คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : อ่อนหัดเดอะซีรีย์ | SHORT MAN :: 01
หล่อมากมั้ง พระเอกน่ะ
เขาเคยถามตัวเองหลายครั้ง จะรู้ได้ยังไงว่าเราอยากได้คนนี้เป็นแฟนจริงๆ ไม่ใชแค่เห่อชั่วครั้งชั่วคราว และวันนี้แบคฮยอนก็ได้คำตอบออกมาแล้ว คือแม่งไม่มีทางรู้อะไรได้เลย ทุกอย่างมันอยู่ที่นี่ ตรงนี้!! ใจล้วนๆ ต้องอาศัยเวลาห่าเหวอะไรนั่น มันก็แค่ข้ออ้างของคนไม่มีความมั่นใจ แต่ขอโทษทีมันไม่ใช่กับพี่แบคฮยอนคนแมนคนนี้แน่ๆ
รักแม่ยังไม่ต้องใช้เวลา รักเมียก็เหมือนกันหล่ะน่าา
เขากลายเป็นคนตื่นเช้าก่อนที่ไอ้ชานยอลจะมาปลุกที่หอ เพื่อจะเดินมามหาวิทยาลัย วันแรกที่เขาเดินมาถึงคณะ ไอ้ชานยอลนี่ถึงกับหูกระดิกด้วยความตกใจ แบคฮยอนไม่รู้หรอกว่าเขาทำแบบนี้ทำไม เขาก็แค่อยากเจอผู้ชายตัวเล็กที่ตีนหนักคนนั้นอีกครั้ง
“จะได้จำไปบอกแม่ถูก ว่าลูกสะใภ้แม่หน้าตาเป็นยังไง”
“งั้นก็จำเบอร์รองเท้าไปด้วยเลยแล้วกัน!!!”
นับว่าเป็นประโยคสนทนาแปลกประหลาดที่สุดสำหรับคนที่พึ่งพบเจอกันครั้งแรก และนอกจากคำพูดเกรี้ยวกราดแล้ว แบคฮยอนยังได้รอยคอนเวิสเบอร์ 42 ประทับอยู่กลางอกด้วย บอกเลยว่าตอนนี้เสื้อตัวนั้นก็ยังไม่ซัก อยากเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ความรักของเรา เวลามีคนถามว่าเจอกันครั้งแรกอีกฝ่ายให้อะไรแบคฮยอนจะตอบได้อย่างไม่อายปากเลยว่าเป็นรอยคอนเวิสประทับความรักเข้ากลางใจ
มารู้เอาทีหลัง ว่าผู้ชายตัวเล็กคนนั้นชื่อ โดคยองซู เหตุผลก็คือไอ้ชานยอลรู้จักฝาแฝดของคยองซู ที่เป็นแฟนกับไอ้เด็กแฝดคนน้อง คิมไค แบคฮยอนไม่เข้าใจว่าไอ้ชานยอลสามารถแยกเด็กแฝดบ้านคิมออกได้ยังไง มีช่วงนึงที่พวกมันเล่นพิเรนทร์สลับตัวกันมาเรียน แต่ยังไม่ทันจะได้เริ่มก็โดนเพื่อนเขาจับได้เสียก่อน พอถามก็บอกว่า ไอ้เด็กแฝดนั่นไม่เหมือนกันสักนิด
