ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ✖ (exo) : Geometry series : Circle | #ฟิควงกลมชานไค CHANKAI FT. EXO

    ลำดับตอนที่ #14 : CHAPTER 13

    • อัปเดตล่าสุด 6 ม.ค. 59


     

    TITLE : CYCLE

    Pairing : Chanyeol X Kai

    "เราจำเป็นต้องเรียนรู้กันและกัน เพื่อที่จะได้คำตอบในสักวันหนึ่งว่าเราเข้ากันได้หรือเปล่า"

     

     

     

     

     

    CHAPTER 13

     

    กว่าจะมาถึงสนามบาสการแข่งขันก็เริ่มไปได้สองคู่แล้ว จงอินเดินเอื่อยมาจนถึงสแตนด์ฝั่งที่สีตัวเอง  ปาร์คชานยอลยืนอยู่ตรงกลางโดยมีเด็กคนอื่นทั้งตัวจริงตัวสำรองยืนล้อมอยู่ หน้าตาจริงจังอย่างที่จงอินไม่เคยเห็นมาก่อนทำให้คุณผู้จัดการถึงกับลอบยิ้ม เขาเดินมานั่งลงเงียบๆ ข้างจงซอกที่ถูกลดตำแหน่งจากปีกขวามาเป็นเด็กยกน้ำ

    “มาแล้วหรอพี่ พี่ชานยอลสั่งไว้ว่าถ้าพี่มาแล้วให้ขึ้นไปนั่งดูบนนี้” รุ่นน้องชี้ไปบนอัฒจรรย์คอนกรีตที่อยู่เหนือหัว แต่จงอินกลับส่ายหน้า เขาวางถุงพลาสติกที่ติดมือมาไว้อีกฝั่งของตัวแล้วทำนิ่งไม่สนใจสิ่งที่จงซอกบอกจนอีกฝ่ายอ้าปากเหวอ

    “นั่งนี่ก็ได้น่า เป็นผู้จัดการที่ไหนขึ้นไปนั่งดูตำแหน่งผู้ชม”

    จงอินว่าอย่างนั้น จงซอกก็เลยไม่คิดจะขัดต่อ ทั้งสองคนมองไปทางข้างสนามที่กัปตันปาร์คกำลังเขียนอะไรยุกยิกลงบนกระดานพลางอธิบายแผนการเล่นให้ลูกทีมคนอื่นฟัง

    “จะเริ่มแข่งหรือยัง”

    “จบคู่นี้ก็สีเราแล้วพี่”

    ผู้จัดการทีมคนเก่งพยักหน้ารับและไม่ได้ถามอะไรต่อ เขายังคงมองนักกีฬาตัวสูงที่ยืนจริงจังอยู่ตรงนั้นด้วยรอยยิ้ม ทุกอย่างเป็นจริงอย่างที่จงซอกเคยพูดเอาไว้ ถ้าเป็นเรื่องบาสเก็ตบอลล่ะก็ ปาร์คชานยอลไม่เคยทำเป็นเล่นเลยสักครั้ง

    ป้ายนาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์บนโต๊ะกรรมการที่ตั้งอยู่ตรงกลางบริเวณขอบสนามแข่งบอกว่าอีกหนึ่งนาทีจะจบการแข่งขัน จงอินขยับตัวลุกขึ้นโดยไม่ลืมหยิบถุงที่วางไว้ติดมือมาด้วย เด็กหนุ่มโค้งตัวลงเช็คน้ำและผ้าเย็นที่อยู่ในกระติกสีแดง เช็คชื่อตามขวดที่แปะไว้อีกครั้ง แม้ของพวกนี้เขาจะเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วก็ตามที

    และเมื่อสัญญาณนกหวีดดังขึ้นเสียงเฮก็ดังลั่นมาจากสแตนด์กลุ่มกองเชียร์ฝั่งสีฟ้า ปาร์คชานยอลและลูกทีมคนอื่น ๆ พากันยกกระเป๋าของตัวเองมากองไว้ที่เก้าอี้สำหรับทีมแข่งขัน เมื่ออีกสีนึงย้ายออกไป จงอินกับจงซอกก็เดินหิ้วกระติกน้ำตามมาไม่ห่าง

    “เอาไปถือ”

    ปาร์คชานยอลยัดกระเป๋าใบใหญ่ใส่มือเขาแล้วทำท่าจะแย่งกระติกน้ำไป แต่จงอินขืนตัวเอาไว้ได้ทัน นั่นทำให้ทั้งคู่รั้งท้ายและเริ่มเป็นจุดสนใจอีกครั้ง เด็กๆในทีมคนอื่นก็หันมาสนใจกัปตันปาร์คกับแฟนตามที่เข้าใจ(แบบผิดๆ)หยอก?กัน

    “ไหนกำลังใจ แค่ถือให้กูแค่นี้ยังดื้อ”

    “ไม่ได้เกี่ยวกันเลยสักนิดครับคุณนักกีฬา เดินไป”

