ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ✖ (exo) SF #พลอตชั่ววูบ | CHANKAI / SEKAI / Allcouple

    ลำดับตอนที่ #7 : (OS) #พลอตชั่ววูบ 02 | [period series] Season 1 : No Title 04 (sekai)

    • อัปเดตล่าสุด 9 มิ.ย. 58





    (os) [period series] notitle04 | (sekai)

    pairing : sehun x jongin

    rate : PG-15

    NOTE ::  มันไม่ใช่เรื่องยาวนะ.. แต่มันเป็นพีเรียดซีรีย์มาเป็นฉากๆเท่านั้นเองง อ่านเอาขำขำนะคะ

    ปล. เราชอบเพลงมากจริงจริง เปิดฟังไปด้วยอ่านไปด้วยนะคะ
    ปล.2 สำนวนมันนะ... 


     

    SONG : JAY CHOU - BLUE AND WHTIE PORCELIAN (EHRU COVER)

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    หลายคนเฝ้าตั้งคำถาม เฝ้าคนหา ความสุขนั้นคือสิ่งใด..

     

     

     

     

     

    อาการป่วยของคิมจงอินดีขึ้นมากแล้ว ทว่าองค์ชายห้าก็ยังมิยินยอมให้คนสนิทกลับวังหลวงพร้อมตนแต่อย่างใด อ้างเหตุอ้างผลสารพัดเสียจนคนเจ็บอ่อนอกอ่อนใจจะโต้แย้ง

     

    กระหม่อมหายดีแล้ว เสด็จกลับวังเถอะองค์ชาย

     

    ยัง เจ้ายังตัวรุมๆช่วงยามสอง เรากกเรากอดเจ้าทุกคืนเหตุใดจะไม่รู้

     

    ริ้วไอร้อนไล่ระขึ้นตามใบหน้ายามที่ชายสูงศักดิ์ผู้นั้นเอ่ยถ้อยคำน่าอับอายออกมาได้อย่างหน้าตาเฉย ถ้าหากเขาเป็นเพียงคนธรรมดาจงอินไม่รีรอที่จะสั่งสอนเขาเลยแม้แต่น้อย แต่เขาเป็นถึงองค์ชายคนสำคัญของแผ่นดินจะทำไปอะไรเขาได้กันเล่า

     

    กระหม่อมเหนื่อยกับพระองค์เหลือเกิน

     

    เหนื่อยเจ้าก็พักเสียเถิด เราจะรอจนเจ้าหายดี แล้วกลับวังพร้อมกัน

     

    ถือเป็นรับสั่งที่หนักแน่น และจริงจังเสียจนจงอินจนปัญญาจะเอ่ยสิ่งใดต่อเขาอีก จำใจเอนกายลงนอนบนตั่งเตียงที่ยิ่งนับวันเขายิ่งใช้เวลานอนบนนี้มากเสียเหลือเกิน

     

    เพราะมีพระบัญชาให้องครักษ์ชองกลับไปยังวังหลวงเพื่อสั่งงานที่องค์ชายได้สะสางค้างไว้ ดังนั้นเรือนไม้แห่งนี้จึงเหลือเพียงแค่พวกเราสองคนเท่านั้น และแน่นอนว่าจงอินยังไม่รู้

     

     

     

    สายลมหอบเอาไอเย็นจากสระบัวใหญ่ที่อยู่ติดชานเรือนขึ้นมาปลุกคนที่กำลังหลับสบายให้รู้สึกตัวตื่น จงอินกวาดสายตาไปโดยรอบแล้วพบว่าห้องนี้มีเขาอยู่เพียงผู้เดียว สังเกตจากแสงด้านนอกก็พบว่ามันมืดพอสมควรแล้ว ตวัดมือปลดผ้าห่มที่องค์ชายคงเป็นคนห่มให้ เสียงกุกกักที่ดังมาจากส่วนครัวทำให้จงอินรีบก้าวไปดู แล้วก็ต้องตกใจส่งเสียงร้องเสียจนคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาเป่าเตาถ่านอยู่นั้นสะดุ้งเสียจนสุดตัว

     

    องค์ชาย!! ทรงทำสิ่งใด!!