มึงครับ.. มันแทบจะถอดกันมาตั้งแต่รากผมยันปลายเล็บเท้า กูแยกไม่ออกอ่ะบอกเลย ถามชานยอลดูจะไม่ได้เรื่องได้ราวเลยลองหันไปถามแฝดคนน้องที่มีแฟนเป็นฝาแฝดเหมือนกัน ก็ได้คำตอบเป็นท่ายักไหล่เท่านั้น ไคแม่งเป็นเด็กกวนตีน กวนตีนนิ่งๆ กวนตีนได้ตีนอะไรประมาณนั้น บทสนทนาระหว่างทั้งคู่จึงจบลงอย่างรวดเร็ว แบคฮยอนเดินเล่น คิดนั่นคิดนี่มาเรื่อยเปื่อย จนกำลังจะเลี้ยวผ่านทางลัดระหว่างวารสารกับวิศวะ ก็ต้องชะงักไปเสียก่อน
ตึ่ก ตึ่ก
อยู่ๆก็ใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ความรู้สึกว่าเลือดมันสูบฉีดแรงไปทั่วร่าง ตอนที่เห็นผู้ชายตัวเล็กผมสีแดงเข้ม กำลังตั้งใจรีดกระดาษที่แปะไว้บนเสาอาคารให้เรียบร้อยเพื่อให้มั่นใจว่ามันจะไม่หลุดออกมาง่ายๆ ใบหน้าที่เขาเห็นอยู่ในตอนนี้ต่างกับวันนั้นโดยสิ้นเชิง ริมฝีปากอวบๆ กำลังยกยิ้มกว้างจนดันแก้มให้ขึ้นเป็นลูกกระจุกอยู่บนใบหน้า ตอนนั้นเองที่แบคฮยอนอยากยกโทรศัพท์หาชานยอลมาก อยากบอกให้เพื่อนมาช่วยเขาที
ชานยอล..กูว่ากูต้องเป็นโรคหัวใจแน่ๆเลยว่ะ..
แบคฮยอนยังจำความรู้สึกที่หัวใจมันกำลังกระหน่ำเต้นตอนที่เห็นหน้าผู้ชายตัวเล็กคนนั้นได้ดี เขาเรียนสายวิทย์มา รู้ว่าคนเราถ้าหัวใจไม่เต้นมันก็ต้องตาย แต่แบคฮยอนไม่ได้เรียนหมอ เลยไม่รู้ว่าถ้าหากใจเต้นแรงจนเกินไปคนเราจะตายหรือเปล่า แล้วถ้าต้องตายเขาควรจะทำยังไง แม่ต้องโกรธแน่ๆ อยู่รอดมาได้ยี่สิบกว่าปีจะมาตายห่าเพราะเจอผู้ชายคนเดียว
“มึงกำลังเพ้อ เชื่อกู” เสียงของชานยอลไม่ได้กระทบกระเทือนเข้าผิวหนังกำพร้าเลยแม้แต่น้อย แบคฮยอนไม่สนด้วยซ้ำว่ามันจะพูดอะไร ภาพในจินตนาการตอนนี้คือใบหน้าจิ้มลิ้มของผู้ชายที่เขาไม่รู้จักชื่อ ผมสีแดงเพลิง ดวงตากลมโตที่แฝงเต็มไปด้วยแววดุ มันเป็นแบบนั้นตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน เพราะฉะนั้นแบคฮยอนขอเข้าข้างตัวเองว่าผู้ชายตัวเล็กผมแดงคนนั้นไม่ได้เกลียดเขาก็แล้วกัน
“เป็นหนักว่ะ ขนาดกูบอกว่ามึงเตี้ย มึงยังยิ้มหวานให้กูเลยอ่ะ แบคฮยอนมึงเป็นหนักแล้วจริงๆ” ไอ้ชานยอลนี่น่ารำคาญมากจริงๆ “มึง.. มึง!”
