              

    “เด็กน้อย..หนูอย่าหลอกพี่เลยค่ะ”
              

    “ซอลไม่เป็นไรจริงๆนะคะซอลอยู่ได้จริงๆ  พี่มิณทร์ไปตามความฝันเถอะค่ะ” ฉันตั้งท่ากำหมัดแล้วแสร้งทำเป็นเข้มแข็ง  ฉันจะไม่ปล่อยให้น้ำตาไหลทั้งๆที่ในใจฉันกำลังร้องไห้เสียงดัง
              

    “หนูจะโกหกพี่ไปทำไมคะ”
              

    “ซอลเปล่าโกหกจริงๆค่ะ ซอลอยู่ได้จริงๆนะคะพี่มิณทร์..” น้ำตาฉันร่วงหล่นสวนทางกับคำพูดของฉัน  พี่มิณทร์ถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะกดศีรษะฉันซบลงไปกับแผ่นอกของเขา น้ำเสียงเขาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง 
              

    “หนูนี่..โกหกไม่เนียนเลยนะคะ” ความเข้มแข็งจอมปลอมของฉันพังทลายลงเมื่อฉันตกอยู่ภายใต้อ้อมกอดของพี่มิณทร์  ฉันปล่อยตัวเองให้สะอึกสะอื้นอยู่กับแผ่นอกของเขาเสียงดัง “หนูก็เป็นซะแบบนี้แล้วจะพี่ไปได้ยังไงล่ะคะ?”
              

    ทั้งที่ตั้งใจจะวางท่าเข้มแข็งจนตัวสั่นแต่สิ่งที่ฉันทำคือทำได้แค่พ่ายแพ้แก่เสียงหัวใจของตัวเอง ฉันกระชับท่อนแขนกอดเอวพี่มิณทร์แน่น  ฉันไม่เคยอยากให้เขาไปไหนทั้งนั้น
              

    “หนูรู้มั้ยคะ..ตอนแรกพี่คิดว่าพี่จะทนได้ซะอีก” พี่มิณทร์หัวเราะเบาๆ “แต่พอเอาเข้าจริงๆการหักดิบจากหัวใจตัวเอง  แม่งทำไม่ได้ง่ายๆเลยค่ะ” พี่มิณทร์คลายอ้อมแขนแล้วก้มใบหน้าหล่อเหลาลงมาสบตาฉัน  ดวงตาสีน้ำตาลที่ฉันหลงรักมีร่องรอยความกังวลวูบไหวอยู่เต็มไปหมด  เขาดูเจ็บปวดไม่ต่างกับฉัน..
              

    “พี่จะไม่ทิ้งซอลใช่มั้ยคะ”
              

    “ไม่มีทางค่ะ พี่ไม่มีวันทิ้งหนูแน่ๆ” พี่มิณทร์หยิกปลายจมูกฉันแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “หนูไม่ใช่คนเดียวที่กลัวหรอกนะคะ  หนูรู้มั้ยคะ..พี่กลัวมากกว่าหนูอีก”
              

    ฉันกระพริบตาปริบๆ  หล่อน่าพุ่งชนอย่างพี่มีอะไรต้องกลัวด้วยหรอคะ?          
              
     


     


     

    “พี่มิณทร์กลัวอะไรคะ”
              

    “พี่กลัวโดนหนูทิ้งค่ะ” คำสารภาพที่สุดแสนจะยิงตรงจากผู้ชายหล่อเหลาที่ยืนอยู่ตรงหน้าเล่นเอาใจฉันเต้นแรง  มันใช่หรอคะพี่มิณณณทร์  น้องต่างหากที่กลัวโดนพี่ทิ้งมากกว่านะ
              

    “อะ อะไรนะคะ”
              

    “พี่ขอโทษนะคะ  ที่บางทีพี่แม่งโคตรอยากทำให้หนูเป็นของพี่จริงๆ” โฮกกกกกพี่ขาาาา  คืนนี้ยังทันนะ!!
                 

