NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BaBY_LoVe : แรกรักเธอ

    ลำดับตอนที่ #14 : เกียร์ของมิณทร์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.72K
      76
      4 มิ.ย. 66

    “ซอล..หนูคือเกียร์ของพี่นะคะ” 
    MIN SAID

     

    EP 14 : เกียร์ของมิณทร์ 
    SOL’S TALK                 



    “แล้วไงคะซอลก็แค่รักพี่..” ฉันน้ำตาซึมขณะที่พี่มิณทร์ดูอึ้งไปนิดหน่อย พี่มิณทร์ถอนหายใจน้อยๆก่อนจะขยับตัวเข้ามาใกล้ๆแล้วลูบหัวฉัน
              

    “ทำไมหนูถึงดื้อจังคะ”
              

    “เราคบกันไม่ได้หรอคะพี่มิณทร์?  ซอลต้องทำยังไงถึงจะได้หัวใจพี่คะ” ฉันเริ่มสะอื้นหนัก ฉันขอเขาคบกันเป็นรอบที่ล้านแล้วมั้ง แต่พี่มิณทร์ก็ยังปฏิเสธฉันอยู่ดี  มันเหมือนความหวังที่ริบหรี่แต่ฉันก็ยังหวัง.. 
              

    “พี่มันเป็นแค่วิศวะโยธาต๊อกต๋อยนะคะ”
              

    “ซอลไม่เข้าใจเหตุผลที่พี่ใช้ปฏิเสธซอลซักอย่างเลยค่ะ ไม่รักกันก็บอกกันตรงๆสิคะแล้วก็เลิกให้ความหวังซอลสักที  แค่นี้ซอลก็รักพี่จะแย่อยู่แล้ว” ยิ่งฉันพูดเสียงฉันยิ่งสั่นในขณะที่น้ำตาเข้ากรรมไหลลงมาประจานความอ่อนแอของฉันต่อหน้าพี่มิณทร์ เพราะไม่ว่าฉันจะพยายามพูดยังไงคำตอบของพี่มิณทร์ก็คือปฏิเสธฉัน..
              

    “นี่หนูคิดว่าพี่ไม่รู้สึกอะไรกับหนูเลยหรอคะ?” พี่มิณทร์เอื้อมมือมากุมมือฉัน “ซอลฟังที่พี่พูดนะคะ ทุกอย่างที่พี่ทำเพราะพี่เป็นห่วงหนู  พี่ไม่อยากให้หนูมาเหนื่อยไปกับพี่  รักทางไกลมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ” 


    จะอีกกี่หมื่นเหตุผลเขาก็ยังยกขึ้นมาปฏิเสธฉัน  ฉันพยายามดึงมือกลับในขณะที่เรียวคิ้วสวยของพี่มิณทร์นิ่วเข้าหาอย่างหงุดหงิด  การได้มาซึ่งหัวใจของพี่มิณทร์คงเป็นสิ่งที่ยากที่สุดในโลกเลยละมั้ง
               

    “ไม่ว่าซอลจะทำยังไงพี่มิณทร์ก็ไม่เคยรักซอลเลยนี่คะ ซอลก็ได้แต่หวังลมๆ แล้งๆไปวันๆความรักของพี่มิณทร์แจกจ่ายให้ผู้หญิงไปทั่วยกเว้นซอล.. และซอลก็เป็นคนสุดท้ายที่พี่จะรัก” ฉันประชดพี่มิณทร์กลับก่อนจะหันหน้าหนีเพราะรั้งน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว ฉันปวดไปหมดทั้งใจ ฉันสมเพศตัวเองที่เฝ้าตื้อคนที่ไม่เคยรักฉัน  
            

    “นี่พี่เริ่มโกรธหนูจริงๆแล้วนะคะ..” 


