คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : (OS) #พลอตชั่ววูบ 07 | Diet Story 01 (Chankai)
(os) พลอตชั่ววูบ 07 | Diet Story 01 (CHANKAI)
pairing : chanyeol x jongin
rate : PG-15
NOTE : พุงกะทินี่ตีแล้วดังปั้กๆดีนะพี่ชานยอล
ปล. ไม่มี OST. นะ 55555 เรารู้ว่าทุกคนอ่านในแอพพพพ
"พี่ชานยอลทำอะไร?"
จงอินเอ่ยถามแฟนหนุ่มของตัวเองตอนกำลังเดินผ่านห้องนั่งเล่นไปรินนมกับซีเรียลสำหรับอาหารเช้า เฮ้นี่วันหยุดนะคุณ ผมพึ่งเรียนไฮสคูล ได้หยุดก็ไม่แปลกหรอก แต่ตาแก่ที่นั่งหน้าดำคร่ำเครียดอยู่หน้าโทรทัศน์มาตั้งแต่เจ็ดโมงเช้านี่สิ เด็กหนุ่มเอี้ยวตัวมองปฏิทินที่ตั้งไว้บนเคาท์เตอร์กั้นห้องครัวและห้องนั่งเล่น อะไรกันจงอินก็ว่าเขาจำวันไม่ผิดนะ นี่วันเสาร์ แล้วมนุษย์ทำงานวันเสาร์อย่างปาร์คชานยอลมานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้?
"พี่ชานยอลถามว่าทำอะไรเนี่ย ได้ยินมั้ย"
ดูเอาสิ ขนาดเดินเข้ามาใกล้ขนาดนี้ก็ยังไม่รู้ตัวอีก อะไรนี่สนใจอย่างอื่นมากว่าจงอินได้ไงกันอ่ะ จัดการวางแก้วนมบนหัวคนพี่ที่นั่งกอดอกจ้องทีวีเขารู้ว่าแค่นั้นพี่ชานยอลก็รู้สึกตัวแล้วแหละ แต่ไม่หรอก ไอ้พวกถามแล้วไม่ตอบน่ะมันต้องโดนหนักกว่านี้
"โอ๊ยยยยยยยยย"
ชานยอลร้องลั่นแต่ก็ไม่กล้าขยับหัวมาก เขารู้สึกตัวตอนที่อะไรสักอย่างถูกวางลงบนตัว ถ้าให้เดาก็คงจะเป็นแก้วนมของไอ้เด็กแสบนั่นแหละ วันนี้วันหยุด แต่นี่อะไรตื่นมาก็แกล้งกันซะอย่างนั้น
"พี่เจ็บนะครับจงอิน โอ๊ยปล่อยก่อนครับปล่อยก่อน"
ปากก็โอดครวญทั้งที่คอยังต้องตั้งตก ไม่พยายามขยับมากนักเดี๋ยวเกิดน้องมันนึกอยากปล่อยมือจากแก้วขึ้นมาชานยอลได้อาบนมแทนน้ำตอนเช้านี่แน่
"ก็เรียกแล้วก็ไม่ตอบนี่"
สุดท้ายก็ยอมปล่อยมืออีกทั้งยังยกแก้วนมออกก่อนจะก้าวข้ามพนักโซฟามาหย่อนตัวลงนั่งข้างกันแล้วด้วย สายตาตำหนิจากชานยอลไม่ได้ทำให้คนที่พึ่งปีนข้ามมารู้สึกเกรงกลัวเลยสักนิด จงอินรู้ว่าพี่ชานยอลไม่ชอบให้เขาทำแบบนี้ แต่มันก็นานๆครั้งหรอกน่า ชายหนุ่มวัยทำงานเอื้อมมือบีบจมูกของแฟนเด็กด้วยความหมั่นเขี้ยวเสียจนน้องหันมาร้องใส่เขาลั่น
"กินนมอยู่นะ! สำลักตายไปทำยังไง!"
"ก็หาแฟนใหม่ไง"
"งั้นพี่ชานยอลก็ตายก่อนเลยแล้วกัน!"