    “นะ ไหนพี่บอกจะรอเวลาไงคะ”ความเป็นกุลสตรีของฉันโผล่มากระทืบสัญชาติญานดิบที่โผล่หางออกมาแทน ใบหน้าฉันร้อนวูบวาบไปหมด..ทำให้ฉันเป็นของเขางั้นหรอ  โอ้ยยย
              

    “ซอลขา พี่ขอโทษที่คิดชั่วนะคะ” 


    ฉันต่างหากที่หลงเขาหัวปักหัวปำ  ทั้งๆที่เขาหล่อวัวตายควายล้มหล่อจนชะนีมดลูกสั่นพั่บๆแต่เขาก็ยังกลัวฉันทิ้งงง  โง้ยยย สวยยเลยพี่มิณณณณทร์   พี่ทำให้น้องรู้สึกสวยมากกกกกกกอ่ะ 
              

    “ซอลไม่ยกโทษให้จะได้มั้ยคะ” ฉันตัดสินใจทำโทษในความตั้ลล๊าคคของเขาซะหน่อย  ฉันกอดอกแล้วแกล้งทำหน้าบึ้งใส่เขาทั้งที่ไม่คิดจะงอนเขาจริงๆ  ก็ถ้าพี่จะตั๊ลล๊าคขนาดนี้น้องจะโกรธพี่ลงได้ยังไงล่ะ
              

    “พี่ผิดไปแล้วที่คิดหื่น พี่ขอโทษนะคะ” พี่มิณทร์ปากจู๋ขอโทษฉันด้วยสีหน้าจ๋อยๆ  ฮรืออ น่ารักขนาดนี้ฉันแกล้งเขากลับยังไงดีนะ 
              

    “ไม่ค่ะ”
              

    “แล้วพี่ต้องทำไงให้หนูหายโกรธพี่คะ” ฉันกลั้นขำเมื่อเห็นพี่มิณทร์ทำหน้าโคตรจ๋อยเหมือนคนสำนึกผิดจริงๆ  จ๋อยด้วยเหตุผลน่ารักขนาดนี้.. ฉันจะ  “ขย้ำ” เขาแบบไหนให้สาแก่ใจดีน้าา  
              

    จ๊วบบบบ!! 


    ฉันโน้มคอพี่มิณทร์ลงมาแกล้งทำรอยคิสมาร์คที่ลำคอขาวๆของเขาเสียงดังจนลำคอขาวเนียนของพี่มิณทร์ค่อยๆขึ้นรอยแดงจ้ำๆ  งุ้ยย ฉันผละออกมามองผลงานตัวเองยิ้มๆ  แหมม ไม่เสียแรงที่โดนพี่มิณทร์ติวเข้มเมื่อคืน อิอิ แดงเถือกอวดสายตาสาวๆขนาดนี้  กุญแจซอลสอบผ่านนนนนค่ะ
              

    “หนูคิดจะทำอะไรคะ??”  


    พี่มิณทร์กระพริบตามองฉันอย่างงงๆพร้อมกับคลำคอตัวเองป้อยๆ  ก็แหมม ถ้าพี่จะหล่อคุกคามหัวใจสาวๆขนาดนี้  มันก็ต้องมีอะไรการันตีแสดงความเป็นเจ้าของที่แท้ทรูเหมือนกันใช่มั้ยล่าา
              

    “ซอลก็อยากทำให้พี่เป็นของซอลโคตรๆเหมือนกันค่ะ” พี่มิณทร์กระพริบตามองฉันก่อนจะเงยหน้าหัวเราะเสียงดังแล้วกัดริมฝีปากมองฉันอย่างหมั่นเขี้ยว 
              

    “แค่รอยเดียวกันสาวๆออกจากพี่ไม่ได้หรอกนะคะ” 
              

    โอ้ยยยยยยยยยย เคยยอมกันที่ไหนล่ะ! พี่มิณทร์โน้มใบหน้าหล่อเหลาลงมาขยิบตาให้ฉัน  งื้ออออ รอยเดียวไม่พอใช่มะ  เดี๋ยวน้องจะฟัดพี่ให้คอแดงเถือกจนเดินออกจากคอนโดไม่ได้เลย  คนอย่างกุญแจซอลห้ามท้าค่ะ!
              

    “ชักช้าจังเลยค่ะ” 


    และระหว่างที่ฉันกำลังกัดริมฝีปากอย่างหมั่นเขี้ยวเขาอยู่นั้นพี่มิณทร์ก็ก้มตัวอุ้มฉันเดินออกจากห้องครัวมุ่งตรงสู่ห้องนอนอีกครั้งเรียบร้อยแล้ว คือ..เราจะใช้ชีวิตกันแต่ในห้องนอนอย่างเดียวไม่ได้นะคะ
              

    “พี่มิณณณณทร์  เราเพิ่งกินข้าวเสร็จกันเองนะคะ”
              

    “ก็พี่กำลังชวนหนูย่อยไงคะ”  โฮกกกกกกกกก ย่อยบ้าอะไรล่ะ! เขากำลังจะทำให้ฉันสำลักมวลความสุขอีกระลอกแล้ว  ฉันหลับตาปี๋เมื่อพี่มิณทร์วางฉันลงกับเตียงนอนแล้วทาบทับตัวเขาลงมาอีกครั้ง
              

    “รอยคิสมาร์คสิวๆแค่นี้ กันสาวๆออกจากพี่ไม่ได้หรอกค่ะ” พี่มิณทร์ยิ้มล้อฉันอีกครั้งก่อนจะเอามือเกาๆรอยสีแดงที่คอด้วยสีหน้ากวนๆ โห..ช่างกวนได้น่าฟัด น่าจับมาทำสามีย์สุดอ่ะ! 
              