    พี่มิณทร์คำรามก่อนจะมองฉันอย่างน่ากลัว เขาคว้าต้นแขนฉันบังคับให้หันกลับไปหาเขา หึ.. คิดว่าโกรธเป็นคนเดียวรึไงล่ะ
              

    “พี่มิณทร์ ซอลเจ็บนะ! คราวนี้แหล่ะซอลจะหนีพี่มิณทร์ไปให้ไกลๆ ซอลจะไม่ให้พี่มิณทร์เจอซอลอีก ซอลจะไปรักคนอื่น  ซอลจะ.. อื้ออออ” ฉันหลับตารับสัมผัสรุนแรง ที่จู่ๆก็โถมมาปิดปากฉัน  แรงบดขยี้หนักๆจากริมฝีปากร้อนผ่าวของพี่มิณทร์กำลังขยี้ฉันอยู่!  พี่มิณทร์กระชากฉันไปจูบอย่างก้าวร้าวรุนแรง ท่อนแขนทั้งสองข้างรัดเอวฉันแน่นพอๆกับริมฝีปากดุเดือดที่คลุกเคล้าดูดดึงเรียวปากฉันหนักๆ
              

    “อื้อออออ” 


    ฉันพยายามต่อต้านพี่มิณทร์โดยการทุบที่แผ่นอกเขาหนักๆ  แต่ยิ่งฉันทำเขายิ่งบดเบียดรอยจูบฟอนเฟ้นที่ริมฝีปากฉันหนักขึ้นกว่าเดิม  ริมฝีปากเขาตะโบมจูบฉันอย่างดุเดือดจนฉันแทบไม่มีอากาศหายใจ  สุดท้ายฉันก็สูดเอาลมหายใจพี่มิณทร์เข้าไปจนหูอื้อตาลายไปหมด  สมองฉันขาวโพลน.. ฉันเพิ่งเคยโดนจูบรุนแรงเป็นพายุแบบนี้ครั้งแรก!
            

    “ถ้าเป็นแฟนพี่หนูต้องทนรับรอยจูบแบบนี้ไปชั่วชีวิตนะคะ” พี่มิณทร์พูดชิดติดเรียวปากฉัน นอกจากกระแสโกรธที่ปะปนมากับน้ำเสียงนั้นฉันยังสัมผัสได้ถึงอารมณ์หวามไหวที่ปะปนมากับลมหายใจ  เขาเหมือนโกรธ.. แต่ขณะที่เดียวกันก็เหมือนอยาก จะขย้ำฉัน
              

    “พะ พี่มิณทร์รังแกซอลอีกแล้วนะ!”
              

    “พี่จะทำมากกว่านี้อีกค่ะถ้าหนูเป็นแฟนพี่  พี่ไม่ใช่คนดี ไม่ใช่พระเอกในนิยายที่จะเป็นสุภาพบุรุษทนความต้องการของตัวเองได้  ถ้าไม่รู้ก็รู้ไว้ซะนะคะ” 


    พี่มิณทร์กดริมฝีปากบดเบียดลงมาอีกครั้ง ทั้งระบบความคิดและระบบสั่งการของฉันนั้นตอนนี้มันพล่าเบลอไปหมด  ฉันทำได้แต่จิกอกเสื้อช็อปของพี่มิณทร์ไว้แน่น  และจากสัมผัสบดเบียดที่รุนแรงมันกลับค่อยๆคลายความหวานขึ้นมาเรื่อยๆ  ฉันรู้สึกได้ถึงเสียงหัวใจของพี่มิณทร์ที่เต้นแรงจากการทาบทับฝ่ามืออยู่บนแผ่นอกกว้างของเขา
              

    “ซอลเคยบอกพี่แล้ว  ว่าถึงพี่จะเลวกว่านี้ซอลก็รัก” คำตอบจากก้นบึ้งหัวใจของฉันประมวลออกมาโดยไม่ต้องใช้เวลาคิดสักนิด  ฉันรักพี่มิณทร์.. และก็รักมากด้วย  สมองฉันรับรู้แค่นั้น
              

    “หนูพูดแบบนี้มันไม่ดีต่อการยับยั้งชั่งใจของพี่เลยนะคะ” 


    พี่มิณทร์ยังคงคลอเคลียกดจูบซับกลีบริมฝีปากฉันขณะที่ท่อนแขนแข็งแรงของเขานั้นก็รั้งตัวฉันลอยข้ามเบาะมาแปะอยู่บนตักเขาอย่างรู้งาน  โอยย อุณหภูมิในรถตอนนี้ร้อนมาก!!
              