เจ้าของชื่อหัวเราะลั่นตอนที่น้องหันมองเขาตาขวาง นี่ก็ดีเท่าไหร่แล้วที่ไม่สาดเขาด้วยนมทั้งแก้วนั่นน่ะ เด็กกำลังโตดื่มนมอีกอึกใหญ่ก่อนจะนึกได้ว่าเขามีเรื่องสงสัยที่ต้องถามแฟนของตัวเอง "พี่ไม่ได้ทำงานวันเสาร์แล้วหรอ"
คำถามของจงอินทำให้เขาเลิกคิ้วมอง "นึกว่าจะไม่ถามซะแล้ว" ชานยอลทิ้งตัวลงกับพนักโซฟาปล่อยให้ร่างกายไหลลงไปจนเกือบเป็นนอนทั้งอย่างนั้น จงอินขมวดคิ้วมองคนแก่กว่าด้วยสายตาไม่เข้าใจสักเท่าไหร่นัก
“พี่เปลี่ยนงานใหม่แล้ว..." อะไรกันล่ะ? เปลี่ยนงาน ทำไมจงอินไม่เห็นรู้เรื่อง "อย่าพึ่งทำหน้าบึ้งขนาดนั้นสิ พึ่งเปลี่ยนนี่เอง.. กำหนดลาออกคือวันนี้ เริ่มงานอีกทีคืออาทิตย์หน้า บริษัทใหม่ พี่ไม่ต้องทำงานวันเสาร์แล้วนะ"
รอยยิ้มของพี่ชานยอลทำให้จงอินเริ่มค่อยๆคิดตาม ถ้าพี่ชานยอลไม่ต้องทำงานวันเสาร์ ถ้าแบบนั้น..
"พี่ก็จะมีเวลาอยู่กับผมทั้งวันเพิ่มขึ้นอีกวันนึงน่ะสิ"
"ก็เปลี่ยนงานมาเพราะแบบนี้"
"น่ารักจริงๆเลย! ปาร์คชานยอล" พอเห็นน้องหัวเราะกว้างแบบนั้น ชานยอลก็ไม่คิดจะบอกหรอกว่าที่นี่ได้เงินเดือนน้อยกว่าที่เก่าอยู่นิดหน่อย แต่ก็นะ ในฐานะวิศวกรอย่างเขามันไม่ได้ทำให้ขนหน้าแข้งร่วงไปสักเท่าไหร่หรอก ชายหนุ่มเอื้อมมือไปยีผมแฟนเด็กที่ยกนมดื่มรอบสุดท้ายจนหมดแก้ว ก่อนจะหันมาเล่านู่นเล่านี่ให้ฟังอย่างที่ทำกันเป็นประจำในวันหยุด
เวลาช่วงเช้าหมดไปกับการนั่งฟังจงอินพูดเรื่องต่างๆนานาที่เกิดขึ้นรอบตัว ถึงแม้ว่าตลอดสัปดาห์พวกเขาจะอยู่ด้วยกัน แต่เขาก็ไม่อนุญาตให้เด็กดื้อต้องมานั่งเล่านู่นนี่แบบนี้ แค่บังคับให้อ่านหนังสือเรียนแลกกับการเล่นเกมส์และอ่านการ์ตูนมันก็หมดวันแล้ว เวลาของชานยอลมีแค่ตอนก่อนนอนเท่านั้นแหละ
“ไปซื้อของใช้กันมั้ย สิ้นเดือนแล้วนี่” พอเห็นจงอินพยักหน้าชานยอลก็เลยยกแขนออกจากไหล่น้อง แล้วปล่อยให้เจ้าตัวเดินสำรวจว่ามีของใช้อะไรหมดแล้วบ้าง ส่วนตัวเองก็เลี่ยงเข้าห้องนอนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยกว่าเก่า พร้อมกับหยิบกระเป๋าสตางค์ติดมือมาด้วย
ซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้คอนโดเป็นตัวเลือกประจำสำหรับพวกเราทั้งคู่ ชานยอลมองน้องที่ตรงไปยังรถเข็นแล้วรีบหันมากวักมือให้เขาตามไปเร็วๆด้วยรอยยิ้ม แน่นอนน้องไม่ได้ห่างเขาไม่ได้หรอก แต่เจ้าตัวน่ะ..