“เออ ฟังอยู่น่า” ตอบออกไปอย่างไม่ใส่ใจสักเท่าไหร่นัก แน่นอนว่าปาร์คชานยอลมันไม่สนใจหรอก แบคฮยอนเองก็เหมือนกัน สิ่งเดียวที่อยู่ในความคิดของเขาตอนนี้ คือคนนั้นคนเดียว “มึงว่า..กูจะได้เจอเขาอีกป่าววะ”
“มึงคิดว่าคนในมหาลัยมันมีน้อยจนมึงจะเจอคนที่รู้จักกันแค่หน้าได้มั้ยล่ะ”
“แต่กูเจอเขาติดกันสองวันแล้วนะ”
“ไว้มึงเจอเขาติดกันเป็นวันที่สามแล้วค่อยมาพูดเถอะ” มือใหญ่ยกขึ้นโบกหัวทุยๆของแบคฮยอนจนเกือบทิ่มจานยากิโซบะที่พร่องลงไปเล็กน้อยเพราะเจ้าของมันมัวแต่ใช้ความคิดเพลินไปหน่อย ข้าวเที่ยงที่ควรจะหมดได้แล้วกลับเหลือซะเต็มจานแบบนี้ ชานยอลส่ายหัวอย่างระอา ก้มมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะลุกขึ้นเอาจานของตัวเองไปเก็บและเดินกลับมาหาเขาอีกครั้ง
"ไปมั้ย กูจะไปหาจงอิน"
"ไม่ล่ะ เดี๋ยวกูกลับห้องเลย"
แบคฮยอนแยกกับเพื่อนรักตรงนั้น เขาตัดสินใจที่จะเดินกลับหอโดยใช้ทางเดียวกับเมื่อวาน มันอาจจะเป็นการกระทำโง่ๆ ที่คิดว่าคงเจอผู้ชายผมแดงคนนั้นอีกครั้งแต่อย่างน้อยได้ลองก็ไม่เสียหาย เพราะยังไงแบคฮยอนก็ต้องกลับหออยู่ดี เขากำลังเดินตัดวิศวะ ตอนที่หางตาเห็นอะไรแว้บๆแล้วใจเต้นรัวขึ้นมาอีกครั้ง เด็กหนุ่มมั่นใจว่าเขาไม่ได้ตาฝาด ไม่ได้เกิดภาพหลอนใดๆทั้งสิ้น สองขาเปลี่ยนทิศทางทันที เอาล่ะเรามาเป็นสตอล์กเกอร์กันเถอะ
ผู้ชายตัวเล็กคนนั้นเดินย้อนไปทางที่แบคฮยอนพึ่งเดินมา ท่าทางจะอารมณ์ดีกว่าเมื่อเช้าที่เขาเจออยู่พอสมควร เพราะแบคฮยอนเห็นคยองซูยิ้มจางๆด้วย มันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้เขาเผลอยิ้มตาม อันที่จริงคยองซูทำให้แบคฮยอนกลายเป็นไอ้บ้าที่มาเดินตามผู้ชายที่ไม่รู้จักกันเลยสักนิด เขารู้จักตัวเองดี แต่ก็ยังไม่อยากฟันธง ไม่อยากให้มันกลายเป็นความเห่อชั่วครั้งชั่วคราว การเอาตัวเองเข้าไปในชีวิตใครสักคน เด็กหนุ่มคิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ สำหรับเรามันอาจจะแค่ชั่วครู่ ชั่วคราว แต่สำหรับอีกคน เขาอาจจะเผลอเก็บเราไว้ตลอดชีวิต ซึ่งแบบนั้นแบคฮยอนว่ามันไม่แฟร์
เหยดดดด หล่อกว่าพี่หาที่ไหนไม่ได้แล้วน้อง!!
ริมฝีปากบางเฉียบกระตุกยิ้มจนใบหน้าที่ใครต่อใครต่างบอกว่าเหมือนหมาโง่ๆ ดูเจ้าเล่ห์ขึ้นมาทันที ดวงตาจับจ้องอยู่ที่กระดาษประกาศที่ถูกแปะไว้อย่างเรียบร้อยบนเสาอาคารต้นหนึ่ง แบคฮยอนเกือบจะเดินผ่านไปเสียแล้วเพราะมัวแต่เดินตามผู้ชายผมแดงคนนั้น แต่ก็ถือว่ายังมีโชคเข้าข้างอยู่บ้างที่พระเจ้าดลบัลดาลวิธีเข้าหาคนที่ตัวเองรู้สึกถูกใจ เขาจะไม่มีวัน.. ไม่มีวันเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาไอ้ชานยอลเป็นอันขาด!!!