    “เป็นแฟนพี่ต้องมีเรื่องแบบนี้หนูทำใจไว้แล้วใช่มั้ยคะ?” 


    พี่มิณทร์กดจูบเรียวปากฉันไม่หยุดก่อนจะใช้มือปัดเส้นผมที่ตกลงมาปรกหน้าให้ฉัน  ถ้าเขาหมายถึงความสัม พันธ์ระหว่างชายหญิงอันนั้นฉันรู้มาก่อนอยู่แล้ว ฉันเขินจนหน้าแดงเพราะรู้ว่าเขากำลัง พูดถึงความสัมพันธ์ทางกายโอยย แล้วฉันจะรอดจากสภาวะวาบหวามแบบนี้ไหมฉันยังไม่รู้เลย  ฉันหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อพี่มิณทร์ยกตัวฉันข้ามมาแปะอยู่บนตัก

     

    "หัวใจฉันเต้นผิดจังหวะจนจะกลับบ้านไม่ถูก"
    SOL SAID
     

     

    “ถ้าหนูไม่ห้ามพี่ แสดงว่าหนูยอมให้พี่ทำแบบนี้กับหนูนะคะ” แววตาที่พี่มิณทร์มองฉันหวานเชื่อมเหมือนกับค่ำคืนแห่งความฝันคืนนั้นไม่มีผิด พี่มิณทร์แตะรอยยิ้มก่อนจะระดมจูบซับไปตามใบหน้าของฉัน
             

    “รับปากเป็นแฟนพี่แล้ว.. ห้ามมีคนอื่นตลอดชีวิตนะคะ”  


    พี่มิณทร์กดริมฝีปากจุมพิตกึ่งกลางหน้าผากฉัน สัมผัสแผ่วๆที่ค่อยๆลงน้ำหนักอย่างอ่อนโยนนั้นทำให้ฉันใจสั่นและวาบหวิวไปหมดทั้งตัว  ก่อนที่คำพูดต่อมาของพี่มิณทร์จะละลายหัวใจฉัน
              

    “พี่รักหนูนะคะ” พี่มิณทร์ถูปลายจมูกเขาเบาๆกับปลายจมูกฉัน “รักมานานแล้วด้วยค่ะ” และมันก็ยิ่งกว่าความฝันเพราะพี่มิณทร์ตอกย้ำคำพูดเขาด้วยจุมพิตหวานๆที่ทาบทับริมฝีปากฉันอีกรอบ  ตอนนี้ระบบสมองและประสาทสั่งงานทั้งหมดของฉันมันพังไปหมด  มะ เมื่อกี้เขาพูดว่าไงนะ?? 
              

    “พะ พี่มิณทร์พูดว่าไงนะคะ” 


    ฉันพยายามดันอกพี่มิณทร์ออกเพื่อที่จะฟังเขาพูดอีกครั้ง 


    “พี่มิณณณทร์ พี่หยุดจูบซอลก่อนสิคะ!!” โอ้ยยย นี่มันเรื่องสำคัญระดับ ชาติเลยนะหยุดจูบกันก่อนนนนนน  สาบานว่าเมื่อกี้ฉันได้ยินว่าพี่มิณทร์บอกรักฉัน!  
              