     

    ก้าวเร็วๆ เข้าไปคว้าแขนชายสูงศักดิ์ผู้นั้นให้ลุกขึ้นยืน สองมือปัดป่ายไปตามพระพักตร์ที่เต็มไปด้วยคราบเขม่าควัน ฉลองพระองค์สีขาวที่ทิ้งไว้เปื้อนไปด้วยคราบสีดำสนิท

     

    จะ..เจ้า ตื่นแล้วหรอ

     

    เสด็จตามกระหม่อมมาเดี๋ยวนี้เลย

     

    อารามโมโห มิได้ทันคิดหรอกว่าถ้อยวาจานั้นออกคำสั่งสักเพียงใด แต่มันก็ทำให้องค์ชายเซฮุนแย้มยิ้มและยินยอมที่จะเดินตามคนที่กำลังโกรธจนลืมตัวจับไม้จับมือเขาก้าวฉับๆ อย่างไม่เกรงกลัวอาญาใดๆที่ล่วงเกินเชื้อพระวงศ์

     

    ประทับนี่ก่อน เดี๋ยวกระหม่อมมา

     

    เดี๋ยวสิ

     

    ยื่นพระหัตถ์คว้ามือคนที่กำลังรีบร้อนจะเดินหายลับเข้าไปด้านใน ออกแรงเพียงนิดคนที่ไม่คิดจะขืนตัวก็หล่นลงนั่งบนตัก สองพระกรออกแรงกระชับให้แผ่นหลังแนบพระอุระไว้  จับตัวเอียงไว้อีกฝ่ายหันเข้าหากันถึงได้เห็นชัดว่าคนของเขาหน้าตาบึ้งตึงเพียงใด

     

    ปล่อยพระองค์

     

    จะไปไหนกันเล่า

     

    ปล่อยกระหม่อมก่อนเถอะพะย่ะค่ะ องค์ชายเอ่ยทูลด้วยน้ำเสียงอ่อนลงมาเล็กน้อย หวังให้เจ้าของสองแขนที่รัดรอบเอวอยู่ผ่อนแรง แต่มีหรือเขาจะเชื่อฟังคำคนต่ำศักดิ์กว่า ชายสูงศักดิ์ผู้นี้มีแต่จะรัดเอวเขาให้แน่นขึ้นเสียอีก

     

    เจ้ายังไม่ตอบเราเลยว่าจะไปไหน

     

    พระองค์ก็มิยอมบอกกระหม่อมเช่นกัน ว่าตอนนี้มีเพียงแค่เรา

     

    คราวนี้คนมีชนักติดหลังเงียบเสียงไป นั่นยิ่งทำให้จงอินมั่นใจว่าที่เขาเห็นมันถูกต้อง ความกรุ่นโกรธแล่นริ้วขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ขยับกายออกห่างทอดมองชายสูงศักดิ์ด้วยแววตากรุ่นโกรธ เขาโกรธยิ่งนักที่องค์ชายกระทำเช่นนี้ ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่ามันมิสมควรและจงอินก็หลีกเลี่ยงมาตลอด

     

    จงอิน..เจ้า..โกรธเรางั้นหรือ

     

    กระหม่อมเป็นเพียงสามัญชน  มีหรือจะกล้าโกรธพระองค์

     

    องค์ชายห้าเงยหน้าจากลาดไหล่ที่พิงซบ สองพระกรจับตัวหันคนที่ตัดพ้อด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งมาหาสบตากัน ทรงรู้ดีว่าคนของตัวเองคิดมากและเป็นกังวลมากสักเท่าไหร่ และพระองค์ก็ไม่เหน็ดเหนื่อยที่จะอธิบายให้จงอินฟังเลยแม้สักครั้งเดียว

     

    ฟังเราหน่อยได้หรือไม่เล่า

     

    หากเป็นพระบัญชา กระหม่อมก็น้อมรับ

     