“พี่เข็นนะครับ” นี่ไง สาเหตุที่กวักมือเรียกกันยิกๆแบบนี้ ชานยอลยิ้มแล้วขยับตัวเข้าแทนที่คนที่ออกเดินนำหน้าไปแล้ว
“ของใช้ก่อนแล้วกันนะครับ ของกินค่อยทีหลัง”
ไอ้แบบนี้ก็หมายความว่าของใช้หมดไม่เยอะ แต่ของกินน่ะหมดเพียบเลยสิท่า ชายหนุ่มเข็นรถตามคนน้องต้อยๆไม่ได้ปริปากบ่นอะไรสักนิด มีตอบรับตอนที่อีกฝ่ายหันมาขอความคิดเห็นเป็นครั้งคราวเพื่อไม่ให้เจ้าตัวดูจะพูดคนเดียวเกินไปนัก หยิบของใช้อยู่เกือบครึ่งชั่วโมงได้มั้ง จงอินก็เดินตรงไปยังของกินทันที ชานยอลก็ยังคงเข็นรถตามโดยไม่ปริปากบ่นทั้งที่ของมันเต็มรถแบบนี้ คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจคิดว่าเขาเลี้ยงเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเขาแค่ปล่อยให้จงอินเข้ามาจัดการดูแลเรื่องส่วนตัวเขาก็เท่านั้น
ชานยอลมองข้าวของเครื่องใช้มากมายที่อยู่ในรถเข็นแล้วก็ได้แต่ยิ้มกว้าง ครีมอาบน้ำ น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม กลิ่นที่เขาชอบ กาแฟยี่ห้อประจำของเขา ที่โกนหนวด ยาโกนหนวด น้ำยาล้างมือ หรือแม้กระทั่งยาสระผมที่เขาเคยยืนมองน้องเลือกอยู่นานจนต้องเอ่ยปากถามว่าทำไมต้องเลือกขนาดนั้น คำตอบก็นะ
“ต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพผมพี่ชานยอลสิ พึ่งจะย้อมผมไม่ใช่หรอครับ ผมว่าเราใช้อัน….” เป็นไงล่ะ น่าชื่นใจชะมัดเลย
เข็นรถตามพลางมองน้องเลือกของกินนู่นนี่แล้วก็ต้องส่ายหน้า ถึงจะเลือกของกินอย่างที่ตัวเองอยากจะกินซะส่วนใหญ่ แต่สุดท้ายชานยอลก็รู้ว่าจงอินมักจะนึกถึงเขาไปด้วยเสมอ
“พี่ชานยอลคราวนี้จะเอาอันไหน” นั่นไง เห็นมั้ยล่ะ ชานยอลยิ้มแก้มแทบจะแตกตอนที่แฟนเด็กหันมาชูเครื่องดื่มบำรุงร่างกายให้เขาเลือก
“อันซ้ายมือก็ได้”
พอเขาตอบแค่นั้นจงอินก็วางของลงทันทีแล้วก็เดินเลือกอย่างอื่นต่อ มองๆดูแล้วก็มีแต่ขนมขบเคี้ยว ขนมหวาน นมแกลลอนอีกสองสามแกลลอน เอาเถอะก็เด็กมันกำลังโต
“หนักมั้ย ผมช่วยถือ”
“ถือไปแค่นั้นนั่นแหละน่า”
ชานยอลตอบปัดเป็นครั้งที่สาม หลังจากที่เราจ่ายเงินกันเรียบร้อยแล้ว ของที่ซื้อก็ไม่ใช่น้อยๆ ชานยอลไม่เคยปล่อยให้น้องสบายจนเคยตัว ถ้ามาซื้อของด้วยกันเขาก็เลือกจะให้น้องถือด้วยถึงแม้ของหนักอย่างไอ้แกลลอนนมนี่เขาจะเป็นคนถือก็ตามที
“เดี๋ยวเราสั่งพิซซ่ามากินกันเถอะ จะได้ดูหนังเรื่องที่พึ่งจะซื้อมาด้วย”
“ก็เอาสิ”
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มักจะทำเป็นประจำในวันอาทิตย์ ชานยอลดีใจที่เห็นแฟนยิ้มได้ ถึงน้องจะไม่เคยบ่นว่าเรื่องที่เขาทำงานหนัก แต่ก็มีอยู่หลายครั้งเลยล่ะที่ชานยอลคิดว่าน้องเกิดน้อยใจเขาน่ะ คงเพราะเขาเหม่อลอยมากเกินไปเลยทำให้แฟนเด็กคิดมาก
"พี่ชานยอลอยากดูป่ะเนี่ย หรืออยากนอน นอนก็ได้นะ ดะ...จุ๊บ"
จงอินได้แต่อ้าปากค้างกระพริบตาปริบๆมอง ก่อนที่รอยเขินอายจะปรากฏไล่ไปตามสองแก้ม ผิดกับพี่ชานยอลที่ยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อนเปิดประตูเข้าห้องพักหน้าตาเฉย
“อ้าว ไม่เข้าห้องหรอครับ?”