    ทั้งสองคนก็เดินอยู่นั่นแหละแต่มันติดที่ไอ้การหยอกกัน(ในสายตาคนอื่น)ตอนก่อนจะแข่งนี่อาจจะไม่ใช่เวลา จงซอกเห็นจงอินทำท่าจะทิ้งกระเป๋าพี่ชานยอลยกกระติกน้ำสาดใส่หน้าอยู่รอมร่อด้วยความรำคาญจนต้องรีบเข้าไปห้าม กลัวจะได้มีเหตุนองเลือดแล้วอดกินน้ำกันทั้งทีมก่อนจะเริ่มการแข่งขัน

    “มาๆ ผมถือเอง พี่เดินกันตัวปลิวๆ ไปเลยครับ ไปทางนั้นเลย”

    เด็กหนุ่มคว้าทุกอย่างมาถือไว้เอง และผายมือให้รุ่นพี่ทั้งสองเดินไปยังม้านั่งข้างสนาม จงอินกลอกตามองบนแล้วเดินดุ่มไปคว้ากระเป๋าของปาร์คชานยอลที่หนักเหมือนเอาหินถ่วงมาถือไว้เอง ส่วนกัปตันที่ดูจะผ่อนคลายจากเกมการแข่งขันไปนิดหน่อยก็เดินอารมณ์ดียิ้มร่ามากอดคอผู้จัดการทีมโดยไม่ได้สนใจอาการหงุดหงิดของพี่จงอินเลยสักนิด

    “ถ้านายอยากได้กำลังใจแบบนี้คราวหลังฉันจะได้ไม่ต้องซื้อไอ้นี่มา” บ่นอุบโยนกระเป๋าลงพื้นเต็มแรงโดยไม่สนใจว่าอะไรที่ข้างในจะแตกจะหักจะพังหรือเปล่า ไม่รู้ว่าแบกอะไรมานักหนา รองเท้านักเรียนมันหนักขนาดนั้นเลยหรือยังไง

    “ก็แค่มึงมาก็เรียกว่าให้กำลังใจได้แล้ว”

    จงอินได้ยินเสียงฮือฮาดังขึ้นรอบตัวเมื่อกัปตันปาร์คขวัญใจคนทั้งโรงเรียนโน้มตัวลงมากระซิบข้างหูเขา เป็นไม่กี่ครั้งที่จงอินทำตัวไม่ถูกจนต้องหันไปมองทางอื่นแก้เก้อ รู้สึกเหมือนโดนเอาคืนจนรีบคิดแผนการสู้ในหัว แต่สุดท้ายก็ต้องปัดทิ้งไปด้วยเหตุผลที่ว่าวันนี้ปาร์คชานยอลต้องเหนื่อยเลยจะไม่แกล้งหนึ่งวัน

    อาจารย์อีส่งสัญญาณให้นักกีฬาทั้งสองสีลงวอร์มในสนามได้ ปาร์คชานยอลเรียกทุกคนมารวมอีกครั้ง คราวนี้จงซอกก็ขยับไปยืนฟังด้วยส่วนจงอินกลับนั่งรออยู่บนม้านั่งที่จัดไว้ให้ ทุกคนลงไปวิ่งเตรียมความพร้อมร่างกายรวมถึงปาร์คชานยอล เขาไม่เคยดูการแข่งขันกีฬาพวกนี้เลยสักครั้ง รู้สึกว่ามันน่ารำคาญทั้งเสียงดัง และไม่เคยเข้าใจกลุ่มคนที่วิ่งไล่กันเพื่อแย่งลูกกลมๆ ลูกเดียว แต่ละคนก็ทำหน้าเหมือนจะฆ่าอีกฝ่ายให้ตาย

    จงอินนั่งมองเพลินจนเผลอสะดุ้งตอนที่อาจารย์เป่านกหวีดเพื่อเรียกทั้งสองทีม ทุกคนเดินเข้ามาหาเขาล้อมเขาเอาไว้ อันที่จริงต้องบอกว่าล้อมปาร์คชานยอลและคิมจงอินเอาไว้ถึงจะถูก

    “มินโฮ จงซอก แอล  แจ็คสัน แล้วกูจะลงก่อน เล่นตามแผนที่วางไว้ เข้าใจตรงกันนะ”

    “อือ / ครับพี่”

    บรรยากาศทุกอย่างดูตึงเครียดไปถนัดตา แต่จงอินกลับรู้สึกว่าในเวลาปาร์คชานยอลโคตรเท่เลยให้ตายเถอะ ตลอดเวลาที่รู้จักกันเขาไม่เคยเห็นอีกฝ่ายสุขุมอย่างนี้ ขนาดเวลาซ้อมยังเห็นอู้ได้เป็นอู้ตลอด

    ปี๊ดดดดดดดดด

    นกหวีดยาวดังขึ้นอีกครั้ง และนักกีฬาทั้งห้าคนก็เดินลงสนาม มินโฮเดินเข้าไปตรงกลางวง ส่วนชานยอล แอล แจ็คสัน และจงซอกกระจายอยู่โดยรอบ ทุกคนพุ่งความสนใจไปยังการแข่งขันท่ำลังจะเริ่มขึ้น เด็กคนอื่นในทีมก็พากันตึงเครียด จงอินไม่เคยเข้าใจว่าทำไมต้องเครียดถึงขนาดนั้น แต่เขาก็ไม่ได้พูดมันออกมา เด็กหนุ่มหันกลับไปมองยังเกมที่เริ่มต้นขึ้นไปแล้ว และพวกเขากำลังเป็นฝ่ายได้เปรียบ