    องค์ชายห้าส่ายพระพักตร์ให้คนที่ยืนนิ่งสบตากันได้เห็น พระองค์ไม่ได้ต้องการความยินยอมที่เกิดจากคำสั่ง หากแต่ต้องการให้อีกคนฟังด้วยความยินยอมที่มาจากหัวใจ

     

    เรามิได้ต้องการความยินยอมจากการบังคับเจ้าเลยจงอิน

     

    ถ้าเช่นนั้น กระหม่อมก็ขอไม่ฟังได้หรือไม่องค์ชาย”  จงอินยังคงไม่ละสายตาไปจากราชนิกูลสูงศักดิ์ผู้นั้น เขาไม่ได้โกรธที่องค์ชายห้าทำอะไรต่อมิอะไรให้เขา ข้อนั้นเขาเข้าใจดี ที่เขาโกรธเพียงเพราะองค์ชายปิดบังกัน คิดว่าเขาไม่รู้หรือว่าองค์ชายจุดเตาถ่านนั่นไม่เป็น คิดว่าจงอินไม่รู้หรือว่าองค์ชายทำกับข้าวเองไม่เป็น

     

    ฟังพี่สักนิดเถอะนะคนดี พี่ไม่ได้มีเจตนาจะโกหกกันเลย

     

    น้ำเสียงอ้อนวอนกับถ้อยคำแสนหวานพาลพาให้ใจคนฟังสั่นสะท้าน จงอินไม่เคยใจแข็งกับองค์ชายเซฮุนได้เลยสักครั้งและยิ่งครั้งนี้เขาใช้คำพูดที่เราต่างก็ตกลงกันไว้ว่าจะพูดคุยกันในยามที่ไม่มีใครอยู่เท่านั้น

     

    องค์ชายเองก็ทอดพระเนตรคนที่นิ่งงันไปทว่าท่าทีของจงอินไม่ได้แข็งกร้าวแต่อย่างใด พระองค์รู้เหตุใดจงอินถึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเช่นนี้

     

    พี่แค่อยากดูแลเพียงเท่านั้น และรู้ดีอยู่แก่ใจว่าถ้าบอกเจ้าก็คงไม่ยินยอมให้พี่ทำเช่นนี้

     

    ถึงได้เลือกปิดบังกันเช่นนั้นหรือเขาช่างคาดเดายากยิ่งนัก เขาลืมไปแล้วหรือ ประสงค์สิ่งใดขอเพียงแค่เขาเอ่ยปากจงอินก็ยินยอมพร้อมจะทำอ่อนโยน

     

     

     

    ทิ้งยศถาบรรดาศักดิ์เหล่านั้น เอาไว้ที่วังหลวงเถอะนะจงอิน

     

     

    “....”

     

     

    ให้ที่แห่งนี้ มีแต่เซฮุนของเจ้าเพียงเท่านั้น

     

     

     

     

     

     

     

    ควันสีขาวลอยพุ่งออกจากถังน้ำใหญ่เป็นระลอก อากาศช่วงค่ำมืดที่เรือนไม้แห่งนี้เย็นยะเยือก ดังนั้นก่อนพลบค่ำจึงต้องรีบจุดไฟเตรียมน้ำอุ่นให้เพียบพร้อม แน่นอนว่าเวลานี้มีเพียงแค่เซฮุนและจงอินเท่านั้น คนป่วยที่อาการดีขึ้นมากแล้วชะโงกหน้าเข้าไปในครัวก่อนที่จะร่างโปร่งจะกลั้นขำเสียจนลาดไหล่สั่นกับภาพที่ปรากฏให้เห็น

     

    ใบหน้าท่านเลอะหมดแล้ว เซฮุน

     

    น้ำเสียงที่ดังขึ้นพร้อมกับร่างของจงอินที่ยองตัวลงนั่งข้างกันทำให้อดีตองค์ชายห้าที่สละตำแหน่งอย่างไม่เป็นทางการต้องหันไปมอง และเมื่อพบว่าคนของเขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก็อดที่จะขมวดคิ้วสงสัยไม่ได้

     