มือเรียวยกโทรศัพท์ยี่ห้อแอปเปิ้ลแหว่งขึ้นมาถ่ายภาพประกาศไว้ ก่อนจะรีบเดินกลับหออย่างรวดเร็ว ต้องเตรียมพร้อม แบคฮยอนต้องเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่กำลังคิดจะตัดสินใจทำในวันพรุ่งนี้ เรื่องแบบนี้ถ้าปรึกษามิตรสหาย(ที่พร้อมจะซ้ำเติม)ไม่ได้ ผู้ชายแมนๆอย่างแบคฮยอนก็ต้องลุยเอง!!
ประกาศรับสมัครพระเอกละครเวที ชื่อเรื่อง “พระเอกหล่อมาก”
คุณสมบัติ “เป็นผู้ชาย ต้องสูงเกิน 180 เซนติเมตร”
โจทย์ในการออดิชั่น “คำนิยาม สำหรับคำว่า พระเอกหล่อมาก”
สนใจรับใบสมัครได้ที่ใต้ตึกคณะสถาปัตยกรรม
คำนิยามสำหรับ “พระเอกหล่อมาก” โอ้โห ไม่ต้องคิดเลยสักนิด กูเนี่ย!!! พระเอกหล่อมาก!!!
“ชานยอลเว้ย ชานยอล”
“เรียกกูทำไมครับ?”
“สั่นอ่ะ.. ถ้าเขาเลือกกูไปเป็นพระเอกแบบไม่ต้องแคสติ้งเลย นี่กูจะโดนหมั่นไส้ป่าววะ” ปาร์คชานยอลกลอกตาขึ้นฟ้าอย่างไม่รู้จะบอกเพื่อนตัวเองยังไง วันนี้เขาเหนื่อยใจกับไอ้เตี้ยนี่มามากเกินพอแล้ว ตั้งแต่ที่มันทำเปรี้ยวเดินเข้าไปล่อตีนถึงใต้คณะสถาปัตย์ฯ เพื่อเอาใบสมัครพระเอกละครเวที ชานยอลยังต้องสละเวลาอันมีค่าที่จะใช้กับจงอินมาเพื่อช่วยแบคฮยอนซ้อมแสดงบทเล็กๆน้อยๆอีก แถมวันนี้ยังต้องปล่อยให้เด็กแฝดคนพี่ซ้อมเต้นเพียงลำพังล่อเสื้อล่อตะเข้อยู่ใต้คณะคนเดียวอีก
มึงเอาอะไรไปมั่นใจว่าเขาจะเลือกมึงทันทีวะแบค!!!
แบคฮยอนเป็นประเภทที่มั่นใจแบบไม่ดูสภาพแวดล้อมเลยจริงๆ คือมึงแหกตาดูด้วยแบคฮยอน ที่ต่อคิวอยู่หน้ามึงอ่ะ ดีกรีเดือนคณะทั้งนั้น โจอินซองงี้ คิมมยองซูงี้ แล้วนี่อะไร มึงมีตำแหน่งกับเขามั้ย? อ้อลืมไปแม่งเป็นดินภาควิชา.. โถ แบคน้อยของกู… เขาให้มึงเป็นเด็กยกไฟก็ดีแล้ว!