    การแข่งขันแบ่งออกเป็นสองรอบ รอบละสิบห้านาที ซึ่งนั่นมันก็นานพอดูเลยทีเดียว จงอินเริ่มเข้าใจขึ้นมาหน่อยแล้วว่าทำไมตัวเองถึงต้องมาอยู่ตรงนี้ ทุกครั้งที่ใครคนหนึ่งถูกเปลี่ยนตัวออกมาเขาก็ส่งทั้งผ้าเย็นและน้ำให้อย่างรวดเร็ว มินโฮเพิ่งออกมาพักและกำลังจะลงสนาม ทุกคนถูกเปลี่ยนตัวออกมาหมดแล้ว เหลือแค่กัปตันปาร์คที่ยืนหอบและใช้เสื้อเช็ดเหงื่อบนใบหน้าลวกๆ เท่านั้น  จงอินเรียกอีกคนเอาไว้ก่อน

    “บอกให้ชานยอลออกมาพักได้แล้ว”

    พูดสั้นๆ แม้ว่าจะคล้ายกับประโยคคำสั่งไปสักหน่อย แต่จงอินก็เลือกที่จะทำอย่างนั้น มินโฮเลิกคิ้วมอง เด็กหนุ่มเบะปากและโคลงหัวนิดหน่อยก่อนจะพยักหน้าตกลง

    “ฉันไปได้แล้วใช่ไหม” เมื่อจงอินพยักหน้าเขาก็ผละออกไปทางอาจารย์ที่ยืนอยู่ข้างสนามเพื่อขอเปลี่ยนตัวพร้อมเสียงบ่น “กูอิจฉาเหลือเกินน มีผู้จัดการส่วนตัวเนี่ย”

    -__- ออกมาพักครั้งหน้ามินโฮคงไม่ได้กินน้ำเย็นชื่นใจแล้วล่ะ

    ถึงจะบ่นอย่างนั้นแต่จงอินก็เห็นว่าทันทีที่อีกฝ่ายได้ลงสนามก็ตรงเข้าไปหาปาร์คชานยอลทันที เขาเห็นพวกนั้นกระซิบกระซาบกันและชานยอลก็มองมาทางเขาพลางพยักหน้าให้ ก่อนที่สายตาจะหันกลับไปสนใจนักกีฬาจากสีอื่นที่กำลังบุกขึ้นมา

    “รีบาวด์!!*” เสียงเด็กทุกคนในทีมตะโกนลั่นหลังจากที่มินโฮกระโดดขึ้นไปคว้าลูกที่พลาดจากห่วงเอาไว้ได้และ จงอินเห็นว่าเด็กหนุ่มขว้างบอลออกไปด้านข้างที่ปาร์คชานยอลยืนรออยู่คนเดียวและกระโดดตัวลอยคว้ามันเอาไว้ได้อย่างแม่นยำ

    ความชุลมุนเกิดขึ้นทันทีเมื่อทุกคนต่างพากันวิ่งตามปาร์คชานยอลที่พุ่งตัวมาอยู่ในเขตคู่แข่งได้อย่างรวดเร็ว เสียงตะโกนโหวกเหวกให้บล็อกชานยอลเอาไว้ กัปตันปาร์คหยุดยืนอยู่นอกวงกลมเส้นสามแต้ม สายตากวาดมองหาเพื่อนของตัวเอง มินโฮพยายามวิ่งหนีคนที่ประกบตัวเองเอาไว้ แอลวิ่งวนอยู่ทางปีกซ้าย ทุกคนถูกจับแมนทูแมน** สมองประมวลผลอย่างรวดเร็วว่าตัวเองควรทำอย่างไร

    เด็กหนุ่มพุ่งตัวไปด้านหน้าและคนทางปีกขวาก็ละจากแจ็คสันมาพุ่งเข้าใส่เขา แต่ชานยอลกลับส่งบอลให้มินโฮที่โฉบออกมารับและเปลี่ยนตำแหน่งกันอย่างรวดเร็ว มินโฮย่อตัวลงต่ำและฝ่าผู้เล่นสองคนหน้าที่กลับเข้าตำแหน่งไปได้ ตั้งหลักเตรียมย่อตัวจะชู๊ตทำคะแนน คริสที่เล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์ยกมือกันค้างไว้ มินโฮกระตุกยิ้ม เขาเอี้ยวตัวและส่งบอลกลับหลังซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ชานยอลพุ่งตัวเข้ามาคว้าเอาไว้และส่งลูกลงห่วงไปอย่างสวยงาม

    จงอินไม่เคยสนุกอย่างนี้มาก่อน เขากระโดดชกมือเหมือนเด็กคนอื่นในทีม เช่นเดียวกับในสนาม ชานยอลเดินเข้าไปชกมือกับมินโฮ แอล จงซอก และแจ็คสัน เวลาครึ่งแรกเหลืออีกสองนาที และชานยอลก็ส่งสัญญาณขอเปลี่ยนตัวก่อนที่กรรมการจะเป่านกหวีดให้ฝ่ายที่เสียแต้มได้เปิดบอลจากหลังเส้นขอบสนามเพื่อบุก