มันน่าขว้างถุงพวกนี้ใส่หัวจริงๆเลยให้ตายเถอะ!
พวกเขาแบ่งหน้าที่กันเรียบร้อย ชานยอลเอานมไปแช่ เก็บพวกของใช้ และโทรสั่งพิซซ่า ส่วนจงอินก็จัดขนมและของอย่างอื่นที่ต้องเก็บไว้ในห้องนอนอีกนิดหน่อยให้เรียบร้อย ต่อให้ต้องดูหนังสองเรื่องกว่ามันจะมืดวันนี้เขาก็จะไม่บ่นว่าเบื่อเลย
จงอินไม่ได้ชอบดูหนังขนาดที่ว่าดูได้ทั้งวัน แต่ถ้าเป็นอาทิตย์ก่อนๆ วันเสาร์แบบนี้เขาต้องใช้เวลาหมดไปกับการเปิดหนัง เล่นเกมส์ อ่านหนังสือ รอให้พี่ชานยอลกลับมาห้องแล้วเข้านอน ส่วนวันอาทิตย์ก็พากันทำนั่นทำนี่ไปเรื่อยเปื่อย แต่เสาร์นี้เป็นเสาร์แรกที่พี่ชานยอลได้หยุด เพราะฉะนั้นเขาจะใช้เวลาให้คุ้มค่าเลย!
"จงอิน พิซซ่ามาแล้วนะ"
เห็นแฟนเด็กรีบวิ่งออกมาก็ได้แต่ส่ายหน้า ขนผ้าห่มขนหมอนมาขนาดนี้ สงสัยคืนนี้ได้นอนห้องนั่งเล่นซะล่ะมั้ง
จงอินขยับโต๊ะตัวเตี้ยหน้าทีวีมาใกล้โซฟาแล้วเอนตัวลงนอนพาดขาไว้โดยเว้นที่นั่งไว้พี่ชานยอลนั่งโดยมีถาดพิซซ่าวางกั้นอยู่ตรงกลาง ชานยอลหันมองแฟนเด็กที่จัดท่าเตรียมพร้อม ถึงได้ใส่แผ่นหนังลงไปแล้วเดินกลับมาหย่อนตัวลงข้างกัน
ชานยอลไม่ค่อยชอบหนังยิงกันทะลุจอแบบนี้สักเท่าไหร่หรอก แต่ดูแล้วจงอินจะชอบเสียเหลือเกิน ไอ้เด็กหมีของเขาจ้องตาเป็นมันชนิดที่ว่าพิซซ่าก็ถูกถือค้างไว้ในมือจนชานยอลต้องเป็นฝ่ายป้อนให้เองนั่นแหละจงอินถึงได้เคี้ยวหงุบหงับอยู่อย่างนี้
“เฮ้ยยยยยยย แม่ง!! คนเลว!!” ชานยอลสะดุ้งเมื่ออยู่ๆแฟนเด็กของเขาก็โวยออกมาลั่นตอนที่คนในหนังถูกแทงหัวใจตายคาที่ พวกเราดูโคตรคนทีมเอกซ์เพนเดเบิ้ลกันครับ เห็นเจ้าเด็กนี่ร่ำๆว่าอยากดูชานยอลเลยแวะซื้อแผ่นก่อนจะกลับมา
“แค่ละครน่า มันจะได้กลายเป็นปมไง”
“ลูบหัวคนที่โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง พิซซ่ากลายเป็นหมันไปแล้ว เพราะชานยอลขยับมันหลบมาไว้ข้างตัวอีกฝั่งตอนที่จงอินเขยิบตัวเข้ามาใกล้ ชายหนุ่มวาดแขนโอบรอบบ่าคนน้องที่เอนพิงอกเขาไว้ครึ่งนึง ถ้าดูหนังรักมันคงต้องหวานกว่านี้แน่ๆ แต่คุณครับ...มันไม่ใช่ไง
“จงอินนาา..” ปึ่ก… กระแทกเข้าปลายคาง
“ซี๊ดด..จงอินครับ” ปึ่ก..ทุบเข้าเต็มต้นขา
เด็ดสุดต้องอันนี้…
ปั่ก ปั่ก ปั่ก!!