“บยอนแบคฮยอน”
“เขาเรียกแล้วกูไปก่อนนะ มึงอย่าไปบอกใครนะเว้ย เด็กแฝดมึงก็ห้ามบอกนะ!” ชานยอลโบกมือ ไล่ให้เพื่อนรีบๆเดินไป ส่วนเขาก็หลบฉากออกมายืนดูอยู่ห่างๆ กวาดสายตามองผ่านๆยังรู้เลยว่าโอกาสชนะของแบคฮยอนนี่ริบหรี่ยิ่งกว่าอนาคตกูอีก
แบคฮยอนก้าวไปยืนกลางเวที ที่มีนางเอกยืนคอยอยู่ ตอนนั้นเองที่เขาเห็นความหายนะมันส่อเค้ามาแต่ไกล ผู้หญิงตรงหน้า คือจองซูจอง ดาวอักษร สาบานได้เลยว่าแบคฮยอนตะโกนคำว่าชิบหายลั่นในใจ ก่อนจะหันมายิ้มแหยให้กับทีมแคสพระเอกละครเวที ทุกคนดูจะเหวอไปนิดหน่อย ยกเว้นคนที่นั่งอยู่ตรงกลางในมือถือม้วนกระดาษใบสมัครของเขาเอาไว้ ผู้ชายตัวเล็กที่เป็นเหตุผลให้แบคฮยอนมายืนโง่ๆอยู่ตรงนี้
“เตี้ยไป ไม่ผ่าน!” ห่าเอ๊ยย ชานยอลกูขอยืมส่วนสูงมึงก่อน!!!!!
“ตกรอบ!”
“เฮ้ ผมตกรอบด้วยเหตุผลแค่ว่าเตี้ยไปเนี่ยหรอครับ?” แบคฮยอนเอ่ยปากท้วงทันทีที่ผู้ชายตัวเล็กคนนั้นบอกปัดเขาอย่างไม่ใยดี เห็นคือคุณจะหาคนที่มีนิยามความเป็นตัวตนใกล้เคียงกับละครเวทีของคุณได้แบบนี้จากที่ไหนอีก ชื่อเรื่องนี้ บทละครนี้ ตำแหน่งพระเอกนี้ แม่งต้องเป็นของแบคฮยอนคนเดียวเท่านั้นอ่ะ!!!
“ใช่!! นาย เตี้ย ไป!!!” โอ้โห นาทีนั้นแบคฮยอนไม่ได้มองอย่างอื่นอีกแล้ว ท่าทางโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงของคุณผู้กำกับตัวเล็กนี่แล่นกระแทกเข้ากลางท้องจนจุกขึ้นมาถึงลิ้นปี่ ให้ตายเถอะคนอะไรขนาดทำตาขวางๆ หน้าบึ้งๆนี่แม่งโคตรรรรรรน่ารัก!!! “ไม่ได้อ่านคุณสมบัติหรือไง”
“อ่านครับ แล้วผมมีข้อไหนที่ไม่ผ่าน” เสียงฮือฮาดังขึ้นทันที่คนแคสตัวพระเอกละครเวที มีปากเสียงกับผู้กำกับที่ทุกคนต่างรู้ดีว่าโดคยองซูนั้นโหดขนาดไหนยามที่มีใครไปกวนประสาทเจ้าตัว และตอนนี้คนที่อยู่ใกล้ที่สุดกลับรู้สึกว่ามองเห็นเส้นเลือดที่ข้างขมับคุณผู้กำกับกำลังเต้นตุบๆ อย่างที่เจ้าตัวคงพยายามสงบสติอารมณ์ไม่ให้พุ่งไปต่อยผู้ชายตรงหน้า
“ส่วนสูง”
“แต่ผมมีความสามารถ”
“แล้วยังไง ผมต้องหานางเอกให้เตี้ยลงเพียงเพราะคุณมีความสามารถหรือไง”
“ไม่จำเป็นครับ”
“งั้นผมคงไม่ต้องให้คุณแคสให้เสียเวลา” โดคยองซูส่งเสียงเหอะเบาๆในลำคอ ไอ้ผู้ชายคนนี้ทำไมเขาจะจำไม่ได้ ก็ในเมื่อวันก่อนเขายังยกตีนยันเข้ากลางอกของอีกฝ่ายเสียเต็มที่อีกต่างหาก ไม่รู้ว่าที่มาแคสพระเอกละครเวทีของเขาคือต้องการมาแหย่เล่น มากวนตีนเขา หรือมาพังงานเขากันแน่ ซึ่งถ้าเป็นอย่างหลัง รับรองว่าไอ้ตี๋นี่โดนกระทืบจนเลือดติดตีนเขาแน่ๆ
“คุณไม่ต้องแคสผมให้เสียเวลา แถมไม่ต้องหานางเอกใหม่ด้วยครับ” น้ำเสียงที่ยังคงท่าทางสบายๆของบยอนแบคฮยอน เรียกความสนใจจากทีมงานทุกคนได้เป็นอย่างดี ผิดกับปาร์คชานยอลที่อยากจะยกมือตบหน้าผากตัวเองแรงๆให้กับความไร้ซึ่งสติของไอ้เพื่อนคนนี้!! แบคฮยอน!! คยองซูน่ะ! เทควันโดนสายดำสองดั้งนะไอ้ห่า กูตัวเป็นยักษ์ขนาดนี้ยังโดนทุ่มจนคลานเป็นหมามาแล้ว มึงนี่เละเป็นขี้ได้เลยนะ!