    ปาร์คชานยอลยกชายเสื้อขึ้นเช็ดเหงื่อที่หน้าระหว่างเดินมายังม้านั่งของตัวเองก่อนจะชะงักเมื่ออยู่ผ้าขนหนูเย็นๆ สีขาวก็ถูกส่งมาให้

    “เช็ดให้ด้วยดิ” ไม่พูดเปล่า เด็กหนุ่มตัวสูงยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนเสียงแซวลอยมาจากโดยรอบ ทั้งที่เมื่อครู่กัปตันปาร์คยังตึงเครียดทำเท่ในสนามแต่พอออกมาเท่านั้นแหละ ทุกคนก็หมั่นไส้ไปตามๆกัน

    แต่ที่เหนือคาดกว่านั้นคือจงอินยอมใช้ผ้าขนหนูในมือเช็ดหน้าให้ ทำเอาชานยอลที่กำลังยิ้มทะเล้นเพราะไม่คิดว่าอีกคนจะกล้าถึงกับนิ่งค้าง ถึงแม้มันจะเป็นการเช็ดที่ทำให้เจ้าตัวหัวสั่นหัวคลอนไปหน่อยก็ตามที

    “อ่ะ กินซะ”

    เรื่องน่าประหลาดเรื่องที่สองก็คือขวดน้ำเกลือแร่ที่ชานยอลเคยเล่าให้อีกคนฟังตอนเดินกลับบ้านถูกส่งมาให้ ซึ่งแน่นอนว่ามันถูกแช่ทั้งที่ยังอยู่ในถุงพลาสติกแยกจากของคนอื่น

    ชานยอลรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองกำลังใจเต้นแรงและความเหนื่อยจากการวิ่งมาเกือบสิบนาทีติดมันหายเป็นปลิดทิ้ง นึกถึงข้อความที่เขาได้รับเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้แล้วก็ได้อมยิ้มกับตัวเอง

    คิมจงอินหอบกำลังใจปึกใหญ่มาให้ถึงที่จริงๆ

     

    --------------------------------------------------------------------------

    รีบาวด์ = การจับลูกหลังการชู๊ตพลาด

    แมนทูแมน = การประกบตัวต่อตัว 

    --------------------------------------------------------------------------

     

    ช่วงกีฬาสีผ่านพ้นไปพร้อมกับตำแหน่งแชมป์กีฬาสีที่ปาร์คชานยอลคว้ามันเอามาได้  วิถีชีวิตของจงอินกลับเข้าสู่สภาวะปกติอีกครั้ง แต่มันกลับหนักหน่วงกว่าเมื่อเด็กหนุ่มต้องเพิ่มตารางอ่านหนังสือสำหรับเตรียมสอบปลายภาคและสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้กับตัวเองแทนที่การเป็นผู้จัดการทีมบาสเฉพาะกิจ

    อ่านอะไรอยู่วะ กูเห็นมึงตะบี้ตะบันอ่านมาหลายวันละ

    ชานยอลเคาะสันหนังสือการ์ตูนลงบนหัวคิมจงอินที่ก้มหน้าไม่พูดไม่จา หลังกินข้าวเสร็จพวกเขาก็มักจะมานั่งเล่นที่สวนของโรงเรียนรอเวลาขึ้นเรียนตอนบ่าย แต่ช่วงหลายวันมานี้มันแปลกไป

    กูถามเนี่ย เงยหน้าขึ้นมาตอบหรือยัง

    อ้าวเพิ่งรู้ว่านายสายตาสั้นเหมือนกัน มองไม่เห็นเหรอว่าฉันอ่านอะไร

    เด็กหนุ่มเลิกคิ้วมองคนใจกล้าที่กวนตีนและไม่เงยหน้าขึ้นมาพูดด้วย ตั้งแต่บอกความรู้สึกกันไปอะไรๆก็เริ่มชัดเจนขึ้น ชานยอลเองก็กล้าทำอะไรมากขึ้นกว่าเดิมด้วย อย่างเช่นตอนนี้..

    กวนตีนเหรอ ปาร์คชานยอล

    จงอินเงยหน้าขึ้นมาเมื่อตัวหนังสือในบทเรียนถูกปิดด้วยหน้าปกการ์ตูนญี่ปุ่นที่ปาร์คชานยอลถือติดมือมาหลายวันแต่ก็ยังอ่านไม่จบสักที ไม่รู้ว่ามันสนุกเหลือบัดดี้ตัวสูงมีปัญหากับการอ่านกันแน่ ขมวดคิ้วจ้องเขม็งแต่ก็ไม่ได้ต่อล้อต่อเถียงเพราะคิดไว้ว่ามันต้องยาวมากแน่ๆ จงอินตัดสินใจย้ายไปนั่งม้านั่งฝั่งตรงข้ามแทน

    ไรวะ ไปนั่งตรงนั้นทำไม แดดร้อน

    มันไม่เป็นอุปสรรคกับการอ่านหนังสือของฉันเท่านายหรอก

    โอ้โหเจอแบบนี้นี่เจ็บเลยครับ ถ้าเขาเอามือกุมหัวใจมันก็ไม่ดูโอเวอร์เกินไปหรอก คิมจงอินปากคอเราะร้ายแบบนี้เสมอเวลาไม่ได้ดั่งใจ โดยเฉพาะถ้ามันมีสาเหตุมาจากปาร์คชานยอลก็จะไม่มีการเมตตาปรานีอะไรทั้งนั้น