    “งั้นซอลขอฝากรอยคิสมาร์คไว้กับพี่มิณทร์ทั่วทั้งตัวมั่งจะได้มั้ยคะ”
              

    “ด้วยความยินดีเลยค่ะ” พี่มิณทร์จับฉันไปนอนทับอยู่บนตัวเขาแทน โฮกกกกก สภาพหมิ่นแหม่แบบนี้แถวบ้านน้องเรียกว่าพี่สมยอมแล้วนะ! ฉันมองสบตาพี่มิณทร์ที่แตะรอยยิ้มให้ฉันด้วยแววตาหวานฉ่ำ..  ฉันเคยสงสัยหลายครั้งว่าความรู้สึกดึ่มด่ำและอิ่มเอมในรสรักมันจะหวานล้ำอย่างไร  มันจะทำให้คนๆนึงสุขล้นจนเป็นบ้าแค่ไหน? ตอนนี้คำตอบของคำถามเหล่านั้นมันช่างง่ายดายเหลือเกิน  
              

    พี่มิณทร์คือคำตอบของคำถามทั้งหมดเหล่านั้น..

     


    (LOADING 100%)



    *****
     

    อ่านไปยิ้มไป
    ยิ้มคนเดียวอวดสายตาชาวโลกไปรึยังคะคนอ่าน 555+
    เค้านั่งรีไรท์ให้ก่อนอัพลงเว็บยิ้มแก้มแตกไปเรียบร้อยแล้ว 
    ทำไมรู้สึกตัวเองเป็นซอล ทำไมรู้สึกไม่อยากให้พี่มิณทร์ไปจริงๆ งุ้ยย >.<
    ใกล้จะเดินทางมาถึงครึ่งเรื่องแล้ววจร้าาา

    หายเฮดไปหลายวัน ขออภัยเบอร์แรงค่ะเค้าโดนแอมสิง
    เค้าเขียนเรื่อง ไมยราพ อยู่ด้วยเลยกลับมาเป็นมิณทร์ไม่ได้ 555
    เดี๋ยวจะอัพแอมให้ด้วยนะ เขียนติดลมไปหน่อยยาวเลย 
    เอ้ออ ถ้าอัพมิณทร์ไปแล้วโดนแบนเมื่อไหร่เจอกันในกลุ่มลับนะคะ
    โอ้ยย ความเสียวที่แท้ทรู 555+

     


    ❤❤❤

    ขอชี้แจงเกี่ยวกับโทนเรื่องนี้นะคะ
    เป็นที่กังขาอยู่ว่า ถ้าอัพไปเรื่อยๆจะโดนแบนมั้ย 
    แต่ไม่เป็นไรเราสู้วววว 555+
    หลังจากที่เถียงกับตัวเองมานานว่าจะเปลี่ยนพล็อตดีมั้ย 
    แต่ก็ตกลงว่าไม่เปลี่ยนเพราะพล็อตที่ตั้งใจไว้มันต้องเป็นแบบนี้จริงๆ
    ไม่อยากตัด ไม่อยากบิดพล็อตใดๆทั้งสิ้น
    เราจะถ่ายทอดทุกเรื่องราวของมิณทร์กับซอลไปอย่างที่เราต้องการจะสื่อ
    เพราะงั้นเค้าสำรองกลุ่มลับไว้แล้ว
    ถ้ามี NC แบบที่อยู่ได้เฉพาะในเล่มเมื่อใด  เค้าจะอัพให้แล้วแปะลิ้งกลุ่มในเพจนะคะ

     

    สวัสดีปีใหม่ค่ะ^^

    รักนิยายเรื่องนี้ เม้นต์มาคุยกันบ้างน้าา
    ขอบคุณค่ะ
     

    ..


     


     


    รักส์ 


    ขอให้อ่านอย่างมีความสุขค่ะ
    ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ

     


     


     


     

     

     

     



     

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×