“ยังไง?” คยองซูคิดว่าไอ้ผู้ชายคนนี้แม่งโคตรพูดไม่รู้เรื่อง และมันทำให้เขาเสียเวลาการหาพระเอกละครเวทีที่กำลังจะใกล้เข้ามาแล้วเป็นอย่างมาก หมายมั่นปั้นมือในใจไว้แล้วว่าถ้าเหตุผลมันไม่คลิก วันนี้ต้องมีคนเจ็บตัว!
“ละครเวทีเรื่องนี้ มันเหมาะกับผมอยู่แล้ว ชื่อเรื่องมันก็บอกอยู่ พระเอกหล่อมาก...” มั่นหน้า.. ไอ้เตี้ยหมาตื่นนี่มั่นหน้ามาก คยองซูกำลังนับถอยหลังจากสิบในใจช้าๆ บอกตัวเองให้ใจเย็นฟังที่มันพูดให้จบ จะได้ไม่มีใครครหาได้ว่าอยู่ดีๆ โดคยองซูกระทืบคนมาแคสพระเอกละครเพราะเตี้ยเกินไป
“ส่วนนางเอกละครเวที ถ้ากลัวว่าซูจองจะสูงไป คุณผู้กำกับก็มาเล่นคู่กับผมสิครับ ผมอยากเป็นพระเอกของคุณคนเดียว”
กูกระทืบมันตายคาตีนตรงนี้เลยก็แล้วกัน!!!
สครีมฟิค #ชอทแมนแบคฮยอน
ตายแน่ ตายแน่พระเอกเราตายแน่... แบคฮยอน... แบคฮยอนตายแน่ๆ
ไม่ต้องพูดถึงปาร์คชานยอลคนมาด้วยนะคะ เอาปี๊บคลุมหัวเดินหนีออกไปแล้วข่า
อ้างอิงชื่อละครเวทีจากละครเวทีของสถาปัตย์ที่มธ.เคยทำนะคะ เราไม่เคยไปดู
ไม่แน่ใจว่าเนื้อหาจะเหมือนมั้ย
ไม่รู้ว่ามันจะโอเคมั้ย แต่ดีใจที่ทุกคนรออ่าน ที่ทุกคนชอบน้า
อาจจะมีคำหยาบไปบ้าง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ ถ้ามันหยาบไปขอโทษด้วยน้า
เราไม่ได้ตั้งใจจะใส่ให้มันเกลื่อนกลาดน่ะค่ะ ติชมได้นะคะ ต้องปรับปรุงตรงไหน
ผิดพลาดตรงไหน
ขอบคุณมากๆเลยที่ทุกคนชอบฟิค ลงอินโทรไปนิดเดียวเองงง รออ่านกันเยอะกว่าที่คิดไว้อี๊กก
วันนี้ไปแล้วน้า ขอบคุณอีกครั้งนึงคับ!!
O W E N TM.
ความคิดเห็น