    อ่านอะไรนักหนาวะ กูเห็นมึงโหมอ่านตั้งแต่กีฬาสีเสร็จ

    เกือบเดือนได้แล้วที่คิมจงอินเป็นแบบนี้ ชานยอลไม่ได้พูดเกินจริงเลยสักนิด คำว่าอ่านอะไรนักหนาของเขามันหมายความอย่างนั้นจริงๆ ขนาดเวลาคอลกันก็ยังเอาแต่อ่านแล้วปล่อยให้เขาพูดคนเดียว เงยหน้ามามองกันตอนบอกว่าจะไปห้องน้ำแค่นั้นแหละ โคตรน่าหงุดหงิดเลยให้ตายเถอะ

    ฉันมีสอบปลายภาค และเอนทรานซ์รออยู่

    กูก็มี

    แล้วฉันจำเป็นต้องทำตัวลอยไปวันๆ แบบนายงั้นเหรอ ทุนนักกีฬาของนายไม่มีเผื่อแผ่ถึงฉันนี่

    ชานยอลแทบจะกลอกตาเป็นเลขแปดกับเหตุผลที่คิมจงอินยกมาอ้างจนเถียงไม่ขึ้น รู้ดีว่าไอ้ที่กำลังเป็นอยู่นี่มันงี่เง่ามาก แค่อีกคนไม่มีเวลาให้เขาก็ต้องมานั่งเรียกร้องความสนใจกันอยู่อย่างนี้  ถอนหายใจด้วยความจำยอมแล้วก็กลับไปก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือการ์ตูนต่อ

    นี่ โกรธเหรอ

    แค่ไม่รู้จะตอบไร จะอ่านก็อ่านไปเถอะ กูไม่กวนละ

    ชานยอลรู้ตัวว่าเสียงแข็งๆ อีกทั้งยังสั้นห้วนแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรให้ดีกว่านี้เหมือนกัน เขากลับไปสนใจหนังสือการ์ตูนเล่มเดิมต่อ หงุดหงิดกว่าเดิมนิดหน่อยจนต้องขยี้ปลายเท้าลงกับใบไม้แห้งที่อยู่ใต้โต๊ะ แต่ยังไม่ทันจะได้อ่านจบตอนก็ต้องเหลือบตาขึ้นมามองและเห็นว่าอีกคนกำลังมองกันอยู่ คิ้วขมวดจนกลางหน้าผากเป็นขีดจนเขาต้องถอนหายใจ

    กูไม่ได้โกรธมึงหรอก อ่านหนังสือไปเถอะ

    ไม่เชื่อ มาคุยกันก่อน

    เขาเห็นคิมจงอินปิดหนังสือแล้วดันมันออกไปข้างตัว หน้าตาดูดีกว่าเดิมนิดหน่อยแต่ก็ยังขมวดคิ้วไม่เลิกจนเขาเอานิ้วดันจนหงายหลังนั่นแหละถึงได้หันมาทำหน้ายุ่งใส่เขาแทน

    คุยห่าอะไรล่ะ

    เรื่องระหว่างเราไง

    คำว่าเรื่องระหว่างเราทำให้ชานยอลชะงักไปหมด รู้สึกเหมือนโดนดูดเข้ามามิติที่สี่ ตอนนี้หูชานยอลอื้อสนิท ไม่ได้ยินอะไรสักอย่าง ให้ตายเถอะคิมจงอินชอบทำเหมือนมันเป็นเรื่องง่าย ๆ ผิดกับเขาที่แค่จะชวนกินข้าวยังทำใจตั้งนานสองนาน

    ที่เป็นอยู่ตอนนี้มันก็ดี แล้วกูก็ว่ามันดีมากเท่าที่เราจะเป็นได้แล้วด้วย

    ชานยอลถอนหายใจชิงพูดออกมาก่อนที่คิมจงอินจะทำอะไรให้ใจเขาเต้นเร็วมากกว่านี้  เขาเห็นว่าอีกฝ่ายกลับมาขมวดคิ้วอีกครั้งแล้วก็ไม่เข้าใจว่ามันมีเรื่องอะไรให้คิดมากหนักหนา

    มึงคิดอะไรเยอะแยะวะ ไหนบอกกูดิ๊

    ฉันคิดตอนนี้มันก็ดีอย่างที่นายพูดนั่นแหละ แต่กลัวนายจะคิดว่ายังไง

    ถ้าให้เดาเรื่องตอนแรกที่จะตกลงกันคงไม่ใช่เรื่องนี้หรอก แต่ชานยอลคิดว่าไหนๆ ก็มีโอกาสแล้วทำอะไรให้ชัดเจนได้ก็ทำสักที ถึงตอนที่ยังไม่พูดจะไม่ต่างกันแต่เขาก็ยังรู้สึกว่ามันต้องดีกว่าแน่ ๆ ถ้าเราทั้งทำทั้งพูดไปพร้อมกัน

    ก็ถ้ามึงบอกว่าดี กูก็ว่าดีด้วยนั่นแหละ ทุกอย่างมันอยู่ที่มึง แล้วอะไร เรื่องที่จะตกลงกับกูนั่นมันมีอะไร