    “พี่บอกว่า พี่รักหนูซอลมานานแล้วค่ะ” พี่มิณทร์ยอมผละริมฝีปากออกแล้วพูดซ้ำอีกครั้ง ตกลงฉันไม่ได้ฝัน.. พี่มิณทร์บอกรักฉันจริงๆ  ฉันอ้าปากพะงาบๆจนพี่มิณทร์หัวเราะขำ  
              

    “ซอลคะ..พี่กำลังขอหนูเป็นแฟน  ถ้าไม่รังเกียจช่วยลดตัวมาเป็นแฟนพี่หน่อยนะคะ” 


    ขณะที่ฉันกำลังตกตะลึงพรึงเพลิดพี่มิณทร์ก็ยื่นหน้ามาจุมพิตที่กลางหน้าผากฉัน  คำบอกรักที่ฉันอยากฟังเฉลยมาพร้อมกับทุกคำถามที่ติดค้างอยู่ในใจ ฉันล่องลอยไปกับท่อนแขนที่แข็งแรง.. ริมฝีปากที่อ่อนนุ่ม  ดวงตาที่แสนอบอุ่นที่สุดท้ายก็สะท้อนแต่ภาพของฉัน
              

    “เป็นแฟนกับซอลแล้วพี่ก็ห้ามเจ้าชู้อีกนะคะ”
              

    “พี่เลิกเจ้าชู้มานานแล้วไม่รู้หรอคะ” พี่มิณทร์แกล้งถูจมูกกับปลายจมูกฉัน“พี่น่ะถอดเขี้ยวเล็บหมดแล้วค่ะ เผื่อหนูไม่รู้”
              

    “โหยยย พญาเสือโคร่งอย่างพี่น่ะหรอคะ?” ฉันหดคอเบะปากอัตโนมัติ 
              

    “พี่ก็แค่อดีตเสือแต่ตอนนี้กลายเป็นแมว เมี้ยวว เมี้ยวววไปแล้วล่ะคะ” พี่มิณทร์หรี่ตาแล้วโฉบเข้ามาหอมแก้มฉันหนักๆ โอ้ยย แมวมากค่ะ!! ถามคำก็จูบคำ ตอนนี้ทั้งปากทั้งแก้มฉันแดงช้ำเพราะฝีมือพี่มิณทร์ไปหมดแล้ว  นี่แมวประเทศไหนคะ?
               

    “ตกลงเราเป็นแฟนกันแล้วใช่มั้ยคะ” 


    มันอาจดูตลกที่ฉันยังเฝ้าถามพี่มิณทร์อีกครั้ง ก ก็ฉันกลัวอ่ะ.. เพราะที่ผ่านมาพี่มิณทร์ชอบแหย่ฉันเล่นอยู่เรื่อย ฉันถึงยังอยากถามให้แน่ใจอีกครั้ง
              

    “ซอล..หนูคือเกียร์ของพี่นะคะ” พี่มิณทร์จับมือฉันทาบทับที่หัวใจเขา นอกจากฝ่ามือฉันจะร้อนผ่าวไปตามเสียงจังหวะหัวใจเต้นของพี่มิณทร์แล้ว  ‘เกียร์’ ที่ว่ามันมีความหมายยังไงกันนะ?  ‘เกียร์’ ที่พวกเด็กวิศวะพูดถึงกันประจำจริงๆแล้วมันมีความ หมายยังไงกันแน่ ฉันเงยหน้าสบตากับพี่มิณทร์แววตาเต็มไปด้วยคำถาม
              

    “ซอลไม่เข้าใจค่ะ”
              

    “เกียร์.. เป็นสัญลักษณ์ของคณะวิศวะ” พี่มิณทร์ยิ้มกว้างให้ฉัน “หนูเคยได้ยินที่เขาพูดกันมั้ยคะว่าเกียร์อยู่ที่ใจ ใจอยู่ที่เกียร์..ฝากเกียร์ไว้กับใคร..ฝากใจไว้กับคนนั้น” แต่ก่อนฉันนึกว่าเกียร์เป็นแค่โลโก้ของคณะวิศวะ จนฉันเพิ่งมาเข้าใจความหมายของเกียร์ในวันนี้  พี่มิณทร์จับมือฉันไปวางตรงโลโก้รูปเกียร์ที่ปักอยู่บนแผ่นอกเสื้อช็อปด้านซ้ายซึ่งตรงกับตำแหน่งหัวใจ  ฉันสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและเสียงหัวใจของพี่มิณทร์ที่เต้นดัง  
              