ชานยอลเด้งขึ้นมานั่งงอตัวจนจงอินตกใจหันมามอง เห็นสีหน้าแฟนหนุ่มของตัวเองไม่ค่อยดีหนักก็ใจหาย
“เป็นอะไร! พี่ชานยอลเป็นอะไร!” กุลีกุจอลุกขึ้นมานั่งก้มตัวลงไปหา ยิ่งเห็นว่าแฟนตัวเองหน้าซีด ก็ยิ่งเป็นห่วง แต่พี่ชานยอลก็ยังยกมือนึงขึ้นมาโบกปัดว่าไม่เป็นไรทั้งที่ยังนั่งงอตัวกุมท้องเอาไว้แบบนั้น
“เป็นอะไรบอกมา!”
“จุกครับ..พี่จุก”
สุดท้ายก็แค่นตอบออกไปจนได้ แต่ก็ได้แค่นั้นแหละ เพราะชานยอลจุกมากจนพูดไม่ออก ก็จงอินเล่นตีลงมาเต็มแรงทั้งที่เขาพึ่งจะกินพิซซ่าไปอิ่มๆนี่ ไม่จุกยังไงไหวล่ะ ไม่อ้วกออกมาก็ดีเท่าไหร่แล้ว
พอดีขึ้นหน่อยชานยอลก็กลับไปนอนแผ่กับโซฟาเหมือนเดิมและจงอินก็เอนพิงอกแฟนอย่างกล้าๆกลัวๆ ว่าชานยอลจะยังไม่หาย ท่าทางน่าหมั่นเขี้ยวจนต้องดึงมาจูบหน้าผากแรงๆ
“อื้อ! พี่นี่”
“พี่ไม่เป็นไรหรอกน่า เราแค่ทุบท้องพี่แรงเกินไปก็เท่านั้นเอง”
โอบไหล่แล้วลูบแขนบอกให้น้องคลายกังวล หนังในจอก็ยังคงฉายต่อไปเรื่อยๆ โดยที่คนสองคนกลับไปให้ความสนใจมันอีกครั้ง คราวนี้จงอินขยับเอนตัวสอดแขนเข้ากอดไว้หลวมๆ ชานยอลไม่อยากจะสารภาพหรอก แต่เขาชอบเวลาแบบนี้ที่สุดเลยนั่นแหละ แต่เดี๋ยวก่อนนะ…
“จงอินทำอะไรน่ะ”
“หือออ…” ชานยอลก้มมองแฟนเด็กที่เงยหน้าจากอกเขาขึ้นมาสบตากันทั้งที่มือของน้องยังวางแปะอยู่บริเวณหน้าท้องของเขา
“เราน่ะ..ทำอะไร” พยักหน้าให้น้องมองตาม แล้วจงอินก็ขมวดคิ้วเมื่อพบว่าตัวเองกำลังเคาะนิ้วลงกับหน้าท้องของพี่ชานยอลเบาๆ
“ก็…” นั่นสิ?? จะให้ตอบว่าทำอะไรล่ะ?? แต่พอรู้ตัว จงอินก็กลับหยุดไม่ได้เข้าไปอีก ชานยอลมองน้องที่ยังคงเคาะนิ้วลงกับหน้าท้องของเขาเล่น สลับกับลูบมันไปมา เฮ้ยยย คือมันขนลุกแปลกๆนะครับเบบี๋ ลูบพี่แบบนี้ พี่ก็มีขนลุกกันบ้างนะครับคนดี
“พี่ชานยอล…”
“หือ…”
“พุงพี่ชานยอลเหมือนคุณแม่ท้องอ่อนๆเลยอ่ะ”
ห้ะ?
“อืออออ ลูบแล้วเพลินมือดีจัง…”
เดี๋ยวครับคนดี..
“แต่ว่า… พี่ชานยอลลดความอ้วนเถอะนะ”
TBC.
#พลอตชั่ววูบ #ชานยอลลดน้ำหนัก
55555555555555555555555555555555555555555 คือลั่นออกมาภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง อยู่ๆก็อยากอ่านแบบนี้อ่ะ.. ติชมกันได้นะคะ เราชอบน้องแบบนี้อ่ะ มันเป็นอีกมุมนึงที่เราว่าน้องน่ารัก สองตอนจบนะ เดี๋ยวตอนหน้ามาลดน้ำหนักกับพี่ชานยอลกันเถอะค่ะ
วันนี้ไปแล้วน้า เลิ้บทุกคน
ปล.เอาไว้อ่านแก้คิดถึงนะ ช่วงนี้ปั่นแบดบอยอยู่คับบบ
ความคิดเห็น