    ไม่มีอะไรจงอินบิดขี้เกียจแล้วชะโงกหน้าไปดูว่าอีกคนอ่านการ์ตูนไปถึงไหนแล้วนายอ่านช้าจนน่าตกใจเลยนะปาร์คชานยอล

    หือ? อะไร นี่เล่มใหม่แล้วเถอะยกหน้าปกให้ดูแต่จงอินก็ยังคงเดียวเสียงแข็งว่านี่มันเล่มเดียวกับที่พวกเขาไปเลือกด้วยกันเมื่อวันก่อน จนชานยอลต้องว่าเข้าให้อย่ามาโม้หน่อยเลย วันๆ อ่านแต่หนังสือเรียนจะมารู้ได้ไงกูอ่านอะไรชานยอลยกสันหนังสือเคาะหัวคนที่ยื่นหน้ามาหนึ่งที แล้วดันให้กลับไปนั่งอย่างเดิมอ่านหนังสือไปเลย

    จงอินลูบหัวตรงที่โดนเคาะ เขาตำหนิปาร์คชานยอลทางสายตาและเปลี่ยนเป็นนั่งเท้าคางมองคนที่ก้มหน้าก้มตาอ่านการ์ตูนอีกครั้ง หนังสือเรียนที่ตั้งใจอ่านมาหลายวันถูกวางทิ้งไว้ข้างตัวราวกับว่าเขาไม่เคยสนใจมันมาก่อน จนกระทั่งคนถูกจ้องซึ่งหน้าทนไม่ไหว

    จะจ้องกูหาพระแสงอะไรล่ะครับ ไม่อ่านแล้วไง้หนังสือเรียนมึงน่ะ

    เพิ่งรู้ว่านั่งมองหน้านายก็เพลินดี ถึงจะไม่ได้ความรู้ แต่ฉันก็คลายเครียดได้นิดหน่อย

    ปาร์คชานยอลอ้าปากค้างมองคนที่นั่งเท้าคางพูดออกมาหน้าตาเฉย ไม่แน่ใจว่าคิมจงอินจะรู้หรือเปล่าว่าที่พูดออกมามันทำให้คนฟังใจเต้นแรงแค่ไหน

    เลิกพูดประโยคชวนเลี่ยนสักทีเหอะกูขนลุก ทำอย่างกับว่ามึงกำลังจีบสาวอยู่งั้นแหละ

    อ้าวเหรอ ฉันนึกว่าใช่ซะอัก ก็เห็นนายทำท่าทางอย่างนั้น

    ชานยอลขมวดคิ้วจนแทบจะเป็นปม คว่ำหนังสือลงกับโต๊ะชะโงกหน้าเข้าไปใกล้คิมจงอินที่ยังคงอยู่ท่าเดิมเป๊ะๆ

    เดี๋ยวนะแล้วทำไมกูต้องรู้สึกเขินเป็นสาวน้อยอย่างที่มันพูดด้วยวะ!!!

    ปาร์คชานยอล นายเนี่ยน้า

    จงอินยิ้มล้อเลียนคนที่เหมือนเพิ่งจะคิดได้ว่าโดนแซว เด็กหนุ่มหัวเราะลั่น มองนาฬิกาที่อยู่บนข้อมืออีกคนก่อนจะลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นว่าใกล้เวลาเข้าเรียนช่วงบ่ายแล้ว แต่ก็ยังไม่เดินไปไหนเพราะปาร์คชานยอลไม่ได้ลุกตามมา

    ไม่ขึ้นเรียนเหรอ

    ห้องกูเรียนคอม คาบนี้เรียนอีกตึก

    มึงเรียนกฎหมายไม่ใช่เหรอ ต้องไปเรียนที่ตึกหลังรึเปล่า

    ว้าวนี่นายจำตารางเรียนฉันได้ด้วยเหรอปาร์คชานยอล

    น้ำเสียงตกใจอย่างเสแสร้งจนถึงที่สุดยังไม่น่าหมั่นไส้เท่ารอยยิ้มกวนตีนของคิมจงอินในตอนนี้เลยให้ตายเถอะ ชานยอลสาบานว่าเขาต้องหาทางเอาคืนมันให้ได้สักวัน

    ตอบคำถามกูดีๆมันจะตายหรือยังไง

    เปล่า แต่เห็นนายหงุดหงิดมันก็ตลกดีเหมือนกัน

    ชานยอลพุ่งตัวมาผลักหัวคนที่ยืนนิ่งจนหน้าเกือบทิ่ม คิมจงอินจ้องคนที่ดีแต่ใช่กำลังพลางหรี่ตามองจนเด็กหนุ่มตัวสูงรู้สึกเสียสันหลังแปลกๆ เขาหันกลับไปคว้าหนังสือการ์ตูนของตัวเองก่อนจะล็อคคออีกคนให้เดินไปด้วยกัน

    ปล่อยดิ เหม็นเหงื่อ

    คำพูดของคิมจงอินช็อตของชานยอลได้ในเสี้ยววินาที ความมั่นใจที่เคยมีอยู่เต็มร้อยลดฮวบ พร้อมกับแขนที่ปล่อยออกอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มก้มลงดมกลิ่นเหงื่อของตัวเองทันทีที่ปล่อยอีกคนให้เป็นอิสระ และนั่นทำให้จงอินกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่ไหว