    ตลกอะไรงั้นรึ เจ้าหัวเราะข้าไม่หยุดหย่อนจงอินต้องรีบโบกมือปฏิเสธทั้งที่ยังคงกลั้นยิ้มอยู่เช่นนั้น มือข้างขวาก็ยกขึ้นจับเศษขี้เถ้าที่ติดอยู่ตามเรือนผมสีดำสนิท มือซ้ายก็ใช้ผ้าสีขาวที่ติดตัวไว้ตลอดเวลาเช็ดคราบเขม่าสีดำที่ริอาจหาญกล้าไปติดบนใบหน้าองค์ชาย

     

    น้ำใกล้ได้แล้ว เจ้าไปเปลี่ยนชุดรอเสียเถิด ข้าจะยกน้ำไปให้เจ้าเอง

     

    ท่านไปก่อนเถิด เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน ข้าจะยกไปเติมให้เอง

     

    แต่ว่าเจ้าพึ่งหายจากอาการป่วย จะไหวหรือ

     

    ข้าก็เป็นผู้ชายเซฮุน เจ้าไปเถิด

     

    แรงฉุดให้ลุกขึ้นยืนทั้งยังดันให้ออกจากห้องครัว ทำให้เซฮุนต้องก้าวขาออกไปอย่างจำยอม แม้จะนึกห่วงว่าคนป่วยจะมีเรี่ยวแรงหิ้วน้ำหรือไม่ก็ตามที แต่เขาก็เข้าใจว่าจงอินคงอยากดูแลเขาด้วยเช่นกัน

     

    เขาใช้เวลาครู่หนึ่งผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าจนเหลือเพียงแค่ชุดคลุมก่อนจะลงแช่ในอ่างน้ำอุ่น ครั้งพอเดินออกมาจากหลังม่านที่กั้นไว้ก็พบว่าจงอินกำลังยกน้ำถังใหญ่เข้ามาก็รีบรุดเข้าไปช่วย

     

    เรี่ยวแรงน้อยนิดเช่นนี้ ยังจะดื้อรั้นอีก น่าตียิ่งนัก”  เอ่ยดุอย่างไม่จริงจัง เมื่อช่วยอีกคนเทน้ำจนเสร็จ

     

    ท่านตีข้าลงคอเชียวหรือ”  ดูเอาเถิด ใครเขาให้ทำตัวน่ารักน่าชังเช่นนี้ เซฮุนอยากจะถามออกไปมากนัก เจ้าน่ารักเช่นนี้แล้วเขาจะอดใจไหวได้อย่างไรกัน

     

    แช่น้ำเถอะ ท่านเมื่อยล้าไปทั้งตัว ข้าจะนวดให้”  จงอินเอ่ยด้วยรอยยิ้ม เขาเห็นอีกฝ่ายวิ่งรอกทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ภายในเรือนโดยที่ไม่ปล่อยให้เขาได้ขยับตัวสักนิดก็นึกอยากดูแลกันบ้างแม้เพียงสักนิดก็ยังดี แต่ทว่าคนพี่กลับโลภต้องการมากกว่าสิ่งที่จงอินเสนอ

     

    แช่น้ำพร้อมกันได้หรือไม่เล่า นะคนดี นวดให้พี่ เจ้าก็นวดในน้ำก็ได้

     

    ออดอ้อนทั้งวาจาทั้งน้ำเสียงเสียจนจงอินนึกหมั่นเขี้ยวเขาเสียเหลือเกิน ใบหน้าเห่อร้อนไปหมดกับคำพูดเช่นนี้ และมีหรือที่ชายผู้นั้นจะปล่อยให้จงอินได้ปฏิเสธ นึกค่อนขอดอยู่ในใจกว่าเรื่องแบบนี้ช่างรวดเร็วยิ่งนัก

     

     

     

     

     