    “ฝากเกียร์ไว้กับใคร..ฝากใจไว้กับคนนั้น” พี่มิณทร์พูดย้ำอีกครั้ง ฉันค่อยๆใช้ปลายนิ้วลากสัมผัสไปตามโลโก้รูปเกียร์และทาบวนอยู่ตรงชื่อคณะอย่างแผ่วเบา  
              

    “ซอลเป็นเกียร์ของพี่มิณทร์หรอคะ?” 
              

    “หนูเป็นเกียร์ของพี่ค่ะ” 


    ฉันได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นตึกตัก  พี่มิณทร์บอกว่าฝากเกียร์ไว้กับใครฝากใจไว้กับคนนั้น  นั่นหมายความว่าเขาฝากใจไว้กับฉันงั้นหรอ?  ฉันรู้สึกร้อนวูบวาบในอกราวกับหัวใจมันพองโตจนจะระเบิดออกมา  ฉันช้อนสายตาเงยหน้าขึ้นมาสบตากับพี่มิณทร์   
              


    “ถ้าฝากใจไว้กับซอล ซอลไม่คืนให้นะคะ”

     

    “หนูเป็นสะใภ้วิศวะรึเปล่าล่ะคะ? 
    MIN SAID


    “พี่อนุญาตให้ยึดไปเลยค่ะ” พี่มิณทร์กดปลายจมูกโด่งรั้นหอมแก้มฉัน  ถ้าให้ฉันยึดฉันไม่คืนตลอดชีวิตเลยนะ และฉันก็จะอุ๊บอิ๊บว่าหัวใจของเขาเป็นของฉันเตามนั้นด้วย!  ถึงมาอ้อนวอนขอคืนยังไงฉันก็ไม่คืนเด็ดขาดนะ
              

    “ซอลรักพี่มิณทร์นะคะ”
              

    “ขอโทษนะคะที่ให้หนูรอมาตั้งน๊านนานน แต่ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวพี่ชดเชยให้หนูค่ะ” สายตาที่พี่มิณทร์มองฉันวิบวับจนฉันขนลุก  เขาขยับอ้อมกอดกอดฉันแน่นขึ้น  ตัวของเราตอนนี้ไม่มีส่วนไหนที่ไม่สัมผัสกัน 
             

     “มะ ไม่ต้องชดเชยให้ซอลก็ได้ค่ะ!” 
              

    “ไม่ได้สิคะบรรยากาศเป็นใจออกขนาดนี้แล้ว ทำใจให้พี่ ‘ฟัด’ซะโดยดีค่ะ” ฉันตาเหลือกรู้สึกเหมือนกำลังจะโดนขย้ำ ฟะ ฟัดด?  โอ้ยย ไม่นะ ม่ายยยย 
             

     “มะไม่ฟัดได้มั้ยคะ?” ฉันต่อรองกับพี่มิณทร์เสียงสั่นแต่เขากลับหัวเราะใส่ฉันอย่างร่าเริง  ไอ้คำว่า‘ฟัด’ของพี่มิณทร์นี่ขอบเขตุมันอยู่แค่ไหนอ่ะ??
               

    “เป็นคำขอที่พี่ให้ไม่ได้ค่ะ” พี่มิณทร์มองฉันแล้วพยายามกลั้นยิ้ม  ฉันจิกปลายเล็บเข้ากับอกเสื้อพี่มิณทร์ ฮืออออ  ไม่เอา ไม่เอาฟัดดดนะ  
               

    “ตะ แต่เราจูบกันไปหลายรอบแล้วนะคะ!!” 
              