    ตอนนี้พวกเขาอยู่ตรงบันไดฝั่งซ้ายของตึก จงอินยืนอยู่เหนือกว่าสองขั้นกำลังหัวเราะลั่นจนปวดท้องไปหมดกับท่าทางเสียเซลฟ์ของปาร์คชานยอล นักเรียนหลายคนทยอยเดินลงมาเพราะใกล้เวลาเข้าเรียน ทั้งคู่กลายเป็นจุดสนใจได้อย่างง่ายดายเมื่อคนหนึ่งกำลังหัวเราะจนตัวงอ ส่วนอีกคนก็ยืนยกแขนเก้งก้างทำท่าทางประหลาด

    นี่แกล้งกูอีกแล้วใช่มั้ย!เด็กหนุ่มตัวสูงพุ่งตัวเข้าใส่อีกคนที่รีบกระโดดขึ้นบันไดไปอีกสองขั้น เสียงหัวเราะร่าสลับกับเสียงตะโกนด่าของปาร์คชานยอลดังลั่นไปทั่วทั้งชั้นจนกระทั่งมาถึงหน้าห้องเรียนของคิมจงอิน ทุกอย่างเลยกลับเข้าสู่ความสงบอีกครั้ง เทากับเซฮุนหันมองสองคนที่โหวกเหวกกันมาตั้งแต่ก่อนประตูจะเปิด

    โอ๊ย เจ็บนะเว้ย

    เอออ เจ็บซะบ้างก็ดีจะได้เลิกกวนตีนกู

    เดี๋ยวนี้กล้าเหรอ ปาร์คชานยอล…”

    เซฮุนกระพริบตาปริบๆมองเพื่อนสนิทที่กำลังเถียงกับปาร์คชานยอลฉอดๆ สลับกับหน้าเทาที่ก็มีอาการตกใจไม่ต่าง เด็กหนุ่มเดินเข้าไปห้ามเมื่อเห็นท่าจะไม่ค่อยดีเพราะปาร์คชานยอลทำหน้าเหมือนอยากฆ่าเพื่อนเขาเต็มทีแล้ว

    แหม่ เดี๋ยวนี้จีบเขากันฮาร์ดคอร์จังครับคุณ

    “อ่ะนี่หนังสือ” เซฮุนเลือกจะส่งหนังสือเรียนที่เพื่อนฝากหยิบให้เพื่อเรียกความสนใจจากคนทั้งคู่ แน่นอนว่ามันได้ผลดีมากเพราะทั้งจงอินและปาร์คชานยอลหันมามองเขาพร้อมกัน  จงอินรับหนังสือไปถือไว้แล้วทุกอย่างก็กำลังเป็นไปได้ด้วยดี ถ้าไม่ติดที่

    โป๊ก!

    เสียงร้องดังลั่นพอๆกับเสียงสันหนังสือกระแทกเข้ากลางกระหม่อมปาร์คชานยอล ทำเอาเซฮุนเบ้หน้าเพราะนึกเจ็บแทน ส่วนตัวต้นเหตุอย่างจงอินก็วิ่งไปไกลโดยทิ้งเขาไว้กับเด็กหนุ่มขี้โมโหที่เขามั่นใจว่า ต้องกลายเป็นฆาตกรแน่ๆ ถ้าเพื่อนของเขายังอยู่ตรงนี้

    ก็นะ... เดี๋ยวนี้เขาจีบกันฮาร์ดคอร์ระดับนี้นั่นแหละ

     

     ห้องเรียนวิชากฎหมายช่างน่าเบื่อและจงอินก็ไม่คิดจะต้านทานแรงดึงดูดของโต๊ะเรียนนี่สัก เท่าไหร่ เด็กหนุ่มฟุบตัวลงกับโต๊ะใช้สองแขนหนุนศีรษะ ตาก็หรี่ปรือจะปิดเต็มที เสียงอาจารย์ดังหึ่งๆหน้า ห้องเหมือนยานอนหลับชั้นดีที่เขาอยากอัดเอาไว้ฟังกล่อมคืนนี้นอนไม่หลับ โต๊ะเรียนเต็มไปด้วย ประติมากรรมงานแกะสลักของช่างชั้นหนึ่งที่พากันขีดเขียนข้อความต่างๆ ไว้เต็มโต๊ะ จงอินเพิ่งค้นพบว่า คนเราสามารถเขียนอะไรได้มากมายอย่างไม่น่าเชื่อ  

    ลายปากตัวอักษรย่อบริเวณมุมซ้ายบ่งบอกได้ดีกว่าโต๊ะตัวนี้ผ่านมือเจ้าของมาหลายคนอยู่ เหมือนกันก่อนจะถูกย้ายมาเป็นโต๊ะห้องเรียนที่ไม่มีนักเรียนประจำแบบนี้ ดูจากสภาพโต๊ะอื่นๆ แล้วก็คงไม่ ต่างกันเท่าไหร่ คงเพราะพวกมันเละเทะเกินกว่าที่จะนักเรียนรุ่นใหม่ขึ้นมาใช้ถึงได้ถูกย้ายมาอยู่ห้องนี้