    อ่างไม้ถังใหญ่ดูจะเล็กไปถนัดตาเมื่อคนสองคนลงแช่มันพร้อมๆกัน ไออุ่นของน้ำคงทำหน้าที่ได้ไม่ดีเท่าแผ่นอกกว้าง และวงแขนที่สอดเข้ากระชับรอบเอวให้ร่างกายเราแนบชิดกัน ใครว่ากันว่าจงอินไม่ขัดเขิน เขาเขินอายเสียจนทำสิ่งใดไม่ถูกแล้วด้วยซ้ำ จะดิ้นรนก็ถูกกอดรัด เอ่ยขอให้ปล่อยก็ถูกปลายจมูกนั่นกดลงบนลาดไหล่

     

    ท่านไม่ปล่อย แล้วข้าจะนวดให้ท่านได้อย่างไรกัน

     

    ไม่ต้องนวดหรอก เพียงแค่กอดเจ้า ข้าก็หายเหนื่อยแล้ว

     

    ท่านนี่มัน…”

     

    คนเอาแต่ใจก็ยังคงเป็นคนเอาแต่ใจอยู่วันยังค่ำ เขาน่าจะเฉลียวใจสักนิดว่าที่ผ่านมาเซฮุนนั้นเป็นเช่นไร ไล่ต้อนหากำไรจากเขานั้นคือสิ่งที่ชายผู้นี้ถนัดนักล่ะ

     

    เจ้าหรือรู้เปล่าว่าความสุขคืออะไรจู่ๆ เสียงทุ้มก็เอ่ยถามขึ้นขณะที่สองมือยังคงวักน้ำรินรดไปตามลาดไล่ เขาทำเพียงแค่โอบกอดจงอินไว้เท่านั้น จงอินเองก็ไม่เข้าใจนักว่าชายผู้ละทิ้งตำแหน่งนั้นหมายถึงสิ่งใดจึงได้หันกลับไปมอง

     

    ความสุขน่ะ เจ้ารู้หรือเปล่าว่ามันคือสิ่งใด”  จงอินพยักหน้า เขารู้ว่าความสุขของตัวเองหมายถึงสิ่งใด

     

    แล้วท่านล่ะ รู้หรือเปล่าว่ามันคือสิ่งใด

     

    องค์ชายห้ามองคนที่เอ่ยถามเขาด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นคนของเขายิ้มเขาก็ยิ้มตาม เหตุใดกันเล่าเขาจะไม่รู้ว่าความสุขของตัวเองคือสิ่งใด ในเมื่อเขากำลังกกกอดเอาไว้ด้วยร่างกายและสองแขนนี้

     

     

    “...คิมจงอิน....

     

     

    มิใช่สิ่งยิ่งใหญ่ ทว่าทำให้หัวใจอบอุ่น เพียงแค่ได้เคียงข้างกันไปแบบนี้

     

     

     

    แล้วเจ้าล่ะจงอิน ความสุขของเจ้าคือสิ่งใด

     

     

    ได้ดูแล ได้แบ่งเบา ได้เห็นเขาอยู่ในสายตา แม้จะมีสิ่งใดมากั้นขวาง

     

     

     

    “...โอเซฮุน…”

     

     

     

    หลายคนมักเฝ้าไต่ถาม ตามหา ว่าความสุขนั้นคืออะไร อยู่แห่งหนใด จนลืมคิดไปเสียนิด บางครั้ง..ความสุขก็อยู่แค่เพียงปลายฝ่ามือ….

     

     

     

     

    #พลอตชั่ววูบ #ficnotitlesekai

    55555555555555555555555555555555555555555555555+ มันไม่ใช่เรื่องยาว แค่วูบมาเป็นตอนตอน สำนวนชวนหวานเลี่ยนมาก แต่อยากอ่านพีเรียดเก่าๆประมาณนี้ หาคนแต่งไม่ได้.. ก็นี่แหละ แต่งเลย..

     มีคนเม้นบอกว่า ทำไมไม่เอาลงไปแช่น้ำด้วย.. ไปแล้วนะคะ ไปแช่ด้วยกันแล้ว.. ต่อจากนั้นจินตนาการกันเอาเองได้เลยค่าาา

    *ปิดหน้าปิดตาวิ่งหนี*

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×