    “งั้นพี่ขออีกจูบนึงยาวๆก็แล้วกันค่ะ” สุดท้ายพี่มิณทร์ก็ยอมกับการต่อรองของฉัน อีกจูบนึงยาวๆแล้วมันยาวแค่ไหนอ่ะ??  ขนาดเขาจูบฉันสั้นๆฉันยังแทบหัวหมุนข้ามวันข้ามคืนไปเลย ไอ้จูบยาวๆของพี่มิณทร์นี่มันนานแค่ไหนกันนะ?
              

    “ยะ ยาวแค่ไหนคะ?”
              

    “โหยยย หนูนี่.ต่อรองพี่เป็นต่อราคาผักสดที่ตลาดเลยนะคะ ยาวแค่ไหนขึ้นอยู่กับความดื้อของหนูค่ะเพราะถ้าหนูไม่ดื้อมากพี่จะพยายามห้ามใจตัวเองให้มันจบเร็วๆแต่ถ้าหนูดื้อเยอะพี่ก็จะสนุกสนานกับการปล้ำหนูค่ะ”
             

     “โอ้ยยย  ซอลไม่เอาแบบนั้นนะพี่มิณณณทร์!!!!!”
              

    “พี่รับรองว่าจูบพี่หวานยิ่งกว่าโรงงานน้ำตาลที่กาญจนบุรีอีกค่ะ เพราะงั้นขออีกจูบนึงนะคะ..นะ..น้าา” พี่มิณทร์อ้อนถูปลายจมูกเขากับปลายจมูกฉัน  ความจริงฉันยอมตั้งแต่เขาเอ่ยปากขอแล้วล่ะแต่ก็นะไว้เกียรติสุภาพสตรีนิสนึงง  ที่สำคัญเขาไม่ต้องรุกฉันหนักขนาดนั้นก็ได้ ทั้งๆที่เขินพี่มิณทร์แทบตายแต่สุดท้ายฉันก็ยอมหลับตาเงยหน้าให้เขาจูบ   
              

    “ถ้าไม่หวานพอหนูกระซิบบอกพี่นะคะ..” 


    พี่มิณทร์กระซิบข้างหูฉันก่อนจะค่อยๆแตะริมฝีปากเคล้าคลึงความหวานจากโพรงปากอ่อนนุ่มของฉันซ้ำแล้วซ้ำอีกวนไปเวียนมาไม่รู้จบ  ฉันว่าเรียวปากของพี่มิณทร์ทั้งหวาน..ทั้งเร่าร้อนไปในคราวเดียวกัน
              

    ท่ามกลางความรักที่หอมหวาน ยั่วเย้า คุกรุ่น..และอารมณ์ที่เตลิดเปิดเปิงนั้น ฉันปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับสัมผัสและรสชาติของความรักที่มันสุขล้นเต็มหัวใจ  เนิ่นนานมาแล้วที่ฉันเป็นได้แค่เงาและรักเขาได้เพียงในใจ  ฉันขยับริมฝีปากจูบตอบพี่มิณทร์อย่างเผลอไผลเพราะแต่นี้ต่อไปฉันไม่ต้องแอบรักเขาแค่ในใจอีกต่อไปแล้ว
              


    พี่มิณทร์ตอบรับรักฉัน..


     

    (LOADING 100%)

     



    พี่มิณทร์นี่สายปล้ำแท้
    ระวังพี่ชายสุดหล่อของซอลสอยเอาเน้อ -..-
    เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดก็คราวนี้ล่ะ
    ว้ายยย

     

    Related image
     

     


    หวานกันขนาดนี้ ไม่ต้องคืนหรอกค่าาาาา
    ยึดแล้วรวบหัวรวบหางกันไปเล้ยยย
    ชอบความมิ้งของคู่นี้ <3
     

    ****
     

    ขอให้อ่านอย่างมีความสุขค่ะ
    ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×