    จงอินไล่สายตาไปตามแต่ละชื่อ เด็กหนุ่มเกยคางไว้บนฝ่ามือใช้ปากกาชี้ไปตามกลุ่มตัวอักษร ย่อยๆ สามตัวตั้งแต่ชื่อแรก เขาสนุกไปกับการคาดเดาว่าเจ้าของโต๊ะตัวนี้จะชื่ออะไรบ้าง

    Jys Kjs Yjy Kma Ojn Pcy

    ชื่อสุดท้ายทำเอาจงอินถึงกับยกหัวขึ้นไปมองใกล้ๆ จ้องมันอยู่อย่างนั้นเพื่อยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาด ปาร์คชานยอลเป็นชื่อแรกที่ผุดมาในหัวทันทีที่เห็นตัวอักษรนี้   เด็กหนุ่มผู้ซึ่งตั้งใจเรียนมาตลอดกลับคว้าโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมา เช็คให้แน่ใจว่าปิดเสียงเรียบร้อยแล้วจึงกดถ่ายรูปก่อนจะส่งไปให้เจ้าตัวดู

    J: send a photo

    จงอินรู้สึกว่าตัวเองกำลังกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่ไหวจนต้องล้มตัวเอาหน้ามุดโต๊ะ ตลกสิ้นดีเลยให้ตายเถอะ เขาไม่คิดว่าคนอย่างปาร์คชานยอลจะมาทำอะไรแบบนี้ แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือตัวเองนั่นแหละที่สนใจอะไรพวกนี้ตั้งแต่รู้จักกับอีกคน

    ครืด

    จงอินชะโงกอ่านแจ้งเตือนที่ปรากฏบนหน้าจอแล้วก็ต้องฟุบหน้าลงกับโต๊ะไปใหม่ ปาร์คชานยอลรัวข้อความมาจนโทรศัพท์สั่นไม่หยุด เขาไม่รู้จะต้องทำยังไงเพราะว่าถ้าให้เงยหน้าขึ้นมาอาจารย์ต้องจับได้แน่ๆ ว่าคิมจงอินไม่ตั้งใจเรียน

    เขาใช้หลังไอ้เทาบังอาจารย์ที่กำลังบรรยายเรื่องกฎหมายอะไรสักอย่างในขณะที่มือก็กำลังจับปากกาเขียนบางอย่างต่อท้ายชื่อที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นเจ้าตัวอย่างแน่นอน จงอินรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระสุดๆ ของเด็กผู้ชายอายุ 20 ปีที่ต้องมานั่งทำอะไรอย่างนี้ แต่มันก็กำลังทำให้เขายิ้มกว้างสุดๆ ด้วยเช่นเดียวกัน

    จงอินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่เขาเขียนข้อความต่างๆ เสร็จเรียบร้อย เด็กหนุ่มถ่ายรูปส่งไปให้อีกครั้ง เขามั่นใจว่าปาร์คชานยอลต้องโมโหจนแทบจะหักคอเข้าทิ้งแน่ๆ แต่เขาไม่สนใจ ส่งข้อความเรียบร้อยก็คว้าปากกาขึ้นมาอีกครั้ง เรื่องที่ทำเมื่อครู่นี้เขาว่ามันไร้สาระมากแล้ว แต่ไอ้ที่กำลังจะทำตอนนี้มันไร้สาระสุดๆ ไปเลยล่ะ

    เสียงแกรกกรากของปากครูดกับโต๊ะดังอยู่พักนึง จงอินเหลือบมองครูเป็นระยะ ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อมันเสร็จเรียบร้อย ตอนนี้เขาหายง่วงและพร้อมจะตั้งใจเรียนเต็มที่เลยล่ะ

    Jys Kjs Yjy Kma Ojn Pcy Kji

     

     

     

    #ฟิควงกลมชานไค

    กัปตันปาร์คเท่มากกกกก... จงอินก็น่ารักมากกเช่นเดียวกัลลล

    เราไม่รู้ว่าทุกคนอ่านหัวเรื่องของแต่ละตอนหรือเปล่านะ ถ้ายังไม่ได้อ่าน แนะนำให้ย้อนกลับไปดูน้า ทุกๆสามตอนจะมีหัวเรื่องระบุเอาไว้~~ อิ้______________อิ้ 

    ขอบคุณทุกคนนะคะที่ยังคอยตามอ่านฟิคของเราน้า ขอบคุณมากจริงๆ ช่วงที่บรรยายถึงกีฬาบาสเก็ตบอลถ้ามีส่วนไหนผิดพลาดหรือไม่ดียังไง ขอโทษด้วยน้าค้า รบกวนติได้เลยน้า ถ้ามันผิดตรงไหน

    เรายังไม่ได้สวัสดีปีใหม่ใครเลยยย เอาเป็นว่าสวัสดีปีใหม่แบบเลทๆ แล้วกันนะคะ ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆน้า อยู่ด้วยกันไปนาน ๆ สุขภาพแข็งแรงนะคะ

    ปล.นับถอยหลังตอนจบกันดีกว่า อีกหกถึงแปดตอนก็จะจบแล้วนะคะ~~ อิ้อิ้

    วันนี้ไปแล้วน้า เลิ้บบบบบบ

    CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×